ขวัญฤทัย ซีรีส์ ดวงใจเทวพรหม (เก้าแต้ม)
ประหยัด: 292.50 บาท ( 75.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 1 รายการราคา 189.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
ชายชุดสูทขับรถเบนซ์สีขาวคู่ใจเข้าไปจอดในโรงรถ เขาก้าวลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าหนังและหูฟังสำหรับตรวจคนไข้ เมื่อเดินเข้าไปในห้องรับแขกของเรือนใหญ่ก็มองหาใครคนหนึ่ง แต่ไม่พบ จึงวางกระเป๋าลงและเปลี่ยนจุดหมายไปยังห้องครัวด้านหลังวังแทน คนที่คุ้นตากำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร
“ทำอะไรอยู่หรือแก้ว กลิ่นหอมไปถึงเรือนใหญ่เลยทีเดียว” หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทรสอดแขนรัดรอบเอวแม่ครัว
บนโต๊ะมีอาหารหลายอย่างที่ปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขาดก็แต่สองรายการสุดท้ายซึ่งเป็นของโปรดของย่าอ่อนเท่านั้น
“อุ๊ย คุณชายกลับมาเมื่อไหร่คะเนี่ย ทำไมไม่ไปอาบน้ำอาบท่า เข้ามาในครัวให้เปื้อนทำไม”
พุฒิภัทรอมยิ้มมองภรรยาซึ่งแม้จะเข้าสู่วัยกลางคนแล้วแต่ก็ยังดูสวย ใบหน้ายังคงความงามเหมือนในอดีตสมตำแหน่ง ‘นางสาวศรีสยาม’ เมื่อ
สามสิบปีก่อน เขายังจำภาพนั้นติดตา จำได้แม้กระทั่งว่าตัวเองตะลึงมองกรองแก้วที่สวยผุดผาดทั้งเนื้อทั้งตัวเหมือนดั่งนางฟ้าจำแลงลงมาบนโลก
มนุษย์ นั่นคือ รักแรก
แม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ความรักก็ยังคงหวานชื่น เช่นเดียวกับฝีมือทำกับข้าวของกรองแก้วซึ่งไม่เป็นสองรองใคร ยามว่างศรีภรรยามักจะเข้า
ครัวแทนย่าอ่อนซึ่งบัดนี้อายุมากแล้ว และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพักผ่อน
ในเรือนริมน้ำ
“ทำไมผมจะลงมาไม่ได้ล่ะ ว่าแต่วันนี้มีเมนูพิเศษอะไรบ้าง”
“วันนี้มีหมี่กรอบ แกงฉู่ฉี่ปู ส่วนนี่ก็ปลาอินทรีทอดเกลือและน้ำพริกกุ้งเสียบค่ะ พอดีรุ่นน้องพยาบาลเพิ่งกลับบ้านที่ใต้ก็เลยซื้อมาฝาก”
“ฟังแค่ชื่อก็หิวแล้ว แถมยังหอมเสียด้วย”
เขายื่นหน้ามาข้างๆ แม้จะทำให้ผู้ฟังคิดว่าหมายถึงอาหาร แต่จมูกที่
ป้วนเปี้ยนข้างแก้มทำให้กรองแก้วต้องเอื้อมไปหยิกแขนสามีเบาๆ
“คุณชายคะ อายเด็กๆ ค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” กรองแก้วบ่นอย่าง
ไม่จริงจังนัก ใบหน้ายิ้มละไม
“ก็ไม่เห็นมีใครนี่ ในนี้มีแต่แก้วคนเดียว”
ภายในครัวบัดนี้มีเพียงกรองแก้ว เพราะหล่อนใช้ให้แม่ครัวออกไปเก็บพริกกับผักในสวนครัวด้านหลังมาให้
