เสน่หาวายร้าย

เสน่หาวายร้าย

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160019342
ผู้แต่ง: อุมาริการ์
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

นี่คือปณิธาน

ชุดหนัง!

แม้แต่ร็อกสตาร์ก็ยังไม่สวมชุดหนังไปงานแต่งงานเลย แล้วผู้หญิง

คนนี้...คนที่ชื่อเกี้ยมอี๋น่ะ! กล้าดียังไงถึงคิดจะใส่ชุดหนังไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว

ในงานแต่งงานวันพรุ่งนี้

อัคราคิดด้วยความหงุดหงิด ขณะมองหญิงสาวร่างเล็กปราดเปรียว

ในชุดเสื้อกางเกงหนังสีขาวสะอาด ที่เธอบอกเขาว่าตั้งใจสั่งตัดมาเพื่องาน

มงคลนี้โดยเฉพาะ

แต่...มันไม่ใช่!

ชุดนี้ไม่ใช่แค่บ้า!

แต่ไม่ผ่านอย่างแรง!

โอเค...ชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้สนิทกับเธอถึงขนาดจะเข้าไปยุ่มย่าม

เรื่องการแต่งตัวได้ มิหนำซ้ำความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ค่อนข้างจะซับซ้อน

ไม่น้อย เพราะเพื่อนสนิทของเธอคือเลขาฯ ผู้ช่วยที่เคยเป็นอดีตคนรักของ

เขา และกำลังจะกลายมาเป็นเจ้าสาวของพี่ชายต่างมารดาในอีกไม่กี่ชั่วโมง

ข้างหน้านี้แล้ว แต่ถึงอย่างไรเขาก็ปล่อยให้ฝ่ายนั้นสวมชุดหนังตอกหมุดเงิน

แหลมวาววับเดินไปเดินมาในงานฉลองสมรสคืนนี้ไม่ได้จริงๆ

งานที่นักธุรกิจ นักการเมือง และบรรดาเซเลบริตีทั่วฟ้าเมืองไทยมา

รวมตัวกันอย่างคับคั่ง

แล้วยังผมทรงหัวเม่นนั่นอีก! มีใครที่ไหนทำผมทรงนี้มางานแต่งงาน

ที่จัดว่าเป็นตำนานของเมืองไทยแบบนี้กันบ้างเล่า แค่เห็นปลายผมชี้โด่ชี้เด่

หลากสีสันชนิดที่เม่นยังอาย เขาก็ลืมตัว เผลอเคี้ยวฟันดังกรอดๆ และต้อง

หักห้ามใจแทบตายที่จะไม่เอามือไปยีให้ยุ่งเหยิงไปกว่าเก่า

แม้หญิงสาวจะเป็นโรคคลั่งชุดหนัง ชอบทำผมเป็นเม่นพองขน และ

ชายหนุ่มลงความเห็นว่าเธอทั้ง ‘บ้า’ ทั้ง ‘ห่าม’ และ ‘ห้าว’ แถมยังปากจัด

ขั้นเทพ หรือจะบอกว่าเป็นผู้หญิงชนิดที่เขามักหนีห่างอยู่เสมอก็ไม่ผิดนัก

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่มย่ามในชีวิตฝ่ายนั้น อัคราจึง

ตัดสินใจพูดออกมาว่า

“คุณไปเปลี่ยนชุดใหม่เถอะ อ้อ! ทำผมมาด้วยก็ดีนะ”

ใบหน้าของอีกฝ่ายบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด ปากก็เม้มเป็นเส้นตรงทันที

ท่าทางเหมือนเธอกำลังพยายามนับหนึ่งถึงสิบก่อนที่จะถามเขาว่า

“ทำไมฉันต้องเปลี่ยนด้วย”

“ก็ทำแบบนี้เหมือนไม่รักษาหน้าปัณณ์เลย”

“ชุดฉัน ผมฉัน มันไปฉีกหน้ายายปัณณ์ตรงไหนไม่ทราบ”

