นวนิยายชุด ลูกไม้ของพ่อ : แสงดาวกลางใจ (รินท์ลภัส)

นวนิยายชุด ลูกไม้ของพ่อ : แสงดาวกลางใจ (รินท์ลภัส)

2 รีวิว  2 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001984
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 180.00 บาท 45.00 บาท
ประหยัด: 135.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๐

กราบเท้าพ่อที่เคารพรัก

ก่อนอื่นผมต้องขอโทษพอด้วยนะครับที่เพิ่งส่งข่าวถึงพ่อทั้งที่ผมมาถึง เชียงดาวได้เกือบอาทิตย์แล้ว ที่นี่ผมได้รู้จักกับอินทร ผู้ช่วยคนสนิทของผม หลายรันก่อนอินทรเพิ่งพาผมเข้าไปสำรวจในปา ผืนปาที่เชียงดาวยังอุดม สมบูรณ์อยู่มากครับ ถึงแม้จะมีบางส่วนถูกทำลายไป แต่นับจากที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงก่อตั้งโครงการเกษตรที่สูงเพื่อส่งเสริมอาชีพให้แก่ ชาวเขา การบุกรุกแผ้วถางปาก็ลดน้อยลงไปมาก

อินทรเล่าให้ผมฟังว่าหัวหน้าหน่วยคนก่อนๆ อยู่ได้ไม่ถึงครึ่งปีก็ย้าย หนีกันไปหมด ส่วนใหญ่ล้วนหวั่นเกรงต่ออำนาจมีด แต่พ่อไม่ต้องเป็นห่วงผม นะครับ ผมจะทำงานด้วยความมุ่งมั่น ชื่อสัตย์สุจริต ให้สมทับที่ผมได้มี โอกาสปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ ผมขอสัญญาด้วยเกียรติของหัวหน้า หน่วยพิทักษ์ปาคนใหม่ว่าจะไม่ทำให้นามสกุลอคิราห์ต้องเสื่อมเสีย หรือทำให้ พ่อต้องผิดหวังแน่นอนครับ

สุดท้ายนี้ ฝากความคิด ถึงถึงยายสาด้วยนะครับ

ด้วยรักและคิดถึงครับพ่อ
อคิน

รถจี๊ปสีเขียวทหารแล่นออกจากหน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเชียงดาว มาตามถนนลูกรังบนเนินเขาซึ่งถูกขนาบด้วยป่าเต็งรังที่มีหญ้าเพ็กขึ้นแซมเป็น ระยะๆ

อคิน อคิราห์ ยิ้มน้อยๆ ระหว่างขับรถตรงไปในตัวเมืองเพื่อส่งจดหมาย หาบิดา ซึ่งรับราชการครูอยู่ในกรุงเทพฯ รวมถึงอสิสา น้องสาวเพียงคนเดียว ของเขาที่เพิ่งผ่านการเข้าฝึกอบรมเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินแห่งหนึ่ง แต่ในระหว่างกำลังขับรถฝ่าอากาศเย็นสบายในตอนเช้าไปเรื่อยๆ อคินก็เห็น รถกระบะขนาดเล็กคันหนึ่งเลี้ยวออกมาจากแยกถนนด้านหน้า ก่อนจะขับตรง ไปทางเดียวกัน

สีชมพูหวานคาดขาวของรถคันด้งกล่าวทำให้ชายหนุ่มประเมินได้ไม่ยาก ว่าเจ้าของรถคงเป็นผู้หญิง แต่ด้วยระดับความเร็วที่เธอขับ อคินจึงอดวิพากษ์ วิจารณไม่ได้ว่าช่างกล้าหาญเหลือเกิน

“แก่แต่แรง” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ อย่างนึกขัน ระหว่างมองตามรถ ขนาดเล็กสภาพดึกดำบรรพ์ที่แล่นนำหน้าอยู่ไม่มาก

เอี๊ยด!

