วายร้ายป่วนหัวใจ (น้ำว้า)

วายร้ายป่วนหัวใจ (น้ำว้า)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160012275
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 310.00 บาท 77.50 บาท
ประหยัด: 232.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

“นั่นไงพ่อเลี้ยงสารัตถ์!”

คุณหญิงรติมากระซิบบอกบุตรสาวในงานเลี้ยงที่ตนได้รับเชิญมาร่วมงาน

“คนไหนคะ”

 ผู้เป็นลูกมองไปยังแขกผู้มีเกียรติที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง

ของโรงแรม ก่อนที่สายตาจะสะดุดเข้ากับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผู้มีใบหน้า

คมคาย นัยน์ตาดำสนิทในกรอบใหญ่ดูโดดเด่น คะเนอายุคงเลยเบญจเพสไปไม่กี่ปี

“ใช่คนที่อยู่ทางซ้ายหรือเปล่าคะ คุณแม่”

“ไม่ใช่...นั่นชื่อวลัญช์ เป็นแค่มือขวา”

“อายุแค่นี้ได้เป็นถึงมือขวาแล้วหรือ...”

น้ำเสียงบุตรสาวบอกถึงความทึ่ง

“นั่นไม่ใช่คนที่ลูกควรจะสนใจ” ผู้เป็นแม่ขัด

“คนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ผึ่งผายนั่นต่างหาก ถึงจะคู่ควรกับลูก...ดูให้ดีสิ

ท่าทางเขาสมาร์ตกว่าใครทั้งหมด”

ลูกสาวมองตามที่มารดาบอกแล้วอดติงไม่ได้

“แต่ท่าทางจะอายุไม่น้อยแล้วนะคะ”

“ถึงจะอายุสี่สิบกว่า แต่รวยไม่รู้เรื่อง...ลูกต้องเลือกให้เป็นนะรุจิมน

ตอนนี้ฐานะการเงินครอบครัวเราเป็นยังไง ลูกก็รู้อยู่...ผู้ชายอายุสี่สิบกว่า

ไม่ถือว่าแก่หรอกลูก ผู้ชายน่ะนะ ต้องเป็นผู้ใหญ่หน่อยถึงจะเป็นหลัก

ให้เราได้” คุณหญิงพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน แต่บังคับด้วยสายตา

ในที่สุดบุตรสาวก็ต้องติดตามมารดาไปทำความรู้จักกับบุรุษผู้นั้น

คนทั้งสองไม่ได้หันมา จึงไม่รู้ว่าบริกรร่างเล็กที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลัง

ได้ยินโดยตลอด ดวงตากลมโตสีน้ำตาลจัดที่มองไปยังร่างพ่อเลี้ยงสารัตถ์ฉายแววประหลาด

เจ้าของดวงตาลอบมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วหลบแวบหายไปจากตรงนั้นก่อนที่ใครจะทันผิดสังเกต

 

“สวัสดีค่ะ พ่อเลี้ยง”

วลัญช์มองสตรีวัยกลางคนที่เข้ามาทักนายจ้างของเขา ก่อนจะระลึก

ได้ว่าสตรีผู้นี้คือคุณหญิงรติมา เจ้าของธุรกิจโรงแรมหรู ซึ่งรู้จักกับคุณหญิง

สุธาสินี มารดาของนายจ้างเขา

“สวัสดีครับ คุณหญิง”