“ก็คงไม่ฉีกหรอก ถ้าปัณณ์ไม่ได้แต่งงานกับพี่ชายผม นายห้างของ

เอวาลอนกรุ๊ป หรือผู้นำรุ่นที่สามของอัศวฤทธา”

คำตอบเรียบๆ ของเขาทำให้อีกฝ่ายทำปากยื่นอย่างหงุดหงิด

“แต่นี่มันเป็นสไตล์ของฉันนะ ขืนเปลี่ยนอย่างอื่นก็ไม่ใช่ฉันแล้วละ”

“แต่นี่มันงานแต่งงานปัณณ์กับพี่ชาย ขืนไม่เปลี่ยนก็เหมือนคุณเป็น

บ้...เอ๊ย! ไม่รู้กาลเทศะ และปัณณ์คงกลายเป็นตัวตลก” ชายหนุ่มลดทอน

คำพูดให้อ่อนลงทันทีที่เห็นตาเขียวๆ ของอีกฝ่าย

                “โวะ! ฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะเว้ย ไม่ใช่เป็นเจ้าสาว จะมีปัญหาอะไร

กันนักกันหนา คุณชาย...พี่ชายของคุณ เขายังไม่เห็นเรื่องมากเหมือนคุณ

เลย”

เธอเริ่มเดือด ขึ้นเสียงใส่เขาอย่างหงุดหงิด แต่อัคราไม่ยอมแพ้

ตอกกลับทันควัน

“พี่ชายอาจไม่ทันคิดว่าคุณจะบ้าได้โล่ขนาดนี้”

“บ้างั้นหรือ”

หญิงสาวเค้นเสียง สีหน้าเหมือนพร้อมจะเข้ามาหักคอเขาทุกเมื่อ

อัคราเลยยืนปักหลักเตรียมรับมืออย่างระมัดระวัง เพราะเคยรู้ฤทธิ์กันมา

ก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่หยุดยั่วอีกฝ่าย

“ก็คนดีๆ ที่ไหนเขาใส่ชุดหนังไปงานแต่งงานกันบ้าง” พูดจบก็เริ่ม

ใช้ไม้อ่อนกับอีกฝ่าย “นะอี๋ ถือว่าผมขอร้อง ไม่เห็นแก่ผม ก็เห็นแก่ปัณณ์

ได้ไหม”

พอเห็นหญิงสาวทำหน้าตูมปากยื่นเป็นเชิงประท้วง เลยเสริมต่อ

“รับรองว่างานนี้ผมจ่ายเอง คุณไม่ต้องควักสักแดงเดียว แล้วผมจะ

แถมพิซซาให้คุณถาดใหญ่ด้วย”

“สองถาดได้ไหม”

คำต่อรองนั้นทำให้ชายหนุ่มแอบยิ้ม

“เอาไปสามเลยดีไหม”

“ไม่ แต่เปลี่ยนเป็นพิซซาถาดใหญ่แป้งบางกรอบหน้าโฟร์ชีส กับหน้า

คาร์โบนารา และพาสตาเส้นดำผัดกับหมึกปลาหมึก แถมด้วยขนมปัง

กระเทียมหนึ่งแถว ซีซาร์สลัดอีกจาน ทิรามิสุอีกถ้วยขาดตัว”

“ตกลง”

เขาตอบอย่างใจป้ำ และพาหญิงสาวไปกินอาหารตามที่เธอเรียกร้อง

ก่อนจะส่งตัวอีกฝ่ายให้บิวตีซาลอนที่โด่งดังที่สุดในกรุงเทพฯ เพื่อให้ช่วย

แปลงโฉมเม่นจอมแสบให้เป็นทิงเกอร์เบลล์ในคืนวันแต่งงานที่จะมาถึง

อัครารู้แล้วว่าพี่เลี้ยงนางงามที่เด็กในสังกัดคว้ามงกุฎมาเป็นรางวัลได้

นั้นรู้สึกอย่างไร เพราะเขาเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกันตอนเห็นเกี้ยมอี๋ในชุด

