หนังสือชุด หอมลมหวน : เล่ห์ลมหวน (ลลิลแก้ว)

หนังสือชุด หอมลมหวน : เล่ห์ลมหวน (ลลิลแก้ว)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160012923
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 180.00 บาท 45.00 บาท
ประหยัด: 135.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ร่างบางที่นอนหลับนิ่งสนิทอยู่บนเตียงเริ่มขยับปลายนิ้วเบาๆ

สายระโยงระยางจากอุปกรณ์ช่วยชีวิตรอบเตียงนั้นทำให้ห้องพักพิเศษดูรก

ไปถนัดตา ผ้าพันแผลรอบศีรษะและอุปกรณ์ช่วยหายใจบดบังจนมอง

ไม่เห็นใบหน้าของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายที่เริ่มได้สติ

เปลือกตาอันหนักอึ้งพยายามเปิดขึ้นอย่างยากเย็นหลังจากเริ่มรู้สึก

ตัวได้สักพัก กลิ่นฉุนของน้ำยาฆ่าเชื้อโรคลอยมากระทบจมูกจนรู้สึก

เวียนหัว หญิงสาวหายใจเข้าปอดลึก พยายามปรับสายตาให้คุ้นชินกับ

แสงสว่างที่สาดลงมาจากไฟบนเพดานห้อง ศีรษะปวดหนึบจนไม่สามารถหัน

ขยับไปทางใดได้ แม้แต่ดวงตาก็เปิดได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

เพียงแค่เริ่มนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความเจ็บแปลบก็แล่นขึ้นมา

ทันทีจนต้องครางออกมาผ่านริมฝีปากซีดไร้สีเลือด

เสียงจากเครื่องวัดชีพจรดังถี่กว่าปกติเพียงเล็กน้อย แต่ก็มากพอ

จะดึงความสนใจของคนอีกคนที่อยู่ในห้องได้...ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นจากโซฟา

เฝ้าไข้ผู้ป่วย วางงานที่กำลังอ่านอยู่ในมือลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาหยุดที่

ข้างเตียงคนไข้ เมื่อเห็นดวงตาหวานปรือขึ้นจนเห็นนัยน์ตาสีดำขลับ

ริมฝีปากได้รูปของเขาก็คลี่ยิ้มออกมาบางๆ

“คุณฟื้นแล้ว” เสียงทุ้มดังแว่วที่ข้างเตียง คนป่วยได้แต่กลอกตามอง

หาต้นเสียง แต่ภาพตรงหน้ายังไม่ชัดเจนนัก เธอเห็นแค่ร่างเลือนๆ ของ

ชายหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวสะอาดเท่านั้น หญิงสาวอยากจะเอ่ยถามบุคคล

ตรงหน้าหลายเรื่อง แต่สมองไม่สามารถเรียบเรียงคำพูดเป็นประโยคได้

จึงได้แต่นอนนิ่ง กะพริบตาปริบๆ เป็นการตอบรับ

ปลายนิ้วเรียวยาวสัมผัสที่เปลือกตาของเธออย่างแผ่วเบา คุณหมอ

หนุ่มหยิบไฟฉายมาส่องที่ดวงตาของเธอเพื่อตรวจเช็กอาการ หลังจากนั้น

ก็หันไปเช็กเครื่องวัดความดันและชีพจร ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำ มาเทลงแก้ว

ใส่หลอดเรียบร้อยแล้วเดินกลับมาที่ข้างเตียงอีกครั้ง เมื่อปลายหลอดมาจ่อ

ที่ริมฝีปาก หญิงสาวก็รีบดื่มน้ำเพื่อดับกระหายจนเริ่มรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง

“กะ...เกิดอะไร...ขึ้น” คนป่วยค่อยๆ เรียบเรียงคำถามออกมาเป็น

คำๆ เท่าที่สมองจะคิดออกด้วยเสียงแผ่วเบาแหบแห้ง

“คุณประสบอุบัติเหตุ” เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของคนฟังก็ปรากฏ

แววตกใจขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนจะพยายามถามต่อ

“ที่นี่...ที่ไหน”

