รักสุดหัวใจ (มัลลิกา)

รักสุดหัวใจ (มัลลิกา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001168
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 180.00 บาท 45.00 บาท
ประหยัด: 135.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ภายในห้องนอนบนชั้นสองของบ้านไม้หลังเล็ก ชายหนุ่มร่างสูง

ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นและกางเกงยีนสีเข้ม ยืนกอดอกมองชุดครุยอันทรงเกียรติ

ที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าด้วยความภูมิใจ อีกไม่ถึงเดือนเขาจะสำเร็จการศึกษา หลังจากที่พากเพียรเล่าเรียนมาถึงสี่ปีเต็ม การเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย

และเลี้ยงลูกสาววัยหกขวบไปด้วย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยสำหรับชายหนุ่มอายุ ๒๒ ปีเช่นเขา

สรัลลูบไล้ชุดครุยขาวสะอาดอย่างเบามือ แม้ว่าตลอดสี่ปีที่ผ่านมาเขา

จะเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่พอนึกถึงวันรับปริญญาที่กำลังจะมาถึง

ความเหน็ดเหนื่อยทั้งหมดก็อันตรธานไปทันที อีกไม่กี่วันเขาจะได้เป็นบัณฑิต คณะเศรษฐศาสตร์สมความตั้งใจแล้ว

“พ่อขา” เสียงใสๆ ที่ร้องเรียกอย่างร่าเริง ดึงชายหนุ่มกลับมาจาก

ห้วงคิดของตนเอง เขาหันไปมองประตูห้องนอน ก่อนจะย่อตัวลงรับร่าง

น้อยๆ หอมแป้งเด็กฟังเข้ามาไวในอ้อมแขน “ลูกสาวใครเนี่ย หอมจังเลย”

สรัลหอมแก้มยุ้ยๆ ของลูกแก้วฟอดใหญ่ ลูกแก้วเป็นลูกสาวของเขา

กับอรดีเพื่อนร่วมชั้นเรียน ด้วยความที่ต่างคนต่างเป็นเด็ก เขาพลาดพลั้งทำ

เพื่อนสาวตั้งท้อง ทั้งคู่ต้องหยุดเรียนหลังจบมัธยมต้น พวกเขาต้องอยู่อย่าง

อัตคัด อรดีที่เป็นคนรักสบายจึงทนไม่ได้ หลังจากคลอดลูกแก้ว เธอก็เก็บ

ข้าวของจากไป ทั้งให้เขาเลี้ยงลูกตามลำพัง เขาต้องทำงานพร้อมกับเรียน

ภาคคํ่าไปด้วย โดยให้มารดาช่วยเลี้ยงลูกสาว พอท่านเสียก็ได้ป้าพรเพื่อนบ้านช่วยดูแลแทน

“ลูก'พ่อสรัลค่ะ” เด็กหญิงยิ้มจนตาหยี อวดลักยิ้มที่สองข้างแก้ม

“อ๋อ...ลูกพ่อนี่เอง มิน่าล่ะถึงสวยขนาดนี้ ขอพ่อหอมอีกทีนะ” เขา

หอมแก้มยุ้ยๆ อีกฟอดใหญ่ ก่อนจะมองหน้าลูกสาวเมื่อแกอ้อนถามเสียงหวาน

“วันนี้พ่อไม่ไปทำงานไม่ได้เหรอคะ”

“ทำไมล่ะคะ ลูกแก้วมีอะไรกับพ่อหรือเปล่า”

“ลูกแก้ว...” เด็กหญิงทำตาแดงๆ ก่อนจะซุกหน้ากับซอกคอของ

ผู้เป็นพ่อ “ลูกแก้วคิดถึงพ่อค่ะ ลูกแก้วอยากนอนกอดพ่อ”

“พ่อก็คิดถึงลูกแก้วค่ะ แต่ถ้าพ่อไม่ทำงาน เราจะไม1มีเงินใช้นะคะ”

สรัลลูบหลังลูกสาวอย่างปลอบโยน เขารู้ว่าลูกแก้วเหงา เพราะเขา

ไม่ค่อยมีเวลาให้แกเท่าไร ตอนกลางวันเขาต้องไปเรียน ส่วนตอนกลางคืน

ต้องไปทำงาน กว่าจะกลับเข้าบ้านลูกแก้วก็หลับไปแล้ว เขาเคยคิดจะไปหา

งานตอนกลางวันทำ เพื่อให้ตัวเองมีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้น แต่ไม1มีงานไหนเลย