ราตรีสีเหลืองนวลซึ่งขับผิวขาวแกมเหลืองของเธอให้ผุดผ่องอย่างคาดไม่ถึง

ฝ่ายนั้นดูเหมือนนางฟ้าตัวเล็กๆ ที่หลุดออกมาจากดินแดนแห่งเทพนิยาย

เพื่อช่วยให้เจ้าหญิงได้สมรสสมรักกับเจ้าชายหนุ่ม และทำให้บรรดาญาติๆ

ของเขาที่มีมีดโกนอาบน้ำผึ้งซ่อนอยู่บนปลายลิ้นงงงวยกันเป็นแถว

หลายคนถึงกับขยี้ตาเมื่อรู้ว่าเธอคือนักร้องเพลงร็อกสุดห้าวที่มา

เขย่าไมค์ วาดลีลาลวดลายสร้างความสนุกสนานให้พวกเขาในงานเลี้ยง

วันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมาของตระกูลอัศวฤทธา และหลายคนก็หันมามองด้วย

สายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เมื่อรู้ว่าเกี้ยมอี๋มางานพร้อมกับอัครา

ขณะที่ตัวเขาเองนั้นก็ตั้งคำถามนี้ในใจด้วยเช่นกัน ว่าที่ลงทุนลงแรง

ทำเช่นนี้เพราะอะไรกันแน่

เพื่อพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ หรือเพื่อตัวเอง?

แต่จะทำเพื่อตัวเองไปทำไม ในเมื่อเธอคือผู้หญิงที่ทำให้เขาก้าวเข้าสู่

ภาวะหดหายทางเพศอย่างไม่เคยนึกฝันมาก่อน แม้แต่ไวอากร้าหรือยาดอง

รุ่นเก๋าเอาอยู่อย่างม้ากระทืบเมียก็ช่วยอะไรไม่ได้สักนิดหนึ่ง เพราะทุกครั้งที่

อัคราคิดจะประกบริมฝีปากกับผู้หญิงคนไหน ก็มีเสียงแจ๋วๆ ดังขึ้นก้องหู

ไปเสียทุกคราว

‘...บอกเลยนะ ให้จูบกับคุณ ฉันไปจูบหมาดีกว่า!...’

จูบหมา!

ให้ตายเถอะ!

ชายหนุ่มขบกรามแน่นเมื่อนึกถึงตรงนี้ มั่นใจว่าหญิงสาวต้องเข้าใจ

ผิดแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคืนนั้นก็ต้องเกิดความผิดพลาดอะไรบางอย่าง เพราะ

ได้ฝึกปรือวิชาขยี้โอษฐ์นารีนี้มาตั้งแต่สิบขวบแล้ว มีผู้หญิงตั้งไม่รู้กี่คนต่อ

กี่คนที่ตัวอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนยามโดนเขาประกบริมฝีปากด้วย และ

มีผู้หญิงอีกไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ที่อยากให้เขามอบจุมพิตให้สักครั้ง

                แต่...ยายหัวเม่นกลับหาว่าเขาจูบแย่กว่าหมาเลียปาก

คำพูดแค่ประโยคเดียวของเธอทำให้โลกของอัคราพลิกคว่ำ หกคะ-

เมนตีลังกาในพริบตา มิหนำซ้ำหญิงสาวยังทำท่าไม่ยี่หระกับจูบนั้นด้วยการ

ประกาศใส่หน้าเขาว่า

‘...ฉันไม่ใช่คนใจแคบ คุณจูบฉัน ฉันก็ชกคุณไปแล้ว เราก็หายกัน...’

