นวนิยายชุด ลูกไม้ของพ่อ : หัวใจใกล้รุ่ง (อัสย่าห์)

นวนิยายชุด ลูกไม้ของพ่อ : หัวใจใกล้รุ่ง (อัสย่าห์)

2 รีวิว  2 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001939
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 250.00 บาท 62.50 บาท
ประหยัด: 187.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

คอนเสิร์ตเริ่มบรรเลง...

“ได้ยินเสียงแว่วดังแผ่วมาแต่ไกลไกล ชุ่มชื่นฤทัยหวานใดจะปาน ฟังเสียงบรรเลง ขับเพลงประสาน จากทิพย์วิมาน ประทานกล่อมใจ..." เสียงเพลงหวานละมุนคลอเคล้าห่วงทำนองดนตรีตามจังหวะจาก หีบเพลงชัก (Accordion) ดังขึ้นในยามรุ่งสางของเช้าวันอาทิตย์ ณ หน้าบ้าน ทาวน์เฮาส์หลังเล็ก แสงเรืองรองตรงเส้นขอบฟ้าเริ่มแย้มทักทายวันใหม่

ชายวัยกลางคน หน้าตาอบอุ่นและใจดี หันยิ้มให้บุตรสาววัยห้าขวบ ที่มักตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อปีนขึ้นเก้าอี้มานั่งข้างๆ บิดาพร้อมฟังเพลงโปรดที่บิดา ชอบร้องและเล่นในยามว่างของทุกวัน

เด็กน้อยจ้องมองบิดาตาแป๋ว แม้จะเพิ่งลุกจากเตียงได้ไม่นาน คราใด

ที่ได้ยินเสียงเพลงนี้และเสียงดนตรีจากหีบเพลงชักของบิดา ไม่ว่าหนูน้อย

จะนอนหลับหรือกำลังห่าอะไรอยู่ก็ตาม ก็จะต้องวิ่งมาตามเสียงนี้เสียทุกครั้ง

“พ่อหนูอยากฟังอีก” บุตรสาวบอก เมื่อเห็นบิดาเล่นเพลงจบ นัยน์ตา

กลมโตของหนูน้อยจับจ้องหีบเพลงชักบนตักบิดาด้วยความสนใจเหมือนทุกครั้ง     

“เอาเพลงไหนลูก” บิดาถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“เพลงเมื่อกี้ค่ะ”

บิดาส่ายหน้ายิ้มๆ และครวญเพลงพร้อมกับเล่นหีบเพลงชักอีกครั้ง

โดยมีบุตรสาวตัวจ้อยเป็นผู้ฟังที่ดี ตั้งอกตั้งใจฟังเหมือนเช่นเดิม

“เพลงเมื่อกี้ชื่ออะไรลูก” บิดาถามเมื่อเล่นเพลงเดิมจบเป็นรอบที่สอง

“ใกล้รุ่งค่ะ”

“ใกล้รุ่งแปลว่าอะไรเอ่ย”

“แปลว่า พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นค่ะ” หนูน้อยตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด “พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแปลว่าอะไร” บิดาถามต่อ

“แปลว่า ชีวิตยังมีความหวังค่ะ” เด็กน้อยตอบอย่างฉับไว แม้เสียง

จะไม่ชัดเจนนัก

“ชีวิตยังมีความหวังแปลว่าอะไรเอ่ย”

“แปลว่าใกล้รุ่งคนนี้” หนูน้อยจิ้มนิ้วชี้เล็กจ้อยไปที่อกตัวเอง

“แล้วใกล้รุ่งคนนี้แปลว่าอะไรเอ่ย ลูก” บิดาชี้นิ้วไปที่บุตรสาว นัยน์ตากลมแป๋ว

“แปลว่าความหวัง ความสุขของทุกคน” เด็กน้อยตอบเสียงเจื้อยแจ้ว

บิดายิ้มพึงพอใจระคนเอ็นดู วางหีบเพลงชักคู่ใจตรงข้างกาย และช้อน บุตรสาวมานั่งตัก “เก่งมากครับ ลูกสาวของพ่อจะเป็นตัวแทนแห่งความหวัง

