The Sixth Sense มายาร้อยใจ (เก้าแต้ม)

The Sixth Sense มายาร้อยใจ (เก้าแต้ม)

3 รีวิว  3 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165000512
ผู้แต่ง: เก้าแต้ม
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 260.00 บาท 65.00 บาท
ประหยัด: 195.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

กรรัมภาก้าวลงจากรถทัวร์ด้วยฝีเท้าที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก ร่างอวบอยู่ใน ชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสีชมพูของลาคอสต์เข้าชุดกัน ด้านหลังคือเป้สะพายกุชชี่ รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถอยมาหมาดๆ จากห้างสรรพสินค้าเมื่อเย็นวานนี้เอง ใบหน้ารูปไข่ชื้นไปด้วยเหงื่อและมีร่องรอยแห่งความกังวล

หนึ่งเดือนหลังจากสอบเข้าคณะจิตรกรรมฯ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังได้ สำเร็จ ทางรุ่นพี่ก็จัดให้มีการรับน้องขึ้นที่หาดทุ่งวัวแล่น ชายทะเลในจังหวัด ชุมพร หญิงสาวทอดสายตามองชายหาดซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยนักศึกษามากมาย ที่มาร่วมงานรับน้อง สำหรับทุกคนแล้วคงจะตื่นเต้นไปกับบรรยากาศตรงหน้า มีเพียงหญิงสาวเท่านั้นที่รู้สึกต่างออกไป โดยเฉพาะเมื่อรู้ตัวดีว่าเธอนั้นแตกต่าง จากทุกคนในที่นี้

ความสามารถนี้เริ่มขึ้นเมื่อไรเธอก็ไม่รู้ แต่ครั้งที่ทำให้ทุกคนตกใจมากที่สุดก็คือ ตอนกรรัมภาอายุได้ ๕ ขวบ ถ้าวันนั้นเธอไม่ตัดสินใจบอกบิดา ก็คงไม่รู้ว่าตัวเองมีสัมผัสพิเศษ แต่เพราะเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้บรรดาผู้ปกครองในโรงเรียนต่างรุมรังเกียจเธอ มารดาจึงย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง อย่างเด็ดขาด

แต่วันนี้ทันทีที่ก้าวเข้ามาในเขตบ้านพักริมทะเล ลางสังหรณ์บางอย่างก็ พุ่งเข้าจู่โจมเธออย่างจัง เธอรีบดึงถุงมือสีชมพูที่เก็บอยู่ในเป้ขึ้นมาสวมทันที โดย หวังว่าความขลังของมันจะป้องกันไม่ให้เธอต้องเจอกับเรื่องราวอันเลวร้ายเหมือน ในอดีตอีก

ภาพบ้านหลังใหญ่สองหลังตั้งอยู่ติดทะเลซึ่งจะเป็นที่พักของเธอและ เพื่อนๆ ในคํ่าคืนนี้ ข้างๆ กันนั้นมีป่ารกครึ้มและสวนสนที่ขึ้นจนหนาทึบสร้าง ความรู้สึกวังเวงอย่างประหลาดทั้งที่เป็นตอนบ่าย แต่สิ่งที่ทำให้กรรัมภาขนลุกซู่ กลับเป็นต้นไทรขนาดใหญ่สูงตระหง่าน รวมถึงศาลเพียงตาที่ทำด้วยไม้เก่าๆ ซึ่ง ตั้งอยู่ด้านหน้า ลำต้นไทรถูกพันด้วยผ้าแพรเจ็ดสีราวกับจะบอกว่าที่นี่มีสิ่ง นอกเหนือธรรมชาติสิงสถิตอยู่เพี่อปกปักรักษา หญิงสาวยกมือไหว้โดยอัตโนมัติ เมื่อเธอเหลือบไปมองก็เห็นว่าเพื่อนสาวอีกสี่คนก็ทำเช่นเดียวกับเธอ

เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงการรับน้องก็จะเริ่มต้นขึ้น นักศึกษาส่วนมาก ต่างก็เอาสัมภาระไปเก็บ บ้างก็ล้อมวงรับประทานข้าวกล่อง หรือไม่ก็จัดการธุระ ส่วนตัวในห้องน้ำ ต่างจากกรรัมภาซึ่งไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย ทันทีที่ได้ยิน ว่าหญิงสาวร่างโย่งกับญาณินสาวโบฮีเมียนจะไปไหว้เจ้าที่ เธอก็หันไปชวนเพี่อนสาวอีกสองคนให้ไปด้วยกัน

“เราไปไหว้เจ้าที่กับพวกเขาดีไหม”

“ดีเหมือนกัน ไปสิ” สาวน้อยเรือนร่างบอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้อง เคลือบที่ชี่อว่าเนตรสิตางศุ์พยักหน้า หันไปชวนกรรณาหญิงสาวซึ่งชอบใส่หูฟัง เอาไว้ตลอดเวลาให้ตามมา ทั้งหมดพร้อมใจกันเดินตามสุคนธรสไป สาวร่างโย่ง ถือข้าวกล่องที่รุ่นพี่แจกไปที่ศาลไม้ ก่อนจะหยิบธูปและไฟแช็กขึ้นมาจุดพร้อม ยกมือไหว้ กรรัมภาและหญิงสาวอีกสองคนก็ไหว้ตาม

เมื่อสุคนธรสไหว้เจ้าที่เสร็จก็ลุกขึ้นจากพื้นแล้วหันมา

“อ้าว พวกเธอ...” เธอเอ่ยทัก กรรัมภาจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เหมือนเด็กถูก ผู้ใหญ่จับได้ว่าแอบตามมา

