สุภาพบุรุษจุฑาเทพ : คุณชายธราธร (ณารา)

สุภาพบุรุษจุฑาเทพ : คุณชายธราธร (ณารา)

4 รีวิว  4 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001298.
ผู้แต่ง: ณารา
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 260.00 บาท 65.00 บาท
ประหยัด: 195.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

รถมัสแตงรุ่นใหม่ล่าสุดสีแดงเปิดประทุนกำลังแล่นไปตามถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าสู่สนามบินดอนเมือง คนขับรถและผู้โดยสารบนเบาะด้านข้างฮัมเพลงดังล่าสุดของ เอสวิส เพรสลีย์ ดังออกจากลำโพงแข่งกับเสียงสายลมอบอุ่นที่พัดมาปะทะใบหน้าที่คล้ายคลึงกันของทั้งสอง

หม่อมราชวงศ์ธราธรผู้เคร่งขรึมกว่าฮัมเพลงในคอเบาๆ หันไปยิ้มกับหม่อมราชวงศ์ปวรรุจผู้เป็นน้องชายต่างมารดา คนขับรถอารมณ์ดีไม่แพ้กัน ทั้งที่ปกติจะพูดน้อยแต่ยังช่วยผิวปากเป็นลูกคู่ เมื่ออีกไม่นานทั้งสองจะได้พบกับน้องชายที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปี แล้วทั้งห้าก็จะได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง หลังจากทั้งสองเรียนจบและกลับมาทำงานที่เมืองไทยก่อนหน้า

สองหนุ่มหันสบตากัน ดวงตาระยิบระยับด้วยความสุข ธราธรมองใบหน้าที่มีความคล้ายคลึงกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก...และมันยังเจือไปด้วยความห่วงใยและหวังดีอย่างคนที่เป็นพี่ใหญ่มอบให้น้องๆ เสมอมา

ปวรรุจแม้จะได้เค้าโครงหน้าความสวยจากช้องนาง มารดาผู้เป็นต้นห้องของหม่อมราชวงศ์อุบลวรรณ มารดาของเขา แต่ก็ยังคงได้รับความหล่อเหลาจากหม่อมเจ้าวิชชากร จุฑาเทพ ผู้เป็นพระบิดามาไม่น้อย ซึ่งจะว่าไปแล้วพวกเขาทั้งห้าต่างก็ได้รับถ่ายทอดมาทุกคน เพราะไม่ว่าใครที่ได้พบเห็นพวกเขาเวลาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวว่า ช่างเหมือนท่านพ่อไม่มีผิด

สองหนุ่มหันสบตากัน ดวงตาระยิบระยับด้วยความสุข แล้วน้องชายก็เอ่ยขึ้น

“สามปีแล้ว ไม่รู้พวกเขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหนนะครับพี่ชายใหญ่”

“ชายภัทรคงไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่ เพราะตอนที่มาก็โตเป็นหนุ่มแล้ว ก็มีแต่ชายเล็กที่คงจะโตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วคราวนี้ ส่วนชายพีร์ที่บินไปรับก็คงจะสดชื่นยิ่งขึ้นที่ได้ไปเที่ยว กลับมาคราวนี้จะต้องเข้าประจำฝูงบินรับราชการแล้วแบบนี้คงจะไม่ได้เที่ยวไปอีกนาน” พี่ชายคนโตหัวเราะเบาๆ เมื่อคิดถึงน้องชายร่วมมารดา ซึ่งหลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าและโรงเรียนการบินแล้ว เขาก็รีบหนีไปเที่ยวอังกฤษ อ้างว่าจะไปช่วยพี่ชายทั้งสองขนข้าวของกลับบ้าน เลยไปเที่ยวระลึกถึงวันเก่าๆ ก่อนจะกลับมารับราชการแล้วคงจะหาโอกาสเที่ยวได้ยากขึ้น

พอคิดถึงมารดาผู้บุญน้อย เขาก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“หม่อมแม่คงจะดีใจ ถ้ารู้ว่าลูกชายคนเล็กสุดที่รักของท่านเป็นทหารอากาศแสนโก้ แต่เสียดายที่ท่านไม่มีโอกาสได้เห็นเขาเติบโตเป็นหนุ่ม” คนพูดถอนใจเบาๆ ด้วยเขากับรณพีร์เป็นบุตรชายหม่อมราชวงศ์อุบลวรรณ ภรรยาตามกฎหมายของหม่อมเจ้าวิชชากร ผู้ที่ไม่มีวาสนาจะได้เห็นโอรสทั้งสองเติบใหญ่ มีหน้าที่การงานที่มั่นคง

