บ่วงบุพเพ (รตา)

บ่วงบุพเพ (รตา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160005673
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

                อาถรรพ์เบญจเพส

 

ขอโทษจริงๆ นะยิหวา แทนขอแก้ตัวเป็นตั๋วหนังวันพรุ่งนี้

 ได้มั้ย”

น้ำเสียงออดอ้อนแกมรู้สึกผิดที่ดังมาจากลำโพงโทรศัพท์มือถือ

เรียกรอยยิ้มสดใสจากหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยสะดุดตา ซึ่งใครได้เห็น

แล้วมักจะมองซ้ำอย่างอดใจไม่ไหว

“อย่าเงียบได้ไหมยิหวา เรื่องมันกะทันหันจริงๆ แทนไม่กล้าปล่อย

ไอ้โต้งไว้คนเดียว กลัวมันจะคิดสั้น อย่าโกรธแทนเลยนะ ขอโทษจริงๆ”

เขาเอ่ยอย่างร้อนรนเมื่อเธอไม่ยอมพูดอะไรสักคำ

‘หวันยิหวา’ กลั้นยิ้ม ก่อนจะบังคับเสียงให้ราบเรียบเมื่อตอบโต้

ไปว่า “สองเรื่อง”

“ฮะ?”

“ก็ตั๋วหนังสองเรื่องไง แค่นี้ก็ไม่เข้าใจเหรอ” หญิงสาวว่าพลาง

กลั้นหัวเราะจนแก้มป่อง

“โธ่...ยิหวา แล้วทำไมไม่รีบบอกแทนล่ะ ใจเสียหมดเลยเนี่ย

แถมให้สามเรื่องเลยเอ้า”

หวันยิหวาอมยิ้มพลางส่ายหน้าอย่างขบขัน และหันไปกวาด

ข้าวของส่วนตัวที่กระจัดกระจายเกลื่อนโต๊ะทำงานลงในกระเป๋าสะพาย

ขณะกรอกเสียงหวานใสลงไปตามสาย

“ล้อเล่นน่าแทน เรื่องแค่นี้เอง ยิหวาไม่งอนหรอก ไร้สาระ ถึงเรา

จะเป็นแฟนกันก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำตัวติดกันตลอดเวลา

เสียหน่อย แทนอยู่กับเพื่อนเถอะ น่าสงสารโต้งออก ถ้าแทนทิ้งเพื่อนมารับ

ยิหวานี่สิถึงน่าโกรธ”

“นึกแล้วว่ายิหวาต้องเข้าใจ ขอโทษจริงๆ นะ พรุ่งนี้แทนจะแวะไป

หาแต่เช้า ไม่ต้องแต่งตัวสวยมากล่ะ แค่นี้แทนก็ไม่ไหวจะหวงแล้วรู้มั้ย”

“รู้แล้วน่า แค่นี้ก่อนนะ ยิหวาจะรีบกลับบ้าน” เธอตอบอย่างหมั่นไส้

“โอเค กลับบ้านดีๆ นะ ถึงแล้วโทร. หาด้วย แทนเป็นห่วง”

“จ้ะ บ๊ายบาย” หญิงสาวกดตัดสายพร้อมยิ้มอย่างอิ่มเอมใจ

‘แทนไท’ น่ารักแบบนี้เสมอ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่รู้จักกัน

เขาได้พิสูจน์ให้เธอเห็นว่า ‘ผู้ชายใจเดียว’ มีอยู่จริง เขาดูแลเธออย่างดี

มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย กระทั่งเรียนจบและทำงานมาหลายปี

เขาก็ยังเป็นเช่นนี้ไม่เคยเปลี่ยน

เธอไม่มีใคร เขาก็ไม่มีใคร และเพราะความเสมอต้นเสมอปลาย

นี่เองทำให้เธอตกลงคบหากับแทนไทในฐานะ ‘คนรัก’ อย่างเป็นทางการ

เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

“ยังไม่กลับอีกเหรอครับคุณยิหวา”

