ใจแต่งรัก (สรัสจันทร)

ใจแต่งรัก (สรัสจันทร)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160006618
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 290.00 บาท 72.50 บาท
ประหยัด: 217.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1

เรียกเขาว่า (เจ๊) อีกา

 

ป่าไม้เขียวชอุ่มกรองแสงแดดจัดจ้าจนพื้นดินไม่ร้อนจัด

ทําให้พื้นที่บริเวณนั้นยังมีความสมบูรณ์อยู่มาก ภาพยนตร์เรื่องรักข้ามมิติ จึงได้เลือกมาถ่ายทําที่นี่ หลายครั้งกองถ่ายใช้เวลากว่าสิบชั่วโมงเพื่อเตรียมถ่ายฉากใดฉากหนึ่ง ที่มีแสงธรรมชาติรําไรเหมาะแก่การถ่ายทําซึ่งปรากฏอยู่บนจอภาพยนตร์เพียงไม่กี่นาที

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของการเตรียมการถ่ายทํา  ชายหนุ่มซึ่งมีใบหน้าเกลี้ยงเกลา  เห็นแวบเดียวก็รู้ทันทีว่าดูแลตัวเองดีเพียงใด จับแปรงแต่งหน้าอย่างทะมัดทะแมงปัดลงบนใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งอย่างเชี่ยวชาญ ใบหน้าของเขาเรียบเฉย ตั้งใจทํางานให้รวดเร็วเพื่อแข่งขันกับเวลาที่มีอยู่น้อยนิด

กานนบอกให้หญิงสาวผู้นั้นหลับตา  และฉีดสเปรย์น้ำแร่เพื่อให้เครื่องสําอางติดทนทาน  ทุกคนรอบข้างจึงทราบว่าการแต่งหน้าครั้งนี้เสร็จสิ้นแล้ว

“ขอบคุณนะคะ”

นางเอกสาวยิ้มให้ ทว่าชายหนุ่มยังทําหน้าเฉยและหันไปจดรายการเครื่องสําอางที่ใช้ในฉากนี้ลงในสมุดบันทึก  หญิงสาวจึงได้แต่ยิ้มเก้อๆ  และเดินออกไปจากเต็นท์ที่จัดไว้สําหรับแต่งหน้านักแสดงเพื่อไปเข้าฉากต่อไป โดยไม่ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบที่ดังเบื้องหลังเลย

“น้องพร”

“ขา?”  พรกมลซึ่งกําลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมเสื้อผ้าสําหรับ

ฉากต่อไป เงยหน้าขึ้นขานรับ “อะไรคะพี่สา”

“คิดว่าเจ๊กาแกเป็นเกย์หรือเปล่า”

“เจ๊กา?” คนอะไรชื่อกา...เธอคิด

“พี่สาหมายถึงใครหรือคะ”  พรกมลหันไปมองช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองอย่างแปลกใจ

“อูย...น้องพรขา ไปอยู่ที่ไหนมา”

“ไม่ได้ไปไหนนี่คะ พรก็เช็กของอยู่ที่นี่สักพักแล้ว”

“อุ๊ย!  ใครเขาหมายถึงเรื่องนั้นกันคะ  พี่หมายถึงว่า...ทําไมน้องพรถึงไม่รู้จักคุณกานน”

“คุณกานน? ใครคะ”

“ตายแล้ว งั้นน้องพรต้องตกข่าวแน่ๆ”

“อ๋อ” ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ “ข่าวเรื่องอะไรหรือคะ”

“ก็เรื่องยายนางเอกนั่นน่ะสิ  สมน้ำหน้ายายพราวจริงๆ  อ่อยใครไม่อ่อย  มาอ่อยเจ๊อีกา”  ช่างทําผมสาวประเภทสองกระซิบกับเพื่อนร่วมอาชีพ

“นั่นสิ แต่จะว่าไป เจ๊แกก็น่าอ่อยน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ”

“พวกพี่ๆ  สนใจจะอ่อยใครในกองนี้อีกหรือคะ”  พรกมลถามพลางหัวเราะคิก  อันที่จริงรุ่นพี่ข้ามเพศทั้งสองก็ชอบพูดจาทํานองสนใจผู้ชายหลายต่อหลายคนในกองถ่ายอยู่เป็นประจํา

