กฤษณามันตรา (ชญาน์พิมพ์)

กฤษณามันตรา (ชญาน์พิมพ์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160021031
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 260.00 บาท 65.00 บาท
ประหยัด: 195.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

มันตราที่ ๑

“ทุกคนอย่าเพิ่งขยับค่ะ!”

เสียงหวานใสที่ร้องเตือนทำให้ทีมงานของรายการเรื่องเล่าพิศวง ซึ่งประกอบด้วยพิธีกรหนุ่ม ตากล้อง โพรดิวเซอร์ ครีเอทิฟ และผู้ช่วย ตากล้องพากันหยุดยืนนิ่งประหนึ่งถูกสาป สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังหญิงสาว ร่างเล็กตรงหน้าที่ค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ ราวนักบวชที่กำลังเตรียมเข้าฌาน ชุดกระโปรงสีชมพูกลีบบัวยาวกรอมเท้าที่ปักด้วยลูกปัดและเลื่อมเป็นลายดอกบัวขาวแบบอินเดียแท้ๆ เข้าคู่กับผ้าคลุมไหล่เนื้อหนาสีเดียวกัน ที่พันตลบรอบลาดไหล่อย่างประณีต แล้วกลัดด้วยเข็มกลัดลงยาประดับ คริสตัลที่ขึ้นรูปเป็นหงส์ขาวที่เธอสวมอยู่นั้น ยิ่งทำให้ร่างอ้อนแอ้นของเธอ ดูบอบบางเหมือนกับตุ๊กตาแก้วโบราณในพิพิธภัณฑ์มากขึ้นไปอีก

“คุณผู้ชมครับ จู่ๆ คุณอุษณิษาก็บอกให้เราหยุด แสดงว่าจะต้อง จับคลื่นพลังงานอะไรได้แน่นอนเลยครับ”

ภาสกร พิธีกรหนุ่มประจำรายการยกไมโครโฟนติดโลโก้ขึ้นพูดด้วยนํ้าเสียงตื่นเต้น เขาแต่งกายด้วยชุดซาลวาร์ กามีซ สีครีมแบบอินเดียแท้ แต่ด้วยรูปร่างที่ผอมบางจึงทำให้แต่งออกมาแล้วแลดูเก้งก้างพิกล

“เตรียมโคลส-อัปหน้าเอาไว้ ช้าๆ นะพี่เมฆ”

เตชิตหันไปกระซิบสั่งตากล้อง แม้จะรู้ว่าพวกตนกำลังกลายเป็นจุดสนใจของชาวอินเดียที่เริ่มมายืนมุงอยู่รอบด้านและส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ต่างๆ นานา แต่โพรดิวเซอร์หนุ่มก็ไม่ใส่ใจ เขายังคงตั้งสมาธิควบคุมการถ่ายทำรายการต่อไปอย่างมืออาชีพ นัยน์ตายาวเรียวมองตรงไปยังดวงหน้าเรียวรีรูปไข่ที่ล้อมกรอบด้วยเรือนผมดำขลับราวเส้นไหมที่ทิ้งตัวเหยียด ตรงยาวจดกลางหลังของหญิงสาวตรงหน้าอย่างมุ่งมั่นและสงบนิ่งจนดูเหมือน เขาลืมหายใจไปแล้วด้วยซํ้า แต่ทีมงานทุกคนรู้ดีว่าชายหนุ่มกำลังรอจังหวะทองอยู่...จังหวะที่มีเพียงครั้งเดียวและจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด!

“ห้า สี่ สาม สอง...โคลส-อัปที่ตาเลย”

สิ้นเสียงกระซิบสั่งของโพรดิวเซอร์หนุ่ม เปลือกตาที่ฉาบไปด้วยอายแชโดว์สีเหลือบทองบางเบาของหญิงสาวก็ตอบรับด้วยการค่อยๆ เปิด ปรือขึ้นช้าๆ อย่างอัศจรรย์ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวอยู่ไกลเกินระยะที่จะได้ยินด้วยซํ้า แพขนตางอนหนาที่ขยับโบกช้าๆ ราวปีกผีเสื้อเผยให้เห็นดวงตากลมโต สีนํ้าตาลในเฉดที่อ่อนที่สุด ทว่าทรงเสน่ห์และดึงดูดใจผู้คนให้ต้องหยุดมอง ดังต้องมนตร์สะกด

