กุหลาบกามเทพ (มัลลิกา)

กุหลาบกามเทพ (มัลลิกา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160021468
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 250.00 บาท 62.50 บาท
ประหยัด: 187.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

รถโฟร์วีลคันใหญ่แล่นมาจอดหน้าโรงพยาบาล มัทนาเปิดประตูลงจากรถด้วยท่าทางร้อนรน เธอเรียกเจ้าหน้าที่เวรเปลให้มารับตัวน้องสาวแล้ววิ่งอ้อมรถไปเปิดประตูให้พวกเขา เจ้าหน้าที่หนุ่มอุ้มรจนาไปวางบนเตียงเข็นผู้ป่วย ก่อนเข็นเด็กสาวไปที่ห้องฉุกเฉินอย่างเร่งรีบ

“ไปค่ะพี่ใหญ่” เธอคว้ามือพี่สาววิ่งตามไปติดๆ สองพี่น้องบีบมือกัน แน่น พลางภาวนาให้น้องสาวคนเล็กปลอดภัย

“ขอทางด้วยครับ” เจ้าหน้าที่หนุ่มร้องบอกเสียงดัง คนที่ได้ยินพากัน หยุดมองอย่างสนใจ ก่อนเปิดทางให้คนเจ็บผ่านไป เขาเข็นเตียงเข้าไปใน ห้องฉุกเฉิน ทั้งสองวิ่งตามเข้าไปด้วยความเป็นห่วง แต่ถูกพยาบาลร่างท้วม ดันกลับออกมา

“ญาติรอข้างนอกค่ะ” นางสั่งเสียงเข้ม พลางดึงประตูปิดเพี่อกันไม่ให้พวกเธอตามเข้าไปอีก

“ยายเล็กจะเป็นอะไรหรือเปล่ากลาง พี่กลัวจังเลย” บุษบาถามเสียง เครือ ใบหน้าเปี้อนน้ำตาเป็นคราบ

“ถึงมือหมอแล้ว ยายเล็กกับลูกต้องปลอดภัย พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล นะคะ” มัทนาเช็ดนํ้าตาให้พี่สาว ก่อนหันไปมองข้างหลังเมื่อได้ยินเสียงร่มธรรมร้องเรียก

“กลาง พี่ใหญ่”

“พี่หมอ” เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเขา “ยายเล็กเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้วค่ะ แกเลือดออกเยอะมาก กลางไม่รู้ว่าจะทำยังไง”

“ใจเย็นๆ กลาง เดี๋ยวพี่เข้าไปดูเอง” ร่มธรรมบีบมือเธอเบาๆ ก่อนหันไปมองบุษบาเมื่อพี่สาวของเธอเขย่าแขนเขา

“หมอช่วยยายเล็กด้วยนะ อย่าให้แกเป็นอะไรไปนะ”

“ครับ พี่ใหญ่ ผมจะทำให้ดีที่สุด” หมอหนุ่มรับปากอย่างเคร่งขรึม แล้วเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉิน มัทนามองตามเขาไป ก่อนหันกลับมามองพี่สาวเมื่อบุษบาเริ่มร้องไห้อีกครั้ง

“อย่าร้องไห้ค่ะพี่ใหญ่ พี่หมอมาแล้ว ยายเล็กต้องปลอดภัย” มัทนาดึงพี่สาวเข้ามากอด บุษบาสะอื้นไห้จนตัวโยน เธออยากร้องไห้ตามผู้เป็นพี่แต่ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้าเธอร้องไห้อีกคน ทุกอย่างคงแย่ลงไปอีก

ลมร้อนพัดผ่านทุ่งกุหลาบกว้างใหญ่ หอบกลิ่นหอมปกคลุมไปทั่ว หุบเขา บนถนนลาดยางขนาดสองเลน รถโฟร์วีลคันหนึ่งแล่นตะบึงมาด้วย ความเร็วสูง ก่อนเลี้ยวลงไปในถนนสายเล็กข้างทางโดยไม่ลดความเร็วแม้แต่น้อย มัทนาเงยหน้ามองป้ายไม้แผ่นใหญ่เหนือศีรษะ ชื่อไร่ของเธอถูกแดดเลียจนสีซีดจาง แต่ความงามของกุหลาบนานาพันธุไม่เคยจืดจางลงเลย หญิงสาวสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ เข้าปอด เธอรักทุกอย่างที่หลอมรวมเป็นไร่แห่งนี้

