เชิงรักแสนกล (อธิยา)

เชิงรักแสนกล (อธิยา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160016785
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 340.00 บาท 85.00 บาท
ประหยัด: 255.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

สนามบินสุวรรณภูมิ

หลังจากรอโหลดของจนครบ โมริดาก็เข็นกระเป๋าเดินทางกับสัมภาระ

ทั้งหมดตรงไปยังทางออกเพื่อจะหารถแท็กซี่กลับบ้าน เวลาตีสี่ไม่เช้าเกินไป

หากจะขอให้มีคนมารับ แต่เป็นเธอเองที่ปฏิเสธความห่วงใยจากสมาชิก

ในครอบครัว เหตุผลก็เพียงเพราะไม่ต้องการพบหน้าบิดากับพี่ชาย อยาก

ยืดเวลาออกไปทั้งที่ไม่ได้พบเจอกันร่วมปี

โมริดาหัวเสียกับการถูกเรียกตัวกลับกะทันหันของไพโรจน์ผู้เป็นพ่อ

ขณะที่กำลังเตรียมตัวจะท่องเที่ยวยุโรปหลังจากเรียนจบปริญญาโท ทั้งที่

เคยตกลงกันไว้แล้วว่าเธอขอเที่ยวพักผ่อนสักสองสัปดาห์ก่อนกลับมาตุภูมิ

เหตุผลก็คือ ‘พ่อจะให้แกแต่งงาน’

หญิงสาวฟังเสียงทางโทรศัพท์ที่ดีเลย์นิดๆ แล้วฉุนกึก นี่มันยุคไหน

สมัยไหน ยังคิดจะจับคู่แบบนี้อีก หรือถึงจะมีก็ไม่ควรเกิดกับครอบครัวของเธอเลย

‘สองครอบครัว สองธุรกิจจะได้เอื้อประโยชน์กัน ไม่สิ ถ้าแกตกลง

แต่งงาน เราจะได้ประโยชน์มหาศาลเลยทีเดียว’

‘ถ้าโมปฏิเสธล่ะคะ’ เธอถามกลับเมื่อระงับอารมณ์ได้

‘ไม่มีคำว่าปฏิเสธ ฉันบอกให้แกแต่ง แกก็ควรจะแต่งนะ นี่ไม่ใช่เรื่อง

ส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของครอบครัว แกมีโอกาสได้เรียนจบถึงเมืองนอก

เมืองนา ส่วนฉันแค่ปริญญาโทยังไม่ได้เรียนเลย แค่นี้แกทำเพื่อตอบแทน

บุญคุณพ่อไม่ได้เชียวเหรอโม’

เรืองเดชผู้เป็นพี่ชายหว่านล้อมเข้าไปอีก โมริดาอยากตัดพี่ตัดน้อง

ในนาทีนั้นเอง ที่ผ่านมาเธอก็ไม่ได้สนิทเสน่หากับพี่ชายซึ่งอายุห่างกันสิบปี

คนนี้ขนาดเล่นหัวกันได้เพราะวัยต่างกันมาก ความคิดอ่านก็เกือบจะตรงข้าม

กันทุกเรื่อง จะเดินหันหลังให้กันอีกสักเรื่องก็ไม่แปลกอะไร

หญิงสาวที่มีรูปร่างสูงสมส่วน สวมชุดเดรสลูกไม้สีขาวทับด้วยสูท

สีโอลด์โรสเดินเข้ามา ใบหน้าหวาน ดวงตากลมใต้คิ้วเข้ม เรือนผมยาว

ตรงดำสนิท แต่เธอทำหน้างอง้ำไม่สบอารมณ์นัก

ครอบครัวไชยาภาทำธุรกิจขายเฟอร์นิเจอร์มากว่าสามสิบปีแล้ว

โดยเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์จากไม้ ผู้เป็นพ่อมีคนรู้จักประกอบกิจการโรงเลื่อยไม้

มากมาย จากที่ได้ฟังมาตระกูลลิ่วประดิษฐ์มีโรงเลื่อยเป็นของตนเอง

ซ้ำยังนำเข้าไม้รายใหญ่ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ที่สำคัญของบริษัท