และความสุขของพ่อและทุกคน เหมือนบทเพลงนี้ของในหลวงที่พระองค์ท่าน

ได้ทรงประทานให้แก่คนไทยทุกคน”

เด็กน้อยละความสนใจจากหีบเพลงชักที่วางอยู่ใกล้ตัวทันที เพื่อหัน บอกกับบิดาด้วยรอยยิ้มสดใส “หนูรักในหลวงค่ะ”

จากนั้นหนูน้อยก็ปีนลงจากตักบิดา เพื่อวิ่งซอยเท้าเข้าไปในบ้าน แหงน มองพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่แขวนอยู่บน ฝาผนังบ้าน ตามด้วยยกมือประนม สองเท้าลากชิด และก้มศีรษะอย่างอ่อนช้อย อย่างที่เห็นบิดาทำเป็นประจำทุกวัน ทำให้บิดาที่จ้องมองมาจากด้านนอก คลี่

รอยยิ้มเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขและความภาคภูมิใจบทเพลงที่ในดวงใจนิรันดร์

อยากลืมลืมรักลืมมิลง กลับพะวงหลงเพ้อเปรียบปานเพลิงรักรุมสุมเศร้า เปลี่ยวเปล่าร้าวรอน

เมื่อรถบีเอ็มดับบลิวสีขาวคันหนึ่งชะลอมาจอดเทียบ หญิงสาว

ในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มเข้ารูปกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเกือบคืบ กับรองเท้า

ผ้าใบสี'นาตาลอ่อน ที่เดินอยู่ริมทาง ก็ก้มมองผ่านหน้าต่างกระจกรถ

“ขึ้นรถสิ” คนในรถกดกระจกลง และบอกเสียงขรึม

ใกล้รุ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ ก่อนตอบเนือยๆ ทั้งเหนื่อยและเพลียเพราะเพิ่ง กลับมาจากการสอนดนตรีทั้งวัน “รุ่งจะกลับบ้านแล้ว ขี้เกียจออกไป”

“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยไม1ได้หรือไง หรือลืม...เพื่อนคนนี้ไปแล้ว” สิงขร ตังอัครวงศ์ ตัดพ้อกลายๆ

ใกล้รุ่งจำต้องก้าวขึ้นไปนั่งข้างคนขับ หล่อนหยิบกระเป๋าย่ามกับกระเป๋า ใส่อูคูเลเล่ที่สะพายไว้ด้วยกัน ไปวางไว้ที่เบาะหลัง และรัดเข็มขัดนิรภัยอย่าง เรียบร้อย

“เพิ่งกลับมาจากทำงานเหรอ” สิงขรถามขึ้นขณะรถค่อยๆ เคลื่อนตัว

“อือฮึ แล้วสิงกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“เมื่อวานนี้เอง”

“กลับมากี่วันล่ะ คราวนี้” ใกล้รุ่งหันถาม

“คราวนี้คงนาน เซ็งเป็นบ้า ต้องงดบินยาว” สีหน้าคนพูดฟ้องว่าระอาเอาการ

“อ้าว ทำไมล่ะ” หล่อนมีสีหน้าฉงน

“ข้อมือเจ็บ หมอบอกให้พักยาว”

ใกล้รุ่งเหลือบมองไปยังข้อมือด้านขวาของเขาที่มีผ้าพันแผลสีเนื้อพันไว้ จึงหน้านิ่วทันที นึกห่วงเขาขึ้นมาทันใด แต่ยังปันหน้านิ่ง

“แล้วไปทำอะไรมา ถึงเจ็บข้อมือ หรือตีเทนนิสมากเกินไป” หล่อนรู้ว่า สิงขรโปรดปรานกีฬาเทนนิสนักหนา ถ้าเขาไม่ได้เป็นนักบินละก็ คงได้เอาดี กับการเป็นนักเทนนิสอย่างแน่นอน

“เปล่า พอดีเครื่องเฮลิคอปเตอร์ดับกลางอากาศตอนบินสำรวจปาไม้ เลยได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย”

