แผนรักฉบับพันล้าน

แผนรักฉบับพันล้าน

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160002511
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 180.00 บาท 45.00 บาท
ประหยัด: 135.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

๔ วิธีหารายไดไม่ต่ำกว่าแสนต่อเดือน!

 

๑.   มุ่งเข้าหาตำแหน่งผู้บริหาร ตั้งใจทำงาน เน้นไปที่บริษัทระดับ ชาติ รายได้สูง

แปลว่าจงทำงานเข้าไป ห้ามป่วย ห้ามตาย ห้ามสาย ห้ามขาด แต่

ถ้าจำเป็นต้องหยุดงานไม1ว่ากรณีใด กรุณาแจ้งล่วงหน้า ๒ ปี

๒. ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน จงมีงานประจำ และหารายได้เสริม จากแหล่งอื่น

แปลว่าจงขายตรง แล้วบอกลาเพื่อนๆ ซะ เพราะต่อจากนี้คุณจะ

ไม่มีมิตรแท้ สร้างแต่ศัตรูถาวร

๓. เป็นเจ้าของกิจการ

แปลว่าต้องคาบอย่างน้อยช้อนทองคำขาวมาเกิด ทั้งเนื้อทั้งตัว

ตอนนี้เช่ารถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวสักคันยังไม่ได้เสย

๔. ลดรายจ่ายลง ทำบัญชีเงินเข้าออกเพื่อให้เห็นภาพ สะดวกใน

การวางแผนด้านการเงิน

 

เงินเดือนหมื่นต้นๆ หักภาษี ประกันสังคม ค่ากิน ค่าเดินทาง

ค่าของใช้จำเป็น เหลือพันกว่าบาท...ต้องทำบัญชีด้วยเหรอ?

ถ้า ๔ ข้อข้างต้นทำให้คุณถอนหายใจ และรู้ว่าต้องเกษียณก่อนแน่

เราขอแนะนำวิธีสุดท้าย เร็ว ทันใจ แน่นอน...

๕. หาคู่ชีวิตรวย! - คนบ้าเท่านั้นที่คิดได้!

ฉันถอนหายใจ ๕ เฮือกถ้วน...

แล้วโยนหนังลือเล่มเล็กทิ้งไปทาง เขวี้ยงปากกาทิ้งไปอีกทาง เมื่อคืน หลังจากระบายความอัดอั้นของคนที่มีค่าครองชีพขั้นต่ำถึงต่ำที่สุดใส่

พี่พลอย - พี่สาวสุดที่รัก ผู้ประสบความสำเร็จครบห้าข้อด้านบน - พี่ก็

จัดการโยนหนังสือเล่มนี้มาให้ พร้อมกับให้จดบันทึกความคิดเห็นของ

ตัวเอง หลังจากได้อ่านแต่ละส่วนของหนังสือไป

แต่ก็อย่างที่เห็น ยิ่งอ่าน...ยิ่งโง่

สิ่งที่สงสัยที่สุดคือ พี่ทำได้ทั้งหมด...ได้ยังไง!

แถมยังมีเวลาเหลือมาอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย บ้าไปแล้ว ฉันเงิน

เดือนน้อยกว่าพี่เกือบสิบเท่า ยังไม่มีเวลาแม้แต่จะหยุดหายใจเลย

ฉันเลื่อนสายตาออกจากโต๊ะทำงาน เหลือบตามองนาฬิกาดิจิทัล

อันใหญ่แขวนบนผนัง ฝังติดประตูทางออกของห้องทำงาน ที่ซึ่งสายตา

ทุกคู่มักจดจ้องพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ไม่จำเป็นต้องเป็นรันสำคัญ

ทางศาสนา และไม่ต้องพึ่งพาปาฏิหาริย์ใด

๘.๕๙...๕๕ วินาที

๕๖...๕๗...๕๘...๕๙

ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจดังเป็นทอดๆ ไล่จากคอกด้านหน้าสุด

มาจนถึงคอกทำงานของฉันที่อยู่ในสุด...ราวกับวงคอรัสที่กำลังโหยหวน

ท่วงทำนองอันน่าหดหู่ พังแล้วปวดหน่วงอยากฆ่าตัวตายหนักกว่าเพลง

Gloomy Sunday ฉบับย้อนกลับเสียอีก (เพลงที่มีข่าวลือว่าทำให้เกิดการ

ฆ่าตัวตายแบบลูกโซ่ แต่ที่บริษัทนี้พนักงานสามารถฆ่าตัวตายหมู่พร้อมกัน

ได้เพียงได้ยินเสียงหัวหน้ากองบรรณาธิการด่า ไม่จำเป็นต้องมีผู้นำลัทธิ

ทางจิตวิญญาณแต่อย่างใด)

๙.๐๐ เป๊ง!