ซึ่งเธอก็ทำได้ตามที่พูดจริงๆ และอัคราควรจะดีใจไม่ใช่น้อยที่อีกฝ่าย

ไม่ถือสาหาความกับการจาบจ้วงที่เกิดขึ้น แต่น่าแปลกที่ชายหนุ่มกลับรู้สึก

เหมือนมีอะไรค้างคาในใจนับแต่นั้น ทั้งยังมีคำถามผุดขึ้นในใจว่า...จูบของ

เขาไม่น่าจดจำขนาดนี้เลยหรือ

มีทางเดียวที่จะไขข้อสงสัยนี้ได้คือจูบกับสาวๆ ให้มากที่สุด เพื่อจะได้

เรียกเอาความมั่นใจกลับคืนมา

ด้วยเหตุนี้อัคราจึงโปรยเสน่ห์ที่มีอยู่เหลือเฟือใส่สาวๆ ที่บังเอิญผ่าน

มาสบตาด้วยอย่างไม่บันยะบันยัง และคืนนี้ก็เช่นกัน...

กว่าจะรู้ตัว มือเขาก็สอดประสานอยู่กับมือเรียวนุ่มของใครบางคน

เสียแล้ว

ฝ่ายนั้นอยู่ในชุดราตรีสุดเซ็กซี่ที่เว้าตรงข้างเอว เปิดเปลือยแผ่นหลัง

ชวนให้เจริญตาและสะดวกมือ

หญิงสาวบังเอิญเอื้อมมือมาหยิบไวน์แดงที่เหลือเพียงแก้วเดียวพร้อม

กับเขาพอดี ชายหนุ่มจึงปล่อยมือจากก้านแก้วพร้อมส่งยิ้มของนายพราน

ผู้เจนศึกรักออกไป

หลังจากนั้นไม่ถึงสิบนาทีอัคราก็รู้ทั้งชื่อจริง ชื่อเล่น นามสกุล วุฒิ

การศึกษา ไปถึงงานอดิเรกของฝ่ายนั้น และอีกห้านาทีต่อมาเธอก็วางมือลง

บนท่อนแขนของเขาอย่างสนิทสนม แล้วเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองจาก

ดิฉันเป็นชื่อเล่น พอครบครึ่งชั่วโมงของการรู้จักกัน เพลย์บอยหนุ่มก็ได้ลิ้ม

รสไวน์แดงแก้วนั้นจากเรียวปากของอีกฝ่าย

รู้สึกโล่งใจในตอนแรกที่ไม่มีเสียงประท้วงว่าจูบของเขาเหมือนหมา

เลียปาก แต่อัครากลับเป็นฝ่ายรู้สึกแปลกๆ เสียเองที่เห็นขนตาปลอมแผง

ใหญ่ยาวทาบทับกับโหนกแก้มสูงราวกันสาดติดชายคา

คงเพราะเกี้ยมอี๋ไม่เคยต้องพึ่งขนตาปลอม

บอกตัวเองในใจแล้วก็ต้องชะงักค้างอยู่อย่างนั้น เมื่อเผลอคิดถึง

ยายเม่นจอมแสบแม้ตอนที่มีหญิงสาวคนอื่นตัวอ่อนระทวยในวงแขน

จุมพิตร้อนรุ่มเลยกลายเป็นชืดชา ขณะที่หญิงสาวในอ้อมแขนเงย

หน้ามองมาด้วยสายตางงงวย ชายหนุ่มจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนขอโทษ พร้อมก่นด่า

ยายตัวแสบที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ และตัดสินใจส่งสายตาหยาดเยิ้มให้

สาวสวยอีกคนที่ยืนทอดสายตาอ้อยอิ่งมองเขาจากอีกมุมของห้องบอลรูม

หลังจากหรี่ตามองสำรวจจนแน่ใจแล้วพบว่าฝ่ายนั้นไม่ได้ติดขนตาปลอม

บางทีถ้าเขาจูบเธอ คงจะเรียกความมั่นใจที่สูญหายไปกลับคืนมาได้

ก็เป็นได้

 

เกี้ยมอี๋ก็มั่นใจเหมือนกัน

มั่นใจว่าอัคราต้องถูกผีบ้ากามเข้าสิง เพราะคืนนี้เธอเห็นเขาจูบ จูบ

และจูบผู้หญิงไปเกือบสิบคนแล้ว คนอะไรทั้งลามก ทั้งหื่นกาม ทั้งยังหน้า

ด้าน ไร้ยางอาย น่าทุเรศที่สุด!

