สุดหัวใจเจ้าภูผา (อุมารตี)

สุดหัวใจเจ้าภูผา (อุมารตี)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160004423
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 220.00 บาท 55.00 บาท
ประหยัด: 165.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

             กินรินปุระ...สามปีที่ผ่านมา

 

       เวลาสามปี จะว่ามากก็มาก จะว่าน้อยก็น้อย

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เวลาว่าเห็นคุณค่ามากแค่ไหน

  และรู้จักนำเวลาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง

   และผู้อื่นมากเพียงใด

 

ปุยเมฆหนาทึบปกคลุมภูเขาสูงทะมึน ชะง่อนผาแห่งนั้นจึงดูเหมือน

ล่องลอยอยู่กลางเวหา ร่างสูงทว่ากำยำด้วยมัดกล้ามของชายฉกรรจ์ในชุด

พรางแบบทหารพรานซึ่งยืนตระหง่านกอดอกมองลงไปเบื้องล่าง ดูละม้าย

พญาอินทรีหุบปีก กวาดตาสอดส่องพสุธาซึ่งอยู่ต่ำลงไปลิบๆ ก่อนร่อนสู่

จุดหมายหรือโฉบลงคว้าเหยื่อเคราะห์ร้าย

ลมบนกระโชกแรงจนผมดำสนิทที่หยิกขอดเป็นลอนใหญ่ยาวเคลีย

ต้นคอปลิวไสว ทว่าร่างนั้นยังยืนหยัดมั่นคงไม่หวั่นไหว หน้าขาวเนียน

อมชมพูราวกับสตรีคมคายด้วยไรเคราเขียว คิ้วหนาเข้ม ตาเฉี่ยว จมูกโด่ง

เป็นสันตรง และปากหยักแดงก่ำแบบคนเมืองหนาว สีหน้าสงบนิ่ง ทว่า

แววตายามที่มองลงไปเบื้องล่างอันเป็นที่ตั้งของกินรินปุระ สะท้อนความ

คิดคำนึงในช่วงสามปีที่ผ่านมาของเรวิน...จอมทัพแห่งกินรินปุระ

สามปีแล้วนับตั้งแต่ สตีฟ แมคเคนซี่ มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพล

ระดับโลก เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับอุมารตีเทวี รานีแห่งกินรินปุระ หรือ

นางสาวปารวตี บริบาลบุรีรัตน์ ยามเป็นสามัญชนในประเทศไทย งาน

เฉลิมฉลองนั้นยิ่งใหญ่อลังการ เพราะเจ้าภาพคือชาวกินรินปุระทั้งประเทศ

มีญาติผู้ใหญ่ฝ่ายบิดาของปารวตีจากประเทศไทย ครอบครัวมหาราชา

และพระญาติฝ่ายพระมารดาจากอินเดีย และแขกนักธุรกิจระดับโลก

ของสตีฟบินมาร่วมงานด้วย

เรวินยังจำภาพเจ้าสาวแสนสวยได้ติดตา หล่อนสวมเครื่องทรง

ส่าหรีสีแดงปะการัง ปักลวดลายวิจิตรด้วยด้ายทองคำ ผ้านิ่มพลิ้วทิ้งตัว

ลงคลุมผ้านุ่งและยาวระพื้นเหมือนชุดแต่งงานแบบตะวันตก ทั่วร่าง

ประดับด้วยทับทิมสีเลือดนกเรือนทองคร่ำฉลุโปร่ง ตั้งแต่สร้อยประดับ

หน้าผาก ต่างหู สังวาล กำไลข้อมือข้อเท้า แหวนทับทิมที่สวมติดนิ้วนั้น

เปล่งรัศมีดาวสาแหรกสิบสองแฉกเจิดจ้ากว่าปกติ สะท้อนอารมณ์ปลาบ-

ปลื้มปีติสุขของผู้สวม

ส่วนสตีฟนั้นสวมสูทสากลสีเทาเข้ม ใบหน้าเคร่งขรึมเช่นปกติทว่า

อิ่มเอิบ ดวงตาวาววามฟ้องความสุขในใจ เขาสำรวมกิริยา ให้ความเคารพ

ต่อความศักดิ์สิทธิ์ตลอดการทำพิธีทางศาสนาฮินดูในเทวาลัยแห่งพระแม่

อุมาเทวี และการทำบุญเลี้ยงพระตามพิธีพุทธ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เลียบ