“อ้า! เครื่องดับกลางอากาศ”ใกล้รุ่งโพล่งออกมาด้วยความตกใจนัยน์ตา โตเบิกกว้าง ในความคิดของหล่อน การที่เครื่องเฮลิคอปเตอร์ดับกลางอากาศ นั่นคือหมายถึง เครื่องคงต้องดิ่งพสุธา และนำมาซึ่งการเสียชีวิตแน่นอน

“ทำไมต้องทำเสียงทำหน้าตกใจแบบนั้นด้วย แค่เครื่องดับกลางอากาศ เท่านั้นเอง” เขาส่ายหน้าขำๆ

“จะบ้าเหรอ ลิง เครื่องเฮลิคอปเตอร์ดับกลางอากาศนะ แล้ว...แล้ว ลิงรอดมาได้ยังไง เป็นอะไรหรือเปล่า!” หญิงสาวลืมรักษามาด เพราะห่วงเขา อย่างมาก แม้เขาจะยังดูปกติ แต่อาจมีอาการบาดเจ็บร้ายแรงซ่อนอยู่ก็ได้ เฮลิคอปเตอร์ดับกลางอากาศเชียวนะ

“ห่วงผมหรือไง” เขาถามยิ้มๆ

“ยังจะเล่นอีก รุ่งถามว่าลิงบาดเจ็บอะไรอีกหรือเปล่า!” ใกล้รุ่งถาม อย่างร้อนใจ

“ถ้าเป็นจะมานิ่งอยู่ตรงนี้!ด้เหรอ ก็แค่ข้อมือกระแทกกับแผงหน้าปัด เครื่องแรงไปหน่อยก็เท่านั้น”

“แต่...เครื่องดับกลางอากาศนะ...เครื่องต้องดิ่งพสุธาไม่ใช่เหรอ...แต่ ทำไม...” ใกล้รุ่งถามอย่างงงงัน

“เครื่องดับกลางอากาศก็ไม่ได้หมายความว่า เครื่องต้องร่วงเหมือน ดิ่งพสุธาซะหน่อย เราก็ค่อยๆ ประคองเครื่องลงมาช้าๆ เหมือนลูกยางที่เรา เคยเล่นตอนเด็กๆ ที่พอเราโยนขึ้นไป มันก็ค่อยๆ หมุนเป็นเกลียวลงมาช้าๆ แบบนั้นแหละ” สิงขรอธิบาย

“ทำได้ด้วยเหรอ” ใกล้รุ่งมีลีหน้าทึ่ง

“ได้สิ ล้านักบินผ่านการฝึกฝนและมีความชำนิชำนาญ การขับเฮลิคอป- เตอร์เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ แล้วก็ไม่สามารถจอดช้างทางเหมือนรถยนต์ได้ นักบินก็ต้องได้รับการฝึกฝนให้รับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าและการลง จอดฉุกเฉิน ก็เหมือนกรณีที่กัปตันนำเครื่องบินแอร์บัสถลาลงจอดที่แม่นั้าฮัดสัน ในฝังตะวันตกของเกาะแมนฮัตตัน นิวยอร์กนั่นแหละ”

ใกล้รุ่งพยักหน้า โล่งใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น อย่างน้อยเขาก็ไม่น่าได้รับ อุบัติเหตุร้ายแรงอะไร แต่ก็ยังนึกห่วงอาการบาดเจ็บของข้อมือเขา “แล้วข้อมือ บาดเจ็บตอนไหน”

“ตอนเครื่องกำลังจะแตะพื้น เบรกผิดจังหวะไปหน่อย ที่นั่งผมตรงกับ คานสกีของเครื่องพอดี เลยกระแทกแรงไปนิด” ชายหนุ่มยักไหล่เล็กน้อย “แล้วข้อมือเป็นยังไงบ้าง”

“ก็เอ็นข้อมืออักเสบ”

“ต้อง ผ่าตัดหรือรักษา ยังไง”

“แค่ฉีดยา แต่ต้องพักนานหน่อยก็เท่านั้น”

“งั้นก็ต้องเชื่อหมอหน่อยละ ไม่งั้นได้อักเสบเรื้อรังแน่” หล่อนรู้จักนิสัย เขาดีว่าไม่ยอมอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ตามหมอสั่งง่ายๆ หรอก