หญิงสาวเจริญพรฝ่ายนั้นในใจยาวเป็นหางว่าว พร้อมบิดริมฝีปาก

คว่ำลงเป็นรูปสระอิ

เพราะแบบนี้ไงเธอถึงไม่อยากแต่งงาน

ผู้ชายทุกคนล้วนเจ้าชู้เหมือนกันหมด โดยเฉพาะคนตรงหน้าที่มีฤทธิ์

มีเดชมากกว่าทุกคนที่เคยรู้จัก เลยอดดีใจแทน สปัณณ์ เพื่อนสนิทไม่ได้ ที่

ไม่ต้องเป็นเจ้าสาวของเขา แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าเพื่อนของเธอไม่ต้องเป็นเจ้าสาว

ของใครเลย เพราะเธอจะได้ไม่ต้องอยู่โยงเฝ้าคานทองวิลลาคนเดียวแบบนี้

ซ้ำยังต้องเดินเตร่ไปมาในงานแต่งงานสุดหรูเหมือนผีเร่ร่อน ดูผิดที่ผิดทาง

เป็นที่สุด เพราะโต๊ะที่ทางผู้จัดงานเตรียมไว้ให้ญาติกับแขกเหรื่อทางฝั่ง

เจ้าสาวนั้นมีรายชื่อแขกจากบ้านเกิดที่เกี้ยมอี๋ไม่อยากเจอในคืนนี้รวมอยู่ด้วย

เธอเลยเลี่ยงหนีมาเสีย

หลังจากดื่มค็อกเทลย้อมใจไปหลายแก้ว ก็ถึงเวลาที่คู่บ่าวสาวต้อง

ขึ้นไปกล่าวคำขอบคุณกับบรรดาแขกเหรื่อบนเวที

เกี้ยมอี๋เริ่มมึนนิดๆ เลยไม่ได้ยินว่าพิธีกรบนเวทีสัมภาษณ์สดพระเอก

นางเอกของงานคืนนี้ว่าอย่างไรบ้าง กระทั่งถึงตอนที่ฝ่ายนั้นพูดว่า ‘เจ้าสาว

คนต่อไป’ ออกมาถึงรู้ตัว พร้อมกับตระหนักได้ว่ากำลังถูกบรรดาสาวโสด

ซึ่งมาร่วมเป็นสักขีพยานในงานฉลองสมรสคืนนี้เบียดจนเธอต้องไหลไปถึง

หน้าเวทีด้วย

เกี้ยมอี๋พยายามมุดหาทางแหวกวงล้อมนั้นออกมา แต่ไม่สำเร็จ เธอ

กลายเป็นไข่แดงอยู่กลางกองทัพสาวโสดไม่ต่ำกว่าสามสิบคน ซึ่งแต่ละคน

ชะเง้อมองจนคอยืดยาวไปที่เวทีอย่างมีหวัง ก็ไม่แปลกหรอก เพราะนี่เป็น

ช่อดอกไม้จากเจ้าสาวของนายห้างใหญ่เชียวนะ ใครๆ ก็อยากได้

แต่ไม่ใช่เธอ!