หัวใจของอคินไหววูบ เมื่ออยู่ๆ เจ้าของรถรุ่นเดอะก็จอดโดยกะทันหัน เขากระทืบเท้าลงบนเบรกอย่างแรง ล้อรถบดกับพื้นถนนเสียงดังลั่น ก่อนที่เขา จะได้ยินเสียงปะทะดังตามมาโครมใหญ่ เมื่อหน้ารถจี๊ปชนเช้ากับท้ายรถกระบะอย่างจัง

จังหวะที่รถจอดสนิทนั้น อคินค่อนช้างจุกที่หน้าอกเพราะแรงกระแทก

 

เมื่อครู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองภาพเบื้องหน้า เห็นว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยของรถคันดังกล่าวยังตัวตรงปกติ ไม่ล้มฟุบลงไปก็โล่งอก ก่อนที่ความรู้สึกหงุดหงิดจะรุกรานใจจนต้องเปิดประตูรถลงมา ก้าวไปเคาะประตูรถกระบะสีหวาน

“นี่คุณ! นึกจะเบรกก็เบรก ไม่ดูตาม้าตาเรือบ้างเลยหรือไงว่ามีรถตามอยู่ข้างหลัง เกือบทำให้ผมต้องนอนอ่านหนังสือพิมพ์ข้างถนนแล้วรู้ไหม”

หญิงสาวที่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนเบาะกะพริบตาปริบๆ สองสามครั้ง ก่อนได้สติแล้วเปิดประตูรถลงมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงตำหนิห้วนเตียนเมื่อครู่

เสี้ยววินาทีสั้นๆ ที่หญิงสาวมองตอบกลับมา อคินก็ถึงกับนั่งงันไป

หลายอึดใจราวถูกตรึงเอาไว้ด้วยสายตาคู่นั้น...

อคินเกิดและโตที่กรุงเทพฯ เคยเห็นผู้หญิงสวยมาก็มาก แต่กลับไม่เคย

เห็นผู้หญิงคนไหนน่ารักชวนให้ประทับใจเท่ากับหญิงสาวตรงหน้าเลยลักคนเดียว  ดวงตากลมโตสีนิลรับกับปลายจมูกเชิดรั้นและริมผี!ปากบางสวยได้ อย่างสมบูรณ์แบบ ผมยาวตรงที่ถูกรวบเปิดหน้าผากเอาไว้เผยให้เห็นใบหน้า เรียวรูปไข่เกลี้ยงเกลาหมดจด รูปร่างอ้อนแอ้นอรชรตรงหน้า แม้อยู่ในชุด เอี๊ยมกางเกงยีนเหมือนพวกทอมบอย แต่เมื่อมองเห็นผิวขาวนวลลออนุ่มนิ่ม น่าสัมผัสตามลำคอและเรียวแขนเพียงเล็กน้อย เขาก็รู้สึกว่าเธอดูบอบบาง น่าทะนุถนอมเหมือนนางอัปสรบนวิมานฉิมพลี

หัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัวไม่ตรงจังหวะ ก่อนจะพึมพำพูดสิ่งที่อยู่ ในใจออกมาโดย'ไม่,ทันรู้ตัว “นางฟ้า...”

คนถูกชมถึงกับตะลึงไปครู่สั้นๆ ก่อนจะถลึงตามองชายหนุ่มแปลกหน้าด้วยความขุ่นใจที่พัดผ่านเข้ามาเร็วดั่งพายุ

“อย่ามาทำชีกอกับฉันนะ! ขับรถมาชนฉันแล้วยังพูดจาไม่รื่นหูอีก ประเดี๋ยวเถอะ...” คนตัวเล็กกว่ายกกำปันขึ้น เรียกสติของชายหนุ่มให้หวนคืน กลับมาอีกครั้ง

 

“เอ้ย! เดี๋ยวก่อนสิคุณ” อคินยกมือทั้งสองข้างขึ้นห้ามปราม ท่าทาง

แก่นแก้วก๋ากั่นของเธอช่างตรงข้ามกับใบหน้าสวยหวานดั่งเทพธิดาเสียนี่กระไร

“ผมตั้งใจชนคุณที่ไหนกัน ถ้าคุณเป็นผมคุณก็เบรกไม่ทันเหมือนกันนั่นละ”

“แต่ถึงยังไงคุณก็ผิดอยู่ดี เพราะคุณเป็นฝายชน”

“อ้าว หน้าตาก็สวยดีทำไมพูดจาไม่สวยแบบนี้ล่ะคุณ ผมอาจจะผิดที่ชน แต่ถ้าคุณไม่จอดรถกะทันหัน เหตุการณ์เมื่อกี้นี้คงไม่เกิดขึ้น”

“แล้วคุณจะให้ฉันชนมันหรือไง” หญิงสาวชี้ไปที่พื้นถนนหน้ารถสีหวาน แต่เมื่อชายหนุ่มมองตาม กลับต้องหันกลับมาถามอีกครั้งด้วยความงุนงง

“มัน?”

