รักเกินร้อย (นภาสรร)

รักเกินร้อย (นภาสรร)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160005611
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 300.00 บาท 75.00 บาท
ประหยัด: 225.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เสียงดนตรีที่คึกคักและบรรยากาศสลัวซึ่งวูบวาบด้วยแสงไฟ

หลากสี ทำให้นักท่องราตรีทั้งชายและหญิงต่างพากันโยกย้ายตามจังหวะ

เสียงเพลงอย่างเมามัน ณ ‘ลูซิเฟอร์’ ผับหรูใจกลางย่านทองหล่อซึ่งกำลัง

เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องราตรีเพราะฟลอร์เต้นรำถูกยกขึ้นไล่ระดับสูงต่ำ

ลดหลั่นกันไป ซ้ำยังสามารถหมุนให้ช้าหรือเร็วตามจังหวะของดนตรีได้อีกด้วย

หากแสงสีตระการตาและฟลอร์สุดไฮเทคไม่ได้ทำให้คริสรู้สึกตื่นเต้น

เลยแม้แต่น้อย เพราะเคยไปเที่ยวผับที่เจ๋งกว่านี้หลายเท่า ฟลอร์เต้นรำ

ที่หมุนได้นี่ยังธรรมดามากเมื่อเทียบกับผับ ‘Baobab’ ที่เมืองลิมโปโป

ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นภายในต้นไม้อายุกว่าหกพันปี หรือ

แม้แต่ผับที่มีบรรยากาศเร่าร้อนที่สุดในโลกอย่าง ‘Espit Chupitos’

ณ กรุงบาร์เซโลนา เครื่องดื่มจะถูกเผาด้วยเปลวไฟก่อนเสิร์ฟ ดื่มแล้ว

ความร้อนระอุจะแผ่ซ่านทั่วกาย หากไม่ใช่เพราะพลอยชมพูอ้อนวอนให้

พามาเที่ยว คนอย่างเขาไม่มีวันยอมเบียดเสียดเป็นปลากระป๋องอยู่ในผับแห่งนี้อย่างแน่นอน

“ทำไมทำหน้าเซ็งแบบนี้ล่ะคะ เห็นแล้วหมดอารมณ์เที่ยวเลย”

พลอยชมพูทำหน้าง้ำอย่างไม่พอใจที่เห็นคริสทำท่าเบื่อหน่าย

“ก็ผมเบื่อจริงๆ นี่นา...คุณอยากจะไปเต้นก็ไปเสียสิ เดี๋ยวผมจะนั่ง

ดื่มเบียร์รออยู่ที่นี่” คริสเอ่ยปากไล่แฟนสาวก่อนที่เธอจะหงุดหงิดมากกว่านี้

“ทำตัวแก่ไปได้น่าคริส จะนั่งจิบเบียร์อยู่คนเดียวทำไม ออกไปเต้น

กันดีกว่า เดี๋ยวพอลลี่จะพาคุณไปแนะนำให้รู้จักกับช่างภาพแฟชั่นดังๆ

ในเมืองไทยด้วย คุณต้องหัดรู้จักสร้างคอนเนกชันบ้าง ไม่ใช่มัวแต่ปิดตัวเองอยู่แบบนี้”

“ไม่ละ ตอนนี้ผมขี้เกียจ แล้วก็ไม่มีอารมณ์อยากรู้จักใครจริงๆ” คริสปฏิเสธด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ

“งั้นก็ตามใจ” พลอยชมพูพูดเสียงห้วน ก่อนจะเดินกระแทกเท้าหายเข้าไปในฟลอร์เต้นรำ

พลอยชมพู วิรัชนา คือนางแบบไทยผู้กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ว่า

จะมีแฟชั่นวีกที่ไหน ก็ต้องเห็นพลอยชมพูปรากฏกายที่นั่น ยิ่งเมื่อเร็วๆ นี้

พลอยชมพูได้รับเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ของเครื่องสำอางดังยี่ห้อหนึ่ง ก็ยิ่ง

ทำให้ค่าตัวของหญิงสาวเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว และทำให้กลายเป็น

