บ้านไร่ปลายฝัน : ดวงใจอัคนี (ซ่อนกลิ่น)
ประหยัด: 195.00 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
ดวงใจอัคนี
เสียงกระหึ่มดังกึกก้องไปทั่วสนามแข่งเมื่อรถเอทีวี กลุ่มหนึ่ง
บดบี้กันบนลู่แข่งอย่างสูสี ต่างไม่มีใครยอมใคร เพราะทุกคนทุกคันล้วน
เอาศักดิ์ศรีของฟาร์มตัวเองเป็นประกัน ในการแข่งขันเอทีวีประจำปีของอำเภอ
เมื่อถึงช่วงทางโค้ง ล้อขนาดยี่สิบสี่นิ้ววงบดเบียดกับพื้นถนน
ที่เป็นเพียงลูกรังจนฝุ่นฟุ้งกระจายไปหมด อัคนีกดคันเร่งนำเอทีวีสีแดงเพลิง
ของเขาแล่นตัดปาดหน้าเอทีวีสีดำซึ่งกำลังนำอยู่ในขณะนี้หมายจะแซงในช่วง
ทางโค้ง
แต่ผู้ขับขี่เอทีวีสีดำก็ฝีมือดีกว่าที่เขาคิด รถคันนั้นเบี่ยงตัวหลบ ก่อน
จะกดคันเร่งนำเครื่องยนต์ขนาดสองร้อยหกสิบซีซี แซงเขากลับขึ้นไปอย่าง
รวดเร็ว อัคนีขบฟันอย่างโกรธจัด เขากดคันเร่งตามไปอย่างกระชั้นชิดในทันที
การเบี่ยงตัวหลบอย่างกะทันหันของเอทีวีสีดำนี้เองมีผลทำให้รถเอทีวี
คันหนึ่งที่ตามมาติด ๆ เสียหลัก ก่อนที่จะหมุนคว้างอย่างสะเปะสะปะจน
ทำให้รถคันอื่น ๆ ที่ตามมาชนกันระเนระนาด ทุกคันล้มหงาย พลิกคว่ำ ผู้ขับขี่
ต่างเกลื่อนกลิ้งอยู่บนพื้น ร้องโอดโอยไปตาม ๆ กัน
กองเชียร์ต่างเฮกันลั่นด้วยความสะใจที่เห็นอุบัติเหตุอันเป็นสิ่งปกติ
ธรรมดาในการแข่งความเร็ว และเมื่อพวกเขาเหลือบไปเห็นรถเอทีวีสอคันที่
หลุดรอดจากอุบัติเหตุมาได้ พวกเขาต่างก็โห่ร้องแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเชียร์ให้กำลังใจ
กันจนเสียงกระหึ่มยิ่งกว่าเดิม
ด้วยเอทีวีสีแดงและสีดำนั้น ทุกคนในอำเภอต่างรู้กันดีว่ามาฟาร์ม
สองแห่งนี้เป็นอริกันชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นน้ำกับน้ำมันเลยทีเดียว แม้ว่าทั้งสอง
ฟาร์มจะมีพื้นที่ติดกันก็ตาม แต่ความบาดหมางระหว่างสองตระกูลก็เป็นที่
เลื่องลื่ออย่างมากในละแวกนี้
อัคนีนำเอทีวีแดงไล่ล่าเอทีวีสีดำอย่างเอาเป็นเอาตาย ชุดแข่งของเขา
เป็นสีแดงเพลิงเหมือนกับตัวรถ อันเป็นสีที่โปรดปราน ส่วนหมวกกันน็อกนั้น
ถึงจะมีสีดำ แต่ก็มีรูปเปลวเพลิงเป็นทางยาวจากปลายตาไปจนถึงด้านหลัง ทำให้
ดูเหมือนลูกไฟดวงใหญ่ที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วยามเมื่อรถขับเคลื่อน
ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นแชมป์รุ่นสองร้อยหกสิบซีซีสองสมัยซ้อน
ที่อัคนีได้มาครอบครองตั้งแต่กลับมารับงานที่ฟาร์ม หลังจากไปเรียนต่อที่
สหรัฐอเมริกาอยู่หลายปี ประกอบกับการเป็นคู่แข่งทั้งทางด้านธุรกิจและ
ความรักระหว่างเขากับเจ้าของรถสีดำคันนั้นก็ยิ่งทำให้เขายอมแพ้ไม่ได้
ในการแข่งขันครั้งนี้ ทั้งคู่ต่างเป็นตัวเต็งที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นผู้ชนะ
ในแบบที่เรียกได้ว่าราคาต่อรองสูสีกันมากเลยทีเดียว เมื่อเหลือเพียงสองคน
ผู้ชมบนอัฒจันทร์จึงเริ่มพนันขันต่อกันอย่างคึกคักกว่าเดิมว่าฝ่ายใดจะเป็น
ฝ่ายชนะกันแน่
อัคนีรู้สึกหงุดหงิดใจ เพราะครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เขาขับตามหลังรถ
คันอื่นหลังจากเหลือระยะทางในการแข่งขันเพียงรอบเดียว ชายหนุ่มมอง
แผ่นหลังของคู่ต่อสู้ราวกับสัตว์ร้ายจ้องตะปบเหยื่อ ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเก่งกาจมา
จากไหน คนอย่างอัคนีก็จะไม่ยอมแพ้เป็นอันขาด
ผู้ขับขี่เอทีวีคันสีดำหันกลับไปมองคู่ต่อสู้อย่างระแวดระวัง ชุดแข่งสีขาว
ตัดกับตัวรถเปรอะเลอะไปด้วยโคลนกระมอมกระแมม ยามใดที่คู่ต่อสู้จี้ติด
เข้ามา คันเร่งที่มีตุ้งติ้งตุ๊กตาหมีน้อยน่ารักห้อยอยู่ก็มีอันจะต้องถูกกดให้รถทิ้ง
ระยะห่างออกไปอีก
การขับเคี่ยวเป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิง ทั้งคู่ไล่ล่ากันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ราวกับโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน เมื่อรถเลี้ยวโค้งเข้ามาสู่เส้นทางที่เกิด
อุบัติเหตุเมื่อสักครู่นี้ เอทีวีสีแดงเพลิงก็กดคันเร่งหมายจะแซงทางโค้งอีกครั้ง
และครั้งนี้เขาทำสำเร็จ...
