คู่จิ้นสุดที่รัก (นภาสรร)

ฉันนี่แหละเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง

วันนี้สำนักงานของมดงานครีเอชันมีนักข่าวและสื่อมวลชนหนาตา เป็นพิเศษ เพราะพริ้งเพรา บอสใหญ่แห่งมดงานศรีเอชันนัดนักแสดงให้มารับบทละครเรื่องสอดสร้อยมาลา นักแสดงที่ได้รับทาบทามให้ร่วมแสดงละครเรื่องนี้ล้วนเป็นดาราดัง ไม่ว่าจะเป็นเอมิกา ผู้ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง วิทวัส พระเอกตัวพ่อแห่งวงการบันเทิง ที่แม้อายุอานามจะเลยวัยใส แต่ใบหน้าและหุ่นฟิตเปรี๊ยะก็ยังสามารถกระตุกใจ สาวน้อยสาวใหญ่ได้ ดังนั้นแม้เอมิกาและวิทวัสจะมีอายุนำหน้าด้วยเลขสามแล้ว ถือว่าสูงวัยเมื่อเทียบกับพระนางรุ่นใหม่ แต่ชื่อเสียงโด่งดังของทั้งคู่ ก็เรียกเรตติงให้แก่ละครที่แสดงได้เสมอ

ดาราคนอื่นๆ ที่ได้รับเลือกให้มาเล่นละครเรื่องนี้ ล้วนเป็นดาราดาวรุ่งชายหญิงซึ่งทางช่องเห็นแววว่าจะเป็นดาราที่สร้างชื่อในอนาคต แม้ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่านักแสดงคนไหนจะสวมบทบาทใดในละคร เรื่องสอดสร้อยมาลา เพราะผู้จัดละครต้องการเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เซอร์ไพรส์สื่อมวลชนและผู้ชม ถึงกระนั้นบรรดาสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ก็ฟันธงว่า นักแสดงนำเรื่องนี้ต้องไม่ผิดโผไปจากเอมิกาและวิทวัสแน่นอน

                รถเบนซ์รุ่นซีแอลเคสีขาวคันหรูที่กำลังแล่นเข้ามายังหน้าอาคารสำนักงานมดงานครีเอชัน ทำให้ฝูงสื่อมวลชนวิ่งกรูเตรียมเก็บภาพของ เอมิกาซึ่งกำลังขับรถคันงามเข้ามา

ริมฝีปากอิ่มเคลือบลิปสติกสีชมพูประกายมุกของนางเอกสาวคนดัง ซึ่งนั่งอยู่หลังพวงมาลัยแย้มออกน้อยๆ เพราะการได้ครอบครองตำแหน่ง เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงไม่ใช่เรื่องง่ายดาย ต้องแลกมาด้วยความเพียรพยายาม ความอดทน และฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ โดยเฉพาะต้องรับมือคนร้อยพ่อพันแม่ที่ดาหน้าเข้ามาพร้อมเล่ห์เหลี่ยมกลลวงสารพัด

แม้แต่เพื่อนร่วมวงการที่ต่อหน้าแสดงออกว่าเป็นมิตร เจตนาแท้จริงก็หวังใช้ประโยชน์จากความสนิทสนมและความไว้ใจที่มีต่อกันทำร้ายทีเผลอ กว่าจะเรียนรู้วิธีรับมือได้ เอมิกาก็ถูกคนเหล่านี้เล่นงานจนบอบช้ำมามาก ทว่าประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือ ถูกปลิงตัวใหญ่อย่างปรีชาพล หรือป็อกกี้ อดีตผู้จัดการส่วนตัว เอารัดเอาเปรียบมานับครั้งไม่ถ้วน

ถึงจะรู้ว่าถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่เอมิกาก็บอกตัวเองว่าให้หลับตาข้างหนึ่งและระลึกเสมอว่าปรีชาพลเป็นผู้มีพระคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเห็นแววจรัสแสงของหญิงสาวธรรมดาๆ อย่างหล่อน เอมิกาก็คงไม่ได้เป็นดารา มีชื่อเสียงเงินทองจนสามารถตั้งเนื้อตั้งตัว

