แสนเสน่ห์ (น้ำว้า)

แสนเสน่ห์ (น้ำว้า)

2 รีวิว  2 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160008476
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 340.00 บาท 221.00 บาท
ประหยัด: 119.00 บาท ( 35.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

บรรยากาศในงานหมั้นเป็นไปอย่างชื่นมื่น  ท่ามกลางสักขีพยานของทั้งสองฝ่าย  เมื่อฝ่ายชายสวมแหวนให้ฝ่ายหญิง  แสงแฟลชก็วูบวาบ คนทั้งคู่ยิ้มให้กล้องที่มาจากสื่อต่างๆ

ฝ่ายชายหล่อเหลา ฝ่ายหญิงก็งดงาม แลดูเป็นคู่ที่เหมาะสมกันยิ่งเสียงแสดงความยินดีจากผู้มีเกียรติดังต่อเนื่อง  แต่เมื่อหญิงสาวมองเลยมาเห็นใครบางคน ดวงหน้างามก็เผือดไป

ชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ใกล้ประตูทางออกหันหลังกลับ  ก้าวพรวดออกจากห้องโถงใหญ่แห่งนั้น เขาไม่ได้มองจึงชนเข้ากับสตรีผู้หนึ่ง

“ขอโทษครับ”

“ตรีรุจ!”

เสียงอุทานทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวเลี่ยงชะงักไป  นัยน์ตาเข้มตวัดมองหน้าสตรีผู้นั้น เจ้าตัวถึงกับยกมือทาบอก ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

“ตกใจอะไรหรือ” เขาถามด้วยเสียงหยัน

“ฉัน...ฉันไม่คิดว่าคุณจะมา” คนพูดหน้าเจื่อน

“พี่ชายหมั้นทั้งทีผมไม่มาได้ยังไง” เขายิ้ม “ขอแสดงความยินดีกับคุณวีรดาด้วยนะครับ ที่ทำหน้าที่แม่สื่อได้ดีเยี่ยม!”

“คุณ...คุณจะมาโทษฉันไม่ได้นะ”  เจ้าตัวลดเสียงเพราะไม่อยากให้ดังไปถึงหูใครอื่น “แม้ฉันจะเป็นเพื่อนสนิทของศา แต่การจะเลือกใครมันขึ้นอยู่กับคนกลางและครอบครัวของเขา”

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่...รู้ตัวเองดีว่าผมเป็นใคร และพี่ชายผมเป็นใคร...ขอตัวนะครับ!”

ชายหนุ่มทำท่าจะผละไป แต่ถูกใครอีกคนเรียกไว้

“คุณรุจครับ”

คนเรียกเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าเขาจะหนีหายไปเสียก่อน

“ท่านสั่งไว้ว่าถ้าเห็นคุณมาให้เชิญไปที่ห้องของท่าน...ท่านมีเรื่องจะพูดกับคุณ”

“เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน เพราะผมคิดว่าวันนี้ท่านคงไม่มีเวลาหรอก”

เขากล่าวเรียบๆ  แล้วเดินออกมาจากตรงนั้น  แต่คนสนิทของบิดายังตามมา

“คุณรุจ...ท่านอยากพบคุณจริงๆ นะครับ”

“คุณพ่อมีคนข้างกายมากมายจะอยากพบผมไปทำไม”  เขาไม่ได้หยุดเดิน นำเสียงที่กล่าวไม่ยินดียินร้าย “บอกคุณพ่อด้วยก็แล้วกันว่าไม่ต้องห่วงไปหรอก...คนอย่างผม  เมื่อผู้หญิงเขาไม่ต้องการก็ไม่คิดที่จะช่วงชิง...ยังไงคุณกรินทร์ก็เป็นพี่ชายผม ถึงจะคนละแม่...แต่ผมคงไม่ฆ่าเขาเพราะเรื่องนี้”

คนฟังสะอึกไปกับคำพูดเหล่านั้น แต่ยังไม่ละความพยายาม

“คุณรุจกำลังเข้าใจผิด...ท่านไม่ได้ห่วงว่าคุณจะทำอะไรคุณกรินทร์ แต่ห่วงความรู้สึกของคุณมากกว่า...”