อัคนีสามารถนำเอทีวีของเขาพุ่งทะยานผ่านคู่ต่อสู้ไปอย่างเฉียดฉิวจน
หวุดหวิดจะเกี่ยวกันพลิกคว่ำไปอีกระลอก
นั่นทำให้ผู้ขับขี่เอทีวีสำดำออกอาการฉุนเฉียวอย่างเห็นได้ชัดที่เสียท่า
โดนแซงไปอย่างนั้น คราวนี้ถึงเวลาที่จะต้องพิสูจน์ฝีมือในการบดบี้ไล่ตามคู่ต่อสู้
เสียแล้ว และจะต้องทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการแข่งขันนั้นเหลือระยะ
ทางอยู่เพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น
อัคนีกดคันเร่งด้วยความกระหยิ่มใจ เขามั่นใจในพลังเครื่องยนต์ที่ปรับ
แต่งมาอย่างดีของเขา และถ้าหากลองได้แซงนำอย่างนี้ละก็ ใครก็อย่าหวังว่า
จะสามารถแซงกลับขึ้นมานำเขาได้อีก โดยเฉพาะรถเอทีวีสีดำคันนั้น
“ข้าไม่ยอมแพ้เอ็งหรอกนะ ไอ้เจ้าศิลา” อัคนีขบฟันแน่น มองเห็นชัยชนะ
อยู่ตรงหน้า ห่างออกไปไม่ถึงห้าสิบเมตร
เสียงเชียร์ผสมกับเสียงโห่ร้องด่าทอผสมปนเปกันไปหมดเมื่ออัคนีขับ
เอทีวีคู่ใจใกล้จะถึงเส้นชัยอยู่รอมร่อ เขาหันไปทางกลุ่มกองเชียร์ของคู่ต่อสู้
หมายจะเยาะเย้ยใครบางคนในกลุ่มนั้น แต่ทว่าสายตาอันคมกริบของเขากลับ
บังเอิญเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งบนอัฒจันทร์ ใบหน้ารกครึ้มเต็มไปด้วย
หนวดเคราอย่างคุ้นเคยนั้นทำให้เขาตกตะลึงจนถึงกับคลายคันเร่ง
“ไอ้ศิลา” อัคนีร้องออกมา มองคู่แข่งคนสำคัญของเขาที่กำลังเชียร์อย่าง
เมามันอยู่บนอัฒจันทร์อย่างตกตะลึง มือข้างขวาของศิลามีเฝือกห้อยคล้องอยู่
กับคอ
‘ไอ้ศิลาบาดเจ็บ’ เขารำพึงอยู่ในใจอย่างไม่เชื่อสายตา
...แล้วไอ้คนที่ตามหลังมานี่มันใครกัน...