“ก็...” หญิงสาวหันหน้ากลับไป มองหา ‘ต้นเหตุ’ ที่ท่าให้ตนเองจำต้อง หยุดรถ แต่ภาพถนนอันว่างเปล่าในบริเวณนั้น ก็ท่าให้หล่อนถึงกับยืนนั่งงัน ไปหลายอึดใจ ก่อนตีหน้าขรึมหันกลับมาหาชายหนุ่มอีกครั้ง เมื่อเรียกสติกลับ มาหาตนเองอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

“เมื่อกี้มีหมูปาตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถชองฉัน แต่ตอนนี้มันคงตกใจวิ่งหนี ไปแล้ว”

“ถึงอย่างนั้นคุณก็ไม่สมควรขับรถเร็ว โดยเฉพาะถนนบนภูเขาแบบนี้” อคินตักเตือนด้วยความหวังดี ทว่าหญิงสาวกลับไม่พอใจขึ้นมาในบัดดล

“ฉันขับเร็วแล้วคุณขับข้าตายนักแหละ” เสียงหวานๆ ที่ค่อนข้างแข็ง กระด้างชองเธอ เมื่อกอปรกับสีหน้าท่าทางกรุ่นโกรธนั้นแล้ว ท่าให้อคินรู้สึก

เอ็นดูมากกว่าหงุดหงิด

“หัวเราะอะไรไม่ทราบ” รอยยิ้มขบชันที่ปรากฏบนใบหน้าชองเขาท่าให้ หญิงสาวหัวเสียหนักขึ้น

“หัวเราะคนท่าผิดแล้วยังไม่ยอมรับผิดน่ะสิ”

“ฉันน่ะหรือผิด” อีกฝายขอค้านแบบหัวชนฝา “อย่างน้อยฉันก็เบรกทัน

ไม่ชนมันตาย แต่คุณต่างหากที่มาชนท้ายรถของฉัน คุณนั่นแหละที่ผิด!”

“โอเคๆ ผมผิดก็ได้ครับ คุณอยากให้ผมรับผิดชอบยังไงล่ะ”

แผนการบางอย่างผุดขึ้นในใจทั้งยังแสดงออกทางสีหน้า อย่างน้อยๆ เธอคงเรียกค่าเสียหาย แล้วเขาก็จะแกล้งอ้างกลับไปว่าพกเงินติดตัวมาไม่มากนัก

ถึงตอนนั้นเขาก็จะได้ขอที่อยู่ของเธอเพื่อนำค่าเสียหายไปคืนให้ในภายหลัง ถือโอกาสในการสานสัมพันธ์กันไปในตัว

แต่ด้วยความที่สายตาของเขาดูไม่น่าไว้วางใจ หรืออีกฝายรีบร้อนจน

ไม่อยากเสียเวลาต่อรอง อคินเองก็ไม่รู้

“ฉันจะถือ'ว่าฟาดเคราะห์ก็แล้วกัน!” ปฏิเสธเสียงห้วนแล้วกลับเข้าไป

นั่งในรถ ก่อนไขกุญแจสตาร์ตรถอีกครั้ง ทำให้อคินนึกเสียดายขึ้นมาในบัดดล

แต่เหมือนโชคยังเข้าข้าง...รถกระบะสีหวานกลับสตาร์ตไม่ติดขึ้นมาดื้อๆ “อีกแล้วเหรอพี่ปีโป้...”

