มหัศจรรย์สื่อรัก (อรพิม)

มหัศจรรย์สื่อรัก (อรพิม)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001946
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 230.00 บาท 57.50 บาท
ประหยัด: 172.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

 

 

 

กานติมาก้าวยาวๆ ออกจากอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน เดินตุ่มไปตามทาง ที่เต็มไปด้วยแผงขายสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าเข้าไปยังโครงการหนึ่งของตลาดนัด จตุจักร...โครงการที่มีร้านขายของเก่า ของสะสม สินค้าหัตถกรรม ตลอดจน หนังสือทั้งเก่าและใหม่ตั้งเรียงราย ร้านค้าส่วนใหญ่เป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมขนาด เล็กตั้งประจันหน้ากัน เหลือทางเดินแคบๆ ตรงกลางไว้ให้คนเดิน

เจ้าหล่อนเดินหลบกองหนังสือที่ถูกตั้งทั้งระเกะระกะบนพื้นเพี่อรอการ

จัดเข้าที่และผู้คนที่กำลังยืนเสือกชื้อหนังสืออยู่ตามหน้าร้านต่างๆ มุ่งหน้าไปยัง ร้านที่หมายตา...ร้านหนังสือมือสองขนาดใหญ่ซึ่งหล่อนแวะเรียนมาเป็นประจำ แทบทุกสัปดาห์ ทั้งมาเสือกชื้อหนังสือน่าสนใจกลับไปอ่านและนำหนังสือที่อ่าน แล้วไม่ชอบใจมาขายต่อ ทำให้คุ้นเคยกับถนนหนทางละแวกนี้เป็นอย่างดี

ถึงขนาดว่าหลับตาเดินได้ไม่หลง

หญิงสาวหยุดอยู่หน้าร้านหนังสือชั้นเดียวขนาดสองคูหา หน้าร้านเป็น กระจกใส มองเห็นหนังสือมากมายถูกอัดเรียงอยู่บนชั้นที่ตั้งชิดกระจกและผนังทุกด้าน

หล่อนดันแว่นกันแดดสีขาวอันใหญ่ขึ้นไปคาดไว้บนศีรษะ พลางใช้ ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อบนใบหน้า กระชับกระเป๋าผ้าสีขาวใบใหญ่ที่สะพายอยู่บนบ่า แล้วผลักประตูกระจกใสเข้าไปด้านใน ลมเย็นฉํ่าจากเครื่องปรับอากาศลอยมา ปะทะใบหน้า กลิ่นกระดาษผสมกลิ่นดอกมะลิหอมอ่อนๆ ช่วยเพิ่มความสดชื่น บรรเทาความอบอ้าวจากอากาศด้านนอก ทำให้คนที่เดินฝ่าเปลวแดดมานาน จนแก้มสองข้างกลายเป็นสีชมพูเรื่อต้องคลี่ยิ้มออกมาอย่างสุขใจ

“วันนี้มาชะบ่ายเชียว” เสียงทักด้งมาจากโต๊ะหนังสือทางขวามือ โต๊ะไม้ ขนาดไม่ใหญ่นักตัวเดียวทำมกลางชั้นหนังสือนับลิบที่ตั้งเรียงแถวขนานกันไปจนเต็มห้อง

“พอดีเมื่อคืนกุ้งนั่งอ่านนิยายจนดึกเลยตื่นสายไปหน่อย” กานติมายิ้ม กว้างให้เจ้าของร้านวัยกลางคนอย่างคุ้นเคยจนเห็นลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง

“ว่าแต่เรื่องที่กุ้งสั่งไว้ มีรึเปล่าคะ”

หล่อนถามถึงหนังสือนิยายที่โทร. มาสั่งไว้ตั้งแต่วันพุธ นิยายสยองขวัญ

ที่ผู้เขียนเสียชีวิตไปแล้วและยังไม่มีการพิมพ์ใหม่ จึงได้แต่คอยตามหาจากร้าน หนังสือมือสองเพี่อหามาครอบครอง