ช่วงจังหวะที่เสียสมาธินั้นเอง รถเอทีวีสีดำก็แล่นฉิวแซงเขาไป กว่าอัคนี
จะตั้งสติได้ เขาก็ถูกทิ้งห่างไปเกือบช่วงตัวเสียแล้ว
ชายหนุ่มดึงสติกกลับมาแล้วกดคันเร่งจนสุดมือ เครื่องยนต์กระหึ่มฟ้องว่า
มันทำงานได้อย่างถึงที่สุดแล้ว และมันก็ไม่อาจจะตอบสนองความมุ่นมั่นของ
อัคนีได้อีก
เอทีวีสีดำแล่นผ่านเส้นชัยก่อนแชมป์สองสมัยอย่างอัคนีในวินาทีนั้น
นั่นเอง
ชายหนุ่มปล่อยคันเร่งของเขาด้วยความตกตะลึง เอทีวีสีแดงเพลิงแล่น
ผ่านเส้นชัยด้วยแรงเฉื่อยที่ยังคงเหลืออยู่ ก่อนที่มันจะไปจอดต่อท้ายผู้ที่ได้รับ
ชัยชนะ
ตอนนี้เองที่อัคนีเพิ่งจะสังเกตว่าคู่ต่อสู้ของเขามีรูปร่างเล็กเกินกว่าที่
จะเป็นศิลา คู่ปรับคนสำคัญไปได้ ชายหนุ่มมองผู้ขับขี่ที่อยู่ในชุดสีขาวกระมอม
กระแมมอย่างคาดหวังว่าจะไม่ใช่คนที่เขาคิด
แต่ความจริงก็คือความจริง
ร่างในชุดสีขาวก้าวลงจากรถ ก่อนจะถอดหมวกกันน็อกออก ผมสี
น้ำตาลแดงหลุดร่วงสยายลงมาระเรี่ยแผ่นหลัง ไปหารูปไข่เกลี้ยงเกลาหันมา
ดวงตาคมที่ล้อมด้วยขนตายาวหนาของเธอปรายมามองอัคนีด้วยห่างตา มุมปาก
ยกยิ้มเล็กน้อยอย่างเย้ยหยัน
“จี๊ด” อัคนีขบฟันเรียกชื่อของของเธอด้วยความคาดไม่ถึง
ที่แท้คู่แข่งที่บดเบียดกันมาในสนามกับเขาก็คืออัจจิมา หรือที่ใครต่อใคร
รู้จักกันในชื่อจี๊ด เธอเป็นบุตรสาวคนเดียวของพิศาล เจ้าของฟาร์มพศวัตซึ่งเป็น
ฟาร์มคู่แข่งกับฟาร์มอดิศรรังสรรค์ของครอบครัวของเขามาแต่ไหนแต่ไร ความ
ไม่ลงร้อยในด้านธุรกิจส่งผลมาถึงเขากับอัจจิมา และรวมไปถึงพี่ชายของเธอ
ซึ่งก็คือศิลานั่นเอง
ชั่ววินาทีต่อมา คู่อริตัวฉกาจของอัคนีก็พาพรรคพวกแห่กันเข้ามารุมล้อม
แสดงความดีใจต่อชัยชนะของอัจจิมา เสียงไชโยโห่ร้องของพวกพศวัตดัง
กระหึ่มสะท้านเข้าไปถึงขั้วหัวใจของอัคนี มือของเขากำแน่นด้วยความอับอาย
อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ไอ้เรื่องความพ่ายแพ้ทางการกีฬาก็พอทำเนา เขายังพอทำใจยอมรับได้
แต่ครั้งนี้ ผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาดันมาแพ้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างอัจจิมา มัน
ช่างเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นคนของฝั่งอศิศวรรังสรรค์ก็วิ่งเข้ามาหาอัคนีซึ่งกำลังยืนตัวสั่น
อยู่อย่างเดียวดาย ในจำนวนนั้นมีปฐพีหรือดิน และวายุภัคหรือลม พี่น้อง
ฝาแฝดของเขารวมอยู่ด้วย
แต่ความจริงแล้วอัคนีไม่ได้มีเพียงแค่พี่น้องฝาแฝดชายสองคนนี้
เท่านั้น หากยังมีน้องนุชสุดท้องซึ่งเป็นสาวงามอยู่อีกหนึ่งคน นั่นคือทิพย์ธารา
หญิงสาวที่เหล่าผู้ชายรวมหัวกันตั้งให้เป็นน้องคนสุดท้อง แม้จะเกิดห่างกันไม่
กี่นาทีก็ตาม
ทิพย์ธารานั้นได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายภูวเนศ องค์รัชทายาทแห่ง
ประเทศปารวัตรไปเมื่อต้นไปที่ผ่านมา วันนี้เธอจึงไม่ได้มาร่วมเชียร์อัคนีในการ
แข่งขันครั้งนี้ด้วย ถึงแม้ตอนนี้จะพาลูกชายอายุสี่เดือนกลับมาเยี่ยมบ้านก็ตามที
แต่เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นจึงถูกเหล่าองครักษ์ทัดทาน
ไม่ให้มาเชียร์ที่สนมตามที่ต้องการ
“นาย” ชายหนุ่มคนหนึ่งร้อยเรียกอัคนีอย่างเทิดทูน “นั่นมันคุณจี๊ดนี่ครับ”
“เออ” อัคนีตอบห้วน ๆ ก่อนจะหันมาส่งสายตารำคาญใจให้ชายหนุ่ม
ท่าทางเก้งก้างกับยีนเก่า ๆ และเสื้อเชิ้ตลายสก็อตที่เขาคิดว่าเท่สุด ๆ ด้วยการ
ติดกระดุมทุกเม็ดที่มีอยู่
“เป็นไปได้ยังไงครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอีกอย่างงุนงง
