นพเก้ามนตรา (เก้าแต้ม)

นพเก้ามนตรา (เก้าแต้ม)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160007301
ผู้แต่ง: เก้าแต้ม
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 260.00 บาท 65.00 บาท
ประหยัด: 195.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๕๖

เสียงปรบมือด้วยความชื่นชมดังก้องไปทั่วห้องประชุมเมื่อประธาน

ของบริษัทจินเหวินเสร็จสิ้นการบรรยายและเดินลงจากเวที เกือบหกสิบปี

แล้วที่ตระกูลตั้งกิจพานิชได้บริหารร้านทองอย่างประสบความสำเร็จเรื่อยมา

นับตั้งแต่บรรพบุรุษของพศวัตซึ่งเป็นชาวจีนจากโพ้นทะเล มีเพียงเสื่อผืน

หมอนใบ หลังจากเก็บหอมรอมริบจนเปิดร้านทองแห่งแรกได้สำเร็จ เพราะ

ทำการค้าอย่างซื่อสัตย์สุจริต ธุรกิจจึงเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ จากร้านทอง

เพียงร้านเดียวก็ขยายสาขาออกไปจนกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของ

ประเทศไทย

ทุกวันนี้ ‘จินเหวิน’ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านทองที่มีสาขามากที่สุดใน

ประเทศไทย แต่ยังเป็นแหล่งลงทุนสำคัญของคนทั้งประเทศ

ในสภาวะที่การออมทรัพย์ในธนาคารแทบจะหาผลกำไรไม่เจอ แต่

ทองคำกลับมีมูลค่าสูงขึ้นจนน่าตกใจ เมื่อสี่ปีก่อนพศวัตในฐานะทายาท

รุ่นที่สามของจินเหวินก็ได้ประกาศนโยบายออมทรัพย์ด้วยทองคำออกมา

ตีตลาด สร้างความตื่นตัวให้แก่ทุกคน โดยเฉพาะบรรดาคนรวยซึ่งมีเงิน

เหลือเก็บในธนาคารและต้องการลงทุน จึงพากันหันมาซื้อทองเพื่อเก็งกำไร

มากขึ้น ตอนนี้ทองของจินเหวินจึงไม่ได้จำกัดความต้องการอยู่เฉพาะในหมู่

คนไทยเท่านั้น แต่ยังมีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาร่วมทุนด้วย กิจการ

จึงยิ่งรุ่งเรืองมากขึ้น

เนื้อหาซึ่งชายหนุ่มเพิ่งบรรยายจบไปนับเป็นก้าวใหม่ต่อการลงทุนใน

อนาคต ทำให้บรรดาผู้สนใจเข้ามาจับจองเก้าอี้ในหอประชุมใหญ่จนเต็มหมด

ทุกที่นั่ง เมื่อนักธุรกิจหนุ่มก้าวลงจากเวที ประสิทธิ์ซึ่งเป็นประธานจัดงาน

บรรยายในวันนี้ก็ก้าวเข้ามาทักทาย

“ยินดีด้วยนะครับคุณพศวัต ผมนับถือคุณจริงๆ ยังหนุ่มยังแน่น

แต่มีความคิดกว้างไกลขนาดนี้”

พศวัตได้นำเสนอหลักการในการลงทุน รวมถึงการบริหารเงินสำหรับ

เศรษฐีมือใหม่ที่เบื่อชีวิตแบบเดิมๆ ให้งอกเงยเป็นผลประโยชน์มหาศาล

ในวินาทีนี้ไม่มีใครในกรุงเทพฯ ที่ไม่รู้จักเขา พศวัตเป็นต้นแบบของชายหนุ่ม

ผู้ร่ำรวยและฉลาดแถมยังมีหน้าตาหล่อเหลา

“ทำยังไงได้ล่ะครับ เราเป็นพ่อค้า ก็ต้องทำการค้าขาย มีอะไรที่คิดว่า

พอจะเป็นลู่ทางก็ต้องทำให้หมดละครับ”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุณพศวัตทำให้ทุกคนในวงการทึ่ง ไม่นึกว่าการ

