นวนิยายชุด ดวงดอกไม้ : ธาดากุสุมา (ณารา)

นวนิยายชุด ดวงดอกไม้ : ธาดากุสุมา (ณารา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160002962
ผู้แต่ง: ณารา
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 300.00 บาท 75.00 บาท
ประหยัด: 225.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เจ็ดปีต่อมา

กรุงเทพมหานคร

 

ตึกสองชั้นหลังใหญ่ฉาบด้วยสีเหลืองอ่อน หน้าต่างกระจกขนาด

ใหญ่อยู่ทางซ้ายและขวาของประตูที่มีขนาดใหญ่เกือบเท่าๆ กัน ฝั่งละ

สองบาน กรอบเหนือหน้าต่างและประตูเป็นรูปโคม ช่องลมประดับด้วย

กระจกสีเป็นรูปรัศมีพระอาทิตย์ครึ่งดวง สมกับชื่อ “เคหาสน์ดวงตะวัน”

หลังคามุงกระเบื้องสีแดงที่สีจางลงไปตามกาลเวลา ทว่าตัวบ้าน

ได้รับการบูรณะมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ยังคงความงดงามอลังการ

ของบ้านสไตล์พาลาดิโอไว้เสมอ ไม่ว่าแขกไปใครมาก็จะต้องชมแล้วชมเล่า

ประกอบกับดอกไม้สีสดสวยนานาพันธุ์ที่ปลูกประดับรอบระเบียงซึ่งมี

บันไดหินอ่อนเป็นทางขึ้นจากทั้งสองทางไปสู่ระเบียง ที่ได้รับการดูแล

อย่างสม่ำเสมอจากคนสวน ก็ยิ่งเพิ่มความสวยสดใสให้แก่บ้านอายุ

นับครึ่งศตวรรษหลังนี้ได้ไม่สร่างซา

ธาดากุสุมาขับรถมินิคูเปอร์เข้าไปในโรงจอดรถ แล้วหิ้วกระเป๋า

เอกสารที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลสำหรับเขียนข่าวที่ได้รับมอบหมายล่วงหน้า

มาหลายสัปดาห์และแลปทอปรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นสะพาย แล้วเดินขึ้นบันได

หินอ่อน เปิดประตูบ้านเข้าไป

“กลับมาแล้วค่า...” ตะโกนบอกสมาชิกในบ้านเสียงหวานว่าสมาชิก

อายุน้อยสุดของบ้านกลับบ้านมาแล้ว แต่ไม่มีเสียงใดๆ ตอบมา เธอจึง

เดินผ่านประตูไม้แกะสลักบานใหญ่ไปตามกระดานไม้มันปลาบ สายตา

สอดส่ายไปรอบๆ แต่ไม่เห็นใครอยู่บนบ้านเลย

“ไปไหนกันหมดน้า” เธอพึมพำเมื่อวางกระเป๋าหนักอึ้งลงบนเก้าอี้

ไม้รับแขก เดินผ่านห้องอาหารผ่านประตูหลังบ้าน ลงบันไดปูนสองสามขั้น

ไปยังศาลาริมแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วก็ไม่ผิดหวังเมื่อเห็นหญิงวัยต้นเจ็ดสิบ

กำลังอ่านหนังสืออยู่บนศาลา ท่ามกลางไม้ยืนต้นและไม้ดอกไทยส่งกลิ่น

หอมกรุ่นต่างจากด้านหน้าซึ่งแต่งเป็นสวนอังกฤษ ด้านหลังเน้นต้นไม้

แบบไทยๆ แทน และธาดากุสุมาบอกได้คำเดียวว่า ไม่ว่าสร้อยสะบันงา

ยายของเธอจะอยู่ในอากัปกิริยาไหนก็ดูสง่างามทุกกระเบียดนิ้ว สมกับเป็น

ผู้ดีทุกประการ

“คุณยายขา...อ่านหนังสือเรื่องอะไรอยู่หรือคะ” ธาดากุสุมาเดิน

เข้าไปกอดยายผู้เป็นที่รัก ออดอ้อนเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆ อันเป็นกิริยา

ที่เธอมักทำมาตั้งแต่เด็กๆ แม้บัดนี้จะตัวสูงใหญ่กว่าท่านแล้วด้วยซ้ำ แต่

ก็ยังติดนิสัยขี้อ้อนเหมือนเด็กๆ ไม่มีผิด

“กลับมาแล้วรึ” สร้อยสะบันงาลดหนังสือในมือลง มือหนึ่งก็

ดึงแว่นตาออก “วันนี้เป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยไหม?”