“อะไรของเอ็งวะ...ไอ้ศักดิ์” อัคนีถามอย่างหงุดหงิด
“ก็นายแพ้ผู้หญิง” ศักดิ์ตอบพาชื่อ
เท่านั้นเอง อัคนีก็หันไปมองศักดิ์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อจนเจ้าตัว
ถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะแยกตัวออกจากพวกพ้องแล้วเดินดุ่ม ๆ ไปหาคู่ต่อสู้ด้วย
อารมณ์ฉุนเฉียว
“เจ้าไฟ” ปฐพีตะโกนเรียกเมื่อเห็นท่าทางปึงปังของน้องชาย “นั่นจะไป
ไหนวะ”
“ตามไปดีกว่า” วายุภัค แฝดอีกคนร้องบอก เพราะหากให้เจ้าน้องชาย
เลือดร้อนตะลุยเข้าไปในกลุ่มคู่อริเช่นนี้คงจะเกิดเรื่องใหญ่แน่ ๆ ว่าแล้วเขาก็ออก
วิ่งตามไปอย่างรวดเร็วเป็นคนแรกราวกับลมพัดสมชื่อ
จากนั้นทุกคนในฟาร์มอดิศวรรังสรรค์ที่มาเชียร์การแข่งครั้งนี้ก็แห่ตาม
กันไปจนหมด คงเหลือแต่ศักดิ์ที่ยืนมองตามไปอย่างตัดสินใจไม่ถูก
“เฮ้ย...ไอ้ศิลา” อัคนีตะโกนเรียกเมื่อเข้าไปใกล้
ชายหนุ่มร่างกำยำ ผิวคล้ามแดด ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา ดูท่าทาง
เหี้ยมเกรียมแหวกฝูงชนออกมายืนประจันหน้ากับอัคนี แขนของเขาถูกพันด้วย
เฝือกพาดกับเชือกที่คล้องคออยู่ เนื่องจากตกบนไดแขนหักเมื่อเช้าก่อนที่จะลง
แข่ง
“อะไรวะไอ้ไฟ”
“เอ็งกลัวข้าหรือไง ทำไมไม่ลงแข่ง” อัคนีชี้หน้า ตะเบ็งเสียงอย่างดุดัน
“อ้าวเฮ้ย ใครกลัวเอ็งวะ” ศิลาพุ่งเข้าเอาไหล่ข้างที่ไม่เจ็บกระแทกหน้าอก
ของคู่อริ “ไอ้ขี้แพ้”
“ไอ้...” อัคนีทำท่าจะพุ่งหมัดใส่ แต่พี่ ๆ ของเขากลับมายื้อยุดเอาไว้เสีย
ก่อน
“ใจเย็น ๆ สิวะไอ้ไฟ” วายุภัคร้องเตือนขณะที่ออกแรงสุดฤทธิ์เพื่อ
ยับยั้งน้องชายเอาไว้
“นั่นซี้…” ศิลาลากเสียงยาว ทำคอเอียง ตีสีหน้ายั่วอารมณ์ เพราะรู้จัดอ่อน
ของอัคนีดี “อย่างนี้มันเรียกว่าขี้แพ้ชวน ‘ตีน’ นี่หว่า”
“เอ็งว่าอะไร” อัคนีฮึดฮัด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะพี่ชายทั้งสองซึ่ง
รูปร่างใหญ่พอฟัดพอเหวี่ยงกับเขาโอบรัดพันธนาการอยู่
“ใจเย็น ๆ เว้ยไอ้ไฟ” ปฐพีปรามเสียงสั่น เพราะถึงแม้จะตัวพอ ๆ กัน
แต่อัคนีก็มีแรงเยอะกว่าเขากับวายุภัคซึ่งไม่ได้ทำงานในฟาร์มอย่างสมบุกสมบัน
เท่า
ในระหว่างความวุ่นวายนั้นเอง เสียงหวานใสก็ดังออกมาจากฝูงชน
“พี่ศิลาก็ว่านายขี้แพ้น่ะสิ”
แล้วหญิงสาวในชุดแข่งรถสีขาวกระมอมกระแมมผู้ซึ่งกำชัยชนะในวันนี้
ก็แหวกม่านมนุษย์ออกมายืนแถวหน้าข้าง ๆ พี่ชาย
“จี๊ด” ชายหนุ่มขบฟันมองอย่างอดกลั้น
หญิงสาวกอดอก ก่อนจะยิ้มเยาะ “แกมยังแพ้ผู้หญิงที่นายเคยดูถูกเอาไว้
อีกต่างหาก”
อัคนีได้แต่อดกลั้นอารมณ์ไว้ กำหมัดแน่นเพื่อข่มจิตใจตัวเอง เพราะถึง
แม้เขาจะเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน แม้ว่าผู้หญิง
คนนั้นจะเป็นคู่แข่งในทุก ๆ ด้านของเขามาตลอดก็ตาม
“เราไปกันเถอะ...พี่ศิลา” หญิงสาวคล้องแขนพี่ชาย ก่อนจะหันมาเอียง
คอยักไหล่ใส่คู่ปรับ “อย่าไปยุ่งกับคนขี้แพ้เลย”
“โธ่โว้ย” อัคนีโพล่งออกไปด้วยความเดือดดาลเพราะไม่มีที่ปลดปล่อย
แถมยังถูกพวกพี่ ๆ จับตัวเอาไว้อีกต่างหาก
ท่าทางดิ้นรนของเขาทำให้สองพี่น้องคู่อริยิ้มเยาะใส่อย่างผู้มีชัย ก่อนที่
ทั้งคู่จะพาสมัครพรรคพวกเดินจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะดังก้องสะท้อนโสต
ประสาทของอัคนีอย่างยั่วยวน
“ปล่อยได้แล้ว” ชายหนุ่มกัดฟันร้องบอก
“เออ ๆ” ปฐพีและวายุภัคจึงค่อย ๆ คลายมือออก “อย่าตามไปหาเรื่องเขา
อีกล่ะ”
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)
รายละเอียด
"...ไฟแผดเผาทุกอย่าง แม้กระทั่งหัวใจของตนเอง..."
