หนังสือชุด LOVE SECRET : เลื่อมลายรุ้ง (เก้าแต้ม)

หนังสือชุด LOVE SECRET : เลื่อมลายรุ้ง (เก้าแต้ม)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160012770
ผู้แต่ง: เก้าแต้ม
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 240.00 บาท 60.00 บาท
ประหยัด: 180.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

                                         เครื่องบินตก

 

ความรู้สึกแรกที่ผุดขึ้นมาคือเจ็บศีรษะ ก่อนจะร้าวไปทั่วขมับ

กรามข้างขวาปวดจนชา ลายรุ้งลืมตาขึ้น นิ่วหน้า มองความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

รอบตัว เสียงร้องขอความช่วยเหลือ เสียงร้องไห้ของผู้โดยสารดังระงมไป

ทั่วทั้งลำ หญิงสาวพยายามลุกขึ้นจากที่นั่งที่คะมำไปข้างหน้า แต่ติดเข็มขัด

นิรภัยจึงต้องค่อยๆ ปลดออก หล่อนเจ็บหน้าผากและมีเลือดซึมออกมา

จึงหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าสะพายกดห้ามเลือดไว้

คู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่นกำลังปีนออกจากตัวเครื่องอย่างทุลักทุเล

ลายรุ้งกวาดตามองความวุ่นวาย ก่อนจะพบว่าที่แท้จริงแล้วเสียงกึกก้อง

ที่ได้ยินมาจากอะไร

เครื่องบินที่หล่อนโดยสารมาตก!

เครื่องบินของสายการบินกินรีแอร์ไลน์เที่ยวบิน KK444 มุ่งหน้าสู่

ประเทศฟิลิปปินส์บัดนี้มีสภาพยับเยิน ผนังเครื่องบางส่วนฉีกขาดและทะลุ

เป็นรูกว้าง หักครึ่ง มีเพลิงไหม้ที่บางส่วนของลำ เก้าอี้โดยสารหลุดออกจาก

ตัวเครื่อง ผู้โดยสารหลายคนบาดเจ็บ ส่วนคนที่ปลอดภัยก็ถูกพนักงาน

ต้อนรับบนเครื่องพาไปยังทางออกฉุกเฉิน หญิงสาวยืนงงอยู่พักใหญ่ จน

กระทั่งรู้สึกถึงมือเย็นๆ แตะท่อนแขน

“คุณคะ เป็นยังไงบ้าง เดินไหวไหมคะ”

ลายรุ้งพยักหน้า ส่วนที่เจ็บที่สุดตอนนี้คือศีรษะ ตอนที่เครื่องบิน

กระแทกพื้น ศีรษะคงกระแทกเบาะนั่งที่อยู่ข้างหน้า

“ไหวค่ะ”

“ตามดิฉันมาทางนี้นะคะ”

ลายรุ้งมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ สภาพของเครื่องบินตอนนี้

หาเค้าเดิมแทบไม่ได้ เหมือนเศษเหล็กแยกชิ้นส่วน บนลานกว้างเต็มไปด้วย

ข้าวของกระจัดกระจาย ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตกระเด็นไปคนละทิศละทาง

ที่ยังมีสติอยู่ก็ร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา ลายรุ้งปิดปาก ข่มความ

กลัวที่แล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ ความรู้สึกเหมือนเพิ่งรอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราชมา

อย่างหวุดหวิดทำให้กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

“อย่ามองเลยค่ะ น่ากลัว คุณไปนั่งทางนู้นก่อนนะคะ ไว้คุณหมอว่าง

แล้วฉันจะให้มาดูแผลที่ศีรษะให้”

รอบกายหล่อนเต็มไปด้วยผู้เสียชีวิตและเศษชิ้นส่วนมนุษย์จนต้องหลับตาลง

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”

ลายรุ้งจับมืออีกฝ่ายและรู้สึกถึงความเย็นยะเยือก บริเวณนี้ลมแรง

มองไปทางไหนก็เห็นแต่ทะเลเวิ้งว้าง เครื่องบินอาจตกลงบนเกาะร้างที่ไหนสักแห่ง

“แต่คุณมีแผลที่ศีรษะนะคะ”