“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ สนุกจะตาย”

ผู้อาวุโสหัวเราะเบาๆ งานข่าวสำหรับคนอื่นที่ว่ายุ่งยากวุ่นวาย แต่

สำหรับธาดากุสุมาแล้ว มักเห็นเป็นเรื่องสนุกสนานบวกตื่นเต้นเสมอ ด้วย

เป็นงานที่หญิงสาวรัก ไม่ว่าจะมีงานอะไรเข้ามาใหม่ เธอก็จะเปิดรับด้วย

ความยินดี

“อ่านหนังสือเรื่องอะไรอยู่หรือคะ” เธอชะโงกหน้ามองปกหนังสือเล่มหนา

“มหากาพย์มหาภารตะ ยายเคยอ่านเล่มอื่นมาบ้าง แต่เล่มนี้ละเอียดดี”

“อ๋อ ค่ะ” ธาดากุสุมาย่นจมูก หนังสือดูหนาไปหน่อยสำหรับเธอ

ที่แม้จะชอบอ่าน แต่เจอเล่มใหญ่ๆ ก็ต้องขอคิดดูก่อน หรือไม่อย่างนั้น

ก็จะต้องรอจนกว่าจะว่างจริงๆ ถึงจะหยิบมาจากชั้น “แล้วคนอื่นๆ ไปไหน

กันหมดล่ะคะวันนี้”

“ตาไปทานเลี้ยงกับเพื่อน วันนี้ยายไม่ค่อยจะมีอารมณ์ไปนั่งคุย

ดื่มน้ำชากับใคร อยากอยู่เงียบๆ ก็เลยนั่งอ่านหนังสืออยู่บ้านดีกว่า ส่วน

แม่ของหนู ตอนเช้าจู่ๆ ก็บอกว่าจะไปน้ำหนาว จะได้มีสมาธิปิดต้นฉบับ

ส่วนน้าพฤกษ์กับน้าเก๋ไปเที่ยวยุโรป หนูก็รู้แล้วนี่”

“จำได้แล้วค่ะ คุณยายก็เลยได้อยู่เงียบๆ สมใจ จะไม่เงียบก็ตอน

ธารกลับมานี่แหละ” ธาดากุสุมาหัวเราะเบาๆ เมื่อแต่ละคนมีงานมีการ

ต้องออกจากบ้านกันหมด

“ไม่เป็นไรหรอก ยายก็รอหนูกลับมา จะได้ทานข้าวเย็นด้วยกัน

ยายห่วง ไม่อยากให้หนูอยู่บ้านคนเดียว”

“แหม ธารโตแล้วนะคะคุณยายงามขา ปีหน้าธารก็จะสามสิบ

อยู่แล้ว ไปเรียนเมืองนอกเมืองนามาก็ตั้งสิบกว่าปี ธารเอาตัวรอดได้หรอก

ค่ะ แถมนี่อยู่บ้านเราเองอีก ไม่เห็นจะมีอะไรน่าห่วง”

สร้อยสะบันงาหัวเราะเบาๆ ก่อนสารภาพ

“เอาเป็นว่า ยายอยากอยู่บ้านกับธารดีไหม อยากอยู่กับหลานเงียบๆ

กินข้าวกันตามลำพังสองคน”

“คุณตาก็คงจะรู้แน่ๆ ว่าคุณยายขี้เกียจไป”

ผู้อาวุโสหัวเราะอีกครั้ง มีหรือคนเป็นสามี ผู้อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน

มาหลายสิบปีจะไม่รู้ว่าหล่อนคิดอะไรในใจ เพียงแต่มีบางสิ่งบางอย่าง

ทำให้หล่อนไม่รู้สึกอยากจะออกไปไหนเลยในค่ำนี้ และอยากอยู่กับ

หลานรักมากกว่า

“มาเถอะ ยายให้สายทำของโปรดธารไว้แล้ว ทั้งข้าวเกรียบปากหม้อ

เป็นของว่าง ยำถั่วพู และมัสมั่นไก่”

“ว้าว น่าอร่อยจังเลยค่ะ ดีเหมือนกัน กินส่งท้าย ก่อนจะไปเมืองแขก

ไปถึงที่โน่นคงจะได้กินแต่นานกับแกงผัก” ธาดากุสุมาทำตาโตดีใจที่จะได้กิน

อาหารอร่อยๆ ก่อนต้องไปเจออาหารที่ไม่คุ้นลิ้นอีกหลายสัปดาห์

“อะไรกัน จะไปไหนอีกคนล่ะนี่”

“พรุ่งนี้ธารจะไปภราห์มปุระค่ะ ที่นั่นจะมีพิธีคัดตัวพระราชบุตรเขย

ตามประเพณีโบร่ำโบราณในอีกสามอาทิตย์ข้างหน้า ทางแอลเออยากให้ไป

ทำสกู๊ปข่าวนี้เป็นรายการพิเศษ ก็เลยส่งธารไปทำข่าวล่วงหน้าเพื่อเตรียม

ข้อมูลสำหรับการเขียนบท ไปสัมภาษณ์ประชาชนที่โน่นเกี่ยวกับพิธีที่

กำลังจะมีขึ้นค่ะ”

“แล้วจะต้องไปนานเท่าไหร่กันล่ะนี่”

“ก็วางแพลนไว้ไม่เกินเดือนค่ะ คงจะราวสามอาทิตย์ ตอนแรก

ธารต้องไปดูก่อนค่ะว่าจะทำงานให้ออกมาเป็นแบบไหน ธารก็เลยจะไป

ล่วงหน้าสักสองอาทิตย์ค่ะ แล้วทีมงานถึงจะตามไปชูตติงภูมิประเทศ

ก่อนพิธีจะเริ่ม แล้วก็ชูตระหว่างพิธี...ตามนั้นค่ะ”

“นี่จะไปพรุ่งนี้แล้วรึ ทำไมถึงได้ด่วนขนาดนั้น ไม่เห็นบอกแม่

บอกยายมาก่อนสักคำ”

“ธารเพิ่งตัดสินใจเองค่ะ พอดีวีซ่าได้มาหลายวันแล้ว คิดว่าถ้า

อยากจะทำรายการให้ดี ก็ควรจะใช้เวลาหาข้อมูลสักหน่อย ก็เลยตัดสินใจ

ลางานไปก่อนหนึ่งอาทิตย์ล่วงหน้า พอดีหาฟรีแลนซ์มาดูแลงานทางนี้

แทนได้เร็ว ทางแอลเอเห็นด้วย ก็สนับสนุนให้ไปก่อนค่ะโดยไม่ต้อง

ลางาน

 “เร็วจริง แล้วคราวนี้ไปเสียนานเลย” สร้อยสะบันงาบ่น

“แหม ธารเคยไปทำงานนานๆ แบบนี้บ่อยๆ นะคะ”

มือที่เริ่มเหี่ยวย่นจับมือหลานสาวบีบเบาๆ สายตาที่ฝ้าฟางตามวัย

มองใบหน้าของเธอด้วยความรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ ทั้งที่เธอก็พูดถูก

ว่า ไปทำงานแบบนี้บ่อยๆ แต่ครั้งนี้หล่อนกลับรู้สึกใจสั่นหวิวๆ เหมือน

คราวนั้น...วันที่ปทมาศวรรย์ต้องจากไป... หล่อนรีบสะบัดศีรษะ และเถียง

ตัวเองในใจว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ธาดากุสุมากำลังจะไปทำงาน ไม่ใช่

