Spies in Love : สายลับรุกฆาต (อุมาริการ์)

Spies in Love : สายลับรุกฆาต (อุมาริการ์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001861
ผู้แต่ง: อุมาริการ์
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 260.00 บาท 65.00 บาท
ประหยัด: 195.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

736

736...

อาจเป็นหมายเลขเที่ยวบินของเดลตาแอร์ไลน์ที่เดินทางจากแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ไปยังแซคราเมนโต เมืองหลวงของรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือระยะทาง ในหน่วยไมล์เมื่อวัดจากเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ไปยังเมืองวิลมิงตัน ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา

รวมถึงนํ้าดื่มบรรจุขวดขนาดพกพาที่มีปริมาตรเป็นกรัมและได้รับการวิจัยแล้วว่าเป็นปริมาณเหมาะสมที่สุดสำหรับเดินทาง

ทว่าเมื่อตัวเลขสามตัวนี้ถูกนำมาใช้โดยเซกชัน วัน หน่วยงานข่าวกรอง ลับสุดยอดที่แม้แต่ซีไอเอยังเกรงใจ และขึ้นตรงกับเพนตากอนหรือกระทรวง กลาโหมสหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียว

736...

เลยกลายเป็นรหัสทำลายล้างที่จะเกิดขึ้นกับโรงงานเล็กๆ กลางหุบเขา แห่งหนึ่ง ที่เกาหลีเหนืออ้างว่าเป็นโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า แต่จากข้อมูลลับ

ที่ทางเซกชัน วัน ได้มานั้น ทำให้พวกเขารู้ว่า แท้จริงแล้วโรงงานแห่งนี้เป็น สถานที่เสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมแห่งใหม่และมีกำลังการผลิตสูงจนน่าวิตก เพราะปกติยูเรเนียมที่มีอยู่มากในธรรมชาติคือ ยูเรเนียม ที่ไอโซโทป 238 หรือยูเรเนียม-238 ทว่า ยูเรเนียม-238 เป็นวัสดุกัมมันตรังสีที่นำไป สร้างระเบิดนิวเคลียร์ไม่ได้

แต่เมื่อนำยูเรเนียม-238 มาผ่านกระบวนการบางอย่างจะทำให้ได้ ยูเรเนียม-235 กับพลูโทเนียม-239 ขึ้นมา

วัสดุกัมมันตรังสีทั้งสองอย่างนี้สามารถนำไปผลิตระเบิดนิวเคลียร์ จนถึงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์พิสัยไกลข้ามทวีปที่มีระยะทางกว่าหนึ่งหมื่น ห้าพันกิโลเมตรได้

ความคิดที่ว่าเกาหลีเหนือกำลังกลายเป็นตลาดใหม่ของวัสดุกัมมันตรังสีร้ายแรงและอาวุธสังหารประสิทธิภาพสูงโดยมีลูกค้าเป้าหมายคือกลุ่ม ผู้ก่อการร้ายสากล ที่เที่ยวบอกใครต่อใครว่าพวกเขาคือนักกอบกู้อิสรภาพ ยุคใหม่ที่จะมาปลดแอกทุกคนให้พันจากความเป็นทาสอเมริกา ทำให้เพนตากอนทนนีงเฉย ไม่ได้

ดังนั้น...

7:36 หรือหนึ่งทุ่มสามลิบหกนาที บวกลบไม่เกินสิบวินาที คือเวลาที่ ดวงอาทิตย์ทำมุมสี่ลิบห้าองศากับเส้นขอบฟ้าและเป็นเวลาเดียวกับเครื่องบิน เอฟ-22 หรือเครื่องบินรบล่องหนจำนวนหกลำบินเรียงกันเป็นเส้นตรงเพื่อ ไม่ให้ขีปนาวุธป้องกันทางอากาศกับสัญญาณเรดาร์ตรวจจับภาคพื้นอากาศ ทำงานได้เต็มที่ เครื่องบินเหล่านั้นบรรทุกจรวดนำวิถี 120C จำนวนสามสิบหกลูกและระเบิดอีกหนึ่งหมื่นสองพันปอนด์มาทำลายสถานที่นี้ให้ราบเป็นหน้ากลอง

ทว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ง่ายนักสำหรับเครื่องบินที่บินด้วยความเร็วสูงสุด 1.8 มัค หรือ 1.5 เท่าของความเร็วเสียง ซํ้ายังต้องปล่อยจรวดนำวิถีรวมทั้ง

ทิ้งระเบิดทั้งหมดภายในเวลาไม่ถึงวินาทีเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับได้ แต่ใช่ว่าจะไม่มีหวังเอาเสียเลย...

เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองฝีมีอดีที่สุดของเซกชัน วัน ได้แฝงตัว เข้ามาที่นี่พร้อม คิม ซุงจิน เพื่อนสายลับจาก NIS หรือหน่วยสืบราชการลับ ของเกาหลีใต้ เพื่อช่วยกันติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณล่อจรวดน่าวิถีด้วยเลเซอร์ ไว้ตามจุดเปราะบางทิ้งสิบจุดของโรงงานตามพิมพ์เขียวที่ได้รับมอบมา

นาฬิกาบนข้อมือบอกเวลาหนึ่งทุ่มยี่สิบเก้านาทีกับสามวินาทีตอน ชายหนุ่มทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาเสร็จแล้วและสาวเท้ายาวๆ อย่างรีบเร่ง ผ่านเครื่องตรวจสอบการปนเปื้อนรังสีของโรงงานออกไปยังลานจอดรถ ที่อยู่ทางด้านข้างตัวอาคาร นึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ทุกคนในโรงงานแห่งนี้สวมแต่ชุดป้องกันรังสีที่เป็นเสื้อคลุมสีขาวกับหมวกที่ปิดเลยถึงบ่ากับหน้ากากกรองอากาศบังใบหน้าไว้ตลอดเวลา เลยไม่มีใครให้ความสนใจเขามากนัก

คิม ซุงจิน อยู่ในชุดทหารสีเขียวแกมกากีแล้วตอนที่ชายหนุ่มเปิด ประตูรถจี๊ปที่ติดเครื่องรอแล้วเหนี่ยวตัวขึ้นไป “คุณมาสายไปยี่สิบแปดวินาที”

สายลับหนุ่มชาวเกาหลีใต้พูดเรียบๆ แต่นัยน์ตาเรียวรีฉายตำหนิชัดเจน ทุกนาทีมีค่า การล่าช้าหมายถึงชีวิต

“ผู้การจูพาแขกวีไอพีเข้าไปในโรงงานพอดี”

เขาตอบพร้อมกับรีบถอดเสื้อคลุมโยนทิ้งลงพื้นตามด้วยหน้ากากปิด จมูกกับหมวก เผยให้เห็นเครื่องแบบทหารเช่นเดียวกับคนขับ “ใคร” คิม ซุงจิน หันขวับมา “ไม่รู้ แต่ถ้าคุณอยากรู้ ผมจะกลับไปดูให้เอามั้ย”

ทั้งๆ ที่อยู่ในเวลาวิกฤติ แต่ชายหนุ่มยังสามารถยักไหล่และเผย รอยยิ้มขี้เล่นออกมาแวบหนึ่ง ทำให้เพื่อนสายลับส่ายหน้านิดๆ อย่างเอือมระอา ทว่าหนุ่มขี้เล่นกลับไม่สนใจ เอาแต่รีบเร่งกับการกลัดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้าย

และดึงหนวดเคราปลอมรุงรังบนใบหน้าออกอย่างรวดเร็วเพื่อลอกคราบ ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเซนทริฟิวจ์ หรือเครื่องเหวี่ยงสารตกตะกอนเพื่อเสริม สมรรถนะแร่ยูเรเนียมจากปากีสถานออกจากตัวให้กลายเป็นนายทหารยศ ร้อยตรีแห่งกองทัพโสมแดงแทน

ชายหนุ่มแปลงโฉมตัวเองเสร็จ ขณะที่ คิม ซุงจิน เม้มปากแน่นคล้าย พยายามระงับอาการกระวนกระวายใจแล้วพารถทะยานไปช้างหน้าช้าๆ จนเกือบจะเป็นอ้อยอิ่ง เพราะไม่ต้องการเป็นที่ผิดสังเกต

นาฬิกาบนรถบอกเวลาหนึ่งทุ่มสามสิบห้านาทีตอนเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยของโรงงานตรวจสอบเอกสารเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเปิดประตูเหล็ก สูงทึบชองโรงงานให้

บวกหรือลบสิบวินาที...ให้เป็นบวกสิบวินาทีแทน

สายสับชองเซกชัน วัน ภาวนาขอให้ไม่โชคร้ายจนเกินไปนัก

ทว่าวันนี้พระเจ้าคงไม่อยู่ช้างเขา

เพราะประตูเหล็กตรงหน้าเพิ่งเปิดได้แค่หนึ่งเมตรและหยุดค้างอยู่ เช่นนั้นตอนที่เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวที่ด้านหลัง ตามด้วยเสียงสบถ หยาบคายของเพื่อนสายสับที่ดังอยู่ข้างหู

นักบินจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมและตรงเวลา จนน่ากระทืบ!