นางแบบคิวทองที่มีห้องเสื้อดังและแบรนด์สินค้าต่างๆ จองตัวถ่ายแบบไปจนถึงสิ้นปีหน้า

หากถามว่าคริสรู้จักและคบหาเป็นคนรักกับหญิงสาวได้อย่างไร

คงต้องย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อนที่เขาถูกตามตัวให้ถ่ายแบบแทนช่างภาพ

คนหนึ่งที่เกิดป่วยเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน ตอนนั้นพลอยชมพูเองเพิ่ง

เข้าวงการนางแบบ และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก เพียงครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาส

ถ่ายแบบเธอ คริสก็เห็นแววว่านางแบบสาวผู้นี้จะกลายเป็น เคต มอส

(Kate Moss) คนใหม่ของวงการแฟชั่น

แม้หญิงสาวจะสูงเพียงแค่ร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งนับว่าเตี้ย

มากเมื่อเทียบกับมาตรฐานนางแบบทั่วไป หากสิ่งที่ทำให้พลอยชมพู

โดดเด่นกว่าใครก็คือใบหน้าหวานหยาดเยิ้มราวเทพธิดา เขากับเธอมี

โอกาสได้ร่วมงานกันบ่อยครั้ง ความใกล้ชิดสนิทสนมทำให้เขาตัดสินใจ

สานสัมพันธ์กับเธอ และคบหาดูใจกันจวบจนทุกวันนี้

ทว่าหลายครั้งคริสเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า ที่เขารู้สึกพิเศษกับ

เธอเพียงเพราะถูกใจรูปลักษณ์หน้าตาเท่านั้นหรือเปล่า เนื่องจากที่ผ่านมา

มีสัญญาณอะไรหลายอย่างที่ทำให้คริสรู้สึกว่าแท้จริงแล้วนิสัยของเขา

กับเธอนั้นเข้ากันไม่ได้ แต่คริสก็พยายามบอกตัวเองไม่ให้คิดมาก ในเมื่อ

เขามีคนรักเป็นถึงนางแบบชื่อดังที่ผู้ชายทั่วโลกต้องอิจฉาขนาดนี้แล้ว

จะยังข้องใจในความรู้สึกของตัวเองอีกทำไม

เบียร์ในขวดหมดพอดี คริสจึงเดินไปสั่งเบียร์เพิ่มอีก ในขณะที่

กวาดตามองหาบาร์ สายตาของเขาก็บังเอิญเหลือบไปเห็นใบหน้าของ

หญิงสาวผู้หนึ่งลอยเด่นท่ามกลางฝูงชนที่ล้นหลาม

จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะเดินไปสั่งเบียร์ เท้าของเขากลับเดินฝ่าฝูงชน

ตรงไปยังเวทีที่หญิงสาวผู้นั้นกำลังเต้นรำอยู่ แล้วล้วงโทรศัพท์มือถือจาก

กระเป๋ากางเกง เปิดโปรแกรมถ่ายภาพ ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นเพื่อเล็งไปยังใบหน้าของเธอผู้นั้น

หากพิจารณาด้วยสายตาของคนทั่วไป หญิงสาวผู้ตรึงสายตาเขา

ในยามนี้ไม่ได้จัดว่าสวยถึงขนาดจะสะกดให้ใครสักคนต้องหยุดมอง

เธอไม่ได้มีใบหน้าพิมพ์นิยมที่เรียวเล็กอย่างนางแบบหรือนักแสดงทั่วไป

โหนกแก้มของหญิงสาวอิ่มอูมอย่างสาวเจ้าเนื้อ จมูกไม่โด่งแต่ก็ไม่ถึงกับ

บี้แบน ริมฝีปากเผยอนิดๆ ดวงตากลมโตกะพริบพราวถ่ายทอดอารมณ์

ให้รู้ว่ากำลังมีความสุขกับการเริงระบำนี้นักหนา ยิ่งแสงไฟฉายกระทบ

ที่แก้มอิ่มก็ยิ่งทำให้แลดูโดดเด่นราวกับประติมากรรมชิ้นเอกที่มีชีวิต

...แม่เจ้า เราได้พบเพชรเม็ดงามแห่งวงการแฟชั่นเข้าให้แล้ว หาก

เธอได้รับการเจียระไนเสียหน่อยจะต้องแจ้งเกิดอย่างแน่นอน

แต่ยิ่งพิศใบหน้าของเธอ คริสก็ยิ่งฉงน ใบหน้าของหญิงสาวผู้นี้

มีส่วนละม้ายกับใครสักคนที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาเสียเหลือเกิน แต่เรื่องนั้น

