นวนิยายชุด แด่...เธอที่รัก : มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง (คณิตยา)

นวนิยายชุด แด่...เธอที่รัก : มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง (คณิตยา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160017935
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 260.00 บาท 65.00 บาท
ประหยัด: 195.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เสียงกรี๊ดต้อนรับวินเซนต์ นักร้องหนุ่มผู้หล่อเหลามากด้วย

ความสามารถขวัญใจเหล่าแฟนคลับ ดังสนั่นไปทั่วสนามบินนานาชาติ

กัวลาลัมเปอร์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ทันทีที่เขาก้าวตาม

สมาชิกนักดนตรีของวงและทีมงานออกมาจากสนามบิน โดยมีเหล่า

บอดีการ์ด ทีมงานฝ่ายมาเลเซียที่ร่วมจัดคอนเสิร์ต ตลอดจนการ์ดสนามบินคอยคุ้มกันอย่างแน่นหนา

วินเซนต์โบกมือทักทายแฟนเพลงเมื่อเหล่าแฟนคลับตะโกนเรียก ชื่อเขา

บางคนยกกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายรูปเขา บางคนยื่น

กล่องของขวัญ ช่อดอกไม้ ตุ๊กตา และของที่ระลึกให้ ขณะที่บางคนส่ง

โปสเตอร์ภาพถ่ายในอิริยาบถต่างๆ ของเขาให้เซ็น เขารับข้าวของจาก

แฟนคลับส่งให้ทีมงานซึ่งช่วยถือและช่วยกลั่นกรองไปในคราวเดียวกัน ด้วย

รู้ว่าบางครั้งแฟนคลับก็ส่งของที่ไม่เหมาะสมมาให้ ทั้งยังมีพวกแฟนคลับ

โรคจิตด้วย ทีมงานจึงต้องกลั่นกรองชั้นแรกแทนเขา

วินเซนต์รับโปสเตอร์ภาพถ่ายจากแฟนคลับมาเซ็นชื่อแล้วส่งคืนให้

ใบหน้าของซูเปอร์สตาร์หนุ่มยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส แม้จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อย

และอ่อนล้าจากการตระเวนแสดงคอนเสิร์ตมาหลายประเทศติดต่อกันตลอด

ระยะเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้หลังเสร็จสิ้นการทัวร์คอนเสิร์ต

ที่อเมริกาและยุโรป เขาเพิ่งได้หยุดพักแค่สองสัปดาห์ระหว่างรอพีเทอร์

นักดนตรีของวงแต่งงานและฮันนีมูนที่ซาลซ์บูร์ก ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็น

ประเทศบ้านเกิดของพวกเขา จากนั้นก็ต้องเดินทางมาทัวร์คอนเสิร์ตที่เอเชีย

ต่อทันที โดยเริ่มจากเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาจนถึงมาเลเซีย

วินเซนต์เป็นนักร้องหนุ่มชาวออสเตรียวัยสามสิบเอ็ดปีที่ไปโด่งดังใน

อเมริกาและกำลังร้อนแรงมากในยุคนี้ เขาเป็นขวัญใจของแฟนเพลงทุกเพศ

ทุกวัยทั่วโลก โดยเฉพาะเด็กสาวๆ เพราะไม่ได้มีแค่เสียงที่ทรงพลัง

หวานซึ้ง และไพเราะเสนาะหูยามขับขานบทเพลงซึ้งกินใจบนเวทีเท่านั้น แต่

เขายังมีรูปร่างหน้าตาที่ดึงดูดความสนใจทั้งจากเพศเดียวกันที่ไม่ใช่ชายแท้

และจากเพศตรงข้ามทั้งสาวและไม่สาว ด้วยเครื่องหน้าหล่อเหลา แกร่ง

สมชายชาตรี ไล่ตั้งแต่คิ้วเข้มหนาได้รูปสวย ดวงตาคมสีอำพันหวานซึ้ง

ราวกับดวงตาผู้หญิง จมูกโด่งตรงรับกับเรียวปากบางราวอิสตรีและคาง

บึกบึน สาวๆ เห็นแล้วใจละลาย เครื่องหน้าทุกชิ้นที่ประกอบขึ้นเป็นวินเซนต์

งดงามไร้ที่ติ เมื่อประกอบกับรูปร่างสูงใหญ่กำยำหากแต่สมส่วนอย่างคนที่

เล่นกล้ามแต่พองาม จึงทำให้เขากลายเป็นหนุ่มหล่อที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม

ดังที่สาวๆ ถวิลหา

วินเซนต์สมบูรณ์แบบเกินกว่าที่บุรุษเพศคนใดจะเทียบเคียงได้จน

แฟนคลับเทคะแนนให้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับการโหวตให้เป็นเทพบุตร