เด็กเอ๊ย เด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน...

เสียงนาฬิกาโหยหวนกรีดร้องเป็นเพลงเยาวชนของชาติ ตั้งแต่จบ

โรงเรียนประถมมา ฉันก็ไม่เคยได้ยินที่ไหนอีก นี่คือเสียงบอกเวลาเข้างาน

ที่ท่านบอสเหนือเกล้าจัดหามาสร้างเสริมจิตสำนึกให้พนักงาน เพื่อให้ตอก

บัตรตรงเวลาบ้าง (แต่จิตสำนึกปล่อยพนักงานกลับบ้านตรงเวลายังไม่เคย

มีเลย พนักงานเลยสร้างเสริมสันดอนตัวเองให้มาสายชดเชยเวลาที่ต้องทำ

โอที...แต่ไม่ได้เงิน ส่วนไอ้เนื้อหาเด็กดีในเพลงนะเหรอ ไม่ได้กระเทือน

เข้าไปในกะโหลกอันหนาหนึบแน่นอน)

ส่วนวันนี้ก็ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครหน้าไหนได้มาสาย...

เพราะเมื่อคืนไม่ได้มีใครได้กลับบ้าน!

เป็นวัฏสงสารอันน่าสังเวชของเหล่ากองบรรณาธิการในวันปิด

ต้นฉบับ ส่วนคนที่กำหนดวันปิดน่ะเหรอ...โน่น นอนอืดอยู่บ้าน กว่าจะ

โผล่หัวมาชำระสะสางบัญชีก็ตอนเวลาเข้างานนี่แหละ

“ต้นฉบับของฉันอยู่ไหน!!”

นั่นไง...มาแล้ว

เจ๊แหม่ม...หัวหน้าบังเกิดเกล้าของพวกเรา

อีกเสียงโหยหวนดังขึ้นทันทีที่เพลงเด็กดีเงียบลง ฟังคล้ายๆ

กระทิงคำราม ก็บอกแล้วไงว่า กระทิงยังไม่ใกล้สูญพันธุ์หรอก ที่นี่มีตั้ง

หนึ่งตัว ตัวแม่เสียด้วย แต่อยู่ในวัยเกือบจะเจริญพันธุ์ไม่ได้แล้วนะ

ใครจะจับไปเพาะพันธุ์ก็รีบๆ หน่อย

หญิงวัยกึ่งสาวกึ่งแก่ในชุดที่เจ้าตัวคงคิดว่าจะช่วยกระชากวัยลงได้

สักยี่สิบปีย่างสามขุมเข้ามา ไม่มีใครกล้าเตือนเธอหรอกว่า ชุดนั้นมันจะ

กระชากเจ๊ลงโลงมากกว่า เพราะเล่นซะรัดไปทุกอวัยวะ โดยเฉพาะดูมๆ

ที่คล้อยมาอยู่กลางเอว คนมองยังหายใจไม่ออกแทน แถมด้วยสีเขียวสด

สีเอาฤกษ์เอาชัยที่มักใส่มาในวันปิดต้นฉบับแบบนี้ แต่กำลังจะทำให้เหล่า

พนักงานตาบอดสีเขียวถาวร

เสียงถอนหายใจเฮือกๆ หายหดไปตามกัน

ให้เดานะ...คงกลั้นหายใจเป็นเพื่อนเจ๊แน่นอน

“ต้น-ฉะ-บับ”

หล่อนคำรามทีละคำ ช้าชัด ในบรรดานิสัยอันน่ากลัวของเจ๊ สิ่งที่

สยดสยองลูกน้องที่สุดก็คือ การคิดว่าทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด

โดยเฉพาะต้นฉบับที่เพิ่งจะให้แก้ขนาดฟอนต์และเลย์เอาต์เกือบทั้งเล่ม

เมื่อคืน เจ้าหล่อนคงเป็นหัวหน้ามานานจนลืมไปแล้วว่า แม้แต่เชื้อฝีดาษที่

แพร่กระจายและคร่าชีวิตรวดเร็วที่สุด ก็ยังใช้เวลานานกว่านี้เลย

แต่เอาเถอะ ลูกน้องรากหญ้าอย่างพวกเราเข้าใจ ถ้าไม่บีบคั้นเอา

จากเรา ก็คงไม่มีอะไรไปประจบเจ้านาย

“เก้าโมงเช้าแล้ว ต้นฉบับทุกหน้าทั้งเล่ม ควรจะมาวางเรียบร้อย

เตรียมส่งตรวจ อันที่จริงพวกเธอควรส่งให้ฉันตั้งแต่เมื่อวานด้วยซ้ำ ฉันจะ

ได้ตรวจรอบสุดท้าย นี่อะไร เวลาไม่เหลือแล้ว และฉันก็คงต้องส่งให้บอสเลย ดังนั้นถ้ามีอะไรผิดพลาด พวกเธอต้องรับผิดชอบ”

แบร้ะ...

ฉันได้ยินเสียงแพะร้องดังมาจากทุกคน แม้จะไม่มีใครเปิดปาก

ที่เจ๊แหม่มร่ายมาเมื่อครู่ คือหน้าที่ของ บ.ก. ต้นฉบับที่ดี ซึ่งไม่มีใน

พจนานุกรมของเจ๊อีกเช่นกัน ทุกคนทำต้นฉบับเสร็จตั้งแต่ ๕ วันที่แล้ว

แต่เจ๊ก็เอาไปดอง ๔ วัน ส่งให้บอสเมื่อวาน แล้วก็มีคำสั่งแก้มโหฬารลงมา

เมื่อวานเย็น

ตกลง...พนักงานผิด?

แน่นอน เร่งทำกันทั้งคืน ไม่มีวันออกมาดีอยู่แล้ว ถูกด่าแบบ

ไม่ต้องเดา ดังนั้นประโยคสุดท้ายที่เจ๊แหม่มเอ่ยออกมาคือการหาแพะ

รับบาปตัวโตๆ...เป็นวิชามารขั้นสูงอีกอย่างของเจ๊ นอกจากวิชาหาดีใส่ตัว

โยนชั่วใส่คนอื่น ย่ำยีเบื้องล่าง อำพรางเบื้องบน แต่ทั้งหมดนั้นก็ยังขี้ปะติ๋ว

เมื่อเทียบกับสกิลหาแพะของเธอ คาดว่าหากต้องการเปลี่ยนสายงาน

กรมปศุสัตว์จะอ้าแขนรับเจ๊แหม่มด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง

เจ๊แหม่มย่างสามขุมตรงเข้าไปยังคอกแรก เป็นอันว่าหวยไปออกที่

ฝ่ายแฟชั่นก่อน

“ชุดเจ้าสาว!” เจ๊แหม่มกลายร่างเป็นว้ากเกอร์

“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”

กะเทยร่างหนานามว่าเจสสิก้าหรือเจสซี่ ในชุดเดรสสั้นสีตัดกัน

ไม่ต่ำกว่าสิบเฉด ตอบรัวปรู๊ดปร๊าด ยังไม่ทันมองหน้าคนถามด้วยซ้ำ

มือข้างหนึ่งสะกิดฝ่ายอาร์ตของตัวเองยิกๆ ซึ่งก็คือสาวน้อยจีจี้ ผิวคมเข้ม

ผมซอยสั้นแค่คอ มาดเฉี่ยวเท่เกินร้อย บางวันถ้าเกินร้อยไปมากหน่อย

ก็จะแต่งตัวแต่งหน้าเหมือนหลุดออกมาจากงานศิลป์แอ็บสแทรกที่ไม่มีใคร

ดูรู้เรื่อง เอกลักษณ์คืออายไลเนอร์สีดำสนิท และเล็บสีสะท้อนแสงสุดแล้ว

แต่จะหาได้

เนื่องจากสองคนนี้ดีกรีแต่งตัวเกินร้อยพอๆ กัน วีนเหวี่ยงคนละ

แบบ และใจร้อนแบบปะทะประมือกันได้ไม่ต้องให้คนนอกเจ็บตัว ราวกับ

หยินและหยาง ผีเน่ากับโลงผุ จึงถูกจับมาร่วมทีมเดียวกันในที่สุด (จริงๆ

ไม่มีใครยอมทำงานร่วมกับสองคนนี้แล้วต่างหาก)

“สะกิดไร เจ้าเข้าหรือไงเจ๊”

