สะใภ้สายลับ เล่ม 02 (มัลลิกา)

สะใภ้สายลับ เล่ม 02 (มัลลิกา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160017607
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

                      ข้าวใหม่ปลามัน

 

สัมผัสอุ่นจากแสงแรกแห่งวันปลุกให้มัลลิการู้สึกตัวตื่น เธอลืมตา

ขึ้นด้วยท่าทางเกียจคร้าน แล้วยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อพบว่าสิ่งแรกที่เห็นคือ

ใบหน้าของสามี เธอลากปลายนิ้วไปตามสันจมูกของเขา กาลเวลาทำร้ายสามี

ของเธอไม่ได้เลย เขายังคงหล่อเหลาไม่ต่างจากวันแรกที่พบกัน

ผู้กองสาวถอนใจเบาๆ ถ้าความสุขทำให้คนตายได้ เธอคงตายนับ

ครั้งไม่ถ้วนแล้ว เพราะตั้งแต่วันแรกที่เธอแต่งงานกับปารวี จนวันนี้เวลาผ่าน

มาเกือบหนึ่งปีแล้ว ยังไม่มีวันไหนที่เธอไม่มีความสุข อย่างวันนี้แค่ได้นอน

มองเขาเงียบๆ เธอก็มีความสุขจนอยากจะร้องเพลงแล้ว

“แอบมองพี่อีกแล้วนะ จะลักหลับพี่เหรอ” จู่ๆ ปารวีก็ลืมตาขึ้นถาม

ทั้งที่เธอคิดว่าเขาหลับอยู่

“ท่านผู้พิพากษาพูดแบบนี้ได้ด้วยเหรอคะ” มัลลิกามองสามีตาโต

ผู้พิพากษาหนุ่มหัวเราะ แล้วขยับเข้ามาใกล้เธอ

“อยู่ในห้องนี้ พี่เป็นแค่นายปารวี สามีของนางมัลลิกา อะไรก็ทำได้

ทั้งนั้น” เขามองเธออย่างท้าทาย แล้วคนที่ชอบความท้าทายอย่างเธอจะยอมได้อย่างไร

“เช่นอะไรบ้างคะ” เธอถามเสียงหวาน

“แบบนี้ไงครับ” เขายื่นหน้าเข้ามาหา

มัลลิกาหลับตาลง ริมฝีปากของเขาอบอุ่น จุมพิตของเขาอ่อนโยน

เธอรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนปุยเมฆ ก่อนจะร่อนลงบนพื้นดินอีกครั้งเมื่อเขาถอนริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่ง

“แค่นี้เองเหรอคะ” เธอแกล้งถามอย่างเสียดาย

“อยากได้มากกว่านี้เหรอ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

เขารีบตอบสนองทันที แต่คราวนี้มัลลิกาไม่ให้ความร่วมมือด้วย เธอ

หัวเราะเสียงใส แล้วกลิ้งตัวลงไปยืนบนพื้น ปล่อยให้สามีจูบอากาศเก้อ

“มะลิล้อเล่นค่ะ ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวไปทำงานสายนะคะ”

“อาบพร้อมกัน ประหยัดเวลา” เขาเสนอตัวอย่างกระตือรือร้น แต่เธอรู้ทันจึงรีบปฏิเสธ

“ไม่ได้ค่ะ อาบพร้อมกันนี่แหละยิ่งเสียเวลา วีขาไปอาบก่อน เดี๋ยวมะลิอาบทีหลัง”

“มะลิอาบก่อน เดี๋ยวพี่อาบทีหลัง”

ปารวีทิ้งศีรษะลงบนหมอน ทำท่าเหมือนยังไม่อยากลุก มัลลิกามอง

อย่างสงสัย แต่ไม่อยากคาดคั้นสามี จึงยอมตามใจเขา

“ก็ได้ค่ะ” เธอหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ แต่ต้องหยุดเดินกลางคัน

เมื่อจู่ๆ สามีทวงสัญญาที่เธอเคยรับปากเขาไว้

“เมื่อไหร่มะลิจะลาออกจากงาน พี่รอมาเป็นปีแล้วนะ”

