หัวใจเพื่อรัก (ปราณต์ปันฑ์)

หัวใจเพื่อรัก (ปราณต์ปันฑ์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165000628
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 200.00 บาท 50.00 บาท
ประหยัด: 150.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ออฟฟิซเช่าของบริษัทอาร์เรซ่านั้นซอยเป็นบริษัทลูกอีกสองบริษัทคือ

อาร์เรซ่าเมอร์คิวรี่ ซึ่งดูแลในส่วนของน้ำหอมและเครื่องสำอาง และอีกบริษัท

ที่เพิ่งเปิดใหม่คือ อาร์เรซ่าอาร์ตี้ ที่กำลังผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ของอาร์เรซ่า

ประเทศไทย ทำให้สถานที่ดูคับแคบลงไปถนัดตาเมื่อมีพนักงานเข้ามาเพิ่มในออฟฟิซมากขึ้น

แต่ปัญหากำลังจะหมดไปเมื่อออฟฟิซใหม่ที่อัษราลงทุนสร้างใกล้จะ

เสร็จ และทุกคนจะได้ย้ายไปอยู่ในที่ที่จะแบ่งแยกงานแต่ละส่วนออกไปอย่างชัดเจน

ชายหนุ่มร่างสูงในชุดทำงานทันสมัยยืนเอามือไขว้หลังมองผ่านกระจก

หน้าต่างลงไปเบื้องล่างด้วยสายตาครุ่นคิด เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่

เจ้าของร่างเล็กบางสมส่วนจะเดินเข้ามาโดยไม่ต้องรอให้เจ้าของห้องเอ่ยปากอนุญาต

“คุณชนแดนคะ คุณน้ำต้นมาพบแล้วนะคะ จะให้เข้ามาเลยหรือเปล่า”

ชายหนุ่มหันกลับมา ดวงตาฉายแววแปลกใจเพียงแวบเดียวก่อนจะ

 

ปรับสีหน้าเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้าง ทำให้ใบหน้านั้นดูอ่อนวัยกว่าเดิม

“ให้เข้ามาเลยสิ กำลังรออยู่”

เธอผลุบออกไป และกลับมาพร้อมกับหญิงสาวอีกคน

หญิงสาวร่างสูงโปร่ง ดวงหน้านวลแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเพียงเล็ก

น้อย ผมยาวหยิกสวยถูกมัดไว้หลวมๆ ทางด้านหลัง เธอยกมือขึ้นไหว้ตาม

แบบของคนที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี รอยยิ้มหวานที่แต้มบนริมฝีปากบาง

ส่งไปถึงดวงตาคู่สวยภายใต้ขนตางอนยาว

“นั่งก่อนสิน้ำต้น” ชนแดนบอกพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้พร้อมๆ

กับที่เธอทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าเขาโดยมีโต๊ะทำงานคั่นกลาง

“อย่าบอกนะคะว่าที่เรียกให้กลับมาอีกครั้งนี่เพราะตกลงใจจะใช้น้ำ

แล้ว” เจ้าของเสียงหวานเย้าพร้อมรอยยิ้มที่ไม่จางไปจากริมฝีปากและดวงตาคู่สวย

“แล้วน้ำคิดว่าไงล่ะ” เขาย้อนถามเสียงเรียบ

น้ำต้นยักไหล่เบาๆ มองคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอย่างรู้ทันกัน ก็จะไม่

ให้รู้ทันได้อย่างไร ในเมื่อเธอเป็นหลานรหัสของชนแดนในมหาวิทยาลัย สนิท

กับเขายิ่งกว่าพี่รหัสเสียอีก จนใครๆ ต่างพากันคิดว่าเธอกับเขาเป็นแฟนกัน

เพราะอย่างนี้ไม่ว่าชนแดนจะคิดหรือทำอะไรน้ำต้นก็มักอ่านเขาออก โดย

เฉพาะหากหน้าเครียดเสียงเข้มอย่างนี้ รับรองว่าเจ้าตัวมีเรื่องร้อยแปดอย่างที่

อยากทำแต่ยังทำไม่สำเร็จ

“ก็คิดว่า...พี่แดนคงคิดตกแล้วว่าจะให้หลานรหัสคนนี้มีงานทำจริงๆ

จังๆ เสียทีใช่ไหมล่ะ”

“คิดได้ขนาดนั้นก็ดีแล้ว จะเริ่มงานได้เลยไหมพรุ่งนี้น่ะ”

