นวนิยายชุด ลูกไม้ของพ่อ : ใต้ร่มใบภักดิ์ (ชมจันทร์)

นวนิยายชุด ลูกไม้ของพ่อ : ใต้ร่มใบภักดิ์ (ชมจันทร์)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001977
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 280.00 บาท 70.00 บาท
ประหยัด: 210.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เริ่มเปิดฝา...เทน้ำมัน

 

‘เราทำแล้วก็หมายความว่าเราไม่เดือดร้อนถึงเวลาเราอายุร้อยสิบแปด ถ้าอย่างไรเราก็ใช้นํ้ามันปาล์มของเราเอง คนอื่นอาจจะไม่ได้ คนอื่นอาจจะไม1มี แต่ว่าเรามี เพราะเราขวนขวายหาวิธีที่จะทำเชื้อเพลิงทดแทนได้ ถ้าไม่ได้ทำ เชื้อเพลิงทดแทน เราก็เดือดร้อนแล้วก็เป็นห่วง แต่เราไม1ต้องเป็นห่วง ถ้า คนอื่นเขาไม1ทำ เขาอาจจะไม่มีนํ้ามันไบโอดีเซลใช้ แต่ว่าเรามี เราคือข้าพเจ้า

ทำเอง...’

ผู้ใหญ่ธม แก้วกำเนิด แห่งหมู่บ้านเขากะหมอก ยืนมองพระบรม- ฉายาลักษณ์บานใหญ่บนผนังบ้านด้วยแววตาเทิดทูน เมื่อหวนระลึกไปถึง พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพระราช- ทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เช้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาคุลิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิตฯ อันเป็นข้อความที่เขาเคยได้อ่านผ่านหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อลิบกว่าปีที่แล้ว

เพราะพระราชดำรัสซึ่งแสดงถึงความเอาพระทัยใส่ต่อปวงประชาใน ยุคข้าวยากหมากแพงนี้เอง ทำให้เขาตัดสินใจริเริ่มทำโครงการอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานทดแทน (ไบโอดีเซล) ตามแนวพระราชดำริ

โดยหลักใหญ่ใจความของแผนงานก็คือ การนำน้ำมันพืชซึ่งใช้แล้ว

หรือสกัดจากพืชที่สามารถผลิตนี้มันได้มาทำปฏิกิริยาทางเคมี จนกลายเป็น

 

นํ้ามันที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงนํ้ามันดีเซล จากนั้นจึงเอาผลิตผลดังกล่าวไป

ผสมกับน้ำมันดีเซล ก็จะสามารถนำกลับมาใช้ทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงได้เป็น อย่างดี

จากจุดประกายเล็กๆ ในครั้งนั้น ทำให้ทุกวันนี้กลุ่มคนแห่งหมู่บ้านเขา กะหมอกเรียนรู้และนำหลักการนี้มาผลิตน้ำมันดีเซลใช้กันทุกครัวเรือน ไม่ว่า จะใช้เติมเครื่องยนต์ทำการเกษตร หรือยานยนต์ที่สัญจรกันอยู่ในหมู่บ้าน

นอกจากนี้ผู้ใหญ่ธมและชาวบ้านทุกคนยังช่วยกันผลิตน้ำมันไบโอ-

­ดีเซลออกขาย ด้วยต้องการจะเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพ่อหลวงให้เป็น ที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ตระหนักและรู้ซึ้งถึงคุณค่า รวมทั้งนำพระราชดำริอันเป็นประโยชน์แก่ชนชาวสยามมาคิดต่อยอดให้เกิด ความเจริญก้าวหน้าในทุกหย่อมหญ้าสืบไป

ผู้ใหญ่ธมแห่งบ้านเขากะหมอกสรรเสริญพระปรีชาชาญของพ่อหลวง เป็นยิ่งนัก พระองค์มีสายพระเนตรอันกว้างไกล ทรงคาดการณ์ได้อย่าง แม่นยำว่าการสร้างพลังงานทดแทนอย่างน้ำมันไบโอดีเซลขึ้นมานั้นจะช่วย ลดความล่าบากให้แก่ลูกหลานของเรา หากพลังงานเชื้อเพลิงที่พวกตนใช้กัน อย่างสิ้นเปลืองทุกวันนี้ร่อยหรอลงไปในภายภาคหน้า และยังถือเป็นการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย เพราะน้ำมันไบโอดีเซลนั้นสามารถลดมลพิษ ทางอากาศที่เป็นผลมาจากการเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยลดควันดำ ได้ถึงร้อยละ ๔๐ เลยทีเดียว