“ครับ” ปวรรุจพึมพำรับเบาๆ เขาเองก็มีชะตาชีวิตไม่แตกต่าง เมื่อมารดาซึ่งเป็นหม่อมคนที่สองของท่านชายวิชชากรก็เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุในครั้งนั้นเช่นกัน หากเขายังมีวาสนาพอที่จะได้อยู่กับมารดานานกว่าชายเล็กที่อายุเพียงแปดขวบเท่านั้น เมื่อทั้งพระบิดาและมารดาจากไป “ยังดี ที่พวกเรามีพี่ชายใหญ่คอยดูแล...ไม่งั้นผมยังคิดไม่ออกเลยว่าพวกเราจะเป็นยังไง”

ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้ม...ก่อนเจ้าตัวจะส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อคิดถึงยามน้องชายทั้งสี่ที่กำลังเติบโตเป็นหนุ่มน้อย ยกเว้นน้องชายคนเล็กที่ยังวิ่งเล่นซนอยู่ เมื่อท่านพ่อสิ้นชีพิตักษัยไปพร้อมๆ กับหม่อมทั้งสามขณะเดินทางไปทำบุญทอดกฐินทางภาคเหนือกับญาติอีกหลายคัน รถคันที่ทั้งสี่นั่งเกิดอุบัติเหตุ ยางแตกตกเขาเสียชีวิตทั้งคัน ได้สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้แก่หม่อมย่ากับโอรสทั้งห้ายิ่งนัก เวลานั้นธราธรมีอายุได้สิบห้าปีแล้ว เขากับหม่อมย่าจึงเป็นหลักชของน้องๆ ทั้งสี่ ดูแลพวกเขาจนเติบโต เมื่อถึงเวลาอันควร หม่อมย่าก็ไว้วางใจให้เขาดูแลน้องๆ ตามลำพังด้วยการส่งไปเรียนที่อังกฤษพร้อมกับเขาจนกระทั่งจบ

หลายปีที่อยู่ต่างประเทศ เด็กชายทั้งห้าเติบโตเป็นหนุ่ม เลือกเส้นทางชีวิตด้วยตัวเองโดยมีเขาเป็นที่ปรึกษาตลอดมา พอเขาเรียนจบปริญญาโท ชายหนุ่มทั้งสามกำลังรํ่าเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของที่นั่น และเติบโตมากพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว เขาก็กลับเมืองไทยพร้อมกับรณพีร์ ที่เพิ่งเรียนจบไฮสกูลที่อังกฤษ หม่อมย่าเป็นห่วงหลานคนเล็กเพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ไม่อยากปล่อยให้พี่ชายอีกสามคน ที่ต่างก็ต้องตั้งใจเรียนกันอย่างเคร่งเครียดดูแล เกรงจะเสียคน จึงขอให้กลับพร้อมเขา น้องชายคนเล็กยิ่งกว่าดีใจที่ได้กลับบ้าน เพื่อจะได้มาสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยที่เมืองไทย อย่างที่ใฝ่ฝันมาเนิ่นนานแล้ว

ส่วนเขาก็เข้ารับราชการประจำกรมศิลปากร และเริ่มต้นเป็นอาจารย์พิเศษชองโรงเรียนศิลปศึกษา จนกระทั่งสอนในระดับมหาวิทยาลัยจนถึงปัจจุบัน

สองปีหลังกลับจากอังกฤษ ปวรรุจก็เรียนจบกลับมาทำงานประจำกระทรวงการต่างประเทศอีกคน จึงเหลืออีกสองหนุ่มที่เรียนจบกลับมาวันนี้ ก็เท่ากับว่าทั้งห้าหนุ่มแห่งจุฑาเทพจะกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งเหมือนเช่นวันเก่า

คนที่ดีใจที่สุดคงไม่พ้นหม่อมเอียด หญิงแกร่งแห่งจุฑาเทพ ที่เลี้ยงดูโอรสองค์เดียวมาตลอดหลายปีหลังพระสวามีสิ้นพระชนม์ เมื่อโอรสองค์เดียวจากไปด้วยวัยเพียงสี่สิบปี ท่านก็เลี้ยงดูหลานชายทั้งห้าด้วยมือของท่านเอง โชคดีที่ครอบครัวมีมรดกตกทอดมามากมายเพราะพระบิดาชองเขามองการณ์ ไกล ขณะทำงานอยู่กรมที่ดินก็ร่วมทุนกับหุ้นส่วนซื้อที่ดินรกร้างแถบสาทร สีลมรวมไปถึงที่ดินชายทะเลชะอำและหัวหินเอาไว้หลายผืน เมื่อบ้านเมืองขยับขยายก็สร้างตึกแถวให้คนเช่าแถบในเมือง ต่างจังหวัดก็ให้เช่าสร้างโรงแรม เป็นรายได้มากพอจะส่งเสียหลานชายทั้งห้ารํ่าเรียนจนจบเมืองนอก เมืองนา และป่านนี้ท่านคงจะนั่งไม่ติดที่รอคอยเขาพาหลานอีกสองคนกลับไปกราบในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