“แล้วคุณล่ะ ยังสอนอูคูเลเล่1อะไรนั่นอยู่หรือเปล่า” สิงขรเปลี่ยนไปถาม ค่าถามอื่นเลียดื้อๆ นัยน์ตาคมยาวรีกวาดมองทั่วดวงหน้าเนียนปราศจาก

เครื่องสำอางแวบหนึ่ง

พออาการตกใจและห่วงเขาจับจิตจางหายไป ก็อดรู้สึกถึงความห่างเหิน จากสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้เรียกหล่อนหรือตัวเขาเองไม่ได้ แต่ทั้งสองไม1ได้เป็น เด็กๆ เหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป จะได้มาเรียกเธอ เรียกเรา อีกอย่างตอนนี้ เขาก็เป็นนักบินของสำนักการบินอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ไม1ใช่เด็กน้อย ที่ตัวติดกับหล่อนเป็นปาท่องโก๋อีกต่อไป

“อือ ยังสอนอยู่”

“แล้วแสงแรกกับคุณป้าเป็นไงบ้าง”

“อือ ก็ดี” หล่อนตอบสั้นๆ

สิงขรตวัดสายตามองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง ตามด้วยแขวะเสียงเรียบ “ตอบ ยาวกว่านี้แล้วจะตายหรือไง”

ใกล้รุ่งปรายตามองอีกฝ่ายบ้าง “ก็มันไม่มีอะไร จะให้ตอบยาวแค่ไหน”

“คนเป็นทอมนี่มันกวนประสาทแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า” คนขับถามขึ้นอีก

“แล้วนักบินปากร้ายเหมือนกันทุกคนหรือเปล่า” หล่อนสวนกลับบ้าง ด้วยเสียงยานคาง ปัดผมด้านหน้าที่ตกลงมาปรกหน้า

“ไว้ผมทรงนี้ เลิกเป็นทอมแล้วหรือไง” คนขับรถนึกจะเปลี่ยนประเด็น คำถามก็เปลี่ยนเสียดื้อๆ

หล่อนเพิ่งไปตัดผมทรงนี้มาเมื่อเดือนก่อน เป็นผมบ๊อบที่ออกแบบ

อย่างมีลูกเล่น ด้วยการสไลซ์ด้านหนึ่งให้สั้นกว่าอีกด้าน และท่าสีผมเป็น

สีน้ำตาลอ่อนด้วย

“จะมายุ่งกับเรื่องรุ่งเป็นทอมอะไรนักหนาเนี่ย” ใกล้รุ่งตอบเสียงละเหี่ย ไม่ได้เจอกันหลายเดือน สิงขรก็ยังคงกวนประสาทได้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

“ก็มันยัง'ไม่หายขำนี่ จู่ๆ เพื่อนที่คบกันมา วันหนึ่งกลายเป็นทอมไปหน้าตาเฉย” น้ำเสียงเรียบเฉยของเขา ยากจะตีความได้ว่า เขาอยู่ในอารมณ์ขำ หรือหยันกันแน่

“ไม่เห็นน่าขำตรงไหน คนเป็นทอมกันเยอะแยะ”

“แล้วยังคบกับ...จุ๊บจิ๊บอยู่หรือเปล่า” ใบหน้าคมสันเคร่งขรึมขึ้นและ

ยังซักไซไม่เลิก ราวกับตำรวจสอบสวนผู้ร้าย

“ก็ไม่เชิงคบ ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว” หล่อนกับจุ๊บจิ๊บเป็นเพื่อนกัน มาตลอด ไม่เคยเป็นทอมดี้อย่างที่เขาคิด แต่เพราะเหตุผลบางประการทำให้ เขาต้องเข้าใจผิด และหล่อนก็ไม่เคยแล้ไขความเข้าใจผิดนั่น เพราะคิดว่าคง ไม่จำเป็น คนเป็นเพื่อนกัน ความเป็นทอมเป็นดี้ คงไม่ใช่สาระสำคัญอะไรสักหน่อย ถึงหล่อนจะกลายเป็นทอมไปจริงๆ อย่างที่เขาเข้าใจ ก็ไม่น่าจะกระทบกับความเป็นเพื่อนของทั้งสอง

