มนตร์มือมาร (ชมจันทร์)

มนตร์มือมาร (ชมจันทร์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160008216
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 240.00 บาท 60.00 บาท
ประหยัด: 180.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 ถึงเวลาที่หนูต้องกู้เรือคืนมาแล้วสินะคะ’

ชมพูนิษฐ์ การัณยภาส นั่งมองใบหน้ายามหลับของบิดาด้วยแววตา

ที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น เธอยังมีความหวัง ตราบเท่าที่ยังจดจำคำสอนของ

ผู้เป็นพ่อในวันที่ท่านสละตำแหน่ง ‘กรรมการผู้บริหารบริษัทสวนสนุก

สุขสยาม จำกัด’ ให้แก่เธอเมื่อสองเดือนก่อนจะเกิดเรื่องขึ้นได้

‘การลงทุนทำธุรกิจ มันก็เหมือนการที่เราออกเรือไปทำประมงนั่นละ

ถึงจะมีคำเตือนจากกรมอุตุฯ แต่เราก็ไม่มีทางหยั่งรู้ทะเลเบื้องหน้าได้อยู่ดี

หลายครั้งที่มันไม่มีวี่แววว่าจะเกิดมรสุมให้เราได้ทันไหวตัว จะรู้ก็ต่อเมื่อ

เราตกอยู่ท่ามกลางความบ้าคลั่งของฟ้าฝนและลมพายุที่โหมกระหน่ำ

ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เรือของเราโยกไหวโงนเงนแทบอับปาง แต่ในวินาทีต่อมา

เรากลับพบปาฏิหาริย์ว่าผืนน้ำนั้นนิ่งสงบเหมือนไม่เคยพบมรสุมใดๆ มาก่อน

ทุกสิ่งมีขึ้น...ก็ต้องมีลง

‘จำไว้นะนิด ตราบใดที่เรายังออกเรือ นั่นหมายถึงความเสี่ยงในทุกๆ

เม็ดเงินที่เราลงทุนไป ลูกจะแล่นเรือไปเจอคลื่นลมหรือมรสุมสักกี่ครั้งก็ได้

ตราบใดที่สีของผืนน้ำและแผ่นฟ้ายังเป็นสีครามเหมือนกันอยู่ ลูกก็ยังมี

ความหวังที่จะรอดพ้นจากภัยพิบัติได้เสมอ ขอเพียงอย่างเดียวคืออย่าเจอ

โจรสลัด เพราะมันหมายถึงจุดจบ ลูกจะพบแต่ความสูญเสียสิ้นหวัง ไม่มี

อันตรายอะไรจะทำร้ายเราได้เท่าภัยของมนุษย์ด้วยกันเองอีกแล้ว’

คำพูดทุกคำของท่านยังคงไหลเวียนอยู่ในสายเลือดนักสู้ของเธอ

จริงอย่างที่บิดาเคยพูดไว้ ภัยคุกคามจากมนุษย์นั้นร้ายแรงแสนสาหัส

เหลือคณา โดยเฉพาะภัยที่เกิดจากความละโมบของมนุษย์จำพวก ‘ปาก

ปราศรัย น้ำใจเชือดคอ’ ที่อยู่ใกล้ตัว เพราะกว่าจะรู้ซึ้งถึงธาตุแท้ในจิตใจ

โสมมของคนชั่วในคราบคนดี มันก็ทำร้ายบิดาเธอจนบาดเจ็บปางตายเสียแล้ว

ชลัช การัณยภาส...ชื่อนี้เป็นชื่อที่ใครหลายคนเคยให้ความสนใจ

และจดจำ เหมือนกับสวนสนุกสุขสยามที่เคยเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ

ในวันหยุดสุดสัปดาห์ของทุกครอบครัว แต่เมื่อกาลเวลาผันแปร ทุกสิ่ง

รอบกายก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ต่างกับเวลาภายในสถานที่แห่งนี้ที่ยังคง

หยุดไว้เหมือนตอนแรกเริ่ม

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย บิดาของเธอก็ไม่เคยคิดจะพลิกฟื้นผืนดิน

แห่งนี้ให้กลายเป็นแหล่งแสวงหากำไรเหมือนพวกพ่อค้าหน้าเลือด แต่กลับ

ยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะสร้างรอยยิ้มแห่งความสุข ความทรงจำ และ

ความฝัน ให้อยู่คู่กับเด็กๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้สวนสนุกสุขสยามยังคง