“เราตกลงกันแล้วไงคะ ถ้ามีลูก มะลิจะลาออกจากงาน แต่ตอนนี้

มะลิยังไม่ท้องเลยนะคะ แล้วจะให้ลาออกได้ยังไง” เธอย้อนถามเขา

ปารวีลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

“แล้วทำไมมะลิยังไม่ท้องอีก เราไปปรึกษาหมอกันดีไหม”

“อย่าเลยค่ะ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า มะลิไปอาบน้ำก่อน

นะคะ วันนี้มีประชุมด้วย ถ้าออกสาย รถจะติด” ผู้กองสาวเปลี่ยนเรื่องพูด

แล้วรีบเผ่นเข้าห้องน้ำ โดยมีสายตาของสามีมองตามอย่างสงสัย

“เป็นไปได้ยังไง” ปารวีถามตัวเอง เขาขยันทำการบ้านไม่ได้ขาด แต่

ทำไมภรรยาไม่ท้องเสียที ทั้งที่เธอก็แข็งแรงดีทุกอย่าง หรือว่าจะมีคนเล่นโกง...

 

ร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนสีเข้มเดินแกมวิ่งเข้าไปในห้อง

อาหาร ก่อนจะเปลี่ยนมาเดินอย่างเรียบร้อย เมื่อสบเข้ากับสายตาไม่ชอบใจ

ของคนที่นั่งอยู่ก่อน มัลลิกาส่งยิ้มขออภัยไปให้แม่สามี คุณหญิงเพียงแข

ถอนใจอย่างเบื่อหน่าย แล้วเมินหน้าหนีอย่างไม่ใส่ใจ

ผู้กองสาวเป่าปากอย่างปลงๆ หนึ่งปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของเธอ

กับแม่สามีไม่ดีขึ้นเลย แม้จะไม่เคยปะทะกันตรงๆ แต่ก็ไม่เคยญาติดีกันได้

เพราะนางไม่เคยถอดใจเรื่องลูกสะใภ้ในฝัน ไม่ว่าเธอจะทำดีด้วยแค่ไหน

ก็ยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับแม่สามีอยู่ดี

“สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณหญิงแม่” มัลลิกาทักทายบิดามารดาของสามี

แล้วเดินไปนั่งที่ประจำของตน ท่านประพจน์หันมายิ้มให้เธอ แล้วเอ่ยชวนอย่างเป็นกันเอง

“มาแล้วเหรอหนูมะลิ กินข้าวต้มกุ้งไหม อร่อยนะ”

“ค่ะ คุณพ่อ” เธอตอบตกลงอย่างไม่คิดมาก เพราะเป็นคนกินง่าย

อยู่แล้ว มีอะไรก็ยกมาเถอะ เธอกินได้หมดทุกอย่าง

“แม่นวล ขอข้าวต้มให้หนูมะลิด้วย” ท่านหันไปสั่งแม่บ้านของภรรยา

ป้านวลรับคำแล้วเดินออกไป ก่อนเดินกลับมาพร้อมชามข้าวต้มหอมกรุ่น

“ข้าวต้มค่ะ คุณมะลิ”

“ขอบคุณค่ะ” มัลลิกาเงยหน้ายิ้มให้นาง ป้านวลยิ้มตอบนิดหนึ่ง แล้ว

เดินกลับไปยืนที่เดิมของตน ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคุณแม่บ้าน

ดีขึ้นเยอะ แต่ยังเปิดเผยมากไม่ได้ เพราะถ้าคุณหญิงเพียงแขรู้เข้า ป้านวล

จะถูกดุที่มาเป็นพวกเธอ

“ตาวีล่ะ ไม่ลงมาพร้อมเธอเหรอ” คุณหญิงเพียงแขถามถึงลูกชาย

“ยังแต่งตัวไม่เสร็จค่ะ อีกเดี๋ยวคงตามลงมา” มัลลิกาตอบแม่สามี

สงสัยนางจะมีธุระสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมเปิดปากพูดกับเธอก่อนแบบนี้

“กาแฟดำค่ะพี่มะลิ” เหมียวยกกาแฟมาเสิร์ฟเธอ เด็กสาวยังคงเรียก

เธอว่าพี่ แม้จะถูกคุณหญิงเพียงแขดุหลายครั้งว่าไม่เหมาะสม

“ขอบใจจ้ะ” มัลลิกายิ้มให้เด็กสาว แล้วหันไปมองประตูห้องอาหาร

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมา ซึ่งเจ้าของเสียงฝีเท้าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หล่อนคือ