 “ฉันไม่เป็นไรจริงๆ ให้คุณหมอดูแลคนที่อาการหนักกว่าเถอะค่ะ”

หญิงสาวมองไปสุดสายตา

คนเจ็บส่วนหนึ่งถูกพาไปนั่งที่ชะง่อนหินซึ่งกว้างและยาวพอให้คนนับ

สิบคนเข้ามาหลบพายุได้ สายฝนยังโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง บางครั้ง

ก็โหมหนัก โดยรอบมีแต่เสียงฟ้าร้องน่าสะพรึงกลัว นายแพทย์คนหนึ่งกำลัง

วิ่งวุ่นกับการดูแลคนป่วยโดยมีผู้โดยสารที่บาดเจ็บไม่มากเป็นลูกมือ หล่อน

จำชื่อหมอคนนั้นได้ เขาชื่อนายแพทย์พุฒิภัทร

ลายรุ้งรู้ดีว่าอาการของหล่อนก็แค่ฟกช้ำ แก้มข้างหนึ่งชาและบวม

ข้อศอกเคล็ดเล็กน้อย แต่สำหรับคนอื่น...บ้างก็แขนหัก ขาหัก หลายคน

ได้แผล เลือดไหลออกมา

“แน่ใจนะคะว่าไหว” แอร์โฮสเตสถามย้ำ

“ค่ะ”

“งั้นไปนั่งตรงก้อนหินนั้นก่อน แล้วดิฉันจะไปดูแลผู้โดยสารคนอื่น”

พนักงานต้อนรับบนเครื่องพาลายรุ้งไปยังชะง่อนหินซึ่งมีคนเจ็บนอนเรียงราย

อยู่เป็นจำนวนมาก

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ลายรุ้งกลัว อีกทั้งยังต้องพยายามกลั้น

น้ำตา กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งผสมกับกลิ่นไหม้ทำให้แทบจะเป็นลมเสียให้

ได้ หญิงสาวนั่งลงบนก้อนหินแทนการทรงตัว เลือดจากแผลที่ศีรษะหยุด

ไหลแล้ว หล่อนกวาดตามองไปรอบๆ อย่างตื่นตระหนก นอกจากมีคนตาย

แล้ว ยังมีคนเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก หล่อนไม่รู้ว่าหน่วยกู้ภัยจะเดินทางมา

ถึงเมื่อไร ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ปีหนึ่งๆ เผชิญกับพายุนับครั้งไม่ถ้วน

อีกทั้งเกาะแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยหินโสโครกทำให้การกู้ภัยทำได้ยากยิ่ง

ขณะที่มองไปรอบๆ นั้นเอง จู่ๆ สายตาก็ปะทะกับชายคนหนึ่ง เขา

นอนอยู่ใกล้กับชะง่อนหินที่หล่อนนั่งอยู่ รอบตัวมีผู้บาดเจ็บคนอื่นๆ ที่นาย

แพทย์หนุ่มปฐมพยาบาลเสร็จแล้วพามานอนเรียงกัน ศีรษะซึ่งปกคลุมด้วย

เส้นผมสีดำสนิทมีแผลแตกยาว ผ้าก๊อซที่พันไว้เปียกชุ่มไปด้วยเลือด เห็น

เพียงแวบเดียว หัวใจของหญิงสาวก็เหมือนร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม น้ำตาที่