ความเป็นตัวตนไว้ โดยไม่มีเครื่องเล่นทันสมัยที่สร้างความตื่นเต้น

หวาดเสียวระทึกขวัญเหมือนอย่างที่สวนสนุกเกิดใหม่มักชอบหยิบยกมา

ประชันกัน เพราะท่านคิดว่าสิ่งเหล่านั้นไม่เหมาะกับเด็กไร้เดียงสา จึงพยายาม

ถนอมจินตนาการของเด็กน้อยไม่ให้แปดเปื้อนหรือเคลือบแฝงไว้ซึ่งความรุนแรง

ช่วงแรกของการเปิดกิจการเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและใบหน้า

เปื้อนยิ้มของผู้คน ทำให้สวนสนุกแห่งนี้เฟื่องฟูเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว

แม้ในช่วงสิบปีต่อมาจะเริ่มมีคู่แข่งบ้าง แต่ก็ไม่ได้กระทบกับกิจการมากนัก

กระทั่งปีที่ยี่สิบผ่านไป บรรดาลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรก็เริ่มลดน้อย

ถอยลง สุขสยามไม่ได้รับความสนใจเหมือนที่เคย เพราะเทคโนโลยีล้ำสมัย

ที่หลั่งไหลเข้ามาทำให้คนตื่นตาตื่นใจ พากันผละจากของเก่าล้าสมัยเดินไป

สู่ยุคโลกาภิวัตน์ สุขสยามจึงถึงช่วงที่กำลังเดินถอยหลังตกต่ำ จนบิดาของ

เธอต้องหาหุ้นส่วนมาช่วยกันคิดช่วยกันทำ และเขาคนนั้นก็คือ...นายไพศาล กิจสุพัฒน์

แต่อุดมการณ์มักเดินสวนทางกับกิเลสตัณหา บิดาที่เคยเป็นกัปตัน

บังคับหัวเรือสวนสนุกสุขสยามจึงพบว่าตัวเองมีความคิดขัดแย้งกับเพื่อนรัก

...ในวันที่สายเกินไป

ไพศาลใช้กลโกง หลอกใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจที่บิดาของเธอมีให้

มายักยอกถ่ายโอนทรัพย์สินมีค่าของบริษัทเข้าสู่กระเป๋าตนอย่างง่ายดาย

เขาทำราวกับโจรชั่วที่ปราศจากความเมตตาปรานี ไม่มีความเห็นใจ ไม่เคย

คิดถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นแต่หนหลัง ใครจะอยู่หรือตายบนเรือร้าง

ว่างเปล่าท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำอย่างไร...เขาก็ไม่สน!

กว่าบิดาจะรู้ตัว ก็เป็นตอนที่ฝ่ายนั้นสละเรือถีบหัวส่งหลังจาก

ขนสิ่งของมีค่าจากไปจนแทบไม่เหลือ บิดาของเธอทนแบกรับความผิดหวัง

ไว้ไม่ไหวจนตรอมใจ ตกอยู่ในสภาพเหมือนคนตายทั้งเป็น นอนเป็นท่อนไม้

ไร้ความรู้สึก ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ดังใจอีกต่อไป แม้กระทั่งปาก

ท่านก็ยังสั่งให้มันอ้าออกได้อย่างยากเย็น เหลือเพียงลมหายใจอ่อนระโหย

โรยแรงที่บ่งบอกให้เธอรู้ว่า...ท่านยังปรารถนาที่จะต่อสู้กับความอยุติธรรมบนโลกใบนี้

ดวงตากลมโตวาววับขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องชั่วช้าที่เพื่อนรักของ

บิดาทำไว้ จนเป็นสาเหตุให้ท่านซึ่งเป็นโรคความดันโลหิตสูงอยู่ก่อนแล้ว

ล้มลงอย่างแรง แล้วโจรชั่วก็เดินจากไป ทิ้งให้บิดาของเธอนอนคว่ำหน้า

หมดสติอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งแม่บ้านผ่านมาพบ จึงรีบร้องขอความ

ช่วยเหลือเพื่อนำตัวท่านส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

แม้จะไม่ได้เห็นความเลวร้ายของไพศาลกับตาตัวเอง แต่เพียงแค่

นึกถึงความรู้สึกในวันนั้น...วันที่เธอเฝ้ารอบิดาอยู่หน้าห้องไอซียูด้วย

ความทุรนทุรายราวกับใจจะขาด ดวงตาแข็งกร้าวก็ฉายแววเจ็บปวดรวดร้าวเหลือคณา

ฟ้าช่างไม่ยุติธรรมเสียเลย...