“รุจิมน ลูกสาวดิฉันเองค่ะ เพิ่งเรียนจบจากนอกมาหมาดๆ” หล่อนแนะนำบุตรสาว

เจ้าตัวยกมือไหว้เรียบร้อย แต่นัยน์ตาลอบชำเลืองมาทางชายหนุ่ม

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

สารัตถ์รับไหว้อย่างผู้ใหญ่ แล้วแนะนำว่า

“นี่วลัญช์ ผู้ช่วยของผม”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

รุจิมนได้โอกาสมองเขาตรงๆ จนมารดาหล่อนทำตาเขียว

วลัญช์ได้แต่ยิ้มจืดๆ ยืนฟังคุณหญิงรติมาร่ายยาวถึงคุณสมบัติของ

ลูกสาวตัวเองกับนายจ้างเขา

ในขณะที่สารัตถ์ไม่ได้แสดงความสนใจเป็นพิเศษ ได้แต่คุยไปตาม

มารยาท ไม่ช้าก็ขอปลีกตัวอย่างละมุนละม่อม ท่ามกลางความโล่งใจของชายหนุ่ม

นายจ้างเขาเป็นที่สนใจของเพศตรงข้ามอยู่ไม่น้อย เพราะยังโสด

แถมหน้าตาและฐานะยังเอื้ออำนวย แต่หนุ่มใหญ่กลับไม่อยู่ในงานเลี้ยงนานนัก

“พ่อเลี้ยงจะกลับแล้วหรือครับ” เขากระซิบถาม

“ฮื่อ...แต่ถ้านายอยากอยู่ต่อก็ตามใจนะ” สารัตถ์ใจกว้าง “ดูเหมือน

ว่าลูกสาวคุณหญิงรติมาจะสนใจนายเป็นพิเศษ”

“อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ คุณหญิงแกมองตาเขียวอย่างกับอะไร ท่าทาง

คงอยากให้ลูกสาวสานสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงมากกว่า”

หนุ่มใหญ่ได้แต่โคลงหัว ไม่พูดอะไรต่อ

ทั้งคู่ออกจากงานเลี้ยงก้าวขึ้นรถสปอร์ตอเนกประสงค์สีขาวที่พนักงาน

โรงแรมขับมาจอดเทียบตรงประตู

วลัญช์เดินอ้อมไปประจำที่คนขับ ในขณะที่ร่างสูงผึ่งผายในชุดสูท

ภูมิฐานของสารัตถ์ก้าวขึ้นทางประตูหน้า โดยมีพนักงานปิดประตูให้อย่างเรียบร้อย

รถเคลื่อนออกจากที่อย่างช้าๆ สู่การจราจรคับคั่งในตัวเมือง วลัญช์

ขับรถไปเรื่อยๆ การจราจรไม่ถึงกับติดขัด เพราะไม่ใช่เมืองหลวง

เมื่อห่างจากย่านจอแจการจราจรก็คล่องตัว เขาเริ่มเร่งความเร็ว

เมื่อรถแล่นออกสู่ถนนรอบนอก

“ความจริงนี่ก็ยังไม่ดึก นายน่าจะอยู่เที่ยวในเมืองต่อ ฉันขับรถกลับ

ไร่เองก็ได้” สารัตถ์เอ่ยขึ้น

ไม่ได้หรอกครับ คนขับรถไม่ได้มาด้วย คุณหญิงสั่งไว้ว่าไม่ให้พ่อเลี้ยงขับรถเอง”

ผู้สูงวัยกว่าถอนใจใหญ่

“ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุในคราวก่อน คุณแม่ก็ห้ามไม่ให้ฉันขับรถเอง

ทำเหมือนฉันเป็นเด็กๆ ไปได้”

“แล้วพ่อเลี้ยงขับรถใจลอยจริงหรือเปล่าล่ะครับ”

คนถูกถามเงียบไป ไม่ได้ตอบคำ

วลัญช์เหลือบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของนายจ้าง แม้นัยน์ตาคม

สีน้ำตาลเข้มจะมองไปข้างหน้า แต่ชายหนุ่มก็สังเกตเห็นแววหมองๆ ปรากฏ

ขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะเบิกกว้าง

“ระวัง!”