อุษณิษาเป็นคนสวยน่ารัก และขึ้นกล้องชนิดที่สามารถข่มทุกคนที่กล้าเข้าไปยืนเทียบรัศมีในเฟรมเดียวกันให้หมองไปได้ในพริบตา เตชิตเองก็รู้ถึงความพิเศษข้อนี้ของหญิงสาวเป็นอย่างดี เขารู้ว่ารูปลักษณ์โดดเด่นของ เธอจะช่วยดึงผู้ชมที่นิยมเสพความงามด้วยตาให้เทเรตติงให้รายการของเขาไม่ยาก แต่นั่น.. .ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่เขาเลือกเธอมาเป็นหนึ่งในแขกรับเชิญ ของการบันทึกเทปพิเศษฉลองครบรอบ ๓๐ ปีของทางสถานี 'ความสามารถพิเศษ’ ที่เป็นที่โจษจันของเธอก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นเรตติงของรายการโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนโพรโมตใดๆ ด้วยซํ้าไป

ก็ใครบ้างไม่อยากชมการปรากฏตัวทางโทรทัศน์ครั้งสุดท้ายของแม่หมออุษณิษา หมอดูตาทิพย์ที่ประกาศอำลาวงการโดยไม่มีปีมีขลุ่ยทั้งๆ ที่กำลังโด่งดังถึงขีดสุดด้วยคำทำนายที่แม่นยำดุจตาเห็นอีกทั้งยังมีจิตสัมผัสแรงกล้าติดต่อสื่อสารกับวิญญาณได้อย่างน่าอัศจรรย์ เตชิตไม่รู้ว่าพลังของอุษณิษาที่คนกล่าวอ้างกันนั้นเป็นจริงหรือไม่ และไม่สนใจจะถามด้วยว่าทำไมเธอถึงคิดหันหลังให้วงการโหราศาสตร์เสียเฉยๆ ตราบใดที่แม่หมอวัยยี่สิบสองปีคนนี้ช่วยดึงสปอนเซอร์ให้แห่มาซื้อเวลาโฆษณาให้เขาได้ เขาก็พร้อมยอมเออออห่อหมกไปกับเธอทุกอย่างนั่นละ เตชิตหวังว่าการตัดสินใจ หอบหิ้วแม่หมอคนดังมาอัดเทปรายการไกลถึงอินเดียในครั้งนี้จะให้ผล ตอบแทนที่คุ้มค่า เพื่อที่เขา...จะได้โม่ต้องใช้แผนสำรองอันแสนน่ารังเกียจ...

แอบทำสกู๊ปเด็ดตีแผ่เบื้องลึกเบื้องลับของอุษณิษา สาวน้อยตาทิพย์ หรือแค่สิบแปดมงกุฎลวงโลก!

“ไม่มีอะไรปิดบังดวงตาสวรรคได้...” อุษณิษาพูดสโลแกนประจำตัว ที่คนไทยทั้งประเทศรู้จักกันเป็นอย่างดี แล้วชี้นิ้วไปที่บานประตูไม้สีฟ้าหม่นของตึกที่ก่อด้วยดินที่อยู่เบื้องหน้า “ที่นี่มีวิญญาณของผู้หญิงที่ผูกคอตายสิงอยู่ ดูเหมือน...จะต้องการบอกอะไรบางอย่าง...”

“วิญญาณผู้หญิงผูกคอตาย! คุณผู้ชมครับ ผมขนลุกซู่เลยครับ!” ภาสกรหันไปตีสีหน้าตื่นตกใจใส่กล้องอย่างเป็นงาน แล้วลอบเหลือบมองดวงหน้าจิ้มลิ้มของแม่หมอด้วยสายตาเคลือบแคลงตามข้อมูลที่เตชิตบรีฟงานให้เขาก่อนถ่ายทำ อาคารดินหลังนี้เพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ เมื่อสองอาทิตย์ก่อนนี้เอง แถมก่อนจะยกกองบินดิ่งมาอินเดีย ทางทีมงานยังตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีกจนแน่ใจว่าไม่มีประวัติสยองขวัญสั่นประสาทใดๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้นไม่มีผีสางเทวดาสิงอยู่ทั้งนั้นละ ดูท่าข่าวลือที่ว่าเจ้าหล่อน 'ของเสื่อม’ จะมีมูลเสียแล้ว

“แล้ววิญญาณบอกว่าต้องการอะไรครับ”