“ฉันอยากมาไหว้ด้วยน่ะ” เนตรสิตางศุ์พูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหวานเป็น ใบเบิกทาง

“ฉันก็เหมือนกัน” กรรัมภาตัดสินใจตอบบ้าง ในใจได้แต่หวังว่าหญิงสาว

ที่อยู่ตรงหน้าคงจะไม่รังเกียจการขอแจมไหว้เจ้าที่ของเธอในครั้งนี้ ทั้งที่จริงแล้ว มันน่าจะเป็นธรรมเนียมที่ควรยึดถือปฏิบัติเสียด้วยซ้ำ ทุกครั้งเมื่อมีการจัดงาน รับน้อง รุ่นพี่ที่เป็นโต้โผจัดงานน่าจะมีการเตรียมดอกไม้ธูปเทียนเพี่อขอขมา ลาโทษกับเจ้าที่เจ้าทางตั้งแต่แรก เพราะอย่างน้อยท่านก็จะได้ให้ความเอ็นดูและ ทำให้การรับน้องในวันนี้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น แต่ก็ไม่มีใครคิดถึงจุดนี้ เธอกับเพี่อนทั้งสี่คนจึงขอเป็นตัวแทนเสียเอง สาวร่างเพรียวคนสุดท้ายในกลุ่มที่ตลอดมาเอาแต่เงียบพยักหน้าราวกับจะบอกว่าเห็นด้วย

“ฉันจะแบ่งข้าวให้เธอนะ” เนตรสิตางศุ์ยี่นกล่องข้าวให้สุคนธรสเพี่อชดเชย ข้าวกล่องที่ถูกใช้ไปเมื่อครู่

“โอ๊ย ไม่ต้องหรอก แค่นี้จิ๊บจ๊อย” ผู้หญิงซึ่งรูปร่างสูงที่สุดในกลุ่มโบกมือ ปฏิเสธ หากพอเพี่อนๆ แบ่งส่วนของตนเองให้ เธอก็ยี่นมือออกมารับฝากล่อง ที่มีข้าวผัดพูนพร้อมกับยิ้มหวาน

“เรามานั่งคุยกันดีกว่า ฉันชื่อเล่นว่ารส พวกเธอชื่ออะไรล่ะ”

สาวห้าวเริ่มแนะนำตัวเอง กรรัมภาจึงนั่งล้อมวงคุยกับทุกคนและแนะนำ ตัวเองบ้าง ตอนนี้เธอก็ได้รู้แล้วว่าแต่ละคนชื่ออะไรกันบ้าง ส่วนลึกนั้นรู้สึกดีใจ ที่ได้เจอเพื่อนใหม่ โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้เพี่อนสาวทั้งสี่จะเป็น ผู้ร่วมชะตากรรมและกลายมาเป็นเพี่อนที่ดีที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว

หัวคํ่าวันเดียวกันนักศึกษาทั้งหมดก็นั่งล้อมวงกันรอบกองไฟ รุ่นพี่ประกาศเรียกให้นักศึกษาทุกคนมารวมตัวกันรอบกองไฟก่อนการแสดงจะเริ่มขึ้น เสียงกีตาร์และกลองที่บรรเลงในจังหวะสนุกสนานสร้างบรรยากาศของการรับน้องให้เริ่มต้นขึ้น รุ่นพี่ส่วนหนึ่งเริ่มแจกจ่ายอาหารและเครื่องดื่มให้แก่รุ่นน้อง ส่วนพิธีกรกลางวงก็ประกาศเกี่ยวกับการแสดงและเกมที่จะมีขึ้น กรรัมภาเลือกนั่งติดกับเพี่อนสาวทั้งสี่คนที่ได้รู้จักกันในตอนบ่าย แม้จะต้องนั่งเบียดเสียดกันบนผ้าทอผืนใหญ่แต่หญิงสาวกลับรู้สึกมีความสุข มิตรภาพกำลังก่อตัวขึ้น และเธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะแบ่งของใช้ให้เพื่อนใหม่อย่างเต็มอกเต็มใจ เสียงร้องเพลงและเล่นเกมดังขึ้นจากกลางวง กรรัมภาจ้องมองไปที่กองไฟ กองใหญ่ที่กำลังลุกโชติช่วงอยู่ตรงกลาง ทั้งเกมและกิจกรรมต่างๆ ที่คัดสรรมาเพี่อสร้างความบันเทิงและความสมานฉันท์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องกำลังเริ่มต้น ขึ้น หลังจากการเล่นเกมผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง เครื่องดื่มน้ำเมาก็ทยอยออกมา ทำให้รุ่นพี่และรุ่นน้องที่เป็นผู้ชายต่างแปรสภาพเป็นกวนอูหน้าแดงกันไปหมด ผู้ขับขานเสียงเพลงเริ่มอ้อแอ้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บรรยากาศควรจะเต็มไป ด้วยความสนุก แต่ยิ่งดึกความรู้สึกไม่สบายใจของกรรัมภากลับยิ่งเพิ่มพูนขึ้น

เธอหันไปสบตากับกรรณาซึ่งนั่งติดกัน และอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือใน ถุงมือสีชมพูไปแตะหลังมือเพี่อนใหม่อย่างขอกำลังใจ สาวร่างเพรียวซึ่งพูดน้อย ที่สุดและมักจะเสียบหูฟังชาวนด์อะเบาต์ตลอดเวลา สบตากรรัมภาอย่างอบอุ่น ราวกับจะปลอบใจว่าคงไม่มีอะไร...แต่ลึกๆ แล้วคุณหนูไฮโชก็ยังไม่สบายใจอยู่ดีหลายครั้งที่ถามตัวเองว่ากลัวผีหรีอเปล่า คำตอบก็คือ ไม่ แต่ทุกครั้งพรสวรรค์ซึ่งติดตัวมากลับทำให้ต้องพบกับภาพอันน่าสะพรึงกลัว จึงอดรู้สึกขยาดไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคืนนี้