 

เครื่องบินที่มาจากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนเครื่องบินที่มาจากลอนดอน แล่นลงบนรันเวย์ของสนามบินดอนเมืองหลังกำหนดเล็กน้อย ธราธรและปวรรุจรอคอยที่ประตูทางออกชองผู้โดยสารขาเข้า แม้ท่าทางยังคงสำรวมเหมือนเช่นปกติ แต่ในอกของพี่ชายคนโตกลับเต้นรัว คิดภาพน้องชายทั้งสองที่เคยตัวสูงเก้งก้างเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยไปได้ไม่กี่ปี ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่หล่อเหลากระชากหัวใจสาวน้อยสาวใหญ่แค่ไหน

ไม่นานผู้โดยสารก็ทยอยกันออกมา ญาติพี่น้องที่เจอญาติตนเดินออกมาก็รีบเข้าไปรุมล้อม คล้องพวงมาลัยรับขวัญการกลับบ้านเป็นการใหญ่ หากชายสองคนแห่งจุฑาเทพไม่นิยมทำสิ่งที่เอิกเกริกขนาดนั้น จึงมิได้นำพวงมาลัยที่ย่าอ่อนอุตส่าห์ร้อยเอาไร้ให้มาด้วย แต่นำไปคล้องที่พระพรหมก่อนออกมาจากบ้าน

แล้วสายตาชองเขาก็มองเห็นชายร่างสูงโดดเด่นสามคนเข็นรถเดินออกมา ทั้งสามสวมเสื้อเชิ้ตและกางเกงแบบพอดีตัวตามสมัยนิยม หวีผมลงน้ำมันแสกข้าง รองเท้าหนังขัดมันปลาบ ดูเนี้ยบตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า เข็นรถซึ่งมีกระเป๋าเดินทางอยู่ด้านหน้าคนละใบเคียงข้างกันมา พี่ชายใหญ่ถอนใจ มองภาพสามพี่น้องด้วยความโล่งใจที่เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพกันทุกคน

พุฒิภัทรและรัชชานนท์มีผิวชาวกว่าพี่น้องที่เหลือ นั่นก็เพราะแม่หยก มารดาชองทั้งสองมีเชื้อสายจีน แต่งงานกับพระบิดาด้วยเป็นหุ้นส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนร่วมกันมาหลายปี เจ้าสัวซ้งจึงตอบแทนหุ้นส่วนสำคัญด้วยการยกบุตรสาวให้เป็นหม่อมอีกคนหนึ่งชองหม่อมเจ้าวิชชากร ขณะที่มารดาชองเขากำลังเลี้ยงลูกเล็ก พระบิดาของเขาก็รับซ้องนาง มารดาของปวรรุจ ซึ่งเป็นเด็กรับใช้ประจำตัวของมารดาเป็นหม่อมคนที่สอง ไม่นานก็รับแม่หยกมาเป็นหม่อมอีกคน ธราธร ปวรรุจ และพุฒิภัทรจึงมีอายุไล่เลี่ยกัน ขณะที่รัชชานนท์และรณพีร์มีอายุใกล้เคียงกัน

มารดาของเขาคิดว่าคงจะมีลูกแค่คนเดียวเป็นแน่แท้ เพราะไม่ได้ตั้งครรภ์อีกเลยหลังคลอดบุตรชายคนแรก ทว่าหลังบุตรชายคนที่สองชองแม่หยกเกิดมาไม่นาน รณพีร์ก็เกิดมาเป็นลูกหลงของครอบครัว และกลายเป็นขวัญใจชองพี่น้องทุกๆ คน

นายแพทย์หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทรดูจะขาวขึ้นกว่าเดิม ใบหน้ายังคงหล่อเหลาแบบเลือดผสมจีน ดวงตาชั้นเดียวยาวรี หากคมกริบเฉลียวฉลาด จมูกโด่งเป็นสันซึ่งมีรูปทรงสัญลักษณ์ประจำครอบครัวที่ถ่ายทอดกันสืบมา แก้มมีเนื้อเต็มอิ่มบอกถึงความใจดีของเจ้าตัว แต่มีคางเหลี่ยมบึกบึน ทำให้เขาดูแข็งแกร่งมั่นคงยิ่งกว่าพี่น้องทุกคน เวลาผ่านไปเขาดูผอมลงเล็กน้อย และไม่สูงเท่าน้องชายอีกสองคนที่ออกภาคสนามมากกว่า คงเพราะทำงานหนักดูแลคนไข้ในโรงพยาบาล ด้วยอาชีพก็ทำให้เขาแทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง

ไม่ได้การละ พอกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว เขาจะต้องพาชายภัทรไปออกกำลังกายให้มากชื้นเสียแล้ว งานการก็ให้ทำลดลงหน่อย ไม่อย่างนั้นสุขภาพแย่แน่ๆ

พี่ชายใหญ่กวาดสายตามายังน้องชายคนที่สี่ เคยร่างสูงเพรียวอย่างไรก็ยังคงสูงอย่างนั้น หากก็มีกล้ามเนื้อเป็นมัดสมบูรณ์อย่างชายฉกรรจ์ ใบหน้าหล่อแบบเลือดผสมคล้ายพี่ชาย หากโชคดีกว่าที่มีดวงตาโตกว่าคุณชายหมอ ทว่ายังคงยาวรีตามเชื้อสายและแพรวพราวกว่า คางบึกบึนมีรอยบุ๋มตรงกลาง บอกได้ถึงความดื้อดึง และมั่นอกมั่นใจในตัวเองสูงได้เป็นอย่างดี

คนนี้คงไม่ต้องช่วยดูแลอะไรมาก งานวิศวโยธาก็ทำให้ชายเล็กออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว

ส่วนรณพีร์...หนุ่มคนสุดท้องที่คลอดหลังชายเล็กหรือรัชชานนท์ที่ท่านพ่อประทานชื่อไปแล้ว หากยังมีลูกหลงตามออกมาอีก หม่อมย่าจึงเรียกเขาว่าชายพีร์แทน ญาติสนิทและคนใกล้ชิดครอบครัวทราบเรื่องนี้ดีจึงไม่งุนงงกับชื่อของทั้งห้า หากคนไกลได้ยินครั้งแรกจะสงสัยว่าทำไมชายเล็กจึงไม่ใช่น้องสุดท้องของครอบครัว

แน่นอนว่าน้องชายร่วมสายเลือดชองเขาตัวสูงใหญ่ ความสูงอาจทัดเทียมพี่ชายคนที่สี่ แต่มีร่างกายที่ลํ่าสันกว่า ไม่กี่ปีที่เรียนทหารได้เปลี่ยนน้องชายชองเขาให้เป็นหนุ่มเต็มตัวองอาจ น่าภาคภูมิใจเสียเหลือเกิน หากหม่อมแม่ยังอยู่ คงจะภูมิใจในตัวลูกชายคนเล็กมากเช่นกัน

ชายที่เดินเคียงข้างกันมาสามคน มีชายพีร์เท่านั้นที่คลํ้ากว่าใครเพื่อน เพราะเรียนตากแดดร้อนๆ ชองเมืองไทย หากดูคมสันอย่างชายไทยแท้ ดวงตาโตยังคงขี้เล่นเปล่งประกายระยิบระยับ จมูกโด่งแข็งแรง ริมฝีปากเต็มอิ่มคลี่ยิ้มบอกความเป็นมิตร ช่างเหมือนท่านพ่อสมัยเป็นหนุ่มไม่ผิดเพี้ยน เรียกว่าโขกพิมพ์เดียวกันออกมาก็คงไม่ผิด

แล้วพี่ชายคนโตก็มองเห็นดวงตาขี้เล่นนั้นกวาดมองไปรอบๆ อย่างคนช่างสังเกต และถ้าเดาไม่ผิด คงจะมองหาสาวๆ สวยๆ อยู่เป็นแน่แท้

หม่อมราชวงศ์ปวรรุจส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อเห็นสิ่งเดียวกัน และพึมพำขึ้นมา

“ชายพีร์นี่...เหมือนเดิมจริงๆ ดวงตามองสาวๆ แพรวพราวเชียว

“สาวๆ เมืองกรุงเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีก็แล้วกัน” พี่ชายใหญ่ตอบก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

แล้วทั้งสามก็มองเห็นผู้มายืนรอรับ รณพีร์โบกมือโดยไม่สำรวมอาการ หากหม่อมย่าเห็นเข้าคงจะต้องเรียกหายาดมกันให้วุ่น แต่ธราธรก็ไม่ถือสา เขายกมือขึ้นตอบ และส่งยิ้มไปให้น้องทั้งสาม

“สวัสดีครับพี่ชายใหญ่” พุฒิภัทรและรัชชานนท์ยกมือขึ้นไหว้พี่ชายคนโตพร้อมกัน ขณะที่รณพีร์กลับปรี่เข้ากอดพี่ชายทันทีที่ถึงตัว