'ไร่หอมกลางพนา’

มัทนาขับรถผ่านแปลงกุหลาบหลากสี ก่อนพารถยนต์คู่ใจไปจอดหน้าบ้านไม้สองชั้นบนเนินสูง เธอเปิดประตูก้าวลงมายืนบนพื้นหญ้านุ่ม ภาพ ทุ่งกุหลาบเบื้องหน้าทำให้เธอยิ้มอย่างมีความสุข พ่อแม่ของเธอสร้างไร่ หอมกลางพนาด้วยน้ำพักน้ำแรงของท่าน แต่น่าเสียดายที่พวกท่านไม่ได้อยู่ดูความรุ่งเรืองด้วยตาตัวเอง เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์พรากพวกท่านไปตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน เธอจึงต้องเข้ามาดูแลไร่แห่งนี้แทน ทั้งที่ยังเรียนไม่จบปริญญาตรีด้วยซํ้า

ไร่หอมกลางพนาตั้งอยู่กลางเทือกเขาในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีภูมิอากาศและภูมิประเทศเหมาะกับการทำไร่กุหลาบ ดอกกุหลาบของที่นี่จึงมีความสมบูรณ์และงดงาม เมื่อบวกกับการเอาใจใส่ดูแลของเธอ ดอกกุหลาบของไร่หอมกลางพนาจึงมีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆ ของประเทศ เมื่อสองปีก่อน เพื่อนของพ่อแนะนำให้เธอเปิดไร่ทำเป็นรีสอร์ตเพื่อหารายได้เพิ่ม อีกทางหนึ่ง แต่เธอไม่ชอบให้คนนอกเข้ามาจุ้นจ้านในไร่ของตน จึงพอใจแค่ การปลูกดอกกุหลาบส่งขายในประเทศและต่างประเทศเท่านั้น

หญิงสาวหลับตาลงปล่อยให้สายลมลูบไล้ผิวหน้า ผู้หญิงสมัยนี้ส่วนใหญ่กลัวแดด เพราะคิดว่าผิวคลํ้าจะทำให้ตัวเองดูไม่สวย แต่เธอกลับพอใจในผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนของตน ตอนอายุสิบแปดปี เพื่อนของแม่เคยมาชวนเธอไปประกวดนางงาม แต่เธอเห็นว่ามันไร้สาระจึงตอบปฏิเสธ และที่สำคัญเธอไม่เคยคิดว่าตัวเองสวย อาจดูดีตรงรูปร่างสูงโปร่งกว่าผู้หญิง ทั่วไปจมูกโด่ง ตาโต คิ้วคม ริมปีปากอิ่ม แต่ดูรวมๆ ก็เป็นแค่สาวชาวไร่แล้วจะเอาอะไรไปประชันขันแข่งกับคนอื่น

มัทนาก้มลงสูดกลิ่นหอมจากดอกกุหลาบสีแดงดอกหนึ่ง แม่เล่าให้ ฟังว่าตอนที่เธอเกิด ดอกกุหลาบบานเต็มห้องทุ่ง ท่านจึงตั้งชื่อเธอว่ามัทนา ซึ่งมาจากวรรณคดีเรื่องมัทนะพาธาที่ท่านชอบอ่านเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ ยังเพื่อให้คล้องกับพี่สาวคนโตที่ชื่อบุษบา และต่อมาเมื่อน้องสาวคนเล็กเกิด ท่านจึงตั้งชื่อให้ว่ารจนาเพื่อให้คล้องกับพี่สาวทั้งสอง พวกเธอจึงเป็นสามสาว นางในวรรณคดีที่มักถูกล้อเลียนเป็นประจำในวัยเด็ก แต่พวกเธอไม่เคย โกรธ และไม่เคยคิดจะเปลี่ยนชื่อเลยลักครั้ง เพราะคิดว่าชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ เป็นชื่อที่ดีที่สุดแล้ว