ได้ยินเสียงอิดออดระคนหงุดหงิดของหญิงสาว อคินก็ยิ้มกริ่ม ก้าว

ตามไปยืนพิงรถรุ่นเดอะของเธออย่างอารมณ์ดี

“อย่าเพิ่งเกเรตอน'นี้ได้ก่อ คนยิ่งรีบๆ อยู่เน้อ” ความพยายามของสาว

เหนือยังคงไม่สัมฤทธิผลง่ายๆ พี่ปี'โป้เกเรเสีย'จนยิ่งสตาร์ตยิ่ง'หมดแรง ตาม

สภาพความ ‘แก่’ ของเครื่องยนต์

“น้องสาวครับ ให้ผมไปล่งไหมครับ” อคินแกล้ง'หยอก'พร้อมยิ้ม ยิ่ง เห็นว่านางฟ้าของเขาปันหน้าบูดบึ้งก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักน่าแกล้งเป็นที่สุด

เอาเถอะ...อยากโกรธก็โกรธเข้าไป...อย่างไรเสียตอนนี้เขาก็อยู่ใน สถานะของคนที่ถือไพ่เหนือกว่า

ชายหนุ่มเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ รูปร่างอ้อนแอ้นอรชรอย่างเธอคงไม่คิด เดินปาคนเดียวไปถึงตัวเมืองเป็นแน่แท้ ถึงแม้ว่าจากตรงนี้จะมีถนนดินลูกรัง อำนวยความสะดวกไปตลอด แต่ระยะทางก็ยังอีกหลายสิบกิโล หญิงสาวก้าวลงมาจากรถอีกครั้งพลางปิดประตูด้งปัง!

“ไม่จำเป็น” หล่อนกระแทกเสียง ก่อนกลับหลังหันเดินเสียบริมถนนไป เรื่อยๆ หาได้คิดหันกลับมาชายตาคนอยากแสดงน้ำใจอาสาไปส่งไม่

อคินยิ้มชอบใจในความดื้อรั้นของนางอัปสรสวรรค์ ยิ่งเธอไม่เล่นด้วย

มากขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกท้าทายมากขึ้นเท่านั้น เมื่อกลับไปที่รถของตัวเอง

อีกครั้ง อคินก็ขับตามไปประกบข้างๆ พลางชะลอความเร็วให้เท่ากับจังหวะการก้าวของเธอ

“ไม่อยากให้ผมไปล่งจริงๆ เหรอครับ จากตรงนี้ไปถึงในเมืองไม่ใช่

ใกล้ๆ นะครับ ผู้หญิงเดินเท้าคนเดียวไม่ปลอดภัย เกิดมีใครมาฉุดไปท่ามิดี

มิร้ายจะท่ายังไง ผมไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นคนใจดำทิ้งผู้หญิงตัวเล็กๆ ไว้กลาง

ป่ากลางเขาคนเดียวหรอกนะครับ”

รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเขาท่าให้หญิงสาวรู้สึกหมั่นไส้เสีย มากกว่า

“การขึ้นรถไปกับคนอย่างคุณต่างหากที่ไม่ปลอดภัย”

“คนอย่างผมทำไมหรือครับ หน้าตาผมไม่น่าไว้ใจหรือผมหล่อเกินไป

จนคุณไม่ไว้ใจตัวเอง เกรงจะเผลอลวนลามผมขึ้นมา”

“บ้า!” หญิงสาวหันกลับมาต่อว่า พวงแก้มแดงกํ่าด้วยความเกรี้ยวกราด สองเท้าหยุดเดินโดยอัตโนมัติพลอยท่าให้รถของชายหนุ่มหยุดตามไปด้วย

“ใครจะไปคิดลวนลามคนอย่างคุณก้น อยาก'ไป'ไหนก็รีบๆ ไปเลยนะ

ไม่ต้องมาขับรถตามฉันอีก! ”

“ผมก็แค่หวังดีกับคุณนะครับ คุณ...” อคินทอดเสียงในเชิงถามชื่อ

หญิงสาว แต่นอกจากเธอจะไม่ตอบแล้วยังสะบัดหน้าพรืดไปอีกทางหนึ่ง

“หวังดีประสงค์ร้ายละสิไม่ว่า!”เหน็บพลางยกแขนทิ้งสองข้างขึ้นกอดอก อคินจึงแกล้งเปาลมฟ่ออกจากปากราวกับระอาในความดื้อรั้นของเธอเสียเต็มประดา