“มีจ้ะ โชคดีที่'วันก่อนมีคนเอามา'ขาย'พอดี ป้าเลยรีบเก็บไร้ให้” สตรีร่าง ท้วมยิ้มตอบอย่างกันเอง พลางหันไปที่ชั้นหนังสือซึ่งตั้งอยู่หลังโต๊ะตัวที่หล่อนนั่ง หยิบหนังสือปกแข็งสีแดงค่อนข้างเก่าออกมาวางบนโต๊ะ

คนสั่งตาโต รีบคว้าเจ้าหนังสือตรงหน้ามาลูบๆ คลำๆ ด้วยความชื่นชม หล่อนอยากได้นิยายเรื่องนี้มานานแล้ว แต่หาชื้อที่ไหนไม่ได้เลย ไม่คิดว่าวันนี้จะสมหวัง

หญิงสาวเปิดหนังสือเพี่อสำรวจสภาพด้านใน พบว่านอกจากขอบหน้า กระดาษที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองจากการเก่าเก็บและมีกลิ่นอับแล้ว หนังสือเล่มนี้

อยู่ในสภาพดีทีเดียว

“ป้าเอาเล่มนี้ใส่ถุงรอได้เลยค่ะ เดี๋ยวกุ้งขอไปเสือกหนังสือก่อนแล้วค่อย กลับมาจ่ายตังค์ทีเดียวนะคะ” หล่อนวางหนังสือไร้ที่เดิม แล้วเดินไปยังมุม หนังสือนิยายรักโรแมนติก กวาดสายตาไปตามหนังสือมากมายที่วางเรียงราย

อัดแน่นอยู่บนชั้นตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน

แรกๆ หล่อนจะเสือกหยิบหนังสือที่มืนามปากกาคุ้นเคย แต่นานวันเข้า

ไม่มีผลงานของนักเขียนที่ชื่นชอบเหลือให้เลือกอีกเพราะหล่อนตามอ่านจนหมด แล้ว หล่อนก็จะสุ่มเลือกหนังลือจากคำโปรยปกหลัง ถ้าอ่านคำโปรยแล้วเนื้อหา น่าสนใจ หล่อนจึงจะเปิดอ่านบทแรกเพี่อดูสำนวน โดยไม่ยอมเปิดดูตอนจบ ด้วยเกรงว่าจะทำให้เสียอรรถรสในการอ่าน ก่อนจะตัดสินใจชื้อ

กานติมาเดินวนเวียนอยู่ตามชั้นหนังสือแถวต่างๆ ในร้านเกือบสองชั่วโมง กว่าจะกลับมาที่โต๊ะของเจ้าของร้านอีกครั้งพร้อมหนังสือตั้งใหญ่ที่ทำให้คนขาย ยิ้มแก้มปริ

ชื้อไปเยอะอย่างนี้ของเก่าอ่านหมดแล้วเหรอจ๊ะ”คุณป้าเจ้าของร้านชวนคุย ระหว่างใช้เครื่องสแกนบาร์โคดคิดราคาหนังสือไปด้วย เล่มไหนคิดแล้วค่อย หยิบใส่ถุงพลาสติกใบใหญ่

“โอ๊ย...ระดับกุ้ง อ่านแค่แป๊บเดียวก็จบแล้วค่ะ เอาไว้อาทิตย์หน้า กุ้งจะเอาหนังสือที่อ่านจบแล้วไม่ชอบใจมาขายคืนนะคะ”

“ความจริงหนูอ่านแค่แป๊บๆ แบบนี้ ทำไมไม่ไปเช่าอ่านล่ะ เล่มไหนอ่าน แล้วชอบค่อยชื้อเก็บไว้” เจ้าของร้านแนะนำ

“แถวบ้านกุ้งไม่มีร้านเช่าหนังสือเลยค่ะ ใกล้สุดต้องนั่งรถเมล์ไปเกือบ

สิบป้าย ถ้าต้องนั่งรถไปไกลๆ เพี่อเช่าหนังสืออย่างนั้น กุ้งว่าเสียเวลาและไม่คุ้ม เท่าไหร่ สู้ชื้อไปอ่านอย่างนี้ไม่ได้ เล่มไหนชอบก็เก็บไว้เลย เล่มไหนไม่ชอบค่อย เอามาชาย อีกอย่างร้านป้ามีทั้งหนังสือเก่าหนังสือใหม่ แถมมีมากกว่าร้านเช่า