แห้งเหือดรื้นขึ้นมาอีกครั้ง ลายรุ้งลุกขึ้น เดินเข้าไปหาราวกับละเมอ

หญิงสาวคุกเข่าลงกับพื้น ลำคอแห้งผาก สภาพของเขายามนี้ต่างจาก

เมื่อหลายชั่วโมงก่อนราวกลับหน้ามือเป็นหลังมือ ใบหน้าคมสันซีดเผือด

ราวกับไร้เลือด นัยน์ตาสีสนิมที่เคยมองหล่อนด้วยความรักบัดนี้ปิดสนิท

มีเพียงลมหายใจอุ่นที่บ่งบอกว่าร่างนี้ยังมีชีวิต

“คุณรู้จักผู้ชายคนนี้หรือคะ” ผู้ประสบภัยข้างๆ ถาม

“ใช่ค่ะ เขาเป็นเพื่อนฉันเอง ตะ...แต่ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเขามากับเครื่อง-

บินลำนี้ด้วย”

ลายรุ้งนึกไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวนี้ด้วย เขาคิดจะ

ใช้โอกาสนี้ปรับความเข้าใจ แต่หล่อนช่างโง่เหลือเกินที่ตัดรอนด้วยถ้อยคำ

โหดร้าย น้ำตาไหลทะลักเมื่อคิดว่าเขากำลังจะตาย

“เขานั่งอยู่ใกล้กับปีกเครื่องบินพอดี โชคดีนะครับที่ไม่ดีดออกจากเครื่อง”

คุณหมอเดินเข้ามาพอดี เขามีใบหน้าหล่อเหลาและสวมแว่นตา

ลายรุ้งนั่งลงและกุมมือต้นน้ำเอาไว้ ตาพร่าเลือน แล้วน้ำตาก็หยดลงบนหลังมือ

“เขาเป็นอะไรมากไหมคะหมอ”

“ผมคิดว่าศีรษะคงกระแทกเลยหมดสติ คงต้องรอดูอาการอีกสักพัก ช่วงนี้อะไรๆ ก็ยังไว้ใจไม่ได้ ถ้าโชคดีไม่มีเลือดออกในสมองก็คงไม่เป็นไร”

“แล้วถ้ามีล่ะคะ”

“ก็คงต้องทำใจครับ ผมไม่แน่ใจว่าหน่วยกู้ภัยจะมาถึงเมื่อไหร่ ยิ่งมี

พายุอย่างนี้ด้วย ถ้าเป็นจริงเราคงทำได้แค่อธิษฐาน”

คนตรงหน้าอาจตายหรือไม่ก็กลายเป็นคนพิการชั่วชีวิต...แค่คิดน้ำตา

ก็ไหลทะลักออกมาอีก หล่อนแค่พูดประชดเพื่อไล่เขาไปจากชีวิต แต่พอเห็น

อีกฝ่ายบาดเจ็บ หัวใจก็พลันจะขาดรอนเสียให้ได้

“ไม่จริงใช่ไหมคะหมอ” หญิงสาวใช้มือปิดปากกลั้นสะอื้น

 คุณหมอตบบ่าเบาๆ “อย่าเพิ่งกังวลไปก่อนเลยครับ เราต้องมอง

ในแง่ดี แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไป คงทำได้แค่นั้น”

คุณหมอเดินไปดูคนไข้คนอื่น ลายรุ้งกุมมือคนเจ็บเอาไว้ หล่อน

ทำอะไรไม่ได้นอกจากภาวนา หญิงสาวดึงชายหนุ่มมากอด พึมพำข้างหู

แม้ว่าเขาจะไม่มีโอกาสรับรู้เลยก็ตาม

“คุณต้องสู้นะคะ ต้องสู้ ฉันรักคุณ”

 

ฝนหยุดตกไปพักใหญ่แล้ว คืนนี้เป็นคืนที่สองนับตั้งแต่เครื่องบินตก

ลายรุ้งช่วยพาคนเจ็บขึ้นจากหาดไปนอนเรียงกันใต้ชะง่อนหินให้คุณหมอ

ดูแล ส่วนคนที่บาดเจ็บไม่มากอย่างหล่อนต้องเสียสละนั่งตากฝน พายุที่

กระหน่ำเข้าบริเวณเกาะทำให้ฝนตกๆ หยุดๆ เกือบทั้งวัน หญิงสาวพยายาม

กลั้นน้ำตาและหาอะไรทำไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่าน ไม่เช่นนั้นอาจเป็นหนึ่ง

