สวย เลิศ เชิด หงอ (ดอกไม้โบราณ)

สวย เลิศ เชิด หงอ (ดอกไม้โบราณ)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160021895
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 230.00 บาท 57.50 บาท
ประหยัด: 172.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

แค่แฟน...ทำแทนไม่ได้

 

“เราเลิกกันเถอะ”

เสียงเล็กใสของหญิงสาวแสนสวยวัยยี่สิบสามปีเอ่ยแบบไม่ยี่หระ

หลังยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบในยามบ่ายที่บ้านของตนเอง ผิวขาวผ่องสะท้อนแสง

ตัดกับเสื้อผ้าลายดอกกุหลาบแดงสด แต่งผมมวยสูงด้วยผ้าคาดแบรนด์หรู

และปล่อยชายห้อยข้างอวดใบหน้ารูปไข่

ก็ขนาดแค่ผ้าคาดผมยังราคาเรือนหมื่น คงไม่ต้องพูดถึงข้าวของ

เครื่องประดับบนร่างตั้งแต่หัวจดเท้า ที่รวมราคาได้มากกว่าแสนบาทในแบบ

ชุดลำลองสำหรับวันหยุดนี้กระมัง

สวย รวย เลิศ เชิด จัดจ้านจริงๆ แม่คุณเอ๊ยญาณัจฉรา

รัศมีทรัพย์ขจร ชื่อนี้แปลว่าผู้มีความรู้ดุจนางฟ้า แถม

นามสกุลยังมีความหมายแสดงความร่ำรวยที่ล่วงหน้าชาวบ้านไปหลายเสา-

ไฟฟ้าอีก เพราะคุณสมบัติบนชาติตระกูลที่ดีเนื่องจากเป็นบุตรสาวคนเดียว

ของนายญาณฤทธิ์ อดีตผู้ช่วยเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโรม ประเทศ

อิตาลี กับอัจฉรา อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาการปกครองระหว่าง

ประเทศ มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของเมืองไทย เมื่อนำชื่อกับนามสกุลของเธอ

มารวมกันจึงแปลได้ว่าญาณัจฉรา คือสาวสวย เลิศ เชิด หยิ่ง ขนานแท้

หญิงสาวถูกตามใจมาตั้งแต่แรกเกิด จนทุกวันนี้เจ้าอาการเอาแต่ใจ

ยังติดหนึบเป็นเงาตามตัว เพราะสองสามีภรรยาในฐานะผู้ให้กำเนิดเสพติด

การเอาอกเอาใจลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ตั้งแต่เด็กจนโตลูกอยากได้อะไร

เป็นต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผม และข้าวของต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง

จะถูกจัดหามาให้อย่างทันใจเสมอและสมฐานะ จนเด็กสาวฝังสมองไว้ว่า

การจับจ่ายเพื่อความงามด้วยเงินหมื่นเงินแสนเป็นเรื่องธรรมดา รวมถึง

ความสวยและรวยจะทำให้เธอชนะทุกอย่าง

แม้จะเอาแต่ใจปานนั้น แต่เธอไม่ใช่คนเกกมะเหรก ตรงกันข้ามกลับ

มีผลการเรียนดีเยี่ยมสมใจพ่อแม่ ไม่ให้ได้อายคนแวดวงชั้นสูงด้วยการคว้า

คะแนนเกียรตินิยมด้านการออกแบบเสื้อผ้าจากมหาวิทยาลัยชื่อดังที่กรุงโรม

เมื่อปีก่อน ปัจจุบันเจ้าตัวเฉิดฉายในวงการแฟชั่นไทยชนิดที่ใครๆ ก็รู้จัก

เจ้าของปากสีแดงสดบนหน้าสวยพูดคำว่า ‘เลิกรา’ ง่ายๆ เหมือนแฟน

นั้นมีค่าเท่ากับผักคะน้าเน่าหนึ่งก้านที่ไร้ค่าไร้ราคาสิ้นดี ไม่สิ...คะน้าเน่ายัง

มีประโยชน์ เป็นปุ๋ยหรือไม่ก็เป็นอาหารของแบคทีเรียได้บ้าง แต่สำหรับ

กัณตภัทร สุรัชยา หนุ่มหล่อร่างสูงโปร่งแบบดาราเอเชียที่มีดีกรีเป็นถึง

ลูกชายเจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้าอันเลื่องชื่อระดับเอเชีย แถมเพิ่งได้รับ