เหตุจากความบาดหมางของ 2 ตระกูลที่ถ่ายทอด และปลูกฝังจากรุ่นพ่อมาสู่รุ่นลูก เป็นผลให้ "อัคนี" และ "อัจจิมา" เป็นศัตรูคู่แค้นกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ แต่เมื่อทั้งคู่เข้ามาบริหารฟาร์มโคนมธุรกิจของตนเอง ซึ่งมีเพียงรั้วไม้สีขาวกั้นอาณาเขต การปะทะคารมอย่างรุนแรงจึงเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ ที่โดยแท้จริงแล้ว ภายใต้ท่าทีอันแข็งกร้าวของทั้งสองนั้นซ่อนความห่วงใยซึ่งกันและกันไว้ แต่แล้วเหตุการณ์ต่างๆ ก็นำพาให้ทั้งคู่ได้เผยความรู้สึกที่มีต่อกัน ติดอยู่ที่ปมปัญหาสำคัญ นั่นคือ พ่อของ "อัจจิมา" ที่ไม่ยอมลดทิฐิ เปิดใจยอมรับว่าที่ลูกเขยคนนี้ เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ แล้วอัคนีล่ะจะทำเช่นไร? จะมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้ได้ดวงใจของเขาคืนมา ได้ผู้หญิงที่ตนเองรักมาครอบครอง ขอเชิญผู้อ่านทุกท่านมาร่วมลุ้นและเอาใจช่วย "เขา" และ "เธอ" แล้วรักที่แสนโรแมนติกของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร ติดตามอ่านได้ใน "ดวงใจอัคนี" เล่มนี้
ดวงใจอัคนี คือ 1 ใน 4 ซีรีส์นิยายรัก 'บ้านไร่ปลายฝัน' ได้แก่ 1. ปฐพีเล่ห์รัก 2. ธาราหิมาลัย 3. วายุภัคมนตรา 4. ดวงใจอัคนี
398 หน้า
รีวิว (5)
19/01/2015
นวนิยายชุดบ้านไร่ปลายฝัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับแฝดสี่แห่งบ้านไร่อดิศวรคือ ดิน ลม ไฟ และน้ำ เรื่องราวนอกจากจะเล่าถึงความรักระหว่างพี่น้องและครอบครัวอดิศวรแล้ว ยังกล่าวถึงความรักของแต่ละคนอีกด้วย “ดวงใจอัคนี” ถือเป็นเล่มที่สองสำหรับนิยายชุดนี้ โดยส่วนตัวเราชอบเรื่องนี้ที่สุด ถึงแม้ว่าช่วงต้นของเรื่อง จะดูเหตุผลอ่อน ๆ ไปสักนิดสำหรับเรา แต่ความกวนของนายไฟกับความแสบของยัยจี๊ดก็ทำให้ลืม ๆ ไปได้บ้างเหมือนกัน สำหรับการเดินเรื่องในเล่มนี้ ประเด็นหลักคือความรักของไฟกับจี๊ดที่เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งของสองครอบครัว คือครอบครัวอดิศวรของไฟ และครอบครัวพศวัตของจี๊ด เรียกได้ว่ายากที่สองครอบครัวนี้จะญาติดีกัน แต่เมื่อรักกันแล้ว ทั้งสองคนก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้ ซึ่งอุปสรรคใหญ่สุดก็คือพ่อของจี๊ดนั่นเอง ซึ่งผู้เขียนได้แทรกปมความขัดแย้งของทั้งสองครอบครัวไว้ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ของไฟและจี๊ด ทำให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงความขัดแย้ง และร่วมลุ้นตาม นอกจากนี้ ก็ยังมีตัวละครอื่น ๆ ที่เข้ามาเป็นตัวแปรให้ไฟและจี๊ดเกิดอาการพ่อแง่แม่งอนกันเรื่อย ๆ รวมถึงคอยสร้างอุปสรรคให้ความรักของทั้งสองคนอีกด้วย สำหรับเรื่องนี้ เรียกว่ามีฉากวาบหวิวน้อย แต่ก็มีฉากที่ทำให้อมยิ้มไปกับความน่ารักของไฟและจี๊ดได้ ถึงแม้ว่าไฟจะดูเป็นผู้ชายใจร้อน มุทะลุสมชื่อ แต่ก็มีมุมที่น่ารัก กวน ๆ ตามแบบฉบับของไฟ เรียกว่าอาจจะเป็นผู้ชายที่ตรงกับสเปกสาว ๆ เข้าก็ได้ ยิ่งถ้าใครเคยดูละครมาแล้วนึกภาพตามว่าไฟคือณเดชน์ มีหวังเคลิ้มตามนายไฟแน่นอน
30/11/2014