ที่ให้ค่าตอบแทนนักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบมากเท่ากับงานที่อีรอสผับ

“ลูกแก้วอยากให้พ่อเลิกทำงานกลางคืน เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน

เยอะๆ” เด็กหญิงเอ่ยเสียงเครือ เธอยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจความจำเป็นของผู้เป็นพ่อ

“ไม1ร้องไห้นะคะ” เขาขยับตัวลูกสาวออกจากอ้อมแขน ก่อนจะเช็ด

น้ำตาให้แกอย่างอ่อนโยน “พ่อสัญญาค่ะ พ่อจะเลิกทำงานกลางคืนทันทีที่เรียนจบ”

“จริงนะคะพ่อ” เด็กหญิงเอ่ยถาม

“จริงค่ะ” เขาพยักหน้ายีนยัน ก่อนจะอ้าแขนรับลูกสาวที่โผเข้ามากอดด้วยความดีใจ

“ลูกแก้วรักพ่อที่สุดในโลกเลยค่ะ”

“พ่อก็รักลูกแก้วค่ะ รักลูกแก้วสุดหัวใจ” ชายหนุ่มกระซิบบอกลูกสาว

ด้วยหัวใจทั้งดวง ลูกแก้วเป็นเหมือนแก้วตาของเขา ตั้งแต่วันที่แกลืมตาดูโลก

เขาก็สาบานว่าจะเป็นพ่อที่ดี ไม่ว่าจะต้องลำบากสักเพียงใดก็ตาม

ลูกแก้วเงยหน้าจากไหล1ของผู้เป็นพ่อแล้วหันไปมองชุดครุยที่แขวนอยู่ หน้าตู้เสื้อผ้า

“ลูกแก้วอยากไปงานรับปริญญาของพ่อ พ่อพาลูกแก้วไปด้วยนะคะ” “ได้สิคะ วัน'ที่'พ่อมีความสุขที่สุด จะไม1มีลูกแก้วอยู่ด้วยได้ยังไง”

“ขอบคุณค่ะพ่อ ลูกแก้วดีใจที่สุดเลย” เด็กหญิงยิ้มให้พ่อจนตาหยี

ผู้เป็นพ่อยิ้มตอบพลางลุกขึ้นยืน

“พ่อสายแล้ว หนูไปอยู่กับยายพรนะคะ เลิกงานแล้วพ่อจะรีบกลับมา”

“ค่ะพ่อ” เด็กหญิงรับค่าอย่างว่าง่ายพลางยื่นมือให้พ่อจูงเดินออกไปจากห้องนอน

หน้ากระจกเงาบานใหญ่ ภายในห้องแต่งตัวพนักงานของอีรอสผับ

สรัลกลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายเข้ารังดุม ก่อนจะมองสำรวจความเรียบร้อยของ

ตัวเองอีกครั้ง อีรอสผับเป็นสถานบันเทิงระดับสูงลำหรับลูกค้าฐานะดี

พนักงานของที่นี่จึงต้องดูดีตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา กิริยามารยาท

ค่าพูดค่าจา ตลอดจนการแต่งเนื้อแต่งตัว ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

ดังนั้นการเข้าทำงานที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย

อีรอสผับคัดเลือกพนักงานจากรูปร่างหน้าตาเป็นอันดับแรก พนักงาน

ทุกคนต้องเป็นชายหนุ่มรูปหล่อ ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน อายุตั้งแต่สิบแปดปี จนถึงสามสิบปี เมื่อฝานการคัดเลือกพวกเขาจะถูกส่งไปฝึกฝนและอบรม การเข้าสังคมอย่างเข้มงวด พวกเขาต้องเรียนเต้นร่า เรียนผสมเครื่องดื่ม เรียนศิลปะการสนทนา ตลอดจนเรียนรู้จิตวิทยาเบื้องต้น เพื่อนำมาปรับใช้เวลาให้บริการแก่ลูกค้า

เขา,ทำงานที่อีรอสผับมาเกือบสี่ปีแล้ว ด้วยการแนะนำของรุ่นพี่คนหนึ่ง ในช่วงแรกของการทำงาน เขาเกือบจะถอดใจลาออกหลายครั้ง เพราะทน

