ปลาหลงฟ้า (อิสย่าห์)

ปลาหลงฟ้า (อิสย่าห์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160012817
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

อนาคตลุ่มๆ ดอนๆ ของบริษัทมีโชค

ก๊อกๆๆ

คนที่นั่งอยู่บนฝาชักโครกและเล่นเกมในโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่าง

เมามันส่งเสียงจิ๊อย่างหงุดหงิด “อึอยู่ ใคร?”

“ฉันเอง” มัศยาตอบ

“เฮ้ย! นี่มันห้องน้ำชายนะคุณ คุณเข้ามาทำไม” น่านฟ้าโวยวาย

“ก็เข้ามาตามคุณไง คุณเข้าห้องน้ำมาเกินครึ่งชั่วโมงแล้วนะ เมื่อไหร่

จะเสร็จ”

“ก็คนมันท้องเสียจะให้ทำยังไงล่ะ เดี๋ยวเสร็จผมก็ออกไปเองแหละ”

“แน่ใจเหรอว่าท้องเสีย” มัศยาถาม

“แน่ใจสิ คิดว่าผมแกล้งท้องเสียหรือไง”

สิ้นเสียงตอบของน่านฟ้า เสียงปู้ด เสียงป้าด เสียงปุ๋ง ก็ดังสลับ

ไปมาอย่างต่อเนื่องและดุเดือด ทว่านั่นเป็นซาวนด์เอฟเฟกต์เลียนแบบ

ที่น่านฟ้าทำ

“โอย เมื่อเช้าไปกินอะไรมาวะเนี่ย ข้าศึกบุกไม่หยุดขนาดนี้” เสียงอ่อน

ระโหยของน่านฟ้าดังตามหลังมา ก่อนที่เขาจะอุทาน “เฮ้ยคุณ!” เมื่อ

เงยหน้าขึ้นแล้วเห็นหน้าของมัศยาลอยอยู่ด้านบนประตูห้องน้ำ “คุณทำอะไร

ของคุณ ปีนขึ้นมาทำไม”

“ก็ปีนขึ้นมาดูคนโกหกไง ไหนบอกว่าท้องเสีย หนีมาเล่นเกมชัดๆ”

คนที่ยืนอยู่บนฝาถังน้ำใบโตหน้าประตูห้องน้ำมองโทรศัพท์เคลื่อนที่ในมือ

และใบหน้าอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ

น่านฟ้าปั้นหน้าเก้อไปหลายอึดใจ “ใครว่าผมโกหก ผมท้องเสีย

จริงๆ”

“แถไปได้อีกนะ ไอ้ที่คุณทำอยู่ตอนนี้เรียกว่าท้องเสียตรงไหน”

“ก็ผมกำลังจะอึอยู่นี่ไง แต่ก่อนอึผมต้องอุ่นเครื่องด้วยการเล่นเกม

ก่อน ไม่งั้นมันอึไม่ออก” น่านฟ้ายิ้มยียวนกับอีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

“แล้วตอนนี้ผมก็กำลังจะอึแล้วนะ”

“เลิกลีลาได้แล้ว ฉันขี้เกียจฟังคุณโกหกอีก ออกมาได้แล้ว”

“ผมจะออกได้ไง ก็ผมบอกแล้วไงว่าผม...ท้องเสีย” น่านฟ้าเน้นสองคำ

หลัง

มัศยาปั้นหน้าระอา แบะปากอีกเล็กน้อย “ไหนล่ะท้องเสียของคุณ

ฉันเห็นแต่คุณหนีมาเล่นเกมในห้องน้ำ”

“ก็นี่ไง” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอื้อมมือไปยังขอบกางเกง