“อู๊ย...ถ้าอ่อยจริงมีหรือจะมายืนสุมหัวกันอย่างนี้ล่ะจ๊ะ ป่านนี้ออกไป

หาความสุขกันหลังสุมทุมพุ่มไม้ไปเรียบร้อยแล้วละย่ะ”  สาวประเภทสองที่ชื่อสาตอบ “ก็แม่พราว...นางเอกของเราน่ะสิจ๊ะ ยิ้มหวานทําหน้าแป้นแล้นใส่เจ๊อีกาของเรา ไม่ได้รู้เล้ยว่านางน่ะไม่ชอบชะนีอย่างพวกหล่อนร้อก”

“เจ๊อีกาหรือคะ”  หญิงสาวมีสีหน้าสงสัย  “ตกลงเจ๊อีกานี่ใครหรือคะพี่”

“แกนี่ละก็  น้องพรเขาเป็นเด็กฝึกงาน  จะรู้จักได้ยังไงกันนังสา” วิตตี้พูดพลางเก็บไดร์เป่าผมลงในกระเป๋า

“เออ  ฉันก็ลืมไป...  พี่หมายถึงช่างแต่งหน้าใหญ่ของกองเราไงล่ะ ที่ชื่อกานน โน่นไง...คนนั้น” สาพยักพเยิดให้หันไปมองเต็นท์ที่อยู่ติดกัน

พรกมลหันไปและเห็นชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งยืนหันหลังอยู่

แล้วพยักหน้ารับรู้

“อ๋อ ชื่อคุณกานนนี่เอง”

เขาน่าจะเป็นผู้ชายที่รูปร่างสูง โดยกะส่วนสูงจากราวเสื้อที่อยู่ใกล้ๆ กัน  และขนาดเธออยู่คนละเต็นท์กับเขา  ก็ยังเห็นว่าเขากําลังทําอะไรอยู่ แต่อะไรก็ไม่เท่าความโดดเด่นของเขา  ผู้ชายคนนั้นดูโดดเด่นและมีพลังดึงดูดอย่างน่าประหลาด  ขณะที่เขากําลังทํางานอย่างนุ่มนวลกลับรู้สึกได้ถึงความกร้าวแกร่ง ฟังดูขัดกัน แต่เธอรู้สึกว่ามีเสน่ห์ดีไม่น้อย...ก็ไม่แปลกหรอกที่ดาราสาวจะชอบ

“แล้วทําไมถึงเรียกว่าเจ๊...เอ่อ...”  พรกมลเอ่ยแล้วกระดากปาก

ผู้ชายคนนั้นดูไม่มีทีท่าว่าจะเป็น  ‘เจ๊’  อย่างที่ช่างทําผมทั้งคู่บอกเลยแม้แต่น้อย  ก็ดูรูปร่างของเขาสิ  ขนาดเธออยู่ไกลๆ  ยังมองเห็นกล้ามเนื้อได้รูปสวยที่ทําให้เสื้อยืดสีดําธรรมดาที่เขาสวมอยู่กลายเป็นเสื้อที่มีราคา แผ่นหลังกว้าง  แขนของเขาไม่ได้ลีบเล็กหรือนิ่มเผละเหมือนผู้ชายคนอื่นที่พรกมลเคยเห็น แต่มันเป็น...กล้ามที่...

โอ...เอาเป็นว่ามันสวยน่าซบก็แล้วกัน

“เจ๊แกชื่ออีกา เพราะชีดําไปทั้งตัวเลย ไม่เห็นหรือ”

คําพูดของรุ่นพี่ทําให้หญิงสาวเลิกคิ้ว ก่อนจะท้วงด้วยน้ำเสียงสูง

“ฮื้อ!  ถ้าหมายถึงผิว  พรว่าไม่เห็นดําเลยค่ะ  แบบนี้น่าจะเรียกผิวแทนมากกว่านะคะ”