โมริดาเชื่อว่าบิดาคงเลือกจะส่งเธอไปดองกับครอบครัวนี้ เพราะได้

ผลประโยชน์มากมายคุ้มค่า เพียงแลกกับชีวิตของลูกสาวคนเดียว การ

ผูกขาดในการสั่งซื้อไม้ทำให้กำหนดราคาได้และลดต้นทุน มิหนำซ้ำยังกีดกัน

คู่แข่งให้ไปหาแหล่งขายที่อื่นแทนได้อีกด้วย แต่จะมีใครสักคนฉุกคิดบ้าง

ไหมว่าอนาคตของเธอจะเป็นอย่างไร

เรืองเดชบอกรายละเอียดของว่าที่เจ้าบ่าว หรือจะพูดให้ถูกคือว่าที่

น้องเขยจะตรงประเด็นกว่าว่า

‘ชื่อสห เป็นลูกชายคนเดียวของเสี่ยฉัตรชัย ก็ไม่เลวนักหรอก

ฉันไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวจะหาว่าโฆษณาเกินจริง แกกลับมาดีกว่า’

‘แล้วทางนั้นยอมเหรอคะ’ เธอถามกลับโดยแทบไม่สนใจฟังคุณสมบัติ

นั้นด้วยซ้ำ เมื่อได้ยินคำตอบที่รู้อยู่แล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองตกหลุมลึกลงไปทุกที

 โมริดาหยุดความคิดเมื่อเห็นแท็กซี่กำลังแล่นเข้ามา เธอรีบก้าวยาวๆ

ไปโบกมือเรียก พอยานพาหนะสีเหลืองมาจอดเทียบก็เปิดประตูทันที

“ไป...” โมริดาบอกสถานที่ แต่คนขับหันมายิ้มเจื่อนให้

“คือ...คุณผู้ชายคนนั้นเรียกก่อนครับ”

หญิงสาวชะงัก หันไปมองทางซ้ายมือของตนเอง เห็นผู้ชายคนหนึ่ง

ยืนอยู่จริงๆ เธอหน้าร้อนวูบขึ้นมา ได้ยินคนขับแท็กซี่บอกอีกว่าผู้ชายคนนี้

ยืนรออยู่ก่อน มัวแต่อารมณ์เสียเลยไม่ทันมอง โมริดาแสดงอาการเก้อๆ

และกำลังจะถอยออกมา

“ไม่เป็นไรครับ ให้คุณผู้หญิงก่อนก็ได้”

ไม่เพียงแค่คำเอื้อเฟื้อนั้นจะทำให้เธอเงยหน้าขึ้น แต่ด้วยน้ำเสียง

นุ่มนวลเต็มไปด้วยความสุภาพ ทำให้เผลอมองใบหน้าคมคายกับผิวขาว

เหลือง ดวงตาดูสดใสใต้คิ้วหนาเป็นระเบียบ หุ่นสมส่วนในเครื่องแต่งกาย

ง่ายๆ คือเสื้อคอกลมแขนยาวกับกางเกงยีน ทว่าโมริดารู้สึกจับตาจับใจ

เมื่อตกลงกันได้ เธอก็หันมาลำเลียงสัมภาระใส่กระโปรงหลัง คน

ขับรถลงมาจากที่นั่งคนขับ แต่เขาเป็นชายร่างเล็กทีเดียวเมื่อเทียบกับขนาด

กระเป๋าของเธอ ผู้โดยสารสาวเกรงใจไม่น้อยจึงจำต้องออกแรงด้วย

อยู่ดีๆ ชายหนุ่มที่เสียสละคิวให้เธอก็เดินเข้ามายกกระเป๋าเดินทาง

ใบใหญ่ไปใส่ท้ายรถแท็กซี่

“ผมช่วย” เขาบอก

หญิงสาวชะงัก แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ถึงรูปร่างจะไม่สูงใหญ่ แต่โมริดา

เห็นท่อนแขนแข็งแรงอย่างคนสุขภาพดี ได้กลิ่นอายความเป็นชายเจือใน

ความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่นานก็เรียบร้อย

“ขอบคุณค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ”