ยิ่งคิดผู้ใหญ่ธมก็ยิ่งปลาบปลื้มและภาคภูมิใจในเส้นทางชีวิตที่ตน เลือกเดินบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่สาธารณชน เพื่อตอบแทนบุญคุณของ พระมหากษัตริย์ผู้ปกครองแผ่นดินโดยธรรมที่เขาได้อาศัยใต้ร่มพระบารมี ก่อนจะก้มลงมองสิ่งของในมือที่ตนได้รับจากใครคนหนึ่งด้วยความชื่นชม จากนั้นชายผู้มั่นคงในอุดมการณ์จึงเดินยิ้มกริ่มไปทำธุระบางอย่างด้วยความ มุ่งหวังอันเต็มเปี่ยม...

แกลลอนที่หนุ่มนักเรียนนอกที่เพิ่งจะรับปริญญามหาบัณฑิตหมาดๆ จาก ประเทศอังกฤษ กำลังหาสมุดแผนงานประจำปีของกลุ่มบริษัทในเครือเดชาธร ซึ่งเขาจะต้องเข้ามารับช่วงดูแลต่อจากบิดาในอีกไม1กี่วันข้างหน้าด้วยความ หงุดหงิด เพราะไม1ว่าเขาจะเพียรหาในตู้เท่าไรก็ไม1พบ ครั้นพอลองด้นดูใน ลิ้นชักโต๊ะท่างานของท่าน เขาก็ไม่เจอ

ด้วยเหตุนั้น จิรเมธ เดชาธร เลยล้มเลิกความตั้งใจที่จะหาเอกสารมา ศึกษารายละเอียดสำคัญต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนากิจการของครอบครัวให้ ก้าวหน้ายิ่งขึ้นทันที ทว่าพอเขาเอื้อมมือไปหมายจะปิดลิ้นชัก ชายหนุ่มกลับ เหลือบไปเห็นสมุดเล่มใหญ่เล่มหนึ่งซุกซ่อนอยู่ด้านในสุด จิรเมธจึงสอดมือ

เข้าไปหยิบมันขึ้นมาดู เผื่อว่าบางทีอาจจะเป็นสมุดที่ตนกำลังหาอยู่ก็เป็นได้ เมื่อเปิดหน้าแรก เขาก็พบสมุดบัญชีธนาคารเล่มหนึ่งสอดอยู่ในนั้น อีกทั้งยังมีรายละเอียดสรุปรายจ่ายอย่างกี่ถ้วนว่า ‘บัญชีเงินโอน’ คิ้วหนาดก ดำขมวดโดยอัตโนมัติ ก่อนที่สมองจะสั่งการให้สองมือพลิกเปิดอ่านหน้า ถัดไป แล้วคิ้วเข้มก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้น หลังจากได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า บิดาของตนนั้นโอนเงินออกเป็นจำนวนหนึ่งหมื่นบาททุกๆ เดือนเป็นเวลามาก กว่าสามปีแล้ว

“เงินอะไร ทำไมต้องโอนเข้าให้ทุกเดือนด้วย?” จิรเมธพึมพำด้วยความ สงสัย แล้วจึงพลิกอ่านเนื้อหาข้างในสมุดบัญชีตั้งแต่หน้าแรกอย่างละเอียด ลืมความตั้งใจเดิมที่จะด้นหาสมุดแผนงานประจำปี แล้วเขาก็พบว่าบัญชีลับ ซึ่งบิดาโอนเงินให้นี้เป็นบัญชีเดียวถันทั้งหมด!

“คุณพ่อโอนเงินไปให้ใครถันทุกเดือน?”

