แม่สื่อจอมป่วน

แม่สื่อจอมป่วน

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160006281
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 300.00 บาท 195.00 บาท
ประหยัด: 105.00 บาท ( 35.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1

 

ชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียว ผมยาวระต้นคอ ในชุดแต่งกายแบบ

ลุยๆ คล้ายนักท่องเที่ยวประเภทผจญภัย ก้าวออกมาจากลิฟต์ แล้วตรงไปที่ประตูกระจก ผลักเข้าไป

ทันใดนั้นก็ได้พบกับบรรยากาศที่ตึงเครียดภายในกองบรรณาธิการ

“เวลาจะตัดหรือเติมอะไรก็ดูให้ดีเสียก่อน คำไหนไม่แน่ใจก็ให้เปิด พจนานุกรม ไม่ใช่คิดเอาเองว่าถูก หรือใช้ตามความเคยชินทั้งๆ ที่มันผิด...แล้วเวลาเปิดพจนานุกรมก็หัดดูความหมายเสียบ้าง ไม่ใช่สักแต่ว่าดูคำถูกคำผิดอย่างเดียว แล้วจับใส่ลงไปทั้งๆ ที่มันผิดความหมาย!”

เสียงบรรณาธิการดังมาให้ได้ยิน ในมือถือนิตยสารเล่มใหญ่ที่เปิดหรา

“เราเป็นคนไทย ซ้ำเป็นคนทำหนังสือ ยิ่งต้องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง!”

เขายิ้ม นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่ใหญ่ทอดจับไปที่คนพูด...พี่สาวเขาเอาจริงเอาจังตามเคย

“หนังสือเราเป็นหนังสือสารคดี เพราะฉะนั้นจะต้องมีความน่าเชื่อถือ...คราวหน้าคราวหลังเวลาจะตัดหรือเติมอะไรก็ควรจะตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เข้าใจไหม?”

“ค่ะ” เสียงรับคำอ่อยๆ

“เอาละ แยกย้ายกันไปทำงานได้”

หญิงสาวในวัยใกล้สามสิบผู้คงความสวย เฉียบ เนี้ยบ พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกมา แต่ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้นด้วยเสียงค่อย

"เคียดเลย”

“เครียดย่ะ ไม่ใช่เคียด!” บ.ก. หันไปแก้ให้คราวนี้เขาหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

พี่สาวได้ยินเสียงหัวเราะของเขาก็หันมา และดูเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นทันตา

“อ้าว...ขุน...มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ก็มาตั้งแต่ตอนที่พี่รินพูดว่า เวลาจะตัดหรือเติมอะไรก็ดูให้ดีเสียก่อน นั่นแหละครับ” ชายหนุ่มพูดอย่างขันๆ พี่สาวส่ายหน้าอย่างระอา

“นี่แหละ เหนื่อยใจจริงๆ เขียนคำถูกให้แล้วแท้ๆ ยังอุตส่าห์ไปแก้ให้ผิด”

“พี่รินน่าจะไปเป็นครูสอนภาษาไทยนะครับ”

“ไม่ต้องมาประชดหรอกย่ะ” คนพูดค้อนอย่างไม่จริงจังเพราะทำหน้ายิ้มๆ “ไป...เข้าไปคุยกันในห้องดีกว่า”

เมื่อเดินผ่านเลขาฯ ก็สั่งว่า“ขอชาสำหรับคุณขุนเขาด้วยนะ ส่วนฉัน...กาแฟดำ”

“ค่ะ คุณธาราริน”

ขุนเขาเดินตามพี่สาวเข้าไปนั่งที่ชุดโซฟาในห้องทำงาน ครู่หนึ่งก็ได้ดื่มชาหอมๆ ที่ธารารินสรรหามาไว้รับแขก

“ผมว่าพี่รินควรหาเวลาพักร้อนเสียบ้าง” เขาพูดขึ้นหลังจากวางถ้วยลงบนโต๊ะรับแขกตัวเตี้ย

“จะเอาเวลาที่ไหนมาพักเล่า...นายก็เห็นอยู่แล้วว่างานหนังสือมันจุกจิกจะตาย” ผู้เป็นพี่กล่าวพลางมองอย่างสังเกตสังกา “ว่าแต่...พูดแบบนี้จะมาชวนไปไหนอีกละสิ?”