หลายปีที่ผ่านมาหญิงสาวได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสามารถพิเศษของตัวเอง ทุกครั้งที่พระจันทร์เต็มดวง ความสามารถนั้นจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สุดท้าย เธอจึงตัดสินใจสวมถุงมือไว้ตลอดเวลาในคืนวันเพ็ญ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่หาก เผลอไปสัมผัสใครแล้วเห็นภาพวิ่งเข้าสู่สมองพร้อมๆ กันเกือบสี่สิบภาพรัว ราวกับคลิปที่ดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยเฉพาะถ้ามันเต็มไป ด้ว ยภาพอันน่าสะพรึงกลัวนับสิบ

อากาศโดยรอบเริ่มเย็นลง เช่นเดียวกับมือของเธอที่แม้จะอยู่ในถุงมือ สีชมพูตลอดเวลาแต่ก็อดที่จะสั่นและเย็นยะเยือกไม่ได้ มันคงเป็นความรู้สึก เหมือนคนเสียวสันหลังเมื่อมีลางสังหรณ์...มีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น แต่กรรัมภา ไม่รู้ว่าคืออะไร เธอสังเกตว่าอีกสามสาวก็มีอาการแบบเดียวกัน จนกระทั่งสาวห้าว ที่สุดในกลุ่มโพล่งขึ้น

“พวกเธอเป็นอะไรกัน นั่งเหลียวหน้าเหลียวหลังมานานแล้วนะ”

“ฉันบอกไม่ถูก” สาวน้อยหน้าหวานเหมือนตุ๊กตาตอบเสียงอ่อย สุดท้าย แล้วก็กระเถิบไปนั่งข้างหลังญาณินเหมือนหวาดกลัว

“หรือเธอกลัวผี” สุคนธรสซัก “ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันมียันต์ เอ้านี่” เธอ ล้วงเข้าไปในย่ามสีเจ็บลวดลายแปลกตา แล้วหยิบกระดาษสีเหลืองออกมาสามสี่ใบก่อนจะทำปากขมุบขมิบเหมือนลงอาคมแล้วส่งให้เพี่อปลอบใจทุกคนในกลุ่ม

                “อะไรเนี่ย” กรรณาโพล่งถาม “ยันต์เพาเวอร์พัฟหรือไง”

“เออ ศักดิ์สิทธินะโว้ย ของแบบนี้อยู่ที่เวทมนตร์และคาถาที่ใช้ พระอาจารย์ ปู่ของฉันสอนมากับมือ รับรองผลร้อยเปอร์เซ็นต์ และมันไม่เกี่ยวกับกระดาษ ฉันชอบเพาเวอร์พัฟ บลอสซัม แล้วจะทำไม ยันต์ฉันเขียนด้วยหมึกล่องหน มันซุกอยู่ข้างในนั่นแหละ แต่ไม่อยากเขียนลบลายสวยๆ ของกระดาษ...” เธอ คุย “พับใส่ไว้ในกระเป๋าซะ รับรองคืนนี้ไม่มีใครกล้ามายุ่งแน่”

“โอ้...” กรรัมภาอุทานแล้วรีบยื่นมือไปรับมาทันที เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน แบบนี้ ขอแค่อะไรสักอย่างที่จะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจก็พอแล้ว และเพราะเสื้อที่ใส่มาวันนี้ไม่มีกระเป๋า เธอจึงรีบดึงกิ๊บติดผมออกมาก่อนจะพับกระดาษจนเล็กสอดไว้ด้านในและติดกลับเข้าที่ดังเดิม “ไว้ตรงนี้แหละดี มันจะได้ไม่กล้าเข้า มายุ่งกับฉัน” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง

สี่สาวต่างเก็บยันต์ที่ได้รับจากแม่หมอจำเป็นลงกระเป๋าเสื้อ แต่สุดท้าย แล้วต่างก็นั่งเงียบตัวเกร็งไม่ผิดกับตอนแรกสักเท่าไร เมื่อไม่มีใครเอ่ยปากอะไร บรรยากาศรอบตัวก็เริ่มดำดิ่งสู่ความเงียบอีกครั้ง กรรัมภาหันไปมองรอบๆ เมื่อเห็น ว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอดูแปลกไป เริ่มจากกรรณาที่เอามือปิดหู ตามด้วย เนตรสิตางศุ์ที่ยกมือปิดตา

“เกิดอะไรขึ้น เธอเป็นอะไรไป” ญาณินถาม “ไม่สบายหรือเปล่า จะกลับ ไปนอนพักไหม”

ความสงสัยที่มีอยู่มากมายทำให้กรรัมภาตัดสินใจถอดถุงมือออกและ แตะที่หลังของเนตรสิตางคุ์บ้าง เธออยากรู้เหลือเกินว่าเพราะอะไรเพี่อนของเธอ ถึงได้พากันทำหน้าซีดปิดหูปิดตากันอย่างนี้ แต่ทันทีที่มือสัมผัส ภาพมากมาย ก็หลั่งไหลเข้าสู่สมองโดยไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกราวกับโดนไฟช็อร์ต พร้อมหันไปมองกลางกองไฟด้วยใบหน้าซีดเผือด