การโหวตจากนิตยสารชื่อดังให้เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่หน้าหล่อและร่ำรวย

ที่สุดในปีนี้ กลับกำลังรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่ากว่าก้านคะน้านั่นเสียอีก

“ถ้ากัณทำอะไรให้วีนัสโกรธ กัณขอโทษ อย่าพูดคำว่าเลิกเลย มัน

บาดใจกันเกินไป” กัณตภัทรเว้าวอนอย่างที่มักเดินตามหลังแฟนสาวคนสวยมาโดยตลอด

ก็สวยแบบแถวหน้า รวยแบบเศรษฐี เรียนเก่งหาตัวจับยาก มั่นใจ

กล้าพูดกล้าทำ เล่นดนตรีได้ ร้องเพลงเพราะ รสนิยมดี มีโทรศัพท์มากด้วย

ฟังก์ชันล้ำหน้า แถมยังหัวสมัยใหม่แต่ไม่ปล่อยตัวหรือใจง่ายอย่างที่คิด

ดีเลิศขนาดนี้ หาง่ายที่ไหนกัน

เขาคบหาญาณัจฉรามาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นอนุบาลและเป็นฝ่ายตามใจ

เธอมาตลอด ไม่สิ...คิดเอาเองว่าคบกัน แต่จริงๆ ก็แค่เด็กชายอายุห้าขวบ

ที่เขินอายเด็กหญิงวัยเดียวกันผู้ซึ่งมีแก้มเป็นพวงสีชมพูในชุดนักเรียน

อนุบาล ตอนนั้นเขาบอกตัวเองว่าคนนี้แหละน่ารักที่สุดในชั้นแล้ว ยิ่งโตก็ยิ่ง

สวยจนฝังใจ พอมาถึงช่วงวัยเริ่มเป็นหนุ่มก็ไม่ปิดบังความรู้สึกและเดินหน้า

ตามจีบให้รู้กันไป แม้จะดูง้องแง้งไปบ้าง แต่เขาก็จริงใจ ทั้งซื้อของให้ ไม่ว่า

เธอชี้นกให้เป็นไม้หรือชี้ไม้ให้เป็นนก กัณตภัทรก็ไม่อิดออด เรียกว่ายอม

ทุกประการ ขอให้ได้แลกกับการได้เธอมาเป็นแฟนเท่านั้น

แต่วันนี้จะให้ยอมเลิกราด้วย เขาจะทำมันได้อย่างไร...กัณตภัทรคิด

ขณะกลั้นน้ำตา ปากสั่นน้อยๆ

ญาณัจฉรามองกัณตภัทรเป็นเพื่อนที่ดีและสนิทที่สุด ผูกพันด้วย

ความรู้สึกเหนียวแน่น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเหงาหรือรำคาญกันแน่ที่ทำให้

เธอเผลอตกปากรับคำขอเป็นแฟนจากเขาเมื่อหนึ่งกว่าปีก่อน

‘อืม...เป็นก็เป็น’

คำพูดสั้นๆ ในวันนั้นของหญิงสาวทำให้กัณตภัทรดีใจจนน้ำตาไหล

คอยเทียวไล้เทียวขื่อเอาอกเอาใจไม่เคยขัด ถ้าบันดาลเดือนให้เป็นดาวได้

คงหอบไปให้เธอนอนกอดทุกคืนไปแล้ว

ไม่น่าเชื่อว่าแม้จะเอาใจสารพัด แต่แม่คุณกลับรู้สึกเฉยๆ ไม่มีทีท่า

ซาบซึ้งใจกลับบ้างเลย ยังคงดุด่าเหมือนเดิม พูดจาก็ไม่เคยหวานอย่างคน

เป็นแฟนกัน ไม่เคยเอาใจ ไม่เคยเดินจับมือหรือซบไหล่ยามนั่งดูภาพยนตร์ด้วยกันเลยสักครา