“แล้วกำลังคบใครอยู่อีกหรือเปล่า”

“เปล่า ช่วงนี้เซ็งๆ อยากอยู่คนเดียว” ใกล้รุ่งช่างตอบได้เนียนเหลือเกิน เคยมีคนรักกับเขาหรืออย่างไร โสดสนิทมาตลอดยี่สิบเจ็ดปี อีกสามปี ก็เลี้ยง ฉลองครบรอบความโสดสนิทสามลิบปีได้พอดี

“ถามจริงๆ เหอะ เคยคิดบ้างมั้ยถ้าเป็นทอมแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตอนแก่

จะทำยังไง ใครจะดูแล” สิงขรถามเสียงจริงจัง

ใกล้รุ่งถอนหายใจเบาๆ เหนื่อยใจกับการยิงคำถามของอีกฝาย “อีกหน่อยแสงมันแต่งงานก็คงมีลูก หลานๆ มันคงช่วยดูแลป้ามันบ้าง หรือไม่ก็ไปอยู่บ้านพักคนชราก็เท่านั้นแหละ”

ไม่เข้าใจว่าเขาจะซักไซ้อะไรกันนักหนา แต่ละคำถามไม่น่าอภิรมย์และ ไม่น่าตอบเอาเสียเลย

“ก็จริง ไปอยู่บ้านพักคนชราน่าจะโอเค” นี้เสียงเขาเรียบนั่งเสียจนยาก จะฟันธงว่าเป็นการประชดประชัน

ใกล้'รุ่ง,ทำปากขมุบขมิบ นึกว่าหล่อนไม่แสลงใจหรืออย่างไร ใครจะ อยากมีบั้นปลายชีวิตลงเอยที่บ้านพักคนชรากัน หล่อนก็อยากมีครอบครัว

มีสามี ลูกๆ เช่นคนอื่นเหมือนกันนะ แต่ก็นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าตัวเอง

จะมีความสุขกับสามีและลูกๆ ได้อย่างไร ถ้าใจยังคอยประหวัดถึงผู้ชาย

อีกคน...ที่นั่งอยู่ข้างๆ กันในขณะนี้

“ซักอยู่ได้ยังกับเป็นตำรวจ แล้วทำไมไม่โทร. ชวนมิ้มไปกินข้าว มา

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

ถ้าเปรียบชีวิตแต่ละช่วงแต่ละตอนเป็นดังบทเพลงแต่ละเพลง ใกล้รุ่ง ครูสาวสอนอูคูเลเล่ก็เชื่อว่า สิงขร นักบินหนุ่มแห่งสำนักการบินอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ คงเป็นเสียงดนตรีที่ขาดไม่ได้ในบทเพลงชีวิตของเธอ ทว่าท่วงจังหวะทำนองที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียว ส่งผลให้บทเพลงรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งต้องผิดเพี้ยนไป จนเมื่อ นักบินหนุ่มผู้ทะนง เฉยชา และปากร้ายในบางครา มีนัยน์ตาชวนให้ใจสั่นหวั่นไหว กลับเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง...และครั้งนี้ทั้งสองจะร่วมกันตามหาตัวโน้ตที่หายไปให้กลับคืนมาได้หรือไม่ พบกับเรื่องราวชีวิตผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ ที่สุดแสนอ่อนหวานละมุน จุดประกายแห่งความหวัง และลงเอยด้วยความสว่างไสวของหัวใจทุกดวง


รีวิว (2)