หล่อนหยิกแขนสามีซ้ำอีกครั้ง “เซี้ยวจริงๆ นะคะคุณชาย อายุปูนนี้
แล้ว แก้วไม่พูดด้วยหรอกค่ะ คุณชายไปนั่งพักให้เย็นใจก่อนเถอะ”
“แต่ผมอยากช่วย ไม่ได้เป็นลูกมือแก้วมานานแล้ว”
หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทรปีนี้อายุหกสิบสามแล้ว หลังจากเกษียณทางคณะแพทย์ได้ทาบทามให้เป็นอาจารย์พิเศษต่อ เวลาทั้งหมดของเขาทุ่มเท
ให้คนไข้และการสอนลูกศิษย์ นอกจากนั้นเขายังรับตำแหน่งผู้อำนวยการ
ศูนย์การแพทย์ซึ่งบริษัทรัชชานนท์คอนสตรัคชั่นกำลังก่อสร้างอยู่อีกด้วย
อีกไม่นานอาคารแห่งใหม่ก็จะสร้างเสร็จสมบูรณ์เพื่อรองรับจำนวนคนไข้ที่
เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ส่วนกรองแก้วนั้นหลังจากเรียนต่อเป็นพยาบาลก็เข้ารับราชการในโรงพยาบาลเดียวกัน หล่อนขยันขันแข็ง เอาใจใส่ดูแลคนไข้เป็นอย่างดี ได้เลื่อนเป็นหัวหน้าพยาบาลหอผู้ป่วยศัลยกรรมเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ครอบครัวสมบูรณ์และเพียบพร้อม ทั้งสองมีบุตรและธิดารวมสองคน
“คุณชายอยากช่วยจริงๆ หรือคะ”
“จริงสิ ว่าแต่มีอะไรให้หมอศัลยกรรมระบบประสาทอย่างผมทำบ้าง
จะให้ชำแหละปลา เลาะกระดูก หรือว่าจะให้ผมทำการตรวจกุ้งเสียบดี”
“คุณชายก็ เรื่องแบบนี้ก็เอามาล้อแก้วได้ ถ้าไม่ลำบาก คุณชายช่วย
แช่เส้นหมี่ให้แก้วหน่อยจะได้ไหมคะ”
หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทรเหลือบตาไปมองเส้นหมี่ขาวที่วางอยู่บนโต๊ะ เมนูหมี่กรอบทรงเครื่องนี้ถือเป็นเมนูโปรดของครอบครัวเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีน้ำพริกลงเรือที่ย่าอ่อนชอบทำให้ทุกคนในบ้านรับประทาน แต่พักหลังสุขภาพไม่เอื้ออำนวย จึงปล่อยให้กรองแก้วหรือแม่ครัวเป็นผู้ลงมือ
“ด้วยความยินดีครับ”
หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทรถือเส้นหมี่เข้าไปที่อ่างน้ำและแกะห่อออกกำลังจะนำลงแช่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา
“คุณแม่ทำอะไรครับ กลิ่นหอมเชียว”
ชายหนุ่มร่างสูงอายุยี่สิบแปดปีสอดแขนโอบรอบเอวกรองแก้ว แล้วขโมยหอมแก้มฟอดใหญ่
“ตายแล้ว ตาฉัตรเล่นอะไรแบบนี้”
“โธ่ คุณแม่ครับ ก็ผมคิดถึง เราไม่ได้เจอกันเกือบเดือนแล้วนะครับ”
หม่อมหลวงฉัตรเกล้าเป็นลูกชายคนโตของหล่อนกับหม่อมราชวงศ์พุฒิภัทร ด้วยหน้าตาประพิมพ์ประพายกับทั้งพ่อและแม่ ชายหนุ่มได้รับความเฉลียวฉลาดมาจากบิดาเต็มๆ ส่วนใบหน้าหวานเกินชายและนัยน์ตาอ่อนโยนได้รับมาจากมารดา