พระนคร รับคำถวายพระพรและของขวัญจากพสกนิกรด้วยตนเอง

เรวินตามเสด็จตลอดเวลา ชายหนุ่มเห็นสตีฟมองปารวตีด้วย

ความเป็นห่วง และคอยประคับประคองตลอดระยะทางร่วมห้ากิโลเมตร

ด้วยรู้ว่าหญิงสาวเหน็ดเหนื่อยมาตลอดหนึ่งเดือนเต็มเพราะต้องเตรียมตัว

เป็นเจ้าสาวและบริหารราชการแผ่นดิน ดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรไป

พร้อมๆ กัน ตัวสตีฟเองก็บินไปบินมาระหว่างกินรินปุระกับกรุงเทพฯ

และเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจในอเมริกากับยุโรปเป็นว่าเล่น เพราะอยู่

ในช่วงโอนงานให้นาธาน...บิดาบุญธรรม และเทรย์...ทายาทธุรกิจของ

แมคเคนซี่ คอร์ป

รอยยิ้มและน้ำตาแห่งความภักดีและปีติจากชาวกินรินตลอด

ระยะทางห้ากิโลเมตรนั้น เปรียบเสมือนสายลมสดชื่นและสายน้ำเย็นฉ่ำ

ที่พัดพาความเหนื่อยล้าให้ปลาสนาการไปสิ้น สตีฟประจักษ์แล้วว่า

ของขวัญล้ำค่าจากมหาราชาหรือรัฐบาลประเทศไหนก็ไม่อาจเทียบได้กับ

ความรักความภักดีที่ชาวกินรินมีต่อองค์รานี

งานเลี้ยงฉลองอย่างเป็นทางการแก่แขกบ้านแขกเมืองนั้นจัด

ที่ตำหนักหลวง ตัวตำหนักและบริเวณโดยรอบประดับตกแต่งด้วยประทีป

โคมไฟและดอกไม้งดงาม อาหารหลากหลายเลิศรส การแสดงตระการตา

แต่ที่เรวินประทับใจเป็นที่สุดคือ การมอบตำแหน่งขุนศึกให้สตีฟ เจค

แดเนียล ตำแหน่งจอมพลให้แก่ท่านปุนยี และจอมทัพให้ตัวเขาเอง

 

นึกถึงตอนนั้นทีไร เรวินก็นึกขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และคนศักดิ์สิทธิ์

อย่างสตีฟที่บันดาลให้เขาเข้มแข็ง ฝ่าฟันอุปสรรคมาจนถึงวันนั้น...

วันที่แม้วกำพร้าพลัดถิ่นอย่างเขาได้รับการยอมรับอย่างสูงสุดจากรานี

และชาวกินริน

บรรยากาศของกินรินปุระในสัปดาห์นั้นครึกครื้นคึกคัก สื่อ-

มวลชนจำนวนหนึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำข่าว ซึ่งผิดวิสัยรักสันโดษ

ไม่ชอบเป็นข่าวของสตีฟกับรานี แต่ทั้งสองเล็งเห็นว่าจะมีผลดีในแง่การ

ประชาสัมพันธ์ประเทศ จึงยอมทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับใจ ผลที่ได้ก็ดีเกิน

คาด เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ทางเวิลด์ จีโอกราฟิกขอเข้ามาทำสกู๊ป

พิเศษ ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวอย่างมีสไตล์ตรงใจของทั้งคู่ เพราะหนังสือ

เล่มนี้ได้ชื่อว่าเป็นกระจกสะท้อนความจริงของโลกในทุกแง่มุม และ

มีเนื้อหาสนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม

สตีฟขอร้องให้ทางนิตยสารรอเวลาจนกว่ากินรินปุระพร้อมเปิดประเทศ

จึงค่อยลงเรื่องราวเกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้

บทความในเวิลด์ จีโอกราฟิกมีผลให้การสมัครเข้าเป็นสมาชิก

องค์การสหประชาชาติผ่านการให้สัตยาบันจากประเทศสมาชิกราบรื่น

รวดเร็ว กินรินปุระไม่ใช่ดินแดนที่จะถูกรุกล้ำย่ำยีได้ง่ายๆ อีกแล้ว แต่ทั้ง

สตีฟและเรวินก็ไม่ประมาท เสริมสร้างแนวป้องกันชายแดนและปรับปรุง

กองทัพให้เข้มแข็งตลอดเวลา สิ้นขุนส่าและนายพลวังปันก็ใช่ว่าวงการ

ผลิตและค้ายาเสพติดจะสูญสลาย ไม่นานนรกก็คงส่งนักรบอสูรตนใหม่

ขึ้นมาล้างผลาญมนุษยชาติต่อไป

ตลอดสามปีที่ผ่านมา ความรักที่สตีฟกับรานีมีต่อกันยิ่งลึกซึ้ง

ดื่มด่ำ ความหวานไม่เคยจืดจาง มีแต่จะเข้มข้นขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป

แต่ความแตกต่างเรื่องวัยและวัฒนธรรมนั้น แม้ไม่มีผลต่อความรัก แต่

ย่อมเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งไม่มากก็น้อย

ด้วยเหตุนี้ การเปลี่ยนแปลงพัฒนาของกินรินปุระในช่วงสามปีที่

ผ่านมา นอกจากจะเกิดจากการทุ่มเทแรงกายแรงใจของสตีฟและปารวตี

โดยมีปรเมษฐ์ผู้เป็นพระเชษฐากับซาร่าห์ภรรยาของเขา นาธานพ่อบุญธรรม

ของสตีฟ เจค และแดเนียลผู้เป็นประดุจมือซ้ายและมือขวาของสตีฟ

อดีตลูกน้องสมัยที่สตีฟยังเป็นซีลส์ ซึ่งติดตามสตีฟมาก่อตั้งธุรกิจร่วมกับ

นาธาน ท่านปุนยีผู้เป็นจอมพลและเป็นเสนาบดีผู้ค้ำจุนบัลลังก์มาตั้งแต่

สมัยพระชนนี รวมทั้งวันเผด็จ พันตำรวจเอกแห่งกองบัญชาการตำรวจ

ตระเวนชายแดนไทย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานป้องกันชายแดนไทย-กินริน-

ปุระ และบัดนี้ได้กลายเป็นพระสหายสนิทของทั้งรานี สวามีและเหล่า

ที่ปรึกษา ช่วยกันสานฝันของรานีและพระสวามีให้กลายเป็นความเจริญ

แก่กินรินปุระแล้ว ยังเกิดจากการขับเคี่ยวทางปัญญาและอารมณ์ของ

ทั้งสองควบคู่ไปด้วย

ฝ่ายสตีฟนั้น แปลงปมด้อยเรื่องอายุที่มากกว่าภรรยาสูงศักดิ์ถึง

สิบห้าปีให้กลายเป็นข้อได้เปรียบ อ้างความอาวุโสและประสบการณ์บริหาร

บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างแมคเคนซี่ คอร์ป มารวบรัดตัดสินใจ

ในหลายประเด็น ในขณะที่รานีทรงยึดมั่นในศักดิ์ศรีและคำสอนของ

พระมารดา บวกกับความเป็นเด็กที่ยังหลงเหลืออยู่บ้าง บางครั้งจึงรับการ

ตัดสินที่ห้าวหาญเฉียบขาดของสตีฟไม่ได้ เกิดโอษฐยุทธ์ ประลองเชาวน์

ระหว่างพญาราชสีห์กับรานีกินรีปุระอยู่เนืองๆ พอฝ่ายหนึ่งคำรนกึกก้อง

อีกฝ่ายก็ตีปีกพึ่บพั่บ ไม่มีใครยอมใคร

ทว่าพอคนอื่นๆ ปิดประตูห้องทรงพระอักษร ปล่อยให้โรมรันกัน

สองคน ไม่นานทั้งสองก็จะเปิดประตูออกมาแถลงการตัดสินใจแบบ

พบกันครึ่งทาง ซึ่งมักดีกว่าต่างคนต่างคิดเป็นไหนๆ นอกจากดีในแง่การ

ประสานความคิดและการตัดสินใจแล้ว ยังช่วยประสานใจของทั้งสองให้

กระชับแน่นแฟ้น รักหวานลึกล้ำยิ่งขึ้น เพราะพอออกจากห้องประชุม

ทีไร ทั้งสองก็เกี่ยวก้อยกันไปประชุมต่อที่ห้องบรรทมทุกที...

 

เรวินยิ้มมากกว่าเดิมเมื่อนึกถึงเหตุการณ์คล้ายคลึงกันที่เกิดขึ้นเมื่อ

สัปดาห์ที่แล้ว แต่ครั้งนี้เมื่อประตูห้องทรงพระอักษรเปิดออก รานี

พระพักตร์บึ้ง พระปรางค์ฉ่ำ สาวพระบาทฉับๆ ไปทางห้องบรรทมอย่าง

รวดเร็ว ไม่มี ‘แถลงการณ์ร่วม’ อย่างเคย คณะที่ปรึกษาซึ่งนั่งจิบกาแฟ

และสนทนารอต่างอ้าปากหวอมองตาม และเบนสายตาไปที่สตีฟ ซึ่งเดิน

ออกมาจากห้องโดยมีท่าทางละเหี่ยใจผิดวิสัย เขายกมือห้ามเมื่อทุกคน

อ้าปาก

“อย่าถาม เพราะผมไม่มีคำตอบ รู้แต่ว่า...ไม่ว่าผมพูดอะไรมัน

ก็ไม่ดี ไม่ถูกใจไปเสียทุกอย่าง แล้วพอผมถามว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นแหละ