จีจี้ปล่อยมือจากเมาส์ หันไปสะบัดบ๊อบและอายไลเนอร์คมกริบใส่

ตาขวาง ไม่แคร์สื่อ แม้เจสซี่จะกลัวลนลาน แต่หล่อนก็ไม่ยี่หระ เพราะ

ถือว่าฝ่ายอาร์ตไม่มีหน้าที่สนองอำนาจเบื้องบนโดยตรงอยู่แล้ว ความซวย

จึงตกอยู่กับหนังหน้าไฟอย่างเจสซี่ ซึ่งเป็น บ.ก. ฝ่ายแฟชั่นไปเต็มๆ ที่ถูก

ลนจนเกรียมดำไปทั้งตัว

                “อีกนานไหม ต้นฉบับปิดวันนี้ ไม่ใช่เดือนหน้า” เจ๊แหม่มกอดอก

ตาเขียวพอๆ กับสีชุด ยิ่งทำให้เจสซี่ลนลาน

“เร็วสิยายจิ โอย...ฉันกำลังจะถูกบูชายัญแล้วนะ แง...”

เจ้าตัวยืนสั่นพับๆๆ ในโลกนี้มีสองสิ่งเท่านั้น ที่ทำให้กะเทยร่างควายอย่างเจสซี่หวั่นกลัวได้ หนึ่งก็คือแมลงสาบ และสอง...ยายเจ๊แหม่ม

ถ้าพูดให้ถูกก็คือ หวั่นกลัวปนขยะแขยง

ส่วนบอสน่ะเหรอ...ขึ้นหิ้งบูชาเท่านั้น

อยู่ๆ ร่างเขียวสดของเจ๊แหม่มก็สั่นเป็นเจ้าเข้าขึ้นมาจริงๆ ก่อนจะ

คว้ามือถือเครื่องบางขึ้นมาดูหมายเลขโทร. เข้า

เท่านั้นแหละ หน้าเจ๊ก็เริ่มเขียวเป็นสีเดียวกับชุดเลย

“บะ...บอสโทร. มา!!!”

เสียงนั้นดังเกือบจะกรีดร้อง สร้างความหวาดผวาให้แก่ผู้ฟังยิ่งนัก

คราวนี้จีจี้ถึงกับเลิกเล่นตัวพรินต์ปรู๊ดปร๊าด รีบส่งให้เจสซี่ทันที

เจ๊แหม่มกระชากปึกต้นฉบับไปไม่คิดชีวิต แต่ไม่คิดรับโทรศัพท์

เพราะยังห่วงชีวิตอยู่ สองขาวิ่งพรวดไปยังคอกต่อไปที่ต้องรับเคราะห์

โดยไม่สงสารส้นสูงแหลมจิ๋วที่กำลังสั่นสะท้านเพราะต้องรับน้ำหนักคุณเธอ

“เอามา! ยายอิ๋ง!”

เสียงคำรามทำให้พี่อิ๋งอ้อยเบิกตากว้าง ร่างบางๆ สั่นเทาขณะ

ลนลานรวบรวมต้นฉบับที่เกลื่อนบนโต๊ะ

พี่อิ๋งอ้อยเป็นหญิงที่เหลือความสาวน้อยเต็มที อายุน่าจะน้อยกว่า

เจ๊แหม่มไม่ถึงปี แต่ก็อาศัยตัวเล็กผมยาว มีไม้ตายคือผมหน้าม้ากระชาก

วัย ผิวสองสีค่อนไปทางเหลือง แต่งตัวพอประมาณ ทำให้ดูอายุอ่อนกว่า

เกือบสิบปี แน่นอน กระดูกก็หนาไม่เท่าเจ๊แหม่มด้วย ทั้งที่มีดีกรีเป็นถึง

ก๊อบปี้เอดิเตอร์ หรือ บ.ก. ที่ตรวจทานเนื้อหาตั้งแต่หน้าปกยันหน้า

สุดท้าย แถมยังดูแลต้นฉบับจากฟรีแลนซ์ข้างนอก ซึ่งก็ไม่ได้ต่ำต้อย

ด้อยค่าไปกว่าตำแหน่งหัวหน้ากอง บ.ก. ตรงไหน ความเก๋า (กึ้ก) ในบริษัท

ก็พอๆ กัน

แต่อย่างว่าแหละ...ความร้ายกาจมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งหรือ