ค่อยๆ ปลดเข็มขัด ตามด้วยปลดกระดุมกางเกง

“คุณคิดจะทำอะไร” มัศยาถามเสียงดุ

“ก็คนจะอึก็ต้องถอดกางเกงน่ะสิ” จากนั้นเขาก็ค่อยๆ รูดซิปลง

ทีละนิด

“อย่านะ!” มัศยาร้องโวยวายพลางยกสองมือขึ้นปิดตา

“ก็คนจะอึ คุณจะมาห้ามได้ยังไง” น้ำเสียงห้าวทุ้มเจือความสนุกสนาน

“คุณแกล้งฉัน คุณไม่ได้ปวดอึ” มัศยายังไม่ยอมละสองมือจาก

ใบหน้า

                “แล้วแต่คุณจะคิด แต่ผมปวดอึจริงๆ” น่านฟ้าฉีกยิ้มกว้าง นัยน์ตา

คมกริบคู่สวยแฝงความซุกซนราวกับเด็ก “ว่าไง จะอยู่ดูผมอึรึเปล่า”

“คุณเลิกทำอะไรบ้าๆ ได้แล้วนะ”

“คนจะอึเรียกว่าบ้าได้ไง ว่าไง จะอยู่ดูมั้ย ผมจะได้รีบๆ อึให้ดู”

ชายหนุ่มท้าทาย

หญิงสาวมีท่าทางลังเลแฝงความร้อนใจอยู่ชั่วครู่ แต่แล้วเธอก็

ตัดสินใจเลื่อนมือออกจากใบหน้า จ้องมองคนในห้องน้ำอย่างเด็ดเดี่ยว

“เอาเลย อยากทำอะไรก็ทำเลย”

สองหนุ่มสาวประสานสายตากันอย่างท้าทาย จากนั้นน่านฟ้าก็กระตุก

ยิ้มมุมปาก นัยน์ตาเป็นประกายวิบวับราวกับเด็กน้อยที่สนุกสนานกับการ

เล่นเกม

“ได้ เดี๋ยวจัดให้” น่านฟ้าเอ่ย พร้อมกับค่อยๆ รูดซิปกางเกงลงจน

หมด

มัศยาเบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะลนลานปีนลงจากถังน้ำจน

เกือบสะดุดหน้าทิ่มคะมำ

เสียงหัวเราะของน่านฟ้าดังขึ้นหลายวินาที “โธ่ นึกว่าจะแน่” เขา

ปรามาสหลังจากได้ยินเสียงวิ่งซอยเท้าออกไปจากห้องน้ำ ตามด้วยเสียง

ปิดประตู

 

ภายในห้องทำงานเก่าของนายโชค นิรชรกนก ที่บัดนี้ได้เปลี่ยนมือ

สู่ประธานบริษัทคนใหม่

ภรรยาของอดีตประธานบริษัทมีโชคกัดฟันกรอดๆ สีหน้าบึ้งตึง

ไม่ต่างกับยักษ์ขมูขี หลังฟังรายงานพฤติกรรมของน่านฟ้าจากมัศยา

“ฉันจะทำยังไงกับอีตาคนนี้ดีนะ มันเป็นเวรเป็นกรรมของฉันหรือ

ยังไง ที่ต้องมาพัวพันกับคนพรรค์นี้ แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน”

“เอ่อ ตอนนี้หยีกับต๋องกำลังตามหาตัวอยู่ค่ะ น่าจะไปซ่อนตัวที่ไหน

สักแห่งในโรงงาน” มัศยารายงาน

นางวิภาถอนหายใจดังพรืด “แล้วเธอเฝ้านายน่านภาษาอะไร ทำไม

ปล่อยให้เขารอดสายตาไปได้”

มัศยาหน้าเจื่อน “หยีขอโทษค่ะ หยีจะไปตามตัวเขาให้เจอค่ะ”

“แล้วอย่าปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้บ่อยๆ นะ” หญิงสูงวัยสั่งเสียง

เข้ม

“แต่จะโทษพนักงานฝ่ายเดียวก็ไม่ได้นะครับพี่วิ การรับมือนายน่าน

ไม่ใช่เรื่องง่าย” นายสุกิจแย้งขึ้น

“ฉันรู้น่า แต่ฉันแค่อยากให้หยีคุมเข้มนายน่านมากกว่านี้ เพราะเรา

ต่างก็รู้กันว่าเขาหาเรื่องให้เราปวดหัวได้มากแค่ไหน”