น้ำตาก็ไหลพรากๆ อย่างกับสปริงเกิล พอจะเข้าไปปลอบ ก็งอนสะบัด

เดินออกมาอย่างที่เห็นกันทุกคนนั่นแหละ”

พูดจบสตีฟก็ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แล้วเดินตามรานีไปที่ห้อง

บรรทม แต่สักพักเดียวก็เดินคอตกกลับมา

“เธอไม่ยอมให้ผมเข้าห้อง บอกว่าเหม็นหน้า เหม็นตัวผม”

ปกติสตีฟไม่ใช่คนพูดมาก ยกเว้นเป็นเรื่องงานที่จำเป็นต้องอภิปราย

ถกเถียงกัน เรื่องในมุ้งยิ่งไม่เคยปริปาก แต่คราวนี้เขางงหนักเหมือนถูก

ตีแสกหน้า

“เมื่อเช้านี้ก็ทีหนึ่งแล้ว พอตื่นขึ้นมาก็บ่นแต่เหม็นๆ ถึงขนาดวิ่ง

เข้าไปอาเจียนในห้องน้ำ”

น้ำเสียงราชสีห์เจือความน้อยใจจนทุกคนรู้สึกได้

คุณวรรณีกับท่านหญิงกมลามองหน้ากันทันที ฝ่ายหลังพูดขึ้นมาว่า

“ท่านบ่นอยากเหวยมะม่วงแรดเปรี้ยวๆ จิ้มน้ำปลาหวาน บ่นอยู่นั่นแล้ว

จนฉันต้องโทร.ไปสั่งให้ประเสริฐส่งมาจากกรุงเทพฯ”

คุณวรรณียิ้มแป้น “อาการแบบนี้ สรุปได้อย่างเดียวเท่านั้น...”

“เห็นทีต้องสมโภชใหญ่” ท่านปุนยีพูดขึ้นมาบ้าง สีหน้าของผู้อาวุโส

สดใสเบิกบานผิดกับท่าทางสุขุมตามปกติ

“เฮอ...จะได้อุ้มหลานกับเขาเสียที” ปรเมษฐ์บอกซาร่าห์ ทั้งคู่

ยิ้มหน้าบาน

สตีฟกับเรวินซึ่งงงไม่แพ้กันเพิ่งถึงบางอ้อจากคำพูดของปรเมษฐ์

สตีฟอึ้งเหมือนช็อกไปอึดใจแล้วหันไปรัวคำสั่ง

“เรวิน ตามหมอด่วน เอาสูตินรีนะ...คุณวรรณีครับ จัดห้องชั้นล่าง

ให้ด้วย รานีกับผมจะย้ายลงมานอน เดินขึ้นเดินลงบันไดบ่อยๆ ไม่

ปลอดภัยกับคนท้อง ท่านหญิงครับ ช่วยจัดเครื่องเซ่นสังเวยพระแม่อุมา

ให้ด้วย ผมต้องไปแก้บนพรุ่งนี้ อ้อ...แล้วช่วยตั้งชื่อกินรินให้ลูกผมด้วย

ท่านมีญาณ น่าจะรู้นะว่าลูกสาวหรือลูกชาย ปอ...คุณกับซาร่าห์เคลียร์

คิวมาอยู่เป็นเพื่อนปารวตีตอนคลอดด้วยนะ...แน็ท คุณตั้งชื่อภาษาอังกฤษ

แล้วเตรียมเฟ้นหาตัวทายาทธุรกิจให้ผมหน่อย ผมจะเออร์ลีรีไทร์มา

เลี้ยงลูก เจค นายกับนายารีบมีลูกมาเป็นเพื่อนกับลูกฉันสิวะ...ส่วนแดน

นายทำอะไรดีวะ เอาเป็นว่าคอยอยู่ห่างๆ อย่ามากวนประสาทเมียฉันก็แล้วกัน”

สตีฟสั่งพลางเดินกลับไปกลับมา ท่าทางตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูก เป็นที่

น่าเอ็นดูแกมเวทนาของทุกคน ก็ตั้งแต่รู้จักกันมา สตีฟแทบไม่เคยหลุด

จากมาดขรึมน่าเกรงขามเลยสักครั้ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาก็มีสติ