ลูกสะใภ้ในฝันของคุณหญิงเพียงแขนั่นเอง

“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณหญิงป้า” ชลิตาพนมมือไหว้บิดามารดาของสามี

เธอ แล้วหันมาทักทายเธออย่างเป็นกันเอง

“สวัสดีค่ะผู้กอง”

“สวัสดีค่ะ” มัลลิกาทักทายตอบ ผู้พิพากษาสาวเป็นแขกประจำของ

บ้านอิทธินันต์ แต่ปกติจะมาตอนเย็นหรือไม่ก็วันหยุด แต่วันนี้มาแต่เช้า ไม่รู้

ว่าแม่สามีของเธอมีแผนอะไรอีก

“มาแล้วเหรอหนูลิตา พี่เขายังไม่ลงมาเลย มากินอาหารเช้ากับป้า

ก่อนนะ” คุณหญิงเพียงแขเอ่ยชวนเสียงหวาน แล้วหันไปสั่งแม่บ้าน “นวลขออาหารเช้าให้หนูลิตาชุดหนึ่ง”

“ค่ะ คุณหญิง”

ป้านวลรับคำแล้วเดินออกไป ในขณะที่ชลิตาเดินมานั่งข้างๆ แม่สามี

ของเธอ ซึ่งเป็นที่นั่งประจำของหล่อนเวลาได้รับเชิญมากินอาหารที่บ้านอิทธินันต์

“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างหนูลิตา ธุรกิจที่เชียงใหม่ไปได้ดีไหม” ท่านประพจน์ถาม

“ลิตาไม่ค่อยทราบเรื่องธุรกิจของคุณพ่อเท่าไหร่ แต่คิดว่าน่าจะดีค่ะ”

เธอตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้

พ่อสามีของเธอทำหน้าสงสัย แต่ยังไม่ทันได้ซักถามต่อ คุณหญิงเพียงแขก็พูดขัดขึ้นเสียก่อน

“นี่โต๊ะอาหารนะคะ ห้ามคุยเรื่องงานค่ะ”

“ขอโทษจ้ะ ผมอิ่มแล้ว ขอตัวไปดูกล้วยไม้ก่อนนะ” ท่านประพจน์

ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องอาหาร ปล่อยให้สามสาวต่างวัยอยู่กันตามลำพัง

“คุณดวงสมรเป็นยังไงบ้างจ๊ะ ตั้งแต่ไปงานแสดงเครื่องเพชรคราว

ก่อน ยังไม่ได้คุยกันเลย” คุณหญิงเพียงแขชวนชลิตาคุย ทั้งสองสนทนากัน

อย่างถูกคอโดยไม่คิดจะชวนมัลลิกาเข้าร่วม แต่ถึงจะชวน เธอก็ไม่มีอะไร

จะคุยด้วยอยู่ดี เพราะทัศนคติและรสนิยมของทั้งสองไม่สอดคล้องกับเธอเอาเสียเลย

ผู้กองสาวตักข้าวต้มกินเงียบๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนหนุ่มเรียก

“มะลิ”

“นั่งสินายภัทร กินอะไรมาหรือยัง” มัลลิกาเอ่ยชวนผู้เป็นเพื่อน นึก

ดีใจที่วีรภัทรแวะมาหา เพราะเธอเริ่มจะเหงาปากแล้ว

“ยัง ตั้งใจมากินที่นี่แหละ” วีรภัทรนั่งลงข้างเธอ แล้วยกมือไหว้

ทักทายผู้เป็นป้า “สวัสดีครับคุณหญิงป้า”

“สวัสดีจ้ะ มาทำไมแต่เช้าเนี่ย” คุณหญิงเพียงแขรับไหว้

“มาขอข้าวคุณหญิงป้ากินครับ” เขาตอบอย่างหน้าชื่นตาบาน

“ข้าวบ้านเธอไม่มีกินเหรอ ถึงต้องมากินข้าวบ้านป้า”