จรวดน่าวิถีสามสิบหกลูกถูกปล่อยลงมาในเวลาไม่ถึงนาที จากนั้น เครื่องบินทั้งหกลำก็บินลับเข้าก้อนเมฆไปอย่างรวดเร็วเสียจนขีปนาวุธเอสเอ-5 ที่ทำสกัดกั้นเครื่องบินพิสัยไกลจำนวน 200 ลูกซึ่งติดตั้งรอบๆ โรงงานแห่งนี้ทำหน้าที่ไม่ทัน และเขาก็เชื่อว่าเครื่องบินรบแบบมิก-21 ที่ถูกสั่งให้บินขึ้น จากฐานทัพชินอุยจู จะเห็นเพียงความว่างเปล่าบนผืนฟ้า

แต่ความเสียหายบนภาคพื้นดินนั้นเกินกว่าจะประเมินค่าได้

โรงงานแห่งนี้กำลังกลายเป็นทะเลเพลิงและสุสานชองนักวิจัยนิวเคลียร์

ชาวเกาหลีเหนือ

มันไม่สามารถผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์เสริมสมรรถนะได้มากพอ สำหรับเป็นสารตั้งต้นในระเบิดนิวเคลียร์เพื่อส่งออกได้ในเร็ววันนี้แน่นอน

เปลวไฟลุกโชติช่วงอย่างน่ากลัวท่ามกลางความมืดของรัตติกาลที่ คืบคลานเข้ามา สะเก็ดลูกไฟปลิวกระจายไปทั่วราวกับปุยนุ่นเรืองแสงดีดออก จากฝักในฤดูร้อน บางส่วนตกลงบนหลังคารถของพวกเขา และเมื่อได้ยิน เสียงระเบิดดังไล่กันราวลูกระนาด ชายหนุ่มก็สบตากับ คิม ซุงจิน แวบหนึ่ง ก่อนจะพุ่งออกจากรถจี๊ปคันเล็ก

พวกเขารอดตายอย่างปาฏิหาริย์ เพราะแรงระเบิดเมื่อครู่ทำให้ชิ้นส่วน โครงสร้างอาคารที่ทำจากอะลูมิเนียมหนักอึ้งแผ่นหนึ่งปลิวมาตกใส่พาหนะ ของพวกเขาจนแบนติดพื้นราวกับซากแพนเค้ก

หลังจากตั้งสติอยู่ชั่วเสี้ยววินาที เขาก็ได้ยินเสียงทรงอำนาจเสียงหนึ่ง ดังแหวกผ่านความอึกทึกทางด้านหลังมาเข้าโสตประสาท

จู ฮยอนแจ หรือผู้การจู เจ้าชองฉายาหมาล่าเนื้อและครอบครอง ตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของโรงงานแห่งนี้ ได้ยืนบัญชาการรบอยู่บนรถ หุ้มเกราะที่มีปืนรอบคันพร้อมกับนายทหารหนึ่งกองร้อยซึ่งมีอาวุธครบมือ ฝ่ายนั้นสั่งให้เขากับ คิม ซุงจิน มอบตัว

สายลับจากเซกชัน วัน ประมวลสถานการณ์อย่างรวดเร็วเมื่อได้ยิน เช่นนั้น ผู้การจูไม่น่าจะรู้ว่าเขากับ คิม ซุงจิน เป็นสายลับสองหน้าเร็วขนาดนี้ ถ้าเกลือไม่เป็นหนอน

ใครกันที่คาบเอาความลับนี้ไปบอกกับพวกโสมแดง แต่ชายหนุ่มไม่มีเวลาไตร่ตรองเรื่องนี้นาน เสียงปีนที่ดังขึ้นจากทาง ฝั่งตรงข้ามทำให้เขาต้องรีบนำแผนสองออกมาใช้

ปีนยาวอานุภาพเยี่ยมที่เพื่อนสายลับซ่อนไว้ใต้ท้องรถถูกเขากระชาก ออก แล้วหันปลายกระบอกปีนไปจัดการกับเจ้าหน้าที่เฝ้าประตู ส่วน คิม ซุงจิน ยิงลูกน้องของผู้การจูร่วงเป็นใบไม้