เสียงทักทายที่ดังอยู่ข้างหลังทำให้หวันยิหวาหันขวับ ดวงตา

คู่สวยฉายแววตระหนกอยู่ชั่วครู่ก่อนจะแทนที่ด้วยรอยยิ้มสดใส

“กำลังจะกลับพอดีค่ะ ถ้าอย่างนั้นยิหวาขอตัวก่อนนะคะผู้จัดการ”

หญิงสาวรีบหนีให้พ้นรัศมีของผู้ชายหน้าตาดีซึ่งเข้าข่ายตัวอันตราย

สำหรับผู้หญิงทั้งออฟฟิซ

“เดี๋ยวก่อนคุณยิหวา ผมมีเรื่องจะคุยด้วย เชิญที่ห้องทำงานผม

สักครู่นะครับ” เขาพูดอย่างกรุ้มกริ่ม

หวันยิหวาชะงักเมื่อเดินถึงหน้าประตูแผนกการตลาด หญิงสาว

ได้แต่หลับตาพลางถอนหายใจอย่างอึดอัด

‘ซวยจริงๆ เลยยิหวา ไม่น่าทำงานเพลินจนลืมเวลาเล้ย’ เธอบ่นในใจ

ความเจ้าชู้ของ ‘กริชพล’ เป็นที่เลื่องลือไปทั้งบริษัทหลักทรัพย์

แห่งนี้ เขาเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของบริษัท ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าการที่

เขาเข้ามาทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา กระทั่งได้เลื่อนขั้นเป็น

ผู้จัดการฝ่ายการตลาดก็เพื่อปูพื้นฐานให้เขาเรียนรู้งานทุกแผนก เตรียม

พร้อมสำหรับการก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารตำแหน่งสูงสุดคนต่อไป

กริชพลคงจะเป็นบุคคลที่มีความน่าสนใจเป็นอันดับหนึ่งของสาวๆ

ทั้งบริษัทเลยทีเดียว ถ้าเขายังไม่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ก่อนจะหันไปยิ้มให้เจ้านาย

ตามมารยาท แววตากรุ้มกริ่มมีความหมายที่เขามองเธออย่างประเจิด-

ประเจ้ออยู่บ่อยๆ นั้น มีหรือที่หวันยิหวาจะไม่รู้ตัว แต่ต้องแกล้งทำไม่รู้

ไม่ชี้และไม่เล่นด้วย เพราะไม่อยากเดือดร้อนในภายหลังมากกว่า

“ผู้จัดการมีเรื่องด่วนหรือเปล่าคะ พอดียิหวานัดกับเพื่อนไว้ตอน

ทุ่มนึงน่ะค่ะ” เธอตัดสินใจโกหกเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

ใบหน้าคมสันปรากฏรอยยิ้มนิดๆ ทว่าแววตาเจ้าเล่ห์กลับฉายชัด

จนปิดไม่มิด เขาเอามือซุกกระเป๋ากางเกงขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

ชวนฟัง

“ก็เรื่องงานนั่นแหละ เศรษฐกิจแบบนี้คุณคงรู้ดีว่าทางบริษัท

ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากมายแค่ไหน เรามีนโยบายใหม่ที่จะนำมา

ปรับใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการของบริษัท”

“ถ้าเป็นเรื่องนโยบายก็ควรเป็นหน้าที่ของผู้บริหารไม่ใช่เหรอคะ

มันคงไม่เกี่ยวกับมาร์เกตติงอย่างยิหวา เอาไว้คุยกันวันจันทร์นะคะ วันนี้

ยิหวารีบจริงๆ ค่ะ” หญิงสาวรีบตัดบทด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ทั้งที่ในใจ