“ผมเป็นหลานคุณหญิงป้านะครับ ไม่ใช่คนอื่นเสียหน่อย ถามแบบนี้

ผมน้อยใจนะครับ” เขาแกล้งตัดพ้อผู้เป็นป้า

คุณหญิงเพียงแขค้อนอย่างหมั่นไส้ แล้วหันไปสั่งแม่บ้าน

“นวล เอาอาหารมาให้หลานฉันชุดหนึ่ง เดี๋ยวจะน้อยใจตายเสียก่อน”

“ขอบคุณครับคุณหญิงป้า” วีรภัทรยิ้มประจบ แล้วหันไปมองชลิตา

“สวัสดีครับคุณลิตา มาแทบทุกวันเลยนะครับ บ้านไม่ได้อยู่แถวนี้เสียหน่อย ไม่เบื่อบ้างเหรอครับ”

ชลิตาหน้าตึงอย่างไม่พอใจ แต่ยังไม่ทันโต้ตอบ คุณหญิงเพียงแขก็กางปีกรับแทน

“ป้าชวนหนูลิตามาเอง เธอมีปัญหาอะไรเหรอตาภัทร”

“ผมไม่กล้ามีปัญหาหรอกครับ ที่พูดก็เพราะเป็นห่วง กลัวคนบางคน

จะถูกมองไม่ดี” เขายังแขวะไม่เลิก ผู้เป็นป้าจึงจัดให้อีกชุด

“เป็นห่วงแต่เรื่องของตัวเองเถอะ อย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่นเลย”

“ก็ได้ครับ” วีรภัทรยักไหล่แล้วหยิบรูปถ่ายออกจากกระเป๋าเสื้อ

แจ็กเกตมาวางตรงหน้าเธอ “เธอว่าเขาตายมากี่วันแล้วมะลิ”

มัลลิกาก้มมอง รูปถ่ายที่เพื่อนหนุ่มให้เธอดูเป็นภาพศพชายคนหนึ่ง

ซึ่งถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ทั้งสองได้รับมอบหมายให้สืบหาฆาตกร

การที่เขาหยิบรูปนี้ขึ้นมาถามเธอกลางโต๊ะอาหารไม่ใช่เพราะอยากได้คำตอบ

หรอก แค่อยากแกล้งชลิตามากกว่า

“ขึ้นอืดขนาดนี้ คงสักสามสี่วันได้มั้ง” เธอตัดสินใจเล่นไปตามเกม

ของเพื่อนหนุ่ม เพราะตัวเองก็ชอบแกล้งเหมือนกัน

“แต่ฉันว่าไม่ต่ำกว่าหกวัน ดูสิ หนอนกินจนเห็นกะโหลกขาวโพลน

แล้ว” วีรภัทรแกล้งพูดดังๆ เพื่อให้เพื่อนร่วมโต๊ะอาหารอีกสองคนได้ยินด้วย

คุณหญิงเพียงแขกับชลิตาชะงักมือที่ถือช้อน ทั้งสองสบตากันด้วย

ท่าทางพะอืดพะอม เขายิ้มอย่างสะใจ แล้วหยิบรูปถ่ายใบใหม่มาวางตรงหน้าเธอ

“เธอว่าเขาตายเพราะอะไร”

“พูดยากนะ รถไฟทับเละเป็นชิ้นแบบนี้ อาจจะถูกฆ่าตาย แล้วเอาศพ

มาทิ้งอำพรางคดี หรืออาจจะเมาหลับ แล้วถูกรถไฟทับตายก็ได้”

“ขอให้เป็นข้อหลัง เราจะได้ปิดคดีง่ายๆ หน่อย แล้วเธอว่า...” เขา

กำลังจะหยิบรูปถ่ายอีกใบออกมา แต่คุณหญิงเพียงแขร้องห้ามเสียก่อน

“พอทีตาภัทร นี่โต๊ะกินข้าวนะ เอารูปน่าเกลียดมาดูอยู่ได้ ถ้าอยากดู ไปดูที่ทำงานเธอโน่น”

“แค่สังขารครับคุณหญิงป้า สักวันทุกคนก็ต้องเป็นแบบนี้ ดูเอาไว้

จะได้ปลง ไม่กล้าทำผิดศีลธรรม”