เขียนรีวิว

ฐาปนัส | 2 รีวิว
13/08/2014

ผู้เขียน อิสย่าห์ สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ จำนวนหน้าหนังสือ 408 หน้า ในละครเป็นตอนที่ผมชอบมาก ๆ อีกตอนหนึ่ง แต่ไม่รู้ทำไมกว่าจะหยิบหนังสือมาอ่านได้ถึงได้ใช้เวลานานนัก ซึ่งในเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของเพลงพระราชนิพนธ์ครับ โดยเพลงพระราชนิพนธ์จะดำเนินผ่านโดยพระนาง ใกล้รุ่ง และ สิงขร ที่ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ดูเหมือนจะมีเพียงใกล้รุ่งที่คิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียว และการเล่นเกมกันไปเล่นเกมกันมาของคนทั้งคู่ ทำให้ความรักที่ดูเหมือนจะอยู่ไม่ไกลนัก ไกลออกไปจนเกือบจะกลายเป็นแค่เส้นขนานเลยทีเดียว นางเอกก็เป็นพวกปากแข็ง พระเอกก็เป็นพวกอีโก้จนเกินไป ลุ้นเหนื่อยเหมือนกันครับว่าจะลงเอยกันได้อย่างไร ครอบครัวนางเอกจะค่อนข้างมีปัญหาพอสมควรครับ โดยเฉพาะในส่วนของน้องชาย นายแสงแรก ที่คิดแบบวัยรุ่นว่าแม่บังคับอยู่ในกรอบและกฎเกณฑ์ กว่าจะปรับความเข้าใจกันได้ก็เกือบ ๆ ท้าย ๆ เล่ม ซึ่งตรงนี้ก็ซาบซึ้งมาก จุดนี้เรียกความประทับใจของหนังสือได้เยอะขึ้นอีกครับ ในส่วนของเพลงพระราชนิพนธ์ ผมชอบตรงนี้มากที่สุดแล้วในหนังสือ เพราะจะมีแทรกตลอดในไทม์ไลน์ชีวิตของพระเอกและนางเอก ซึ่งผมเองก็ชื่นชมคนแต่งที่นำมาใส่ได้สอดคล้องกับเนื้อเรื่องมาก ๆ ครับ แรก ๆ อ่านก็ยังรู้สึกเนือย ๆ แต่หลัง ๆ เมื่อความรู้สึกต่าง ๆ ที่อ่านมาแต่ตอนแรก ๆ มันเริ่มกลับมารีเพลย์อีกครั้งหนึ่ง มันจึงเป็นความประทับใจและซาบซึ้ง อบอุ่นจนจบเล่มครับ คือต้องชมคนเขียนที่ค่อย ๆ ดึงความประทับใจมาตั้งแต่แรก ๆ ให้รู้สึกได้ในท้าย ๆ เรื่อง ตรงนี้ผมให้คะแนนเต็มครับ หายากเหมือนกันที่ผู้เขียนหนังสือจะเขียนลักษณะนี้ นอกจากเพลงพระราชนิพนธ์แล้ว ยังมีเพิ่มอีกนิดคือ พระเอกของเรื่อง นายสิงขร เป็นนักบินของสำนักการบินพิทักษ์ป่า (ผมจำชื่อไม่ได้ครับ) มาแนว ๆ เดียวกันกับนายทิว จากในม่านเมฆ แต่เท่ ๆ คนละแบบครับ เสียดายที่ตรงนี้มีรายละเอียดน้อยมาก คือแค่บอกอาชีพของพระเอกเท่านั้นเอง ถ้าเพิ่มตรงนี้อีกนิดจะดีกว่ามากครับ จะได้รู้ว่าหน่วยงานนี้ทำอะไรบ้าง และทำอย่างไร ถ้าเทียบกันกับละคร ผมว่าหนังสือน่าจะดีกว่านะ ในหนังสือจะออกแนวเรียบ ๆ แต่มีเซอร์ไพรส์พระเอกในเรื่องของรอยสัก แต่ในส่วนของละคร มีการปรับบทไปเยอะ เพลงพระราชนิพนธ์ก็ค่อนข้างน้อย จะเน้นไปที่เรื่องราวของพระเอกและนางเอกที่แง่งอนกันไปมามากกว่า เพราะฉะนั้นผมให้เนื้อหาในหนังสือชนะไปครับ เพราะอ่านหนังสือแล้ว ไม่นึกอยากดูละครอีกเลย ก็สรุปว่า สนุกสมใจอยากผมนั่นแหละครับ
ศรัญญา | 2 รีวิว
25/10/2013