โอ้ สาบานได้ว่านี่เรียกว่าเป็นแฟน? แต่กระนั้นกัณตภัทรก็รักฝังลึก

ยากจะถอนใจ ทำให้สิ่งที่เกลียดที่สุดในเวลานี้ คือการได้ยินคำว่า ‘เลิกรา’

“กัณไม่ได้ทำอะไรผิด นัสแค่อยากเลิกขึ้นมาเฉยๆ นี่แหละ อย่าเซ้าซี้

ให้รำคาญนะ บอกว่าเลิกก็เลิกสิ จะอะไรนักหนาฮะ”

ญาณัจฉราพูดกระแทกเสียงเบาๆ แล้วถอนหายใจแสดงความรำคาญ

ออกมา พร้อมกับขยับแว่นดำที่คาดทับผมอยู่ลงสวม เป็นการบอกว่าเธอ

กำลังจะลุกออกจากเก้าอี้สนามในสวนของคฤหาสน์หลังโต และกำลังจะมุ่ง

หน้าไปที่ไหนสักแห่ง โดยไม่สนว่าเพิ่งทำให้หน้าจ๋อยๆ ของแฟนหน้าหล่อที่ตั้งอยู่บนคอเหลือไว้แค่สองนิ้วเข้าตำราคนสวยใจดำ เป๊ะเลย

ไม่ใช่แค่ สวย เลิศ เชิด หยิ่ง เท่านั้น แต่คุณเธอยังพกความเหวี่ยง

วีนไว้เต็มคราบ พร้อมแก่การสาดรังสีได้ทุกเมื่อหากไม่พอใจ ให้มันรู้เสีย

บ้างว่า ‘อย่าให้แม่พูดซ้ำ’

ทันทีที่ร่างระหงลุกขึ้นยืน เรียวขางามที่กัณตภัทรเห็นแต่ก็ไม่เกิด

อารมณ์ทางเพศแต่อย่างใด เพราะเติบโตมาด้วยกันจนเห็นเธอสวมกระโปรง

หรือกางเกงขาสั้นเป็นปกติมาตลอดกระมัง

หนุ่มหล่อที่กำลังเป็น ‘อดีตแฟน’ แหงนหน้ามองญาณัจฉราด้วยน้ำตา

คลอหน่วย ปากเบะออก กลั้นใจพูดไปว่า “แต่ แต่ว่า...”

“ไม่มีแต่! เอาละ จะไปด้วยกันมั้ย ถ้าไม่ไปนัสจะไปคนเดียว”

ญาณัจฉราตวาดแล้วยิ้ม ไม่ได้รู้สึกผิดที่ทำให้หนุ่มหล่อใจสลาย จะอะไรกัน

นักหนา ถ้าคบแบบแฟนมาตั้งเกือบปีแล้วรู้สึกเบื่อหรือรำคาญ ก็เลิกๆ กันไปให้จบสิ้นก็เท่านั้น

“วีนัสจะไปไหน” กัณตภัทรถามหน้าเจี๋ยมเจี้ยม ไม่กล้างอแงทั้งที่น้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ

คนสวยหันขวับ สะบัดปอยผมสีน้ำตาลอ่อนอวดหน้านวลแล้วพูด

“นัดยายกั้งไปกินข้าว ดูหนัง ชอปปิง ถ้ากัณอยากนั่งร้องไห้ต่อที่นี่ก็เชิญตามสบาย ไปก่อนละ”

หญิงสาวพูดถึงเพื่อนสนิทอีกคนที่กัณตภัทรรู้จักดี เรียกว่าเป็นเพื่อน

กลุ่มเดียวกันนี่แหละ ชายหนุ่มยกทิชชูซับน้ำตาแล้วขยำ วางทิ้งไว้บนโต๊ะ

ก่อนจะวิ่งตามพร้อมกับตะโกนตอบว่า

“ไปจ้ะไป...วีนัสไปไหน กัณไปด้วย”