ในความมืด สิ่งที่เธอเห็นก็คือร่างสูงใหญ่เกือบเท่าต้นตาลของชาย หน้าตาดุดันในชุดโบราณ เขานุ่งโจงกระเบนสีแดงสดและกำลังยืนคร่อมร่างของ พงษ์ศักดิ์เอาไว้ อมนุษย์ตนนั้นหันหน้ามาทางเธอและเพื่อนพร้อมกับยกนิ้วชี้หน้า

“ว๊าย!” กรรัมภาอุทานอย่างตกใจพร้อมกับยกมือปิดตาด้วยความกลัว

เมื่อเธอถอนมือออกจากเนตรสิตางศุ์ ภาพอันน่ากลัวก็หายวับไป แต่สุดท้ายความ อยากรู้ก็ทำให้เธอตัดสินใจวางมือลงบนแขนของเนตรสิตางศุ์อีกครั้ง

“ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอเห็นอะไร แต่เขาบอกฉันว่าพวกเราไปลบหลู่เขา” ญาณิน กระซิบบอกเพี่อนทั้งสี่

“ลบหลู่ยังไงล่ะ” เนตรสิตางศุ์ปิดตาอยู่แต่ยังถามขึ้น “ไม่รู้สิ เขายืนคํ้าหัวรุ่นพี่ที่กำลังเต้นอยู่กลางวงน่ะ”

คำพูดนั้นทำให้กรรัมภาถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ญาณินคงเห็น เหมือนกับที่เธอเห็นเมื่อครู่ และบางทีอาจจะรวมถึงเพี่อนสาวอีกสามคนนี้ด้วย มิน่าทุกคนถึงได้มีสีหน้าหวาดกลัวและตัวสั่นงันงกอย่างนั้น

“ฉะ...ฉะ...ฉัน...กะ...ก็...เห็น” เนตรสิตางศุ์บอกด้วยเสียงสั่นเครือ

“ฉันก็เห็นเหมือนกัน เขาสูงเท่าตึกสี่ชั้นแน่ะ แล้วชี้มาที่พวกเราด้วย”

กรรัมภาพูดบ้างเมื่อมั่นใจแล้วว่าเพี่อนใหม่ทั้งสี่ประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับเธอ

“ฉันได้ยินเขาคำรามเสียงดังและกำลังโกรธมาก” กรรณาพูดขึ้นบ้าง หลัง จากที่นั่งเงียบเอามือปิดหูตลอดเวลา

“อีตานั่นไปทำอะไรไว้ล่ะเนี่ย เขาถึงได้โกรธขนาดนั้น” สุคนธรสทำจมูก ฟุดฟิด ก่อนจะทอดถอนใจด้วยความเบื่อหน่าย

“ไม่รู้สิ เขาเมามากด้วย” ญาณินกระซิบตอบ

ตอนนี้สายตาของเพี่อนหลายคนในคณะต่างมองมาที่ห้าสาวราวกับตัว ประหลาด กรรัมภาจึงยิ้มเจี่อนๆ ตอบ จะให้ทำเฉยอยู่ได้อย่างไรในเมื่อตอนนี้ สิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือ วิญญาณเจ้าที่ซึ่งมีใบหน้าแสนจะเหี้ยมเกรียมยืนถมึงทึง อยู่กลางวง

“เอาไงดี ไปบอกเขาไหม” กรรัมภาเสนอ “เขาทำอะไรไว้ก็ให้ไปขอขมา” สำหรับเธอแล้วอยากให้เรื่องทั้งหมดจบลงเสียที หลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยเจอ วิญญาณที่น่ากลัวมากเท่านี้มาก่อน

“เขาไม่เชื่อหรอก” สุคนธรสยักไหล่ “ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวไม่มีวันรู้สึก”

“ถ้างั้นจะทำยังไงดีล่ะ เขาโกรธมากนะ” เนตรสิตางศุ์เงยหน้าขึ้น แอบมอง ผ่านรอยแยกของนิ้ว แล้วก็ก้มหน้าลงไปอีก

“เธอเห็น...” ญาณินกระซิบ

กรรัมภาและสามสาวในวงต่างพยักหน้ารับพร้อมกัน ตามด้วยกรรณา ที่พูดขึ้นอีกครั้ง

“ฉันได้ยินเสียงเขา มันรุนแรงน่ากลัว” กรรณาเอ่ยเสียงสั่น

“เขาพูดว่าอะไร” ญาณินถาม

“เขาพูดว่า ‘พวกเอ็งลบหลู่กู’” กรรณาตอบ “มันเป็นคำพูดซํ้าๆ เหมือน สะท้อนไปมาในห้องแคบๆ ฉันไม่เข้าใจที่เขาพูดทั้งหมดหรอก”

“แล้วเมื่อกี้ที่เธอบอกว่าเขาพูดว่าเราลบหลู่เขา ก็แสดงว่าเธอได้ยินเหมือน กันน่ะสิ” สุคนธรสทักขึ้น

“เอ่อ...ถ้าอยู่ในสมาธิละก็ใช่ แต่ถ้าไม่ ก็ไม่ได้ยิน อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ยิน ทุกอย่างหรอกนะ เพราะคลื่นเสียงของมนุษย์กับภูตมันคนละความถี่กัน จะรู้ก็ต่อเมื่อจูนกันติดบ้าง”

“งั้นจูนใหม่สิ...” กรรัมภาสั่ง เพราะอยากรู้ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นยังไง ที่แน่ๆ เธอมั่นใจว่าอมนุษย์ตนนั้นต้องการทำร้ายรุ่นพี่หนุ่มอย่างแน่นอน “ถาม ว่าเขาต้องการอะไร”