อายุงานหรอก

ปกติพี่อิ๋งอ้อยจะเป็นคู่ดูโอกับมือวางอันดับ ๑ ด้านอาร์ตฝ่ายหญิง

ชื่อแนนซ์ ซึ่งเป็นเพื่อน (ที่จำเป็นต้อง) สนิท ๑ ใน ๒ คนของฉัน แต่วันนี้

ไม่ปรากฏตัวเพราะเพิ่งแอดมิตเข้าโรงพยาบาลไปเมื่อวาน ด้วยโรคกรดไหล

ย้อน ไม่ต้องเดานะว่าสาเหตุมาจากอะไร

“ได้...ได้แล้วค่ะ”

มือเล็กๆ ยื่นปึกกระดาษไปให้ด้วยอาการสั่นเทา เจ๊แหม่มโฉบฮุบไป

ทันทีราวเหยี่ยวตะครุบเหยื่อ ปากก็ตะโกนเรียกพร้อมกับตัวที่วิ่งพรวด

พราดไปยังอีกคอก

“สถานที่จัดงานแต่ง!”

“เรียบร้อยค่ะ” พี่อิ๋งวิ่งตามพร้อมร้องตอบ

“คู่แต่งงานหลัก ๒ คู่ คู่รอง ๔ คู่ งานอีเวนต์ ฮันนีมูน” เจ๊แหม่ม

ร่ายยาวไม่หยุดหายใจ

“ครบหมดค่ะ” พี่อิ๋งก็ตอบรับแค่สั้นๆ สีหน้าเหมือนคนลืมไปแล้วว่า

หายใจเป็นยังไง

เจ๊แหม่มควบมาถึงคอกโฆษณาพอดี อันเป็นคอกที่ทุกคนถึงกับ

หยุดมือ หันมาเอาใจช่วย เพราะคนที่นั่งประจำคอกนั้นคือสาวร่างเล็กบาง

ไซซ์ XS นามว่านิดหน่อย จุดขายคือนัยน์ตาเศร้าโศก เสียงค่อยเบา

ไม่เคยดังเกิน ๕ เดซิเบลสุภาพเรียบร้อยจนดูเป็นส่วนแปลกปลอมของ

บริษัท

แต่เห็นนิ่มๆ เบาๆ (น้ำหนักตัวนะ ไม่ใช่น้ำหนักสมอง) แบบนี้

เธอมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญ เลี้ยงปากเลี้ยงท้องสำนักพิมพ์เลยทีเดียว

นั่นคือตำแหน่งจัดอาร์ตหน้าโฆษณา ซึ่งต้องรับงานจากฝ่ายขายที่อยู่ชั้นบน

มาจัดอาร์ตโฆษณาตามที่ลูกค้าหรือคนที่จ่ายเงินเพื่อลงโฆษณาสั่ง

 

 

        (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

 

รายละเอียด

"แผนรักฉบับพันล้าน" นำเสนอเรื่องราวของ "แพม" ผู้ไม่เคยคาดคิดเลยว่า 'ความโสด' จะกลายเป็นปัญหาต่อเธอ-จนกระทั่งพี่สาวเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์กับหนุ่มหล่อครบสูตรครอบครัวกดดัน หัวหน้างานกลั่นแกล้งแต่มันยังไม่หนักเท่ากับการเปลี่ยนตัวเองแล้วหลงลืมคนใกล้ตัวที่คอยห่วงใย !!

"...How to Marry a Billionaire ผู้หญิงคนนี้ได้ผู้ชายรวย..."  ได้ถูกตั้งเป็นเงื่อนไขที่เธอต้องทำในวันที่ไปขอความช่วยเหลือจากพี่สาว นี่คือ 'หนังสือ How to' ที่จะทำให้ได้ผู้ชายในฝันเรื่องนี้คือเบื้องหลังความสำเร็จของพี่สาวเป็นจุดเริ่มต้นของแพม แต่มันไม่ใช่บทสรุปของความรัก หญิงสาวเปลี่ยนตัวเองคิดแผนมากมายเพื่อจะได้เจอผู้ชายครบสูตร แต่ระหว่างนั้นความสุขกำลังหายไป เธอไม่ได้กินอิ่มในงานเลี้ยงที่ได้ไปกับเขา เธอไม่ได้รับความสนใจจากผู้ชายที่กำลังควงแถมยังถูกมัดมือชกให้แต่งงานเพื่อจะได้มรดกทั้งหมดจนคนที่วนเวียนข้างกายได้หายไปพร้อมกับหัวใจของเธอ !? แล้วเรื่องราวจะดำเนินต่อไป และมีบทสรุปอย่างไร !? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาติดตามร่วมกันในนิยาย "แผนรักฉบับพันล้าน" เล่มนี้

เขียนโดย "ธาชามา"

 

270 หน้า


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024