ควบคุมอารมณ์และสถานการณ์ได้เสมอ เพิ่งจะมีครั้งนี้แหละที่ลุกลี้ลุกลน

นั่งไม่ติด หน้าตาแดง เหงื่อซึมเต็มหน้าผาก

แพทย์หลวงมาถึงพร้อมกับเรวินในครึ่งชั่วโมงต่อมา และอีกชั่วโมง

ต่อมา ข่าวมหามงคลก็ได้รับการยืนยัน ทุกคนปีติยินดีกันถ้วนหน้า รานี

กับพระสวามีปิดประตูห้องบรรทมอยู่กันตามลำพังเกือบชั่วโมง เมื่อเปิด

ประตูออกมาอีกครั้ง พระพักตร์ของรานีแดงปลั่ง แววพระเนตรระยิบ

ระยับ ฉายความสุขไม่แพ้พระสวามีซึ่งโอบประคองอยู่ไม่ห่างจนพระบาทแทบไม่ติดพื้น

อีกเพียงเจ็ดเดือนข้างหน้า กินรินปุระก็คงจะได้พบกับรานีองค์

ต่อไป หรือไม่ก็พระเชษฐาของพระองค์

เมื่อคิดว่าหนทางข้างหน้าของรานี หากมีขวากหนาม พระองค์ก็

คงมีพระสวามีอยู่เคียงข้าง ช่วยฝ่าฟันกำจัดอุปสรรค ช่วยกันประคับ

ประคองชีวิตให้ราบรื่นเป็นสุข เรวินก็รู้สึกตัวเบาหวิว หมดห่วง แน่ใจว่า

รานีและกินรินปุระอยู่ในอ้อมแขนอันแข็งแกร่งของบุรุษผู้เกรียงไกร

เสียงนกเงือกกรีดร้องดึงเรวินจากภวังค์ เขามองตามไปทาง

ด้านซ้ายอันเป็นช่องเขาที่เชื่อมลำน้ำซึ่งมีต้นน้ำอยู่บนยอดเขาบรรพตี และ

แตกเป็นสองสายไหลกระหนาบซ้ายขวาของตำหนักหลวงกลางไหล่เขา

แล้วจึงไหลลงไปรวมเป็นสายน้ำวนรอบปุระก่อนทะลุช่องเขาออกไปรวม

กับแม่น้ำสีทันดร ซึ่งคั่นกลางระหว่างวงแหวนคีรีรอบในกับรอบนอกของ

อาณาจักรกินริน

ณ บริเวณอันร่มครึ้มและเขียวชอุ่มด้วยไม้เบญจพรรณน้อยใหญ่

แห่งนั้น มีกระท่อมไม้ซุงทรงชาเลต์ของเจคกับนายาอิงแอบอยู่ มันถูก

ออกแบบและปลูกสร้างอิงหลักพลังงานธรรมชาติ ใช้ช่องแสงและแรงลม

ให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่

หลังจากแต่งงานกันแล้ว หนุ่มอเมริกันกับสาวกินรินกลับไปอยู่บ้าน

                            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

กินรินปุระต้องเตรียมรับมือกับเหตุวิกฤติ เมื่อมือสังหารอันดับต้นๆ ของโลก แฝงกายเข้าไปเยือน โดยมีเป้าหมาย คือ สังหารใครบางคน! เรวิน ได้รับมอบหมายหน้าที่จากรานีให้ไปรับตัว หม่อมราชวงศ์แพรวา ไฮโซสาว เริด เชิด หยิ่ง มาที่กินรินปุระโดยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ที่เลวร้ายที่สุดก็คือ เมื่อหลายปีก่อน หล่อนเคยมีคดีกับเขา แล้วความรักครั้งใหม่ของจอมทัพแห่งกินรินปุระจะลงเอยอย่างไร เมื่อฝ่ายหญิงมีพันธะผูกพันกับชายอื่นเสียแล้ว ขณะที่แดเนียลเองก็ต้องปะทะฝีปากกับตราตรึง ราชเลขาฯ ของรานีอยู่ทุกวี่ทุกวันจนกลายเป็นความผูกพันลึกๆ ในใจทว่า...ข้อความที่ได้รับมาก็ทำให้เขาคลางแคลงในตัวตราตรึง และเผลอทำสิ่งที่โหดร้ายลงไป มาช่วยกันลุ้นให้เรวินกับแดเนียลผ่านบททดสอบความรักครั้งสุดท้าย เช่นเดียวกับที่สตีฟกับรานี และเจคกับนายา ได้ต่อสู้และผ่านพ้นมาแล้วใน รานีในดวงใจ


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024