ลูกคุณหนูลอบยิ้มแล้วเดินด้วยรองเท้าส้นสูงปรี๊ด เชิดหน้า ควง

กระเป๋าราคาแพงออกไปรอที่รถสปอร์ตคันงามแบบไม่แคร์

สวย เลิศ เชิด หยิ่ง ไม่ง้อใคร นี่แหละคุณสมบัติของญาณัจฉรา

 

ญาณฤทธิ์กับอัจฉราผู้เป็นพ่อและแม่ของคนสวยหยิ่งมองลงมาจาก

หน้าต่างคฤหาสน์พลางส่ายหน้าไว้อาลัยให้หัวใจลูกชายคนเดียวของเจ้าของ

ห้างหรูของเมืองไทยที่เดินตามก้นญาณัจฉรามาตั้งแต่เด็ก ป่านนี้คงกำลัง

รู้สึกแหลกเหลวไปทั้งร่าง ช้ำชอกทรวงจนก้อนสะอื้นฟั่นเป็นคลื่นตีระลอก

แล้วระลอกเล่าในอก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหน้ายอมรับว่าเจ้าตัวถูก

สาวสวยเอาแต่ใจทอดทิ้งเข้าแล้ว จะว่าขำก็ขำ เห็นใจก็เห็นใจ แต่ทำอย่างไร

ได้ ทั้งคู่รู้จักบุตรสาวของตนดีว่า ลงได้พูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้น คำว่า

‘เลิก’ จึงมีผลทันทีนับจากที่หลุดออกจากปากเธอไป

“เฮ้อ ฉันละเสียดายตากัณจริงๆ” อัจฉราพูดกับสามี

“ไม่เห็นน่าเสียดายเลยคุณ หล่อรวยแล้วไง ดีเสียอีก ถ้าลูกเป็นโสด

ไปตลอด ให้เราได้กอดไปนานๆ แทนที่จะไปกอดคนอื่น”

ญาณฤทธิ์พูดขณะที่มือยังกางหนังสือพิมพ์แล้วพลิกอ่านหน้า

การเมืองต่อ นเป็นภรรยายังคงมองตามท้ายรถของลูกสาวที่เคลื่อนออกไป พร้อมพูดว่า

“ฉันไม่ได้หมายถึงเสียดายความหล่อรวย แต่เสียดายเด็กดีอย่าง

ตากัณต่างหากล่ะ ยายนัสบอกเลิกปุบปับอย่างนั้น”

“ไม่รู้จักลูกของเราหรือไงว่าไม่มีใครเอาอยู่สักคน คล่องแคล่วอย่าง

นั้นคงเบื่อคนหงิมๆ อย่างตากัณนั่นละ แม้กัณจะเป็นเด็กดี แต่พวกเขาก็

เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาล เล่นหัวจนรู้นิสัยกันเกินไป ไม่เหมาะจะเป็น

ผู้นำลูกของเราหรอก อย่างวีนัสต้องได้คนสุขุม เป็นผู้ใหญ่ ผมว่าคู่ครองที่ดี

ของแกต้องแก่กว่าพอสมควร”