ไม่สงบเลยสักนิด

ปกติหกโมงครึ่งยังมีพนักงานทั้งในและนอกแผนกทำงานกันบ้าง

ทว่าในเย็นวันศุกร์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้งชั้นจะไร้ผู้คนให้อุ่นใจ ใครๆ

ก็อยากกลับบ้านเร็วด้วยกันทั้งนั้น หรือบางคนก็อาจมีโปรแกรมไปต่อ

ที่ไหนสักแห่ง เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนของมนุษย์เงินเดือน

ในเมืองหลวง ซึ่งมีระดับการแข่งขันสูงขึ้นทุกวันพอๆ กับความเครียด

ดังนั้นทางไหนที่จะทำให้ผ่อนคลายและสบายใจก็ต้องเลือกไว้ก่อน

เป็นธรรมดา การเผชิญหน้าเพียงลำพังกับเสือผู้หญิง ซึ่งแม้จะมีครอบครัว

แล้วแต่ยังไม่ยอมถอดเขี้ยวเล็บจึงไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลยสักนิด

“ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะครับ ในเมื่อแผนกของเราจะต้องปลดพนักงาน

บางคนออกเพื่อความอยู่รอดของบริษัท”

คำตอบมีนัยของคนเจ้าเล่ห์ทำให้อารมณ์โกรธของหวันยิหวา

พุ่งปรี๊ด แต่เธอยังมีสติพอที่จะตอบโต้ด้วยน้ำเสียงปกติดุจเดิม

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นชอบของผู้จัดการแล้วละค่ะ

ยิหวาคงไม่สามารถทำอะไรได้”

“ใครบอกว่าคุณทำอะไรไม่ได้” เสือผู้หญิงตัวร้ายที่จ้องตะครุบ

เหยื่อทุกครั้งที่มีโอกาสเอ่ยเสียงทุ้มขณะก้าวเข้าไปหาหญิงสาวอย่างใจเย็น

เมื่อเข้าใกล้เธอก็เอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงแผ่วเบาใกล้ๆ ใบหู “ทำให้ผม

พอใจยังไงล่ะ คุณก็รู้ว่าผมแอบมองคุณมานานแล้ว”

หญิงสาวกำมือแน่น พยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจ ทั้งโกรธและ

อับอายที่ถูกอีกฝ่ายแทะโลมด้วยคำพูดไม่ให้เกียรติ เธอสูดลมหายใจ

เข้าลึกๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่บังคับให้นิ่งที่สุด

“ถ้ายิหวาทำให้ผู้จัดการไม่พอใจเรื่องอะไรก็ตักเตือนได้นี่คะ หรือจะ

ส่งเรื่องให้ผู้ใหญ่พิจารณา ยิหวาก็ไม่ขัดข้อง ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตาม

ขั้นตอนที่ถูกต้องและยุติธรรมเท่านั้น”

“คุณก็รู้ว่าผมหมายความว่ายังไง” อีกฝ่ายบอกยิ้มๆ นัยน์ตา

สื่อความหมาย ลูบไหล่มนของหวันยิหวาเบาๆ ปกติเสน่ห์ของเขามักใช้

ได้ผลกับเพศตรงข้ามเสมอ จึงไม่คิดว่ามาร์เกตติงสาวสวยผู้นี้จะปฏิเสธ

หากเขาเอ่ยปากตรงๆ

ดวงตาคู่สวยวาววามขึ้น โกรธก็โกรธ กลัวก็กลัว มือสั่นเทา

ข้างหนึ่งซุกอยู่ในกระเป๋าสะพาย อาวุธที่แทนไทบังคับแกมขอร้องให้

เธอพกติดตัวไว้เสมออาจได้ใช้งานในวันนี้

“ยิหวาไม่เข้าใจค่ะ ผู้จัดการช่วยเอามือออกไปจากไหล่ยิหวาก่อน

ได้มั้ยคะ ยิหวารีบ” เธอบอกเสียงแข็ง พยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่น

