The Dark Phantom : แสนรักซ่อนใจ (กรรัมภา)

The Dark Phantom : แสนรักซ่อนใจ (กรรัมภา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160022250
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 330.00 บาท 82.50 บาท
ประหยัด: 247.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

ความลับดำมืดมักจะซุกซ่อนอยู่ในยามราตรีเสมอ...

ตอนนี้ก็เช่นกัน...

ท่าเรือเล็กๆ  สำหรับขนส่งสินค้าทางทะเลแห่งหนึ่งปรากฏเงาร่างสูงใหญ่ของผู้ชายสวมชุดสูทสีดำที่กำลังสาวเท้าเข้ามาด้วยความรีบเร่งจนลูกน้องอีกสี่คนเดินตามแทบไม่ทัน

“ตรงนี้แหละครับนาย”  หนึ่งในลูกน้องทั้งสี่คนพูดขึ้น  ส่งผลให้ชายร่างสูงใหญ่หยุดฝีเท้าลงแค่นั้น แล้วมองไปรอบๆ บริเวณ

ชายหนุ่มที่ตัวสูงที่สุดกางแขนออกทั้งสองข้าง แสดงความบริสุทธิ์ใจให้แก่พวกที่ ‘ซุ่ม’ ดูอยู่ และแล้วก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินออกมา

“คิดว่าจะไม่มา”  เสียงเหี้ยมเกรียมดังออกมาจากมุมมืด  ก่อนที่คนพูดจะเดินมายืนประจันหน้ากับชายร่างสูงท่าทางเยือกเย็น

“คำไหนคำนั้น”

“คิดว่าผู้ลากมากดีอย่างคุณจะสนใจแต่อุดมการณ์เสียอีก”

“มันกินไม่ได้นี่”  ชายสวมสูทสีดำสุดเนี้ยบยักไหล่  ก่อนจะถามขึ้นเสียเอง "เงินล่ะ"

“สินค้าอยู่ไหน”

“พร้อมอยู่แล้ว อยากตรวจสอบก่อนไหม”

“ขอแค่ตัวอย่างก็พอ บริษัทยักษ์ใหญ่อันดับโลกอย่างคุณคงไม่อยากเสียชื่อหรอกใช่ไหม”

ชายชุดสูทสีดำไม่พูดอะไร เขาหันไปพยักหน้ากับลูกน้องให้ยกลังไม้สี่ลังเข้ามา แล้ววางลงระหว่างชายทั้งสองที่กำลังเจรจากันอยู่

“ไม่ตีตรารึ” ชายจากมุมมืดถามขณะมอง ‘ของสำคัญ’ ที่อยู่ในลัง

“ทำให้โดนจับง่ายๆ น่ะหรือ...คิดว่าผมเล่นขายของหรือไง”

ชายจากมุมมืดหัวเราะเสียงเหี้ยม “สมกับฉายาผู้ส่ง...”

“หุบปาก แล้วส่งเงินมาได้แล้ว”

“ตามนั้น” ชายจากมุมมืดหันไปพยักหน้ากับลูกน้องตัวเองบ้าง แล้วยื่นกระเป๋าขนาดใหญ่ถึงห้าใบให้ชายในชุดสูทสีดำ

“ตรวจสอบด้วย” ชายชุดสูทดำส่งต่อให้ลูกน้องตรวจสอบ

ความเงียบปกคลุมไปทั่วบริเวณราวๆ สิบห้านาที ลูกน้องจึงเงยหน้าขึ้นรายงานเจ้านาย

“เรียบร้อยครับนาย”

“ของล่ะ ส่งให้หรือยัง” ชายที่มาจากมุมมืดถาม

“เรียบร้อยแล้ว ขนขึ้นเรือไปได้เลย”

“แน่ใจนะว่าจะไม่มีพวกตำรวจสากลตามมา”

“ผมเคยพลาดให้พวกคุณเห็นหรือ”  ชายที่สวมชุดสูทสีดำสนิทตอบ แล้วเดินนำเข้าไปตรวจตราสินค้า  และรอให้อีกฝ่ายขนขึ้นเรือจนเสร็จเรียบร้อย ทุกอย่างกินเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณ” ชายที่เคยอยู่ในมุมมืดยื่นมือออกมา

ชายสวมชุดสูทสีดำมองมือหนากร้านแล้วยอมจับมือด้วยแต่โดยดี “เช่นกัน”

“แล้วผมจะติดต่อมาอีก”

“ผมจะไม่อวยพรว่าพระเจ้าคุ้มครองแล้วกัน”