ชายหนุ่มหันมายกมือปราม “ไม่ต้องพูดแทนเขาหรอก คุณทักขิญ...เก็บคำพูดสวยๆ พวกนั้นไว้เถอะ ผมไม่ต้องการคำปลอบใจ เพราะถึงยังไงผมก็เป็นได้แค่ไอ้ลูกนอกคอก  คุณเองก็เคยได้ยินกับหูว่าครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน ท่านพูดว่ายังไงบ้าง”

“แต่...แต่ครั้งนั้นท่านพูดไปก็เพราะอารมณ์...”

“ไม่หรอก” ตรีรุจยิ้มเฉพาะปาก หากนัยน์ตาไม่ยิ้มด้วย “ผมว่าท่านพูดถูก ที่ว่าผมเป็นไอ้ลูกนอกคอก แต่ไม่น่าจะโทษเลือดทางแม่และตา น่าจะโทษสันดานผมมากกว่า”

“โธ่...คุณรุจ...ท่านก็แค่พลั้งปาก...”

“อย่าพูดอีกเลย เสียเวลาเปล่าๆ” เขาตัดบทแล้วก้าวยาวๆ ไปยังที่จอดรถ

“คุณรุจจะไปไหนครับ...จะกลับคอนโดฯ เลยหรือเปล่า”

เสียงถามยังคงดังตามมา แต่เขาไม่สนใจที่จะตอบคำถาม สูทสีเทาอ่อน

ตัวนอกถูกถอดออกเผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินที่อยู่ด้านใน

“ฝากคืนสูทให้คุณพ่อด้วย...บอกว่าผมขอบคุณมากที่อุตส่าห์ส่งสูทไปให้”  ชายหนุ่มเปิดประตูรถพิกอัปของเขาแล้วหยิบถุงกระดาษออกมา  “แต่กางเกงผมไม่ได้ใช้ เพราะรู้สึกว่ายีนสีน้ำตาลไหม้เรียบๆ ตัวนี้ก็สุภาพดีอยู่แล้ว”

ทักขิญมองอย่างลำบากใจ “ท่านให้คุณแล้ว ก็คงอยากให้คุณเก็บไว้”

“ผมไม่ค่อยได้ใช้ ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม” เขาพับเสื้อสูทใส่ถุงรวมกับกางเกงแล้วส่งให้อีกฝ่าย

ทักขิญจำต้องรับเอาไว้  มองชายหนุ่มที่แกะกระดุมข้อมือ  แล้วพับแขนเสื้อขึ้นมาทั้งสองข้างอย่างไม่สบายใจนัก  เมื่อส่งสายตาเข้าไปในรถก็เห็นเป้ใบหนึ่ง จึงถามขึ้นอีกครั้ง

“คุณรุจจะไปไหนครับ”

“ไปให้พ้นจากกรุงเทพฯ สักพัก” นัยน์ตาเข้มของคนพูดมองไปรอบตัว “ผมอยากจะลบความทรงจำใหม่ๆ  ให้หมด  แล้วกลับไปหาความทรงจำเก่าๆ ที่อบอุ่น”

ทักขิญไม่ได้ยินประโยคท้าย เพราะคำพูดนั้นเบาแสนเบาคล้ายรำพึงกับตัวเอง

“พอจะบอกได้ไหมครับว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน ถ้าท่านถามผมจะได้ตอบถูก”

ริมฝีปากหยักลึกรูปคันศรเหยียดยิ้ม

“คุณพ่อไม่อยากรู้หรอก” คนพูดเปิดประตูรถแล้วก้าวขึ้นไปนั่ง “ขอบคุณนะครับที่มาส่ง ผมไปละ”