นิยายเรื่องหัวใจใกล้รุ่ง ผู้แต่ง อิสย่าห์ เรื่องนี้ไปร้านหนังสือทีไรมักจะวางอยู่ในส่วนที่ทางร้านจัดรายการโปรโมท เป็นนิยายชุด สิ่งแรกที่สะดุดตามากที่สุดคือ ปก ปกของนิยายชุดเซตนี้สวยมาก ยิ่งซ้อแบบ boxset ยิ่งสวย (แต่ไม่กล้าซื้ออะนะเพราะเราไม่มั่นใจในเนื้อนิยาย) นิยายชุดที่แต่งขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวง ในส่วนของเรื่องนี้หัวใจใกล้รุ่ง เป็นเล่มแรกที่ลองซ้อมาอ่านและเป็นเล่มเดียวที่อ่านสำหรับนิยายชุดนี้ ในส่วนการเขียนผู้แต่งเขียนด้วยภาที่ดูจะสวยกว่ากว่านิยายทั่วไปที่ได้อ่านมา ด้วยเนื้อหาและเรื่องราวมันต้องออกมาแนวงดงาม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เล่าเกี่ยวกับความรักของเพื่อน ใกล้รุ่ง และ สิงขร ทั้งสองคนเป็นเพื่อกันมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยจนทำให้รู้สึกใกล้ชิดและผูกพัน ไม่ใช่อีกฝ่ายรักข้างเดียว แต่เป็นความรักที่เกิดจากความผูกพันของทั้งสองคน ใกล้รุ่งเองรู้สึกดีกับสิงขร มาตั้งแต่เด็ก เรื่องนี้ทังพระเอกและนางเอกปากไม่ตรงกับใจ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพูดหรือเผยความรู้สึกที่มีในใจ ซ้ำร้ายสิงขรก็ดันไปมีแฟนเป็นหญิงสาวที่โรงเรียนเดียวกัน เป็นแค่เพื่อนกันมันก็ช้ำจะแย่ แต่ทุกครั้งที่สิงขรไม่ได้อยู่กับแฟนก็มักจะลากเธอไปไหนมาไหนด้วยตลอด เข้าทำนองใกล้กันยิ่งกลั้นใจ (ตรงนี้แอบอินนะ มากด้วย ^^) ก็ใช่ว่าสิงขรมีแฟนแล้วจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับใกล้รุ่ง สิงขรเองก็พยายามบอกรักใกล้รุ่งตั้งแต่ยังเด็ก แต่ใกล้รุ่งก็กลับคิดว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่น สิงขรก็เลยต้องปล่อยให้เป็นแค่เรื่องล้อเล่นไป กว่าจะเผยความในใจกันคนอ่านถึงกับเหนื่อยเลย สรุปเลยเรื่องนี้ ในความรู้สึกส่วนตัวของเราล้วนๆ เราแอบเสียดาย ด้วยหลาย ๆ อย่างในเรื่องที่มันน่าจะส่งให้เรื่องนี้ดูมีอะไรกว่าที่เป็นอยู่ แต่อ่านเท่าไหร่เราก็รู้สึกเฉย ๆ อ่านไปแบบเรื่อง ๆ อ่านบ้างข้ามบ้างให้จบ ชอบอย่างเดียวเลยของเรื่อง คือ การนำเอาเพลงพระราชนิพนธ์เข้ามามีส่วนในแต่ละบทของนิยาย คือชื่อแต่ละชื่อดูมันเพราะและมีความหมายเสริมและช่วยให้นิยายเรื่องนี้มีจุดเด่นขึ้นมาบ้าง เนื้อหาส่วนใหญ่มันจะหนักไปที่เรื่องความรักของพระเอกนางเอก องค์ประกอบทุกอย่างครบแต่เนื้อเรื่องดำเนินไปเรียบเกินไป ไม่มีจุดพีค ไม่มีอะไรให้คนอ่านได้ลุ้นระทึกหรือแอบกรีดจิกหมอน รีวิวทั้งหมดความรู้สึกของตัวเองเท่านั้นค่ะ ชอบแนวเพื่อนรักเพื่อนนะคะ แต่ก็ชอบแบบที่อ่านแล้วได้ลุ้นมันทำให้เราไม่เบื่อและเซ็งกับตัวหนังสือ

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024