เหมือนมือที่กำอาวุธไว้แน่น หากเขาทำอะไรมากกว่านี้ ต่อให้ไม่อยาก

ทำร้ายใคร เธอก็จะไม่ละเว้นเขาแน่ๆ

นัยน์ตาของผู้จัดการหนุ่มฉายแววไม่พอใจ เขาก้มลงกระซิบ

ข้างใบหูเล็กๆ ของหวันยิหวาอีกครั้ง

“ถ้าคุณฉลาดก็น่าจะรู้ดีว่าการขัดใจผมจะมีผลกระทบอะไร

ต่อชีวิตบ้าง อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากดีกว่า”

คราวนี้อารมณ์ของหญิงสาวเดือดปุดๆ เหมือนลาวา ไม่เข้าใจว่า

พวกผู้ชายจะชอบหาเศษหาเลยไปถึงไหน และไม่น่าเชื่อยิ่งกว่า เมื่อผู้ชาย

คนนั้นเป็นคนที่มีพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ฐานะ หรือรูปร่าง

หน้าตา ขาดเพียงอย่างเดียวคือจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีเท่านั้น

“หมายถึงให้ยิหวาทำตัวมักง่ายเหมือนคุณอย่างนั้นเหรอคะ” เธอ

ย้อนเสียงสูง

“หวันยิหวา!” เขาคำรามเสียงต่ำขณะกระชากแขนกลมกลึง

เข้าหาตัวอย่างจาบจ้วง

เมื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกันตรงๆ ไม่ได้ เธอก็จำเป็นต้องปกป้อง

ตัวเอง หวันยิหวาสะบัดแขนออกพร้อมเปิดสวิตช์เครื่องชอร์ตไฟฟ้าในมือ

ขึ้นขู่ทั้งที่ในใจกลัวไม่น้อย

“ถอยออกไปนะ อย่ามาทำนิสัยเลวๆ แบบนี้กับฉัน ถึงคุณจะเป็น

เจ้านายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องยอมคุณทุกอย่าง”

กริชพลหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด เมื่อลูกแมวแสนน่ารัก

กลายเป็นแม่เสือสาวที่มีเขี้ยวเล็บ เขาแสร้งยกสองมือขึ้นในท่ายอมแพ้

แต่ยังหลุกหลิกไม่น่าไว้ใจ และพยายามเกลี้ยกล่อมหญิงสาวด้วยน้ำเสียง

อ่อนโยนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ใจเย็นๆ น่ายิหวา ผมแค่ล้อเล่นหน่อยเดียว ไม่เห็นต้องจริงจัง

แบบนี้เลย”

“ถ้าภรรยาที่บ้านของคุณโดนล้อเล่นแบบนี้บ้าง คุณจะยังใจเย็น

ไหวมั้ยคะ” หญิงสาวย้อนถามเสียงเข้ม แต่ไม่คิดจะต่อความยาว

สาวความยืดกับผู้ชายพรรค์นี้อีก

เธอรีบสาวเท้ายาวๆ จากไปแบบไม่เหลียวหลัง โดยไม่รู้ตัวว่า

อีกฝ่ายก้าวตามมาด้วยความเร็วกว่า

“จะรีบไปไหนเล่าคนสวย ที่กลับบ้านเย็นแบบนี้ก็รอผมอยู่ไม่ใช่

เหรอ อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า หรือคิดจะโก่งราคา” เขาเอ่ยด้วย