เขาหันไปยักคิ้วให้ชลิตาอย่างยียวน มัลลิกานึกว่าหล่อนจะโกรธจน

ควันออกหู แต่ผู้พิพากษาสาวกลับนั่งนิ่งไม่โต้ตอบ ช่างเป็นคนที่มีน้ำอด

น้ำทนจริงๆ เพราะถ้าเป็นเธอคงลุกไปต่อยแล้ว

“เก็บไปนายภัทร เขาจะกินข้าวกัน เล่นเป็นเด็กไปได้”

เสียงเข้มของปารวีดังขึ้น วีรภัทรชะงักกึก แล้วหันไปยิ้มแหยให้พี่ชาย

“ขอโทษครับ”

มัลลิกามองเพื่อนรักขำๆ โจรทั้งแก๊งวีรภัทรไม่เคยหวั่น แต่กลับกลัว

พี่ชายหงอ เสียชื่อมือปราบเจ้าเสน่ห์หมด

“รับข้าวต้มกุ้งไหมคะคุณวี” ป้านวลเดินมาถาม

“ขอกาแฟแก้วเดียวพอครับ” ปารวีตอบพลางนั่งลงข้างเธอ แล้วหันไป

ทักชลิตา “มาแต่เช้าเลยนะลิตา มีอะไรกับพี่หรือเปล่า”

“แม่เรียกหนูลิตามาถามเรื่องหมอดู เดี๋ยวแม่ฝากน้องติดรถวีไป

ทำงานด้วยนะ ทางเดียวกันไปด้วยกัน ประหยัดดี” คุณหญิงเพียงแขแย่ง

ตอบอีกเช่นเคย แถมยังยัดเยียดชลิตาให้สามีของเธอเสร็จสรรพโดยไม่คิด

จะถามความเห็นเธอสักคำ ช่างเป็นแม่สามีที่น่ารักจริงๆ เชียว

“ผมก็ไปทางนั้นเหมือนกัน ไปกับผมก็ได้ครับ” วีรภัทรเสนอตัว แต่ผู้เป็นป้าปฏิเสธ

“เธอขี่มอเตอร์ไซค์มา หนูลิตาจะไปด้วยได้ยังไง ไปกับตาวีดีแล้ว”

“ไม่ดีหรอกครับ พี่วีต้องไปส่งมะลิก่อน คุณลิตาจะไปนั่งเป็น ก.ข.ค.

เขาทำไม จริงไหมครับคุณลิตา” เขาหันไปถามหล่อน ชลิตาไม่มีทางเลือก

จึงต้องตอบ หลังจากนั่งเงียบมานาน

                             (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เมื่อศัตรูเก่าหวนกลับมาเล่นงานคนที่เธอรักเพราะต้องการแก้แค้น เธอจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องสามี แม้กระทั่งการเดินออกไปจากชีวิตเขา ชีวิตหลังแต่งงานของ มัลลิกา ดำเนินไปอย่างมีความสุข เธอยังคงทำอาชีพตำรวจที่เธอรัก ตื่นขึ้นมาพร้อมกับสามีที่รักเธอ แม้จะยังโดนแม่สามีเขม่นใส่และจิกกัดตลอดเวลาก็ตาม แต่แล้วความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อศัตรูเก่าแหกคุกออกมาเพื่อชำระแค้น โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ ปารวี ผู้พิพากษาหนุ่ม สามีของเธอ ผู้กองสาวตัดสินใจหายตัวไปอย่างลึกลับ หนึ่งเพื่อปกป้องสามี และสอง เพื่อสืบคดีแก๊งค้าอวัยวะที่ตัวการยังหลบซ่อนอยู่ในเงามืด แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อเธอกับโจทก์เก่าได้มาพบกันอีกครั้งในสถานที่ที่ไม่คาดคิด มัลลิกาจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร เธอจะสาวไส้แก๊งค้าอวัยวะ รวมทั้งจับศัตรูตัวฉกาจของเธอเข้าคุกได้อีกครั้งหรือไม่ ภารกิจนี้จะล้มเหลวไม่ได้ เพราะนั่นเท่ากับว่า...เธออาจไม่มีวันกลับไปหาคนที่เธอรักได้อีกตลอดชีวิต


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024