“เดี๋ยวนะคะ...” หญิงสาวแหงนหน้าขึ้นมองไปยังหน้าต่างเหนือบาน ประตูอยู่ครู่หนึ่ง “พี่สาวคนนั้นบอกว่าอึดอัดค่ะ อยากให้ช่วยแกะส่าหรี สีแดงที่พันอยู่รอบคอออกไปที”

แม้น้ำเสียงของเธอเรียบเรื่อย หากนัยน์ตาที่มองตรงไปยังอากาศว่างเปล่าเบื้องหน้าอย่างสงบนิ่งเหมือนกับวิญญาณที่กล่าวอ้างมีตัวตนอยู่ตรงนั้น จริงๆ ก็ทำให้คณะทีมงานที่อยู่รอบด้านพากันขนลุกเกรียวโดยอัตโนมัติ

“กะ...แกะส่าหรี...เหรอครับ...” ภาสกรทำหน้าเหย แม้จะไม่ได้มีตาทิพย์หรือมีพลังจิตพิสดารติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด แต่ทำทางน่าขนลุกของแม่หมอก็ก่อให้เกิดจินตนาการสยองขวัญขึ้นมาเสียเฉยๆ วูบหนึ่ง...ชายหนุ่มคิดว่าตนเองเห็นร่างของหญิงสาวผิวคล้ำเข้มตัดกับสีแดงสดของส่าหรี ที่พันอยู่รอบคอกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่เหนือหน้าต่างบานนั้น แถมยังกลอกดวงตาเหลือกถลนจนแทบหลุดออกมานอกเบ้ามองตรงมายังตนเองอีกต่างหาก

ที่จริงบรรยากาศวังเวงของตรอกเล็กๆ ใจกลางเมืองโกลกาตาแห่งนี้ก็ชวนให้เกิดจินตนาการเพ้อเจ้อเช่นนั้นได้ไม่ยากนัก ถึงจะอยู่ห่างจากตลาดสดไม่ถึงกิโลเมตรดี อีกทั้งยังมีแผงขายของแบกับดินตั้งเรียงรายอยู่บนถนน แคบๆ ก่อนถึงปากทางเข้าตรอก ทำให้ดูคึกคักแต่เมื่อก้าวเข้ามาด้านในตรอกแล้วกลับเงียบเชียบราวกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง แสงแดดที่แผดจ้ายามกลางวันของอินเดียดูจะส่องลงมาไม่ถึงพื้นดินแห้งผาก จึงทำให้มีกลิ่นอับชื้นแปลกๆ และก่อให้เกิดแสงเงาวูบไหวชวนให้เสียวลันหลังอย่างบอกไม่ถูก

เพราะเหตุนี้กระมัง ทางรายการถึงได้เลือกที่นี่เป็นสถานที่ในการถ่ายทำครั้งนี้

ชายหนุ่มไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางเทวดาหรือเรื่องลี้ลับใดๆ ทั้งสิ้น ยิ่งจับพลัดจับผลูมาเป็นพิธีกรรายการจำพวกเรื่องสยองขวัญที่ทุกอย่างมักจะมีการ 'เตี๊ยม’ หรือ 'นัดแนะ’ กันทุกครั้งก่อนถ่ายทำเช่นนี้ด้วยแล้ว เขายิ่งไม่เชื่อถือเรื่องวิญญาณบ้าบอเข้าไปใหญ่ แต่เมื่อรายการโด่งดังและมีเรตติงดีเกินคาดจนเขาพลอยมีชื่อเสียงตามไปด้วย เขาจึงต้องเออออห่อหมกเล่นตามน้ำไปอย่างนั้นเอง บางครั้งถึงกับให้สัมภาษณ์รายการทีวีหรือนิตยสารเล่าเรื่องประสบการณ์ผีๆ สางๆ ทั้งๆ ที่เกิดมายังไม่เคยเห็นไส้กระสือเสียด้วยซํ้าไป ชายหนุ่มเชื่อว่าผู้ชมทางบ้านจำนวนมากคงพอเดาได้เช่นกันว่าเรื่องที่ออกอากาศส่วนใหญ่เป็นแค่การจัดฉากเพื่อสร้างความบันเทิงทางโทรทัศน์เท่านั้นไม่มีผีตนไหนมาสิงคนออกรายการทีวีให้พิธีกรนั่งสัมภาษณ์ไม่มีเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ทำตัวสั่นๆ แล้วทายได้ว่าในกระเป๋าสตางค์ของผู้ชมมีเงินอยู่กี่บาท ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าแทบทั้งสิ้น