เสียงเยือกเย็นของชายชุดสูทดำทำให้คนฟังเย็นสันหลังวาบ แต่ก็ฝืนหัวเราะออกมา

“คุณด้วย พระเจ้าคงไม่อยากเข้าข้างคนอย่างพวกเรา”

ชายสวมสูทสีดำพยักหน้า มองเรือขนส่งสินค้าลำใหญ่ที่ค่อยๆ ออกจากท่าเรือไปด้วยสายตาเย็นชา จนยากจะอ่านออกว่าเขากำลังคิดอะไร

“กลับเถอะครับนาย”

“อืม” คนเป็นนายพยักหน้า แต่แล้วเขากลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ที่บอกได้ว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาเท่านั้นที่อยู่ในท่าเรือ แต่กลับมี ‘แขกไม่ได้รับเชิญ’ บางพวกมาด้วย

เจ้านายและลูกน้องหันมาสบตากันอย่างพร้อมเพรียง  ชายสวมสูทสีดำพยักหน้ากับลูกน้อง แล้วเปลี่ยนใจกลับมายังท่าเรือเหมือนเดิม

ไม่นานนักเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ก็ดังแว่วมา พาหนะที่กำลังจะมาพาพวกเขาหนีไปมาถึงแล้ว บีบให้ ‘แขกไม่ได้รับเชิญ’ ต้องปรากฏตัว

“นี่ตำรวจสากล...หยุดอยู่ตรงนั้นแล้วมอบตัวซะ!”

ชายชุดสูทสีดำที่กำลังจะก้าวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชะงัก  แล้วมองพวกตำรวจสากลจากทางหางตา ก่อนจะแสยะยิ้มเหี้ยมแล้วตอบว่า

“เสียใจด้วยครับคุณตำรวจ วันนี้ผมไม่ว่าง” แล้วชายร่างสูงก็ก้าวขึ้นไปนั่งบนเฮลิคอปเตอร์อย่างสง่างาม  พร้อมๆ  กับเสียงตะโกนสั่งของพวกตำรวจสากล

“ยิง!”

ปุ!

เสียงปืนดังขึ้นจริง แต่ไม่ได้ดังมาจากปากกระบอกปืนของพวกตำรวจสากลแต่อย่างใด  แต่เป็นของสไนเปอร์ที่ซุ่มซ่อนอยู่ตามตู้คอนเทนเนอร์ที่เรียงต่อกันจนสูง ทำให้มองไม่เห็นตัวพวกเขาได้จากทางพื้นราบ

“เวรเอ๊ย!”  หัวหน้าทีมตำรวจสากลสบถดุเดือด  เพราะลูกน้องที่นำเข้ามาจับตัวคนร้ายที่ส่งอาวุธสงครามให้กลุ่มกบฏในยุโรปตะวันออกไม่ได้ ทั้งยังเสียลูกน้องไปอีกต่างหาก

ตำรวจสากลหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเฮลิคอปเตอร์สีดำสนิทที่ห่างไปลับสายตา  สายลมยังพัดกระหน่ำต่อไปเรื่อยๆ  ทำให้บางสิ่งบางอย่างปลิวมากระทบแทบเท้าของเขา

หน้ากากหนังสีดำ!

หัวหน้าทีมตำรวจสากลยิ้มเหี้ยม ดูท่าเขาจะเจอของจริงเสียแล้ว

เดอะดาร์กแฟนทอม ปีศาจแห่งรัตติกาล...

มาเฟียในโลกมืดที่ตำรวจสากลต้องการตัวมากที่สุด แต่กลับไม่มีใครจับเขาได้ แม้ว่าชายคนนั้นจะไม่สวมหน้ากาก แต่ความมืดก็อำพรางใบหน้าได้เป็นอย่างดี  เพราะแม้แต่ตัวหัวหน้าตำรวจสากลเองก็มองไม่เห็นว่าฝ่ายนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร

สิ่งเดียวที่ทิ้งไว้มีเพียงหน้ากากหนังสีดำที่เปรียบดังสัญลักษณ์แทนเจ้าตัวเท่านั้น...