ในผู้โดยสารที่จะกระโดดลงทะเลไปเพราะความเครียดก็เป็นได้

หล่อนช่วยคุณหมอดูแลคนป่วย ขณะเดียวกันก็ดูแลต้นน้ำด้วย

เช่นกัน ทุกคนต่างอยู่ในภาวะตื่นตระหนก ท้อแท้ หิวโหย ไม่มีทั้งอาหาร

และน้ำตกถึงท้อง ตลอดสองคืนที่ติดอยู่บนเกาะ ลายรุ้งเดินไปเดินมาราวกับ

หุ่นยนต์ พยายามช่วยเท่าที่ช่วยได้ พอเหนื่อยก็ย้อนกลับมานั่งข้างชายหนุ่ม

อีก เขายังนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว หลายครั้งที่เพ้อเป็นประโยคยาวๆ แต่ลายรุ้ง

ฟังไม่เข้าใจ ผิวกายเริ่มรุมๆ ด้วยพิษไข้ หล่อนได้แต่กุมมือไว้อ้อนวอนขอ

ให้ฟื้น แต่คำภาวนาดูเหมือนจะไร้ผล รอบบริเวณเต็มไปด้วยความวุ่นวาย

พวกผู้ชายต่างเป็นลูกมือช่วยชายผิวคล้ำสวมกางเกงลายพรางจุดไฟขึ้นสาม

กอง ลายรุ้งจึงขอร้องให้ชายคนหนึ่งช่วยพยุงคนเจ็บไปนอนตรงนั้นเนื่องจาก

ไม่ต้องการได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของคนอื่นๆ

บนชายหาดอีกฟากหนึ่งมีศพผู้โดยสารเรียงรายกัน ด้านบนมี

ทางมะพร้าวสุมไว้กันอุจาด แต่เมื่อชำเลืองมองไปครั้งใดก็รู้สึกท้อแท้ขึ้นมา

เสียทุกครั้ง หล่อนไม่รู้ว่าวันหนึ่งจะต้องไปนอนตรงนั้นหรือไม่ บางทีหล่อน

อาจจะอดตายหรือไม่ก็หมดแรงเพราะไม่ได้ดื่มกินอะไรเลย ความหวังที่

หน่วยกู้ภัยจะมาช่วยนั้นริบหรี่เต็มที ร่างกายอ่อนล้าเพราะอดอาหาร ท้อง

ร้องโครกครากบิดเป็นเกลียวราวกับจะขาด สมองมึนงงเพราะไม่ได้รับน้ำตาล

ไปเลี้ยง มืออ่อนแรง ขาสองข้างปวดจนแทบยกไม่ไหว ทุกวินาทีที่เข็มนาฬิกา

ข้อมือเดินไป หัวใจหล่อนก็พลันห่อเหี่ยว

ลายรุ้งได้ยินสาวใหญ่คนหนึ่งกรีดร้องอย่างเสียสติ จับใจความได้ว่า

ทุกคนติดเกาะมาสองคืนแล้วและกลัวว่าจะไม่มีคนมาช่วย ก่อนที่ผู้หญิง

อีกคนจะร้องอย่างโหยหวน เด็กเริ่มร้องไห้ หล่อนได้ยินไม่ถนัดว่าคนเหล่านั้น

พูดว่าอะไร มองเห็นแต่กลุ่มคนลุกฮือขึ้น แต่ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงนกหวีดจากแอร์โฮสเตสสาว

รวงข้าวเหมือนเป็นคนเดียวที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หล่อนเดินตรวจดู

ผู้โดยสารทั้งหมดอย่างไม่หยุดพักด้วยท่าทีอ่อนโยน หล่อนเป็นพนักงาน

ต้อนรับบนเครื่องเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่แถมยังคุมสติได้ดีกว่าเพื่อน