กล่าวจบก็ปิดประตู เสียบกุญแจ สตาร์ตรถแล้วขับปราดไปจากตรงนั้น

พิธีการต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว กรินทร์และคู่หมั้นกำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ  ที่เข้ามาห้อมล้อม  เพราะความมีชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลของคนทั้งสองทำให้ได้รับความสนใจในวงกว้าง

“คุณศานิตากับคุณกรินทร์จะแต่งงานกันเมื่อไหร่คะ”  เสียงถามดังมาเข้าหู

“อีกห้าเดือนครับ”  ชายหนุ่มเป็นฝ่ายตอบ  ในขณะที่หญิงสาวยังอดเหลือบมองไปที่ประตูมิได้ กรินทร์จึงโอบร่างหล่อนเข้าไปหาตัวแสดงถึงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

ผู้เป็นพ่อมองภาพนั้นแล้วหันมองออกไปด้านนอก  เห็นทักขิญเดินกลับเข้ามาพอดี เขาจึงขอตัวกับบรรดาแขกผู้มีเกียรติก้าวเข้าไปหาคนสนิท

“นายรุจล่ะ” ผู้เป็นนายถามเสียงแผ่ว แต่มีความจดจ่อในน้ำเสียง

“เอ่อ...กลับไปแล้วครับ”

คำตอบนั้นทำให้คนถามต้องขมวดคิ้ว  “ไม่ได้บอกหรือว่าฉันมีเรื่องจะพูดด้วย”

“บอกแล้วครับ แต่คุณรุจบอกว่าวันนี้ท่านคงไม่ว่าง”

“อวดดี!” ผู้เป็นพ่อหน้าเคร่งขึ้นมาทันที “ไปตามมันมาพบฉันเดี๋ยวนี้!”

“คุณรุจไม่ได้กลับคอนโดฯ  ครับ...บอกว่าจะไจากกรุงเทพฯ  สักพัก แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปที่ไหน”

คนฟังคาดไม่ถึง วินาทีต่อมาก็ออกคำสั่ง

“โทรศัพท์ไปหามัน...ฉันจะพูดด้วย”

ทักขิญรีบทำตามความประสงค์ของผู้เป็นนาย เขาโทรศัพท์อย่างว่องไว ทว่าเพียงครู่เดียวก็จำต้องรายงานว่า “คุณรุจไม่เปิดเครื่องครับ”

“ไอ้ลูกคนนี้...ฉันควรจะทำยังไงกับมันดี”

ประโยคนั้นคงจะดังไปหน่อย แขกผู้มีเกียรติท่านหนึ่งจึงหันมา

“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณนทีกูล”

“เปล่าครับ  ไม่มีอะไร”  เขายิ้มกลบเกลื่อน  ทว่าในใจนั้นคุกรุ่น  ตรีรุจแข็งเกินไป  ถ้าเพียงแต่ลูกชายคนนี้จะยอมพึ่งพาเขาสักนิด  เขาก็พร้อมจะหยิบยื่นให้ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทองหรือตำแหน่งสำคัญๆ ในบริษัท

แม้แต่ศานิตา...

ถ้าตรีรุจมาขอให้เขาช่วยก่อนหน้านี้  เขาก็พร้อม  แต่ตรีรุจไม่เคยขอ ความหยิ่งจองหองของตรีรุจทำให้เขาสู้พี่ชายที่เหนือกว่าทุกด้านไม่ได้

พ่ออยากช่วยแกนะรุจ แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง...