“โรงพยาบาล” เขาสังเกตเห็นริมฝีปากเธอเผยอขึ้น คล้ายกำลังจะพูด

อะไรสักอย่าง แต่ก็ติดขัด สุดท้ายก็ถามออกมาเป็นคำๆ เช่นเดิม

“ฉัน...ใคร?” คำถามนั้นเบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ ราวกับไม่เชื่อ

ว่าตนเองจะจำไม่ได้ แต่ฝ่ายคุณหมอหนุ่มกลับไม่มีท่าทีประหลาดใจเลย

สักนิด เพราะอาการของเธอตรงตามข้อสันนิษฐานทุกอย่าง

“คุณชื่อญาลิน ส่วนผมชื่อกฤณภพ เป็นหมอ” ชายหนุ่มตอบสั้นๆ

เพื่อให้ผู้รับสารเข้าใจได้ง่ายขึ้น

“แล้ว...”

“ชู่ ตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วเราค่อยคุยกัน ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไร อย่า

เพิ่งสงสัย เดี๋ยวจะปวดหัวเปล่าๆ” นายแพทย์หนุ่มพูดเสียงทุ้มนุ่มเพื่อ

ปลอบโยนคนไข้ที่เริ่มเสียขวัญ

“ฉัน...แล้ว...มีใครอีก”

“อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ คุณต้องพักผ่อนให้มากๆ เข้าใจไหม อาการ

ของคุณดีขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่นานก็หาย ไม่ต้องกังวล” คุณหมอหนุ่มใจดีเอ่ย

อีกครั้ง มือใหญ่กุมมือเล็กเย็นเฉียบไว้ข้างหนึ่งก่อนจะคลึงเบาๆ ราวกับ

เป็นการปลอบประโลม ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาอย่างน่าประหลาดจนจิตใจ

ที่ไม่เป็นสุขของคนป่วยสงบลงอีกครั้ง

“นอนเสีย ผมจะกลับมาอีกครั้งตอนคุณตื่น” กฤณภพทำท่าจะปล่อย

มือ แต่ท่ามกลางความมึนงงที่กำลังเผชิญอยู่ หญิงสาวรู้สึกได้โดย

สัญชาตญาณว่าเธอต้องการให้เขาอยู่ด้วยในเวลานี้ มือเล็กขยับเบาๆ ด้วย

เรี่ยวแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่เพื่อรั้งชายหนุ่มเอาไว้

“ไม่ต้องกลัวนะ ปกติจะมีพยาบาลสองคนเฝ้าคุณตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

เวลาผมไม่อยู่” หมอหนุ่มตอบโดยสังเกตจากเครื่องวัดชีพจรที่ส่งสัญญาณ

ถี่ขึ้นอีกครั้งเมื่อตนทำท่าจะปล่อยมือ รวมถึงแววตาอ้อนวอนคู่นั้น

“คุณต้องพักผ่อน ทำใจให้สบาย ตื่นขึ้นมาแล้วผมจะตอบทุกคำถาม

ผมสัญญา” เสียงนั้นค่อยๆ ไกลห่างออกไปในความรู้สึกของหญิงสาว

สติสัมปชัญญะของเธอเริ่มขาดหายเป็นห้วงๆ คงเพราะร่างกายต้องการ

การพักผ่อน เธอเห็นใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้ ก่อนที่ริมฝีปากจะประทับลง

ตรงระหว่างคิ้วใต้ผ้าพันแผล กลิ่นหอมอ่อนๆ ของโคโลญจากตัวเขาทำให้

เรียวปากซีดเซียวของคนป่วยคลี่ยิ้มบางๆ แล้วสติทั้งหมดก็ดับวูบลงอีกครั้ง

 

สามสัปดาห์หลังจากหญิงสาวรู้สึกตัว เธอตื่นขึ้นมาแบบสะลึมสะลือ

อยู่หลายรอบ แรกๆ ก็ทำได้แค่ดื่มน้ำ และสักพักก็จะรู้สึกง่วงและหลับไป

แต่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาอาการของเธอดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งเช้า

วันนี้ที่อาการมึนงง เวียนหัว คลื่นไส้อาเจียนเวลาตื่นหายเป็นปลิดทิ้ง ใบหน้า

สดชื่นและเริ่มกลับมามีสีเลือดอีกครั้ง

จนถึงตอนนี้หญิงสาวรู้เพียงแค่ว่า ตนนอนพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล

เอกชนแห่งหนึ่ง เธอยังไม่สามารถจดจำเรื่องราวในอดีตได้...พ่อแม่ของเธอ

อยู่ที่ไหน แล้วเกิดอุบัติเหตุกับเธอได้อย่างไร และยิ่งไปกว่านั้น หญิงสาว

คงไม่อาจรู้ชื่อของตนเองถ้านายแพทย์หนุ่มคนนั้นไม่ได้บอกเอาไว้

มีหลายอย่างที่เธอต้องการคำตอบ แต่พอถามพยาบาล คนถูกถามก็ตอบเพียงว่าไม่รู้

หลังจากตื่นได้ไม่นาน ประตูห้องก็ถูกเปิดออกก่อนที่ร่างสูงของ

นายแพทย์ประจำตัวของเธอจะเดินเข้ามา ตั้งแต่วันนั้นที่เธอตื่นขึ้นมาครั้ง

แรก เธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยจนกระทั่งวันนี้

“ตื่นเช้าแบบนี้ เมื่อคืนนอนหลับสบายหรือเปล่า” น้ำเสียงเป็นกันเอง

เกินกว่าที่คนเป็นหมอจะพูดกับคนไข้ทำให้หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง

ขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย ความคิดต่างๆ เริ่มแล่นเข้ามาในสมอง

หลังจากระบบการคิดหยุดทำงานมานาน มีคำถามมากมายจนไม่รู้จะถามอะไร

ก่อน แม้ศีรษะจะเริ่มปวดหนึบทันทีที่เริ่มคิด แต่เธอก็พยายามฝืนเอาไว้

กฤณภพสำรวจร่างของคนตัวเล็ก หน้าของคนป่วยดูมีสีเลือดขึ้นกว่า

หลายวันก่อน เขายอมรับว่าญาลินมีรูปร่างหน้าตาและบุคลิกที่สามารถ

กระตุกหัวใจของผู้ชายส่วนใหญ่ได้ไม่ยาก เรือนผมหยักศกสีน้ำตาลเข้มยาว

สลวยรับกับใบหน้าเรียวหวาน ดวงตากลมโตสีดำสนิทประดับด้วยแพขนตา

งอนมีเสน่ห์ชวนหลงใหล ริมฝีปากแดงจิ้มลิ้ม และปลายจมูกเชิดรั้นประกอบ

เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้เธอดูอ่อนหวานแต่ก็รั้นอยู่ในที

“ยินดีที่ได้พบกันอย่างเป็นทางการครับ ผมมาหาคุณทุกวัน แต่คุณ

ก็หลับๆ ตื่นๆ ตลอด คงเพราะผลข้างเคียงของยา” คุณหมอหนุ่มตอบคนไข้

ราวกับอ่านใจออก เขากดปุ่มให้เตียงตั้งขึ้นเล็กน้อย แล้วจึงค่อยๆ ประคอง

ร่างบางให้ลุกขึ้นนั่งพิงหมอน

“ยังเบลอ คิดอะไรไม่ออก หรือคลื่นไส้อยู่หรือเปล่า” ปลายนิ้วอุ่นจัด

ของเขาไล้เบาๆ ที่ข้างแก้มเนียน คนตัวเล็กรีบเบือนหน้าหนีโดยอัตโนมัติ

เริ่มไม่ค่อยชอบที่คุณหมอคนนี้แสดงท่าทีสนิทสนมกับเธอเกินเหตุ

“ถ้าไม่มี ผมจะลองให้คุณทานอาหารอ่อนๆ เพราะที่ผ่านมาผมใช้วิธี

ให้อาหารคุณผ่านทางเส้นเลือด” เมื่อยังไม่มีเสียงตอบกลับจากคู่สนทนาเขาจึงแกล้งขู่

“หรืออยากให้ผมเจาะให้อาหารแบบนั้นใหม่ก็ได้นะ”

“ไม่มีแล้วค่ะ” หญิงสาวตอบทันทีหลังจากนึกภาพเข็มปลายแหลม

“กว่าจะยอมพูด ต้องให้ผมแกล้งขู่อยู่เรื่อย” กฤณภพกระตุกยิ้มที่

มุมปากคล้ายจะหัวเราะออกมา ทำให้หญิงสาวที่มองอยู่เริ่มหมั่นไส้

“คุณหมอบอกว่าฉันชื่อญาลินใช่ไหมคะ”