ชนแดนไม่อ้อมค้อม งานของเขาตอนนี้ล้นจนไม่รู้จะเริ่มจับอะไรก่อน

และยิ่งเจ้านายเขาเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น เวลาให้ถอนหายใจอาจจะไม่มีเสีย

ด้วยซ้ำ เขาอยากให้น้ำต้นเริ่มงานไวที่สุด เพราะอัษราเองก็ใจร้อนไม่แพ้เขา

อีกไม่นานฤดูกาลแฟชั่นของกรุงเทพฯ จะเริ่มขึ้น อัษราหวังว่าจะได้ส่งเสื้อผ้า

แบรนด์ตัวเองขึ้นเวที

“ตำแหน่งหัวหน้าทีมดีไซเนอร์ของอาร์เรซ่าอาร์ตี้ ไหวไหม”

“ไม่ไหวก็คงต้องไหว เพราะดูท่าทางพี่แดนคงจะแย่เต็มทีแล้วถึงรีบ

เรียกน้ำมาใช้งานแบบเร่งด่วนอย่างนี้”

คำตอบตกลงของน้ำต้นทำให้อะไรที่ดูหนักๆ ในหัวชนแดนบรรเทาลง

เขายื่นแฟ้มหนาใหญ่ให้หญิงสาวแล้วบอกสำทับว่า

“อ่านให้ละเอียดนะ เป้าหมายงานและอะไรที่คุณอัษราต้องการเขียนไว้

ในนั้นทั้งหมด มีอะไรไม่เข้าใจก็ถามมา เราน่ะมันเซียนอยู่แล้ว งานการก็ผ่าน

มาตั้งหลายที่แล้วนี่”

ชนแดนไว้ใจน้ำต้นเพราะมั่นใจว่าเธอสามารถทำได้ งานออกแบบ

เสื้อผ้าไม่ใช่งานใหม่สำหรับเธอ หญิงสาวทำงานเบื้องหลังเป็นมือปืนรับจ้าง

ออกแบบให้ห้องเสื้อหลายแห่งมานาน แต่ก็ไม่เคยลงหลักปักฐานทำงานให้ใคร

จริงจังเสียที

ประจวบกับที่เขาและพี่ชายทั้งสองของน้ำต้นรู้จักกัน จึงทำให้เขาพอรู้

ว่าสองหนุ่มนั้นไม่ชอบใจนักที่น้องสาวลอยไปลอยมาแบบนี้ เขาจึงมอบงานนี้

ให้น้ำต้นรับผิดชอบ ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะตอบตกลงที่จะทำงานในตำแหน่ง

หัวหน้าทีมดีไซเนอร์ของอาร์เรซ่าอาร์ตี้หรือเปล่า แต่ปรากฏว่าน้ำต้นตอบตกลง

อย่างง่ายดาย

“โอเคค่ะ ถ้าไงหลานรหัสคนนี้จะพยายามจนสุดความสามารถให้สม

กับที่ปู่รหัสไว้วางใจเรียกใช้บริการแล้วกันนะคะ งั้นน้ำไปละ หวัดดีค่ะปู่แดน”

เธอคว้าแฟ้มเล่มหนามาถือไว้ ขยับตัวลุกแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

 

ทันทีที่เปิดประตูบ้านเข้าไปกลิ่นอาหารก็ลอยมาปะทะจมูก รถสองคัน

จอดอยู่ในโรงรถอย่างเรียบร้อย หญิงสาวซึ่งเพิ่งกลับเข้ามากลอกตาขึ้นลง

อย่างละเหี่ยใจ รู้แล้วว่าวันนี้ท่าทางจะเป็นวันซวยของเธอเป็นแน่ เพราะอะไร

น่ะเหรอ...ก็เพราะพี่ชายของเธอสองคนอยู่บ้านพร้อมกันน่ะสิ

ประตูบ้านถูกเปิดผลัวะออกมา ชายหนุ่มร่างสูง ผมยาวดำเงาทิ้งตัว

สลวยไปตามแผ่นหลัง โผล่หน้ามาพร้อมรอยยิ้มเครียดๆ ที่มุมปาก ก่อนส่ง

เสียงตะโกนเรียกใครอีกคนในบ้าน

“ไอ้นิ่ง...น้ำต้นกลับมาแล้ว ออกมาจากครัวได้แล้ว”

สิ้นเสียงเรียกชายหนุ่มอีกคนที่สูงเกินร้อยแปดสิบเซนติเมตรก็เดิน

ออกมายืนคู่กันกับคนเรียกพร้อมรอยยิ้มแปลกๆ ในมือยังคงถือตะหลิวและที่

เอวก็มีผ้ากันเปื้อนคาดติดมาด้วย

น้ำต้นเอ่ยปากทักพวกเขาทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยว สีหน้าระอาใจ