เป็นนิยายเล่มที่ 2 ในชุด บ้านไร่ปลายฝันที่ชอบที่สุดแล้วค่ะ จนขณะนี้อ่านมาเกิน 10 รอบแล้ว ชอบเนื้อหาที่เกิดในฟาร์มโคนมมากเลย เรื่องนี้พระเอก อัคนี มีหน้าที่ดูแรไร่ ฟาร์มทั้งหมด ยกเว้นแค่ไร่องุ่นค่ะ พระเอกเรื่องนี้ชื่อไฟ นิสัยก็เหมือนไฟ คือใจร้อน พูดไม่คิด นึกจะทำอะไรก็ทำ ซึ่งผลจากการกระทำของเค้าก็เกือบทำให้ไม่ลงเอยกับอัจจิมา เพราะไหนจะปัญหาส่วนตัว ปัญหาเรื่องตระกูลที่พ่อของอัจจิมากับพ่อของเค้าไม่ถูกกันมาตั้งแต่รุ่นหนุ่ม ปัญหากับศิลา พี่ชายของอัจจิมาที่คาราคาซังมาอย่างยาวนาน เพราะศิลาเป็นนักเลงหัวไม้ ปัญหาจากหนุ่มกรุงเทพที่ตั้งใจเข้ามาฮุบกิจจากของพศวัต เยอะมากจริง ๆ ไม่น่าจะลงเอยกันได้ด้วยดีเลย เพราะเหตุนี้ในช่วงท้าย ๆ จึงกลายเป็นแอคชั่นแบบเถื่อน ๆ ค่ะ ซึ่งก็ถูกจริตของฉันมาก แรก ๆ ตีกัน แล้วก็พัฒนามาเป็นตบจูบ กว่าจะลงเอยกันได้ ทั้งพระเอก นางเอกก็บอบช้ำกันไปไม่ใช่น้อย โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบนางเอกค่ะ คิดว่ามีคุณค่าที่ไม่คู่ควรพอ พูดมาก เล่นตัวเยอะ งุ้งงิ้งมากเกินไปถ้าเทียบกับหนุ่มไฟ แต่ที่ชอบมาก ๆ ก็คงจะเป็นการแก้ปัญหาของครอบครัวอดิศวรทุกคนในตอนนี้ค่ะ เพราเรื่องราวเกิดจากความบาดหมางของสองตระกูล เพราะฉะนั้นการพิสูจน์ตัวของไฟอย่างเดียวยังไม่พอที่จะทำให้ทั้งคู่ได้แต่งงานกันแน่ ซึ่งก็จบลงได้อย่างน่ารักและอบอุ่นมากค่ะ อยากมีครอบครัวแบบนี้จัง พี่น้องดูแลกันเองดีมาก พ่อแม่ให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่องเลย
30/09/2014
‘ไฟรักจี๊ด ไฟรักจี๊ด ‘ ประโยคเด็ดที่ทำให้ใครๆก็รู้จักดวงใจอัคนีกันหมด เพราะเป็นหนึ่งในนิยายชุดบ้านไร่ปลายฝันที่ทำไปทำเป็นละครชุดสี่หัวใจแห่งขุนเขา สำหรับเราเราว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนุกที่สุดในเซตบ้านไร่ปลายฝันเลย เพราะตัวละครที่สมจริง เรื่องไม่ยืดเยื้อมาก และมีบทจิกกัดกันพอหอมปากหอมคอและเป็นสีสัน เรื่องราวของไฟกับจี๊ด หนุ่มสาวชาวไร่อย่างแท้จริง ที่ทางบ้านไม่ถูกกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ส่งผลให้รุ่นลูกไม่ถูกกันด้วย จำได้ว่าอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนทำละครตั้งนาน ชอบตอนบททะเลาะกันเป็นเด็กๆของไฟกับจี๊ด ชอบในความแสบ แก่น เซี้ยวเหมือนเด็กผู้ชายในคราบเด็กผู้หญิงของจี๊ด แล้วก็ยังความปากแข็ง ส่วนพระเอกที่เป็นนักเลงตั้งแต่เด็กชอบใช้กำลังก่อนสมอง แถมยังไม่ยอมใคร ทำให้สองหนุ่มสาวเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่สมน้ำสมเนื้อกันมากๆ ด้วยความที่ทางบ้านกีดกันไม่ให้รักกัน เมื่อความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่รู้สึกดีๆต่อกัน ก็ไม่ยอมรับความจริงเอาแต่ปิดบัง เราเชียร์มากๆตอนอ่านว่าเมื่อไรจะยอมรับความจริงกันซักทีว่าพวกแกน่ะรักกัน พอสุดท้ายพระเอกที่ยอมรับก่อนว่าตกหลุมรักศัตรูเข้าอย่างจังจึงต้องออกลูกอ้อนสารพัด ปรึกษาพี่น้องฝาแฝดของตนเองว่าจะเอาชนะใจคนที่ตนเองแอบชอบ และที่บ้านยังไงดี จนในที่สุดก็ได้คู่กัน กตอนหลังเรากลับมาอ่านเรื่องนี้อีกครั้ง แล้วจินตนาการหน้าเป็นณเดชน์กับญาญ่า แล้วยิ่งอินตามไปใหญ่เลย เพราะเวลาที่พระเอกออกอาการหึงนางเอกนี่น่ารักน่าหยิกมากๆ ส่วนนางเอกตอนที่เริ่มรู้แล้วว่ารักพระเอกก็ทำตัวร้ายๆใส่ แต่ร้ายเพราะรักกับร้ายเพราะเกลียดมันต่างกันอยู่นะคะ เรื่องมันเลยออกมาน่ารักแทน