คนเลวได้เสวยสุขอยู่อย่างสุขสบาย มีแต่ได้กับได้เพียงอย่างเดียว

ไม่ต้องรับกรรมที่ก่อไว้ แต่คนดีๆ อย่างบิดาเธอกลับต้องมารับเคราะห์กรรม

แทน ทั้งๆ ที่ท่านไม่ได้เอามีดไปจ่อคอหอยใคร แล้วข่มขู่เรียกเงินร้อยล้าน

เหมือนสิ่งที่นายไพศาลทำเสียหน่อย

เธอจะไม่มีวันให้อภัยคนชั่วคนนั้น!

ชมพูนิษฐ์เม้มปากแน่นด้วยความคับแค้นใจ เธอไม่มีทางลืมใบหน้า

และรอยยิ้มเคลือบยาพิษของคนที่พรากอุดมการณ์ ความหวัง และชีวิตของท่านไปเด็ดขาด

หญิงสาวปฏิญาณกับตัวเองว่าจะต้องทำให้สวนสนุกแห่งนี้กลับมา

เฟื่องฟูอีกครั้งให้ได้ เพื่อล้างแค้นให้บิดา และดับฝันของไพศาลที่ต้องการ

ถือครองที่ดินผืนนี้ต่อจากท่าน เธอจะไม่ยอมปล่อยให้สวนสนุกสุขสยาม

ตกไปอยู่ในมือของคนชั่วเป็นอันขาด ต่อให้เหลือแต่ตัวหรือพบเจออุปสรรค

หนักหนาสาหัสขนาดไหน ต้องถูกดูหมิ่นเหยียดหยามสักเพียงใด เธอก็จะ

สานต่อปณิธานของผู้เป็นพ่อให้สัมฤทธิผล ให้ท่านได้ภาคภูมิใจ เธอจะ

ไม่มีวันท้อถอยหรือยอมแพ้ให้ความยากลำบาก และจะต้องดิ้นรนฟันฝ่า

หาทางรอดจากวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้

ชมพูนิษฐ์ไม่ได้รู้สึกถึงความเคร่งเครียดที่แสดงออกบนใบหน้าของ

ตัวเองเลยสักนิด จนกระทั่งได้เห็นดวงตาที่มีน้ำใสๆ คลอหน่วยจับจ้องมา

ที่เธออย่างอ่อนแรง เธอจึงนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรแสดงความโกรธเกรี้ยวต่อหน้า

คนป่วยซึ่งต้องการกำลังใจ หญิงสาวจึงรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม

แล้วแอบถอนหายใจเมื่อเห็นริ้วรอยความหนักใจปรากฏอยู่บนใบหน้าอารี

หญิงสาวเอื้อมไปจับมือบิดาขึ้นมาแนบแก้ม พลางพูดปลอบท่านอย่างอ่อนโยนว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะคุณพ่อ นิดจะกอบกู้ชื่อเสียงสวนสนุกของเรา

คืนมา วันนี้นิดจะไปเจอคนที่ช่วยเราได้ ถ้านิดสามารถเสนอแผนงาน

ปรับปรุงสวนสนุกของเราให้เขาสนใจได้ละก็ บางที...เราอาจจะได้หุ้นส่วน

คนใหม่ที่มีเงินมากพอจะช่วยกอบกู้กิจการของเราให้กลับมาดีเหมือนเดิมก็ได้นะคะ”

ชมพูนิษฐ์มองบิดาอย่างอ่อนโยน น้ำตาซึมเมื่อเห็นนัยน์ตาอีกฝ่าย

ไหวระริกอย่างรับรู้ ปากที่บิดเบี้ยวเพราะโรคร้ายพยายามคลี่ยิ้มให้เธอ

ทำให้เธออดดีใจไม่ได้ เพราะแม้แต่ในช่วงที่นอนเจ็บอยู่แบบนี้ บิดาก็ยัง

ส่งกำลังใจให้เธอเสมอ แถมเธอเองก็พอจะมีโชคอยู่บ้าง จึงได้เจอเครื่องช่วย

บังคับใบเรือให้แล่นฝ่ามรสุมท่ามกลางมหันตภัยใหญ่หลวงในครั้งนี้ไปได้

เธอไม่ต้องการอะไรมากมาย แค่ขอให้ลูกเรือที่อยู่ในความดูแลของกัปตัน

มือใหม่อย่างเธอปลอดภัย เพียงเท่านี้หญิงสาวก็พอใจแล้ว

หญิงสาวรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาอย่างสุดกลั้น แล้ววาง