“เดาถูกเผงเลย ว่าจะชวนไปดูที่ที่พวกเราได้รับมรดกจากคุณตา...ไปนะครับ พี่ริน”

เขาชวนด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าแหยงๆ

“ที่ดินพร้อมบ้านผีสิงที่บ้านไร่ปลายฟ้านั่นน่ะหรือ...นายอยากไปก็ไปคนเดียวเถอะ พี่ไม่เอาด้วย”

“แล้วกันพี่ริน ไปเชื่ออะไรกับข่าวลือ...ผี...เผอ...มีซะที่ไหน”

“นายไม่กลัวผี นายก็พูดได้สิ”

ขุนเขามองพี่สาวอย่างขันๆ

“ผู้หญิงเก่งอย่างพี่รินน่าจะไปพิสูจน์นะครับ จะได้เขียนเรื่องลงในนิตยสาร...ไม่เสียเที่ยว”

“นายไม่ต้องมายุพี่หรอก...นายขุน หนังสือของเราไม่ใช่หนังสือ

ประเภทที่มีเนื้อหาออกไปทางเรื่องลี้ลับหรือผีหลอกวิญญาณหลอนนะ ถ้าเป็นเรื่องการท่องเที่ยวก็ว่าไปอย่าง”

“ว้า...ยุไม่ขึ้นเลยแฮะ” ชายหนุ่มหัวเราะ “แล้วอย่างนี้พี่รินจะกล้าไปเยี่ยมผมที่โน่นหรือ”

ธารารินได้ฟังก็ชักเอะใจ

“พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง”

“ผมได้ย้ายไปอยู่ที่โน่น คำสั่งออกมาแล้ว...กะว่าจะไปวันนี้เลย”

ผู้เป็นพี่นิ่งงันไปอึดใจหนึ่ง จึงหลุดคำถามออกมาได้

“แปลว่านายขอย้าย?”

“ครับ”

“ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็สักพักหนึ่งแล้ว”

ธารารินมองหน้าน้องชายอย่างเห็นใจ

“นายคงอึดอัดเรื่องวจีรัต”

ขุนเขาไม่ตอบ

“ช่างเถอะ ถ้านายไปแล้วสบายใจ พี่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่พี่ว่า

อย่าไปอยู่ที่บ้านไร่ปลายฟ้าเลย ลำบากเปล่าๆ ทนายเขาบอกว่าเป็นบ้านร้าง

ถ้าจะไปอยู่ก็ต้องเสียเวลาซ่อมแซม ดีไม่ดีต้องปลูกใหม่ด้วยซ้ำ แถมรอบๆ บ้านยังรกเป็นป่าอีกต่างหาก อยู่บ้านพักดีกว่า เชื่อพี่เถอะ”

“เราต่างก็ไม่เคยไปที่นั่น ได้แต่ฟังเขาพูดมาอีกที ผมว่าพี่รินอย่าเพิ่งด่วนสรุปเลยครับ บางทีมันอาจจะไม่แย่อย่างที่คิดก็ได้”

“หรือไม่มันก็อาจจะแย่กว่า”

ชายหนุ่มหัวเราะออกมาได้อีกครั้ง

“เอาเถอะครับ ผมจะไปดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกที”

“แล้วนี่จะไปคนเดียวหรือ”

“ครับ...พี่รินไม่ไปผมก็ต้องไปคนเดียว”

คนเป็นพี่ชักห่วง น้องชายเห็นสีหน้าจึงพูดยิ้มๆ

“ที่พูดนี่ผมไม่ได้บังคับให้พี่รินไปหรอกนะ ไม่ต้องทำท่าคิดหนักขนาดนั้นหรอก พี่รินไม่ต้องห่วง ผมเคยรู้จักตำรวจคนหนึ่งชื่อนินนาท...แม้จะคนละรุ่น แต่ถูกอัธยาศัยกันดีทีเดียว ผมนับถือเขาเหมือนพี่ชาย ตอนนี้ได้ยินว่าเขาย้ายไปเป็นสารวัตรอยู่ท้องที่นั้น ขาดเหลืออะไรคงพึ่งพาอาศัยกันได้”

“แบบนั้นก็ค่อยยังชั่ว” ธารารินถอนใจเฮือก

“นี่ก็สายมากแล้ว ผมไปก่อนนะครับ”

เขาขยับลุกขึ้น พี่สาวจึงเดินตามออกมาส่งถึงหน้าลิฟต์ แต่ไม่วายบ่น

“ผมนายยาวปรกต้นคอแล้วนะ ไม่รำคาญบ้างหรือไง”

“ว่าจะตัดอยู่เหมือนกันแหละครับ แต่ไม่มีเวลา”

ธารารินค้อนน้องชาย

“อย่ามาอ้างหน่อยเลย...นายน่ะมันชอบแหกคอก”

“ก็แล้วทำไมผมจะต้องทำตัวให้เหมือนคนอื่นด้วยล่ะครับ”

“พี่ขี้เกียจจะเถียงกับนาย...รักษาตัวด้วยล่ะ”

“ครับ”

“ไปถึงเมื่อไหร่โทร. มาหาพี่ด้วยนะ”

ขุนเขารับปากยิ้มๆ ก้าวเข้าลิฟต์ พี่สาวโบกมือให้ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง

 

พ.ต.ท. นินนาท บริภัณฑ์ นายตำรวจหนุ่มใหญ่ ร่างสูงสง่ามาดเข้ม ผู้มีนัยน์ตาเฉียบคมแต่แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนเพิ่งก้าวออกจากห้องประชุมที่ตัวจังหวัด

ทันใดนั้นก็ได้รับรายงานด่วนเข้ามาว่า สมุนของนักค้ายาเสพติดคนที่เขาต้องการตัวกำลังเดินทางเข้าไปที่บ้านไร่

พอจบการสื่อสาร นายตำรวจจึงรีบสั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วโทรศัพท์หาหลานสาวเป็นอันดับสุดท้าย

ทว่าเจ้าตัวไม่เปิดโทรศัพท์มือถือ เขาก็เลยต้องโทร. ไปที่ร้านขายของที่ระลึก เพราะรู้ว่าวันนี้หลานสาวต้องไปช่วยดูแลร้านแทนแม่ที่ต้องไปช่วยเป็นแม่ครัวในงานบวช

“ฮัลโหล...ไม่ทราบจะเรียนสายกับใครครับ?”

นินนาททำหน้าพิกล ไม่รู้ว่าใครเป็นคนรับโทรศัพท์ เขาจึงต้องกรอกเสียงลงไป

“ขอสายตติยา”

“เฮ้ย...เขาขอสายตติยา...ตติยาไหนวะ?”

มีเสียงตะโกนถาม ชะรอยคนรับโทรศัพท์คงไม่ได้ปิดตรงที่พูด มันจึงดังมาเข้าหูเขา

“ไอ้โง่!” เสียงใหม่ที่ดังขึ้นเป็นเสียงเหน่อๆ

นินนาทรู้ว่าคนทางโน้นด่ากันเอง แต่เหมือนเขาถูกด่าด้วย เพราะเสียงนั้นมันชำแรกเข้ามาในหูเขา

“ตติยาก็พี่สามไง...เขาจะพูดกับพี่สาม...แกรีบเอาโทรศัพท์ไปให้พี่สามเดี๋ยวนี้เลย...ให้ไว...พี่สามอยู่ที่ท่าน้ำ”

หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอะไรต่อมิอะไรเซ็งแซ่ไปหมด รวมทั้งเสียงตะโกน

“พี่สาม...พี่สาม...โทรศัพท์!”

“ใครโทร. มา?” เสียงหลานสาวเขาตะเบ็งถามแข่งกับเสียงเรือหางยาว

“ไม่รู้พี่!”

“ก็ถามสิ!”

“อ๋อ...เออจริงแฮะ” แล้วหมอนั่นก็กรอกเสียงหล่อถามมาว่า “ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ?”

นินนาทพยายามนับหนึ่งถึงสิบ

“บอกเจ้าสามว่าน้าชายโทร. มา...เรื่องด่วน...รีบมารับโทรศัพท์

เดี๋ยวนี้!”

“ชะ...อุ๋ย!” เสียงอุทาน ตามด้วยเสียงหัวเราะแหะๆ “ท่านสารวัตรเองหรือครับ?”

“เออ!”

หลังจากนั้นไม่นานเสียงคนที่ต้องการพูดด้วยจึงดังมาเข้าหู

“น้านาท...มีอะไร?”

“ช่วยออกมาให้ห่างเรือหางยาวหน่อยจะได้มั้ย น้าขี้เกียจตะเบ็งเสียง!”

ครู่หนึ่งเสียงเรือหางยาวจึงห่างออกไป

“คงชัดแล้วนะ น้านาทมีอะไรว่ามาเลย”

“อยากให้ช่วยสังเกตนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือ...มีรายงานว่าสมุนของนักค้ายาเสพติดรายใหญ่จะเดินทางเข้าไปที่บ้านไร่ แต่ไม่รู้ว่ามันจะใช้ทางบกหรือทางน้ำ”

“จริงหรือ!” น้ำเสียงอีกฝ่ายตื่นเต้น “แล้วเจ้านั่นอายุเท่าไหร่ หน้าตาท่าทางเป็นยังไงล่ะ”

“หมอนั่นอายุ ๒๗ ปี รูปร่างสูงเพรียว ผิวไม่ขาวไม่ดำ ไว้ผมยาวปรกต้นคอ ท่าทางออกเซอร์ๆ หน้าตาใช้ได้เชียวละ เพราะเคยเป็นนักแสดงตัวประกอบมาก่อนตอนเป็นวัยรุ่น”

“โอเคเลยน้า ถ้าเจอคนลักษณะนี้ละก็ สามจัดการเอง!”

“เฮ้ยๆ ไม่ได้ให้เราจัดการ!” เขาเอะอะ “เดี๋ยวพ่อเราจะมาเล่นงานน้าเข้าให้...เราแค่โทร. มาบอกให้น้ารู้ก็พอ นอกนั้นน้าจัดการเอง!”