13/07/2014
ผู้เขียน ซ่อนกลิ่น สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ จำนวนหน้าหนังสือ 398 หน้า จริง ๆ ผมจะบอกว่าผมชอบเรื่องนี้ที่สุดในละครครับ ชอบณเดชน์ที่เล่นเป็นพระเอก ผมว่าเค้าเหมาะมาก ชอบบทประพันธ์ ชอบเพลงประกอบละคร และชอบคาแร็กเตอร์พระเอกที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับผมครับ ซึ่งผมก็ได้ไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านต่อจาก "ธาราหิมาลัย" และผมก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ ว่าหนังสือเล่มนี้สนุกที่สุด และเหมือนจะฮาที่สุดด้วยครับ ในละครจะทำออกมาได้น่ารักกว่าในหนังสือมาก แน่ละสิครับ ในหนังสือมันแอบติดเรทนี่นา วึ่งผมเองก็ไม่อยากให้ละครออกมาเหมือนหนังสือมากนัก ซึ่งผมก็ไม่ผิดหวังครับ (ผมย้อนดูไป 3 รอบแล้ว หนังสือก็อ่าน 3 รอบ) หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของ "ไฟ หรืออัคนี " แฝดชายคนสุดท้าย (น้ำ คือแฝดหญิงสุดท้องเลยครับ) กับ "จี๊ด หรืออัจจิมา" ด้วยความที่พ่อของทั้งคู่ไม่ถูกกันมาตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ จึงทำให้เรื่องนี้ถ่ายทอดลงมายังรุ่นลูก ทำให้พระเอกและนางเอกเป็นทั้งคู่กัด คู่แค้น และพัฒนามาเป็นคู่รักทีหลังครับ ซึ่งเหตุการณ์กว่าที่ทั้งคู่จะพัฒนามาเป็นคู่รักก็ทำออกมาได้ค่อนข้างสนุก พระเอกและนางเอกต้องรับมือกับตัวโกงทั้ง 2 คือศิลา และไกรภพ (ที่ผมชอบเป็นพิเศษคือพระเอกดูเป็นฮีโร่มาก เป็นประเภทไม่กลัวตาย ทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่รัก และตัวนางเอกก็ไม่งี่เง่าครับ ฉากที่ต้องกล้าหาญก็แสดงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ) ที่ผมชอบเป็นพิเศษอีกอย่างก็คือคุณพฤกษ์กับน้องมิลค์ แย่งซีนกันได้อย่างน่ารักทีเดียว แต่ก็ยังไม่เท่าซีนหวาน ๆ ของพระนางนะครับ หวานจนผมคิดว่าทำสวนอ้อยมากกว่าทำฟาร์มโคนมเสียอีก (แต่เชื่อผมเถอะ ในละครหวานกว่าเยอะกับฉากแอปเปิ้ล) ที่ต้องลุ้นอีกอย่างคือเรื่องราวความบาดหมางของรุ่นพ่อ ที่ผมยังคิดอยู่ว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้กันได้อย่างไร ก็ทำออกมาได้อย่างน่ารักเช่นกันครับ ซึ่งผมอิจฉาตระกูลนี้อยู่เหมือนกันที่ครอบครัวมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ทุกคนรับความทุกข์ของคนในครอบครัวมาใส่ใจและร่วมแก้ปัญหาไปพร้อม ๆ กัน ตรงนี้ผมก็ให้คะแนนเต็มครับ อ่านแล้วก็รู้สุกประทับใจกับความรักของครอบครัว "อดิศวร" มาก ๆ สรุปว่า ต้องอ่านครับ หนังสือไม่ค่อยเหมือนละครเท่าไร คือในหนังสือฉากแอคชั่นจะมากกว่า พระเอกจะกัดกับนางเอกมากกว่า และพระเอกโหดกว่าครับ ฉากแบบนั้นก็มีอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ไม่เยอะเท่าธาราหิมาลัย และในเรื่องนี้ตอนท้าย ๆ จะมีลูกของทั้งคู่โผล่มาแจมด้วยครับ และหนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของฟาร์มโคนม ถ้าคุณชอบธรรมชาติ หรือสนใจและอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็อยากให้อ่านกันครับ (ตอนผมอ่านจบใหม่ ๆ อยากเรียนเกษตรเลยทีเดียว)