“ไม่เอา!” ญาณินส่ายหน้าดิก “ฉันกลัว”

เพี่อนๆ ทุกคนต่างหน้าเสียเมื่อตัวกลางไม่ยอมเป็นสื่อโต้ตอบกับอมนุษย์ ตนนั้น แล้วอย่างนี้จะช่วยรุ่นพี่ได้ยังไง

“โธ่เว้ย แล้วจะรู้เรื่องกันไหมนี่”

สุคนธรสสบถพร้อมกับเกาหัวยิกอย่างขัดใจ เธอหยิบกระดาษเพาเวอร­์พัฟขึ้นมาอีกแผ่น หลับตาทำปากขมุบขมับเหมือนเดิม แล้วเป่าพรวดอีกสามครั้ง

“ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลละวะ”

กรรัมภามองตามสาวร่างโย่งที่เดินอาดๆ ไปหารุ่นพี่หนุ่มผู้เคราะห์ร้ายอย่าง ไม่เข้าใจ เธออยากรู้เหลือเกินว่าสุคนธรสจะทำอะไร หลังจากพูดคุยกับชายหนุ่ม ไม่นานแม่หมอสาวก็เดินกลับมาเฉลยคำตอบของคำถามทั้งหมด

“เขาไปฉี่ตรงข้างศาลเพียงตา เจ้าของถึงได้โกรธขนาดนี้”

“แล้วจะทำยังไงดี บอกเขาไปขอขมาไหม” เนตรสิตางศุ์ถามทั้งที่ยังคง ปิดตาไว้ตลอด

“ตอนนี้เมา พูดไม่รู้เรี่องหรอก ต้องรอพรุ่งนี้แล้วละ ได้ยันต์ไปคงพอจะยื้อเวลาไว้ได้.. โปรดติดตามต่อในเล่ม....

 

 

 

 

รายละเอียด

กรรัมภา ผู้สามารถใช้มือสัมผัสเพื่ออ่านความทรงจำจากวัตถุ

รีวิวจากบรรณาธิการ batorastore.com

The Sixth Sense มายาร้อยใจ

ผู้เขียน – เก้าแต้ม

The Sixth Sense มายาร้อยใจ เรื่องราวของ กรรัมภา ผู้สามารถใช้มือสัมผัสเพื่ออ่านความทรงจำจากวัตถุ ได้รับหน้าที่ช่วยเหลือปาร์ค จุนจี ดาราลูกครึ่งไทย - เกาหลีที่เธอคลั่งไคล้ เขาถูกวิญญาณรังควานหลังจาก พิมพ์พิลาศ ผู้เป็นย่าเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ จากความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาแต่เกิด ทำให้หญิงสาวสืบจนเข้าใกล้ความจริงและพบว่าเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ในสายตาของปาร์คจุนจี กรรัมภาเป็นแค่แฟนคลับโรคจิตและคุณหนูแบรนด์เนมแต่งตัวเว่อร์ แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกัน เจ้าชายแห่งโลกมายากลับมองเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

 

เรื่องนี้เอาใจแฟนคลับเกาหลีโดยเฉพาะเลยนะคะสำหรับเรื่องนี้ ในนิยายแอดมินอุตส่าห์แอบจิ้นในใจว่า ปาร์คจุนจี ต้องออกมาหล่อพอๆกับ วง SJ. หรือ 2 PM. อะไรแบบนี้ แต่พอนำมาทำเป็นละครจริงๆ เห็นแล้วก็อดเฟลนิดๆไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราจะเก็บปาร์คจุนจีในฉบับนิยายเราไว้ในใจและสมองส่วนหน้าของเราต่อไปค่ะ ฮือๆ... ส่วนนางเอกก็มีความสามารถตามชื่อค่ะ มือเธอไปแตะอะไรก็จะสามารถล่วงรู้อดีตของสิ่งของ และเหตุการณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งของนั้น แน่นอนว่าเหตุการณ์นั้นมีทั้งน่าดูและไม่น่าดู เธอเลยตัดปัญหาโดยการใส่ถุงมือ สวยๆเก๋ๆ ก็ว่ากันไป เวลาจะใช้งานก็ถอดถุงมือออก ที่จริงนางเอกนี่เป็นคนที่มีฐานะทางการเงินดีที่สุดในบรรดาสาวๆแล้วนะ เรียกได้ว่าเป็นลูกคุณหนูไฮโซทีเดียว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ดูเป็นกันเองและไม่ถือตัวกับเพื่อนๆเลยสักนิดเดียว แต่กับคนอื่นก็อีกเรื่องหนึ่ง ส่วนเนื้อเรื่องก็ออกแนวสืบสวนสอบสวนไม่ต่างจากเล่มอื่นๆนะคะ ที่นางเอกต้องมาสืบเรื่องสาเหตุการตายของย่าพระเอก ซึ่งพระเอกเองก็ไม่ค่อยชอบย่าตัวเองเท่าไหร่ เพราะเขาถือว่าเป็นหลานนอกคอกอยู่ แต่ถึงแม้จะไม่ชอบ แต่ยังไงเธอก็เป็นย่าของเขา ก็เลยยอมสืบหาความจริงด้วย (แต่ตัวย่าในเรื่องนี้ก็ทำตัวได้ไม่เหมาะจะเป็นย่าคนเอาเสียเลย ทั้งนิสัยขี้วีนเห็นแก่ตัว แถมยังมีสามีเด็กคราวลูกอีกต่างหาก จุดเฉลย แอดมินเดาถูกด้วยว่าใครเป็นฆาตกร ไม่ได้เก่งอะไรหรอกนะคะ แต่ว่าในเรื่องเขาจะค่อยๆเฉลยว่าใครเป็นคนทำ (อย่าไปหวังพึ่งผีคุณย่า รายนั้นให้ข้อมูลอะไรแทบไม่ได้) ก็ยังทำให้เห็นแต่ว่าเรื่องนี้ออกแนวลูกกวาดนิดๆที่เอาเรื่องความรักระหว่างซุปตาร์กับคนธรรมดาอย่างปาร์ค จุนจี และกรรัมภา ซึ่งคนเขียนทำให้เห็นว่าอิทธิพลของแฟนคลับมีมากมายขนาดไหน และพระเอกต้องเลือกระหว่างชื่อเสียงหรือความรัก เป็นตัวเลือกที่ว่าจะง่ายก็ง่าย จะยากก็ยาก เป็นแอดมินก็คิดหนักนะ แต่เรื่องนี้ไม่น่าจะทำให้คนอ่านผิดหวังหรอกค่ะ นางเอกอุตส่าห์รักเขาตั้งแต่เป็นเพียงแค่แฟนคลับของเขา ถูกค่อนขอดว่าเป็นโรคจิต เธอก็อดทนช่วยเขาจนเขาเห็นความดี ยอมอ่อนกับเธอลงมากขึ้นๆจนกลายเป็นว่าหลงรักเธออย่างเต็มหัวใจ ถ้าใครที่ดูเรื่องนี้แล้วค่อนข้างจะขัดใจกับพระเอกเรื่องนี้บ้าง ลองมาอ่านแบบนิยายนะคะ จินตนาการช่วยท่านได้