“ไม่ต้องห่วงค่ะท่าน หยีจะไม่ให้คุณน่านรอดสายตาไปง่ายๆ อีก”

“ดี ทำหน้าที่ของเธอให้เต็มที่ ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อีกหน่อย

อนาคตของบริษัทมีโชคต้องตกอยู่ในมือของเขา อนาคตของพวกเราขึ้นอยู่

กับนายน่าน”

“ค่ะ หยีเข้าใจ หยีจะทำหน้าที่ให้ดีและเต็มที่ที่สุด หยีสัญญาค่ะ”

มัศยารับปากอย่างหนักแน่น ก่อนจะขอตัวออกไปตามหาน่านฟ้าต่อ

“พี่วิครับ” นายสุกิจเอ่ยเรียกหญิงสูงวัย หลังจากมัศยาหายออกไป

จากห้อง

“ว่าไง”

“พี่แน่ใจหรือครับว่า...นายน่านดำรงตำแหน่งประธานบริษัทมีโชค

ได้จริงๆ”

ความเคร่งเครียดฉายชัดบนดวงหน้าของนางวิภา “ตอนนี้ฉันก็ยัง

ไม่แน่ใจหรอก แต่ฉันไม่มีทางเลือก แกก็รู้ ตอนนี้น่านคือทายาทคนเดียว

ของนิรชรกนก และคุณโชคก็ขอร้องฉันไว้ก่อนตาย”

“ผมเข้าใจครับ แต่...การวางอนาคตของข้าวเกรียบมีโชคไว้ในมือ

คนอย่างนายน่าน ผมกลัวว่ามันจะ...ไปไม่รอด” ชายวัยกลางคนมีสีหน้า

หนักใจ

คิ้วที่วาดไว้จนโก่งเรียวของนางวิภาขมวดมุ่น “นี่ไง ฉันถึงให้มัศยา

ทำหน้าที่ดูแล สอนงาน และคุมพฤติกรรมของนายน่าน”

“แต่ผมอยากให้พี่ลองทบทวนการตัดสินใจอีกที แล้วที่ผมทักท้วง

แบบนี้เพราะผมห่วงอนาคตของข้าวเกรียบมีโชค”

“ฉันรู้ แต่ฉันตัดสินใจไปแล้ว และฉันคงจะไม่เปลี่ยนใจ ฉันรับปากว่า

ฉันจะเปลี่ยนพฤติกรรมนายน่านให้ได้” แม้จะรับปากไปเช่นนั้น แต่นางก็

ไม่แน่ใจนักว่าจะทำตามที่ประกาศไว้ได้ ความหนักอึ้งในอกก่อกวนจิตใจ

อีกครั้ง

“แล้วถ้ามันไม่สำเร็จล่ะครับ”

“มันต้องสำเร็จ”

นายสุกิจถอนหายใจเบาๆ “แต่ผมห่วงอนาคตข้าวเกรียบมีโชค

เหลือเกิน ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป”

“บางทีมันอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่แกคิดก็ได้”

“ผมก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้พี่วิคิด

ทบทวนอีกครั้งเรื่องตำแหน่งประธานบริษัท นี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่เด็กอมมือ

ที่ไหนจะมาเป็นได้ พี่วิน่าจะเลือกคนที่มีความเหมาะสมมากพอจะรับมือ

ได้”

“ไม่ว่านายน่านจะเป็นยังไง แต่เขาคือคนเดียวที่จะมารับตำแหน่งนี้”

นางวิภายืนกราน

“เพียงเพราะเป็นคำขอสุดท้ายของพี่โชคงั้นหรือครับ”

“ใช่ นายน่านก็เป็นสายเลือดคนเดียวของคุณโชคที่เหลืออยู่ใน

ตอนนี้ คนที่จะสานต่อธุรกิจข้าวเกรียบมีโชคคือทายาทของคุณโชคเท่านั้น”