ขอเพียงแต่สลัดผู้การจูกับนายทหารพวกนั้นทิ้งไปได้ พวกเขาก็มีโอกาส รอด แล้วตอนนั้นเองที่เสียงใบพัดผ่านอากาศอย่างรวดเร็วของเฮลิคอปเตอร์ ลำเลียงดังอยู่เหนือศีรษะ

อุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทำให้ผู้การจูต้องรีบส่งแขก ชายหนุ่มคิดพร้อมนึกขอบคุณครูฝึกสุดโหดที่เดอะฟาร์ม ศูนย์อบรมลับ ของซีไอเอในเวอร์จิเนียกับหลักสูตรมหาประลัยของหน่วยซีล ที่ทำให้เขามีแรง วิ่งไล่ลำเฮลิคอปเตอร์ตรงหน้าและทบทวนบทเรียนบทหนึ่งในตำราที่ว่าด้วย การจารกรรมอากาศยานไปด้วย ก่อนจะยกปีนอานุภาพร้ายแรงในมือขึ้น แล้ว เล็งไปที่ใบพัดเฮลิคอปเตอร์ ทว่าเขากลับได้ยินเสียงกระสุนดังลั่นที่ข้างแก้วหู และเจ็บแปลบบริเวณหัวไหล่ซ้ายพร้อมๆ กับที่เฮลิคอปเตอร์เสียหลักหมุน คว้างในอากาศเหมือนแมลงปอถูกเด็ดปีก

ผู้การจูคงหวังจะให้เขาร่วงลงบนพื้นเหมือนที่ชายหนุ่มหวังให้เฮลิคอป- เตอร์ตรงหน้าหล่นลงจากฟ้า

ฝ่ายนั้นคงไม่รู้ว่าเฮลิคอปเตอร์จะยังบินต่อไปได้ ถึงใบพัดหนึ่งหรือ สองใบของมันไม่ทำงาน เพียงแต่ต้องอาศัยนักบินฝีมือดีที่บ้าบิ่นอยู่สักหน่อย สายลับหนุ่มมั่นใจว่าเขามีคุณสมบัติทั้งสองอย่างนั้นครบถ้วน แต่ไม่รู้ว่า คิม ซุงจิน จะมีคุณสมบัตินี้ไหมและเขาดวงดีพอที่จะไล่ตาม เฮลิคอปเตอร์ซึ่งกำลังร่วงหล่นลงไปในหุบเหวตรงหน้าได้ทันหรือเปล่า

ทว่าเขาไม่มืเวลาคิดหาคำตอบของโจทย์ทิ้งสองข้อนี้นานนัก เพราะ กฎข้อที่หนึ่งของการเป็นสายลับคือ...

‘ถ้าถูกจับได้ต้องหนีเท่านั้น! ’

โปรดติดตามต่อในเล่ม....

 

 

รายละเอียด

เป็นเรื่องราวของ "กวินทร์ ลอว์ฟอร์ด" หรือ "วิน" ชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกัน ผู้ซึ่งเป็นสายลับอันดับหนึ่งของหน่วยงาน เซ็กชัน วัน ที่ขึ้นตรงกับเพนตากอน เขาได้ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจลับในเมืองไทย เพื่อกำจัดหัวหน้ากลุ่มอะคูลา 333 ที่เป็นอาชญากรอันดับหนึ่งของโลก โดยใช้รูปร่างสูงล่ำและหน้าตาอันหล่อเหลาคมคายเป็นกับดักน้ำผึ้งในการแฝงตัวเข้ามาครั้งนี้ ทว่า "วิน" กลับตกหลุมรักกับ "อันนา" บอดี้การ์ดสาวสุดสวย ที่มีประวัติอันเป็นปริศนา เพราะเธอคือสาวลึกลับที่เขาเจอบนสะพานชาร์ลส์อันสุดแสนโรแมนติกและมีความสัมพันธ์แบบ One night stand อันเร่าร้อนในเมืองที่ได้ชื่อว่า "ไข่มุกแห่งยุโรป" ชายหนุ่มมั่นใจว่าเธอคือหมากตัวสำคัญที่จะช่วยปิดฉากการรุกครั้งนี้ แต่ "อันนา" จะยอมช่วยเขาหรือ เมื่อชะตาชีวิตของเธออยู่ในเงื้อมมือวายร้าย ระหว่าง "ความรัก" กับ "ชีวิต" หมากตัวไหนที่จะถูกเลือกหยิบไป "รุกฆาต" มีเพียง "อันนา" เท่านั้นที่สามารถล่วงรู้ได้


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024