“ฮัลโหลบิ๊กบอส คิดถึงพี่ชายใหญ่เหลือเกิน” แค่เห็นหน้าก็เริ่มอ้อน ธราธรตบหลังน้องชายหนักๆ ก่อนจะดันตัวออกห่าง

“การเดินทางเป็นยังไงบ้าง เรียบร้อยดีไหม”

“ยอดเยี่ยมมาก แอร์โฮสเตสสวยอย่างงี้เลยพี่ชาย” คนตอบกลับเป็นน้องคนสุดท้อง รีบยกนิ้วโป้งขึ้นทั้งสองมือ ยืนยันคำพูดของตัวเอง

“พี่ไม่ได้ถามว่าแอร์โฮสเตสสวยไหมสักหน่อย” ธราธรส่ายหน้าอ่อนใจ “แต่เอาเถอะ คิดว่าความสวยของพวกเธอคงทำให้น้องๆ ของพี่ได้รับความเพลิดเพลินใจตลอดการเดินทาง”

“ก็พอสมควรครับพี่ชาย” คราวนี้คุณหมอเป็นคนตอบ หนุ่มที่ไม่ค่อยสนใจหญิงสาวหน้าไหนถึงกับออกปากชม ทำให้คนฟังพากันหัวเราะครืน

“คงจะสวยจริงถ้าชายภัทรออกปากแบบนี้” ปวรรุจกระเซ้า

“พี่ชายภัทร เห็นเงียบๆ แบบนี้ก็มีสาวมาโปรยเสน่ห์ให้เหมือนกันนะ” ได้ที น้องชายร่วมสายเลือดก็กระโจนเข้าร่วมวงด้วยทันที “แต่เสียอย่างเดียว จีบสาวไม่ค่อยเป็น เพราะมัวอยู่แต่ในห้องผ่าตัด ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน”

“พี่ชายภัทรไม่ชอบฝรั่งมังค่า ผมรู้” น้องชายคนเล็กแทรกขึ้น “กลับมาถึงเมืองไทยแล้ว ผมจะพาสาวๆ มาให้พี่เลือกเอง รับรองสวยกว่าฝรั่งผมแดงแน่นอน ผมรู้จักผู้หญิงสวยๆ ที่นี่หลายคน”

“เฮ้อ...” พี่ชายใหญ่นึกเสียใจที่ได้เริ่มต้นเปิดประเด็น “ไม่น่าคุยเรื่องผู้หญิงก่อนเลย ลืมนึกไปว่าน้องๆ พี่แต่ละคนเสือผู้หญิงทั้งนั้น”

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เรื่องราวชีวิตกับความรักทั้งห้าแบบของ "ห้าสิงห์แห่งจุฑาเทพ" ซึ่งถือกำเนิดจากต่างมารดา แต่มีความผูกพันรักใคร่ เข้มข้นในศักดิ์สกุล ซื่อสัตย์ในเกียรติยศ และซื่อตรงต่อหัวใจ เล่มนี้จะนำเสนอเรื่องราวของคุณชายธราธร นักโบราณคดีผู้มีความสุขุมกับรักที่ต้องเลือก "คุณชายธราธร" พี่ชายใหญ่ ผู้รับภาระการดูแลน้องๆทั้งสี่ภายหลังสิ้นท่านพ่อกับแม่ พร้อมต้องมาแบกรับสัญญาคู่หมายระหว่างราชสกุล เขามุ่งมั่นในงานสำรวจโบราณสถานอย่างจริงจังโดยหารู้ไม่ว่า งานนี้นอกจากการสำรวจบูรณะโบราณสถานแล้ว ยังเป็นการค้นหา "หัวใจ" ของตัวเองอีกด้วย ขอเชิญท่านผู้อ่านมาพบกับความรักระหว่างชายหญิง ที่ซ่อนความรู้สึกดีๆต่อกันมาตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ เรื่องราวของความรักได้บังเกิดขึ้นท่ามกลางเหตุการณ์โจรกรรมโบราณวัตถุ และนั่นเองที่ทำให้ทั้งสองได้พิสูจน์หัวใจของตนเอง


รีวิว (4)