คำว่า ‘เจ้าสาว’ ถูกขึ้นเป็นอันดับหนึ่งใน ‘บัญชีดำ’ ที่เกี้ยมอี๋ตั้งใจมั่น

ไว้แล้วว่าจะไม่ยอมให้มาแปดเปื้อนชีวิตสาวของเธอเป็นอันขาด เหมือนๆ กับ

ที่ตั้งใจจะไม่เสพยา หรือเป็นเมียน้อยผู้ชายคนไหนๆ นั่นละ

ดังนั้นเมื่อหญิงสาวเห็นสปัณณ์ผินหน้ามามอง จึงส่ายหน้าให้เพื่อนรัก

โดยอัตโนมัติ พร้อมภาวนาให้ฝ่ายนั้นเข้าใจ และโยนดอกไม้ช่อนั้นให้ลอย

ละลิ่วไปทางอื่น

ก่อนที่คำวิงวอนของเกี้ยมอี๋จะสัมฤทธิผล เธอก็สบเข้ากับสายตาของ

ใครบางคนที่เฝ้ามองมา จึงอ้าปากค้างอย่างนึกไม่ถึง และถอนเท้าหนีโดย

อัตโนมัติ ซึ่งนั่นทำให้เธอชนเข้ากับบรรดาคนที่รอดอกไม้ช่อนี้อยู่ และเมื่อ

ช่อดอกไม้แสนสวยของเจ้าสาวลอยลิ่วลงมาหา หญิงสาวก็หนีไม่ทันเสียแล้ว

เธอจึงต้องรับมันไว้โดยไม่ตั้งใจ

ได้ยินเสียงทอดถอนใจสลับกับเสียงกล่าวแสดงความยินดีจากบรรดา

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

รายละเอียด

เกี้ยมอี๋เป็นสาวห้าวตัวแม่ที่ไม่เคยนึกแต่งงานในชาตินี้ 
เธอเชื่อว่าผู้ชายทุกคนเจ้าชู้ และเธอเกลียดผู้ชายเจ้าชู้สุดหัวใจ 
 
อัคราเป็นเพลย์บอยตัวฉกาจที่เห็นสาวๆ เป็นของหวานในยามค่ำคืน 
เขาไม่เคยพิศวาสสาวมาดทอมมาก่อน โดยเฉพาะคนที่ไว้ผมทรง ‘เม่นพองขน’ 
แต่เม่นตัวแสบก็ทำให้เพลย์บอยหนุ่มต้องลบกฎรักทุกข้อที่เคยตั้งไว้ในใจจนเกลี้ยง 
มิหนำซ้ำยังทำให้ชายหนุ่มนึกอยากกินไวอากร้าสักสองแผง เป็นครั้งแรกในชีวิต! 
เพราะเธอบอกว่าเขา...จูบ-ได้-แย่-กว่า-หมา-เลีย-ปาก 
 
เพื่อลบคำปรามาสนี้ หญิงสาวจะต้องถูกอัคราจูบจนกว่าจะถอนคำพูด 
แต่ชายหนุ่มจะจูบเกี้ยมอี๋ไม่ได้ ถ้าไม่แต่งงาน 
และเกี้ยมอี๋แต่งงานกับอัคราไม่ได้ เพราะชายหนุ่มมีแม่ที่รักเขายิ่งกว่าจงอางหวงไข่ 
 
พอเธอหนี เขาก็ยิ่งตาม พอรู้ว่าเธอมีคู่หมั้น เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ 
ขนาดพ่อจอมโหดกับพี่ชายทั้งหกของเธอออกมากีดกัน วายร้ายอย่างเขาก็ไม่หวั่น 
แต่จู่ๆ อัคราก็ได้รับบาดเจ็บจนความจำเสื่อม จำได้เพียงเกี้ยมอี๋คนเดียว 
ซ้ำยังบอกกับคนทั้งคลองหมาแหงนว่าเธอคือเมีย คือแม่ของลูก! 
 
แล้วเธอจะทำอย่างไรดีระหว่าง...พิสูจน์ให้ได้ว่าเขาโกหกตลบตะแลงปลิ้นปล้อน 
กับไล่ให้อัคราไปรับยาที่ช่องสองแล้วกลับบ้าน หรือ... 
ยอมตกกะไดพลอยโจน เป็นเมียอีกฝ่ายให้รู้แล้วรู้รอดไป!

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024