หญิงสาวหมุนตัวไปมองบ้านพักของตน บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของ พ่อกับแม่ ตัวบ้านสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ชั้นบนแบ่งออกเป็นสี่ห้องนอน ส่วนชั้นล่างปล่อยโล่ง ใช้เป็นที่รับแขก ที่กินข้าว และที่ทำงานของเธอกับพี่สาว ส่วนครัวไทยต่อแยกออกไปทางด้านหลังเพี่อป้องกันอัคคีภัย เธอและ พี่น้องเติบโตในบ้านหลังนี้ แต่ตอนนี้มีแค่เธอกับพี่สาวที่อาศัยอยู่ที่นี่ ด้วย น้องสาวคนเล็กสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เด็กสาวจึงย้ายไปอยู่ที่ คอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัย โดยจะเดินทางกลับมาบ้านตอนปิดเทอม หรือช่วงวันหยุดยาวเท่านั้น

“ยายเล็กกลับมาเหรอ” มัทนาพึมพำเมื่อเหลือบไปเห็นรถยนต์ของ น้องสาวจอดอยู่ข้างบ้าน เธอเก็บความสงสัยไว้ แล้วเดินเข้าไปถามพี่สาวใน บ้าน

“ยายเล็กกลับมาเหรอคะพี่ใหญ่” เธอร้องถามผู้เป็นพี่ซึ่งยืนคั้นน้ำส้ม อยู่ที่โต๊ะกินข้าว

“ใช่จ้ะ มาถึงตั้งแต่บ่ายแล้ว ตอนนี้นอนพักอยู่บนห้อง” บุษบาตอบ โดยไม่ละมือจากงานที่ทำ ด้วยอายุมากกว่าน้องสาวทั้งสองร่วมสิบปี หล่อน จึงทำหน้าที่เป็นแม่ให้แก่น้องๆ นอกเหนือจากการเป็นครูในโรงเรียนใกล้บ้าน

“มีอะไรหรือเปล่าคะ วันนี้ไม่ใช่วันหยุดเสียหน่อย แล้วก็ยังไม่ปิด เทอมด้วย ยายเล็กกลับมาแบบนี้ไม่ขาดเรียนเหรอคะ” หญิงสาวซักถามอย่าง สงสัย รจนาเป็นเด็กเรียนดี ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยเห็นน้องสาวขาดเรียน โดยไม่มีเหตุผลเลยสักครั้ง

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ยายเล็กไม่ได้เล่าอะไร มาถึงก็บอกว่าปวดหัว แล้วขอตัวขึ้นไปนอนเลย”

“เหรอคะ” เธอมองขึ้นไปข้างบน ก่อนหันมาบอกพี่สาว “กลางขึ้นไป ดูยายเล็กนะคะ”

“อย่าเพิ่งเลยจ้ะ” ผู้เป็นพี่ทักห้วง “น้องขับรถมาไกลคงเหนื่อย เอาไว้ ค่อยคุยตอนอาหารเย็นก็ได้ กลางไปอาบน้ำเถอะ ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวจะได้มากินข้าวด้วยกัน”

“ก็ได้ค่ะ กลางไปอาบน้ำก่อนนะคะ” มัทนาบอกพี่สาว แล้วเดินขึ้น ห้องของตนเพี่อทำธุระส่วนตัว

กลิ่นอาหารที่โชยมาเข้าจมูกเร่งให้มัทนาก้าวเท้าเร็วขึ้น เธอเดินแกมวิ่งลงบันไดมานั่งประจำที่ของตน ก่อนส่งยิ้มให้น้องสาวและพี่สาวซึ่งนั่งรออยู่ ก่อนแล้ว แม้ทั้งสามจะเป็นพี่น้องคลานตามกันมา แต่รูปร่างหน้าตากลับไม่ คล้ายกันเท่าไร เธอเหมือนพ่อจึงมีผิวสีแทน รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาคมขำ บุษบาเหมือนแม่จึงมีผิวขาว รูปร่างอวบอิ่มอย่างคนเจ้าเนื้อ ส่วนรจนาเป็น ส่วนผสมของพ่อกับแม่ เด็กสาวมีผิวขาว รูปร่างเล็กบอบบาง หน้าตาสะสวย กิริยาอ่อนหวาน ปกติน้องสาวของเธอเป็นคนยิ้มเก่ง แต่ทำไมวันนี้ถึงไม่มี รอยยิ้มให้เห็นเลย แถมหน้าตายังดูซีดเซียวเหมือนคนป่วยอีกต่างหาก