เขียนรีวิว

SCR. | 4 รีวิว
30/11/2014

เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยค่ะ คุณชายธราธร พี่ชายคนโตของตระกูลจุฑาเทพ คุณชายที่ต้องแบกรับภาระทุกอย่างและคอยดูแลน้องอีกทั้ง 4 คน คุณชายธราธรเป็นคุณชายที่เพอร์เฟ็กต์มาก เสียดายแต่ว่าเป็นคนจริงจังและดูเป็นผู้ใหญ่เกินไปหน่อย อาจเป็นเพราะต้องดูแลน้อง ๆ มาตั้งแต่เล็ก อาชีพที่ทำก็ช่างเหมาะสมมาก เป็นนักโบราณคดี และเป็นอาจารย์ เลยดูเหมือนกับว่าคุณชายธราธรจะต้องคอยทำหน้าตึงใส่คนอื่นตลอดเวลา แต่แท้ที่จริงก็เป็นผู้ชายอบอุ่นและเสียสละ เรื่องนี้น่ารักดีค่ะ คุณชายกินเด็ก เพราะคุณชายอายุห่างกับนางเอกตั้ง 10 ปีเสียดายว่าเนื้อหาของเรื่องไม่ค่อยมีอะไร ดูเรียบ ๆ เกินไปหน่อย คนไม่ชอบประวัติศาสตร์คงจะเบื่อมาก เพราะนิยายแทรกด้วยเนื้อหาทางประวัติศาสตร์หลายช่วง และเป็นประวัติศาสตร์ของขอมโบราณ ซึ่งเรื่องนี้ก็อยู่ในป่ากันเกือบครึ่งเรื่องค่ะ เป็นช่วงที่ทำให้พระเอกและนางเอก รวมไปถึงเกษราและชินกรได้ค้นพบหัวใจตัวเอง หาฉากสวีทพระนางเจอน้อยมากค่ะ เพราะกว่าจะตกลงกันได้ก็เกือบท้ายเล่มแล้ว ช่วงอยู่ในป่าจะค่อนข้างน่าเบื่อค่ะ ออกมาจากป่าเป็นปัจจุบันแล้วจะรู้สึกสนุกขึ้นมาเยอะเลย จะว่าไปฉากดราม่ามีมากกว่าสวีทอีกนะ เข้าใจผิดกันเกือบทั้งเรื่อง มาตลกตอนชินกรจับได้ว่าเกษราปลอมตัวมา และดีใจที่เกษรายอมยกเลิกงานหมั้นกับคุณชายค่ะ อยากจะบอกว่าลุ้นคู่นี้มากกว่าคู่พระนางอีกนะเนี่ย รำคานคุณชายปากแข็งฟอร์มจัด จะรักดีไม่รักดี จะเอาไงดี ก็สรุปว่าเรื่องนี้พอใช้ได้ค่ะ ไม่ได้สนุกมาก แต่ก็ปูพื้นฐานของคุณชายคนอื่น ๆ ไว้ได้ดีพอสมควร
อ้วนแกะ | 4 รีวิว
27/11/2014

เล่มแรกของนวนิยายชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ความจริง เราว่าการลำดับเรื่อง คือเรียงทั้งจากชื่อคุณชาย และเรื่องราวของแต่ละเล่มก็ยังเรียงตามลำดับเวลา บังคับให้เราอ่านแบบต้องเรียงลำดับจากพี่ใหญ่สุดไปน้องเล็กสุด มันดูมีกรอบมากไปหน่อย หรือมันอาจเป็นสไตล์เราเองที่รู้สึกว่า บางทีเราไม่ได้อยากอ่านตามกรอบที่เขาไว้ให้ขนาดนั้น บางทีเราเห็นรูปคุณชายคนนี้แล้วอยากรู้จักคนนี้ อยากรู้เรื่องของคนนี้ก่อน แต่ก็กลายเป็นว่า ถ้าอ่านเล่มนั้น แบบข้ามไปมาตามใจตัวเอง เรื่องมันจะไม่ต่อเนื่องกัน คือมันมีข้อจำกัดเรื่องเวลาในการเดินเรื่องของนวนิยายชุดนี้อยู่ แต่ก็นะ มันเป็นแนวทางของเขา เราก็จะยอมเสพตามแนวทางของเขาก็แล้วกัน เพื่ออรรถรสที่ดีที่สุดในการอ่าน เล่มนี้ เราชอบ แต่ไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เพราะเรารู้สึกว่าพระเอกแก่ไป และนางเอกก็เด็กไป บางฉากเคมีของพระนางเลยดูไม่ค่อยเข้ากัน เราชอบคู่รองมากกว่า เป็นคู่ที่สร้างรอยยิ้ม พาเราจิกหมอนได้มากกว่าคู่พระนางเสียด้วยซ้ำ เพราะความมีชีวิตชีวาของพระรอง อาจเป็นรสนิยมส่วนตัวของเราด้วยแหละ เรารู้สึกว่าเราลุ้นคู่รองมากกว่า สงสารนางรองมากกว่า และหลงรักพระรองมากกว่าพระเอก เอาน่า เราก็มีสิทธิรักใครชอบใครตามใจตัวเองได้ไม่ใช่หรือ พูดถึงการดำเนินเรื่อง เราว่าเรื่องนี้ก็โอเคเลย มีประเด็นเนื้อเรื่องน่าติดตาม มีสีสัน คือไม่ได้มีแค่เรื่องความรัก ฉากก็แปลกตา สื่อว่าคนเขียนคือ ณารา ทำการบ้านมาอย่างดี คือเรื่องนี้ เนื้อหาแบบนี้ ถ้าไม่หาข้อมูลให้ดี เขียนมาแบบกลวงๆ มันจะออกมาเละตุ้มเป๊ะแน่นอน แต่นี่ไม่ใช่ เนื้อหาที่เป็นเชิงวิชาการที่ต้องอาศัยการอ้างอิงและต้องมีความน่าเชื่อถือ เขาทำออกมาได้ดีทีเดียว เป็นนิยายเล่มหนาที่บ่งบอกว่าคนเขียนตั้งใจเขียน (คือถ้าไปเทียบกับเล่มสุดท้าย คุณชายรณพีร์นะ ราวฟ้ากับเหวลึกที่สุดอย่างไรอย่างนั้นเลยล่ะ) โดยรวมถือว่าชื่นชมความตั้งใจของคนเขียน และประทับใจตัวละครมากพอตัวค่ะ
ฐาปนัส | 4 รีวิว
01/07/2014