“ตามใจคุณแล้วกัน” อันที่จริงเขายังมืแผนสำรองในการชวนเธอมา ร่วมทางอีกมาก เมื่อแผนแรกไม่สำเร็จ ก็เห็นทีต้องใช้แผนสอง

“เมื่อคืนนี้ผมเพิ่งได้ยินคนเขาพูดกันว่ามีเสือหลงมาเพ่นพ่านแถวนี้

แถมยังหิวโซทำร้ายชาวเขาที่เข้าไปหาของปาจนแขนขาดไปข้าง ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้กำลังเร่งตามหามันให้วุ่น แต่ไม่รู้ว่าระหว่างเจ้าหน้าที่ปาไม้กับคุณ... ใครจะเจอมันก่อนกัน”

แกล้งทอดเสียงให้ฟังดูน่ากลัวในประโยคสุดท้าย แล้วเขาก็แทบอยาก หัวเราะให้ลั่นเมื่อเห็นสีหน้าตระหนกตกใจของนางอัปสร แต่ขืนทำอย่างนั้นเธอ คงได้รู้ท้นเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงทำเพียงตีสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย ถึงแม้

จะไม่จริงใจ แตกสมจริงจนหญิงสาวดูไม่ออกเลยลักนิดเดียว

“อย่า...อย่ามาอำฉันเสียให้ยากนะ ฉันเกิดและโตที่นี่ คุณคิดว่าฉันจะ

กลัวหรือ” น้ำเสียงกุกกักที่เธอพยายามประกาศออกมาอย่างห้าวหาญนั้น

หาได้ฟังมั่นอกมั่นใจในคำพูดของตัวเองไม่ “ก็...ก็แค่เสือ”

เสียงแผ่วในตอนท้ายประโยคทำให้อคินขบขันในใจ ทว่ากลับทำหน้าขรึมเหมือนไม่รับรู้

“ถ้าคุณไม่กลัว... อยากลองเสี่ยงเจอมันดูก็ได้นะครับ แต่ถ้าคุณเกิด กลายเป็นอาหารของมันขึ้นมา อย่าเป็นวิญญาณเร่ร่อนตามหลอกผมทีหลัง

แล้วหาว่าผมแล้งน้ำใจกับคุณก็แล้วกัน”

เห็นใบหน้าซีดเซียวหันรีหันขวาง สายตามองไปตามแนวต้นไม้น้อย

ใหญ่ในปาลึกว่ามีเงาของสัตว์ร้ายปรากฏขึ้นบ้างหรือไม่ ชายหนุ่มก็ยิ่งนึก

ลำพองใจ ล่อลวงเธอต่อด้วยคำพูดเขย่าขวัญสะท้านทรวง

“แต่เอ...ถ้าคุณเกิดไม่ตายแล้วถูกกัดแขนไปข้างหนึ่งแบบชาวบ้านที่

เข้าไปหาของปาเมื่อคืน ผมนึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่า...” คนเจ้าแผนการยังพูด

ไม่ทันจบดี หญิงสาวก็เปิดประตูรถจี๊ปขึ้นมานึ่งบนเบาะข้างๆ เขาอย่างเร็วรี่

อคินลอบยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่เมื่อเธอละลายตาจากประตูมามอง เขาก็รีบ

เก๊กหน้าขรึมพลางกระแอมถาม

“ไหนว่าไม่กลัวยังไงล่ะครับ”

“ใครบอกว่าฉันกลัว” หญิงสาวอึกอักโต้แย้ง พยายามปรับสีหน้าไม่ให้ ตระหนกมากเกินไปนัก แต่อคินมองออกจึงเผลอยิ้มขบข้น

“ฉันก็แค่เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายเสียหาย คุณผิดที่ขับรถชนฉัน