หนีไปเพราะปัญหาใหญ่ในชีวิตเหมือนบุตรสาวสักหน่อย

“ไม่ไปไม่ได้เหรอธาร...” หล่อนลอบกลืนน้ำลาย เสียงแผ่วลง

ด้วยลางสังหรณ์บางอย่าง หญิงสาวที่เติบโตขึ้นในเมืองนอกเมืองนา

กลับหัวเราะ ไม่รับรู้ถึงความไม่สบายใจของหล่อนแม้แต่น้อย

“ธารจะได้ถูกไล่ออกปะไรคะคุณยาย งานดีๆ แบบนี้จะหาที่ไหน

ได้อีก ไปสมัครบริษัทฝรั่งอื่นก็ดูถูกคนท้องถิ่นจะตาย สำนักข่าวเปิดใหม่

แบบนี้แหละค่ะ ให้โอกาสธารมากกว่าพวกดังๆ ระดับโลก ไม่งั้นคงได้แต่

ทำงานอยู่เบื้องหลัง”

ธาดากุสุมาไม่เห็นด้วยกับคำทัดทานของยาย เพราะกว่าจะได้ก้าว

ขึ้นมาทำงานในตำแหน่ง Correspondent๑ ในภูมิภาคเอเชียสักแห่งนั้น

เธอต้องผ่านความผิดหวังมาครั้งแล้วครั้งเล่า พอมีสำนักข่าวในอเมริกา

เปิดขึ้นใหม่ เธอจึงรีบไปสมัครงานเป็น Correspondent ประจำภูมิภาค

ซึ่งก็โชคดีเหลือเกินที่สำนักข่าวจีเอ็นเอ็น (GNN: Global News Network)

ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่เงินหนาเป็นถึงเจ้าของบริษัทเงินทุนในแอลเอ ขยายงาน

อย่างรวดเร็วด้วยการเพิ่มฐานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ

เอเชียใต้ ทั้งยังเปิดสำนักงานในกรุงเทพฯ พอเธอยื่นใบสมัคร ก็ถูกเรียก

สัมภาษณ์ เพราะเป็นคนท้องถิ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม เข้ากับ

คอนเซปต์ของแอลเอที่ต้องการผู้รอบรู้เกี่ยวกับภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง

“แล้วงานใหญ่แบบนี้ ถ้าทำดีๆ ก็จะสร้างชื่อเสียงให้แก่ธารมากกว่า

รายงานข่าวน้ำท่วม ไฟไหม้ ประท้วงอีกนะคะ โอกาสมาถึงมือแล้ว ธารต้อง

รีบคว้าเอาไว้ค่ะ เพราะถือเป็นสกู๊ปรายงานพิเศษหนึ่งชั่วโมงเต็มงานแรก

ของธารเลย ก่อนหน้านั้นทำแค่ชิ้นเล็กๆ เท่านั้นนะคะคุณยายขา...”

ธาดากุสุมามองเห็นความไม่สบายใจของยาย แต่ก็คงเป็นธรรมดา

ของผู้สูงวัยที่ไม่ชอบให้หลานสาวไปตะลอนในดินแดนไม่คุ้นเคยตามลำพัง

เป็นเวลาแรมเดือน แต่เธอคิดว่า ถ้าต้องการจะได้ข้อมูลในเชิงลึกและ

น่าสนใจจริงๆ ผู้บริโภคข่าวมักจะชอบข่าวแบบเจาะลึกมากกว่าแค่ถ่ายทำ

พิธีคัดเลือกพระราชบุตรเขยตั้งแต่ต้นจนจบ อาจจะน่าเบื่อเกินไปสำหรับ

ผู้ชมด้วยซ้ำ ที่ไม่เคยทราบพื้นฐานเกี่ยวกับประเทศนั้นมาก่อน

ยายของเธอเม้มปาก...ก่อนจะพยักหน้า

“ยายเข้าใจ แต่จะไม่ให้ตากล้องติดตามไปอีกสักคนรึ จะได้ทำงาน

ด้วยกัน”

“งานช่วงแรกเป็นการหาข้อมูลค่ะ ตากล้องของธารติดงานที่กัมพูชา

ธารก็เลยตัดสินใจไปก่อน เพื่อรวบรวมข้อมูลล่วงหน้า หรือพูดง่ายๆ

ว่าไปเที่ยวดูสถานที่ เวลาพวกเขาตามไปจะได้เริ่มต้นทำงานเลยค่ะ”

“ถ้างั้น สัญญากับยายได้ไหมว่าจะหมั่นโทร.มาหายาย”

“ได้เลยค่ะ ธารจะโทร.มาให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”

“แล้วนี่แม่ของเรารู้หรือยังว่าลูกจะไปประเทศอะไรเนี่ย...”