พรกมลเหลือบมองชายหนุ่มอีกครั้ง  ลอบมองสีผิวที่ไม่ขาวจัด

ต่างจากวัยรุ่นสมัยนี้ที่นิยมฉีดสารเพิ่มความขาวตามเทรนด์ประเทศเกาหลีที่ประชาชนไม่ค่อยได้เจอแดด  สีผิวของกานนเข้มกว่าปกติ  อาจเพราะเขาชอบออกกําลังกลางแดดก็เป็นได้  สมัยเธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัย  เห็นเพื่อนๆ ผู้ชายก็ชอบเตะฟุตบอลในเวลาเย็น

แต่ทําไมสีผิวเพื่อนของเธอถึงไม่เป็นสีแทนสวยอย่างกานนล่ะ?

“พี่ไม่ได้หมายถึงผิวจ้ะคุณน้อง พี่หมายถึงเสื้อผ้า ผมเผ้า เครื่องไม้เครื่องมือเขาต่างหากล่ะ  ดูสิ  ดําทะมึนยังกับเล่นของดํา  ไม่รู้บูชาราหูด้วยหรือเปล่า”

“ใจก็ดํา  ฮึ!  ไม่เห็นมาช่วยอะไรพวกเราเลย  แต่งให้แต่ยายพราวกับตัวเด่นๆ เหลือแต่พวกตัวประกอบให้แต่ง”

“เลยกลายเป็นคุณอีกาเลย”  พรกมลหัวเราะคิก...ตลกดี  คนตั้งชื่อให้ก็ช่างคิด “ว่าแต่...พรว่าคุณกานนเองก็ดูแมนออกนี่คะ ไม่น่าใช่เก้งกวางบ่างชะนี”

หรือข้ามเพศแบบพวกพี่...หญิงสาวแอบคิดต่อ

“คุณน้องไม่รู้อะไรซะแล้ว”  วิตตี้จีบปากจีบคอพูด  “คุณพี่เห็นมากับตาเลยจ้ะ ว่าคุณเจ๊แกน่ะมีผู้ชายหน้าตาหล่อมากๆ มาหาที่กองบ่อยๆ”

“ก็ใช่น่ะสิ แถมยังไม่ซ้ำหน้ากันด้วยนะจ๊ะ”

“แต่ผู้หญิงก็มีไม่ใช่หรือคะ” พรกมลถาม “พรเคยเห็นมีผู้หญิงคนหนึ่ง เห็นไกลๆ ก็รู้ว่าสวยมากมาหาเขาเหมือนกัน ตอนแรกก็นึกว่าเป็นดารา แต่พรก็ไม่เคยเห็นหน้าชัดๆ นะ”

“นั่นน่ะเพื่อนแท้ๆ  เลยจ้ะ  ไม่เห็นมีกุ๊กกิ๊กกั๊กอะไรกันเลย”  สาตอบ

“เพราะถ้าเจ๊แกชอบชะนี คงเสร็จยายนางเอกนี่ไปก่อนแล้วละ”

“ไม่แน่นะสา เจ๊แกอาจจะ...”

“รุกรับแปรผันน่ะหรือ”

“ว้าย! บัดสีบัดเถลิง กะเทยรับไม่ได้!”

พรกมลหัวเราะบทสนทนาของเพื่อนร่วมงานทั้งสอง  พอรู้สึกว่ารุ่นพี่ทั้งสองเริ่มเลื่อนเปื้อน  จึงหันไปตรวจตราความเรียบร้อยของเสื้อผ้าที่จะเข้าฉากเดียวกันต่อไป

แล้วบทสนทนาของทั้งสามก็เปลี่ยนไปเป็นเรื่องสัพเพเหระ  ไม่สนใจเต็นท์ที่อยู่ข้างกันนั้นอีกเลย จึงไม่มีใครเห็นว่ารอยยิ้มมุมปากของชายหนุ่มที่ชื่อกานนนั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร

 

ใช่ กานนเป็นช่างแต่งหน้า

เขาไม่คิดอะไรกับบทสนทนาที่เข้าข่ายนินทานั้นหรอก อันที่จริงต้องบอกว่าสมความตั้งใจของเขาแล้ว

เพราะอะไรน่ะหรือ?