“ว้า...แบบนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ”

“นี่ไม่ใช่เรื่องสนุกนะเจ้าสาม!” นินนาทกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “น้าห้ามเลยนะ ว่าอย่าทำอะไรมากไปกว่าแค่ใช้สายตาดูและโทรศัพท์ส่งข่าว”

“รู้แล้วน่า สารวัตร” พูดจบเจ้าตัวก็ตัดสัญญาณไป

นายตำรวจมองโทรศัพท์ในมือ ไม่แน่ใจว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ให้หลานสาวช่วยสังเกตสังกาเป็นหูเป็นตาให้

ตติยาซึ่งซ่อนร่างเปรียวเอาไว้ภายใต้เชิ้ตแขนยาวพับแขนและ

กางเกงยีนรีบสาวเท้าเอาโทรศัพท์ไปเก็บที่ร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว ก่อนคว้าหมวกแก๊ปใบเก่งมาสวมหัวโดยเก็บหางเปียเดี่ยวเข้าไว้ภายใน แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาเปิดเครื่อง พลางสั่งลูกน้อง

“พวกนายดูแลร้านดีๆ ล่ะ”

“อ้าว...แล้วพี่สามจะไปไหน”

“ไปกินก๋วยเตี๋ยวแถวๆ นี้แหละ” พูดจบก็เดินตัวปลิวออกไป

หญิงสาวเริ่มต้นสังเกตนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมตลาดน้ำ แต่ยังไม่พบคนที่คิดว่าใช่ จึงไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ท่าเรือ หล่อนกินพลาง นัยน์ตาโตดำขลับก็สอดส่ายดูนักท่องเที่ยวที่มาลงเรือเที่ยวทางน้ำเพื่อชมบ้านและสวนที่อยู่ริมคลอง ก๋วยเตี๋ยวหมดไปสองชามแล้วหล่อนก็ยังไม่พบเป้าหมาย

งานตำรวจนี่มันก็น่าเบื่อเหมือนกันแฮะ…ตติยานึกในใจ ยกแก้วโอเลี้ยงที่มีหลอดดูดขึ้นมาดูดของเหลวสีดำเข้าปากเพื่อฆ่าเวลา

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงทุ้มๆ ดังมาเข้าหู

“ป้าครับ...เรือลำไหนไปที่บ้านไร่บ้าง”

หญิงสาวเหลียวไปมอง แล้วก็ต้องเบิกตาโต

ผู้ชายสะพายเป้คนนั้นอายุคงราวๆ ๒๗ ปี รูปร่างสูงเพรียว ผิวไม่ขาวไม่ดำ ผมยาวปรกต้นคอ ท่าทางออกเซอร์ๆ หน้าตาใช้ได้...

อันที่จริงต้องบอกว่าหน้าใช้ได้ แต่ตาเป็นยังไงไม่รู้ เพราะเจ้าตัวสวมแว่นกันแดด

อย่างไรก็ตาม หล่อนก็ได้ข้อสรุป หมอนี่แหละ สมุนของนักค้ายาเสพติดรายใหญ่!

“เรือนำเที่ยวไปทั้งนั้นแหละ คุณ” แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวตอบ “มีทั้งเรือพายพร้อมคนพาย และเรือหางยาว เลือกได้ตามใจชอบ”

“ขอบคุณครับ”

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เขามาที่นี่เพียงเพื่อหลบหลีกจากคู่หมายที่ไม่ได้รัก เธอเรียกตำรวจจับกุมเขาตั้งแต่แรกพบ เขามาเพื่อสืบเสาะปริศนา เธอพลาดท่าตกกระไดพลอยโจน เขารักทุกสิ่งที่เธอเป็น เธอแกล้งเป็นทุกสิ่งเพื่อหลอกว่ารักเขา เขาพยายามพิชิตหัวใจเธอ เธอเดินหน้าเป็นแม่สื่อเต็มขั้น แล้วทั้งเขาและเธอจะลงเอยกันอย่างไร พบกับเรื่องราวความรักที่ชวนลุ้นระหว่างทันตแพทย์หนุ่มสุดเซอร์กับสาวแก่แสนสวย ที่จะมาร่วมกันไขปริศนาลึกลับในบ้านอาถรรพ์ที่ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไป แต่ยิ่งค้นหาความลับที่ซ่อนเร้น ก็ยิ่งได้พบกับความรักที่ซ่อนตัวอยู่ในนั้น สาวแก่นแสนสวยจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ในเมื่อขันอาสาเป็นแม่สื่อชักจูงให้หัวใจหลายดวงหกคะเมนตีลังกา...ไม้เว้นแม้กระทั่งหัวใจตัวเอง


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2025