แต่แล้ววันหนึ่งสวรรค์ก็ช่วยจัดสรรความยุติธรรมให้ เมื่อผู้จัดการ บริษัทเครื่องสำอางรายใหญ่ที่เอมิกาเป็นพรีเซนเตอร์โทร. ติดต่อปรีชาพลไม่ได้จึงโทร. หาหล่อนแทน และแจ้งว่าได้โอนเงินค่าจ้างพรีเซนเตอร์มูลค่าสามล้านบาทเข้าบัญชีให้แล้ว เอมิกาตกใจในสิ่งที่ได้รับรู้จนมือไม้สั่น เกือบปล่อยโทรศัพท์หล่นพื้น

ก่อนหน้านี้ปรีชาพลบอกเอมิกาว่า ตกลงค่าตัวของหล่อนในการเป็นพรีเซนเตอร์ให้บริษัทเครื่องสำอางแห่งนี้ไว้ที่หนึ่งล้านห้าแสนบาท เพราะเป็นดาราหน้าใหม่ แต่ความจริงแล้วค่าตัวหล่อนที่ปรีชาพลตกลงกับบริษัทนี้สูงถึงสามล้านบาท แต่เขากลับโกงรายได้ครึ่งหนึ่งของหล่อนไป ทั้งที่เคยตกลงค่านายหน้าไว้เพียงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงินก็ตกอยู่ที่สี่แสนห้าหมื่นบาทเท่านั้น

เอมิกาจึงต้องคิดทบทวนครั้งใหญ่ว่าหล่อนจะยอมหลับตาข้างหนึ่งต่อไปหรือจะเอาเรื่องปรีชาพลดี แต่สุดท้ายเมื่อนึกถึงบุญคุณของเขา เอมิกาก็ไม่กล้าเอาเรื่อง จนกระทั่งวันหนึ่ง สัญญาใจและความรู้สึกสำนึกบุญคุณของเอมิกาที่มีต่อปรีชาพลก็ขาดสะบั้น เมื่อหล่อนแอบได้ยินเขาคุยโทรศัพท์และพาดพิงถึงหล่อนโดยบังเอิญ

'นังเอมมี่น่ะเหรอ โง่จะตาย คนอย่างนังนี่มันไม่มีทางรู้หรอกว่าฉันโกงเงินไปหลายล้านแล้ว แกไม่ต้องกังวลหรอก ฉันเป็นคนสร้างมันมากับมือถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ป่านนี้คงเป็นได้แค่ก้อนกรวดก้อนดินอยู่ตามเดิม ฉันจึงมีบุญคุณกับมันล้นหัว จะว่าเป็นแม่บังเกิดเกล้าคนที่สองก็ยังได้ มันถึงได้รักฉันอย่างกับหมาที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ แค่ฉันเมตตาโยนขนมให้นิดๆ หน่อยๆ ก็กระดิกหางดีใจจนตัวสั่นแล้ว เพราะฉะนั้นมันไม่มีทางแว้งกัดหรือหนีฉันไปไหนได้หรอกย่ะ แต่ถ้าหมดประโยชน์เมื่อไหร่ ฉันก็จะเฉดหัวมัน ทิ้งเหมือนไอ้พวกเด็กรุ่นก่อนๆ...’

เอมิกาจำได้ว่าตอนนั้นมือไม้หล่อนเย็นไปหมดด้วยความเสียใจและแค้นใจ แม้ที่ผ่านมาปรีชาพลจะเอารัดเอาเปรียบหล่อนแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะมองหล่อนเป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่ง ความจริงที่ประจักษ์ทำให้ความรู้สึกดีๆ และบุญคุณถูกท่าลายลงในเวลาเดียวกัน มีเพียงความเสียใจและแค้นใจเข้ามาแทนที่

เมื่อไม่มีเรื่องบุญคุณมาเหนี่ยวรั้ง เอมิกาก็ไม่อาจทนให้ปรีชาพลเอารัดเอาเปรียบได้อีกต่อไป จึงรวบรวมหลักฐานการยักยอกเงินของปรีชาพลและขอตัดขาดการเป็นดาราในสังกัดของเขา เอมิกายังจำสีหน้าของปรีชาพลยามเห็นหลักฐานฉ้อโกงที่หล่อนนำมายืนยันได้เป็นอย่างดี ใบหน้าคลํ้าของผู้จัดการสาวประเภทสองถึงกับซีดเผือดไปชั่วครู่ ก่อนจะลอยหน้าลอยตา