คนเป็นลูกยิ่งฉงนมากขึ้นอีกหลายเท่า เมื่อตั้งหน้าอ่านรายละเอียด

ในเล่มจนถึงหน้าสุดท้าย ก็ได้รู้ถึงข้อมูลอีกอย่างหนึ่งว่า การโอนเงินครั้งล่าสุด นั้นเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้เอง แล้วความคลางแคลงก็ทำให้เขา ไม่สามารถอดรนทนไหว จนต้องรีบปิดสมุดเล่มนั้นลง ก่อนจะถือออกไปเพื่อ ถามหาข้อเท็จจริงจากผู้เป็นบิดาด้วยความมุ่งมั่นที่จะได้รับคำตอบให้คลายข้อกังขา

“ว่ายังไงตาจิม อ่านเอกสารงานต่างๆ ไปถึงไหนแล้วล่ะ” เกริกเกียรติ

ร้องทักบุตรชายแสนรักเพียงคนเดียวของตน เมื่อเห็นเขาเดินตรงเข้ามาหา

ด้วยสีหน้าและท่าทางแจ่มใส

“ก็อ่านไปได้เป็นบางส่วนแล้วละครับ” จิรเมธถือสิ่งของต้องสงสัยเข้า

มาหย่อนกายลงนึ่งบนโซพำข้างบิดา

“รีบๆ ศึกษางานเข้าล่ะ อย่าลืมนะว่าเดือนหน้าพ่อจะให้แกเข้าไปนั่ง ตำแหน่งผู้ช่วยผู้บริหารแล้ว” เกริกเกียรติกำชับบุตรชายอย่างไม่จริงจังนัก

“ครับ” เขาพยักหน้ารับสั้นๆ “แต่ผมยังมีข้อข้องใจอยู่อีกนิด เลยอยาก จะถามคุณพ่อสักหน่อยครับ”

“อะไรล่ะ?” คนฟังถามกลับอย่างเต็มใจ

“คือผมเจอสมุดเล่มนี้เข้าโดยบังเอิญน่ะครับ ข้างในนี้มีแต่รายละเอียด

การโอนเงินออกไปยังบัญชีเดิมทุกๆ เดือน ผมก็เลยสงสัยว่ามันเป็นบัญชี

อะไรครับ?” คนพูดวางสมุดลงบนโต๊ะตรงหน้าบิดา

แม้นจิรเมธจะรู้สึกติดใจในรายละเอียดหลายๆ ข้อ แต่เขาก็ไม่เคย

คาดคิดเลยว่าทันทีที่บิดาเห็นมันเพียงเท่านั้น เกริกเกียรติจะออกอาการ

เลิ่กลั่ก สีหน้าร้อนรน แถมยังทำตาโตเกินกว่าเหตุอีกต่างหาก คนเป็นลูก

จึงจ้องท่าทางล่อพิรุธของท่านอย่างพินิจทันทีที่อีกฝ่ายเอ่ยปากถามกลับ

“แกไปเอาสมุดเล่มนี้มาจากไหน?” ผู้เป็นบิดาร้องถามด้วยความร้อนใจ ก่อนจะรีบฉวยเอาสมุดเล่มนั้นมาถือไว้อย่างหวงแหน เป็นเหตุให้คนที่

พยายามจะไม่คิดอะไรมากมองบิดาบังเกิดเกล้าด้วยความเคลือบแคลงมากขึ้น

“ผมเจอในลิ้นชักโต๊ะท่างานของคุณพ่อ ตอนที่กำลังหาสมุดแผนงาน ประจำปีอยู่น่ะครับ”

จิรเมธจ้องสมุดในมือของผู้เป็นบิดาอย่างไม่วางตา ก่อนจะเอ่ยถาม

ในสิ่งที่เขาอยากรู้ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการทำพิรุธของบิดา

“ว่าแต่คุณพ่อโอนเงินไปให้ใครทุกๆ เดือนเหรอครับ?

คราวนี้คนที่ถูกถามอึกอัก ท่าให้จิรเมธยิ่งอยากจะรู้เหตุผลเข้าไปใหญ่ “สมุดเล่มนี้มีความลับอะไรเหรอครับ?” คนเป็นลูกถามขึ้นอีกทันควันเมื่อยังไม่ได้คำตอบ

“มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ แกจะสนใจไปทำไม” เกริกเกียรติบอกอย่าง ไม่พอใจเพื่อเป็นการกลบเกลื่อน แต่มีหรือที่คนรู้ทันจะยอมละทิ้งความ

พยายามง่ายๆ

“เอ๋ ทำไมคุณพ่อต้องท่าเหมือนมีอะไรปิดบังด้วยล่ะครับ มันยิ่งท่าให้ ผมอยากรู้ซะแล้วสิ” หนุ่มขี้เล่นพูดอย่างทะเล้น แล้วจึงงัดกลเม็ดเด็ดพราย ขึ้นมาต่อรองกับบิดา “หรือว่าผมควรจะไปถามคุณแม่ดีล่ะครับ?”