หญิงสาวอายุแค่ยี่สิบกว่าๆ เท่านั้น ใบหน้างดงามราวกับนางฟ้า ลายรุ้งอดชื่นชมไม่ได้

หญิงสาวละสายตากลับมายังกองไฟซึ่งบัดนี้มีชายหนุ่มผิวขาวอีกคน

นั่งอยู่ หล่อนเพิ่งได้ยินเขาแนะนำตัวว่าชื่อ ตะวันรุ่ง เขาสูงทีเดียว ผิวขาว

ใบหน้าเขาเลอะโคลนแถมตรงแขนมีแผลซึ่งเย็บไว้ด้วยไหมสีชมพูดูขัดกับ

บุคลิกของเขา เขาส่งยิ้มให้ขณะที่หล่อนกุมมือคนเจ็บไว้บนตัก หญิงสาว

จำต้องยื่นมือออกไปสัมผัส ไม่แน่ใจว่าเขาจำหล่อนได้หรือไม่

“ฉันชื่อลายรุ้งค่ะ”

คนตรงหน้าท่าทางสุภาพเรียบร้อย หน้าตาอันเป็นส่วนผสมระหว่าง

ไทยกับจีนลงตัวเหมาะเจาะ ค่อนข้างสูง เขากับชายผิวคล้ำสวมกางเกงลาย

พรางกับรองเท้าบูตเดินป่าก่อไฟขึ้นเพื่อคลายหนาว ดังนั้นพอพระอาทิตย์

ตกดินจึงมีกองไฟสามกองอยู่บนชายหาด เปลวไฟลุกโชติช่วงท่ามกลางผืนทรายที่เปียกน้ำ

ทุกคนหันไปและเห็นว่ารวงข้าวกำลังพาหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาที่กองไฟ

“คุณนั่งอยู่ที่นี่ก่อนนะคะ”

หญิงสาวคนนั้นพยักหน้ารับ สีหน้ายังคงมึนงง ทุกคนรอบกองไฟนี้

ก็ไม่ต่างกัน ทั้งหิว ทั้งหวาดกลัว เครื่องบินถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ ไม่รู้

อนาคตว่าหน่วยกู้ภัยจะมาถึงเมื่อไร จุดเล็กๆ คล้ายดวงไฟตรงสุดขอบฟ้า

ที่แอร์โฮสเตสสาวพร่ำบอกว่านั่นคือเรือของหน่วยกู้ภัย ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมา

ถึง ในใจของทุกคนเกิดคำถามเดียวกันก็คือจะรอดชีวิตไปจากเกาะนี้ได้อย่างไร

นาฬิกาเดินช้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ใช่วิสัยของลายรุ้งเลยที่จะ

หวั่นไหว ตั้งแต่เล็กจนโต ไมเคิลสอนเสมอให้หล่อนมีสติ

‘สติจะทำให้ลูกเอาชนะปัญหาทุกอย่างได้ในที่สุด’

แต่บัดนี้บิดาซึ่งเป็นที่พึ่งจากไปแล้ว พร้อมกับ ‘ภาระ’ ที่หล่อนต้อง

ทำให้สำเร็จ หล่อนไม่เคยบอกใครว่าหนักใจแค่ไหน คนอาจมองว่าหล่อน

เป็นนางแบบ ฐานะร่ำรวย มีมรดกมหาศาล แต่ไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ เหมือน

กับสิ่งที่ไมเคิลยกให้หล่อน

“ฉันรู้ว่าคุณอยากออกไปจากที่นี่มากแค่ไหน แต่คุณต้องรอก่อน”

รวงข้าวเอ่ยขึ้นเหมือนอ่านใจเต็มดวงออก ในขณะเดียวกันก็สามารถ

อ่านใจผู้รอดชีวิตทุกคนได้เช่นกัน ผู้ประสบภัยหลายคนผุดลุกผุดนั่ง มีท่าที

ร้อนรน

“รอถึงเมื่อไหร่ล่ะ” เต็มดวงเอ่ยถามเสียงแข็ง

รวงข้าวนิ่งขึงไปชั่วขณะก่อนจะหลับตา นิ่งไปอึดใจหนึ่งแล้วจึงลืมตา

ขึ้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เมื่อเทพเจ้าแห่งท้องทะเลปัดเป่าโชคร้ายของ