ค่อยว่ากันทีหลัง วันนี้เขาจะต้องหาทางทำความรู้จักเธอให้ได้ และจะ

ไม่มีวันยอมให้เพชรเม็ดงามนี้หลุดมือไปเป็นอันขาด

ในวงการแฟชั่น คริส วัฒนเวธิน ช่างภาพหนุ่มสุดหล่อวัยสามสิบปี

เศษ เชื้อสายไทย-อเมริกัน ได้รับฉายาว่า ‘Eagle eye photography’

หรือ ‘ช่างภาพตาเหยี่ยว’ เนื่องจากเขามีสายตาแหลมคม สามารถดึง

จุดเด่นของใบหน้านางแบบแต่ละคนถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์มได้อย่าง

น่าอัศจรรย์ นางแบบคนไหนที่ผ่านการถ่ายภาพของเขา รับประกันได้ว่า

จะต้องแจ้งเกิดและมีชื่อเสียง พลอยชมพูเองก็เป็นนางแบบคนหนึ่งที่เขาปั้นมากับมือด้วยเช่นกัน

เมื่อเดือนก่อน มหาวิทยาลัยที่คริสสำเร็จการศึกษาด้านการถ่ายภาพ

ได้ทาบทามเขาให้แสดงนิทรรศการภาพถ่ายพอร์เทรต๑ ร่วมกับช่างภาพ

ศิษย์เก่าคนอื่นๆ ในโอกาสครบรอบร้อยปีของการก่อตั้งสถาบัน ณ

แกลเลอรีใหญ่แห่งหนึ่งใจกลางมหานครนิวยอร์ก งานนิทรรศการภาพถ่ายครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นงานใหญ่ที่รวมคนใน

วงการถ่ายภาพแฟชั่นรวมทั้งสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทำให้คริสคาดหวัง

กับการนำเสนอผลงานครั้งนี้มาก และปรารถนาให้ภาพถ่ายของเขาเป็น

ผลงานชั้นเยี่ยมที่ทุกคนจะต้องร้องว้าวด้วยความทึ่ง

คริสไม่ได้กังวลเรื่องฝีมือการถ่ายภาพของตัวเองเลย แต่กลับ

คิดหนักเรื่องนางแบบ เพราะเขาไม่ได้ต้องการนางแบบที่มีใบหน้าสวย

หยดย้อยไร้ที่ติอย่างพลอยชมพูซึ่งมีอยู่ดาษดื่น นางแบบที่เขามองหา

คือหญิงสาวผู้มีใบหน้าเป็นเอกลักษณ์ สามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้า

ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทว่าผู้หญิงแบบนั้นก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ เสียเมื่อไร

ร่วมเดือนแล้วที่คริสนอนก่ายหน้าผากวาดใบหน้าของนางแบบ

ในจินตนาการว่าลักษณะดวงหน้าแบบไหนถึงจะดึงดูดสายตาผู้ชมได้หนอ

ในขณะที่เขานอนพลิกกายเข้าหาผนังด้านหนึ่งของห้องก็เหลือบไปเห็น

ภาพโมนาลิซาที่แขวนประดับไว้

...บิงโก! ใช่แล้ว นางแบบที่มีใบหน้าอวบอิ่มเย้ายวนและรอยยิ้มปริศนา

แบบโมนาลิซานี่เองที่เราอยากได้ แต่คำถามก็คือจะหานางแบบผู้มีใบหน้า

เอิบอิ่มอย่างโมนาลิซาได้ยังไง คงจะดีไม่น้อยหากมีเครื่องไทม์แมชีนแบบ

โดราเอมอน จะได้ทะลุมิติเวลากลับไปในศตวรรษที่สิบห้าเพื่อคุกเข่า

อ้อนวอนให้หญิงงามในยุคนั้นเป็นนางแบบให้

นับเป็นโชคที่เขาไม่ต้องดิ้นรนย้อนเวลากลับสู่อดีต เนื่องจากบัดนี้

หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามเทียบเทียมโมนาลิซาได้ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขา

แล้ว คริสอยากจะเห็นเธอให้ชัดกว่านี้จึงแทรกตัวเข้าไปจนถึงด้านหน้าเวที

และทันใดนั้นเองก็มีเสียงชายผู้หนึ่งร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจสุดขีด

“เฮ้ย...หลบเร็ว ช้างล้ม” ชายหนุ่มหญิงสาวที่เต้นอออยู่หน้าเวที

พากันแตกฮือ ตามมาด้วยเสียงโครม ร่างของเขาถูกบางสิ่งที่หนักน้องๆ

กระสอบข้าวทับจนขยับเขยื้อนกายไม่ได้

“ช่วยกันพยุงยายช้างพังนี่ขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวผู้ชายคนนั้นจะขาดใจตาย

เสียก่อน” ใครบางคนกำลังช่วยกู้ชีวิตของเขา

คริสค่อยๆ ลืมตามองวัตถุที่ทับตัวเขาอยู่เวลานี้ด้วยสายตาที่พร่ามัว

คงเป็นเพราะศีรษะของเขากระแทกกับพื้นจึงทำให้จับภาพเบื้องหน้าได้

อย่างรางเลือน หากความรู้สึกบอกเขาว่าสิ่งที่ทับตัวเขาอยู่ในเวลานี้แม้จะ

หนัก แต่มันก็อ่อนนุ่มอย่างประหลาดและขยับเขยื้อนได้ ซ้ำยังมีลมอุ่น

ที่พ่นออกมารดต้นคอพร้อมเสียงหายใจฟืดฟาด ทำให้คริสแน่ใจว่าเจ้าสิ่งนี้

จะต้องเป็นสิ่งมีชีวิต

...จะใช่ ‘ช้าง’ หรือเปล่าหนอ

เมื่อกี้เหมือนเขาได้ยินใครสักคนเอ่ยขึ้นมาว่า ‘ช้างล้ม’ แต่เมื่อใช้มือ

ลองคลำดูก็ไม่เห็นจะมีงวงหรืองายื่นออกมา นอกจากบางอย่างที่นิ่มๆ

หยุ่นๆ จับแล้วเพลินดีพิลึก หากความรู้สึกเมามันทางอารมณ์นั้นถูกเรียก

สติให้คืนกลับมาพร้อมแรงปะทะของฝ่ามือที่ทำให้ใบหน้าของเขาทั้งแสบและชา

“ไอ้ลามก ไอ้โรคจิต ขอสั่งสอนแกสักทีเถอะ จะได้รู้สำนึกว่า

ไม่ควรลวนลามผู้หญิงแบบนี้อีก”

เสียงแหลมกราดเกรี้ยวของหญิงสาวที่ดังขึ้น ทำให้คริสรู้ตัวว่าเขา

กำลังเข้าใจอะไรบางอย่างผิด และเผลอไปจับอะไรที่ไม่ควรจะจับเข้าให้แล้ว

ก่อนที่น้องชายของเขาจะถูกลงทัณฑ์จากแม่สาวช้างพัง ก็มีหน่วยกล้าตาย

ดึงร่างยักษ์ตกมันออกจากตัวเขาได้ทันเวลา คริสจึงถอนใจยาวอย่าง

โล่งอก แต่กลับผวาอีกครั้งเมื่อเห็นแม่ช้างยักษ์ยกขาหมายกระทืบจุดยุทธศาสตร์ของเขา

“ปล่อยนะ ฉันจะจัดการกับไอ้โรคจิตนี่ก่อน” สาวช้างพังยังคงฟาดงวง

ฟาดงาใส่เขาไม่เลิก เมื่อคริสได้เห็นใบหน้าโกรธเกรี้ยวนั้นเต็มตาจึงรู้ว่า

แม่ช้างตกมันที่ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าคือหญิงสาวที่เขาเพิ่งถ่ายภาพเธอไปเมื่อครู่นั่นเอง

“พอได้แล้วคะน้า อย่ากระทืบเขาเลย เมื่อกี้แกก็ตบเขาจนหน้าหัน

แล้วนะ ไปเถอะ แค่นี้ก็อายจะแย่อยู่แล้ว” หญิงสาวร่างเล็กผู้หนึ่ง คาดว่า

น่าจะเป็นเพื่อนของยายช้างพังร้องปราม ทำให้อาการตกมันของหญิงสาว

ทุเลาลง แต่ตาของเจ้าหล่อนก็ยังจ้องเขาอย่างกินเลือดกินเนื้ออยู่ดี

“ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้เจอหน้าอีกนะ แกตายแน่” สาวร่างยักษ์