เสียงเตือนทำให้เขาหันกลับและรีบเหยียบเบรกเมื่อพบว่ามีร่างหนึ่ง

อยู่บนทางรถ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ถนนยังว่างอยู่แท้ๆ

รถหยุดกึก ในขณะที่ร่างนั้นล้มฟุบลงไปกับพื้น

“ยังไม่ทันชน ล้มไปได้ยังไง” วลัญช์เอะอะ

“อาจจะตกใจ ฉันลงไปดูเอง!” สารัตถ์กล่าวแล้วเปิดประตูพรวดลงไป

ชายหนุ่มห้ามไม่ทัน เวลานี้เกือบสี่ทุ่มแล้ว ถ้าอยู่ในเมืองก็ไม่ถือว่าดึก

แต่นี่เป็นถนนรอบนอกแยกมาจากถนนใหญ่ และเข้าใกล้เขตดอย เขา

เกรงว่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลจึงรีบตามลงไปด้วย

“หนู...เป็นอะไรหรือเปล่า” สารัตถ์แตะร่างนั้นอย่างเบามือ

ทว่าเจ้าของร่างไม่กระดุกกระดิก ลักษณะคล้ายคนหมดสติ

วลัญช์ที่ตามลงมากวาดมองไปทั่วๆ คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ ต้องระวัง

เอาไว้ก่อน เกิดเป็นแผนดักปล้น เขาและนายจ้างอาจได้รับอันตราย

เมื่อเห็นว่าไม่มีพรรคพวกโผล่ออกมาจากข้างทางอย่างที่นึกกลัว

ชายหนุ่มจึงค่อยย่อตัวลงสำรวจร่างที่นอนนิ่งไม่ไหวติง

ตอนแรกมองไม่ออกในปราดเดียวว่าเป็นชายหรือหญิง เพราะเจ้าตัว

สวมหมวกผ้าอยู่ด้วย ต่อเมื่อเอาหมวกออก และได้สัมผัสผิวแก้มจึงแน่ใจว่าเป็นหญิง

“ไม่เห็นมีบาดแผลอะไรที่ตรงไหน”

วลัญช์เขย่าตัวแรงๆ

“นี่เธอ...ตื่นได้แล้ว...ไม่งั้นจะเรียกรถมูลนิธิมาจัดการ!”

สารัตถ์ขยับจะห้ามปรามก็พอดีร่างนั้นเริ่มขยับตัว

“โอย...”

เสียงครางลอดออกมาจากริมฝีปาก

“คุณขับรถชนฉัน...”

“นี่...น้อยๆ หน่อย ยังไม่ทันได้ชนสักนิด เธอล้มลงไปเองต่างหาก!”

คนขับไม่ยอมรับข้อกล่าวหา

คู่กรณีซึ่งไว้ผมม้าหน้าตาอ่อนเยาว์หันไปทางสารัตถ์ ก่อนจะร้องไห้โฮ

ชี้ไปทางเป้ที่หล่นอยู่บนพื้นห่างออกไป

“ข้าวของพังหมดแล้ว ขับรถชนแล้วไม่รับผิดชอบ...ใจร้ายที่สุดเลย!”

“ใจเย็นก่อนนะหนู...อย่าร้อง...ฉันรับผิดชอบเอง!”

เจ้าของรถกล่าวด้วยน้ำเสียงประนีประนอม เสียงร้องไห้จึงค่อยซาลง

“แต่พ่อเลี้ยง...เราไม่ผิดนะครับ!”

“เอาน่า...ลัญช์...ฉันไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงโรงพัก เดี๋ยวคุณแม่ฉันรู้เข้า

จากเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่”

วลัญช์ไม่ชอบใจ ท่ามกลางแสงไฟหน้ารถ เขาเห็นดวงตากลมโต

สีน้ำตาลจัดของคู่กรณีฉายแววเจ้าเล่ห์เมื่อได้ยินคำพูดของนายจ้างเขา

“งั้นพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลดีมั้ยครับ”

พอชายหนุ่มถามแบบนั้นก็สังเกตเห็นเจ้าหล่อนออกอาการสะดุ้งนิดๆ

สารัตถ์ไม่ทันได้พูดอะไร อีกฝ่ายก็พูดขึ้นเสียก่อน

 

“ที่โรงพยาบาลคนเยอะ เดี๋ยวจะกลายเป็นข่าวใหญ่เสียเปล่าๆ ฝันรู้ว่า

พ่อเลี้ยงสารัตถ์เป็นคนมีชื่อเสียง”

“หนูชื่อฝันงั้นหรือ” เสียงถามส่อแววเอ็นดู

วลัญช์ยิ่งไม่ชอบใจเข้าไปใหญ่ ยายผมม้าหน้าอ่อนนี่ต้องเป็นพวก

สิบแปดมงกุฎที่จ้องจะตีสนิทนายจ้างเขาแหงๆ!