เว้นก็แต่...การถ่ายทำในวันนี้นี่ละที่เป็นการด้นสด ไม่มีสคริปต์และไม่มีการเตี๊ยมใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อสร้างความสดใหม่ให้แก่รายการตามที่เตชิต วางแผนไว้

ไม่รู้ว่าโพรดิวเซอร์หน้าหวานของเขาคิดอะไรอยู่กันหนอ ยายแม่หมอจิ๋วคนนี้มีพลังจิตจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ หากไม่สร้างสีสันหรือจัดฉากอะไรเสียหน่อย เทปนี้ได้จืดชืดเป็นโจ๊กค้างคืนแน่ๆ ช่วงหลังๆ มานี้ แม้เรตติง ของเรื่องเล่าพิศวงจะอยู่ในเกณฑ์ดี ทว่าไม่ฮอตฮิตติดลมบนเหมือนก่อน ถ้าเทปนี้ไม่รุ่ง มีหวังอีกสองสามเดือนข้างหน้าคงไค้ถูกถอดออกจากผังของสถานีเป็นแน่ เขาเองก็คงพลอยดับไปด้วยอย่างไม่มีทางเลือก

“จริงๆ แล้ว...เรื่องที่อยากให้ทำมากกว่าแกะส่าหรีก็คง...” อุษณิษา เอียงหูคล้ายพยายามฟังผีสาวที่ไม่มีใครมองเห็นพูดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันกลับมาหาทีมงาน “อยากให้ช่วยเอาสร้อยข้อเท้าเงินที่มีลูกกระพรวนลง ยาสีเขียวเผาส่งไปให้ที ของรักของหวงมั้งคะ เห็นว่าติดอยู่ในซอกผนัง ตอนที่ปีนออกมาผูกคอตายที่นอกหน้าต่าง ลองให้ล่ามไปบอกเจ้าของบ้าน ดูก็ได้นะคะ”

“สร้อยข้อเท้า? อะ...เอ่อ...” ภาสกรหันไปสบตากับเตชิตที่พยักหน้า อนุญาตอย่างง่ายดายเสียจนน่าประหลาดใจ ปกติโพรดิวเชอร์คนดังจะต้อง รีบสั่งคัตทันทีเพื่อรักษาหน้าแขกรับเชิญเอาไว้ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด ที่อาจส่งผลเสียต่อแขกรับเชิญเหล่านั้น และจะไม่มีการบันทึกภาพหรือ เหตุการณ์ใดๆ ที่อาจหลุดออกไปสู่สาธารณะโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของ แขกรับเชิญเป็นอันขาด ชายหนุ่มเดาไม่ออกว่าเตชิตกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้กำชับทั้งช่างภาพและทีมงานให้เก็บภาพและเรื่องราวทุกอย่างของ อุษณิษาอย่างละเอียดอย่างที่ไม่เคยทำในการถ่ายทำครั้งใดมาก่อน

“ถ้าอย่างนั้น... เราจะลองให้คุณราช ล่ามของเราไปสอบถามเจ้าของบ้านดูนะครับ”

พิธีกรจำใจต้องหันไปสั่งงานล่ามชาวอินเดียประจำกองถ่ายที่รั้ง ตำแหน่งไกด์นำเที่ยวอีกหนึ่งตำแหนํง พากันเดินไปหาเจ้าของบ้านที่ยืนปะปน กับเหล่าแขกมุงอยู่ไม่ห่างออกไปนัก โดยมีตากล้องตามไปติดๆ เพื่อเก็บทุกรายละเอียดชนิดไม่ยอมให้พลาดแม้แต่ชอตเดียวตามคำสั่งที่ได้รับ

ในตอนแรกล่ามร่างอ้วนหันมามองอุษณิษาด้วยแววตาเคลือบแคลง แกมขบขัน ทว่าเมื่อพูดคุยกับทั้งเจ้าของบ้านและชาวบ้านแถวนั้นได้สักพัก ภาสกรและราชก็หันกลับมาหาหญิงสาวด้วยสีหน้าตื่นตะลึงในขณะที่เจ้าของบ้านรีบสั่งให้เด็กรับใช้ชายวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านด้วยท่าทางลนลาน

“อะ...เอ่อ...คุณ...คุณผู้ชมครับ..ภาสกรพูดตะกุกตะกักหลังจากถูกตากล้องใช้ขาสะกิดเรียกสติ “เมื่อ...เมื่อครู่คุณวิชัย เจ้าของบ้านได้บอกกับล่ามของเราว่าสองวันก่อนภรรยาของเขาเพิ่งผูกคอตายอย่างไม่มีสาเหตุ...”