ธาดากุสุมาย่นจมูกอีกรอบ

“แม่ไม่สนหรอกค่ะว่าธารจะไปไหน”

เป็นที่รู้กันว่าเธอกับมารดาผู้เป็นหม่อมราชวงศ์และราชนิกุลคนเดียว

ภายในบ้านไม่ค่อยจะลงรอยกันมากนัก เรียกว่าความคิดเห็นไม่ค่อย

ตรงกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร พูดจากันไม่กี่คำก็จะทะเลาะกันตายแล้ว ซึ่ง

เธอรู้ว่าปัญหานั้นมันก่อรากเหง้ามาตั้งแต่เริ่มรู้ความ เมื่อเธอไม่เคยเห็น

บิดามาตั้งแต่เด็ก ทุกคนในบ้านทราบแต่เพียงว่า หลังวิกฤตการณ์ในชีวิต

ของท่านผ่านพ้น ท่านก็กลับบ้านมาพร้อมกับอาการแพ้ท้อง ทว่าไม่เคย

เอ่ยถึงชายผู้นั้นแม้แต่ครั้งเดียว

“แม่สนแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้นแหละค่ะ”

“อะไรกัน ทำไมถึงพูดว่าแม่เราแบบนั้น” สร้อยสะบันงาติง “มีแม่

คนไหนไม่รักลูก ธารก็ควรจะเข้าใจแม่บ้าง ชีวิตของคนเราแต่ละคน ต่าง

ก็มีเหตุผลให้ต้องเลือกเส้นทางของตัวเอง ถึงเวลาธารก็อาจจะต้องเลือก

เส้นทางที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเอง แต่อาจจะไม่ถูกต้องในสายตา

ของคนอื่นก็เป็นได้ ใครจะไปรู้”

“ค่ะคุณยาย” เธอตอบเสียงอ่อย เพราะถูกยายตำหนิมาหลาย

ครั้งแล้วเมื่อเผลอพูดความในใจออกไป ดังนั้น หากอยากจะให้บ้านสงบสุข

เธอก็ควรจะเงียบเสีย และให้เกียรติยอมรับการตัดสินใจของสมาชิกทุกคน

ด้วยความเคารพในสิทธิส่วนบุคคล อย่างเช่นที่ยายของเธอทำมาตลอด

ระยะเวลาหลายสิบปี

“แม่ของธารก็มีเหตุผลของเธอ และที่เธอไม่เคยเอ่ยถึงพ่อของธาร

ก็ต้องมีเหตุ ยายอยากให้ธารคิดเสียว่า ธารได้เติบใหญ่มาในบ้านที่

เต็มไปด้วยความรัก ถึงธารจะไม่มีพ่อ ตากับน้าพฤกษ์ก็มอบความรักให้

ธาร ทดแทนอย่างเต็มที่”

“ธารขอโทษค่ะคุณยาย” เธอยกมือไหว้ รู้สึกเสียใจที่ทำให้ยายต้อง

ผิดหวัง “ต่อไปธารจะไม่พูดเรื่องนี้อีกค่ะ”

“ดีจ้ะ เอาละ ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ขึ้นไปกินข้าวกินปลากันดีกว่า เดี๋ยว

จะต้องเก็บเสื้อผ้าข้าวของอีก” สร้อยสะบันงากระตุ้นหลานสาว

“ไม่มีของอะไรต้องเก็บมากหรอกค่ะคุณยาย พวกเสื้อผ้าสำหรับ

ถ่ายทำในพิธีแค่สูทชุดเดียว”

