เล่ห์รักริมเล (อุธิยา)

เล่ห์รักริมเล (อุธิยา)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160003617
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 340.00 บาท 85.00 บาท
ประหยัด: 255.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 ๑

“หนูไม่ได้จบครูนะคะ หนูสอนไม่ได้หรอก”

“ไม่ใช่ครู เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายแผนงานต่างหาก”

“ก็นั่นแหละค่ะ เมื่อกี้ยังพูดอยู่เลยว่าครูไม่พอ ทำไปทำมาก็ไม่พ้น

ปุริมาแน่ๆ”

“เอาน่า...”

หญิงสาวคนบ่นทำหน้าเบื่อ เมื่อคนฟังยังคงใจเย็น คล้ายไม่รู้สึกรู้สม

ใดๆ กับการต่อต้านของเธอ ท้ายสุดก็ทำได้แค่มองออกไปนอกหน้าต่างอย่าง

เซ็งๆ ให้ทิวทัศน์ปลอบใจว่าคงไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่คิด

ชายวัยกลางคนทอดตามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู แม้ว่า

จะหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ แต่ใบหน้านั้นยังคงสวยน่ารัก ผิวแก้มเนียนใส

ตาโต คิ้วเข้มได้รูป จมูกโด่งพองามรับกับริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ

“ฝ่ายแผนงานของเราถ้าเทียบกับองค์กรเอกชนก็ฝ่ายการตลาด

นั่นแหละ เขียนกลยุทธ์ล่วงหน้าของโรงเรียน อาจจะสามปีหรือห้าปี

เสร็จแล้วก็มาเขียนแผนพัฒนาซึ่งเป็นแผนย่อยในแต่ละปี เป็นต้นว่า

งานกิจกรรมในวันสำคัญ งานประชาสัมพันธ์โรงเรียน รวมไปถึงการทำสื่อ

ต่างๆ ทำงานร่วมกับฝ่ายวิชาการ...”

“พอก่อนค่ะ!” ปุริมารีบยกมือห้าม “เอาเป็นว่าเดี๋ยวหนูไปอ่านเอกสาร

ให้จบก่อน ไม่เข้าใจตรงไหนจะมาถามแล้วกันนะคะ ฟังตอนนี้...ปวดหัว”

“ปวดหัวเพราะทะเลาะกับแม่มามากกว่า”

“พ่อคะ!”

คเชนทร์หัวเราะ ไม่ถือสาแม้อีกฝ่ายจะทำเสียงสูงใส่ ปุริมาเป็น

ลูกสาวคนเดียวของเขา ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เขากับลูกก็ไกลกันแค่ระยะ

ทางเท่านั้น ความสัมพันธ์พ่อลูกยังคงแน่นแฟ้น โดยเฉพาะตลอดสี่ห้าปีหลัง

มานี้เข้าขั้นดีมาก จึงพูดคุยล้อเล่นกันได้สนิทใจ

เขากับภุมรี อดีตภรรยา แยกทางกันตั้งแต่ปุริมายังเด็ก ปุริมาอยู่

กับแม่ เขาได้เจอลูกสาวบ้างเป็นครั้งคราวเท่าที่เวลาอำนวย แต่เขาก็ยังทำ

หน้าที่พ่อได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะปุริมามักจะโทร. มาเล่าเรื่อง

ต่างๆ ให้เขาฟังเสมอ และล่าสุด เมื่อเขาไปงานรับปริญญาของปุริมา ก็ได้

รับรู้ว่าลูกสาวเขาถูกผู้เป็นแม่ขัดขวางไม่ให้ทำอาชีพนางแบบอย่างที่ฝัน

คงเป็นเพราะสามีใหม่ของภุมรีเป็นอดีตทูต อดีตพ่อตาของเขาเอง

ก็เป็นทูต ขณะที่การเป็นนางแบบต้องมีความเซ็กซี่หวือหวามาเกี่ยวข้อง

ภุมรีคงไม่อยากให้ลูกสาวทำงานนี้เพราะอาจมีผลต่อภาพลักษณ์ครอบครัว

พอเถียงกันหนักเข้าก็กลายเป็นทะเลาะ ปุริมาโทษว่าแม่ผิดสัญญาทั้ง

ที่เธออุตส่าห์เรียนต่อจนได้ปริญญาโท พอเขายื่นข้อเสนอให้มาช่วยงาน

ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการ ลูกสาวคนเก่งจึงจัดกระเป๋ามาแทบจะในทันที