พวกเราออกไป”

คำตอบของแอร์โฮสเตสสาวฟังดูแปร่งและไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศ

ตึงเครียดตอนนี้ ลายรุ้งไม่เคยเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ในวินาทีที่เครื่องบินตก

หล่อนกลับนึกถึง

“คุณล้อเล่นใช่ไหม” เต็มดวงเอ่ยถามเสียงเบาหวิว

“ฉันพูดจริงๆ ค่ะ” รวงข้าวยืนยันเสียงขรึม “ฉันเคยได้ยินมาว่า

                          (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

ลายรุ้ง บุตรสาวเพียงคนเดียวของมหาเศรษฐีชื่อดัง ไมเคิล เฉิน ฉายาจอมโจรพันหน้า โดยที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่า แท้จริงแล้วเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของไมเคิล เฉิน เธอเป็นเด็กกำพร้า เขารับเด็กหญิงไปเลี้ยงดูตั้งแต่อายุได้สิบขวบและถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้กับลายรุ้งทั้งศิลปะการต่อสู้ทุกชนิด อีกทั้งการโจรกรรม และการแฮคข้อมูล เธอต้องสืบทอดเจตนารมณ์ของผู้เป็นพ่อด้วยการหาของมีค่า 9 ชิ้นที่เป็นของเขากลับคืนมา ลายรุ้งติดตามของทั้ง 9 ชิ้นโดยทุกครั้งเธอจะทิ้งสัญลักษณ์เป็นนกไนติงเกลทองเอาไว้ จนได้ฉายานางโจรไนติงเกล เธอทำสำเร็จมาตลอด จนกระทั่งชิ้นสุดท้ายซึ่งก็คือเพชรซีไดมอนด์ ที่เจ้าของคือ ทิวัตต์ นักธุรกิจหนุ่ม ซึ่งแทบไม่เคยมีใครเห็นเขามาก่อน เธอพยายามหาวิธีเข้าถึงตัวเขา แต่ทางตำรวจก็รู้ว่านางโจรไนติงเกลต้องการเพชรซีไดมอนด์ของทิวัตต์เช่นกัน จึงส่ง ต้นน้ำ นายตำรวจหนุ่มเข้ามาสวมรอยเป็นทิวัตต์เพื่อล่อให้นางโจรไนติงเกลออกมา ไม่มีใครรู้ว่าลายรุ้งคือนางโจรเพราะเธออยู่ในคราบของสาวสวยไฮโซ แต่เพราะต่างคนต่างต้องการอยู่ใกล้เพชรซีไดมอนด์ ทำให้ทั้งคู่ได้พบ ได้ผจญเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยกัน จนต้นน้ำตกหลุมรักลายรุ้ง และลายรุ้งก็รู้สึกดีกับเขาเช่นกัน เขาสารภาพว่ารักลายรุ้งและไม่สนใจว่า เธอจะเป็นใครและเคยเป็นอะไรมาก่อน ลายรุ้งยังคงปากแข็ง ไม่ยอมเปิดเผยความรู้สึก จนกระทั่งเครื่องบินตกและพบว่าต้นน้ำสลบไม่ได้สติ เธอกลัวต้นน้ำตายจึงระบายความรู้สึกทั้งหมดออกมา และทั้งคู่ลงเอยกันด้วยดี