ครั้นได้ยินชื่อศรีภรรยาที่เคารพรักเพียงเท่านั้น สามีผู้ประพฤติตน

อยู่ในโอวาทอย่างดีเยี่ยมเช่นเกริกเกียรติจึงเป็นวัวสันหลังหวะขึ้นมาทันตา

จนต้องรีบร้องห้ามบุตรชายเป็นพัลวัน เพราะขืนตนถูกผู้เป็นลูกชายซักไซ้มาก

ไปกว่านี้ แล้วเกิดแม่ทูนหัวผู้ได้รับฉายาทะเลเรียกพี่เดินผ่านมาได้ยินเข้า

ละก็ งานนี้ไม่แคล้วเขาต้องตายหยังเขียดเป็นแน่แท้

“ซู่...เบาๆ หน่อยสิ เดี๋ยวแม่แกก็มาได้ยินเช้าหรอก” เกริกเกียรติ

กระซิบบอกบุตรชายไม่ให้ส่งเสียงด้ง เนื่องจากอาจจะน่าความซวยมาสู่ตนได้ พร้อมกันนั้นสายตาก็คอยกวาดมองหาศรีภรรยาอย่างระแวดระวัง

“ทำไมคุณพ่อต้องกลัวลนลานขนาดนี้ด้วยล่ะครับ?” คนขี้สงสัยถาม

แล้วขมวดคิ้ว “หรือว่าคุณพ่อเอาเงินนั่นไปท่าอะไรไม่ดีไว้ เลยต้องปิดเป็น

ความลับ...ไม่ไห้'คุณแม่รู้ครับ?”

“แกนี่ช่างคิดนักนะ พูดอะไรไม1เช้าเรื่อง!” คนถูกกล่าวหารีบแก้ตัวเสียง ขุ่น “แกก็รู้นี้ว่าเรื่องเงินเรื่องทองมันเป็นชองต้องห้ามสำหรับแม่แกขนาดไหน”

“อ๋อ...เพราะแบบนี้คุณพ่อก็เลยต้องท่าบัญชีลับขึ้นมา เพี่อไม่ให้คุณแม่

รู้เรื่องนี่เอง” ชายหนุ่มดีดนิ้วดังเป๊าะอย่างรู้ทัน

ทำไมเขาจะไม่รู้ถึงความมัธยัสถ์ ประหยัด และตระหนี่จนกลายเป็น

ความเค็มชองมารดาอย่างถึงแก่นแท้ล่ะ ในเมื่อคุณงามความดีข้อนี้ชองท่าน

นี่แหละ ที่ได้ถ่ายทอดมาสู่เลือดเนื้อเชื้อไชเช่นเขาจนหมดสิ้น โดยเฉพาะอย่าง

ยิ่งในแวดวงธุรกิจด้วยแล้ว...

เขายิ่งกัดไม่ปล่อย!

“แกนี่ซักจะกวนประสาทมากขึ้นทุกวันแล้วนะ” คนเป็นพ่อเอ็ดเสียง เชียว เพราะอดหมั่นไส้นิสัยยียวนช่างรู้ชองบุตรชายไม่ได้

“ครับ” แทนที่คนฟังจะรู้สึกสลด แต่ไอ้ลูกชายตัวแสบกลับพยักหน้ารับ ด้วยความเต็มใจเสียนี่ คนที่เห็นดังนั้นก็เลยเงื้อมือขึ้นหมายจะประเคน มะเหงกลงบนหัวชองอีกฝ่ายเสียให้สาสม ทว่าคนรู้แกวกลับชิงถามเรื่องที่ยัง

ค้างคาใจอยู่เสียก่อนโดยไม่สนใจท่าทีเข่นเขี้ยวของท่านเลยแม้แต่น้อย

“สรุปแล้ว... เงินในบัญชีนี้โอนไปไหนกันแน่ครับคุณพ่อ?”