ภุมรีล้งเล้งมาอย่างที่คาด แม้จะเสียงอ่อนลงเมื่อเขาอธิบายว่าจะให้ลูกพักด้วย

แต่พอเขาบอกว่าจะให้ปุริมาอยู่ช่วยงานที่นี่ เสียงโวยวายก็ดังขึ้น

อีกระลอกจนเขาต้องรีบตัดบทวางสายไป

อะไรที่เป็นความคิดเขา เธอมักจะตัดสินว่ามันผิดเสมอ

หลายปีก่อนเขาตัดสินใจรับช่วงสานต่อกิจการของครอบครัว กู้สถานะ

โรงเรียนที่กำลังจะล่มให้ฟื้นคืนกลับมาด้วยว่ามันเป็นมรดกชิ้นเดียวจาก

ผู้เป็นพ่อ และเพราะเห็นใจนักเรียนที่อาจต้องเดินทางไปเรียนไกลถึงต่าง

อำเภอหากโรงเรียนแห่งนี้ต้องปิดกิจการไป ขณะที่ภุมรีอยากให้เขาขาย

โรงเรียนเสีย และไปใช้ชีวิตกับเธอในกรุงเทพฯ

เมื่อเขาเลือกโรงเรียน เธอจึงเป็นฝ่ายไปพร้อมกับปุริมา

ถึงโรงเรียนแห่งนี้จะเป็นโรงเรียนเอกชน แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจทำเพื่อ

การพาณิชย์เพียงอย่างเดียว โชคดีที่ความตั้งใจดีของเขาไม่เสียเปล่า ตอนนี้

สถานะการเงินของโรงเรียนดีขึ้นมาก แม้จะยังเป็นหนี้ธนาคารแต่ก็อยู่ในขั้นไม่เลวร้าย

“พ่อคะ”

คเชนทร์หลุดจากภวังค์เพราะเสียงใสกับตาแป๋วแหววของลูกสาว

เขาหันไปยิ้มให้

“มีอะไรเหรอคะ”

“เปล่าหรอก พ่อคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ”

ปุริมายิ้มทะเล้น “คิดถึงแม่ใช่ไหมคะ หนูพูดถึงแม่แค่นี้ทำตาลอยเชียว”

คนเป็นพ่อแกล้งเหล่ หญิงสาวหัวเราะคิก อารมณ์แช่มชื่นขึ้นเล็กน้อย

รถฮอนด้าซีวิกกลางเก่ากลางใหม่แล่นไปตามถนนสองเลนลาดยาง สองข้างทาง

เป็นนาเกลือ บ่อปลา มองเห็นทิวเขาสีจางๆ อยู่ไกลๆ รถที่แล่นสวนมาเป็นรถกระบะและรถบรรทุก

“คนที่นี่ส่วนใหญ่ทำประมง เลี้ยงสัตว์ ค้าขายก็เยอะ เพราะเป็นแหล่ง

ท่องเที่ยว ทำนาน่าจะน้อยสุด”

คเชนทร์อธิบายขณะที่ลูกสาวนั่งมองสองข้างทางอย่างสนใจ ครู่หนึ่ง

สายตาของปุริมาก็สะดุดเข้ากับป้ายสีเขียวริมทาง

ปูนิ่ม คุณภาพส่งออก จำหน่ายปลีก-ส่ง ติดต่อ ๐๘๖...

หญิงสาวไม่ทันได้อ่านชื่อฟาร์ม เพราะรถแล่นเลยไปก่อน

“มีฟาร์มปูนิ่มด้วย ใช่ที่เอามาทอดกระเทียมหรือเปล่าคะ”

“ใช่”

“หน้าตามันเป็นยังไงคะ เหมือนปูม้าหรือเปล่า”

“ปูนิ่มก็คือปูทะเลธรรมดานี่แหละ แต่ว่าเป็นปูที่เพิ่งลอกคราบ กระดอง

ยังไม่แข็ง เขาเลยเรียกปูนิ่ม”

ปุริมานึกภาพอาหารเมนูนั้น เคยลิ้มรส แต่ก็เป็นแบบที่ทำสำเร็จ

มาแล้ว ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาตัวเป็นๆ คิดเอาเองว่าคงเป็นปูพันธุ์หนึ่ง ตัวเล็ก