เขาสวมเสื้อกาวน์สั้น ตรงอกเสื้อปักอักษรย่อว่า วพม. อันเป็นตัวย่อของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าที่ท่อนล่างเป็นกางเกงสีเขียวเข้มตามแบบฉบับของทหาร รองเท้าหนังขัดมัน รวมถึงเหล็กชิดเท้าด้านข้างทำให้เกิดเสียงเวลาเดิน
“แต่ลูกโตแล้ว จะมาหอมแก้มแม่ได้ยังไง สาวๆ เห็นเข้าจะคิดว่าเป็นลูกแหง่”
“ก็ดีสิครับ ผมจะได้อยู่กับคุณแม่นานๆ ไม่ต้องมีแฟน”
ลูกชายยังไม่คลายแขน แต่ยิ่งกอดแน่นขึ้น กรองแก้วมองลูกด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าใกล้จะเรียนจบเฉพาะทางด้านศัลยกรรมกระดูกแล้วนิสัยก็ยังออดอ้อน
กิตติศัพท์ความหล่อเหลาของพันตรีหม่อมหลวงฉัตรเกล้าไม่ได้น้อยไปกว่าหม่อมราชวงศ์พุฒิภัทรสมัยหนุ่มๆ เลยแม้แต่น้อย ทั้งนักศึกษาพยาบาล เจ้าหน้าที่ รวมถึงคนไข้ ล้วนแต่ชื่นชอบแพทย์ทหารคนนี้ ด้านการเรียนหม่อมหลวงฉัตรเกล้าเรียนจบวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้ารุ่นที่ ๕ ด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง หลังจากนั้นจึงไปใช้ทุนสามปีแล้วกลับมาเรียนต่อด้านศัลยกรรมกระดูก เขาเป็นตัวเต็งที่จะสอบได้ที่หนึ่งบอร์ดในปีนี้อีกด้วย แม้ทางคณะฯ จะทาบทามให้เป็นอาจารย์ แต่เจ้าตัว
กลับเลือกที่จะไปทำงานที่โรงพยาบาลค่ายที่ต่างจังหวัดแทน
“พอเลยจ้ะ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเถอะ เหม็นเหงื่อจะแย่”
“ไม่เห็นเหม็นนิครับ หอมออก แก้มคุณแม่สองข้างหอมเหมือนกันเปี๊ยบ” นายแพทย์หนุ่มกดจมูกโด่งที่ข้างแก้มมารดา
กรองแก้วยิ้มพลางลูบศีรษะบุตรชาย “ปากหวานจริงๆ สองพ่อลูกนี่เหมือนกันไม่มีผิด”
“อ้าว นี่คุณพ่อก็มาด้วยหรือครับ อยู่ไหน”
หม่อมหลวงฉัตรเกล้าเหลียวมองไปอีกฟากหนึ่งของครัว และเห็นว่าบิดายืนยิ้มอยู่ตรงอ่างน้ำ
หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทรยักคิ้วอย่างเป็นต่อ “ใช่ และพ่อก็เป็นคนแรกที่ได้กอดแม่ในวันนี้”
“เหลือเชื่อจริงๆ คุณพ่อยังมาเยาะเย้ยผมอีกหรือครับ ผมไม่ยอม ผมจะกอดคุณแม่ไว้แน่นๆ แบบนี้” ฉัตรเกล้าแกล้งกอดมารดาแน่น
หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทรวางมือจากงานแล้วเดินเข้ามาสมทบกับทั้งสอง
“ก็มันเป็นความจริง พ่อมาก่อน แล้วก็ได้กอดแม่ก่อน ว่าแต่ทำไมวันนี้ไอ้เสืออย่างแกกลับบ้านได้ หรือว่ามีเรื่องด่วน”