ขายทองคำตอนนี้จะเป็นเพียงแค่แผ่นกระดาษ”

แต่เดิมแม้ทองคำแท่งจะมีราคาดีแต่ติดปัญหาเรื่องการซื้อขาย

แลกเปลี่ยน พศวัตเป็นผู้ปรับระบบให้ลูกค้าสามารถซื้อขายทองคำแท่งได้

ทุกๆ วัน ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบของการซื้อขายไปเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์

ในรูปสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า นำเสนอราคาอ้างอิงตามมาตรฐานสากล

จากสมาคมค้าทองคำให้นักลงทุนได้ติดตาม เพื่อให้สามารถซื้อขายได้

คล่องตัวมากขึ้น

ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน จินเหวินเป็นเจ้าแรก จึงทำให้ลูกค้าจำนวน

มากหลั่งไหลเข้ามาซื้อทองกับจินเหวินมากขึ้น

“อย่าชมผมเลยครับ ผมยังถือว่าใหม่สำหรับวงการนี้ ถ้าคุณประสิทธิ์

มีอะไรก็ชี้แนะได้นะครับ วันนี้ผมคงต้องขอตัวก่อน นัดกับออร์แกไนเซอร์

เอาไว้เรื่องงานแสดงทองโบราณ”

สีหน้าของประสิทธิ์เปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินประโยคหลัง

“นี่คุณพศวัตจะนำทองเก่าออกมาแสดงหรือครับ”

เนื่องจากเป็นตระกูลที่ค้าทองมาหลายสิบปี ทำให้ครอบครัวของ

พศวัตมีทองรูปพรรณในครอบครองเป็นจำนวนมาก หลายชิ้นเป็นสมบัติ

ตกทอดมาจากบรรพบุรุษตั้งแต่เมื่อร้อยปีก่อน บางชิ้นเป็นทองเก่าที่ลูกค้า

นำมาขายให้ทางร้าน อีกทั้งตัวชายหนุ่มเองก็ชอบสะสมทองโบราณ โดย

เฉพาะทองที่ทำจากฝีมือช่างไทยแท้ๆ ซึ่งปัจจุบันราคาสูงจนแทบประเมิน

มิได้ เมื่อได้ยินว่าจินเหวินจะจัดงานแสดงทองโบราณ ประสิทธิ์จึงแสดง

ความสนใจอย่างออกนอกหน้า

“พอดีทางคณะกรรมการของสมาคมฯ ขอร้องมาน่ะครับ เขาอยากให้

คนรุ่นหลังได้เห็นฝีมือทำทองยุคเก่าว่าประณีตแค่ไหน อันที่จริงผมเองก็ไม่

อยากนำออกมาหรอกครับ ของมีค่ามาก การระวังรักษาก็ยาก ไหนจะเรื่อง

โจร แล้วยังเรื่องความเสียหายจากการนำออกโชว์อีก”

“แต่มันเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากๆ เลยนะครับ มีแต่คนอยากชม

กรุสมบัติของจินเหวินกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นฝีมือช่างทองยุคเก่าๆ หาชมที่ไหน

ไม่ได้อีกแล้ว”

“งั้นคงอีกไม่นานเกินรอครับ เพราะงานจะจัดปลายเดือนหน้า ขอเชิญ

คุณประสิทธิ์ไปร่วมงานด้วยนะครับ”

“ผมไม่พลาดแน่นอนครับ ผมจะบอกทุกคนที่รู้จักเลยด้วยซ้ำ โอกาส

ดีแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ”

ทั้งคู่คุยกันอีกเพียงสั้นๆ หลังจากนั้นพศวัตก็หาทางปลีกตัวออกมา

จากประสิทธิ์ได้สำเร็จ ทันทีที่ได้อยู่ตามลำพัง ชายหนุ่มก็เผลอถอนหายใจ

เฮือกใหญ่

แม้จะต้องฝึกออกงานสังคมมาตั้งแต่อายุห้าขวบ แต่เมื่อต้องเจอกับ

คนจำนวนมากและต้องปั้นหน้ายิ้มกลับรู้สึกอึดอัดทุกครั้ง

กระนั้น วันเวลาที่ผ่านมาในโลกธุรกิจก็ได้หล่อหลอมให้เด็กชาย

เติบใหญ่ขึ้นเป็นชายหนุ่มรูปงาม มีบุคลิกที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น และ