เพราะเขาไม่อยากให้สาวแท้และสาวเทียมในกองถ่ายเข้ามาวุ่นวายกับเขาไงล่ะ

ไม่แปลกที่คนทั่วไปจะคิดว่าเขาชอบเพศเดียวกันหรือเกลียดผู้หญิง...ซึ่งเขาไม่ได้เกลียด  และส่วนใหญ่ผู้ชายที่เข้ามาทําอาชีพเดียวกับเขามักมีรสนิยมรักชอบเพศเดียวกัน  ซึ่งกานนเองก็ไม่ตั้งแง่รังเกียจอีกนั่นแหละ เขามองว่านั่นเป็นเรื่องส่วนตัว  มองว่าคนเหล่านั้นคือเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันมากกว่า

ทําไมเขาจึงเลือกเป็นช่างแต่งหน้าน่ะหรือ?  คําตอบง่ายที่สุดที่เขามักตอบทุกคนก็คือ  เขาชอบดูคนสวย...แต่ก็ไม่ใช่เพียงเท่านั้น  การบรรจงละเลงสีโดยใช้ผิวหน้าต่างผืนผ้าใบนั้นไม่น่าเบื่อ  เพราะผิวหน้าของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน  และนั่นหมายความว่าวิธีการก็ย่อมแตกต่างกันไป ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นศิลปะที่ท้าทาย

คนที่ทําให้กานนหันมาสนใจศาสตร์ของการแต่งหน้าก็คือพี่สาวของเพื่อนคนหนึ่งของเขา  กานนจําได้ว่าเธอไม่ใช่คนสวยสะดุดตาหรือมีอะไรต้องตาต้องใจชายหนุ่มอย่างเขาเลย  แต่ในวันรับปริญญา  ผู้หญิงคนเดียวกันกลับดูสวยต่างจากปกติ ทั้งที่ยังเป็นผู้หญิงคนเดิม

กานนเริ่มศึกษาจากคอลัมน์ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งหน้าในนิตยสารผู้หญิง  รวมถึงไปเดินดูตามชั้นเครื่องสําอางตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ จึงค้นพบว่าการแต่งหน้านั้นมีสิ่งที่ลึกซึ้งอยู่อีกมากมาย  เขามักใช้เวลาอยู่ที่ร้านเครื่องสําอางเป็นวันๆ  จนเพื่อนฝูงในคณะวิศวกรรมศาสตร์พากันหัวเราะเยาะ แต่เขาก็ไม่สนใจ กานนหมั่นออกไปทดลองเครื่องสําอางชนิดต่างๆ  ทั้งใหม่และเก่า  บางครั้งก็ประทับใจจนซื้อเอามาเก็บไว้  แต่ไม่เคยได้ใช้ประโยชน์ จนนานวันเข้า ‘สิ่งไร้ประโยชน์’ เหล่านั้นก็มีมากมายโดย ‘ไม่ไร้ประโยชน์’

กานนตัดสินใจได้ในช่วงเวลานั้นเอง...เขาจะเป็นช่างแต่งหน้า แต่เขาจะเริ่มจากตรงไหนล่ะ

ช่างแต่งหน้าในประเทศไทยหลายคนใช้วิธีสั่งสมประสบการณ์จากรุ่นพี่ไปเรื่อยๆ  บางคนก็ใช้โลกสังคมออนไลน์เป็นตัวสร้างอาชีพ...แต่นั่นไม่ใช่นิสัยของเขา  ชายหนุ่มกรุ๊ปบีที่ไม่ชอบยุ่งกับใครและไม่ชอบให้ใครมายุ่งด้วย

คําตอบเดียวที่เหลืออยู่คือการเรียนต่อ และคงต้องเป็นต่างประเทศ กานนตัดสินใจใช้เงินเก็บแทบทั้งหมดที่มีอยู่  ไปเรียนต่อด้านการแต่งหน้าขั้นสูงในสถาบันว่าด้วยศิลปะและการแสดงแห่งหนึ่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา  เขาไม่เคยเสียใจเลยที่เลือกไปเรียนต่อที่นั่น  ดินแดนแห่งเสรีภาพนั้นยังมีอะไรอีกมากมายให้เขาได้เรียนรู้