ที่สุดผู้เป็นพ่อก็ได้แต่รำพึงอยู่ในใจ

 

ตรีรุจขับรถออกห่างกรุงเทพฯ  และจังหวัดปริมณฑลมาทุกทีๆ จนกระทั่งเลี้ยวแยกเข้าเขตอำเภอที่เป็นจุดหมายปลายทาง เขาไม่ได้กินข้าวมื้อกลางวัน แต่ก็ไม่รู้สึกหิว ความรู้สึกมันตื้อไปหมด แม้จะทำใจมาแล้วพักหนึ่ง

ตั้งแต่ได้รู้ว่าศานิตาตกลงใจรับหมั้นกรินทร์  ทว่าจะไม่ให้รู้สึกรู้สาคงเป็นไปไม่ได้

“นายเลือกเองนะรุจ” เขาตอกย้ำกับตัวเอง “เลือกที่จะเป็นนายรุจ ลูกแม่ราตรี หลานตาเริ่ม และลุงฤกษ์ แล้วจะมานั่งหดหู่อยู่ทำไมเมื่อผู้หญิงเขาไม่เลือก”

รถที่ขับเลยทางแยกเข้าบ้านสวนไปแล้วแต่เขายังไม่รู้ตัว  ถนนช่วงนั้นมีต้นอินทนิลปลูกอยู่ตลอดแนว  ดอกกำลังบานเต็มที่มองเห็นเป็นช่อสีชมพูอมม่วงพราวงดงาม ตรีรุจผ่อนคันเร่งอย่างเผลอไผล มองดอกไม้แล้วไม่วายคิด

ดอกฟ้าเขาไม่เลือกหมาวัดกันหรอก...

ชายหนุ่มถอนใจ หันกลับมามองทางข้างหน้า แต่แล้วก็ต้องอุทานลั่น

“เฮ้ย...หมา!”

ไม่ใช่แค่หมา เพราะมีร่างเล็กๆ วิ่งตามมาปกป้องสัตว์เลี้ยงแสนรัก จะเบรกก็ไม่ทันเสียแล้ว ซ้ำอีกเลนก็มีรถสวน เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากหักพวงมาลัยรถลงข้างทาง

ตรีรุจรับรู้ได้ถึงแรงกระแทก เสียงชนดังสนั่นเข้ามาในโสต ต้นอินทนิลเข้ามาอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาขยับตัวไม่ได้ สำนึกสุดท้ายคือการได้เห็นหน้าเรียวๆ โผล่อยู่นอกประตู นัยน์ตาสีน้ำตาลจัดบนใบหน้านั้นเบิกโตอย่างตระหนก

แล้วเขาก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย...

 

งานเลี้ยงฉลองหมั้นผ่านไปด้วยดี แต่นทีกูลกลับรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างไรบอกไม่ถูก แม้เมื่อกลับมาถึงบ้านกฤตาลัย

“คุณคงจะเหนื่อย ดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนสิคะ” ภรรยานำแก้วน้ำเย็นมาเสิร์ฟให้ด้วยตัวเองอย่างจะเอาใจ

เขารับมา แต่ไม่รู้ว่าพลาดตรงไหน จึงทำหล่นพื้นแตกกระจายไปต่อหน้าต่อตา เท่านั้นเองความอดทนของผู้เป็นภรรยาก็สิ้นสุด

“ทำไมคะ แค่ไม่ได้เห็นหน้าลูกชายสุดที่รัก ก็ทำให้คุณใจลอยได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ!”

“ไม่เอาน่า...ผมก็แค่รับแก้วน้ำพลาดไปหน่อย มันเป็นอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ทำไมจะต้องพาดพิงไปถึงเขา”

“นึกหรือว่าฉันไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร” หล่อนมองเขาด้วยแววตาเจ็บปวด “วันนี้วันหมั้นกรินทร์แท้ๆ แต่คุณเอาแต่มองหาตรีรุจ ฉันเห็นนะ ตอนที่คุณเลี่ยงไปพูดอะไรกับทักขิญ...ใช่สิ...กรินทร์ไม่ใช่ลูกชายคุณนี่!”