อย่างไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังสบประมาทด้วยว่าดาราตัวเล็กๆ อย่างเอมิกาจะเอาผิดกับผู้จัดการชื่อดังเส้นสายใหญ่โตในวงการอย่างเขาได้อย่างไร เพราะทุกครั้งที่รับเงิน เอมิกาก็เป็นผู้เซ็นเอกสารรับเงินจากปรีชาพลด้วยตัวเองทั้งนั้น

ในเมื่อเอมิกาปีกกล้าขาแข็ง ปรีชาพลก็ไม่ทัดทาน แต่หล่อนจะต้อง จ่ายค่าเหนื่อยห้าล้านบาทให้แก่เขาเป็นค่ายกเลิกสัญญา หากเอมิกาไม่ยอมทำตามข้อตกลง เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายชื่อเสียงหล่อนให้สิ้นไปจากวงการบันเทิง

เอมิกาไม่อยากเชื่อว่าปรีชาพลจะร้ายกาจและเห็นแก่เงินได้ขนาดนี้ เงินชดเชยห้าล้านบาทเพื่อยกเลิกการเป็นผู้จัดการส่วนตัวไม่เคยปรากฏในข้อสัญญา แม้เอมิกาปรารถนาจะยุติปัญหา แต่จำนวนเงินดังกล่าวก็สูงเกินไป อีกทั้งการที่ปรีชาพลขู่ว่าจะทำลายชื่อเสียง ก็ยิ่งตอกย้ำให้เอมิกา ไม่สามารถทำใจสูญเสียเงินก้อนโตให้คนเห็นแก่เงินและขูดเลือดขูดเนื้อ อย่างเขาได้ ถ้าหล่อนยอมทำตามเงื่อนไขก็ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของปรีชาพลตลอดไป

ดาราหัวอ่อนบางคนอาจเกรงกลัวอิทธิพลของปรีชาพล จึงไม่กล้าลุกขึ้นสู้เพื่อความยุติธรรม แต่ไม่ใช่คนอย่างเอมิกา หล่อนไม่มีทางยอมให้ผู้จัดการหน้าเลือดผู้นี้เอารัดเอาเปรียบอีก ดังนั้นเมื่อเอมิกายืนกรานว่าจะไม่จ่ายเงินห้าล้านบาทให้แก่ปรีชาพลเพื่อแลกกับอิสรภาพ เขาจึงเล่นงานหล่อนด้วยการให้ข่าวว่า พอเอมิกาเห็นลู่ทางในวงการบันเทิงก็คิดเนรคุณผู้มีพระคุณ

ข่าวที่กระจายออกไปทำให้เอมิกาถูกโจมตีอย่างหนักและเกิดกระแส วิพากษ์วิจารณในแง่ลบ แต่เอมิกาก็เตรียมตั้งรับการเล่นงานของปรีชาพลไว้แล้ว เขาคงไม่คิดว่าดาราตัวเล็กๆ อย่างหล่อนจะมีปากเสียงและกล้าต่อกรกับผู้จัดการมือเก๋าอย่างเขาได้ เพราะหญิงสาวไม่ได้ออกมาแก้ข่าว ซํ้ายังเก็บตัวเงียบคล้ายยอมรับคำกล่าวหานั้น ทว่าแท้จริงแล้วเอมิกาไม่ได้นั่งร้องไห้

ฟูมฟายสติแตก แต่รีบติดต่อบริษัทเครื่องสำอางแห่งนั้นเพื่อขอหลักฐานสัญญาฉบับจริงที่บริษัทตกลงเรื่องราคาค่าจ้างของเอมิกา เป็นการยืนยันว่าหล่อนถูกปรีชาพลโกงค่าจ้างจริงๆ

ตอนแรกบริษัทเครื่องสำอางไม่ยอมนำสัญญาฉบับจริงมาให้ดู แต่หล่อนขู่ว่าหากบริษัทไม่ให้ความร่วมมือ จะยื่นฟ้องต่อศาลว่าบริษัทเครื่องสำอางรู้เห็นกับปรีชาพลเรื่องหักเปอร์เซ็นต์ค่าพรีเซนเตอร์ และชื่อเสียงของบริษัทก็จะพลอยเสียหายด้วย แต่หากทางบริษัทยอมมอบหลักฐานให้เพื่อ ช่วยเหลือนักแสดงตัวเล็กๆ ที่ถูกเอาเปรียบอย่างหล่อน ก็จะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่บริษัทได้ทางหนึ่ง