ความเข้มงวดในการฝึกอบรมไม่ไหว แต่พอนึกถึงรายไค้จำนวนมากที่จะไค้รับ จากการทำงานที่นี่ เขาจึงอดทนอบรมต่อไปจนจบหลักสูตร และผ่านการ ทดสอบเข้าเป็นพนักงานของอีรอสผับ ซึ่งเรียกกันว่าโฮสต์ได้ในที่สุด

เขาจำไค้ว่าครั้งแรกที่ต้องออกไปรับรองลูกค้า เขาประหม่าจนทำอะไร ผิดๆ ถูกๆ แต่ดีที่แขกคนแรกของเขาไม่ติดใจเอาความ เธอให้กำลังใจและ เมตตาเขามาก เธอมักจะมาใช้บริการที่อีรอสผับบ่อยๆ จนกลายเป็นลูกค้า ประจำของเขาจนถึงทุกวันนี้

ลูกค้าของเขาส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวอายุสามสิบปีขึ้นไป บางคนเป็น เศรษฐีนีระดับต้นๆ ของประเทศ บางคนเป็นภรรยาของบุคคลสำคัญ และ บางคนเป็นช้าราชการระดับสูง ทุกคนล้วนแต่มีฐานะดี มีหน้ามีตาในสังคม มีเงินทองจับจ่ายใช้สอยอย่างไม่จำกัด แต่กลับไม่มีความสุขในชีวิต บางคน ทุกข์ใจเรื่องธุรกิจ บางคนทุกข์ใจเรื่องครอบครัว และบางคนมีชีวิตที่เงียบเหงา

พวกเธอมาที่อีรอสผับเพราะต้องการผ่อนคลายความตึงเครียดจาก ชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของโฮสต์อย่างเขาที่จะต้องหาวิธีต่างๆ มาช่วยให้ พวกเธอคลายความทุกข์ และกลับออกไปอย่างมีความสุข ปกติเขาก็แค่รับฟัง ความทุกข์ของพวกเธอ ก่อนจะปลอบโยนอย่างเข้าใจ และชวนให้ทำกิจกรรม สนุกๆ เพี่อให้พวกเธอลืมความกังวล แต่ก็มีบางคนที่ต้องการมากกว่านั้น หากสิ่งใดให้ไค้เขาก็ยอม หากสิ่งใดให้ไม่ได้ เขาก็จะปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวล การเป็นโฮสต์ แม้จะมีรายได้ดี แต่ก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบอย่าง เคร่งครัด ต้องเช้างานเวลาหกโมงเย็น และเลิกงานเวลาตีสองของวันรุ่งขึ้น หากใครมาสายจะถูกตักเตือนและถูกหักเงินเดือน ระหว่างการทำงานโฮสต์ ต้องสุภาพ ห้ามล่วงเกินลูกค้าไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น หากมีเรื่องร้องเรียนถึง ผู้จัดการ โฮสต์คนนั้นจะถูกไล่ออกจากงานทันที

หลังเลิกงานโฮสต์บางคนออกไปเที่ยวต่อกับลูกค้า แต่เขาไม่เคยทำ

แบบนั้น เพราะเขาเป็นโฮสต์ ไม่ใช่ผู้ชายขายบริการ แม้จะยากจน แต่ก็

ไม่เคยคิดจะขายศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อแลกกับเงิน และที่สำคัญเขาเป็นพ่อ ที่มีลูกสาวต้องเลี้ยงดู เขาจึงต้องทำตัวให้ดี เพื่อให้ลูกแก้วภูมิใจในตัวเขา

สรัลยิ้มด้วยความสุขใจ พอคิดถึงลูกสาวหัวใจก็พลันอบอุ่นขึ้นมาทันที

อีกไม่นานแล้วลินะ ที่เขาจะได้ทำหน้าที่พ่ออย่างสมบูรณ์ ชายหนุ่มหมุนตัวจาก หน้ากระจกเงา เมื่อพบว่าตัวเองพร้อมจะเริ่มงานแล้ว แต่กลับพบเพื่อนร่วม งานที่ไม่ค่อยถูกกัน ยืนมองอยู่ก่อนด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร

“เสน่ห์แรงเหลือเกินนะ สาวแก่แม่ม่ายติดกันแจ” กฤตเปิดฉากหาเรื่อง ก่อนเหมือนเช่นทุกครั้ง เขาไม่ชอบหน้าสรัลตั้งแต่แรกเห็น และยิ่งเกลียดมาก ขึ้นไปอีก เมื่อลูกค้าสาวรายล่าสุดที่เขาหมายตาไว้ บอกกับผู้จัดการว่าต้องการ จะคุยกับหมอนี่คนเดียวเท่านั้น