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

จตุพร | 1 รีวิว
13/06/2014

“เลื่อมลายรุ้ง” เป็นนิยายลำดับที่ 2 ของเซต Love Secret “ลายรุ้ง” จึงเป็นหญิงสาวเจ้าของเรื่องราวความลับคนที่2 ต่อจากเต็มดวง เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อเส้นทางชีวิตลิขิตให้ “ลายรุ้ง” นางเอกของเราซึ่งมีอาชีพเป็นนางแบบ มีเหตุจำเป็นให้ต้องกลายเป็น นางโจรสาวนามว่า “ไนติงเกล” โดยมีภารกิจหลักสำคัญคือการโจรกรรมสมบัติอันล้ำค่า 9 อย่าง นางเอกของเราทำได้ดีไม่ผิดพลาดมาตลอดรวม 8 ครั้งค่ะ แต่สำหรับการโจรกรรมครั้งที่ 9 นั้น กลับไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมาเมื่อนายตำรวจหนุ่ม “ต้นน้ำ” ได้รับมอบหมายให้จับกุมนางโจรสาวไม่มีทางปล่อยให้เธอทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน ฝ่ายนางโจรของเราพยายามเข้าไปตีสนิท “ทิวัตต์” เศรษฐีหนุ่มเจ้าของเพชรซีไดมอนต์ สมบัติชิ้นสุดท้ายที่เธอต้องขโมยเพื่อปลดปล่อยเธอจากคราบนางโจรสาว เหตุการณ์ยิ่งอุรุงตุงนัง เมื่อเพื่อนสนิททั้ง2 ของเธอ ต่างปรารถในเพชรซีไดมอนต์ จึงสรรหางัดทุกเล่ห์กลเพื่อทำให้ “ทิวัตต์” ตกหลุมพรางและหลุมรักตนให้ได้ แต่ “ทิวัตต์” ดันตกหลุมรัก “ลายรุ้ง” อย่างจัง “ลายรุ้ง” ต้องหักห้ามใจไม่ให้รัก “ทิวัตต์” เพราะรู้ตัวดีว่านางโจรอย่างเธอไม่มีทางยืนเคียงข้างเขาได้ตลอดไป ส่วนตัว“ทิวัตต์” เองก็ไม่สามารถตัดใจจากผู้หญิงที่เขารักได้ ทั้งคู่มีค่ำคืนแสนหวานร่วมกัน แต่เมื่อความจริงที่ชายหนุ่มซ่อนไว้เปิดเผย หญิงสาวจึงหนีไปด้วยความเข้าใจผิดทั้งๆที่เพิ่งผ่านช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยกัน เพราะความเข้าใจผิดนิเองที่ทำให้นางโจรของเราต้องหนีหน้าชายหนุ่มไปต่างประเทศ ในขณะที่ฝั่งของชายหนุ่มเองก็ออกตามหาตัวคนรัก ทั้งคู่พบกันที่สนามบิน แต่หญิงสาวยังไม่ยอมให้อภัย โดยไม่รู้เลยว่าเขาจะออกเดินทางเที่ยวบินเดียวกันตน และเมื่ออุบัติเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น หญิงสาวจึงรู้แล้วว่า “ทิวัตต์” สำคัญกับตนขนาดไหน นิละค่ะ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอยอมเปิดใจเล่าเรื่องราว ความลับของเธอให้ทุกคนรอบกองไฟฟัง ถ้าถามความเห็นส่วนตัวหลังอ่านจบ ดิฉันว่าเลื่อมลายรุ้งเป็นนิยายที่สนุกชวนให้ติดตาม เพราะไหนจะต้องลุ้นว่านางเอกของเราจะทำเช่นไรเพื่อให้ภารกิจครั้งที่9 สำเร็จลุล่วง โดยมีผู้ช่วยฮาๆ น่ารักนามว่า “โก๊ะจัง” หรือความรักบนเส้นขนาดระหว่าง “ลายรุ้ง” และ “ทิวัตต์” จะลงเอยเช่นไร นางโจรต้องติดคุกหรือไม่ ผู้เขียนสามารถปิดเรื่องและหาทางออกให้ตัวละครอย่างลงตัวทีเดียว ไม่สปอยนะคะว่าผลลัพธ์สุดท้าย เรื่องนี้จบอย่างไร ถ้าอยากรู้ลองหาคำตอบได้ในนิยายเรื่อง “เลื่อมลายรุ้ง”ค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024