บริษัทเครื่องสำอางคงพิจารณาผลดีผลเสียอย่างถ้วนถี่แล้วจึงยอมให้ความช่วยเหลือ เมื่อเอมิกาได้หลักฐานมายืนยันต่อสื่อมวลชนว่าปรีชาพลหักค่าตัวของเอมิกาเกินกว่าสัญญาที่ตกลงกันไว้จริง เขาจึงถูกรุมประณามแต่เอมิกาก็วางแผนไว้เหนือชั้นกว่านั้นเพื่อกำจัดปรีชาพลให้พ้นจากวงการ หล่อนอาศัยภาพลักษณ์ดาราสาวผู้เรียบร้อย บีบน้ำตา ทำตัวเป็นคนดี ขอร้องสื่อมวลชนว่าอย่าประณามปรีชาพลให้เสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้ ยิ่งเอมิกาแสดงภาพของดาราสาวผู้แสนใจดีมีเมตตามากเท่าไหร่ สื่อมวลชนก็ยิ่งเห็นอกเห็นใจหล่อนและประณามปรีชาพลมากขึ้นเท่านั้น ใครๆ ต่างพากันสงสารเอมิกา และชื่นชมว่าเป็นคนดีรู้จักให้อภัย

ภาพลักษณ์คนดีและน่าสงสารของเอมิกายิ่งตอกย้ำความเป็นนางเอกสาวแสนดีให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าไม่เพียงแต่ปรีชาพลจะไม่ได้เงินชดเชยห้าล้านบาทจากเอมิกาอย่างที่หวัง เขายังต้องจ่ายเงินที่เคยยักยอกคืนให้แก่เอมิกาอีกด้วย แม้ปัญหาจะยุติ แต่ปรีชาพลก็ไม่สามารถกู้ชื่อเสียงที่เสียไปแล้วกลับคืนมา ดาราในสังกัดต่างพากันตีจาก จนในที่สุดปรีชาพลก็สิ้นหนทางทำมาหากินในวงการบันเทิง ต้องออกจากวงการไปในที่สุด

ทว่าก่อนจะกระเด็นออกจากเส้นทางมายา ปรีชาพลยังไม่วายโทร. มาขู่เอมิกาว่าเรื่องระหว่างเขากับหล่อนยังไม่จบง่ายๆ วันหนึ่งเขาจะต้องกลับมายืนหยัดเป็นผู้จัดการดาราผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิงให้ได้อีกครั้ง และเมื่อถึงวันนั้น เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเอมิกาออกจากวงการบันเทิง ตลอดกาล

สามปีเต็มที่ชื่อของปรีชาพลหายไปจากวงการบันเทิง เอมิกาไม่มีเวลาสนใจหรือติดตามความเคลื่อนไหวว่าเขาหายไปไหน ทำมาหากินอะไร หรือ คิดหาทางกำจัดหล่อนอย่างไร เพราะหลังหลุดพ้นจากการเป็นดาราในสังกัดของปรีชาพล หล่อนก็ขอร้องให้เคียงฟ้า เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยม เป็นผู้จัดการส่วนตัวช่วยจัดคิวงานให้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถือเป็นปีทอง ของเอมิกาความเก่งบวกกับเฮงทำให้เอมิกาได้รับโอกาสให้รับบทนางเอกละครฟอร์มยักษ์ประกบดาราชายชื่อดังหลายเรื่อง

ส่วนใหญ่แล้วบทนางเอกที่เอมิกาได้รับมักเป็นหญิงสาวบุคลิกหวานใส เรียบร้อย จิตใจดี และอ่อนต่อโลก ซึ่งเอมิกาก็ตีบทแตกจนได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากหลายเวที ละครเรื่องใดที่เอมิการับบทเป็น นางเอก นางร้ายในเรื่องนั้นถึงกับต้องงดเดินตลาดหรือปรากฏตัวในที่สาธารณะพักหนึ่งเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่เอมิกาจะมีภาพลักษณ์ของนางเอกสาวเรียบร้อยเท่านั้น เมื่ออยู่นอกจอหล่อนก็รักษาชื่อเสียงเป็นอย่างดี เพราะ ไม่เคยมีข่าวเชิงชู้สาวกับดาราชายคนไหน

เอมิกาไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่ดารารุ่นใหม่นิยมสร้างกระแสคู่จิ้น หรือคู่ในจินตนาการ เพื่อให้โด่งดังไวๆ เพราะแม้จะได้ผลดี แต่ก็ไม่ใช่วิธีสร้างชื่อเสียงถาวร เอมิกาเห็นมานักต่อนักแล้วว่าดารารุ่นเดียวกันที่เสือกใช้วิธีการนี้ แม้จะมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายแล้วมักร่วงในชั่วพริบตาเมื่อมีคู่จิ้นคู่ใหม่ที่น่าสนใจกว่าเกิดขึ้นในวงการ เอมิกาจึงเชื่อมั่นว่า ฝีไม้ลายมือด้านการแสดงและภาพลักษณ์ที่ดีต่างหากที่จะช่วยรักษาตำแหน่ง ดาวแห่งวงการบันเทิงได้อย่างมั่นคง ไม่ต้องดูใครเป็นตัวอย่าง ก็ตัวหล่อนเองนี่แหละ ต่อให้มีดาราหน้าใหม่กระแสแรงแค่ไหนเกิดขึ้นในวงการ

ชื่อเสียงของหล่อนก็ยังไม่ตก

ถึงนางเอกรุ่นใหม่จะมีอายุสิบปลายๆ ถึงยี่สิบต้นๆ แต่เอมิกาก็ยังเป็นนางเอกตลอดกาล และยังคงได้รับบทนางเอกทุกเรื่อง ในขณะที่ดาราชายหญิงรุ่นเดียวกันบางคนเริ่มถูกลดบทจากพระเอกนางเอกเป็นพ่อแม่นางเอกกันแล้ว และเอมิกาก็มั่นใจเหลือเกินว่าหล่อนจะยังครองตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง และได้รับบทนางเอกเช่นนี้ต่อไปจนถึงเวลาที่หล่อนตั้งใจจะก้าวลงจากบัลลังก์เอง

แต่แล้วความคิดและรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าหญิงสาวก็เลือนไปเมื่อได้ยินเสียงร้องเตือนของเคียงฟ้าซึ่งนั่งอยู่ข้างที่นั่งคนขับ

“ระวัง! รีบหักหลบเร็ว”

เอมิการีบหักพวงมาลัยไปทางซ้าย ก่อนที่รถมินิคูเปอร์สีแดงสดติดสติกเกอร์ลายธงชาติจะปาดหน้ารถสปอร์ตคันหรูของหล่อนไปอย่างเฉียดฉิว เอมิกามั่นใจว่าคนที่ขับรถคันนี้ต้องจงใจแกล้งหล่อนแน่ๆ หากจำไม่ผิดเจ้าของรถคันนี้คือโชติกา หรือโรซี่ ดาราสาวหน้าใหม่บุคลิกเปรี้ยวจี๊ดมั่นใจที่กำลังเป็นกระแสคู่จิ้นกับนฤมิต ดาราหนุ่มหน้าตี๋ เวลานี้มีคนติดตาม อินสตาแกรมของทั้งคู่ถึงหลักล้าน และนิตยสารดาราก็มักจะลงข่าวและภาพหวานของทั้งคู่

หากถามว่าเอมิกาหวั่นไหวกับกระแสความดังของดาวรุ่งมาแรงอย่างโชติกา ซึ่งสื่อมวลชนคาดว่าจะเป็นดาวเด่นประดับวงการบันเทิงดวงใหม่หรือไม่ เอมิกาตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย เพราะต่อให้โชติกาโด่งดังแค่ไหน ก็ไม่มีวันชิงบัลลังก์เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงจากหล่อนได้ แต่สิ่งที่เอมิกาหวั่นคือการที่โชติกาเป็นเด็กปั้นของปรีชาพล ต่างหากเพราะการกลับมาครั้งนี้ ปรีชาพลได้พาดาราหน้าใหม่อย่างโชติกา และนฤมิตเข้ามาในวงการพร้อมกันด้วย เอมิกาไม่กลัวเด็กหน้าใหม่อย่าง โชติกา แต่หล่อนประมาทคนอย่างปรีชาพลไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนที่รู้จักข้อดีข้อด้อยของหล่อนมากกว่าใคร และรู้ดีด้วยว่าควรปั้นดาราแบบไหนเพื่อ.โปรดติดตามต่อในฉบับ.