“ไปกันใหญ่แล้วนะ คุณเกยูร” นทีกูลมองไปรอบๆ แล้วลดเสียงลง “เดี๋ยวใครก็ได้ยินเข้าหรอก”

นั่นดูเหมือนจะทำให้หล่อนรู้ตัว แต่ความผิดหวังน้อยใจยังอยู่ จึงผลุนผลันเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน

นทีกูลถอนใจ เดินตามภรรยาขึ้นไป เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้อง เขาพบหล่อนนั่งร้องไห้อยู่ที่เก้าอี้ จึงก้าวเข้าไปจับหัวไหล่ แต่หล่อนสลัดออก หันมาเผชิญหน้าด้วยน้ำตาที่เปียกชุ่ม

“เพราะฉันมีลูกไม่ได้ คุณถึงต้องไปมีลูกกับคนอื่น...ฉันเป็นคนอนุญาตคุณเอง จะโทษใครได้”

“คุณจะรื้อฟื้นเรื่องนี้ให้มันได้อะไรขึ้นมา ไหนๆ แม่นายรุจก็ตายไปนานแล้ว”

“แต่คุณไม่เคยลืม คุณรักตรีรุจ...คุณไม่ยุติธรรม!”

“ผมไม่ยุติธรรมตรงไหน” เขาขมวดคิ้ว “กรินทร์มีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัท มีคู่หมั้นแสนสวยอย่างหนูศานิตา มีทุกสิ่งทุกอย่างเพียบพร้อม ในขณะที่นายรุจไม่มีอะไรเลย กรินทร์เหนือกว่านายรุจทุกอย่างคุณก็เห็น”

เกยูรได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไปบ้าง

“คุณอย่าระแวงไปเลยว่าผมจะรักกรินทร์น้อยกว่า ยังไงเขาก็เป็นลูกบุญธรรมของเรา เป็นหลานแท้ๆ ของคุณเอง เราเลี้ยงเขามาตั้งแต่แบเบาะ เพราะน้องสาวคุณและสามีเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทำไมผมจะไม่รักเขา” นทีกูลต้องพูดเป็นครั้งที่เท่าไรเขาก็จำไม่ได้เสียแล้ว “ผมรักเขาเหมือนลูกชายแท้ๆ และไม่เคยลืมที่ให้สัญญากับคุณว่าจะไม่เปิดเผยกับเขาว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของผม...ทุกวันนี้เขามีความสุข คุณยังต้องการอะไรอีก”

หล่อนก้มหน้าลง ไม่ได้ตอบว่าสิ่งที่หล่อนต้องการคือความมั่นใจ และหล่อนรู้สึกสูญเสียมันไปทุกครั้งที่เห็นเขาแสดงความห่วงใยเอาใจใส่ตรีรุจ

นทีกูลประคองร่างภรรยาขึ้นแล้วโอบหล่อนไว้ “ผมไม่อยากให้คุณคิดมาก เพราะจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพ...เอาเป็นว่า...ถ้าวันนี้ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจ ผมขอโทษด้วยก็แล้วกัน”

เกยูรน้ำตาซึม “ฉันขอโทษนะคะ ฉันควรใจกว้างกว่านี้ แต่...”

“อย่าพูดอะไรอีกเลย วันนี้คุณเหนื่อยมามากแล้ว อาบน้ำแล้วพักผ่อนดีกว่า”

หล่อนพยักหน้า และทำตามอย่างว่าง่าย

รอจนภรรยาเข้าห้องน้ำไปแล้ว นทีกูลจึงออกจากห้องเดินลงไปข้างล่าง ทักขิญมาถึงพอดี เขาจึงถามโดยไม่รอช้า

“มีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย”

“ยังเลยครับ ผมโทร. ไปตามบ้านเพื่อนและคนรู้จักของคุณรุจ แต่ทุกคนปฏิเสธว่าคุณรุจไม่ได้ไปหา...และไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากคุณรุจ”

“แล้วบริษัทรับสร้างบ้านที่นายรุจทำงานอยู่ล่ะ มีใครรู้อะไรบ้างหรือเปล่า”

“เอ่อ...ผมโทร. ไปถาม เขาบอกว่าคุณรุจลาออกแล้วครับ”