การตัดสินใจในเชิงธุรกิจที่เด็ดขาด และเมื่อผนวกกับรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา

ผิวขาวราวกับหยกชั้นดี จมูกโด่ง ริมฝีปากสีแดงจัด และคิ้วเข้มที่พาดอยู่

เหนือดวงตาเรียวรีตามเชื้อชาติ แต่กระนั้นก็ยังแฝงไว้ด้วยความคมเข้มจาก

เชื้อสายไทยอีกครึ่งที่มีอยู่ในตัว เพื่อนในวงการจึงขนานนามเขาว่า มังกรขาว

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า มังกรอย่างพศวัตนั้นมีความอ้างว้างในหัวใจ

เป็นความรู้สึกว่าตนเองขาดในสิ่งที่คนอื่นนึกไม่ถึง นั่นก็คือ แม่...

ความเจ็บปวดทำให้พศวัตไม่เคยไว้ใจใครโดยเฉพาะผู้หญิง บาดแผล

ในอดีตสอนให้เขาเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวแต่ก็เย็นชาอยู่ในที

ร่างสูงก้าวยาวไปตามทางเดินเล็กๆ ภายในโรงแรม ตัดผ่านสวนซึ่ง

ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ลมพัดเย็น ชายหนุ่มแหงนหน้ามองฟ้า ปล่อยให้

สายลมระผิวแก้มเพิ่มความสดชื่น ความหงุดหงิดค่อยๆ คลายลงไปทีละ

น้อย มือกระตุกเนกไทออกก่อนสอดไว้ในกระเป๋าเสื้อสูท เมื่อก้าวถึงรถเบนซ์

ที่จอดอยู่ พศวัตก็เปิดประตูเข้าไป คนขับเคลื่อนรถออกจากโรงแรม

ขณะที่สายตาของชายหนุ่มมองไปนอกหน้าต่างรถ ท้องฟ้าเป็นสีดำทะมึน

ไม่ต่างจากความรู้สึกของเขาในยามนี้เลยแม้แต่น้อย

...มืดมิดหนาวเหน็บประดุจสายลมแห่งราตรี...

คฤหาสน์ของจินเหวินยังคงเหมือนเดิมกับเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน

ไม่มีผิด แม้เจ้าของบ้านจะลงทุนปรับปรุงบ้านเมื่อสองปีก่อน แต่ก็พยายาม

คงลักษณะเดิมเอาไว้เกือบทุกอย่าง ควรแล้วที่บ้านหลังนี้จะถูกเรียกว่า

คฤหาสน์ เพราะกินอาณาเขตถึงหนึ่งไร่ย่านใจกลางเมือง เป็นบ้านสองชั้น

มีพื้นที่กว้างขวางและมีสวนร่มรื่น

รถจอดที่ด้านหน้าตึก พศวัตก้าวลงจากรถเดินเข้ามาในห้องอาหาร

หญิงวัยกลางคนในชุดอยู่กับบ้านสีกรมท่าเดินออกมารับ เป็นปกติที่อรุณี

มักจะรอรับเขาอยู่ตรงนี้

“กลับมาแล้วหรือตาวัต นี่กินอะไรมาหรือยัง น้าเตรียมไว้ให้แล้ว”

“ยังเลยครับ ผมมัวแต่บรรยายบนเวที หิวจะแย่” ชายหนุ่มยกมือ

ลูบท้อง

“งั้นรอหน่อยนะ น้าจะรีบให้คนจัดอาหารมาให้”