ไม่มีกระดอง อะไรทำนองนั้น

“แล้วเขาไปจับเอาจากในทะเลเลยเหรอคะ จะรู้ได้ยังว่าตอนไหนมันลอกคราบ”

คนเป็นพ่อยิ้มเอ็นดูกับความสงสัยของลูกสาว ปุริมาจากที่นี่ไปนาน

กลายเป็นเด็กเมืองเต็มตัว ไม่มีความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับเมืองชายทะเลแห่งนี้แม้แต่น้อย

“ไม่ต้องจับแล้ว เดี๋ยวนี้เขามีฟาร์มเลี้ยง คัดปูทะเลมาเลี้ยงไว้ บางที่

ก็เพาะพันธุ์ปูเองเลย ปูนิ่มที่นี่ขึ้นชื่อมากเลยนะ”

“ปูนิ่ม...” ปุริมารำพึง

“ตลกดีนะ ชื่อเดียวกับหนูเลย”

เจ้าของชื่อฟังแล้วทำหน้าเบ้ “นี่พ่อตั้งชื่อหนูจากปูลอกคราบเหรอคะ”

คเชนทร์หัวเราะชอบใจ แรกทีเดียวเขาตั้งชื่อลูกสาวแบบนี้เพราะ

อดีตภรรยาชอบกินปู แล้วเพิ่มคำท้ายให้ดูน่ารัก ไม่ทันคิดว่ามันจะไปพ้อง

กับเมนูอาหารเลื่องชื่อได้ เขารู้สึกมีความสุขมากในรอบหลายปีที่จะได้

ลูกสาวมาอยู่ด้วย ปีนี้ปุริมาอายุยี่สิบหก เป็นผู้ใหญ่พอสมควรแต่ก็ไม่ถึงกับ

เจนโลก จะว่าไปก็เหมือนปูนิ่ม ประสบการณ์ยังไม่มากพอจะเสริมสร้างให้

กระดองแข็งแกร่ง

ใช้เวลาอีกสักพักจึงถึงจุดหมาย... ‘โรงเรียนชลพิทักษ์พิทยาคม’

รถเลี้ยวผ่านสนามฟุตบอลซึ่งอยู่ด้านหน้าเข้ามาจอดด้านใน ปุริมา

ราวห้าหกคนกำลังเตะฟุตบอลกันอยู่ที่สนาม ตรงหน้าเธอเป็นสนามเด็กเล่น

ซึ่งอยู่ระหว่างที่จอดรถกับอาคารสองชั้นทาสีชมพูอ่อน เขียนว่าอาคาร ๓

ถัดออกไปเป็นอาคารอำนวยการ ลักษณะเป็นอาคารใต้ถุนสูงตกแต่ง

คล้ายบ้าน และมีส่วนเชื่อมต่อกับโรงอาหารซึ่งเป็นตึกทอดยาวไปด้านหลัง

 ด้านในสุดของอีกฝั่งโรงเรียน เป็นอาคารสามชั้นสีม่วงสลับชมพู หน้าตึก

ดังกล่าวเห็นชัดว่ากำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างหรือปรับปรุง เพราะแลเห็น

เพียงโครงสร้างอาคาร มีเสา หลังคา แต่ไม่มีผนัง ทั้งยังมีนั่งร้านวางเกะกะ

พื้นดินบางส่วนเป็นสีเข้มเนื่องจากซับน้ำฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ไม่นาน

ภายในอาณาเขตโรงเรียนซึ่งล้อมรอบด้วยรั้วปูนเตี้ยๆ นั้น มีถนน

ลาดยางขนาดหนึ่งเลนสำหรับวนรถ บรรยากาศโดยรวมไม่หรูหราเหมือน

โรงเรียนในเมือง ไม่มีสิ่งก่อสร้างสวยงามโดดเด่น หรือแม้ของตกแต่ง เช่น

สระบัว น้ำตก มีเพียงต้นไม้ให้ความร่มรื่นสลับกับไม้พุ่มเตี้ยประดับอยู่

โดยรอบเท่านั้น

แต่ความกว้างขวางของพื้นที่และอากาศบริสุทธิ์สะอาดก็ทำให้ปุริมา

หายใจได้เต็มปอด ตึกเรียนหลังเก่ากับสนามเด็กเล่นเล็กๆ และเครื่องเล่น

พื้นๆ ชวนให้ระลึกความหลังสมัยยังเป็นเด็ก

“ปูนิ่ม”