ตั้งเยอะ กุ้งมาเลือกแบบนี้ดีกว่า สะใจดี” กานติมาตอบ นํ้าเสียงร่าเริง

เจ้าชองร้านพยักหน้าเช้าใจ ระหว่างมองตัวเลขสีเขียวที่ปรากฏอยู่บน หน้าจอเครื่องคิดเงิน

“ทั้งหมดพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาท แต่ป้าลดให้เหลือพันห้าแล้วกัน”

กานติมายิ้มแป้น เพราะอย่างนี้ไงหล่อนถึงชอบมาชื้อหนังลือร้านนี้ นอกจากจะได้เลือกหนังสือในห้องแอร์เย็นสบายแล้ว เจ้าของร้านยังใจดี ลดแลก แจกแถมให้ด้วย

หล่อนหยิบเงินล่งให้พอดี ก่อนรับถุงที่มีหนังสือนิยายทั้งไทยและเทศ เกือบสิบเล่มมาถือเอาไว้ โบกมือลาเจ้าของร้านแล้วหิ้วถุงหนังสือออกจากร้านไปอย่างอารมณ์ดี

 

ได้หนังสือน่าสนใจมาตั้งหลายเล่มแบบนี้ ไม่รู้ว่าคืนนี้จะเสือกอ่านนิยาย เล่มไหนก่อนดีนะ หญิงสาวปรายตามองถุงพลาสติกสีแดงเข้มในมือแล้วคลี่ยิ้ม บางๆ

รู้แล้ว! อ่านเรื่อง ‘หมู่บ้านสาปสยอง’ ก่อนดีกว่า อุตส่าห์อดใจรอหนังสือ เล่มนี้มาตั้งนาน คิดได้แล้วเจ้าตัวก็เดินยิ้มกริ่มมุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน

เพี่อเดินทางกลับบ้านอย่างใจจดใจจ่อ

 

กานติมาหิ้วถุงหนังสือและขนมที่แวะซื้อระหว่างทาง เดินจากหน้า

ปากซอยไปตามถนนสองเลนลึกประมาณสองร้อยเมตร จนถึงร้านสะดวกชื้อ

แห่งหนึ่ง...ร้านที่ติดแอร์เย็นฉํ่า เปิดบริการตั้งแต่สิบโมงเข้าถึงลี่ทุ่ม หล่อนเดิน

ผ่านประตูอัตโนมัติเข้าไปด้านใน พบเด็กหนุ่มรูปร่างผอมแห้ง ใบหน้าเต็มไปด้วย รอยแผลเป็นจากสิวกำลังนึ่งอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุนอยู่หลังเคาน์เตอร์ทาง ขวามือ

“เล้า...จ้อน พี่ชื้อขนมครกกับลูกชิ้นปิ้งมาฝาก” กานติมาล่งถุงขนมในมือ ข้ามเคาน์เตอร์ไปให้อีกฝ่าย

“วันนี้กลับเร็วนี่นา ผมนึกว่าพี่กุ้งจะกลับคํ่าๆ ชะอีก” หนุ่มน้อยวัยสิบเจ็ด ปิดหนังสีอที่กำลังอ่านอยู่แล้วกุลีกุจอรับถุงขนมไปเปิดดูอย่างกระตือรือร้น

จ้อนหรือจักราเป็นลูกชายของคุณป้าข้างบ้านที่มารับจ้างเฝ้าร้าน หา รายได้พิเศษช่วงเสาร์อาทิตย์ สลับกับส้มโอ...เด็กสาวอีกคนที่จะมาทำงานช่วง เย็นวันธรรมดา ทำให้กานติมาได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง ไม่ต้องผูกติดกับการดูแลร้านตลอดเวลา

ร้านสะดวกชื้อแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของตึกแถวลี่ชิ้นสามคูหาที่ตั้งอยู่ สุดซอยแห่งหนึ่งแถวสุขุมวิท กิ่งแก้ว...มารดาของหล่อนกั้นห้องชิ้นล่างเอาไว้ ขายของ พื้นที่ชิ้นบนสุดทั้งชิ้นทำเป็นที่พักอาศัย ส่วนที่เหลือกั้นแยกเป็นห้องๆ ทำเป็นหอพักสตรี