ผู้เป็นสามีตอบเป็นเชิงว่าอย่าคิดมากอย่างนั้น นั่นเพราะรู้จักบุตรสาว

ตัวเองดีเท่าๆ กับรู้จักเพื่อนชายลูกเช่นกัน

ก็เห็นกันมาแต่ไหนแต่ไร ถือเป็นลูกหลานคนหนึ่งก็ว่าได้

“ฉันไม่เอาด้วยหรอก ลูกของเราทั้งสาว ทั้งสวย ทั้งเก่ง จะได้แฟน

แก่ได้ยังไงกัน พวกลูกหลานเพื่อนของเราที่หล่อๆ รวยๆ หนุ่มเฟี้ยวมีถมไป

ต้องมีสักคนแหละที่สุขุม พอจะเอายายนัสอยู่ พวกแก่ๆ น่ะหรือ...ฝันไป

เถอะ!” อัจฉราพูดแววตามุ่งมั่น ตั้งความหวังไว้ค่อนข้างงดงามว่าลูกสาวของ

เธอต้องมีคู่ครองที่เหมาะสมทุกประการ ทั้งฐานะ ความรู้ ครอบครัว ประวัติ

และอายุอานามแก่กว่ากันห้าถึงสิบปีก็ถือเป็นเส้นขั้นระดับสูงสุดแล้ว

ถ้ามากกว่านั้น จงไปไกลๆ ซะเจ้าโคแก่!

 

ณ ห้างสรรพสินค้าหรูกลางกรุงเทพมหานคร

“ยายนัส ทางนี้!” เสียงหญิงสาวตะโกนเรียกหน้าโรงภาพยนตร์

“กั้ง”

ญาณัจฉราถอดแว่นพร้อมพาร่างระหงแต่อวบอิ่มอย่างลูกคุณหนู

สุขภาพดีเดินฝ่าผู้คนไปหาเพื่อนรักที่ยืนกางแขนรับ สองสาวยืนกอดกันให้

สมกับคิดถึงราวไม่ได้เจอกันเป็นปี ทั้งที่ความจริงก็แค่สัปดาห์เดียว

กิตติยา พรหมนาค สาวห้าวผิวขาว หน้าตาจัดว่าใช้ได้ แต่น่าเสียดาย

ที่รสนิยมค่อนไปทางทอมบอย ผมสั้นจัดแต่งด้วยเจล อยู่ในชุดเสื้อผ้าหน้า

ผมที่แตกต่างกับญาณัจฉราอย่างสิ้นเชิง ด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวเข้าในกางเกงห้า

ส่วนสีน้ำเงินเข้มกับรองเท้าหัวปิดสีแดง มีเสื้อแจ็กเกตสไตล์เท่สวมทับ

อีกชั้น เจาะหูข้างเดียว ดูเป็นสาวหล่อที่แม้แต่สาวๆ ก็ยังเหลียวหลัง ขนาด

ญาณัจฉราสวมรองเท้าส้นสูงยังดูรู้ว่าสาวห้าวสูงไล่เลี่ยกัน นั่นแปลว่ากิตติยา

ตัวสูงกว่าหญิงทั่วไปนั่นเอง

“เป็นไงบ้าง”

สาวห้าวถามพร้อมบิดไหล่ทั้งสองของเพื่อนไปมาหยอกเย้า ญาณัจฉรา

ผลักศีรษะเล็กของเพื่อนแสร้งว่าเคืองแค้น พูดเหมือนน้อยใจว่า

“จะยังไง ก็คิดถึงแกน่ะสิ เป็นสัปดาห์ไม่โทร. มาบ้างเลยนะยะ”

“แหม ก็งานอบรมสถาปนิกมีทั้งวัน ตามด้วยต้องไปดูงานนอกสถานที่

อีก เหนื่อยนักก็เลยปิดเครื่องตลอด เอาเป็นว่าวันนี้แกอยากกินอะไรซื้ออะไร

ฉันตามใจหมด ถือเป็นการไถ่โทษก็แล้วกัน”

กิตติยาตอบไปตามจริง อาชีพของเธอตามสายงานที่เรียนจบมาคือ

ออกแบบตกแต่งภายใน ที่เพิ่งถูกคัดเลือกจากบริษัทต้นสังกัดให้ไปร่วมงาน

อบรมด้านการออกแบบยังจังหวัดภูเก็ตเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ทำให้ไม่มีเวลา