“ทั้งๆ ที่นายน่านเป็นลูกจากเมียอีกคนของคุณโชคงั้นหรือครับ”

หญิงสูงวัยนิ่วหน้าอย่างไม่ชอบใจนัก เรื่องนี้ยังคงยอกแสยงใจกัน

เสมอมา แต่สุดท้ายนางก็รักและเทิดทูนสามี แม้ว่าเขาจะเคยทำให้นางต้อง

เจ็บช้ำใจ “ใช่ ฉันบอกแล้วไงว่า เขาคือทายาทคนเดียวที่เหลือของคุณโชค”

“พี่ไม่กลัวว่านายน่านจะเป็นหอกข้างแคร่พี่บ้างหรือครับ”

“หอกข้างแคร่อะไรของแก” นางวิภายังนิ่วหน้า

“ก็...พี่อย่าลืมนะครับว่านายน่านไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของพี่แท้ๆ”

“ทำไม แกคิดว่านายน่านมันจะฮุบบริษัทนี้หรือไง”

“อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ไม่ใช่หรือครับ” นายสุกิจตอบ

“ก็จริง อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้านายน่านไม่ได้ห่วยแตก ไม่เอาไหน

ลอยไปลอยมาทั้งวันแบบนี้ บอกตามตรง ฉันกลัวมันทำบริษัทเจ๊งมากกว่า

จะมาฮุบบริษัทนี้ซะอีก รู้มั้ยตอนนี้ฉันไหว้พระทุกวัน ขอให้มันสำนึก

กลับเนื้อกลับตัว เลิกทำตัวเหลวไหลซะที”

“แต่ผมว่า...”

“พอละ ฉันขี้เกียจคุยเรื่องนี้แล้ว” นางวิภายกมือขึ้นข้างหนึ่งเป็นเชิง

ห้าม “ฉันตัดสินใจแล้ว ไม่มีทางเปลี่ยนใจ แกมีงานอะไรก็ไปทำซะ ฉันจะ

รออยู่ในห้องนี้จนกว่าหยีจะตามไอ้ตัวแสบมาได้”

สีหน้าท่าทางของนายสุกิจฟ้องว่ายังไม่ค่อยอยากจบบทสนทนานี้นัก

แต่สุดท้ายเขาก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้อง

เมื่ออยู่เพียงลำพัง นายหญิงใหญ่แห่งอาณาจักรมีโชคก็ยกมือข้าง

หนึ่งขึ้นกุมขมับ สีหน้าท่าทางอ่อนล้า ผิดแผกกับมาดเข้มงวดและกร้าวแกร่ง

ที่เห็นจนชินตา

“คุณคะ ช่วยดลบันดาลให้ไอ้ลูกซังกะบ๊วยของคุณมันมีสำนึกซะที

ถ้ามันไม่ช่วยตัวเองบ้าง ฉันก็ไม่รู้จะมีเรี่ยวแรงเข็นมันไปได้สักกี่น้ำ” นางวิภา

รำพันอย่างอ่อนล้า

ช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน ในบ้านเดี่ยวขนาดร้อยกว่าตารางวา น่านฟ้า

กำลังง่วนอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์พกพาในห้องนอนส่วนตัว กระทั่ง

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

                “น่าน แม่เอง”

“เข้ามาได้เลย ไม่ได้ล็อกประตูครับแม่” น่านฟ้าร้องตอบ

หญิงสูงวัยรูปร่างกะทัดรัด หน้าตาใจดีและอบอุ่น สวมชุดนอน

กระโปรงสีน้ำตาลเข้มยาวเกือบถึงหน้าแข้ง เปิดประตูเข้ามาในห้องนอน

บุตรชาย ใบหน้าของนางเปื้อนรอยยิ้มบางๆ ขณะเดินเข้าไปหาน่านฟ้า

“ทำอะไรอยู่ลูก” นางสุกัญญาโอบไหล่บุตรชาย

“คุยกับเพื่อนนิดหน่อยครับแม่” น่านฟ้าปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง

“แม่รบกวนเวลาเรามั้ย”

“ไม่รบกวนหรอกครับ แล้วแม่มีอะไรหรือครับ”

“แม่เพิ่งวางสายจากแม่ใหญ่จ้ะ”

“แล้วหูแม่หายชาหรือยังครับ” น่านฟ้าถามหน้าตาย

นางสุกัญญาส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ “ไปว่าแม่ใหญ่อีกแล้ว”

“ผมพูดเรื่องจริงนี่ครับ ผมว่าชาติที่แล้วแม่ใหญ่ต้องเกิดเป็นไก่

แน่ๆ”

คู่สนทนาขมวดคิ้ว “ทำไมล่ะน่าน”

“ก็เธอจิกเก่งเป็นบ้า”

“ตายแล้ว ลูกแม่ เดี๋ยวนี้ทำไมปากจัดแบบนี้”

“ผมยังปากจัดไม่ถึงครึ่งของแม่ใหญ่เลยนะครับ”

“พอๆ ว่าแม่ใหญ่มากๆ บาปกรรมนะ” มารดาเตือนบุตรชาย

“คร้าบ” น่านฟ้าตอบเสียงยานคางหน่อยๆ

หญิงสูงวัยค้อนบุตรชายอย่างไม่จริงจังนัก “ดูทำเสียงเข้า แล้วเมื่อ

ไหร่จะเลิกแกล้งแม่ใหญ่ซะที”

“ผมแกล้งอะไรแม่ใหญ่ครับ”

“ยังมีหน้ามาถามอีก ก็เรื่องที่เราเอาแต่ทำตัวเหลวไหล ไม่ยอมทำงาน

แล้ววันนี้ก็แกล้งไปซ่อนตัวให้คนของแม่ใหญ่ตามหาทั้งวัน”

“แม่ใหญ่รายงานซะละเอียดเลยนะครับ”

“แล้วจริงมั้ยล่ะ”

น่านฟ้าจำต้องพยักหน้าตอบรับ

“แล้วเมื่อไหร่น่านจะเลิกแกล้งแม่ใหญ่ซะทีล่ะ หืม” นางสุกัญญา

ถามบุตรชาย

“ผมก็ไม่ได้อยากจะแกล้งแม่ใหญ่หรอกครับ แต่แม่ก็รู้ว่าผมไม่ได้

อยากเป็นประธานบริษัทของพ่อเลยสักนิดเดียว” สาเหตุที่เขาต้องทำตัว

บ้าๆ บอๆ กวนประสาท เพราะเขาต้องการให้แม่ใหญ่ล้มเลิกความตั้งใจ

ที่จะให้เขาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทมีโชค

“น่านคงจะโกรธ...พ่อกับแม่ใหญ่อยู่”

“ก็ไม่เชิงหรอกครับ แต่ผมไม่ได้ผูกพันกับบริษัทมีโชคมาก่อน

ไม่เคยทำงานที่นั่น แล้วจู่ๆ ให้ผมเข้าไปเป็นประธาน ผมว่ามันไม่ใช่”

ตั้งแต่น่านฟ้าจำความได้ แม่ใหญ่ต้องการให้บุตรชายของนาง

สืบทอดธุรกิจข้าวเกรียบมีโชคแต่เพียงผู้เดียว จึงขอให้บิดาของเขาเตรียม

ทำพินัยกรรมยกหุ้นส่วนของท่านและตำแหน่งประธานบริษัทให้แก่พี่ชาย

ของน่านฟ้าไว้แต่เนิ่นๆ เพราะเกรงว่าถ้าบิดาของเขาเป็นอะไรไปเขาก็ย่อม

ได้ส่วนแบ่งมรดกเช่นกัน และบริษัทมีโชคคือมรดกชิ้นสำคัญที่นาง

ไม่ยอมให้เขาเข้าไปมีส่วนแบ่งเด็ดขาด นางยืนกรานเสียงแข็งเสมอว่า

ผู้บริหารธุรกิจนี้คนต่อไปต้องเป็นบุตรชายของนางเท่านั้น

“แม่เข้าใจ แต่ครั้งนี้น่านจะยอมละทิฐิเพื่อพ่อสักครั้งได้มั้ย”