โมริดาแค่มองหน้าแล้วกล่าวคำขอบคุณเขา แต่เมื่อพบกับรอยยิ้มที่

ส่งตอบมาก็ทำให้หัวใจแกว่งวูบ หญิงสาวเงอะงะ เคอะเขินทันใด นอกจาก

จะเสียสละคิวให้เธอก่อนแล้วยังมีน้ำใจยกกระเป๋าให้อีก

พูดตรงๆ เลยก็คือ นอกจากจะหน้าตาชวนมองแล้วยังยิ้มสดใสชวนใจละลายอีก

หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปนั่งในแท็กซี่เพื่อเป็นการดึงสติที่กำลังจะ

เคลิบเคลิ้ม ยานพาหนะเคลื่อนออกไป เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง คิดว่าเขา

คงจะมองหารถโดยสารคันใหม่ แต่ชายหนุ่มยืนมองรถแท็กซี่ที่เธอนั่งมา

หากไม่เข้าข้างตัวเองเกินไปนักก็รู้ได้ชัดเจน เขามองมายังเธอ

โมริดาร้อนแก้มวูบ นับเป็นเรื่องดีๆ ที่ได้เจอในวันแรกของการ

กลับบ้าน ช่วยบรรเทาอารมณ์หม่นมัวลงได้

 

เมื่อมีโอกาสได้เจอจริงๆ โมริดาก็เห็นด้วยกับคำว่า ‘ไม่เลว’ ของ

เรืองเดชอยู่เหมือนกัน...ชายหนุ่มนามสหหน้าตาหล่อเหลาตามแบบฉบับ

ผู้มีเชื้อสายจีน ดวงตาเรียว ผมตัดสั้น จมูกโด่ง รวมกับใบหน้าขาวนั้น

มีเสน่ห์ชวนมองไม่น้อย

แต่หญิงสาวก็ไม่บันทึกเขาไว้ในสมอง หัวใจ หรือส่วนไหนของความ

คำนึงทั้งสิ้น สิ่งที่เธอคิดมีเพียงข้อเดียวคือ ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้การแต่งงานนี้เกิดขึ้น

เขามากับเสี่ยฉัตรชัยผู้เป็นบิดา ซึ่งเป็นชายวัยหกสิบกลางๆ เจ้าเนื้อ

พูดจาเสียงดังตามประสาเจ้าของธุรกิจผู้ก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่ยังหนุ่ม

ทำให้มีความมั่นใจในตนเอง บวกกับบารมีน่าเคารพ แม้ใบหน้าอิ่มจะดูเป็น

มิตรและอารมณ์ดีก็ตาม

“แบบนี้สหก็อายุมากกว่าหนูโมแค่สองปีเองเนอะ คุยกันง่ายเลย”

ฉัตรชัยพูดเมื่อโมริดาบอกว่าอายุยี่สิบหก “แถมเป็นลูกคนเล็กเหมือนกันอีก”

ขณะที่พูดชายหนุ่มดูจะสนใจอาหารตรงหน้ามากกว่า โมริดาเห็นเขา

แค่ยิ้มให้เธอครั้งแรกที่แนะนำตัวกัน นอกเหนือจากนั้นก็เป็นไปตามมารยาท

ถามคำถามตามสคริปต์ การศึกษา วิชาที่เรียน ไม่ชวนคุยอะไรเป็นพิเศษ

ทำให้เธอหายใจสะดวกกว่าที่คาด ยินดีที่สถานการณ์ออกมาในรูปนี้

แต่เหมือนว่าครอบครัวของทั้งสองฝ่ายจะไม่เห็นงามด้วย เมื่อผู้เป็น

พ่อเริ่มปฏิบัติการด้วยคำเสนอแนะแกมสั่งให้โมริดาพาผู้มาเยือนไปเดินเล่น

เพราะผู้ใหญ่จะคุยเรื่องธุรกิจกัน

หญิงสาวไม่เคยรู้สึกไม่อยากกลับบ้านเท่าครั้งนี้ หากรู้ว่าต้องพบกับ

ความอึดอัดใจ เธอเดินไปตามทางในสวน เพิ่งสังเกตว่ามีการปรับเปลี่ยนใหม่

จากหนล่าสุดที่เธอกลับบ้านมาพอสมควร

“ใครชอบกล้วยไม้ครับ คุณอาหรือพี่เดช” สหถามขึ้น

“คุณพ่อค่ะ” โมริดาตอบและมองตาม กล้วยไม้ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่พ่อ