“คะ” หญิงสาวหันตามเสียงเรียก เห็นคนเป็นพ่อทำหน้านิ่ว

“พ่อลืมเอาเอกสารมา หนูเข้าไปก่อนได้ไหม”

“แล้วกัน” ปุริมาย่นคิ้ว ไม่ชอบนักกับการอยู่ลำพังในสถานที่ไม่คุ้นเคย

“เดี๋ยวพ่อกลับไปเอาที่บ้าน จะไปด้วยกันไหมล่ะ”

“ต้องไปเอาตอนนี้เลยเหรอคะ”

คเชนทร์พยักหน้า หญิงสาวหันมองโรงเรียน “งั้นพ่อไปเถอะค่ะ หนู

รอที่นี่ก็แล้วกัน จะได้เดินดูโรงเรียนด้วย” เธอบอกยิ้มๆ อีกฝ่ายพยักหน้ารับรู้

 

“ห้องทำงานพ่ออยู่ชั้นบนนั่นไง” คเชนทร์ชี้มือไปที่อาคารใต้ถุนสูง

ก่อนทิ้งท้าย “พ่อไปไม่นาน วันนี้วันเสาร์ มีครูมาทำงานบ้างเหมือนกัน ถ้า

ไม่อยากอยู่คนเดียว ไปรอพ่อที่ห้องพักครูก็ได้” ก่อนจะขึ้นรถขับออกไป

ปุริมาผ่อนลมหายใจ เดินลากเท้าช้าๆ ไปตามทาง เธอเห็นป้ายคำขวัญ

บอร์ดติดประกาศ บอร์ดนิทรรศการวันสำคัญต่างๆ กระดาษบางส่วนหลุดลุ่ย สีซีด

...นี่น่าจะเป็นงานของเธอกระมัง

อากาศตอนบ่ายอบอ้าวเล็กน้อย หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆ จนเกือบ

จะถึงอาคารเรียน แต่พลันก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อมีอะไรบางอย่างมาโดนข้างหลัง

“อุ๊ย!”

เธอหันไปหาต้นเหตุ เห็นลูกฟุตบอลกลิ้งหลุนๆ ผ่านหน้า และเด็ก

กลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามา

“ขอโทษครับ”

ก้มมองผล กระโปรงสีครีมปรากฏรอยดินเป็นปื้น ปุริมาหน้าเบ้

นี่ตัวโปรดของเธอเชียวนะ!

“อะไรกันเนี่ย!”

หญิงสาวแหวลั่น ทำเอากลุ่มนักฟุตบอลเหยียบเบรก มองหน้ากัน

เลิ่กลั่ก ปุริมาเท้าสะเอวก่อนใส่เป็นชุด

“เตะมาได้ยังไง ไม่เห็นคนเดินเหรอ ดูสิ กระโปรงพี่เปื้อนหมดเลย

ดีนะที่โดนตัว ถ้าเกิดโดนหัว หัวร้างข้างแตกไปจะทำยังไง!”

อีกฝ่ายได้แต่มองหน้ากัน ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเอ่ยขึ้น

“ก็ไม่ตั้งใจนี่ครับ บอลไม่ได้บังคับรีโมต”

“ว่าไงนะ!”

ปุริมาจ้องคนพูดเขม็ง เจ้าของเสียงเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ...ดูท่า

หมอนี่แหละที่น่าจะเป็นคนเตะบอลมาโดนเธอ หน้าตาคมกว่าใคร โดยเฉพาะ

ดวงตาคู่สวยที่ดูเอาเรื่องนั่น เขายืนอยู่ตรงกลางกลุ่ม พอสิ้นประโยคนั้น

เพื่อนๆ ก็หันมองเขาเป็นตาเดียว

“นี่เธอ ทำผิดแล้วยังจะมาเถียงอีกเหรอ พูดมาได้นะ ใช่สิ ลูกฟุตบอล

ไม่ได้เหมือนรถบังคับ แต่มันก็อยู่ที่เธอว่าจะเตะมันไปทางไหน ยิ่งต้อง

ระวังกว่าใช้รีโมตอีก แล้วนี่มาเล่นบอลกันอยู่ได้ยังไง ไม่ไปเรียนหรือไง”

“ใครเขาเรียนวันเสาร์”