แขนบิดาลงตามเดิม เมื่อเหลือบเห็นบานประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงเอ่ยทักแผ่วเบา

“ยังไม่ไปทำงานอีกเหรอนิด” ชิดชนกก้าวเข้ามายืนข้างกาย

“กำลังจะไปอยู่พอดีเลยค่ะพี่นก” เธอลุกขึ้นฝืนยิ้มให้พี่สาว แล้วรีบ

เปลี่ยนเรื่อง หลบสายตาใคร่รู้ของอีกฝ่าย “วันนี้มีอะไรทานบ้างคะ นิดชักจะเริ่มหิวๆ ซะแล้วสิ”

“มีข้าวต้มจ้ะ”

หญิงสาวผู้มีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากชมพูนิษฐ์มากนัก ทว่าดู

สูงวัยกว่านิดหน่อย ส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน จากนั้นก็ก้าวเข้ามายืนข้างหลัง

เธอ พร้อมทั้งยื่นมือมาเกาะกุมไหล่บอบบางทั้งสองข้างไว้อย่างให้กำลังใจ

แกมรู้สึกผิดที่หล่อนไม่สามารถช่วยเหลืออะไรน้องสาวได้เลย คราบน้ำตา

บนแก้มที่ยังไม่แห้งสนิทเป็นหลักฐานบ่งบอกความทุกข์ใจของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี

“เหนื่อยมากไหมนิด มีอะไรก็บอกพี่ได้นะ เผื่อพี่จะช่วยได้บ้าง

ถึงพี่จะไม่ค่อยได้ความเท่าไหร่ก็เถอะ แต่พี่ก็จะพยายามเพื่อน้องของพี่...เพื่อบ้านของเรา”

ความตื้นตันพลันบังเกิดในหัวใจคนฟัง เพียงได้รับความห่วงใยเล็กๆ

จากคนในครอบครัว ก็เปรียบเสมือนมีขุมพลังมหาศาลในกายเธอ มันกำลัง

พวยพุ่งออกมาอย่างท่วมท้น แม้ต้องเจออุปสรรคนานัปการ เธอก็พร้อม

จะฮึดสู้ เพื่อให้ครอบครัวของเธอและบริวารรอดพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้

“พี่นกไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ นิดสู้ไหวค่ะ ขอแค่พี่นกช่วยดูแลคุณพ่อ

ทำกับข้าวให้นิดทานทุกวันแบบนี้ แค่นั้นก็เป็นการเติมพลังให้นิดแล้วละค่ะ”

หญิงสาวแย้มยิ้มเบิกบานเพื่อให้อีกฝ่ายคลายกังวล

“แต่พี่น่าจะเรียนรู้ธุรกิจจากคุณพ่อเหมือนนิด เราจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระไว้คนเดียวแบบนี้”

“นิดแบกไว้คนเดียวที่ไหนกันคะ พี่นกเองก็ต้องดูแลบ้านแทนนิด

เหมือนกัน ไม่เอาค่ะ อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนั้นสิคะ เดี๋ยวแก่ก่อนวัย

ไม่รู้ด้วยนะ” คนพูดใช้นิ้วจิ้มกึ่งกลางระหว่างหัวคิ้วของตนแล้วหัวเราะขัน

ทว่าท่าทางเหล่านั้นก็ไม่สามารถปกปิดสายตาของคนที่โตมาด้วยกัน

ตั้งแต่เล็กเช่นชิดชนกได้ หล่อนถอนหายใจ แล้วดึงร่างของน้องสาวเข้ามากอดอย่างแผ่วเบา

“อย่าปิดบังพี่เลยนิด ยิ่งเราทำแบบนี้ พี่ก็ยิ่งเป็นห่วงและรู้สึกผิด

ที่ช่วยอะไรนิดไม่ได้สักอย่าง ทั้งที่สถานการณ์บ้านเราตอนนี้กำลังย่ำแย่

แต่พี่ทำได้แค่เป็นตัวถ่วงนิดเท่านั้นเอง”