“ค่ะ ฝันมีชื่อเต็มๆ ว่าปลายฝัน”

“เธอไม่อยากไปโรงพยาบาล คงอยากได้เงินมากกว่าใช่ไหม” ชายหนุ่มถามตรงๆ

“ฝันอยากได้งานทำมากกว่า...งานอะไรก็ได้ ถ้าพ่อเลี้ยงจะกรุณา”

นั่นปะไร ในที่สุดแม่สิบแปดมงกุฎก็เผยความต้องการออกมา...

“เสียใจ ตอนนี้เรายังไม่มีตำแหน่งว่าง!”

วลัญช์รีบตัดช่องทางของหล่อน เลยถูกมองตาขุ่น

“บางทีฝันอาจจะเปลี่ยนใจโทร. เรียกตำรวจมาตอนนี้ก็ได้”

แทนที่จะไม่พอใจกับคำขู่กลายๆ ของอีกฝ่าย กลับมีรอยยิ้มขัน

ฉาบฉายขึ้นในแววตาของสารัตถ์

“ฉันคิดว่าผู้ช่วยฉันคงหางานให้หนูทำได้สักตำแหน่ง”

 

วลัญช์ไม่สบอารมณ์สักนิดเดียวที่ต้องรับสาวแปลกหน้าขึ้นรถมาด้วย

พ่อเลี้ยงสารัตถ์ไปนั่งที่เบาะหลัง ปลายฝันจึงได้นั่งหน้าคู่กับเขา

ท่าทางหล่อนดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตากลมโตของเจ้าหล่อน

มองโน่นมองนี่ไปตลอดทาง

กระทั่งมาถึง ‘ภูดลไม้งามรีสอร์ต’ ในราวยี่สิบนาทีต่อมา ชายหนุ่ม

สังเกตเห็นคนข้างๆ มองออกไปนอกหน้าต่างรถด้วยความตื่นตาตื่นใจ

พอรถแล่นเลยรีสอร์ตขึ้นเนินสูงเข้าไปในไร่ซึ่งเต็มไปด้วยกุหลาบงาม

เจ้าหล่อนยิ่งตาโต

“โอ้โฮ...”

                              (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

"วายร้ายป่วนหัวใจ (พิมพ์คำ)" นำเสนอเรื่องราวของ "วลัญช์" ผู้รู้สึกอยากจะบ้าตายวันละหลายๆ หน เพราะเขาไม่น่าพลาดท่าให้แก่ "ปลายฝัน"หญิงสาวผมม้าหน้าอ่อนคนนี้เลย เมื่อเธอพยายามเข้ามาใกล้ชิดกับพ่อเลี้ยงสารัตถ์ เจ้านายของเขาด้วยการวิ่งตัดหน้ารถ แล้วขอสมัครงาน...พฤติกรรมเหล่านี้ช่างน่าสงสัยสุดๆ พ่อเลี้ยงก็ดูท่าว่าจะเอ็นดูหล่อนเสียเหลือเกิน พอเขาไล่ หล่อนก็กอดรัดแล้วร้องเอะอะ หาว่าเขาจะปล้ำเธอ ! เขาเลยจำต้องยอมรับหล่อนเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วย และคอยจับตาดูไม่ให้คลาดสายตา ยังไงเขาก็ต้องรู้ให้ได้ ว่าหล่อนมาดีหรือมาร้ายกันแน่ !? 

...เธอเป็นใคร มาจากไหน และมาทำอะไร เขาไม่รู้อะไรสักอย่าง ที่เขารู้คือเธอมีแผนการบางอย่างที่เขาต้องรู้ให้จงได้...!!  
 
แล้วเรื่องราวจะดำเนินต่อไป และมีบทสรุปอย่างไร !? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาติดตามร่วมกันในนิยาย "วายร้ายป่วนหัวใจ" เล่มนี้

เขียนโดย "น้ำว้า"

 

496 หน้า


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024