เจ้าเด็กคนเดิมพูดหน้าตาย คนอื่นพากันกลั้นหัวเราะ ยิ่งทำให้ปุริมาโมโหปรี๊ด

“นี่!” หญิงสาวร่ำร่ำจะเข้าไปเบิ๊ดกะโหลกให้หนำใจ เด็กบ้า อายุแค่

สิบสี่สิบห้า ทำเป็นกร่างเหมือนผู้ใหญ่ ปุริมากำมือแน่นระงับความโกรธ

ครั้นแล้วก็เหยียดยิ้ม เดินไปหยิบลูกฟุตบอลขึ้นมา ลืมไปแล้วว่ามันเปื้อน

ใจอยากเอาชนะเด็กกลุ่มนี้มากกว่า

“โอเค วันเสาร์ไม่ต้องเรียน แต่ก็ไม่ให้เตะบอลด้วย” พูดจบก็เชิดหน้า

ทำท่าจะเดินไป คู่กรณีโวยลั่น

“อ้าว! เดี๋ยวสิ แล้วกัน เจ๊จะเอาลูกบอลพวกผมไปไหน”

เจ๊! กรี๊ด!

“เรียกใครเจ๊!”

คราวนี้เด็กชายยิ้มบ้าง “ก็เรียกเจ๊นั่นแหละ เจ๊คนสวย เอาน่า...

ก็บอกแล้วไงครับว่าไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษแล้วด้วย เจ๊เอาบอลมาให้ผมเถอะ

ผมสัญญาว่าจะไม่เตะไปโดนกระโปรงใครอีก”

“จริงครับ” คนอื่นพูดบ้าง “ปกติโขงมันเตะไม่แม่นแบบนี้นะครับ

ถามครูที่นี่ดูได้ ไม่มีใครเคยโดนเลย”

“ไอ้หมู นี่มึงชมหรือด่าวะ”

“นี่พวกเธอ อย่ามาพูดจาหยาบคายแถวนี้นะ” ปุริมาตวาด รู้เลาๆ

แล้วว่าเจ้าเด็กหน้าหล่อแต่ปากเสียชื่อโขง โดนเตะลูกบอลใส่มันเป็นอุบัติเหตุ

แต่มาพูดจาโอหังยียวนนี่รับไม่ได้เด็ดขาด “ฉันไม่ให้คืน มีอะไรไหม”

“อ้าวแล้วกัน ผู้ใหญ่รังแกเด็กนี่ หน้าตาก็สวย ทำไม...”

“หยุดนะ!”

เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ดังเข้ามาทำลายจังหวะโต้เถียง ทั้งหมด

หันไป เห็นมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แต่เก่าคร่ำคร่าแล่นเข้ามาจอด

“พ่อมึงนี่หว่าโขง”