รีวิว (3)

เขียนรีวิว

Boa Hancock | 3 รีวิว
16/07/2014

มายาร้อยใจ ก็เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่น่าติดตาม จาก 1 ใน 5 ของซีรีส์นิยายชุด “The Sixth Sense” จากผู้เขียน เก้าแต้ม หนังสือเรื่องมายาร้อยใจนี้ จะเล่าถึงเรื่องราวของ กรรัมภา สาวไฮโซผู้สามารถใช้มือสัมผัสเพื่ออ่านความทรงจำจากวัตถุ คือ เมื่อเวลาเธอได้สัมผัสกับคนคนนั้นหรือจะเป็นสิ่งของที่เคยใช้ จะทำให้เธอสามารถเห็นความทรงจำต่างๆของสิ่งที่เธอสัมผัสได้เธอจึงต้องใส่ถุงมือไว้ตลอดเวลาเพื่อปิดบังความสามารถพิเศษนี้ กรรัมภาเป็นหนึ่งในสมาชิกของบริษัทซิกเซ้นที่เธอและเพื่อนทั้งห้าคนลงทุนร่วมกันสร้างบริษัทนี้ขึ้นมาด้วยกัน หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยมาจากที่เดียวกัน ทั้งห้าคนก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตลอดไม่สามารถทำงานร่วมกับใครได้ เพราะทุกคนต่างมองว่าพวกเธอเป็นตัวประหลาดเนื่องจากสัมผัสพิเศษของพวกเธอนั่นเอง ในหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงกรรัมภา ที่ได้รับหน้าที่ให้ช่วยเหลือปาร์คจุนจี ดาราลูกครึ่งไทย-เกาหลี ที่กรรัมภาคลั่งไคล้เป็นอย่างมากถึงขนาดไปเรียนภาษาเกาหลีเพื่อเขาเลยทีเดียว ปาร์คจุนจีได้ถูกวิญญาณของ พิมพ์พิลาศผู้เป็นย่าตามรังควานหลังจากที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ พิมพ์พิลาศต้องการให้ปาร์คจุนจีสืบหาคนที่ฆ่าเธอ ในขณะเดียวกันปาร์คจุนจีก็ได้มาถ่ายละครที่ประเทศไทยจึงทำให้มีเหตุการณ์ได้มาพบกับกรรัมภา จากความสามารถพิเศษของกรรัมภาก็ทำให้การสืบคดีนี้เข้าใกล้ความจริงมากยิ่งขึ้นแต่ก็ต้องพบเบื้องหลังที่มีเงื่อนงำมากขึ้น เพราะ ทุกคนคิดว่าคนที่ฆ่าคือ อติเทพซึ่งเป็นสามีของพิมพิลาศแต่สิ่งที่กรรัมภาได้รับรู้มาคือคนที่พิมพิลาศเห็นล่าสุดก่อนที่จะตายเป็นผู้หญิง จึงทำให้คดีมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งกุมาริกาน้อยที่คอยช่วยเหลืองานสาวๆยังมีท่าทีแปลกๆไปอีก โดยร่วมเรื่องมายาร้อยใจนี้ก็สนุกมากๆ อ่านเพลินๆไปเรื่อยๆ ช่วงท้ายๆจะเริ่มเดาเนื้อเรื่องได้ นางเอกจะออกแนวคุณหนูเอาแต่ใจ การพบกันของพระเอกนางเอกก็ตลกมาก ช่วงแรกพระเอกจะเย็นชากับนางเอกมากๆค่ะ แต่พอต่อมาเรื่อยๆก็จะพบความน่ารักของนางเอก มีการช่วยเหลือกันจนทำให้เกิดเป็นความรักของทั้งสองคน มีการหลบหนี ปลอมตัวเพื่อสืบคดีของพระเอกต่างๆนา เนื้อเรื่องออกแนวประมาณร่วมมือกันแย่งสมบัติ แล้วก็หักหลังกันเองประมาณนี้ค่ะ มีเรื่องราวลี้ลับต่างๆที่พระเอกนางเอกเจอด้วยกัน จากที่อ่านมาทั้ง 5 เล่ม ชอบเรื่องนี้มากค่ะ รู้สึกว่าเมื่ออ่านไปแล้วทำให้เรายิ้มได้ อยากอ่านต่อไปว่าหนุ่มลูกครึ่งไทย-เกาหลีกับสาวไทยไฮโซจะมารักกันได้อย่างไร สรุปแล้วน่าติดตามมากค่ะ
สกาวรัตน์ | 3 รีวิว
09/10/2013