สรัลทำเป็นไม1ได้ยินเพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมหยุด กฤตเดินมาดักหน้าเขา ก่อนจะเอ่ยอย่างเหยียดหยาม

“ฉันอยากรู้นักว่าอะไรๆ ของนายมันเลี่ยมทองหรือไง ลูกค้าถึงได้ หลงใหลได้ปลื้มกันนัก”

“ใจสกปรก คิดได้แต่เรื่องสกปรก” สรัลเอ่ยลอดไรฟันอย่างเหลืออด

ก่อนจะเดินหนี แต่กฤตกลับคว้าไหล่เขาไว้พลางเอ่ยถามอย่างเอาเรื่อง

“นายว่าใคร”

“ปล่อย” เขาสั่งเสียงตํ่า

“บอกมาว่านายว่าใคร” กฤตตะคอกอย่างขู่เข็ญ

“ฉันบอกว่าให้ปล่อย” เขาสะบัดมือคู่ปรับออกจากไหล่อย่างหมดความ อดทน ทั้งสองจ้องตากันเขม็ง ก่อนจะถอยห่างออกจากกัน เมื่อสุเมธผู้จัดการผับตวาดถามเสียงดัง

“อะไรกัน”

“ไม่มีอะไรครับ” สรัลเป็นฝ่ายตอบเอง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายปิดปากเงียบไม่ยอมพูด

“ไม่มีอะไรก็แยกย้ายกันไปทำงาน อย่าให้รู้นะว่าทะเลาะกัน ถ้าใคร

ผิดกฎฉันไม่เอาไว้แน่” สุเมธเอ่ยเตือนสองหนุ่มเสียงเข้ม แต่ดวงตากลับจ้อง ไปที่กฤตอย่างรู้เท่าทัน อีรอสผับห้ามพนักงานชกต่อยกันในร้าน ทั้งที่ตั้งกฎไว้ อย่างเข้มงวด ก็ยังมีการแอบฝาผินอยู่เนืองๆ หนึ่งในนั้นก็คือนายกฤตที่ชอบ หาเรื่องคนอื่นไปทั่ว

“ครับ” กฤตรับคำแล้วหันหลังเดินออกไปจากห้อง แม้จะไม่พอใจสุเมธ ที่ชอบเข้าข้างสรัลอยู่เสมอ แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกให้อีกฝายรู้ เพราะไม่อยาก เสี่ยงโดนไล่ออกจากงานที่ให้รายได้งามอย่างอีรอสผับ

“นายกฤตมาหาเรื่องอะไรนายอีกล่ะ” สุเมธเอ่ยถามอย่างอ่อนใจ เขารู้ดี

ว่ากฤตไม่ชอบหน้าสรัลที่เป็นดาวเด่นของผับจึงหาทางกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ

“เรื่องเดิมๆ แหละครับ ผมไม1สนใจหรอก” ชายหนุ่มตัดบทอย่าง

ไม่อยากเอาความ กฤตจงเกลียดจงชังเขาอย่างออกนอกหน้า ทั้งที่เขาไม่เคย

ทำอะไรให้เลย ที่ผ่านมาถ้าเขาไม่อดกลั้นไว้ ก็คงจะมีเรื่องกันนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

“คิดได้อย่างนั้นก็ดี คนพาลไม่จำเป็นก็อย่าไปเข้าใกล้ มันจะทำให้เรา เดือดร้อนไปด้วย”

“ครับพี่”

สุเมธมองโฮสต์รุ่นน้องด้วยความพอใจ สรัลเป็นคนดี มีความ

รับผิดชอบ เขารู้ว่าฐานะทางบ้านของชายหนุ่มค่อนข้างล่าบาก สรัลมีลูกสาว

เล็กๆ ที่ต้องดูแล แต่ชายหนุ่มกลับไม่เคยออกไปกับแขก หรือปอกลอก

เงินทองจากแขกอย่างที่โฮสต์บางคนชอบทำ

“วันนี้นายมาลายมีอะไรหรือเปล่า”

“ลูกแก้วงอแงนิดหน่อยครับ ผมต้องขอโทษพี่ด้วย”

“ไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าบ่อยนัก ฉันไม่1อยากให้ใครมาว่าได้ว่าล่าเอียง” สุเมธตักเตือนด้วยความหวังดี การมาสายเป็นข้อห้ามที่สำคัญของอีรอสผับ