“โธ่...พี่นก อย่าคิดอย่างนั้นสิคะ รู้ไหมว่าเพราะนิดได้กินกับข้าวฝีมือ

พี่นกทุกวันนี่แหละ นิดถึงได้มีแรง มีสมองเอาไว้คิดและจัดการกับปัญหา

ทุกอย่างได้ แล้วตอนนี้นิดก็หาทางออกได้ด้วยแล้วนะคะ”

“นิดมีทางออกแล้วเหรอ” คนถามอุทานตาโตด้วยความตื่นเต้นดีใจ

ก้มมองคนป่วยที่นอนอยู่ แล้วจึงหันมากระซิบบอกน้องสาว “เราไปคุยกัน

ข้างนอกดีไหม พี่ไม่อยากให้คุณพ่อได้ยิน เดี๋ยวจะพลอยเป็นห่วงขึ้นมาอีก

คุณหมอยิ่งกำชับอยู่ว่าไม่ให้ท่านเครียด”

ชมพูนิษฐ์รับคำ แล้วเดินตามพี่สาวออกไปที่ระเบียงนอกห้อง จากนั้น

จึงกล่าวต่อจากที่ค้างไว้

“นิดกำลังจะไปพบคุณลิม เปง เซียง นักพัฒนาที่ดินรายใหญ่จาก

สิงคโปร์ ที่กำลังจะบินมาถึงเมืองไทยเย็นนี้ค่ะ”

“คนที่กำลังเป็นข่าวครึกโครมนั่นน่ะเหรอนิด” ชิดชนกยิ่งทำตาโต

เข้าไปใหญ่ เพราะนักธุรกิจที่ว่าเป็นคนดังระดับประเทศ ซึ่งหนังสือพิมพ์

ทุกฉบับพากันประโคมข่าวอย่างอึกทึกเรื่องที่เขากำลังจะบินมาเปิดตัว

โครงการใหญ่ที่ร่วมลงทุนกับนักธุรกิจชาวไทย ขนาดชิดชนกที่ไม่ได้สนใจ

ข่าวคราวในแวดวงธุรกิจยังรู้เรื่องนี้

“ใช่ค่ะ นิดจะเอาโครงการปรับปรุงสวนสนุกของเราไปเสนอเขา”

“แล้วเขาจะสนใจสวนสนุก เอ่อ...ของเราเหรอนิด” พี่สาวละคำว่า

‘ที่ใกล้จะเจ๊ง’ เอาไว้ เพื่อไม่ให้น้องสาวเสียกำลังใจ

“สนสิคะ เพราะนิดสืบมาแล้วว่าคุณลิมคนนี้กำลังมองหาลู่ทางการ

ลงทุนที่เกี่ยวกับพืชผลการเกษตร หรือไม่ก็ธุรกิจท่องเที่ยวแบบไทยๆ

เพราะศิลปวัฒนธรรมบ้านเรากำลังได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติอยู่

ยิ่งถ้าเขาได้เห็นแผนงานสวนสนุกของเราแล้วละก็ นิดว่าเขาต้องสนใจแน่นอนค่ะ”

“แล้วนิดจะเข้าไปยังไงล่ะ พี่ว่าคนดังระดับนั้น เราคงเข้าถึงตัวเขา

ไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ” ชิดชนกยังคงซักถามตามประสาคนขี้กังวล

“เรื่องนี้พี่นกไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ นิดฝากให้ขวัญช่วยเช็กข่าวมาแล้ว

ว่าคุณลิมจะพักที่ไหน แล้วเดี๋ยวขวัญจะเป็นคนพานิดไปเจอเขาเองค่ะ”

“จริงด้วยสิ ยายขวัญทำงานเป็นนักข่าวอยู่นี่นา” คนฟังร้องบอก

ด้วยความยินดีเมื่อเริ่มเห็นแสงสว่างอยู่รำไร หล่อนหันมาคลี่ยิ้มอ่อนโยน

ให้น้องสาว พลางให้กำลังใจด้วยการอวยพร “พี่ขอให้นิดโชคดีนะ”

“ขอบคุณค่ะ” ชมพูนิษฐ์ยิ้มรับ ดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น

“นิดแน่ใจว่างานนี้ต้องสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีค่ะ”

“มีอะไรให้พี่ช่วย นิดก็บอกมาได้เลยนะ”