อรุณีเดินเร็วๆ เข้าไปในตัวบ้าน พศวัตจึงเดินตามไป เขาทรุดตัวลง

บนโซฟาใหญ่กลางบ้าน มองตามน้าสาวที่ครู่หนึ่งก็กลับมาพร้อมกับน้ำส้ม

เย็นเจี๊ยบ

“ดื่มน้ำส้มก่อน อีกเดี๋ยวอาหารก็มาแล้ว เรานี่อะไรกันนะตาวัต ทำไม

ไม่รู้จักดูแลสุขภาพบ้างเลย จะไปงานทั้งทีก็ต้องหาอะไรรองท้องซะหน่อยสิ

ขืนปล่อยให้ท้องว่างแบบนี้ มีหวังเป็นโรคกระเพาะกันพอดี” อรุณีบ่นพลาง

ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ

“โธ่...น้าณีครับ ก็ผมมีประชุม พอเสร็จจากประชุมก็บรรยายต่อ

นัดคุยกับออร์แกไนเซอร์อีก จะเอาเวลาไหนไปกินล่ะครับ”

“แล้วนายชมไม่ช่วยบ้างเลยหรือ เป็นคนขับรถประสาอะไร อย่างน้อย

ก็น่าจะซื้ออะไรติดไว้ในรถให้วัตกินบ้าง แล้วยังเลขาฯ ของวัตอีก พวกนั้น

มัวทำอะไรอยู่ หรือมัวแต่แต่งตัวสวยล่อเจ้านาย”

ชมคือคนขับรถของพศิน บิดาของพศวัต หลังจากท่านวางมือมอบ

กิจการทั้งหมดให้ลูกชายดูแล คนขับรถของพ่อจึงกลายมาเป็นสารถีส่วนตัว

ให้พศวัตไปด้วย ปีนี้นายชมอายุหกสิบปีแล้ว

“น้าณีครับ อย่างส้มไม่ยั่วผมหรอก เธอเองก็ยุ่งเหมือนกันเพราะ

ต้องเตรียมงาน” พศวัตพูดถึงสมสมร เลขานุการของเขา

“น้าจะไปรู้ได้ไง เห็นเงียบๆ อย่างเราเสน่ห์แรงไม่หยอก ไม่อย่างนั้น

คงไม่มีข่าวลงหนังสือพิมพ์เกือบทุกวันหรอก”

“พวกเขาลือกันไปเองไม่เกี่ยวกับผมสักหน่อย”

ชื่อของพศวัตนับว่าติดโผหนุ่มในฝันของสาวๆ ในประเทศ เพราะ

หน้าตาดี ฐานะร่ำรวย เป็นนักเรียนนอก แถมยังโสดสนิท จึงมีสาวๆ ใน

แวดวงไฮโซและดารานางแบบแวะเวียนมาทอดสะพานไม่ได้ขาด แต่พศวัต

กลับไม่สนใจใคร เขาเป็นนักธุรกิจบ้างาน ผู้หญิงที่สนิทที่สุดก็คือ อรุณี

น้าสาวผู้นี้เปรียบเหมือนแม่แท้ๆ ของเขา นับตั้งแต่มารดาหายตัวไป

ก็ได้อรุณีที่คอยดูแลเอาใจใส่ เลี้ยงดูฟูมฟัก ผิดกับพศินผู้เป็นบิดา เพราะ

ทันทีที่ภรรยาหายออกจากบ้าน เขาก็ไม่เป็นอันทำอะไร

สองปีที่พศินออกตามหาภรรยาไปทุกที่ หลังจากหมดหวังก็เก็บตัว

อยู่ในห้อง ไม่ยอมพูด ไม่ทำงาน อรุณีจึงต้องเข้ามาช่วยบริหารงานจินเหวิน

เป็นระยะๆ

หนึ่งปีให้หลัง พศินก็คิดได้และหันกลับมาทำงานอีกครั้ง แถมยัง

มุมานะยิ่งกว่าเดิม แต่การมุ่งทำงานเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดทำให้หลายครั้ง

นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ลืมไปด้วยซ้ำว่า ยังมีทายาทตัวน้อยที่ต้องการการดูแล

พศวัตจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับน้าที่เขาเคารพรัก

“ข่าว...ถ้าไม่มีมูล ก็คงไม่มีใครเขาลือกันหรอก”

“เอาเป็นว่า คราวหลังผมจะระวังก็แล้วกัน”