ความที่ราคาห้องพักไม่แพง การคมนาคมสะดวก ใกล้สถานีรถไฟฟ้า

หน้าปากซอยเป็นป้ายรถเมล์ และมีลานจอดรถโล่งกว้างอยู่ฝังตรงข้ามซึ่ง

กินอาณาเขตตั้งแต่ปากซอยถึงท้ายซอย ทำให้หอพักของหล่อนมีผู้เช่าเต็ม

อยู่เสมอ จึงมีรายได้พอที่จะอยู่กันสองคนแม่ลูกได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องขวนขวาย อะไรมาก

“ฮื่อ...พอดีเลือกหนังสือได้เร็วน่ะ แล้วแม่ล่ะ” หล่อนถามหามารดา

ซึ่งปกติมักจะเดินไปเดินมาคอยดูร้านด้วย

“ป้ากิ่งบอกว่าจะไปเก็บค่าเช่าข้างบน เดี๋ยวคงลงมา”

“จริงสิ พี่ลืมไปว่าสิ้นเดือนแล้ว ถ้างั้นพี่เอาหนังลือไปเก็บก่อนดีกว่า เดี๋ยวแม่เห็นจะว่าเอาอีก”

กานติมาพยักพเยิดมาทางถุงหนังลือในมือ แล้วรีบเดินผ่านประตูหลัง ร้านขึ้นบันไดไปชั้นบนสุดเพี่อกลับห้องพัก ซึ่งบันไดนี้จะแยกจากบันไดหลัก

ของหอพักเพี่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ดังนั้นหล่อนจึงไม่ต้องกังวลว่า

จะสวนกับมารดาระหว่างทาง และมีเวลามากพอที่จะเอาหนังลือพวกนี้ไปช่อน ก่อนที่อีกฝ่ายจะเห็น

ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะหลังเรียนจบบัญชีจากมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง แล้ว หล่อนพยายามหางานทำตามสายวิชาที่เรียน แต่ทำได้ไม่เท่าไรก็เบื่อ เบื่อ ระบบ เบื่อเจ้านาย เบื่อการเดินทาง จึงลาออกมาช่วยมารดาดูแลหอพักและ เผ่าร้านขายของแทน โดยได้รับเงินเดือนประจำเป็นกอบเป็นกำ แต่เงินเดือน

ส่วนใหญ่ของหล่อนกลับหมดไปกับการชื้อหนังลือนิยายมาอ่านและสะสมจนเต็มบ้าน ทำให้หล่อนถูกมารดาตำหนิอยู่บ่อยๆ

‘แม่ไม่ได้ห้ามแกอ่านหนังลือนะ แต่แกต้องรู้จักเก็บเงินบ้าง ไม่ใช่เอาเงิน

ที่ได้ไปชื้อหนังลือนิยายจนหมดแบบนี้

‘หมดที่ไหนคะ ยังเหลือพอใช้ได้ทั้งเดือน’ หล่อนเถียง

จะไม่พอได้ไงล่ะ วันๆ แกอยู่แต่ในบ้านนึ่งอ่านนิยาย จมอยู่กับโลกเพ้อฝัน ปล่อยให้แม่หาข้าวหาปลาให้กินจนแทบจะไม่ต้องใช้จ่ายอะไรเลย’ คนเป็นแม่ ค้อนขวับ

‘แหม...แม่ก็ กุ้งอ่านเพี่อความบันเทิงใจเท่านั้นเอง จะให้กุ้งนึ่งเฝ้าร้าน เฉยๆ กุ้งก็เบื่อแย่สิ’ หล่อนยิ้มหวานประจบ

ไอ้งานขายของแบบนี้ บางครั้งก็ไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย แต่บางเวลาก็ยุ่ง เหลือหลาย ดังนั้นถ้าไม่เวลาว่าง หล่อนขอผ่อนคลายด้วยการอ่านนิยายประโลมโลกสักหน่อยจะเป็นไรไป