เริ่มแรกกานนตั้งใจจะเรียนเพียงระดับประกาศนียบัตร  เพื่อให้ได้ใบเบิกทางในการเข้าไปฝึกงานเพิ่มเติมเท่านั้น  แต่เมื่อเรียนไปแล้วเขาก็พบว่าสิ่งที่คิดว่าลึกซึ้งนั้นยังมีศาสตร์ที่ลุ่มลึกกว่า  นั่นคือการแต่งหน้า

สําหรับการทํา Special Effects กานนลงเรียนในสถาบันนั้นโดยไม่ลังเล จนเวลาผ่านไปหลายปี  ในวงการแต่งหน้าก็มีชื่อ  Kanon  ประดับอยู่ในฐานะเมกอัปอาร์ทิสต์มากฝีมือคนหนึ่ง

กานนทํางานเป็นส่วนหนึ่งเบื้องหลังความสําเร็จอยู่ในดินแดนแห่งเสรีภาพหลายปี  จึงตัดสินใจกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอน  เพราะที่ไหนก็ไม่เหมือนบ้าน  แต่การทํางานที่ประเทศไทยนั้นไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด...ไม่สิ มันง่ายมาก แต่น่าเบื่อสุดๆ เลยต่างหาก

กานนลอบถอนหายใจหนักๆ  เมื่อได้ยินเสียงโวยวายของผู้กํากับแว่วๆ  มาว่านางเอกเล่นได้ไม่ดีต่างจากที่หวัง  และได้ยินเสียงกรีดร้องเถียงออกมาว่านี่คือสไตล์ของเธอเอง

ผู้หญิงคนนั้นไม่คิดเลยหรือว่าการกระทํานั้นจะเป็นตัวกระตุ้นรอยตีนกาของตัวเอง?

กานนมองดูสถานการณ์แล้วคิดว่าฉากนี้คงจะยังถ่ายไม่เสร็จง่ายๆ จึงเดินไปหยิบเก้าอี้พับสี่ห้าตัวมาวางเรียงกันไว้  วางกระเป๋าเป้ลงเป็นหมอนแล้วล้มตัวลงนอน  หมายจะทบต้นทบดอกกับเมื่อคืนที่นั่งรถมาเซตฉากกับทีมงาน อันที่จริงเขาเป็นคนหลับง่าย แต่การนอนบนรถโฟร์วีลคันใหญ่ที่แล่นบนทางลูกรังนั้นก็ทําให้เขาตื่นขึ้นมาเป็นพักๆ อยู่ดี

เต็นท์ที่เขาอยู่นั้นค่อนข้างอยู่ห่างไกลออกมา  เสียงที่ลอยมาแว่วๆ ไม่เคยเป็นปัญหาในการนอนของเขาอยู่แล้ว  แต่เสียงรบกวนอย่างอื่นนี่สิ ทําให้เขานอนไม่ได้เสียที

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย เธอกำลังจะตกหลุมรักเกย์ที่หล่อที่สุดในจักรวาล! พรกมลไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายคนหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ชายแท้ๆ พูดคุยกันก็แทบนับครั้งได้ แถมยังชอบทำหน้านิ่งเฉยอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าโลกใบนี้ไม่เคยมีอะไรทำให้เขาหวั่นไหว จะเป็นคนมีทั้งพระเดชและพระคุณต่อเธอมากมาย และที่สำคัญที่สุด ผู้ชายคนนั้นยังทำให้เธอหวั่นไหวจนสะท้านไปทั้งหัวจิตหัวใจ เบื้องหลังใบหน้าเฉยเมยนั้น คานนจ้องจะเคลมเธอตลอดเวลา จนต้องหากข้ออ้างผูกเธอติดกับเขา หวังจะพิสูจน์ความแมน ก็เกย์ที่ไหนจะมาหลงรักสาวน้อยภูธรอย่าเธอได้ จริงไหม!?


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024