“พี่เมฆ รีบแพนกล้องขึ้นไปที่หน้าต่างเร็ว!”

เตชิตร้องสั่งเสียงดังทำให้สายตาทุกคู่ของคนที่อยู่ ณ ที่นั้นเลื่อนขึ้น ไปมองเด็กชายอายุราวๆ สิบสี่ปีที่ยืนเกาะขอบหน้าต่างไม้สีกระดำกระด่าง อยู่ด้วยสีหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ในมือสีเข้มคล้ามแดดมีโซ่เล็กๆ สีเงิน วาววับทิ้งตัวลงมาล้อแสงแดดยามเช้าที่ไม่ค่อยจะตกกระทบพื้นด้านล่าง เท่าใดนัก และ...ที่ปลายโซ่มีลูกกระพรวนลงยาสีน้ำเงินเล็กๆ หลายลูกสั่น กระทบกันเสียงดังกรุ๋งกริ๋ง

“สะ...สร้อยข้อเท้า...” ภาสกรเบิกตากว้างเมื่อเห็นสร้อยข้อเท้าที่มีลักษณะคล้ายที่อุษณิษาบอกเกือบทุกประการ เว้นก็แต่... “เอ...ลูกกระพรวน ...ไม่ใช่สีเขียวนี่ครับ...”

“โอ๊ย ปวดหัวจังเลย...”

อุษณิษาร้องสวนขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้พูดจบประโยค หญิงสาว แตะปลายนิ้วเข้าที่ขมับแล้วถอยหลังไปสองสามก้าว ภาสกรรีบปราดเข้าไปหา หมายจะช่วยประคองไม่ให้ล้ม แต่ร่างบอบบางก็พลิกหนีอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะเซถลาเข้าไปซบกับท่อนแขนของเตชิต

“หยุดถ่ายก่อน พักกองกันสักครู่ก็แล้วกัน” โพรดิวเซอร์หนุ่มออก คำสั่งพลางโอบวงแขนประคองอุษณิษาอย่างสุภาพ ดวงหน้าเล็กที่แนบอยู่กับเสื้อสเวตเตอร์สีน้ำเงินเข้มของเขานั้นดูซีดเซียวเสียจนเขาอดที่จะเป็นห่วงเธอขึ้นมาจริงๆ ไม่ได้ ถึงอยากจะเร่งการถ่ายทำให้จบลงโดยไวเพื่อประหยัด งบ แต่ก็ไม่ใจไม้ไส้ระกำพอที่จะใช้งานผู้หญิงที่กำลังจะเป็นลมเป็นแล้ง ต่อหน้าต่อตาได้หรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ผู้หญิงที่ดูตัวเล็กและอ่อนแอเช่นนี้

“หนูนิด ไหวหรือเปล่า”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่เต้ หนูนิดคงเพ่งสมาธิมากเกินไป พักสักกครู่ก็คงดีขึ้น”    อุษณิษาช้อนดวงตากลมโตขึ้นมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาที่ค่อนไปทางสวยของ เตชิตช้าๆ ด้วยท่าทางอ่อนเปลี้ยเพลียแรง “หนูนิดขอโทษนะคะที่ทำให้เสียการ เสียงานกันไปหมดเลย”

“พูดอะไรอย่างนั้นล่ะครับ พี่ต่างหากต้องขอโทษที่ใช้งานแขกรับเชิญคนสำคัญของพี่หนักเกินไป”...ติดตามต่อในเล่ม....

 

 

 

 

 

 

 

รายละเอียด

บทกวีแห่งรักนั้นไร้สุ้มเสียง...
มีเพียงร่างเงาให้มนุษย์ผู้มีรักได้ยินยลในจินตนาการ
 
แข็งแกร่ง ทรงพลัง ย้ายได้แม้แต่ภูผา
เคลื่อนเดือนเลื่อนนภา แผดเผามหาสมุทรให้เหือดแห้งด้วยเพลิงในดวงใจ
 
นั่นล่ะ...พลังแห่งรัก จงเชื่อเถิด
 
จากกฤษณามันตรา โดยชญาน์พิม

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024