 

1

โลกสีเทา

 

ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งเดินออกจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าขนหนูพันกายท่อนล่างเท่านั้น หยดน้ำเกาะพราวไปทั้งแผงอกและกล้ามท้องหนั่นแน่น  แต่เจ้าตัวหาได้สนใจ  เขาใช้ผ้าขนหนูสีขาวสะอาดเช็ดผมแรงๆ  แล้วเดินมารับโทรศัพท์ที่ยังดังอย่างต่อเนื่องพลางสบถด้วยความหงุดหงิด  เพิ่งจะเสร็จจากงาน  ‘ลับบางอย่าง’  กับเพื่อนร่วมกลุ่มที่ฮ่องกงแท้ๆ  เขาก็เดินทางมายังประเทศไทยที่เป็นประเทศบ้านเกิดของมารดาเพื่อพักผ่อน  แต่ก็ยังมิวายมีเรื่องกลุ้มใจไม่หยุด จึงอดหัวเสียไม่ได้ที่ถูกขัดจังหวะเวลาพักผ่อน

ทว่าเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอว่าเป็นใคร  รอยยิ้มที่น้อยคนนักจะได้เห็นก็ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาทันที

“คุณพ่อขา” เสียงใสแจ๋วของเด็กน้อยจากปลายสายทำให้หนุ่มยิ้มยากไม่อาจกลั้นรอยยิ้มไว้ได้อีกต่อไป  เมื่อนึกไปถึงใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูของลูกสาว

“ตื่นแล้วหรือ” คนเป็นพ่อหันไปมองนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเย็นแล้ว  ถ้านับเวลาที่สเปนจะช้ากว่าไทยประมาณหกชั่วโมง  ซึ่งตรงกับเวลาอาหารเช้าของคนนิสัยเสียอย่างเขาที่ชอบกินอาหารเช้าเสียสายโด่ง  ผิดกับตอนอยู่ในไทยลิบลับ และตอนนี้ก็ถึงเวลาตื่นนอนของยายหนูตัวน้อยพอดีด้วย

“เมื่อไรคุณพ่อจะกลับคะ”

“อีกสักพักนะเบลล่า งานพ่อยังไม่เสร็จเลย”

“กี่วัน”

“ไม่นานหรอกเบลล่า แล้วพ่อจะซื้อตุ๊กตาไปให้นะ”

“สัญญาแล้วนะคะคุณพ่อ เอากระโปรงสวยๆ ด้วยนะคะ”

“ได้เลย”  คนเป็นพ่อยิ้มอารมณ์ดี  “แต่ตอนนี้ยายหนูต้องลุกขึ้นจากที่นอนแล้วทานอาหารเช้าเยอะๆ ตกลงไหม”

“ก็ได้ค่ะ  รักคุณพ่อค่ะ...จุ๊บ”  เสียงใสๆ  ดังมาพร้อมกับเสียงส่งจูบแบบน่ารักของเด็กหญิงวัยสี่ขวบกว่าๆ ที่ต่อให้ไม่เห็นหน้า แต่คนเป็นพ่อก็นึกออกว่าลูกสาวเพียงคนเดียวของตนจะทำหน้าทะลึ่งทะเล้นปานใด

“พ่อก็รักลูก”

ชายหนุ่มตัดสายจากลูกสาวตัวน้อย  วางโทรศัพท์ลงแล้วจึงเดินไปแต่งตัว คืนนี้มีนัดเปิดตัวงานเครื่องเพชรของอีวาเจลีน ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นคนพิเศษของเขา

เขาหยุดยืนที่หน้าตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอินขนาดใหญ่ ไม่นานนักก็เลือกได้เสื้อเชิ้ตสีขาวตัดเย็บอย่างประณีตขนาดพอดีตัวเช่นเดียวกับกางเกงสีดำเสื้อสูทสีดำจากแบรนด์ดังที่ใช้ประจำยิ่งเพิ่มความลึกลับน่าค้นหาของผู้สวมใส่  เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาจึงก้าวเท้ายาวๆ  มายังห้องนอนรับรองแขกที่อยู่ติดกับห้องของเขา พร้อมๆ กับที่ประตูห้องถูกเปิดออกมาพอดี

“ว้าว”  หญิงสาวชาวตะวันตกผู้มีใบหน้าสวยโฉบเฉี่ยวอุทานเสียงใส ดวงตาคู่สีเขียวเจิดจ้าเบิกกว้างขึ้นนิดๆ  ยามมองผู้ชายร่างสูงใหญ่ตรงหน้า เธอเอ่ยปากชมด้วยน้ำเสียงเย้ายวนตามธรรมชาติ ไม่ได้ปรุงแต่งแต่อย่างใด “หล่อเชียวนะคะอัล”

‘อัล’ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ‘อัลเบอร์โต อะลอนโซ’ หนุ่มลูกครึ่งสเปน-ไทย  ไม่ตอบ  ใบหน้าหล่อเหลาคมคายยังคงนิ่งเฉย  ดวงตาสีดำคมเข้มไม่ฉายแววใดๆ  ริมฝีปากบางเหยียดตรง  ทำให้หน้าตาที่ล้อมด้วยหนวดเครา

จางๆ ดูบึ้งตึงตลอดเวลา

เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย  และอีวาเจลีนก็รู้ดีว่านี่คือการให้เกียรติที่สุดแล้ว  เพราะพ่อค้าอาวุธสงครามผู้สืบทอดกิจการฟรานซิสโก  อินดัสตรีส์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างอัลเบอร์โตไม่เคยก้มหัวให้ใคร!