“ว่าไงพี่เชี่ยว ทำไมวันนี้กลับเร็วนักล่ะ ไม่มีงานถ่ายแบบหรือไง พี่

น้ำนิ่งอีกคน วันนี้ไม่มีเดตหรือไง”

“ทำไมทำเสียงอย่างนี้ล่ะ ไม่ดีใจหรือไงที่เห็นหน้าพี่น่ะ” น้ำเชี่ยวเอ่ยปากถาม

“นั่นสิ ทำไมทำหน้าเหมือนเจอผีอย่างนั้น” น้ำนิ่งสำทับ

“จะบอกอะไรให้นะ น้ำมีความรู้สึกว่าเวลาพี่เชี่ยวกับพี่นิ่งอยู่พร้อมกัน

ทีไร เหมือนจะแท็กทีมรวมหัวกันจัดการอะไรกับน้ำสักอย่าง จริงไหม?” เธอ

ทิ้งคำถามรู้ทันให้เขาสองคน ก่อนจะแทรกตัวผ่านพี่ชายทั้งสองที่ยืนขวางอยู่เข้าไปในบ้าน

น้ำต้นวางกระเป๋าสะพายใบใหญ่ลงบนโต๊ะอาหาร หันมาเผชิญหน้ากับ

พี่ชายสองคนที่เดินตามมาหยุดอยู่ไม่ห่าง น้ำนิ่ง พี่ชายคนรองยืนอิงเคาน์เตอร์

หันมามองทางเธอพร้อมรอยยิ้ม ส่วนน้ำเชี่ยว พี่ชายคนโตเองก็หยุดยืนมองเธอห่างๆ

“อะไร มีอะไรกันว่ามาเลยดีกว่า อย่ามาทำท่าสงสัยกันอย่างนี้” เธอเท้า

สะเอวถามพวกเขาสองคนพร้อมๆ กัน

“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ได้ยินว่าวันนี้ตกลงทำงานกับชนแดนแล้วใช่ไหม”

น้ำเชี่ยวเอ่ยปากถามก่อน

“ใช่ พี่เชี่ยวมีปัญหาอะไรเหรอไง แล้วไอ้นกรู้ตัวไหนมันคาบข่าวไปบอก

ไวจริงๆ” ท้ายประโยคบ่นงึมงำกับตัวเอง แต่ตวัดสายตาไปหาพี่ชายอีกคนซึ่ง

ส่ายหน้าปฏิเสธทันที

“ก็คงไม่มีปัญหาหรอก” คนมีปัญหาตอบก่อนจะถามต่อด้วยคำถาม

จริงจัง “แต่จะถามว่า รู้ไหมว่าอาร์เรซ่าใครเป็นเจ้าของ รู้หรือเปล่า”

น้ำต้นหรี่ตามองคนถามด้วยความระแวง ลองถ้าสองคนแท็กทีมกัน

แบบนี้ มีหวังเธอคงโดนพวกเขาซักจนขาวสะอาดราวกับซักด้วยโอโม่พลัสแน่ๆ

“ไปทำงานที่ไหนจำเป็นต้องรู้ไปถึงประวัติเจ้าของบริษัทด้วยหรือไงพี่

เชี่ยว” เธอตั้งคำถามคืนบ้าง “แล้วการที่ใครจะเป็นเจ้าของบริษัทมันเกี่ยวอะไร

กับที่น้ำไปทำงาน แต่ถ้าอยากรู้นักก็โทร. ไปถามพี่แดนเองสิ”

น้ำต้นมองพี่ชายทั้งสองที่มองตากันไปมาราวกับจะให้อีกฝ่ายเป็นคน

พูด ก็ตอนแรกที่เธอตกลงใจจะทำงานเป็นหลักเป็นแหล่งเห็นดีใจกันแทบตาย

แต่พอตกลงไปแล้วทำไมเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมาให้ปวดหัวอีกล่ะเนี่ย เธอถอน

หายใจ ก่อนกดเสียงเข้มขู่พวกเขาอีกครั้ง

“บอกมาว่ามีปัญหาอะไรกันแน่”