“โอ๊ย น่าปวดหัวจริงๆ ทำตัวซะแบบนี้ เมื่อไหร่จะมีผู้ชายสนใจ

หลานยายล่ะนี่ ทำตัวอย่างกะทอมบอย ออกทีวงทีวีก็ไม่รู้จักแต่งหน้า

แต่งตาให้สวยๆ”

“แหม ยายงามจ๋า สมัยนี้ผู้สื่อข่าวภาคสนามจะต้องลุยๆ สิจ๊ะ

ถึงจะสมจริง ขืนไปทำข่าวน้ำท่วม ใส่สูทกับรองเท้าส้นสูง คนจะได้หัวเราะ

ตาย นอกจากจะทำข่าวในเมือง ในงานพิธี ธารก็แต่งตัวสวยๆ ได้เหมือน

กัน” เธอบอกด้วยความมั่นใจ หลังจากมีประสบการณ์ทำงานในสายงานนี้

มาหลายปี ก็รู้วิธีดูแลตัวเองให้สวยงาม รู้จักปรับตัวเข้ากับสถานการณ์

ได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสม

“เอาเถอะจ้ะ มัวแต่ทำงานแบบนี้ ยังไงก็ไม่มีเวลาสนใจเรื่องฟง

เรื่องแฟนอย่างใครเขาหรอก ยายทำใจมานานแล้วละว่าชาตินี้หนูจะ

ไม่แต่งงาน ยายก็ไม่แปลกใจหรอก”

เธอรู้ว่ายายพูดประชดเข้าให้ และไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอ จึงหัวเราะ

กลบเกลื่อนเสีย แล้วจูงยายเดินกลับขึ้นบ้านอย่างอารมณ์ดี

 

ค่ำคืนนั้นธาดากุสุมาตรวจเช็กเอกสารการเดินทาง ทางการออก

วีซ่าให้อย่างรวดเร็วเมื่อทราบว่าเธอเป็นนักข่าวที่จะเดินทางไปทำข่าวพิธี

มงคลของเจ้าหญิงลารันยา พิธีที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการยาวเหยียด

แต่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า ‘ภราห์มคานนา’ ในภาษาสันสกฤต แปลง่ายๆ ว่า

‘พระพรหมเสี่ยงทาย’ เธอรู้โดยไม่ต้องเสียเวลาคาดเดาว่า คงจะหมายถึง

การเสี่ยงทายเลือกราชบุตรเขย โดยในพิธีกรรมจะต้องเกี่ยวข้องกับเทพ

ผู้เป็นที่เคารพสูงสุดของประเทศ

เอกสารอื่นที่เธอต้องเตรียมไป คือหนังสือคู่มือท่องเที่ยวที่ซื้อมาได้

จากร้าน เป็นข้อมูลทั่วไปของประเทศ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และสถานที่

ท่องเที่ยว เนื่องจากความไม่สะดวกสบายในการคมนาคมเพราะประเทศ

                         (ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

สายใยก่อเกิดสายสัมพันธ์ แต่ก็นำมาซึ่งปริศนาสายเลือด 
‘ธาดากุสุมา’ นักข่าวสาวของสำนักข่าวใหญ่ระดับโลก เดินทางไปทำข่าวพิธีคัดเลือกพระราชบุตรที่ประเทศเล็กๆ ชื่อ “ภราห์มปุระ” ที่นั่นเธอได้เห็นความขัดแย้งทางการเมืองและเป็นจักษุพยานในเหตุฆาตกรรมโดยบังเอิญ ทำให้ถูกกลุ่มคนร้ายตามล่าตัว โดยมี “รวิษณุ” นายตำรวจหนุ่มก้าวเข้ามาเป็นผู้คุ้มครอง เขาดูแลเธอเทียบเท่าดูแลชีวิตตนเองและตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัวทั้งที่มีภาระของประเทศรอคอยอยู่ข้างหน้า ส่วนรักแรกของ “ธาดากุสุมา” ก็คงเป็นได้แค่ฝัน เพราะเขากำลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งพระราชบุตรเขย แต่เมล็ดกล้าแห่งรัก เมื่อหว่านลงไปในใจแล้ว...ก็ยากที่จะไม่เติบโตงอกงาม

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024