เดินดินสามปีซ้อนจากแฟนคลับทั่วโลกที่เข้ามาโหวตหนุ่มฮอตแห่งปี ที่จัดโดย

นิตยสารขายธีมเซ็กซี่แห่งหนึ่งในอเมริกาซึ่งจัดทำขึ้นทุกๆ ปีที่ครบรอบ วันก่อตั้ง

ผลที่ตามมาทำให้เขาได้รับการทาบทามให้ถ่ายแบบขึ้นปก ไม่เฉพาะ

จากนิตยสารเซ็กซี่ฉบับนั้น แต่รวมถึงนิตยสารหัวอื่นแทบทุกฉบับ และมี

การเขียนบทความพาดพิงถึงเขาในแง่มุมต่างๆ ตลอดปี ทำให้เขาดังเป็น

พลุแตกมากยิ่งขึ้น งานที่เดิมมีมากอยู่แล้วก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ทั้งงาน

 

อีเวนต์ งานถ่ายโฆษณา งานเดินแบบ รวมถึงการออกอัลบัมเพลงถี่ขึ้น อัน

นำมาสู่การทัวร์คอนเสิร์ตตลอดปี เขาได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นหนึ่งใน

คนดังที่ทำรายได้มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยนิตยสาร Forbes ระบุ

ว่า ปีที่ผ่านมาเขาทำรายได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญ

ชื่อเสียงของวินเซนต์ไม่ได้ดังชั่วข้ามคืน หากแต่เกิดจากการสั่งสมมา

ตลอดสิบเจ็ดปีที่เข้าสู่วงการเพลง เริ่มต้นจากเด็กออสเตรียธรรมดาๆ ที่

ชื่นชอบการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ หลังจากขึ้นเวทีประกวดร้องเพลงของ

เด็กแห่งหนึ่งแล้วได้รางวัล แม่ของวินเซนต์ก็พาเขาไปประกวดตามเวทีต่างๆ

อีกหลายเวที จนวันหนึ่งทีมงานโปรดิวเซอร์ที่อเมริกาไปเจอเขาในการ

ประกวดรายการหนึ่งและเห็นพรสวรรค์ในตัวเขา จึงติดต่อให้เขาลองส่ง

ซีดีเดโมไปให้พิจารณา ต่อมาไม่นานทีมโปรดิวเซอร์ก็ติดต่อให้เขาไปออดิชัน

ซึ่งเป็นการทดสอบด้วยการร้องสด ผลปรากฏว่าผู้บริหารพอใจเสียงและ

หน้าตาของเขา จึงนำมาสู่การเซ็นสัญญาเป็นนักร้องเดี่ยวกับค่ายเพลงชื่อดัง

ในอเมริกา จากนั้นก็ได้ออกซิงเกิล๑ แรกในวัยสิบสี่ปี วางจำหน่ายในรูปแบบ

ซีดี และไต่ขึ้นมาอยู่อันดับสามของบิลบอร์ดแดนซ์ชาร์ต จากนั้นซิงเกิล

ที่สองและสามก็ออกมาตอกย้ำความดัง จนเขาได้ออกอัลบัมแรกที่ใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่ออัลบัม

แม้เพลงในอัลบัมแรกจะได้รับความนิยมติดชาร์ต แต่อัลบัมถัดๆ มา

ปรากฏว่ายังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ส่งผลให้การออกซิงเกิลต่อมา

ทิ้งระยะห่างไปพอสมควร นั่นอาจเป็นเพราะแนวเพลงยังไม่โดนใจตลาด

บางวัย ตราบจนเจ็ดปีก่อน เบน ผู้เป็นพ่ออุปถัมภ์๒ และเป็นนักแต่งเพลงชาว

 

ออสเตรียที่ไปโด่งดังเป็นพลุแตกอยู่ในอเมริกาอยู่หลายปีจากการแต่งเพลง

ประกอบภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ดังหลายต่อหลายเพลงจนติดชาร์ตบิลบอร์ด

ฮอต ๑๐๐๓ และได้รับรางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยมมากมาย

ยอมมาแต่งเพลงให้เขาและพ่วงตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวไปด้วย นับแต่นั้น

เส้นทางนักร้องของวินเซนต์ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาดังเปรี้ยงปร้างกลาย