 

พนักงานทุกคนต้องมาทำงานก่อนผับเปิด ถ้ามาไม่ทันจะถูกตักเตือนและ

ถูกหักเงินเดือน ที่ผ่านมาเขารู้ว่าสรัลมีความจำเป็น จึงมักจะผ่อนผันให้เสมอ

“ครับพี่” สรัลพยักหน้ารับ แม้ว่าสุเมธจะเป็นคนเข้มงวด แต่ก็มีความ ยุติธรรมและเมตตาแก่ลูกน้องเสมอ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ เขาก็จะไม่ลงโทษใคร

“ออกไปทำงานเถอะมีแขกมานั่งรอนายนานแล้ว โต๊ะ ๑๕ นะ”

“ครับ”

สรัลเดินออกจากห้องแต่งตัวไปตามทางซึ่งทอดไปยังห้องโถง เขาเดิน

ผ่านบาร์เครื่องดื่มตรงไปยังโต๊ะ ๑๕ อย่างชำนาญทาง ลูกค้าของอีรอสผับ

ส่วนใหญ่ต้องการความเป็นส่วนตัว ทางผับจึงจัดโต๊ะแต่ละตัวให้ห่างกัน พอสมควร โดยโต๊ะทุกตัวหันไปยังฟลอร์เต้นรำขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางใต้หลังคารูปโดม

ชายหนุ่มหยุดยืนเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ ๑๕ ลูกค้าร่างบางที่นั่งรออยู่บน

โซฟาสร้างความแปลกใจให้เขาเป็นอย่างมาก เจ้าหล่อนเป็นหญิงสาวที่ดู

เยาว์รัยและงดงามกว่าลูกค้าทุกคนที่ผ่านมาของเขา เธอชะเง้อมองไปข้างหน้า

ด้วยท่าทางร้อนใจ โดยไม1รู้ว่าเขาเดินมาหยุดยืนข้างหลังเธอแล้ว

สรัลมองสำรวจแขกสาวของตนด้วยความสนใจอย่างไม1รู้ตัว เจ้าหล่อน เป็นหญิงสาวรูปร่างแบบบาง สวมกระโปรงสั้นสายเดี่ยวสีดำอวดท่อนขา

เรียวสวย เกล้าผมยาวสลวยเป็นหางม้าสูง เผยให้เห็นลำคอขาวผ่องชวนมอง

แค่เห็นด้านหลังก็รู้แล้วว่าเธอเป็นหญิงสาวที่สวยมากคนหนึ่ง เขาปัดความคิด เหลวไหลทิ้งไปแล้วเอ่ยทักทายเธอตามหน้าที่ของตน

“สวัสดีครับ”

หญิงสาวนั่งงันไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะหันหน้ามามองเขาด้วยทำทางแข็งๆ

‘คุณเอ่ย!’

ชายหนุ่มเบิกตาด้วยความประหลาดใจ เขาเคยเห็นรูปถ่ายของเธอ

                                 (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

"รักสุดหัวใจ" นำเสนอเรื่องราวของ "สรัล" จำใจต้องทำงานเป็นโฮสต์ในผับสำหรับคุณผู้หญิง เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัย และเลี้ยงดูลูกน้อยที่เกิดจากความพลาดพลั้งในวัยเรียน ส่วนรสิตาต้องการค้นหาความจริงและปกป้องมารดาที่กำลังจะถูกผู้ชายขายตัวปอกลอก สองชีวิตต่างฐานะจึงต้องโคจรมาพบกัน เมื่อจุดเริ่มต้น คือ ความเกลียดชัง แต่โชคชะตากลับเล่นตลก ผูกมัดชายหนุ่มให้ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับหญิงสาวในฐานะผู้พิทักษ์ ความโลภชักนำอันตรายมาสู่สองชีวิต คนหนึ่งเป็นดั่งแก้วตา คนหนึ่งเป็นดั่งดวงใจ สรัลจะทำอย่างไรเมื่อต้องปกป้องแก้วตาดวงใจผู้เป็นที่รักสุดหัวใจของเขา !!

แล้วเรื่องราวจะดำเนินต่อไป และมีบทสรุปอย่างไร !? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาติดตามร่วมกันในนิยาย "รักสุดหัวใจ" เล่มนี้

เขียนโดย "มัลลิกา"

 

256 หน้า


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024