‘เบื่ออะไร แม่เห็นนะว่าถ้าแกไม่อ่านนิยาย แกก็จะนั่งดูชีรีส์เกาหลี

ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับไอ้หนุ่มหน้าตี๋ในละคร ไม่รู้จะกรี๊ดกร๊าดอะไรกันนักหนา

หล่อสู้พ่อเคนของแม่ก็ไม่ได้’ ตอนท้ายกิ่งแก้วอดพูดถึงพระเอกในดวงใจด้วย

ไม่ได้ ทำเอาคนฟังต้องก้มหน้าช่อนยิ้ม

‘ค่าๆ กุ้งไม่ได้ว่าพระเอกเกาหลีหล่อกว่าพระเอกไทยนะคะ แต่ดูชีรีส์

พวกนั้นแล้วมันอิน นึกอยากเป็นอย่างนางเอกในนั้นบ้างก็เท่านั้น’ หล่อนตอบ

คิดว่าสาวๆ สาวกซีรีส์เกาหลีทั้งหลายคงคิดอย่างหล่อนเหมือนกัน

‘ใช่สิยะ แกถึงได้ติดโปสเตอร์รูปดาราเกาหลีจนเต็มห้องไปหมด’

นึกถึงเสียงพรํ่าบ่นของมารดาด้วยเรื่องเดิมๆ แล้ว กานติมาก็ส่ายหน้า เปิดประตูห้องนอนส่วนตัวเข้าไป กวาดตามองภาพดาราเกาหลีมากมายบนผนัง ข้างเตียงแล้วล่งยิ้มหวานให้ลีจุนกิกับคังจีฮวาน สบสายตานุ่มลึกของฮยอนบิน ก่อนนั่งลงบนเตียงที่ตั้งอยู่กลางห้อง รื้อหนังลีอออกจากถุงอย่างตั้งใจ

หล่อนหยิบหนังสือออกมานั่งพิจารณา ลูบๆ คลำๆ ทีละเล่มด้วยความ

ชื่นชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องหมู่บ้านสาปสยองที่ตระเวนหาชื้อมานาน กระทั่ง ถึงเล่มสุดท้ายที่วางอยู่กันถุง

หนังสือนิยายปกแข็งลีแดงเลือดหมูหนาประมาณหนึ่งนิ้ว หน้าปกพิมพ์ชื่อ ‘เส้นทางหัวใจ’ และ นามปากกา ‘จ. จันทร์หอม’ ด้วยตัว'หนังสือลีทอง

“เอ๊ะ! ฉันชื้อหนังสือเล่มนี้มาด้วยเหรอ” กานติมานิ่วหน้า “จ. จันทร์หอม? ใครกัน ไม่เห็นรู้จักเลย หรือว่าคุณป้าหยิบผิด ใส่ถุงเกินมา” เจ้าตัวหันกลับไป

นับจำนวนหนังสือที่ชื้อมา พบว่าหนังสือเกินมาหนึ่งเล่มจริงๆ

“หยิบผิดมาจริงๆ ด้วย” คนพูดโคลงศีรษะ “แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว

ลองอ่านดูหน่อยดีกว่าเผื่อสนุกจะได้ไปจ่ายตังค์เพิ่มแล้วเก็บไว้เอง แต่ถ้าไม่สนุก จะได้เอาไปคืนอาทิตย์หน้า” เจ้าหล่อนบอกตัวเองยิ้มๆ มีหนังสือนิยายให้อ่าน เพิ่มอีกเล่มอย่างนี้ เป็นใครจะไม่ชอบ

หญิงสาวทำทำจะพลิกอ่านเนื้อหาด้านใน ทว่าเลียงเคาะประตูห้องดัง ชัดจังหวะเลียก่อน

“กุ้ง อยู่ในห้องรึเปล่า?”

กรี๊ด....แม่มา!