“อัษรา วิศุวัฒนาพลรักษ์ คือหุ้นใหญ่ของอาร์เรซ่า เป็นเจ้าของอาร์เรซ่า

อาร์ตี้ที่เธอกำลังจะเข้าไปทำงานด้วย” น้ำเชี่ยวเป็นคนตอบ และตามด้วยพี่ชายอีกคน

“เคยได้ยินชื่อนี้ไหมน้ำต้น เขาเป็นผู้สืบสายเลือดคนสุดท้ายของเจ้าพ่อ

เยาวราชในรุ่นก่อน ถึงจะบอกว่าไม่ยุ่งเกี่ยวแต่ก็เป็นคนมีอำนาจมีอิทธิพลคนหนึ่ง”

“แล้วไงคะ เรื่องพวกนั้นไม่ได้เกี่ยวกับน้ำอยู่ดี อีกอย่างน้ำทำงานกับพี่

แดนต่างหาก เขาจ่ายเงินเดือนให้ ได้เงินครบก็จบ ไม่เห็นน่าห่วงตรงไหน

คิดมากกันไปหรือเปล่าคะ” เธอหรี่ตาเอียงคอมองพี่ชายทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรง

หน้าด้วยความไม่เข้าใจนัก

“เรานี่มันกบเพิ่งออกจากกะลาชัดๆ แม่น้ำต้น หัดอ่านข่าวซะบ้าง ไม่ใช่

ดูแต่ซีรีส์เกาหลี พี่จะบอกให้นะว่านายคนนี้มีข่าวแทบจะทุกวัน ทั้งข่าวดีและ

ข่าวไม่ดี แต่จะหนักไปทางไม่ดีเสียมากกว่า แถมยังลือกันให้หนาหูในวงการว่า

เขาเป็นมาเฟียดีๆ นี่เอง”

เสียงน้ำเชี่ยวพี่ชายคนโตดูจริงจัง แต่น้ำต้นกลับหัวเราะเบาๆ กับ

ประโยคที่ได้ยิน

“แล้วไงคะ พี่เชี่ยวหรือพี่นิ่งไปขัดแข้งขัดขาเขาเหรอ ถึงได้กลัวขนาดนี้”

“ไม่ได้กลัวโว้ย!” น้ำเชี่ยวโวยทันที “บอกตรงๆ ก็ได้ว่า เขาว่านายคนนี้

เป็นเสือผู้หญิงตัวยง”

“นั่นไง คายออกมาจนได้ พี่ห่วงเรื่องนี้เองน่ะเหรอ น้องสาวพี่น่ะไม่ใช่

เด็กอนุบาลที่ใครจะมาหลอกได้นะ น้ำโตแล้ว ดูแลตัวเองได้แล้ว” น้ำต้นเห็น

เป็นเรื่องขำ เธอมองหน้าพี่ชายคนโตที่ทำหน้าบูดบอกบุญไม่รับ

“หัดส่องกระจกดูหน้าตาตัวเองบ้างนะแม่น้องน้อย” น้ำนิ่งที่ยืนฟังอยู่

นานแทรกขึ้นมา

“เอาเป็นว่าพี่สองคนลงมติกันว่าไม่อยากให้เธอไปทำงานกับชนแดน

แล้วกัน” น้ำเชี่ยวเอ่ยทะลุกลางปล้องขึ้นมาอีก

“บ้าน่าพี่นิ่ง พี่เชี่ยว น้ำตกลงกับพี่แดนไปแล้ว พวกพี่นี่กังวลกันราวกับ

เป็นคนแก่อายุสักหกสิบ” เธอยักไหล่ไม่แคร์ เปิดตู้เย็นดึงขวดน้ำออกมาเทใส่แก้วยกดื่ม

“พี่เตือนเธอแล้วนะ น้ำต้น พี่อยู่ในวงการทำไมจะไม่รู้กิตติศัพท์ของนายอัษรา”

“เอาน่า ให้น้ำเจอเขาก่อนแล้วค่อยมาตัดสินใจกัน น้ำน่ะงงกับพวกพี่

มากเลย ตอนที่น้ำตระเวนไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ไม่เห็นพวกพี่มานั่งคิดมาก

เท่าน้ำต้องเข้าไปทำงานที่อาร์เรซ่าเลย”

“ก็เพราะว่ามันไม่เหมือนกันน่ะสิ” น้ำเชี่ยวว่า

“ตามใจยายน้ำต้นแล้วกันพี่เชี่ยว ลองดูสักพัก ถ้าไม่ไหวก็ออก น้อง

สาวคนเดียวพวกพี่เลี้ยงได้ ต่อให้จะตระเวนไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำโดยไม่

ทำงานพี่ก็เลี้ยงได้” น้ำนิ่งตัดบทเพราะรู้จักน้องสาวตัวเองดีว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ

“น้ำรู้ว่าพวกพี่ๆ เลี้ยงได้ แต่น้ำไม่อยากแบมือขอเงินพวกพี่ใช้นี่นา

แล้วขืนไม่ได้ทำอะไรต่อมิอะไรมีหวังสมองฝ่อกันพอดี เชื่อเหอะว่าน้ำเอาตัว

รอดได้ ไม่ต้องห่วง”

เจ้าตัวยืนยันพร้อมขยิบตาให้พวกพี่ๆ เอื้อมมือคว้ากระเป๋าเดินขึ้นห้อง

ไปอย่างเร็ว เพราะรู้ว่าถ้าขืนช้ากว่านี้ รับรองว่าพวกพี่ชายเธอจะต้องวนเข้า

เรื่องเดิม กลายเป็นพายเรือในอ่างไม่รู้จบเป็นแน่ เธอรู้จักนิสัยพวกเขาดี

เมื่อร่างน้องสาวลับสายตาไป น้ำเชี่ยวก็หันมาสบตาน้ำนิ่งแล้วถอนหายใจพร้อมกัน

“พี่เชี่ยวเอาไง” น้ำนิ่งเอ่ยปากถาม

“ก็คงต้องให้ลองอย่างที่ว่า อีกอย่างถ้าเป็นอย่างที่น้ำต้นบอกว่าเป็นแค่

ลูกทีมของชนแดนก็คงไม่มีปัญหา” น้ำเชี่ยวบอกเสียงจริงจังพอๆ กับสีหน้าหวั่นวิตก

“ผมกำลังคิดว่าพี่กังวลมากไปหรือเปล่า บางทีสิ่งที่ได้ยินมาอาจไม่ใช่

สิ่งที่เป็นความจริงก็ได้ ของอย่างนี้มันต้องดูกันไปก่อน”

“คิดมากไว้ก่อนน่ะดีแล้ว มันมีกรณีตัวอย่างเรื่องน้ำพราวมาแล้วว่าคน

คนนี้เป็นยังไง แล้วยังนางแบบอีกหลายคนที่เขาเลี้ยงไว้อีกล่ะ นั่นก็คงเพียง

พอที่จะกันน้องสาวเราให้ห่างๆ จากคนอย่างนี้แล้ว เราไม่อยากให้วัวหายแล้วค่อยมาล้อมคอก”

“วัวมันยังไม่หาย และดูท่ามันจะไม่ยอมให้พี่ล้อมคอกเสียด้วยน่ะสิ

พี่เชี่ยว” น้ำนิ่งตอบปนขำ แต่คนเป็นพี่ชายตวัดสายตามามองตาเขียว

“ทำเป็นพูดดีไป นายน่ะทำงานประจำ กลับบ้านมาก็ถามน้ำต้นบ้างว่า

เป็นไง ดูแลกันหน่อย จะได้รู้ว่าน้องสาวเราคบใคร ทำอะไร ไม่ใช่วันๆ สุมหัว

กับคอมพิวเตอร์ หายใจเข้าออกเป็นคุณนิน”

คนเป็นพี่ชายประชดกลับเข้าให้ น้ำนิ่งจึงยักไหล่แล้วเดินหนีเข้าครัวไป

                         (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

รอยสักสีดำรูปมังกรกลับหัว คือสัญลักษณ์แห่งกบฏของลวณะศัจกร! ?อัษรา? มังกรดินแห่งลวณะศัจกร ผันตัวสู่แสงสว่างด้วยธุรกิจถูกกฎหมาย เขาใช้รอยสักรูปมังกรกลับหัวเป็นการประกาศว่าจะไม่เดินทับเส้นทางเดียวกับบิดา แต่แม้จะหลีกลี้สักเท่าไร ก็หาพ้นวงจรของโลกมืดดำนั้นไม่ มิหนำซ้ำยังถูกโจมตีจากศัตรูผู้อยู่ในที่มืดหลายต่อหลายครั้ง ?น้ำต้น? ดีไซเนอร์สาวถูกพี่ชายสั่งห้ามไม่ให้ร่วมงานกับผู้ชายอันตรายอย่างอัษรา นั่นยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้น้ำต้นพยายามทำความรู้จักอัษราให้ลึกซึ้งขึ้น จนในที่สุดก็กลายเป็นความรัก เมื่อศัตรูที่คิดโค่นอัษรารู้จุดอ่อนของเขา จึงพุ่งเป้าโจมตีไปที่หัวใจมังกร งานนี้ต่อให้ต้องตายเขาก็จะพลีชีพเพื่อปกป้องเธอ 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024