ผู้แต่ง ณารา สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ จำนวนหน้าหนังสือ 420 หน้า "...เรื่องราวชีวิตกับความรักห้าแบบของ 'ห้าสิงห์แห่งจุฑาเทพ' ซึ่งถือกำเนิดจากต่างมารดา แต่มีความผูกพันรักใคร่ เข้มข้นในศักดิ์สกุล ซื่อสัตย์ในเกียรติยศ และซื่อตรงต่อหัวใจ" เล่มนี้นำเสนอเรื่องราวของคุณชายธราธร นักโบราณคดีผู้สุขุมกับรักที่ต้องเลือก "คุณชายธราธร" พี่ชายใหญ่ ผู้รับภาระดูแลน้องๆทั้งสี่หลังสิ้นท่านพ่อกับแม่ พร้อมแบกรับสัญญาคู่หมายระหว่างราชสกุล เขามุ่งมั่นในงานสำรวจโบราณสถานอย่างจริงจังโดยหารู้ไม่ว่า งานครั้งนี้นอกจากจะสำรวจบูรณะโบราณสถานแล้ว ยังเป็นการค้นหา "หัวใจ" ของตัวเองอีกด้วย พบกับความรักระหว่างชายหญิงที่ซ่อนความรู้สึกดีๆต่อกันมาตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ เรื่องรักเกิดขึ้นท่ามกลางเหตุการณ์โจรกรรมโบราณวัตถุ และนั่นทำให้ทั้งสองได้พิสูจน์หัวใจตัวเอง เริ่มกันที่เล่มแรก "คุณชายธราธร"หนังสือในชุด "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ"ครับ คุณชายธราธร หรือ พี่ชายใหญ่ของน้อง ๆ ทั้ง 5 คน ผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกก่อนที่จะถูกสร้างเป็นละครประมาณครึ่งปี หลังจากนั้นจึงได้ดูละครครับ เมื่อกลับมาอ่านอีกรอบหนึ่งก็พบว่า ผู้กำกับละครเรื่องนี้ เคารพบทประพันธ์เดิมได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีผิดจากหนังสือเลย ซึ่งนั่นก็เป็นจุดอ่อนจุดหนึ่งของละครเรื่องนี้ครับ เพราะเนื้อเรื่องเดิมจากหนังสือค่อนข้างจะเนิบนาบไปซักหน่อย เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก จึงทำให้ต้องปูพื้นฐานของพี่น้องทั้ง 5 คนในตระกูลค่อนข้างเยอะ ไป ๆ มา ๆ จึงเหลือเรื่องของคุณชายธราธรไม่เท่าไร และด้วยเรื่องนี้พระเอกเป็นนักโบราณคดี การนำประวัติศาสตร์มาถ่ายทอดไว้ในนิยายก็อาจจะทำให้ผู้อ่านไม่รู้สึกสนุกไปด้วยมากนักแต่สำหรับคนชอบประวัติศาสตร์แล้ว ก็ถือว่าโอเคครับ ผมเป็นคนชอบประวัติศาสตร์เลยอ่านได้อย่างเพลิน ๆ เนื้อเรื่องก็อย่างที่บอกครับ ว่าค่อนข้างเนิบนาบไปนิดนึง อาจจะเป็นเพราะช่วงอายุของพระเอกและนางเอก รวมไปถึงการวางตัว ศักดิ์ทางชนชั้น ทำให้เรื่องนี้ไม่สามารถทำให้ผู้อ่าน "พีค"สุด ๆ ได้ แม้จะมีฉากอย่างนั้นนิดนึงตามสไตล์คุณณารา ก็ไม่สารถดึงจุดพีคของเรื่องออกมาได้ครับ มาดูคู่รองกันบ้าง จริงผมว่าคู่รองก็ยังดูเด่นกว่าในบางฉากนะครับ อาจจะเป็นเพราะอ.ชินกรเป็นคนน่ารักหรือเปล่า เลยทำให้คู่นี้ดูน่ารักกว่าคู่พระนาง แม้จะมีอุปสรรคจากฝั่งของหม่อมหลวงเกษราบ้าง และไม่มีฉากอย่างนั้นเหมือนคู่แรก แต่คู่นี้ก็ให้ความฟินดีกว่าคู่แรกครับ ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นเรื่องของการผจญภัยในป่า ทำให้ตัวร้ายหรือตัวโกงมีมากพอสมควร แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวมากอย่างที่คิด คือมันร้ายไม่สุด ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเลย โดนจับซะแล้ว อันนี้ต้องขอหักคะแนนครับ สรุปว่า ถ้าคุณดูละครแล้ว สมควรอ่านมั้ย ก็สมควรครับ แม้ว่าละครจะเหมือนกับบทประพันธ์เลย แต่ในบางช่วง ละครก็ตัดคำพูดหรือฉากอะไรบางอย่างออกไปบ้างครับ แต่ถ้าไม่เคยดูละคร อาจจะไม่เคยดูทั้งชุด หรือไม่เคยดูเรื่องนี้เรื่องเดียว ก็อยากให้อ่านครับ เพราะเรื่องนี้ปูความสัมพันธ์ของตระกูล "จุฑาเทพ" ไว้อย่างน่าสนใจทีเดียว สิ่งหนึ่งที่ผมชอบจากหนังสือเล่มนี้คือ เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ ตรงกับเพลงประกอบละครทีเดียวครับ " คนเราถ้าคู่กันไม่ว่าอะไรเปลี่ยนไป สิ่งหนึ่งในใจยังไงก็ไม่เปลี่ยน ก็คือความรักที่มีต่อเธอ จะมั่นคงอย่างนี้เหนือกาลเวลา มากยิ่งกว่าอะไร ต่อให้นานเพียงใด รักแท้ก็ยังคงเป็นรักแท้ ไม่มีวันจะแปรหรือน้อยลงไปตามเวลา ถึงแม้บางครั้งชีวิตต้องเจออะไรกระหน่ำ แต่ก็ไม่เคยทำให้รักเราเปลี่ยนแปลงไป "
Eng_za | 4 รีวิว
18/01/2014