“เล็กผอมลงนะ ไม่สบายหรือเปล่า” เธอถามตรงๆ เด็กสาวก้มหน้า หลบตาก่อนตอบปฏิเสธ

“เปล่าค่ะ”

“เล็กไม่มีเรียนเหรอ ทำไมกลับมาบ้านช่วงนี้ล่ะ” มัทนาจ้องมองนิ่งๆ น้องสาวเงยหน้ามองเธอ แล้วเอ่ยอึกอักด้วยสีหน้าลำบากใจ ซึ่งเธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้นด้วย

“เล็ก...”

“เกิดอะไรขึ้นเหรอเล็ก” เธอถามเสียงเข้ม ก่อนหันไปมองพี่สาวเมื่อ บุษบาพูดขัดขึ้นเหมือนทุกครั้งที่เธอดุน้องสาว

“อย่าเพิ่งถามน้องเลยกลาง กินข้าวกันก่อนดีกว่า วันนี้มีหมูทอด กระเทียมพริกไทยของโปรดของยายเล็กด้วยนะ”

“ค่ะ พี่ใหญ่ ตักข้าวเลยน้อย” มัทนาหันไปสั่งสาวใช้ เมื่อพี่สาวพูด

แบบนั้นเธอจะทำอะไรได้

“ค่ะ คุณกลาง” เด็กสาวตักข้าวให้พวกเธอ ก่อนถอยไปยืนรอด้านหลัง

“กินเยอะๆ นะ จะได้มีเนื้อมีหนังบ้าง” เธอตักหมูทอดชิ้นโตใส่จาน น้องสาว รจนามองหมูทอดชิ้นนั้นด้วยสีหน้าพะอืดพะอมแทนที่จะตักขึ้นมา กินอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนทุกครั้ง

“ทำไมไม่กินล่ะ ของโปรดของเล็กไม่ใช่เหรอ” เธอคาดคั้น น้องสาว..โปรดติดตามต่อในเล่ม

 

 

รายละเอียด

ไม่มีกุหลาบใดปราศจากหนาม 
หากเผลอใจไปกับสีสันอันสวยสดและกลิ่นหอมเย้ายวน
อาจโดนหนามแหลมทิ่มแทงโดยไม่รู้ตัว
ชีวิตครอบครัวของสามพี่น้องแห่ง ‘ไร่หอมกลางพนา’ ดำเนินไปอย่างสงบสุข
กระทั่งวันที่รจนา น้องคนเล็กของบ้านอุ้มท้องไม่มีพ่อกลับจากกรุงเทพฯ
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อเด็กสาวครรภ์เป็นพิษ และต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
มัทนาไม่มีวันให้อภัยคนที่ทำให้น้องสาวเธอตกอยู่ในสภาพนี้
หญิงสาวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แปลงโฉมเป็นสาวสวยนามว่า ‘โรส’ 
และใช้เสน่ห์เป็นใบเบิกทางในการเข้าใกล้พรรษกร พ่อของเด็กในท้องรจนา
เธอตั้งใจจะจับตัวเขากลับมารับผิดชอบการกระทำ
แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกผัน เมื่อคนที่จับมากลับเป็นพรรษชล น้องชายฝาแฝดของเขา!
ทว่าคนอย่างมัทนา ลงว่าตัดสินใจไปแล้วไม่มีวันถอยหลัง 
แผนการยังดำเนินต่อไป ขณะที่พรรษชลพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางเธอ
เขาจะทำอย่างไร เมื่อสมองบอกว่าเธอเป็นศัตรูของพี่ชาย
แต่หัวใจ...กลับยอมโอนอ่อนให้แม่กุหลาบงามดอกนี้ไปเสียแล้ว

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024