สัปดาห์ก่อนหม่อมหลวงฉัตรเกล้าโทร. มาปรึกษาเกี่ยวกับที่ทำงานหลังเรียนจบ แม้ทางคณะแพทย์จะอยากได้เขาเป็นอาจารย์แต่เนื่องจากอุปนิสัยของฉัตรเกล้านั้นชอบแบบลุยๆ มากกว่า ความฝันของเขาคือ ทำงานเพื่อประชาชนในถิ่นทุรกันดาร นอกจากในฐานะแพทย์แล้วยังอาจจะได้รับใช้ชาติในฐานะทหารอีกด้วย เพราะเหตุนี้เอง เขาจึงเลือกเรียนแพทย์พระมงกุฎปัจจุบันแพทย์ในโรงพยาบาลค่ายรวมถึงพื้นที่ชายแดนยังขาดแคลน โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งยังมีการระบาดของยาเสพติด
“คุณพ่อรู้ใจผมจริงๆ ผมเพิ่งปฏิเสธตำแหน่งอาจารย์ในภาควิชาไปครับ เพราะผมตั้งใจจะไปใช้ทุนที่ต่างจังหวัด”
ฉัตรเกล้าบอกชื่อโรงพยาบาลค่ายแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศ
“งั้นก็เรื่องใหญ่ พ่อว่าฉัตรคงต้องเกริ่นๆ บอกทวดอ่อนไว้ก่อน ท่านจะได้ไม่ตกใจ”
ย่าอ่อน หรือที่ตอนนี้ทุกคนเรียกว่าทวดอ่อน ปีนี้อายุมากแล้ว สุขภาพเริ่มทรุดโทรมลงตามประสาผู้สูงอายุ แต่ที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ ความรักและเป็นห่วงหลานและเหลน แม้ตอนนี้ทุกคนจะโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว
อย่างเช่นคราวที่หม่อมหลวงปกเกศ น้องสาวแท้ๆ ของหม่อมหลวงฉัตรเกล้าเดินทางไปเรียนต่อด้านแฟชั่นดีไซน์ที่ปารีส คุณทวดถึงกับงอนไม่ยอมพูดด้วยไปหลายวัน แต่พอได้รับจดหมายขอโทษและจดหมายเล่า
ความเป็นมาเป็นไประหว่างอยู่ที่โน่น ความน้อยใจก็คลายลง
“คุณพ่อกับคุณแม่ช่วยพูดหน่อยสิครับ”
“คงไม่ได้หรอก เมื่อฉัตรตัดสินใจดีแล้วว่าอยากรับใช้ชาติก็ต้อง
อธิบายให้คุณทวดเข้าใจ”
“ที่นั่นคงปลอดภัยใช่ไหมลูก”
โรงพยาบาลค่ายที่หม่อมหลวงฉัตรเกล้าเลือกตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย แม้โรงพยาบาลจะอยู่กลางเมืองซึ่งถือว่าปลอดภัย แต่ก็ต้องมีการออกหน่วยในพื้นที่ติดชายแดนที่ยังมีผู้ก่อการร้ายและพ่อค้ายาเสพติดแฝงตัวอยู่
“ก็มีความเสี่ยงบ้างครับคุณแม่ แต่ผมไม่กลัว หน้าที่ของทหารคืออุทิศตัวเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การที่เราเป็นหมอทหาร ภาระหน้าที่ก็ต้องเหนื่อยเป็นสองเท่า”
“ถ้าลูกมั่นใจอย่างนั้นพ่อก็เอาใจช่วย พูดกับคุณทวดตรงๆ หรือถ้าไม่สำเร็จก็ให้คุณอาพีร์ช่วยพูดให้” ขณะนี้หม่อมราชวงศ์รณพีร์ดำรงตำแหน่งนายพลแห่งกองทัพอากาศ
“คงไม่ต้องรบกวนหรอกครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ว่าแต่คุณเกศจะกลับมาเมืองไทยเมื่อไหร่หรือครับ ผมจะได้ไปรับ หวังว่าคงจะก่อนที่ผมจะไปทำงานที่เชียงรายนะ”