“เพื่อพ่อที่ไม่ค่อยจะสนใจไยดีเราหรือครับ” น่านฟ้าไม่เคยลืมว่าเขา

กับมารดาต้องใช้ชีวิตกระเสือกกระสนมาเท่าไร ผิดกับแม่ใหญ่และพี่ชาย

ต่างมารดาของเขา เพียงเพราะบิดาไม่กล้าทัดทานหรือคัดง้างกับแม่ใหญ่

สุดท้ายท่านก็เกรงใจภรรยาคนแรกของท่านจนยอมเห็นภรรยาและบุตรชาย

อีกคนลำบาก

สำหรับตัวเขาเอง เขาไม่ได้เดือดร้อนกับชีวิตที่ต้องดิ้นรนนัก แต่เขา

สงสารมารดาต่างหาก หลังจากแม่ใหญ่รู้ว่าสามีของนางแอบซ่อนภรรยา

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

อาจเพราะความจงรักภักดีต่อบริษัทที่ฝังอยู่ในสายเลือดและทุกอณูเซลล์ของ "มัศยา" เธอจึงตัดสินใจยอมรับหน้าที่ผู้ช่วยของ "น่านฟ้า" ประธานหนุ่มของบริษัทข้าวเกรียบมีโชคที่สุดแสนจะเหลวไหลและไม่เอาถ่าน เพื่อช่วยเขากอบกู้ยอดขายของบริษัทให้ได้ภายใน 3 เดือน ไม่เช่นนั้นตำแหน่งประธานของเขาอาจจะหลุดลอยไปตกอยู่ในมือของคนอื่น แค่ภารกิจทวงคืนตำแหน่งประธานกลับมาก็ยากเย็นแสนเข็ญเต็มทน แต่นี่เธอต้องคอยทำหน้าที่พี่เลี้ยงกึ่งแม่นมเพื่อควบคุมความประพฤติของเขาอีกด้วย เมื่อเขาพร้อมจะออกนอกลู่นอกทางจนเสียงานเสียการทุกที ถ้ามีสาวสวยหุ่นนางแบบมาเฉียดใกล้ เพราะเขาเป็นหนุ่มขี้เหงา ขาดกิ๊กเมื่อไรเป็นขาดใจ เอาละ งั้นเธอจะยอมลงทุนเป็นกิ๊กกำมะลอให้เขาเสียเลย เขาจะได้อยู่ในสายตาเธอตลอดเวลา แต่พ่อเจ้าประคุณก็ขยันหยอดมุกหวานและเล่นหมาหยอกไก่กันเสียจริง แม้รู้ทั้งรู้ว่าขืนไปหลงเสน่ห์หนุ่มรักสนุก สุขนิยม อย่างเขาที่ไม่น่าจะเข้าคู่กับเธอเลยสักนิดเดียว มีหวังได้น้ำตาเช็ดหัวเข่า แต่สุดท้ายหัวใจของเธอก็สั่นหวั่นไหวไม่เป็นท่า มาร่วมลุ้นกับอนาคตของบริษัทมีโชคและหัวใจของเธอที่ดูจะลุ่มๆ ดอนๆ ไม่แพ้กัน เพราะล้วนตกอยู่ในกำมือของประธานหนุ่มแสนขี้เล่นไปเสียทุกเรื่องคนนี้ !! แล้วเรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไร? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาติดตามร่วมกันในนิยาย "ปลาหลงฟ้า" เล่มนี้

เขียนโดย "อิสย่าห์"

 

448 หน้า


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024