นทีกูลได้ฟังก็อึ้งไปเป็นครู่เพราะความคาดไม่ถึง ที่สุดจึงกล่าวว่า “ตามหาต่อไป อย่างน้อยขอแค่ได้รู้ว่านายรุจปลอดภัย ไม่ได้เสียอกเสียใจจนทำร้ายตัวเอง ฉันก็พอใจแล้ว”

“คุณรุจไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกครับ”

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

ตรีรุจ ถูกหญิงคนรักทรยศหักหลังไปรับหมั้นพี่ชายต่างมารดา เพียงเพราะฐานะและผลประโยชน์ เขาจึงละทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง พาหัวใจที่บอบช้ำเตลิดไปเพื่อหวังจะรักษาแผลใจ แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางทำให้เขาได้พบกับ ?แสนตะวัน? ผู้หญิงที่ทำให้โลกของเขาเปลี่ยนไป อุบัติเหตุในครานั้นนำมาซึ่งความเข้าใจผิด แต่เป็นเหตุให้ทั้งสองต้องมาใกล้ชิด ความสนิทสนมที่นานวันยิ่งเพิ่มขึ้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความรักที่บริสุทธิ์ แต่แล้วเหตุการณ์วุ่นวายก็เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน จนทำให้ตรีรุจตัดสินใจกลับไปเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่เขาจากมาอีกครั้ง ผู้อยู่เบื้องหลังยังคงเป็นปริศนาที่รอให้ทั้งเขาและเธอกลับไปคลี่คลาย... 


รีวิว (2)