ไม่เพียงพูด แต่ยังทำท่าปาดคอเป็นเชิงขู่อีกด้วย

คริสรู้สึกสยองสาวยักษ์ตกมันผู้นี้ไม่น้อย ผู้หญิงอะไรน่ากลัว

แถมยังชอบใช้กำลังอีกต่างหาก เมื่อครู่ไม่รู้อะไรเข้าสิงเขา ถึงได้มองเห็นความงามของเจ้าหล่อน

“ทำไมยังไม่ไปอีกคะน้า กำลังหาอะไรอยู่เหรอ”

“แนน ฉันทำกระเป๋าหนีบหายไปไหนก็ไม่รู้ ไหนจะบัตรเครดิต แล้ว

มือถือเครื่องใหม่ก็หล่นหายไปด้วย” สาวร่างยักษ์พูดด้วยน้ำเสียงวิตก

“ฉันเก็บให้หล่อนแล้วย่ะ ไปได้แล้ว” หญิงสาวชื่อแนนพูดพลางฉุด

แขนของแม่ช้างตกมันให้เดินออกไป

เธอชื่อ ‘คะน้า’ อย่างนั้นเหรอ คริสอดนึกขันไม่ได้ รูปร่างอุดมด้วย

ไขมันแบบนี้น่าจะชื่อ ‘คากิ’ มากกว่า เพราะหากประเมินด้วยสายตาแล้ว

เธอน่าจะหนักร่วมร้อยกิโล ด้วยความรู้สึกหวาดกลัวว่ายายคะน้าชุบแป้ง

ทอดจะเปลี่ยนใจกลับมาทำร้าย เขาจึงมองตามร่างของเธอจนลับสายตา

เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยจริงๆ จึงค่อยๆ ยันร่างที่ปวดร้าวลุกขึ้นยืน

“ตายจริงคริส เป็นอะไรมากหรือเปล่า พอลลี่ว่าคุณไปตรวจ

MRI ๒ สมองกับเอกซเรย์กระดูกหน่อยดีไหมคะ” พลอยชมพูที่หายไป

นานรีบวิ่งมาช่วยประคองเขาด้วยท่าทางตื่นตระหนก

“ผมไม่เป็นไรหรอก แค่ฟกช้ำนิดหน่อย ว่าแต่...เรากลับกันได้หรือยัง

ถ้าคุณยังอยากอยู่ที่นี่ต่อ ผมขอตัวกลับก่อนนะ” คริสไม่อยากจะอยู่ที่ผับ

แห่งนี้ต่ออีกแม้เพียงวินาทีเดียว เพราะอายสายตาของผู้คนที่มองมาและ

                           (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เมื่อสาวไซซ์ใหญ่ต้องแย่งผู้ชายกับสาวร่างเล็ก 
งานนี้น้ำหนักไม่เกี่ยว วัดกันที่หัวใจล้วนๆ 
มุทิตา สาวร่างยักษ์ถูกจับเข้าคอร์สนางแบบเพื่อถ่ายแบบใช้หนี้สองล้านบาท จนได้พบกับพลอยชมพู นางแบบสาวแนวหน้าที่เป็นต้นเหตุให้พี่สาวฝาแฝดของเธอต้องตาย สาวร่างใหญ่แต่หัวใจไม่แข็งแรงเลยต้องสู้สุดใจเพื่อทำลายความรักของพลอยชมพูเป็นการล้างแค้น ศึกพิชิตใจ คริส ตากล้องหนุ่มหล่อจึงเริ่มขึ้น 
แม้จะบอกว่าทำไปเพื่อล้างแค้น แต่หัวใจกลับหวั่นไหว ไม่ทันไรก็ทำท่าว่าแผนจะล่ม เพราะจากที่คิดจะทำให้คริสหลง กลับเผลอใจไปหลงคริสเสียเอง สุดท้ายแล้วคริสจะเลือกใคร ระหว่างพลอยชมพู แฟนสาวหุ่นเพรียวบางร่างน้อย กับสาวไซซ์ใหญ่แต่หัวใจเกินร้อยอย่างมุทิตา

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024