“เอาเถอะตาวัต เอ้า อาหารมาแล้ว รีบกินซะ”

พศวัตจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย อาหารมื้อนี้ต้องเป็น

ฝีมืออรุณีอย่างแน่นอน น้าสาวนอกจากช่วยบริหารงานในจินเหวินแล้วยัง

เจียดเวลาทำกับข้าวของโปรดไว้ให้หลานชายอยู่เสมอ

“พอใช้ได้ไหม เยื่อไผ่กระดูกหมูตุ๋นโสม ถือซะว่าเป็นยาชูกำลัง วัต

ทำงานหนักอย่างนี้ต้องบำรุงหน่อย”

“อร่อยมากครับ ฝีมือของน้าณีมีหรือจะไม่อร่อย ถ้าไม่ได้น้าผมคง แย่”

พศวัตยิ้ม ข้าวที่เติมไปถึงสองจานคงเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี

เขายกน้ำขึ้นดื่ม ระหว่างที่น้าสาวชวนคุย

“ปากหวานอย่างนี้ ทำไมถึงยังไม่มีแฟน ใจคอวัตจะอยู่เป็นโสด

ตลอดไปเลยหรือไง”

ไม่ใช่ว่าพศวัตไม่เคยมีแฟน แต่เพราะไม่เคยมีใครที่ทำให้เขารู้สึก

วางใจพอจะแต่งงานด้วยต่างหาก เหตุการณ์เลวร้ายในอดีตทำให้นักธุรกิจ

หนุ่มไม่เคยไว้ใจใคร เขาผ่านโลกมามาก และรู้ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่

เพียบพร้อมเหมือนอรุณี

“โธ่...น้าณี เลิกเหน็บผมซะทีสิครับ น้าก็รู้ว่าวันๆ ผมทำแต่งาน

จะเอาเวลาไหนไปหาแฟนล่ะครับ”

“แล้วหนูลิลลี่ไม่ใช่ตัวจริงหรอกหรือ”

ลลิตาเป็นหนึ่งในคู่ควงของพศวัต หล่อนค่อนข้างจะมีภาษีดีกว่า

คนอื่นๆ เพราะครอบครัวทำธุรกิจขายเครื่องประดับเช่นเดียวกับจินเหวิน

“เธอเป็นแค่คู่ควงครับ”

พศวัตยังรักชีวิตโสด แค่นึกว่าต้องนำชีวิตไปผูกติดกับใครคนหนึ่ง

ก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว เขาเบื่อที่ต้องทำตัวเป็นพนักงานถือของยามพา

หญิงสาวไปชอปปิง เบื่อที่ต้องคอยพูดเอาอกเอาใจใครตลอดเวลา

“แล้วเมื่อไหร่วัตจะพาแฟนมาให้น้าดูบ้างล่ะจ๊ะ อายุเราก็ไม่ใช่น้อยๆ

แล้ว”

“ผมบอกน้าแล้วไงครับว่าผมไม่มีเวลา อีกไม่นานก็จะมีงานอนุรักษ์

ทองโบราณอีก”

“วัตจะจัดงานหรือ ทำไมน้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

“ขอโทษทีครับ ช่วงนี้ผมยุ่งเลยลืมบอก คือคณะกรรมการของ

สมาคมฯ ขอร้องมาครับ เขาอยากส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่รู้จักการทำทองแบบ

โบราณ เดี๋ยวนี้พอมีเครื่องประดับเพชรพลอยเข้ามาตีตลาด คนก็หันไปสะสม

เครื่องประดับพวกนั้นมากขึ้น เขาอยากให้ทางเรานำสมบัติเก่าออกมา

จัดแสดง ให้มีช่างมาแสดงวิธีหล่อทองในอดีต”

“แต่น้ากลัวว่าพวกเขาจะทำให้สมบัติของเราเสียหาย หากดูแลไม่ดี

นอกจากจะถูกขโมยแล้ว อาจจะชำรุดแตกหัก ที่สำคัญทองพวกนี้เป็นสมบัติ

ของก๋งกับตาของเรารวมกัน มูลค่าของมันประเมินค่าไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