“นึกว่าตอนนั้นคุณกึ่งหลับกึ่งตื่นจนจำที่ผมพูดไม่ได้ซะอีก” คิ้วเข้ม

เลิกขึ้นเป็นเชิงประหลาดใจ และในตอนนี้เองที่ญาลินเพิ่งได้สังเกตใบหน้า

ของเขาชัดๆ เป็นครั้งแรก

คุณหมอคนนี้รูปร่างสูงเอาการ ทั้งหุ่นและหน้าตาจัดได้ว่าดูดีจนถึง

ดูดีมากเหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากปกนิตยสารชื่อดังสักเล่ม ผิวพรรณของ

เขาค่อนไปทางขาว คิ้วเข้มรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูปมีสีเลือด

อย่างคนสุขภาพดี ปลายคางบึกบึนเหมือนรูปสลักยิ่งทำให้โครงหน้านั้นดู

เคร่งขรึมมากขึ้น ส่วนจุดที่เธอมองอยู่นานคงเป็นดวงตาคมสีเข้มจัดคู่นั้น ที่

มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างประหลาด

“มองหน้าผมแล้วทำตาเคลิ้ม หมายความว่ายังไงครับคุณผู้หญิง”

เสียงหยอกเย้าของเขาปลุกให้เธอตื่นจากภวังค์ความคิด คนถูก ‘สำรวจ’ ทำ

สีหน้าและดวงตาที่ฉายแววขบขัน เรียกสีเลือดฝาดจากแก้มเนียนของ

หญิงสาวให้กลายเป็นสีแดงก่ำ คุณหมอหนุ่มยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวสะอาด

ที่เรียงกันเป็นระเบียบ ส่งผลให้ญาลินก้มหน้างุดด้วยความอายเมื่อถูกเขา

จับได้ แล้วเสมองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาเขา

“เกิดอะไรขึ้นกับฉันคะ คุณหมอ” ไม่นานหลังจากความเงียบเข้า

ปกคลุมบรรยากาศทั้งห้องพักพิเศษ คนป่วยก็กลั้นใจถามคำถามแรกออก

ไป ชายหนุ่มละสายตาจากชาร์ตตรวจคนไข้ชั่วขณะ แล้วมองดวงตาคู่หวาน

ที่ฉายแววสับสนกังวล เขาถอนหายใจเบาๆ สีหน้าที่แสดงอารมณ์ดีเมื่อครู่

ค่อยๆ เลือนหายไป

“คุณประสบอุบัติเหตุ สมองได้รับการกระทบกระเทือน โชคดีที่ไม่มี

เลือดคั่งในสมอง แต่ก็มากพอที่จะทำให้สูญเสียความทรงจำ” นายแพทย์

หนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ

“ความจำเสื่อม?” เสียงหวานทวนอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ความกลัวเริ่ม

จู่โจมในจิตใจ วิตกไปสารพัด

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”

“หมายความว่าฉันจะจำอดีตไม่ได้อีกแล้วหรือคะ” ใบหน้าของ

หญิงสาวเปลี่ยนเป็นซีดเซียวด้วยความตกใจ

“อาจจะจำได้แต่ต้องใช้เวลาหน่อย คุณไม่ต้องกังวล การสูญเสีย

ความทรงจำจะไม่ถาวร ที่คุณยังจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ตอนนี้เพราะเซลล์

บางส่วนถูกทำลายไป ต้องใช้เวลาสักพักในการซ่อมแซมให้เหมือนเดิม”

คุณหมออธิบายยาว โดยพยายามแปลงศัพท์ทางการแพทย์ให้เข้าใจง่ายที่สุด

แต่เมื่อดูจากสีหน้าของคนตัวเล็ก เธอกำลังเครียดจัดกับคำว่า ‘ความจำเสื่อม’

จนไม่พร้อมจะฟังอะไรทั้งนั้น

ชายหนุ่มมองหากล่องกระดาษทิชชูทันที เพราะเป็นเรื่องปกติที่

ช่วงแรกๆ หลังจากได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง อารมณ์ของคนไข้