“พี่นกแค่อยู่เป็นกำลังใจให้นิดแบบนี้ก็พอแล้วละค่ะ รอฟังข่าวดีจาก

นิดตอนค่ำๆ นะคะ เดี๋ยวนิดขอตัวไปเคลียร์งานก่อน เย็นนี้ต้องเตรียม

เอกสารไปเสนอคุณลิมเขาด้วยค่ะ”

“แล้วนิดจะกินข้าวก่อนไหม พี่จะได้ให้แม่บ้านจัดให้”

“ทานค่ะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพี่สาวนิดจะน้อยใจ” หญิงสาวพูดยิ้มๆ

“ดีจ้ะ เติมพลังก่อนไป พี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” ว่าแล้วชิดชนกก็

ยกมือขึ้นลูบหัวน้องสาว แล้วกอดเอวพาชมพูนิษฐ์เดินลงไปรับประทาน

อาหารที่ห้องด้านล่าง

 

ชมพูนิษฐ์นั่งมองบุคคลแปลกหน้าที่มาเยือนสวนสนุกของเธอด้วย

สายตาเคลือบแคลง ทั้งที่จะว่าไปเขาคือทูตที่กำลังจะนำเงินก้อนโตจาก

นายทุนยักษ์ใหญ่มาประเคนให้ แต่ที่น่าเสียใจคือมันไม่ใช่เม็ดเงินที่เธอ

ปรารถนา เพราะมันต้องแลกด้วยหยาดน้ำตาและเกียรติยศ!

เจ้าของสวนสนุกสาวรีบยื่นซองเอกสาร ‘สัญญาซื้อ - ขาย’ คืนไปให้

คนตรงหน้าโดยที่ยังไม่ได้เปิดอ่านรายละเอียดข้างใน แล้วบอกปัดความ

หวังดีอย่างไร้เยื่อใย หลังจากที่ทนายหนุ่มใหญ่บอกจุดประสงค์เสร็จแล้ว

“ขอโทษนะคะ ฉันคงรับข้อเสนอของคุณไม่ได้ เพราะฉันไม่เคยคิด

จะขายกิจการของครอบครัวค่ะ”

“ทำไมถึงรีบปฏิเสธเร็วนักล่ะครับ ไม่ลองดูตัวเลขในเช็คก่อนหรือ”

                         (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เหมราช พัทธนกิจอนันต์ ต้องการซื้อที่ดินของตระกูลการัณยภาส ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนสนุกสุขสยาม เพื่อนำมาสร้างเอาต์เล็ตมอลล์ แต่ชมพูนิษฐ์ การัณยภาส ลูกสาวของชลัช ผู้เป็นเจ้าของสวนสนุกไม่ต้องการขายที่แห่งนี้ ทั้งยังต้องการปรับปรุงสวนสนุกที่กำลังซบเซาให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง การหักเหลี่ยมเฉือนคมทางธุรกิจจึงเริ่มขึ้น เมื่อเจ้าพ่อนักธุรกิจหมื่นล้านอย่างเหมราชวางแผนขัดขวางการปรับปรุงสวนสนุกของชมพูนิษฐ์ วางหมากให้เธอเล่นไปตามเกมของเขา บีบเธอทุกวิถีทางเพื่อให้เธอยอมขายที่ให้ ขณะที่ชมพูนิษฐ์ ด้วยความที่อ่อนประสบการณ์กว่า ก็อาศัยไหวพริบและความมุ่งมั่นของตัวเองแก้เกมของเขาจนเอาตัวรอดไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งสองเล่นเกมธุรกิจกันโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ได้ตกเป็นหมากในกระดานของบุคคลที่สามที่จับตาดูทั้งสองคนห้ำหั่นกันอยู่อย่างเงียบๆ เมื่อบุคคลที่สามเผยตัว และทำให้ชมพูนิษฐ์ตกอยู่ในสภาวะหลังชนฝา เหมราชซึ่งรักหล่อนเต็มหัวใจจึงยอมทิ้งความตั้งใจของตนเพื่อช่วยฉุดเธอขึ้นมาให้รอดพ้นจากแผนการเจ้าเล่ห์ของศัตรู และตอบโต้ฝ่ายนั้นอย่างสาสม เพื่อเป็นการสั่งสอนที่มาลูบคมเจ้าพ่อนักธุรกิจอย่างเขา และเพื่อเป็นการปกป้องผู้หญิงที่เขารักด้วย


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024