อัลเบอร์โตไม่ตอบ  เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงความรู้สึกยินดียินร้าย แต่ก็เดินไปขยับสร้อยเพชรบนลำคอระหงของสาวสวยตรงหน้า  ก่อนจะพากันลงไปชั้นล่างของบ้าน

“กว่าจะถึงเวลาเปิดงาน ฉันคงต้องเติมเครื่องสำอางใหม่กันพอดี”

“คุณสวยอยู่แล้ว”  คำชมแบบแข็งๆ  ของเจ้าพ่อหนุ่มทำให้คนได้รับคำชมหัวเราะเสียงใสทันที เธอรู้จักกับอัลเบอร์โตมานานจนดูออกว่านี่น่ะคือคำชมจากใจจริงของเขาแล้ว

“เวลาชมสาวว่าสวยคุณควรจะยิ้มด้วยนะคะอัล”

“ที่จริงผมมีธุระที่บ้านเก่าของญาติก่อนไปงานเปิดตัวเพชรของคุณ แต่...”

“ทำไมไม่ไปล่ะคะ”

“คุณจะไปอย่างไรล่ะ”

“ทิ้งบอดีการ์ดของคุณไว้ขับรถให้ฉันก็ได้ แค่นั้นพอแล้ว”

“ผมไม่ไว้ใจ”

“คุณขี้ระแวงไปแล้วค่ะ” หญิงสาวสวมชุดแดงคลี่ยิ้มผ่อนคลาย ส่งให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก ผิดกับคู่สนทนาหนุ่มที่คิ้วแทบจะขมวดเป็นปมอยู่แล้ว

“ผมจะให้โดโลธีกับซาเวียร์อยู่กับคุณแล้วกัน”

“ไม่เอาค่ะ”  อีวาเจลีนกลอกตา  ทั้งสองคนที่พูดมานั้นถอดแบบ

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

แม้สิ้นศรัทธา...โลกดับสลาย... 
มือคู่นี้จะจับจูงมือเธอไว้...ตราบจนลมหายใจสุดท้าย
รัตนาวดี คัมเบอร์แบทซ์ นักเคมีวิเคราะห์สาวสุดโก๊ะ
ได้รับเลือกไปทำงานที่ ‘ฟรานซิสโก อินดัสตรีส์’ บริษัทผลิตอาวุธยักษ์ใหญ่ในสเปน
เพียงวันแรกที่ได้พบเจ้านายแสนเย็นชาอย่าง อัลเบอร์โต อะลอนโซ
เขาก็ต้อนรับเธอด้วย...จุมพิตที่เร่าร้อน และย้ำว่าเธอต้องปฏิบัติงาน...บนเตียง!
มีหรือที่ม้าพยศตัวแม่จะยอม หญิงสาวเปิดศึกกับนายจ้างจอมเผด็จการทันที
การอยู่ใต้ปีกคนในโลกมืดอย่างมาเฟียหนุ่มทำให้รัตนาวดีแสนจะอึดอัดขัดใจ
เขาดูเป็นคนลึกลับที่มีภารกิจซ่อนเร้น แต่บางมุมก็ดูเหมือนเขามีบาดแผลในใจ
แม้ต้องอยู่กับความเคลือบแคลงและกังขาตลอดเวลา
แต่เธอก็อดยอมรับกับตัวเองไม่ได้ว่าทั้งอบอุ่นและมีความสุขลึกๆ ยามเขาอ่อนโยนด้วย
จนกระทั่งพบว่าอัลเบอร์โตเกี่ยวข้องกับ The Dark Phantom อาชญากรลึกลับที่ถูกทางการตามล่าตัว
ใจหนึ่งก็บอกให้ทิ้งเขาไว้ในโลกมืดที่เธอไม่มีวันสัมผัสถึง แล้วเดินจากไป
แต่อีกใจบอกให้ฉุดเขาขึ้นมาจากวังวนอิทธิพลเถื่อนที่แสนอันตราย 
แล้วรัตนาวดีจะตัดสินใจเช่นไร...
โดยเฉพาะเมื่อเขาวอนขอให้เธอเป็นแสงสว่างนำทางหัวใจ

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024