03/09/2013
เรื่องดวงใจอัคนี หนึ่งในนิยายชุดบ้านไร่ปลายฝัน เป็นเล่มที่สองต่อจากธาราหิมาลัย(แต่ไม่เคยอ่านเรื่องธาราหิมาลัยนะ เพราะดูจากละครแล้วเรื่องราวมันดูเว่อๆ ไปสักเล็กน้อย) ซีรี่ชุดนี้หามาอ่านหลังจากที่ได้ดูละครเลยเกิดอยากอ่านขึ้นมา เรื่องดวงใจอัคนี เรื่องนี้ค่อนข้างจะชอบในตัวของพระเอก แต่แอบรำคาญนางเองบ้างเล็กน้อยที่มัวแต่ปากแข็งไม่ยอมรับใจตัวเองสักที อัคนีเล่นลูกตื้อสารพัดกว่าจะชนะใจนางเอกของเราได้ เนื้อเรื่องประมาณว่าไฟกับจี๊ด ไม่ถูกกันเอาซะเลย สืบเนื่องมาจากความบาดหมางของสองตระกูลตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ ทำให้ถูกถ่ายทอดความบาดหมางมาจนถึงรุ่นลูกที่ไม่ถูกกันมาตั้งแต่ยังเด็ก และเมื่อทั้งไฟและจี๊ดโตพอที่จะเข้ามารับช่วงบริหารงานฟาร์มโคนมต่อจากพ่อแม่ ทั้งสองก็ต่างเข้ามาทำงานในฟาร์มโคนมและเป็นคู่แข่งกันตลอดในทุกๆ เรื่อง ๆทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน เจอหน้ากันทีไรไม่ได้กัดกันทุกที(จนบางครั้งแอบคิดว่า เอ่อจะทะเลาะกันบ่อยไปนะ) แต่ก็ด้วยนี่แหละเจอกันบ่อยปะทะกันทุกครั้งที่เห็นหน้า จนวันหนึ่งทั้งสองคนต้องไปงานแต่งานของเพื่อที่ต่างจังหวัด บังเอิญเป็นงานเดียวกันซะด้วยและด้วยงานเลี้ยงฉลองแต่งงานเป็นเหตุทำให้ทั้งสองคนดื่มหนัก เมาแบบไม่มีสติ จึงเกิดได้เสียกันขึ้น เอาล่ะยุ่งแล้วทีนี้ทั้งที่เกียจกันมากแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นจะทำอย่างไร จี๊ดเสียใจมากแต่ไฟก็ยินดีจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงเริ่มเปลี่ยนไป จากความเกียจชังกลายมาเป็นความรักที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ แต่อุปสรรคในความรักนี่สิที่มันช่างเยอะแยะมากมายเหลือเกิน กว่าจะได้รักกัน เค้าโครงเรื่องก็ไม่ค่อยต่างจากนิยายทั่วไปที่มีความบาดหมางของสองตระกูลเป็นรักต้องห้าม ไม่มีทางรักกันได้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายแล้วตอนจบก็ HAPPY จริงๆ ถ่ายทอดออกมาเป็นละครแล้วสนุกมากแต่ว่านิยายอ่านแล้วก็เฉยๆ นะคะ สนุกมั้ยก็สนุก แต่สนุกแบบธรรมดา ชอบตัวละครไฟนะคะเพราะว่าดูตรง จริงจังดี แต่หลายคนอาจจะไม่ชอบที่พระเอกของเราใจร้อนเกินไปไม่ค่อยมีเหตุผล แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่าก็ตรงกับชื่อดี คือไฟ แต่ไม่ค่อยชอบตัวนางเอกเท่าไหร่ (ภาษาชาวบ้านอาจจะคิดว่าเล่นตัวจนน่าลำคาญ ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ นะคะ ^^) เรื่องนี้เป็นละครสนุกที่สุด แต่นิยายอ่านแล้วสนุกน้อยที่สุดในบรรดา 4 เรื่อง เรื่องนี้ออกแนวหวาน คนที่สอบอ่านแบบตบจูบ ก็คิดว่าโอเคค่ะ เรื่องนี้ซ่อนกลิ่นก็เขียนออกมาได้น่ารักดี ภาษาก็ลื่นไหลดีค่ะ แต่เราชอบอีก 2 เรื่องหลังมากว่า