น้ำเสียงราบเรียบ และกระชากแขนกลมกลึงอย่างแรง

หวันยิหวาสะบัดตัวด้วยความตกใจ แต่ยังช้ากว่าคนที่ตั้งใจ

ตะครุบเธอไว้ให้ได้ตั้งแต่วินาทีที่เอ่ยปากออกไปแล้วหญิงสาวไม่ยอม

เล่นด้วย มือเล็กถูกบิดอย่างแรงจนต้องปล่อยอาวุธ เธอนิ่วหน้าร้องขึ้น

ด้วยความเจ็บปวด

“เข้าไปในห้องกับผมดีๆ อย่าให้ผมใช้กำลังดีกว่า ผมไม่อยากให้

ผิวสวยๆ ของคุณต้องช้ำก่อนเวลาอันควร” กริชพลรวบเอวบางเข้ามา

กอด พลางกระซิบขู่ในขณะที่พยายามดันตัวเธอให้เดินเข้าไปในห้อง

ทำงานของตน นาทีนี้หวันยิหวาไม่คิดอะไรอีกนอกจากหาวิธีเอาตัวรอดให้ได้

เธองับใบหูของอีกฝ่าย และใช้รองเท้าส้นเข็มกระแทกลงบนเท้าของ

กริชพลสุดแรง

“โอ๊ย!” เขาร้อง และเผลอปล่อยหญิงสาวร่างบางให้เป็นอิสระ

หญิงสาวถลากลับไปหยิบเครื่องชอร์ตไฟฟ้า ขณะที่อีกฝ่ายตามไป

อย่างรวดเร็ว เขากระชากแขนเล็กจนเธอล้มคะมำ ศีรษะโขกพื้น แต่เธอ

ไม่สนใจความเจ็บปวดเล็กน้อยนั้น และพยายามยื่นมือไปคว้าอาวุธ

อย่างไม่คิดชีวิต โชคดีที่เธอคว้ามันได้ก่อนจึงเปิดสวิตช์อย่างลนลาน

แล้วหันกลับไปหลับหูหลับตาใช้อาวุธจิ้มคู่ต่อสู้ที่คลานตามมาด้วย

ความตกใจ

“อ๊าก!” กระแสไฟฟ้าไหลผ่านเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพเข้าสู่

ร่างกายสูงใหญ่ของผู้จัดการจอมหื่นซึ่งนิยมการกินไก่วัดจนเกิดเรื่อง

ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ยังไม่มีใครสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ และต้องปล่อย

ให้เป็นปัญหาคาราคาซังมาเนิ่นนาน

หวันยิหวาใจเต้นโครมคราม หอบหายใจถี่ด้วยความหวาดหวั่น

พรั่นพรึง เมื่อเสียงร้องของกริชพลเงียบลงเธอจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น

และพบว่าเขานอนชักกระตุกอยู่ใกล้ๆ เธอนั่นเอง ใบหน้าสวยซีดเผือด

เธอทำหน้าเบ้คล้ายกำลังจะร้องไห้ และยื่นปลายนิ้วสั่นระริกไปแตะจมูก

เขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ เมื่อพบว่ากริชพลยังหายใจอยู่จึงหายใจได้ทั่วท้อง

หญิงสาวรีบลุกขึ้น แต่แข้งขาอ่อนแรง เธอคว้ากระเป๋าสะพาย

มากอดไว้แล้วเดินไปได้เพียงสามก้าวก็ต้องหยุดอยู่กับที่ หันกลับไปมอง

ผู้ชายสารเลวอีกครั้งด้วยแววตาชิงชัง เธอเดินกลับไปหากริชพลพร้อม

กวาดตามองไปรอบแผนกการตลาด เมื่อพบปากกาไวต์บอร์ดบนโต๊ะ

ทำงานของใครบางคนก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“ไหนๆ ก็ต้องถูกไล่ออกอยู่แล้ว เรื่องอะไรจะยอมเจ็บตัวฝ่ายเดียว

ล่ะ” เธอเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างเจ็บใจ ก่อนจะเขียนตัวหนังสืออย่าง

บรรจงลงกลางหน้าผากเขา

‘ผมมันหื่น!’

กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดออกทุกเม็ด จากนั้นเธอก็ละเลงประโยค

ต่อมากลางหน้าอกตึงแน่น

‘ขอโทษครับ ผมมันเลว!’