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

 เมื่อหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่า ตกหลุมรักสาวเจ้าของไร่สตอว์เบอร์รี จึงแผลงศรรักใส่อกเธอไม่ยั้ง ทว่าเธอกลับเกลียดชังเขา เพราะเขากล่าวหาว่า บิดาของเธอเป็นพวกลักลอบตัดไม้ทำลายป่า นานวันเข้าหัวใจหญิงสาวก็หวั่นไหวแต่ความขัดแย้งระหว่างบิดากับเขายังคงค้างคา เธอจึงต้องเลือกระหว่างบุพการีกับผู้ชายมีรักแท้ พบกับเรื่องราวความรักที่ถักทอขึ้นท่ามกลางบรรยากาศพืชไร่เมืองหนาวตามแนวพระราชดำริการเกษตรที่สูงและการรักษาต้นน้ำลำธาร


รีวิว (2)

เขียนรีวิว

SCR. | 2 รีวิว
29/01/2015

นิยายชุดนี้สนุกดีนะคะ ที่แรกคิดว่ามันจะน่าเบื่อ ได้ลองอ่านในม่านเมฆไปแล้วรู้สึกชอบ เลยลองเลือกหยิบเล่มนี้มาอ่านเป็นเล่มที่ 2 เพราะทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่า เนือ้หาไม่ได้ต่อเนื่องกัน บอกได้เลยว่าเล่มนี้ประทับใจพอ ๆ กับในม่านเมฆเลยค่ะ เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับป่าไม้และการเกษตรค่ะ จะเน้นไปในเรื่องของการทำเกษตรบนพื้นที่สูงทดแทนฝิ่น ภูมิลำเนาที่ใช้ประกอบนิยายเรื่องนี้คือจ.เชียงใหม่ค่ะ นางเอกก็เป็นคนเหนือแต๊ ๆ เลย พูดภาษาเหนือบ้าง กลางบ้าน ส่วนพระเอกเป็นหัวหน้าพิทักษ์ป่าไม้ค่ะ เท่มาก ๆ เลย มีฉากแอคชั่นให้ได้ลุ้นกันด้วยในช่วงท้าย ๆ พระเอกเป็นคนน่ารักค่ะ ชอบนางเอกตั้งแต่แรกเห็น ส่วนนางเอก นับดาว ถึงปากจะบอกว่าไม่ชอบ แต่ก็แอบมีใจให้อคินตั้งแต่แรกแล้วเหมือนกัน ความรักของทั้งคู่ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากเพราะอคินสงสัยว่าพ่อของนับดาวจะมีส่วนร่วมในขบวนการตัดไม้ ซึ่งนับดาวไม่เชื่อเป็นอันขาด และความรักของทั้งคู่ยิ่งดูเหมือนจะยากขึ้นไปอีก เมื่อพ่อของนับดาวสนับสนุนน่านนที ตำรวจตระเวนชายแดนเพื่อนสนิทของนับดาว อยากจะบอกว่าชอบนิยายเรื่องนี้มาก ชอบอคินและนับดาวค่ะ ทั้งคู่เป็นอะไรที่ลงตัวมาก อคินเองก็รักนับดาวมาก พยายามจะปกป้องและอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ อย่างใจเย็น ซึ่งนับดาวเองก็เชื่อว่าอคินไม่โกหก แต่เธอจะเชื่อในสิ่งที่อคินบอกได้อย่างไร เสียดายที่มาตกม้าตายตอนจบนิดเดียวค่ะ ทั้ง ๆ ที่อย่างอื่นกำลังจะเพอร์เฟ็กต์แล้วเชียว ให้ในม่านเมฆชนะไป 1 คะแนนค่ะ
ฐาปนัส | 2 รีวิว
12/07/2014