โปรดปรานมีหนาตาขึ้น ส่วนไม้ประดับจำพวกบอนสีต่างๆ ลดน้อยลง

เธอไม่มีแก่ใจจะคุยเรื่องต้นไม้หรือดินฟ้าอากาศสักเท่าไร ทั้งที่เป็นวันที่

อากาศสดชื่นแจ่มใสมากวันหนึ่ง

โมริดาเหลือบมองชายหนุ่มที่ยืนข้างกัน ถ้าเธอถามความเห็นเรื่อง

การแต่งงานเขาจะตอบว่าอย่างไรนะ พี่ชายบอกว่าเขาเห็นด้วย แต่หญิงสาว

อยากได้ยินจากปากของเจ้าตัวเอง แต่หากว่าคำถามนี้ไปสั่นสะเทือนความ

ตั้งใจของเขา ผลร้ายจะไปตกอยู่ที่การทำธุรกิจหรือเปล่า แล้วเธอจะเป็น

ฝ่ายโดนพิพากษาเสียเองหรือไม่ “คุณโมครับ” “คะ” เธอเกือบสะดุ้ง หลังจากบทสนทนาจบที่เรื่องการทำงาน และ อยู่ดีๆ เขาก็เอ่ยขึ้นเสียงดังกว่าปกติ

“เข้าไปข้างในกันเถอะครับ”

จบคำพูดก็มีรอยยิ้ม โมริดากะพริบตาปริบอย่างงงงัน แต่ก็พยักหน้า

และเดินกลับเข้าไปในตัวบ้านดังเดิม อะไรกันที่มันขาดหายไปยามหญิงชาย

อยู่ตามลำพัง ไม่มีกลิ่นหอมสดชื่นของมิตรภาพใหม่ๆ หรือวาบหวิวใจ

หากเคมีตรงกัน ไม่มีสักอย่าง แถมเธอยังเป็นฝ่ายถูกตัดบท ขนาดเป็น

หญิงเอเชียตัวเล็กหุ่นบางยังมีฝรั่งมาขอเดตอยู่บ้างเหมือนกัน

ผิดกับชายที่สนามบินคนนั้น

ไม่รู้เพราะอะไรพอคิดถึงรอยยิ้มนั้นโมริดาก็ร้อนวูบ ขำตัวเอง ผ่าน

มาหลายวันยังจำใบหน้าเขาได้ เขาไม่หล่อจัดราวเทพบุตร แค่รูปหน้าคม

ได้สัดส่วนและสะอาด ส่วนรอยยิ้มนั้นเหมือนไฟที่ทำให้โลกสว่าง เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือล้น

หญิงสาวส่ายหน้า ยังจะคิดไม่เลิกอีกโมริดา เรื่องตรงหน้ายังจัดการไม่ได้เลย

 

ที่คฤหาสน์ตระกูลลิ่วประดิษฐ์ มีบทสนทนาเกิดขึ้นที่ห้องนั่งเล่น

ระหว่างฉัตรชัย ประมุขของครอบครัว กับผู้เป็นบิดาของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ก่อนหน้า

“เป็นไงบ้าง” บิดาถาม

“อะไรเป็นไง” ลูกชายถามกลับ

“ก็หนูโมริดานั่นไง เป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่กลับมานี่เงียบเลยนะ ป๊ารอ

ให้แกพูดแกก็ไม่พูด เลยต้องถามนี่ไง” ฉัตรชัยชักสีหน้าให้ความไม่ได้ดั่งใจของลูกชาย

“ก็ดี” สหตอบง่ายๆ มือถือโทรศัพท์ มองหน้าจอด้วยดวงตาเป็นประกาย

“แค่นี้น่ะเหรอ พูดให้มันยาวๆ กว่านี้หน่อยสิ” บิดานั่งลงบนโซฟา

พร้อมตบขาลูกชายเรียกความตั้งใจ ทำท่ากระตือรือร้นที่จะฟัง

สหถอนหายใจแล้วมองหน้าคู่สนทนา “นี่เธอไปเรียนเมืองนอกมาแน่เหรอ คุณโมเนี่ย”