หนังสือนิยายเรื่อง มายาร้อยใจ เป็นหนึ่งในซีรี่ส์เรื่องเยี่ยม The Sixth Sense โดยการประพันธ์จาก คุณ เก้าแต้ม ได้รับการตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ พิมพ์คำ มายาร้อยใจ เป็นนิยายเล่มที่สี่ในจำนวนหนังสือชุดเดียวกันที่มี 5 เล่ม 5 ตอนด้วยกัน ซึ่ง 5 เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของหญิงสาวแต่ละคนที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนและมีความสามารถพิเศษในเรื่องสัมผัสที่6 ที่แตกต่างกันออกไป และทุกคนได้รวมตัวกันเพื่อตั้งบริษัทปราบผีชื่อว่าซิกซ์เซนส์ นั่นก็คือ ญาณิน(ญาณสื่อรัก) กรรณา(กับดักรักลวง) สุคนธรส(เล่ห์บ่วงมนตรา) กรรัมภา(มายาร้อยใจ) เนตรสิตางศุ์(เปลวไฟในสายลม) กรรัมภาเป็นสมาชิกสาวคนหนึ่งในบริษัท ซิกซ์เซนส์ จำกัด หรืออีกนัยน์หนึ่งก็คือบริษัทกำจัดผี ที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยส่งวิญญาณทั้งหลายให้ไปสู่สุขคติภพ และเพื่อความเป็นปกติสุขของผู้คน กรรัมภาเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถพิเศษในเรื่องของการสื่อสารทางการสัมผัส หรือก็คือการใช้มือไปสัมผัสกับคนหรือสิ่งของต่างๆ แล้วจะสามารถอ่านหรือรับรู้เรื่องราวที่ผ่านมาต่างๆ ได้นั่นเองค่ะ และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้กรรัมภาจะมีเครื่องแต่งกายเป็นถุงมืออยู่เป็นนิจเพื่อหลีกเลี่ยงการรับสัมผัสจากสื่อต่างๆ ที่ต้องไปแตะต้อง กรรัมภาเป็นลูกสาวในตระกูลที่เรียกได้ว่าร่ำรวย อยู่ในสังคมไฮโซโก้หรู และที่สำคัญเธอยังเป็นแฟนคลับดาราเกาหลีถึงขนาดที่เรียกได้ว่าคลั่งไคล้บ้าดาราก็ว่าได้ พระเอกของเรื่องคือ ปาร์คจุนจี ดาราดังเกาหลีที่กำลังเดินทางมาเยือนประเทศไทยเพราะงานที่รับเอาไว้ ในวันที่ชายหนุ่มเดินทางมาถึง กรรัมภาได้ไปต้อนรับเขาด้วยและการกระทำเว่อๆ ด้วยการใส่ชุดอย่างคนเกาหลีและมีของที่ระลึกมอบให้กับดาราหนุ่มด้วย แต่เขาไม่สนใจและทิ้งผ้าไหมพรหมหน้าตาเฉย แต่ถึงอย่างนั้นกรรัมภาก็ยังคลั่งไคล้ดาราเกาหลีไม่เลิกจนถูกจุนจีมองว่าเป็นแฟนคลับโรคจิต เหตุการณ์ที่ทำให้ปาร์คจุนจี มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับ กรรัมภามาจากเหตุการณ์ที่กองถ่ายของจุนจีถูกวิญญาณป่วนจนถ่ายทำไม่ได้ เขาจึงต้องบากหน้ามาจ้างกลุ่มห้าสาวปราบผีตามคำบอกเล่าแกมบังคับของผู้จัดการที่เกลี้ยกล่อมจนสำเร็จ ซึ่งวิญญาณนั้นก็คือ พิมพ์พิลาส ย่าของปาร์คจุนจีที่มาเพื่อขอร้องให้ช่วยสืบหาตัวคนร้ายที่ทำให้ตนต้องตาย กรรัมภาและปาร์คจุนจีได้รับรู้เรื่องราวและช่วยกันสืบหาจนสามารถรู้ตัวคนร้ายได้ว่าคือคนใกล้ชิดของพิมพ์พิลาสนั่นเองค่ะ เรื่องนี้น่ารักดีค่ะ พระเอกเกาหลี กับนางเอกคุณหนูช่างฝัน แค่ตัวละครก็น่ารักแล้ว สำนวนภาษาอ่านง่ายเข้าใจไม่ซับซ้อน และการนำเสนอของตัวละครก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ โดยเหตุผลส่วนตัวแล้วชอบนางเอกน่ารักแบบนี้อยู่แล้วค่ะ ไม่ถึงขั้นติงต๊องแต่ก็ไม่แข็งทื่อเป็นไม้ท่อน ติดใจก็การพบกันครั้งแรกของพระนางในเรื่องนี้เป็นมุมที่แอบสงสารนางเอกนิดๆ และหมั่นไส้พระเอกมากกกค่ะ แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยดี สนุกดีค่ะ
chutarat | 3 รีวิว
14/09/2013