คุณชายธราธร คุณชายธราธร นิยายลำดับที่ 1 ของซีรี่ย์ชุด สุภาพบุรุษจุฑาเทพ เรื่องนี้เป็นเหมือนเรื่องเปิดตัวของเหล่าคุณชายทั้ง 5 ในวังจุฑาเทพ เป็นเรื่องราวของพี่ชายคนโตของวังที่ค่อนข้างจะมีความเป็นผู้ใหญ่และสุขุม เป็นเหมือนหัวหน้าครอบครัวที่ต้องคอยดูแลน้อง ๆ แทนท่านพ่อและดูแลวังจุฑาเทพ คุณชายธราธรมีอาชีพเป็นอาจารย์ในสาขาโบราณคดีในมหาวิทยาลัย การวางตัวกิริยามารยาทของคุณชายจึงดูจะตึง ๆ ทั้งเป็นคุณชาย ทั้งเป็นอาจารย์ เรื่องนี้สารภาพตามตรงว่าอ่านสไม่จบเพราะเรารู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเนสิบจนเกินไปโดยที่ไม่มีอะไรให้ต้องได้ลุ้นเท่าไหร่และอีกอย่าง พี่ชายใหญ่กับน้องมะปรางดูจะเคมีไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่ ในนิยายนะ อ่านแล้วเบื่ออะทำให้ไม่สามารถที่จะอ่านจบได้ มันสมีหลายส่วนประกอบกันที่ทำให้นิยายเรื่องนี้ดูจะขาดความสนุก ขาดความเข้มข้มและอรรถรสของนิยายไปสักหน่อย แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่เปิดและเป็นเรื่องของพี่ชายใหญ่จึงอาจจะมีบางอย่างบางมุมที่ผู้เขียนต้องวางคาเรกเตอร์ของตัวละครนี้ให้สุขุมที่สุด เพื่อที่จะเป็นการปูเรื่องต่อๆ ไป เรื่องนี้ให้คะแนนกลางๆ ค่ะ อ่านได้แต่ไม่ค่อยถูใจเราเท่าที่ควรนัก

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024