เขียนรีวิว

จตุพร | 2 รีวิว
25/07/2014

“แสนเสน่ห์” เป็นนิยายเล่มแรกที่ดิฉันได้อ่านผลงานของนามปากกา “น้ำว้า”ค่ะ เรื่องราวของ “ตรีรุจ” ชายหนุ่มที่ถูกคนรักหักหลังไปหมั้นกับพี่ชายของเขา เพียงเพราะผลประโยชน์ และเขาไม่ใช่ลูกชายของภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายของพ่อ ต้องบอกว่าถ้าเกิดพระเอกไม่ถูกแฟนทิ้งเนี่ย เรื่องราวต่างๆก็ไม่เกิดขึ้นตามมาหรอกค่ะ เมื่อถูกแฟนทรยศปุ๊บ พระเอกเลยเลือกที่จะหันหลังให้ทุกอย่าง ทิ้งชีวิตแบบเดิมๆหนีไปอยู่บ้านสวนของแม่ แต่กลับได้รับอุบัติเหตุระหว่างทาง ซึ่งทำให้เขาได้พบกับ “แสนตะวัน” นางเอกของเรานิเองค่ะ ตอนแรกพระเอกคิดว่านางเอกเป็นเด็กชายจอมแก่น หัวโจกคุมเด็กแถวๆนั้น แถมยังมีลูกสมุนเป็นสุนัขตัวเล็กตามต้อยๆอีกด้วย พระเอกกับนางเอกก็ค่อยๆสนิทสนมฉันเพื่อนกันไปเรื่อยๆค่ะ แล้วก็ต้องหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเมื่อเพื่อนสนิทของเขาซึ่งเป็นญาติผู้พี่ของนางเอกมาเฉลยให้ฟังว่าความจริงแล้วเนี่ยน้องตูเป็นผู้หญิงว้อย แต่ต้องแต่งตัวเป็นทอมบอย ตัดผมสั้นเพราะประชดครอบครัวที่หวังจับคลุมถุงชนให้กับผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้รัก ดิฉันชอบความสัมพันธ์ของพระเอกกับนางเอกที่ค่อยๆพัฒนาจากความใกล้ชิดเริ่มเกิดเป็นความรู้สึกดีๆให้กัน พระเอกแม้จะถูกทิ้งมาแต่พออยู่กับนางเอกเขากลับมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมี เป็นตัวเอง ผ่อนคลาย ทั้งคู่เลยตกลงเลื่อนสถานะเป็นแฟน เรื่องราววุ่นวายไม่หยุดหย่อน เมื่อพ่อของพระเอกถูกปองร้าย พระเอกเลยจากบ้านสวนมาชั่วคราวเพื่อมาดูอาการพ่อ และช่วยดูแลงานในบริษัท พี่ชายพระเอกก็ประสบอุบัติเหตุ ไหนจะมีคนถูกฆ่า โอ้โห คดีเรื่องนี้เยอะค่ะ ปมต่างๆพัวพันกันมากมาย โดยมีคนร้ายหลักๆเป็นตัวชูโรงอยู่ประมาณ 2-3 คน พวกคนร้ายก็ทำเป็นขบวนการอีกต่างหาก สนุกดีค่ะ อ่านแล้วลุ้นมากว่าพระเอกจะสาวไปถึงตัวคนร้ายยังไง เพราะคนอ่านอย่างดิฉันรู้อยู่แล้วว่าคนรายคือใคร อิอิ ผู้เขียนไม่ได้ให้เดานิค่ะ ร้ายออกตั้งแต่ต้นเรื่องกันเลยทีเดียว สิ่งที่ดิฉันชอบอีกอย่างในนิยายเล่มนี้คือคาเรกเตอร์นางเอกค่ะ ไม่รู้ชีเป็นนางเอกหรือวันเดอร์วูแมน เพราะเก่งจริงๆ ฉลาดด้วย เรียกได้ว่ามีปฏิภาณไหวพริบเป็นเลิศ ความแก่นของนาง สามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์คับขันได้อย่างชิวๆ เป็นจอมแสบเลยละค่ะ แต่บางทีก็ทำให้พระเอกปรี๊ดแตกได้ง่ายๆเพราะพระเอกห้ามอะไรไม่เคยฟังสักอย่าง ฮ่าๆๆๆๆ ที่สำคัญครอบครัวนางเอกก็เคยถูกคนร้ายพวกนี้โกงสมัยนางเอกยังเล็กๆอยู่ด้วย นางเอกจึงเหมือนเข้ามามีบทบาทช่วยพระเอกสืบเรื่องอีกแรง ต้องบอกว่าเรื่องนี้นางเอกบทเด่ากว่าพระเอกอีกค่ะ เพราะในความรู้สึกของดิฉัน นางเอกเนี่ยแหละที่เป็นคนทำให้มัดตัวคนร้ายได้ แม้วิธีการบางอย่างจะเสี่ยงไปบ้าง ส่วนประเด็นความรักระหว่างนางเอกกับพระเอกก็ไม่ได้รักกันแบบหวานแหววนะคะ นิยายเรื่องนี้นำเสนอรักแบบ ค่อยๆพัฒนาขึ้นจากเพื่อน ชอบกัน จนมาถึงรักกัน พระเอกเห็นนางเอกเป็นทั้งน้อง เพื่อน คนรัก ความสัมพันธ์จึงยืดยาว รักแบบไม่เลี่ยน ไม่มีพูดหวานๆ แต่การกระทำแสดงออกนะคะ ว่าทั้งคู่รักกัน สำหรับดิฉันชอบค่ะ อ่านแล้วติดใจ “แสนเสน่ห์”มากๆ
สกาวรัตน์ | 2 รีวิว
28/09/2013