ให้เพื่อนสนิท ดังนั้นการจ่ายนั่นนี่ให้เพื่อนสาวนี่แหละ ถือเป็นการไถ่โทษ

มันอาจฟังดูตลกที่คนร่ำรวยกว่าอาจขำ แต่สำหรับญาณัจฉรา เธอ

ซาบซึ้งใจมากกว่าจะคิดหยันว่าตัวเองมีเงินมากกว่าเพื่อนรักหลายขุม ทั้งคู่

รักกันจนมองข้ามเรื่องการเงินไปหมดสิ้น

“ดีมาก แกก็รู้ว่าฉันมันคนจน เงินเดือนน้อยนิด” ญาณัจฉราตอบ

แล้วยิ้มน่ารักใส่เพื่อน

กิตติยาแซวลากเสียงยาวประชดด้วยความรักว่า “ย่ะ แม่คนเงินเดือน

น้อยบนกองเงินกองทอง ลำบากที่สุดในโลกเลยสินะ”

เกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาหลังเรียนจบจากเมืองนอก เพื่อนรักแสนสวย

ทำงานสายแฟชั่นที่เมืองไทยด้วยค่าตอบแทนที่น้อยกว่าทางเลือกอื่นซึ่งเป็น

งที่เธอเลือกเอง แม้บิดาของเธอจะเป็นถึงผู้ช่วยเอกอัครราชทูต แถมมารดา

ยังเคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง เรียกว่าอยู่ในสายงานราชการชั้นสูง

ของไทยทั้งคู่ แต่ญาณัจฉรามีความฝันในทางศิลปะและทำได้ดีกับงาน

ออกแบบเสื้อผ้า ซึ่งคนเป็นพ่อแม่ก็สนับสนุน เพราะเชื่อว่าเมื่อไรที่ลูกสาว

แสนสวยลงมือทำอะไรสักอย่าง มักจะทำได้ดี แถมเด่นดังเสียด้วย ดังนั้น

การที่ญาณัจฉราจะทำงานที่ไหนจึงไม่ใช่ปัญหา ถึงเงินเดือนจะน้อยกว่าที่

บริษัทยักษ์ใหญ่ในอิตาลีเสนอ แต่พ่อแม่ก็เลี้ยงเธอไปได้ทั้งชาติ

กัณตภัทรเดินตาแดงมาสมทบ แม้จะยังทำใจไม่ได้ที่เพิ่งถูกบอกเลิก

                            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เมื่อสาวสวยแสนเลิศเลอเพอร์เฟกต์อย่างเธอยอมละทิ้งความเชิดหยิ่งทั้งปวงเพื่อแลกรักแท้จากหนุ่มใหญ่รุ่นน้าที่แสนร้ายกาจ...รักแท้ที่ไม่มีอยู่จริงก็กลับเป็นจริงได้!
 
ใช่ - ไม่ใช่ - อะไรก็ได้ - ขอโทษ
สี่คำนี้ไม่เคยอยู่ในสารบบผู้หญิงพร้อมพรั่งทุกสิ่งและแสนเอาแต่ใจอย่างญาณัจฉรา 
ทว่าบัดนี้กลับถูกเจ้าตัวขุดมาใช้กับทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะกับ อัครพล วิชาญตัณณ์  หนุ่มใหญ่ผู้หล่อเหลาและร้ายกาจต่อเธออย่างเสมอต้นเสมอปลาย 
พระเจ้าช่วยกล้วยน้ำว้าสองหวี! 
 
เพื่อผู้ชายคนนี้ คนที่แก่กว่าเธอถึง ๑๕ ปี เป็นทั้งน้าชายแท้ๆ ของแฟนเธอเอง 
เป็นทั้งอดีตลูกศิษย์ของแม่เธอ และยังเป็นเลขาฯ ของพ่อเธอ 
ซ้ำยังคลุกคลีกับเธอแต่เล็ก จนเธอหลงรักเขามาตั้งแต่เด็ก
ญาณัจฉรายอมทุกอย่างค่ะ!
ไม่ว่าจะต้องกล้ำกลืนฝืนทนที่ตนต้องกลายเป็นเบี้ยล่าง...ถูกเขาเอาเปรียบทุกทางโต้งๆ แค่ไหนตาม! 
‘เพื่อรักแท้ที่ไม่มีอยู่จริงให้กลับเป็นจริงได้...’ มนตร์รักฉบับสาวสวย เลิศ เชิด หงอ ว่าไว้!

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024