เด็กชายโขงมีรอยยิ้มสมใจ ปุริมาขมวดคิ้ว หันไปจ้องมองคนมาใหม่

ข้อสงสัยและการตั้งแง่เพิ่มขึ้นทีละน้อย

คนที่เพิ่งมาถึงดับเครื่องแล้วเดินตรงเข้ามา เขาเป็นชายวัยสามสิบกว่า

ผิวเข้ม รูปร่างแข็งแรงผึ่งผาย สวมเสื้อแขนกุดสีน้ำเงิน เผยให้เห็นรอยสัก

บนหัวไหล่ กับกางเกงยีนสีซีด มีรอยขาดลุ่ยตรงหัวเข่า

เขามองมาที่เธอ ปุริมาชะงักเมื่อสบนัยน์ตาคมกล้าเป็นประกายคู่นั้น

...ว่าผิวเข้มแล้ว หน้ายังเข้มกว่า แนวคางรกเรื้อด้วยเคราสั้นๆ

ผมยาวระหน้าผากและต้นคอ คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เรื่องรักชวนลุ้น เมื่อสาวปูนิ่ม กระดองอ่อน ต้องโครจรมาเจอนายฟาร์มปูนิ่มจอมกะล่อน สารพัดสารพันในตัวเขาไม่มีสักสิ่งที่เธอชอบ หน้าเข้ม ตัวดำ ปากดี ยียวน ทะเล้นทะลึ่งลามกก็ปานนั้น! จะหนีก็ไม่ได้ จะต้านก็ไม่แกร่งพอ ทั้งโชคชะตายังเป็นใจใหเขามาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ หัวใจเสียอีก ปูนิ่มตัวจ้อยจะรอดพ้นอุ้งมือมาร หรือถูกต้องนิ่มๆ เข้าฟาร์มกันหนอ? .... เมืองชายทะเลแห่งนี้มีแต่สิ่งที่ ปุริมา ไม่พิสมัย แพปลา ฟาร์มปู คุณครู นายเข้! อุตส่าห์หนีจากแม่ที่ตีกรอบดับฝัน เก็บกระเป๋าย้ายมาอยู่กับพ่อที่เมืองชายทะเล ใครจะคิดว่าความรั้นที่จะทำตามใจตัวเอง กลับพาให้ชีวิตวุ่นวายยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า อะไรที่ไม่คิดว่าในชีวิตจะต้องทำ...ก็ต้องทำ อะไรที่ไม่คิดว่าในชีวิตจะต้องเจอ...ก็ได้เจอ โดยเฉพาะนายหัวหน้าเข้มคนนั้น นายเข้ พ่อม่ายหนุ่มเนื้อหอมจอมเจ้าชู้ ที่แท็กทีมมากับ เจ้าโขง ลูกติดวัยกระทงที่แสบเซี้ยวไม่แพ้กัน ปูสาวเพิ่งลอกคราบอย่างเธอ...จะต่อกรกับนายฟาร์มเขี้ยวลากไหวไหมนะ!!


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

สายลม | 1 รีวิว
15/07/2014

เล่ห์รักริมเล เป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากตั้งแต่ก่อนที่จะได้อ่าน คิดว่าเอาแค่ไม่ต้องถึงขนาดอ่านไม่จบก็พอเป็นช่วงที่กำลังเครียดกับเรื่องงานเลยต้องการหานิยายที่ค่อนข้างจะเบาและไม่หนักเหมือนที่อ่านประจำมาลองอ่านดูบ้าง นั่นหาหลายเรื่องอ่านคำโปรยปกหลังหลายแบบมาสะดุดเข้าที่เล่มนี้ แค่ชื่อพระเอกเราก็ยิ้มแล้วพระเอกเป็นนายหัว เป็นพ่อม่ายลูกติดชื่อนายเข้ ส่วนนางเอกของเรา ปุริมา เธอมาที่นี่เพียงเพราะหนีการบังคับและเบื่อการอยู่กับระเบียบกับแม่จึงกะว่าจะมาหาพ่อสักระยะ แต่สิ่งที่เธอมาเจอกลับไม่ได้งดงามอย่างที่หวัง สิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยสักครั้งในชีวิตเมื่อมาอยู่ที่นี่แล้วเธอก็ต้องทำ แถมยังได้มาเจอกับนายเข้ ผู้ชายที่ไม่ได้อยู่ในมโนความคิดของหญิงสาวเลยสักนิด ผู้ชายปากเสียมาดเข้ม ตัวดำ ตกลงมีอะไรดีบ้าง 555 แต่เพราะนายเข้เลยที่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นนิยายเรื่องนี้น่าสนใจและมีเนื้อหาที่สนุกและเบาสมอง ในเรื่องนี่มุกตลกที่นายเข้ขยันยิงนี่เรียกได้ว่ายิงแบบคนอ่านจุกเลย เป็นมุกที่มีความสดใหม่ขำขัน อ่านแล้วคนอ่านอมยิ้มอารมณ์ เพราะอย่างนี้นี่เองที่ทำให้นางเอกของเราค่อยๆ เปิดใจรับนายเข้เข้ามาทีละน้อย เรื่องนี้นายเข้มีลูกติดที่เกิดจากความผิดพลาดในอดีตที่เขาไปทำสาวท้องเข้าให้แต่นายเข้ก็เลือกที่จะรับผิดชอบโดยการเสียสละอนาคตของตัวเองแล้วให้หญิงสาวเก็บลูกเอาไว้แล้วเขาก็เอามาเลี้ยงเสียเองนิสัยกระล่อนเหมือนพ่อไม่มีผิด อ่านแล้วผ่อนคลายอารมณ์ดี อไม่ต้องจริงจังหรือคาดหวังอะไรมากนักแต่กลับได้ความสนุกสนานที่เกินคาด เป็นนิยายเบาสมอง ไม่ได้โลกสวยแบบเรื่องทั่วไป การดำเนินเรื่องทำได้ดีเขียนมุกได้เก่งมากอ่านแล้วยิ้มไปกับเรื่องเลยหาอ่านยากที่จะเจอนิยายเบาสมองที่ทำให้คนอ่านเพลินได้ตั้งแต่ต้นจบจบเรื่อง

สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024