มายาร้อยใจเป็นหนังสือเรื่องหนึ่งในนิยายชุด The Sixth Sense ที่มีด้วยกันทั้งหมด 5 เรื่อง ซึ่งนางเอกของทั้ง 5 เรื่องนี้เป็นผู้มีสัมผัสพิเศษแตกต่างกันไป ญาณิน กรรณา สุคนธรส เนตรสิตางศุ์ กรรัมภา 5 สาวผู้มีสัมผัสพิเศษคบกันมาตั้งแต่สมัยเป็นน้องใหม่ของคณะจิตรกรรมจนกระทั่งเรียนจบ ทั้ง 5 คนก็ได้เปิดบริษัทซิกซ์เซนส์รับกำจัดผีทั่วราชอาณาจักร โดยใช้ความสามารถพิเศษที่แต่ละคนมี เพื่อหวังที่จะช่วยเหลือผู้คนและเหล่าวิญญาณให้พ้นจากความทุกข์ กรรัมภานางเอกในเรื่องนี้มีสัมผัสพิเศษ โดยเวลาที่กรรัมภาสัมผัสคนหรือสิ่งของแล้วจะสามารถรับรู้ความทรงจำจากคนหรือสิ่งของนั้นได้ ปกติกรรัมภาจึงต้องใส่ถุงมือลงอาคมไว้เพื่อไม่ให้ไปรับรู้ความทรงจำจากสิ่งต่างๆ เพราะบางครั้งมันก็ไม่ใช่ความทรงจำที่ดีที่กรรัมภาสามารถรับรู้ได้ กรรัมภาเป็นคุณหนูที่ทางบ้านมีฐานะร่ำรวย เธอมีดาราที่ชื่นชอบคือ ปาร์คจุนจี เป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย – เกาหลี ซึ่งปาร์คจุนจีได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อที่จะถ่ายทำละครเป็นเวลา 2 เดือน กรรัมภาก็ได้เดินทางไปรับด้วย เพื่อความเด่นกรรัมภาจึงได้ใส่ชุดฮันบกไปรับ และได้เอาเสื้อไหมพรมที่ถักเองไปให้ด้วย แต่ปรากฏว่าเสื้อไหมพรมตัวนั้นกลับถูกทิ้งลงถังขยะ หลังจากนั้นกรรัมภาก็ยังทำตัวเป็นแฟนคลับที่คลั่งไคล้ต่อไปจนจุนจีเข้าใจว่ากรรัมภาเป็นแฟนคลับโรคจิต เพราะในอดีตพิมพ์พิลาสผู้เป็นย่าของจุนจีเคยไล่เกรียงไกรและลีซอง พ่อและแม่ของจุนจีออกจากบ้านเพราะไม่ยอมรับลีซองซึ่งเป็นผู้หญิงเกาหลีเป็นลูกสะใภ้ แม้เกรียงไกรจะเพียรส่งจดหมายจากเกาหลีเพื่อติดต่อพิมพ์พิลาศที่เมืองไทยไปก็ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับเลย จึงทำให้จุนจีมีอคติกับพิมพ์พิลาศและไม่อยากที่จะติดต่อด้วย แต่เกรียงไกรขอร้องให้ระหว่างที่เดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้นำกล่องเครื่องประดับไปมอบให้พิมพ์พิลาสด้วย แต่ในสัปดาห์ก่อนหน้าที่จุนจีจะมาถึงเมืองไทย พิมพ์พิลาสก็ได้ถูกคนร้ายเอางูพิษมาปล่อยให้กัดพิมพ์พิลาสจนตายโดยมีคนร้ายคอยยืนดูจนกระทั่งพิมพ์พิลาสหมดลมหายใจ โดยพิมพ์พิลาสมองเห็นแค่รองเท้าส้นสูงที่คนร้ายใส่ แต่ตำรวจกลับสรุปว่าการตายของคนร้ายเป็นอุบัติเหตุ ทำให้พิมพ์พิลาสคอยตามหลอกจุนจีที่อยู่ระหว่างถ่ายทำละครจนกองถ่ายไม่สามารถถ่ายทำซีนที่มีจุนจีร่วมแสดงได้ เพื่อให้จุนจีช่วยรื้อคดีขึ้นมาเพื่อตามหาคนร้ายให้ ทำให้จุนจีโดนผู้จัดการเกลี้ยกล่อมให้ไปที่บริษัทซิกซ์เซนส์เพื่อให้จัดการที่ตามรังควานให้ จนได้กรรัมภามารับเคสของจุนจีทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน อ่านได้แบบเรื่อยๆ เพลินๆ เพราะตอนแรกพระอกทำตัวเหมือนเย็นชาแต่อ่านไปก็จะพบเหตุผลของการทำตัวแบบนั้นของพระเอก ส่วนนางเอกจะค่อยๆมีพัฒนาการทางด้านความรู้สึกที่ลึกซึ้งและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาจากตอนแรกที่เหมือนจะคลั่งไคล้จนน่ากลัว ซึ่งตัวคนร้ายที่ฆ่าพิมพ์พิลาสเดาได้ไม่ยาก เพราะเรื่องของผลประโยชน์มันเห็นกันชัดๆอยู่แล้วว่ายกให้ใคร แต่แปลกใจกับพินัยกรรมของพิมพ์พิลาศมาก เพราะตอนที่พิมพ์พิลาศทำพินัยกรรมกำธรบุตรชายคนโตของพิมพ์พิลาศก็ยังไม่ตาย แต่พิมพ์พิลาศกลับไม่ยกอะไรให้เลย

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024