จะขึ้นๆ ลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ เขามั่นใจว่าอีกไม่ถึงนาทีต้องมีการหลั่งน้ำตา

เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“คุณหมอคะ แล้ว...แล้วครอบครัวของฉันไปไหนคะ ทำไมพวกเขา

ไม่มาเยี่ยม” เมื่อเจอคำถามนี้ คนถูกถามถึงกับชะงักไปชั่วครู่ ลังเลว่าควร

พูดดีหรือไม่ จนเมื่อทนการรบเร้าของหญิงสาวไม่ไหวจึงยอมเล่าในที่สุด

“ลิน พ่อแม่ของคุณเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน ส่วนพี่สาวคนเดียว

ก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุคราวนี้ พวกคุณรถคว่ำ แต่โชคดีที่คุณมาถึง

โรงพยาบาลทันเวลา” กฤณภพตอบเสียงแผ่ว

“แล้ว...นอกจากครอบครัว ญาติ เพื่อน คนรู้จักล่ะคะ”

ชายหนุ่มส่ายหน้าเป็นคำตอบ

“เรื่องนั้นยาว ไว้ผมจะเล่าให้ฟังวันหลัง ตอนนี้คุณรับไม่ไหวหรอก”

เขาเห็นริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตาที่เหม่อลอยเต็มไปด้วยความกังวล

ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งจนอึดอัด

 “ทำไม...ทำไมคุณหมอไม่ปล่อยให้ฉันตายไปเลยคะ อยู่แบบไม่เหลือ

ใครอย่างนี้ จะอยู่ไปทำไม” แล้วก็เป็นอย่างที่คุณหมอคาดไว้ เมื่อความร้อน

ผ่าวแล่นขึ้นมาที่ดวงตากลม แพขนตางอนเริ่มชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา ไม่นาน

นักก็กลั่นออกมาเป็นหยดไหลอาบสองข้างแก้ม

“ชู่ ไม่เอานะ ไม่ร้อง” กฤณภพปลอบพร้อมหยิบกระดาษทิชชูมา

ซับน้ำตาให้ ร่างสูงยืนเก้ๆ กังๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อเห็นคนป่วยปล่อยโฮ

ออกมาไม่ยั้ง ได้แต่พูดปลอบให้กำลังใจต่างๆ นานา จนหญิงสาวเริ่มตั้งสติ

ได้ เธอถามต่อ

“นี่ฉันหลับไปนานเท่าไหร่คะ”

“เดือนกว่าๆ แต่หลังจากนี้คุณต้องพักฟื้นอีกสักระยะแล้วก็ทำ

กายภาพบำบัด เพราะกล้ามเนื้อขาไม่ได้ใช้งานนาน ยังเดินไม่ได้”

เมื่อได้ยินคำตอบ คนฟังก็เบิกตากว้าง ในเมื่อตอนนี้เธอไม่มีครอบครัว

ไม่มีญาติ แล้วเธอจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด

“ฉันอายุเท่าไหร่ แล้วทำอาชีพอะไรคะ”

“คุณอายุยี่สิบเก้า ถามเรื่องอาชีพเพราะห่วงเรื่องค่ารักษาละสิ ไม่ต้อง

กังวลหรอก” นายแพทย์หนุ่มลูบศีรษะของเธอแผ่วเบา ใบหน้าคมยิ้มอย่าง

ใจดี เป็นอีกครั้งที่ญาลินเริ่มตงิดใจกับการแสดงออกของคุณหมอเจ้าของไข้

เธอรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล

ตั้งแต่วันนั้นที่ตื่นมาวันแรก เธอไม่ได้ฝันไป...เขาก้มลงมาจูบที่

                           (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

"เล่ห์ลมหวน"

...เมื่อคำตอบของความสงสัย ส่งผลให้เธอแทบช็อก แล้วเธอจะทำอย่างไร ? ในเมื่อหัวใจมีทั้งความรัก และความโกรธเคืองเขา...

แล้วเรื่องราวจะดำเนินต่อไป และมีบทสรุปอย่างไร !? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาติดตามร่วมกันในนิยายโรแมนติก "หนังสือชุด หอมลมหวน : เล่ห์ลมหวน" เล่มนี้

เขียนโดย "ลลิลแก้ว"

 

280 หน้า


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024