รอยยิ้มสาแก่ใจปรากฏบนใบหน้างามกระจ่าง เธอโยนปากกา

ไวต์บอร์ดทิ้งอย่างไม่ไยดี จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไล่หาเมนู

ถ่ายภาพ เธอต้องเก็บหลักฐานไว้ป้องกันตัวบ้าง เมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้ว

หญิงสาวร่างเพรียวระหงก็รีบซอยเท้าถี่ๆ จากไปแบบไม่เหลียวหลัง

พอกันที ไอ้บริษัทห่วยๆ กับผู้ชายเฮงซวยไม่รู้จักพอพรรค์นี้

 

หวันยิหวาก้าวฉับๆ ออกมาจากอาคารสูงอย่างมาดมั่น

สถานีรถไฟฟ้าอยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่ช่วงตึก การนั่งรอรถเมล์ในเวลา

หลังเลิกงานซึ่งการจราจรแสนจะติดขัด แล้วขึ้นไปเบียดเสียดกับ

คนอื่นๆ เพียงระยะทางหนึ่งป้ายไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลย ดังนั้นหากวันไหน

แทนไทไม่สามารถมารับเธอกลับบ้านได้ หวันยิหวาก็มักจะเดินไปที่สถานี

รถไฟฟ้า BTS เพราะทั้งสะดวกและรวดเร็วกว่าเป็นไหนๆ แต่วันนี้ไม่รู้ว่า

เป็นวันซวยอะไรกันนักหนา เมื่อหวันยิหวาเดินไปตามบาทวิถีได้เพียง

ไม่กี่เมตรเท่านั้น ฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมา

“โอ๊ย...จะมาตกอะไรกันตอนนี้เนี่ย อีกนิดเดียวก็ถึงสถานีรถไฟฟ้า

แล้ว ตกช้าหน่อยไม่ได้เลยเหรอ” หญิงสาวบ่นอย่างหงุดหงิด ใช้กระเป๋า

สะพายบังฝนพร้อมซอยเท้าเร็วขึ้น ในขณะที่ถนนเต็มไปด้วยรถที่ติดยาว

จนขยับเขยื้อนไปไหนแทบไม่ได้

เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังอยู่บนศีรษะทำให้หญิงสาวต้องลดกระเป๋า

สะพายลงมาควานหาต้นตออย่างเร่งรีบ สองขายังคงก้าวไปข้างหน้า

แข่งกับสายฝนที่เริ่มหนาขึ้นทุกที เมื่อกดรับสายก็ได้ยินเสียงมารดาดังขึ้น

“ยิหวาใกล้จะถึงบ้านหรือยังลูก”

“ยิหวาเพิ่งออกจากออฟฟิซค่ะแม่ กำลังจะกลับบ้านแล้ว แม่

มีอะไรหรือเปล่าคะ”

                   (ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

จู่ๆ ภารกิจที่คิดว่าแค่เฉียดๆ นิยายน้ำเน่า กลับกลายเป็นบ่วงบุพเพที่ทำให้ชีวิตของหวันยิหวา เน่าสนิทดั่งซินเดอเรลลา แล้วเธอจะทำอย่างไร ในเมื่อหัวใจที่มีเจ้าของแล้ว ดันบอกว่าเธอ "หลงรัก" สามีตัวเอง 
อัยการ กับ หวันยิหวา โคจรมาพบกัน ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมและเสี่ยงต่อความปลอดภัยของหัวใจ เธอต้องช่วยเขาปกปิดความลับด้วยการแต่งงาน ทว่าหัวใจที่มีเจ้าของแล้วก็ดันมาหวั่นไหวกับสามีกำมะลอของตัวเอง มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อเขาเป็นเกย์ แถมเธอก็มีคนรักอยู่แล้ว แต่บุพเพไม่เคยเล่นตลก หากติดกับดักแล้วไม่มีทางดิ้นหลุดได้ง่ายๆ

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024