แม้นน้ำเสียงนั้นจะไม1ไค้คาดคั้นเอาคำตอบมากนัก แต่แววตาของคน

พูดก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีแล้วว่า เขาจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ เช่นกันถ้ายังไม่ได้ คำตอบ ดังนั้นคนเป็นพ่อจึงต้องครุ่นคิดอย่างหนัก ก่อนจะจำใจเล่าให้ลูกชาย

ฟัง แต่พยายามระมัดระวังคำพูด จะได้ไม่เผลอพูดพาดพิงถึงบุคคลผู้เกี่ยวข้องคนอื่น

“เฮ้อ!” เกริกเกียรติถอนหายใจยาว พลางหลุบตาลงอย่างละอาย

“จริงๆ แล้วพ่อไม1อยากจะพูดเรื่องนี้ให้แกต้องพลอยกลุ้มใจไปด้วยเลย”

เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของผู้เป็นบิดา จิรเมธจึงถามเพราะมีลาง

สังหรณ์ไม่สู้ดีนัก

“นี่มันเรื่องอะไรกันครับคุณพ่อ!?”

“ตั้งใจฟังพ่อให้ดีๆ นะลูก” อีกฝ่ายมองหน้าลูกชายนิ่งด้วยความรู้สึก

ผิดอย่างท่วมท้น “พ่อเป็นหนี้!”

“ฮ้า! คุณพ่อพูดว่าอะไรนะครับ ครอบครัวเราน่ะเหรอ...เป็นหนี้!?”

หนุ่มนักเรียนนอกส่ายหน้าแรงๆ ด้วยไม่อยากจะเชื่อระคนมีนงงเมื่อ

ได้รับรู้ เพราะฐานะทางบ้านของเขานั้นเข้าขันดีมากถึงมากทีสุด เรียกว่า รวยระดับเศรษฐีเลยก็ว่าได้ แล้วไอ้เรื่องที่ตนเพิ่งได้ยินมันจะเป็นจริงไปได้ อย่างไรกัน?

“ใช่! ครอบครัวของเราเป็นหนี้ พ่อถึงต้องโอนเงินไปใช้คืนท่านอยู่ ทุกวันนี้ยังไงล่ะ” เกริกเกียรติยืนยัน

ข้อเท็จจริงที่ได้รับการยืนยันอย่างหนักแน่นจากผู้เป็นบิดา ท่าเอาคน ฟังถึงกับอึ้งไปนานหลายนาที เพราะสรรพนามที่บิดาเรียกขานเจ้าหนี้อย่าง ยกย่องเชิดชูนั้น ได้มันแสดงให้เขารู้ว่า บิดาไม่ได้ล้อเล่นอย่างแน่นอน

จิรเมธเลยยิ่งหวาดวิตกต่อเรื่องหักมุมที่ตัวเขาแทบจะหัวเราะไม่ออก

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

 

รายละเอียด

ผู้ใหญ่ธม แห่งบ้านเขากะหมอก ผลิตน้ำมันไบโอดีเซลไว้ใช้ยามที่น้ำมันขาดแคลนโดยมีเพื่อนรักอย่าง เกริกเกียรติ ให้เงินสนับสนุน แต่เมื่อ จิรเมธ ลูกชายเกริกเกียรติทราบเรื่องจึงประกาศตัวเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของคนในหมู่บ้านทันที ร้อนถึงลูกสาวผู้ใหญ่บ้านอย่างลัลนา ต้องมาปราบเซียนหนุ่มนักธุรกิจเขี้ยวลากดิน ให้เห็นคุณค่าของการใช้ภูมิปัญญาตามกระแสพระราชดำริ โดยให้ความอิ่มเอมใจมาแทนที่อำนาจเงิน เรื่องราวของความหวังและการรู้จักคำว่าพอ รอพบกับความสุขที่แท้จริงภายใต้ร่มเงาแห่งพระบารมีของพ่อหลวง