หนังสือนิยายเรื่อง แสนเสน่ห์ ผลงานการประพันธ์จากปลายปากกาของนักเขียนนามว่า น้ำว้า ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ พิมพ์คำ เป็นหนังสือนิยายอีกหนึ่งเรื่องที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำให้น่าลุ้น จะเรียกว่าเต็มไปด้วยเงื่อนงำซะทีเดียวก็คงไม่ได้ เพราะมีเรื่องราวน่ารักของคู่พระเอกนางเอกให้ได้อมยิ้มกันไป ผสมผสานกับพล็อตที่มีเรื่องราวให้ได้ตามไปร่วมกันไขปริศนาค่ะ พระเอกของเรื่องแสนเสน่ห์ชื่อว่า ตรีรุจ เป็นชายหนุ่มที่เหมือนจะธรรมดาคนหนึ่งที่ผิดหวังในความรัก เพราะว่าคนรักของเขาไปตกลงรับหมั้นกับพี่ชายคนละแม่ของเขานั่นเอง สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องของฐานะทางการเงิน ทางสังคม และเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง (ประมาณนั้น) เมื่อผิดหวังจึงตัดสินใจเดินทางเพื่อหนีจากความเจ็บปวดที่ถูกคนรักทำให้ต้องผิดหวัง คิดว่าการไปให้ไกลคงพอจะช่วยเยียวยารักษาแผลใจได้ หรือไม่มันก็ดีกว่าการอยู่กับที่แล้วนั่งจมจ่อมมองดูตัวเองอกหักเพราะคนรักทิ้งไปหาคนอื่นที่ดีกว่า หากแต่การเดินทางครั้งนี้ทำให้อะไรหลายอย่างเปลี่ยนไป ตรีรุจเกิดอุบัติเหตุและได้พบเจอกับ แสนตะวัน ซึ่งเป็นนางเอกของเรื่อง น่ารักน่าลุ้นและเป็นผู้หญิงที่ทำให้ชีวิตของตรีรุจเปลี่ยนไปด้วยค่ะ เรียกว่าเป็นโลกใหม่ที่เขาอาจจะไม่เคยคิดว่าจะได้พบได้สัมผัส แม้จะมีความเข้าใจผิดเป็นพื้นฐาน แต่ความใกล้ชิดของพระเอกและนางเอกที่ดำเนินไปก็นำมาซึ่งสายสัมพันธ์ที่ดีและก่อเกิดเป็นความรักในที่สุดนั่นเองค่ะ แต่ชีวิตที่ดูเหมือนจะเป็นปกติสุขของตรีรุจกลับมีเหตุการณ์ของคนที่ไม่หวังดี ทำให้เรื่องราวปั่นป่วนไม่หยุดหย่อน ในที่สุดพระเอกของเราจึงตัดสินใจกลับไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่จะเรียบร้อยโรงเรียนใครก็ต้องติดตามอ่านนะคะ ให้ได้ลุ้นกันว่า ตรีรุจและแสนตะวัน จะได้แฮปปี้แอนดิงกันอย่างไร เมื่อไหร่ และใครกันนะคือคนที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายในชีวิตของตรีรุจทั้งหมด หนังสือนิยายเรื่อง แสนเสน่ห์ เล่มนี้เป็นงานเขียนอีกเล่มที่น่าอ่านไม่น้อย ชื่อเรื่องน่าจะเหมาะยิ่งนักสำหรับคนที่กำลังมีความรัก เนื้อความข้างในจะค่อนข้างมีปมให้ต้องติดตาม มีอะไรให้ได้คิดได้ลุ้นกระทั่งตอนท้ายเรื่อง ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของหนังสือนิยายเล่มนี้ ก็เรียกความสนุกน่าติดตามจากคนอ่านได้มากทีเดียวค่ะ อีกทั้งนามปากกาที่แปลกหูแม้จะอ่านยากไปนิดแต่ก็ทำให้น่าสนใจชวนหยิบมาดู ไม่ต่างจากสีสันต์หน้าปกที่สวยงามไปอีกแบบ รวมๆ แล้วเป็นหนังสือนิยายของนักเขียนรุ่นใหม่ที่อยากให้นักอ่านหลายท่านได้หยิบมาลิ้มลองดู เพราะทั้งพล็อตและสำนวนการเขียนที่รื่นไหลอ่านง่ายนี้ไม่น่าจะทำให้นักอ่านผิดหวังค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2025