คนถูกเรียกตาเหลือก หมดความสนใจกับหนังลือในมือ รีบเก็บหนังลือ ทั้งหมดที่กองอยู่บนเตียงใส่ถุงอย่างรวดเร็วแล้วกระโจนลงจากเตียง ตรงไปเปิด

ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ใกล้ๆ ชุกถุงนั้นไว้มุมตู้ จัดแจงปิดประตูตู้ให้เรียบร้อย ก่อนเดินมา เปิดประตูรับหน้ามารดา

“มีอะไรเหรอแม่” เจ้าหล่อนปันหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ถามเสียงหวาน

กิ่งแก้วไม่ตอบ แต่เดินเข้ามาในห้อง กวาดตามองไปรอบๆ ไล่ตั้งแต่เตียง นอนทางขวามือ ไปยังชุดโซฟาเบดและโซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่อีกฟากของห้อง

ทีวีจอแบน ก่อนมองผ่านชั้นหนังลือที่ตั้งติดผนังทอดยาวมาถึงประตูห้อง แล้ว วกกลับมาหยุดตรงดวงตาใสกระจ่างของลูกสาวที่กำลังมองหล่อนด้วยท่าทาง แปลกใจเสียเต็มประดา

“แม่มองหาอะไรเหรอ บอกกุ้งมาสิ กุ้งจะได้ช่วยหา” กานติมาแสร้ง

ขันอาสา ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าอีกฝ่ายกำลังมองหาอะไร

“จะหาอะไร ถ้าไม่ได้หาหนังสือที่แกชื้อมาใหม่” กิ่งแก้วตวัดเสียงตอบ งอนๆ ใบหน้ากลมแป้นงองํ้า

“ใครบอกแม่ว่ากุ้งชื้อหนังสือมา ไม่มี...ไม่มี”

“แกไม่ต้องปฏิเสธ ลองแกหายออกไปแล้วกลับมาหน้าตายิ้มน้อยยิ้ม ใหญ่แบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแกไปชอปหนังสือนิยายกลับมาอีกเป็นตั้งแหงๆ”

คนเป็นแม่ดักคอด้วยสีหน้ารู้เท่าทัน พลางชี้มือไปที่ชั้นหนังสือทางซ้ายมือ แล้ว

บ่นต่อ “ดูสิว่าแกชื้อหนังสือมาเก็บไว้จนแทบจะล้นบ้านอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเลิกซื้อซะที”

“มันเป็นความสุขของกุ้งนี่นา กุ้งจะเลิกซื้อได้ก็ต่อเมื่อคนเขียนเลิกแต่ง เท่านั้นแหละ” ตอบแล้วเจ้าตัวก็รีบเข้ามาเกาะแขนอวบๆ ของมารดา พูดเสียงอ่อนเสียงหวานต่อไปว่า “ตอนนี้กุ้งซื้อน้อยลงแล้วจริงๆ นะ ซื้อเฉพาะเรื่องที่ชอบเท่านั้น ส่วนไอ้ที่แม่เห็นกุ้งอ่านๆ อยู่น่ะ เป็นนิยายมือสองทั้งน้าน กุ้งอ่านจบก็เอาไปขายต่อ ไม่ได้ซื้อมากองไว้ที่บ้านหรอก ไม่เชื่อแม่ไปดูที่ชั้นหนังสือได้เลย หนังสือยังมีอยู่เท่าเดิมเหมือนในลิสต์ที่แม่มาแอบจดไว้เมื่อเดือนก่อนเปี๊ยบบบ”

“ใครบอกว่าฉันแอบมาจดรายชื่อหนังสือของแกยะ” กิ่งแก้วแหวใส่ เพี่อ

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อสาวน้อยนักอ่านตัวยงเกิดหลุดเข้าไปในโลกนิยาย แล้วต้องสวมบทบาทสาวใช้จำเป็น คอยช่วยเหลือนางเอกแสนดีของเรื่องให้พ้นเงื้อมมือแม่เลี้ยงใจร้าย แถมยังต้องรับมือกับหนุ่มหล่อจอมเจ้าชู้ที่คอยตามตอแยให้หัวใจหวั่นไหว แล้วงานนี้เธอจะหาทางกลับสู่โลกแห่งความจริงได้อย่างไรโดยไม่ทิ้งหัวใจเอาไว้ ในเมื่อยิ่งเธอเข้าไปยุ่งมากเท่าไร เนื้อหาในเรื่องกลับยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเท่านั้น!


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024