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

ฐาปนัส | 1 รีวิว
10/08/2014

ผู้เขียน ชมจันท์ สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ จำนวนหน้าหนังสือ 464 หน้า เป็นเล่มแรกในหนังสือชุด "ลูกไม้ของพ่อ" เลยครับ สำหรับเล่มนี้ "ใต้ร่มใบภักดิ์" ด้วยความที่หนังสือไม่ได้ใช้ตัวละครต่อเนื่องกัน เลยทำให้ผมหยิบเล่มนู้นที เล่มนี้ทีมาอ่าน ไม่ได้เรียงไปตามลำดับหนังสือครับ เรื่องนี้เป็นพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง "ไบโอดีเซล" ก็อยากจะบอกว่า หนังสือเล่มนี้ ให้ความรู้ในเรื่องไบโอดีเซลไว้ค่อนข้างดีเลยครับ โดยผ่านตัวละคร "ลัลนา" หรือนางเอกของเรื่องเป็นหลัก จากเรื่องที่เข้าใจยาก กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายทีเดียว (ปกติผมก็ไม่รู้นะครับว่าไบโอดีเซลคืออะไร รู้แต่ว่าเป็นน้ำมันแค่นั้นเอง) แต่เรื่องราวที่ใช้ในการเดินเรื่อง ไบโอดีเซลนี้ เป็นเรื่องราวของ จิรเมธ ที่สงสัยว่าทำไมพ่อของตนต้องโอนเงินไปให้คนอื่นทุก ๆ เดือนตลอด 3 ปี และคิดไปต่าง ๆ นานาว่า พ่อมีเมียน้อย หรือมีลูกกับเมียน้อย และด้วยความใจแคบของตัวเค้าที่ไม่รู้จักคำว่า "ให้" ทำให้เค้าตัดสินใจจะไปทวงเงินก้อนนี้คืน ต่อมาไม่นานเค้าก็รู้ว่าเงินก้อนนี้ถูกนำไปทำอะไร จึงทำให้เค้าจับพลัดจับพลูไปตกปากรับคำพ่อให้ช่วยไปพัฒนาโครงการหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านมีเงินมาใช้หนี้คืน ซึ่งพระเอกก็ไปด้วยแนวความคิดที่ขวางโลกเหมือนเดิม คืออยากได้เงินก้อนนี้คืน จากนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรครับ พระเอกไปพบนางเอก ก็ทะเลาะกันไปตามประสาความคิดของผู้ดีมีเงินที่ไม่รู้จักคำว่าให้ แต่หลังจากที่ต้องทำงานด้วยกัน อยู่ใกล้ชิดกัน จึงแปรเปลี่ยนเป็นความประทับใจและรู้สึกรักลัลนาเข้าโดยไม่รู้ตัว ด้านลัลนาเองก็รู้สึกว่า จิรเมธ ไม่ใช่ผู้ชายประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อตามที่ตัวเองคิดแต่แรก ความเห็นแก่ตัวเปลี่ยนเป็นความเสียสละ จิรเมธรู้จักคำว่าให้ที่มีค่ามากกว่าเงินทอง ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปได้ดี และคล้าย ๆ นิยายไทยทุกเรื่อง ซึ่งจุดไคล์แมกซ์หลัก ๆ ก็ไม่ใช่การที่มีตัวอิจฉามาด่านางเอก หรือตบตีนางเอก แต่อยู่ที่แม่ของพระเอก ที่ขัดขวางความรักทุกวิถีทางตามแบบฉบับแม่ยายผู้ดี แต่สุดท้าย เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงได้แบบแฮปปี้เอ็นดิ้งในที่สุดครับ ก็อย่างที่บอก คือเนื้อหาสาระมันอยู่ที่ ไบโอดีเซลครับ หนังสือจะเน้นที่ไบโอดีเซลค่อนข้างมาก เลยทำให้เรื่องนี้ดูเหมือนเป็นนิยายกึ่งสารคดี สำนวนที่ผู้เขียนใช้ทำออกมาไม่ค่อยดีนัก อ่านแล้วรู้สึกสะดุดหลายจุด แต่ความที่ให้ข้อมูลเรื่องไบโอดีเซลออกมาได้ดี เลยกลบ ๆ กันไปได้ครับ และทำให้ผมอดชื่นชมไม่ได้ อยากให้ประเทศไทยมีไบโอดีเซลใช้กันเยอะ ๆ นอกจากจะไม่ต้องซื้อแพงแล้ว ยังช่วยลดมลภาวะให้กับโลกด้วย ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024