“น่าจะอาทิตย์หน้า เห็นว่าจะโทร. มาบอกใกล้ๆ กลับมา คราวนี้ก็จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัวสักที”
หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทรโอบไหล่กรองแก้ว โดยมีฉัตรเกล้ายืนอยู่ข้างๆ วังจุฑาเทพคงจะได้ต้อนรับการกลับมาของหม่อมหลวงปกเกศในอีกไม่นาน
อาหารเย็นมื้อนี้เต็มไปด้วยความครึกครื้น เพราะวังจุฑาเทพเพิ่งได้
ต้อนรับสมาชิกใหม่คือ แฟนสาวของหม่อมหลวงภูธเนศซึ่งมีชื่อว่า ลออจันทร์ ทวดอ่อนก็พลอยมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นเมื่อเห็นทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตา แต่แทนที่จะเจริญอาหาร ท่านกลับมองไปรอบโต๊ะแล้วทำหน้าเศร้าสร้อยพลางถอนหายใจ หลังจากตักข้าวได้แค่สองคำ ชิมหมี่กรอบไปอีกเพียงนิดเดียวก็ขอตัวกลับเข้าไปพักในห้อง
หม่อมหลวงฉัตรเกล้าซึ่งคอยสังเกตตั้งแต่ต้นจึงรับหน้าที่พาทวดอ่อนเข้าไปพัก เขารออยู่ด้านนอก ปล่อยให้ผู้ดูแลพาท่านเข้าไปทำธุระส่วนตัวภายในห้องนอนมีเครื่องเรือนน้อยชิ้นดูสะอาดสะอ้าน นอกนั้นก็เป็อุปกรณ์
การแพทย์ครบครัน ทั้งถังออกซิเจนและอุปกรณ์ฉุกเฉินที่จำเป็น
ฉัตรเกล้ารออยู่ครู่ใหญ่จึงโบกมือให้ผู้ดูแลซึ่งเป็นผู้ช่วยพยาบาลออกไปก่อน ส่วนตัวเขาเองทรุดตัวลงคลานเข่าเข้าไปหมอบข้างๆ
“นั่นคุณฉัตรหรือ”
ทวดอ่อนนั่งอยู่ตรงมุมประจำบนเตียง แม้จะอายุมากแล้ว แต่ความจำยังไม่เลือนไปตามเวลา ยามว่างท่านก็มักจะเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง
“ครับคุณทวด ผมเอง” ฉัตรเกล้าประนมมือแทบตัก
ทวดอ่อนดึงชายหนุ่มเข้าไปกอด ลูบศีรษะด้วยความรักใคร่ น้ำตาแห่งความปีติไหลซึมออกมา
“โอ! พ่อเจ้าประคุณของย่าทวด คิดถึงจริงๆ เลย”
เมื่อครู่นี้บนโต๊ะอาหารเขายังไม่มีโอกาสได้คุยกับท่านเลย เพราะบทสนทนาในวันนี้ผูกขาดโดยหม่อมหลวงภูธเนศ บุตรชายของหม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ รวมถึงว่าที่น้องสะใภ้ที่มีกิริยาน่ารัก ในอนาคตอันใกล้ครอบครัวจุฑาเทพคงมีสมาชิกเพิ่มขึ้น เพราะห้าสิงห์จุฑาเทพเมื่อแต่งงานต่างก็สร้างบ้านของตนในพื้นที่วังแห่งนี้ ต่างมีทายาทชายเป็นคนหัวปี จนกลายเป็นห้าสิงห์จุฑาเทพรุ่นที่สอง ประกอบไปด้วยหม่อมหลวงอศิร หม่อมหลวงสรุจ ตัวหม่อมหลวงฉัตรเกล้าเอง หม่อมหลวงภูธเนศ และหม่อมหลวงรณจักร
“ผมก็คิดถึงคุณทวดมากครับ”
“พักนี้งานยุ่งหรือถึงไม่ค่อยได้กลับมาเลย”
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)