ในตอนนี้”

“ผมทราบครับ ผมเองก็พยายามบ่ายเบี่ยงมาตลอด แต่ทำยังไงคณะ

กรรมการก็ไม่ยอมเลย ในเมื่อผมเป็นประธานก็คงต้องทำตามมติที่ประชุม”

“วัตคิดว่าจะใช้ทองชุดไหนจัดแสดงบ้าง”

“ก็คงเฉพาะที่อยู่ในตู้เซฟละครับ ส่วนชิ้นอื่นๆ ที่ไม่มีคนพูดถึง ผม

ก็ว่าจะไม่นำออกไปโชว์ รายการทั้งหมดอยู่ในนี้ละครับ ผมให้ส้มเตรียมไว้

แล้ว”

อรุณีก็เป็นส่วนหนึ่งของกรรมการบริษัทด้วย พอหลานชายเข้ามา

บริหาร หล่อนจึงวางมือ สมบัติมีค่าส่วนใหญ่เก็บไว้ในธนาคาร มีรายการ

แสดงชัดเจน ส่วนชิ้นเล็กๆ ชายหนุ่มก็แบ่งเก็บไว้ในตู้เซฟซึ่งซ่อนอยู่ในที่

ลับตาภายในบ้าน พศวัตหยิบรายการของทั้งหมดในแฟ้มยื่นให้น้าสาว หล่อน

รับมาและพลิกดูแฟ้มทีละหน้า จนกระทั่งถึงหน้าสุดท้าย นัยน์ตาก็เบิกกว้าง

“นี่วัตจะเอาชิ้นนี้ด้วยงั้นหรือ”

ภาพที่เห็นคือภาพของหญิงสาวในชุดไทยประยุกต์สีเหลืองทอง

เครื่องประดับที่สวมใส่อยู่คือสร้อยทองโบราณสลักลวดลายงดงาม กึ่งกลาง

หน้าอกคือทับทรวงเพชรซีกซึ่งประดับด้วยอัญมณีเก้าชนิด อัญมณี

แต่ละเม็ดเปล่งประกายสมกับเป็นของล้ำค่า แม้จะเป็นแค่ภาพสำเนา

แต่ คนในภาพก็ดูโดดเด่น

พศวัตหน้าซีด เขากระชากกระดาษแผ่นนั้นออกจากแฟ้มที่ผู้เป็นน้า

ถืออยู่ แม้สีของภาพจะเลือนรางไปตามเวลา แต่ก็เห็นใบหน้าของหญิงสาว

ในภาพชัดเจน มือที่ถือกระดาษเผลอขยุ้มจนยับยู่ยี่ ชายหนุ่มกัดกรามแน่น

จนเป็นสันนูนด้วยความปวดร้าว

                               (ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

สร้อยนพเก้า รังสรรค์ขึ้นจากรัก หากต้องมนตร์แห่งความตาย ฆาตกรรมและฆาตกรในอดีตถูกปลุกให้มีชีวิตอีกครั้ง บ่วงกรรมจึงนำเขาและเธอให้เป็นผู้ลบล้างอาถรรพ์ ผลพวงแห่งกรรมในอดีตทำให้ อรณิชา ช่างทองสาวแห่งเมืองเพชร ต้องมารับหน้าที่ซ่อม สร้อยนพเก้า สมบัติตกทอดของตระกูลที่ชำรุดให้ ?พศวัต? นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของร้านทองจินเหวิน ทันทีที่หญิงสาวสัมผัสสร้อย เธอก็ได้รับรู้เรื่องราวความรักความแค้นในอดีต และเหตุการณ์ฆาตกรรมปริศนาที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของมารดาพศวัต อรณิชาจึงตกอยู่ในอันตรายเพราะเป็นผู้รื้อฟื้นปมปริศนานั้น ทำให้ฆาตกรที่ซ่อนตัวอยู่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง มีเพียงพศวัตเท่านั้นที่จะช่วยอรณิชาและทำลายอาถรรพ์ของสร้อยนพเก้าได้


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024