ผู้เขียน รินท์ลภัส สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ จำนวนหน้าหนังสือ 296 หน้า ผมพึ่งอ่านหนังสือเล่มนี้จบเมื่อวานนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า ตอนที่หนังสือเล่มนี้ถูกนำมาทำเป็นละคร ก็เป็นที่ถูกใจของผมไม่น้อย โดยเฉพาะอาชีพของพระเอกในเรื่องนี้คือหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าครับ ซึ่งเมื่อ่านหนังสือจบแล้ว ผมคิดว่าในหนังสือสนุกกว่าเยอะ เพราะละครกับหนังสือ ต้องบอกเลยว่า ต่างกันมาก ๆ ดู ๆ ไปก็เหมือนจะใช้แค่เค้าโครงกับตัวละครเท่านั้นครับ หนังสือเล่มนี้ เป็น 1 ใน 5 เล่มในชุด "ลูกไม้ของพ่อ" โดยเรื่องนี้จะถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพของในหลวงในเรื่องการทำเกษตรที่สูงแทนการปลูกฝิ่นครับ ดังนั้นในเรื่องนี้เราจะได้พบเห็นพันธุ์ไม้เมืองหนาว และชื่อพันธุ์ไม้แปลก ๆ ซึ่งผมคิดว่า เป็นอะไรที่ได้อรรถรสมากในส่วนนี้ครับ หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องของหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าที่ตกหลุมรักสาวเจ้าของไร่สตรอว์เบอร์รี่ จึงพยายามที่จะจีบเธออย่างสุดความสามารถ แต่นางเอกไม่เล่นด้วยครับ (ในตอนแรก ๆ แค่นั้นแหละ) เพราะพระเอกหาว่าพ่อของนางเอกเป็นคนตัดไม้ทำลายป่า เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะมีจุดขัดแย้งอยู่ที่ตรงนี้ ซึ่งผมคิดว่าผู้เขียนทำออกมาได้ดีทีเดียวครับ ไป ๆ มา ๆ ผมชอบหนังสือเล่มนี้มากกว่า "ในม่านเมฆ" เสียอีก ถ้าเปรียบเทียบ 2 เรื่อง ต้องบอกว่าพระเอกสูสีกันมากครับ ทั้งอาชีพการงาน ความหล่อ และความกวนอารมณ์ แต่ผมให้เปอร์เซ็นต์เอนมาที่ "อคิน" มากกว่า เพราะบุคลิกใกล้ ๆ ตัวผม และอคินในเรื่องเป็นคนน่ารักมากครับ เป็นคนที่จริงจัง ชัดเจนในด้านอุดมการณ์ และรักนางเอกมาก ๆ ครับ ส่วน "นับดาว" ผมเทใจให้หมดเลย หญิงสาวชาวเหนือเจ้าของไร่สตรอว์เบอร์รี่ ผู้หญิงที่รักธรรมชาติและผืนป่า ซึ่งตัวละครนี้น่ารักมากครับ น่ารักจนรู้สึกว่าเธอมีจริงและสัมผัสได้จนสามารถ "ตกหลุมรัก" ได้เลย แถมยังอู้คำเมืองอีก ยามงอนพระเอกก็น่ารักมากครับ ยามโหดก็น่าเอ็นดู ถ้าผมเป็นอคิน ผมก็คงจะทำเหมือนที่อคินทำครับ หนังสือเล่มนี้ผมให้คะแนนเต็มเลย น่ารักทั้งเรื่อง เห็นภาพบรรยากาศทางเหนือได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการใช้ภาษาเหนือ ผู้เขียนศึกษามาดีมากครับ ในส่วนของพระรองอย่าง ร้อยตำรวจเอกน่านนที ก็ทำออกมาได้ดูน่ารักมากเช่นกัน ดูเป็นพี่ชายที่อบอุ่น ( ซึ่งมันต่างกับละครเยอะ ที่ให้พระเอก กับพระรองมาต่อยกันแย่งนางเอก และนางเอกหนีไปอยู่กับพระเอกในบ้านพัก มันต่างกับหนังสือแบบสุดกู่) อ่านจบแล้ว ผมเลยกลายเป็นไม่ถูกใจละครเลยครับ ถ้าทำออกมาตามหนังสือก็น่ารักแล้ว ไม่น่าเบื่อด้วย นี่จากความคิดผมนะ สรุปว่า ถ้าคุณชื่นชอบบรรยากาศภาคเหนือ (เหนือแบบบนดอยเลยนะครับ) หรือชื่นชอบคนเหนือ ก็อยากให้ลองอ่านครับ อ่านแล้วคุณจะอมยิ้มเหมือนผมตลอดทั้งเรื่อง ลุ้นไปกับพระเอกในการสู้กับโจรทำลายป่า และปลาบปลื้มไปกับพระอัจฉริยภาพของพ่อหลวงของเราครับ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024