“ทำไม”

“เรียบร้อยไป” ชายหนุ่มตอบง่ายๆ

“อ้าว...แล้วไม่ดีหรือไงวะ เรียบร้อยก็ดีแล้วนี่”

สหหรี่ตา มองโทรศัพท์มือถือแล้วยิ้มมุมปากให้ข้อความที่ปรากฏ

ฉัตรชัยเคืองนัก แต่พยายามระงับอารมณ์ไม่ให้การสนทนานี้จบลงด้วยการไม่ได้อะไรเลย

“ไม่ใช่สเปก”

ฉัตรชัยอ้าปากแล้วหุบ ยกมือชี้นิ้วเหมือนกำลังจะพูดอะไร ก่อนจะ

ลดมือลงแล้วเป่าปากให้แก่เหตุผลนั้น

“สเปกแกน่ะ ฉันไม่เอาด้วยนะ ประเภทเปรี้ยวเข็ดฟัน เปิดบนเปิดล่าง

ยังไงก็ไม่เอา หนูโมริดาดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องปฏิเสธนะ ตกลงตามนี้”

“เตี่ย” ชายหนุ่มลากเสียง “ก็ผมไม่ชอบนี่นา ผู้หญิงเปรี้ยวไม่ดีตรงไหน”

“แค่ควงเล่นๆ ละก็ได้ แต่จะเอามาเป็นแม่ของลูกไม่ได้ หลานฉันทั้งคน”

สหกลอกตา นี่คิดล่วงหน้าไปถึงขั้นหลานแล้วเชียว ให้ตายเถอะ

“เตี่ย ไม่มีอะไรมารับรองหรอกว่าผู้หญิงเปรี้ยวจะเป็นแม่ที่ดีไม่ได้

หรือผู้หญิงที่ก่อนแต่งเรียบร้อยแล้วจะเป็นคนดีเสมอไป มาแรดเอาตอนหลัง

ก็เยอะแยะ เตี่ยอย่าใจแคบเลย ผมไม่ชอบถูกบังคับ”

“ฉันไม่ได้บังคับ ฉันคิดดีแล้ว ไหนแกบอกว่าให้แต่งก็แต่งไง อย่ามา

โยกโย้ผิดคำพูดตอนนี้ ฉันไม่ยอม”

อีกฝ่ายเป่าปาก “ก็ใช่ ผมพูดแบบนั้น แต่...นั่นมันก่อนเจอตัวจริงนี่นา”

เขาบ่นอุบ “เอาจริงๆ นะ ถ้าเตี่ยยืนยันจะให้ผมแต่งกับคุณโมริดา ก็ได้ผมแต่ง...”

ฉัตรชัยตาวาว

“แต่บอกเลย ผมจะมีกิ๊กแน่นอน”

“ไอ้...”

              (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

ทางเลือกของโมริดา...มีเพียงการเดินไปตามหมากของเขาเท่านั้นหรือ 
ส่วนขจาริน...แม้รู้ว่าเป็นการกระตุกหนวดเสือ แต่ถ้าได้ลูกเสือแสนงามมาครอง ก็แสนจะคุ้มค่า 
ผู้หญิงตาสวย ผมยาว ซึ่งขจารินเจอที่สนามบินทำให้เขาชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น 
และไม่คิดว่าจะบังเอิญได้เจอกันอีกในสถานะที่เขาเป็นพลเมืองดี ช่วยเธอจากการถูกผู้ชายอีกคนล่วงเกิน 
เขาน่าจะสานสัมพันธ์กับเธอไม่ยาก หากเธอไม่ใช่ลูกสาวของคู่แข่งทางธุรกิจ 
แต่เมื่อโอกาสมาถึง ขจารินผู้ไม่เคยแพ้ใครมีหรือจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป 
แผนการรักซ่อนเล่ห์จึงเริ่มขึ้น 
และกว่าโมริดาจะรู้ว่าผู้ชายแสนดี อบอุ่น ที่ช่วยเธอไว้มีเหลี่ยมซ่อนอยู่ 
หัวใจเธอก็ถลำลึกจนยากจะถอนตัว 

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024