เป็นซูเปอร์สตาร์ที่แฟนคลับทั่วโลกรู้จักภายในชั่วข้ามคืนหลังจากปล่อย

 ซิงเกิลแรกที่แต่งโดยเบน โดยเพลง “One Summer” ซึ่งเป็นซิงเกิลแรก

ติดอันดับสิบของชาร์ตบิลบอร์ดฮอต ๑๐๐ ของอเมริกาหลังออกมาได้เพียง

หนึ่งสัปดาห์ ตามมาด้วยเพลงอื่นๆ ที่ติดชาร์ตบิลบอร์ดฮอต ๑๐๐ เช่นกัน

ต่อมาจึงได้รวมอัลบัมในชื่อว่า Mirabell เพลงในอัลบัมนี้แทบ

ทั้งหมดแต่งโดยเบน และได้รับความนิยมอย่างมากจนได้รับรางวัล Multi-

Platinum จากสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา๔ เนื่องจาก

สามารถทำยอดขายอัลบัมได้เกินสองล้านชุด นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล

แผ่นเสียงทองคำขาวในอังกฤษจากยอดขายเกินสามแสนชุด และได้รับ

รางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวในแคนาดา ออสเตรเลีย ออสเตรีย ตลอดจน

หลายประเทศในเอเชีย รวมถึงรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวในรูปแบบดิจิทัล

ด้วย ความโด่งดังของเขาทำให้นิตยสารระดับโลกอย่าง Billboard, People,

US Weekly และ Entertainment Weekly ต้องนำเรื่องราวประวัติ

ของเขาไปตีพิมพ์

“Mirabell” ซึ่งเป็นเพลงชื่อเดียวกับอัลบัมนั้น เบนแต่งให้มีเนื้อหา

ตัดพ้อคนรักที่ทิ้งเขาไป วอนอย่าให้เป็นรักลวง แต่ขอให้เป็นรักแท้เหมือน

ผู้สร้างสวนและพระราชวังมิราเบลล์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซาลซ์บูร์ก ประเทศ

ออสเตรียแห่งนี้ ซึ่งรับรู้กันว่าเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรัก ทั้งยังเป็น

สถานที่ที่ก่อให้เกิดความรักระหว่างหนุ่มในเพลงกับคนรักด้วย

เนื้อเพลงเศร้ากินใจผนวกกับเสียงนุ่มทุ้มของวินเซนต์ที่ขับขาน

ออกมาได้อย่างน่าฟัง ทำให้แฟนเพลงซาบซึ้งไปกับเนื้อหาของบทเพลง

ส่งผลให้เพลงนี้ติดชาร์ตบิลบอร์ดฮอต ๑๐๐ ในสัปดาห์แรกที่ปล่อยออกมา

และยังติดชาร์ตยาวนานอีกหลายเดือน ยอดขายทั้งจากร้านค้าและการ

ดาวน์โหลดออนไลน์ ตลอดจนยอดการเปิดของดีเจตามคำขอของแฟนเพลง

ถล่มทลายเป็นประวัติการณ์ และที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือ เพลง “Mirabell”

ซึ่งเป็นเพลงที่สื่อถึงความไม่สมหวังในความรัก กลับกลายเป็นเพลงที่วง

ดนตรีนิยมนำไปร้องหรือบรรเลงในงานแต่งงานมากที่สุด โดยเฉพาะคู่รัก

ที่มาจัดงานในสวนมิราเบลล์ แม้แต่พีเทอร์กับเจ้าสาวซึ่งจัดงานแต่งงานที่

พระราชวังและสวนมิราเบลล์ก็ยังใช้เพลง “Mirabell” ประกอบงานแต่ง

วินเซนต์เลยคิดเล่นๆ ว่า ในเมื่อคนทั้งบ้านทั้งเมืองต่างนำเพลงนี้มา

ร้องในงานแต่งงาน ฉะนั้นบางทีอาจเป็นเขาที่คิดไปเองว่าเนื้อหาของเพลงนี้

ว่าด้วยการไม่สมหวังในความรัก ใช่...เขาอาจคิดแตกต่างไปเองคนเดียว

เพราะแม้ท่วงทำนองจะเศร้า แต่เนื้อหาท่อนฮุกคือการออดอ้อนคนรัก ขอ

อย่าได้ทิ้งให้เขาเดียวดายอยู่ข้างหลัง แต่ขอให้เป็นรักแท้และยืนยาวให้

เหมือนกับตำนานความรักของผู้สร้างพระราชวังและสวนมิราเบลล์

เบนยังแต่งเพลงให้เขาอีกหลายเพลง ซึ่งล้วนแล้วแต่กลายมาเป็น

เพลงดังติดชาร์ตในปัจจุบัน กล่าวได้ว่านับตั้งแต่เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์

การดำเนินชีวิตหรือตารางชีวิตของเขาในแต่ละวันก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป

วินเซนต์ไม่รู้ว่าบรรดาสื่อและแฟนคลับไปสืบรู้มาได้อย่างไรว่าแต่ละวันเขา

จะไปไหนหรือทำอะไร บางทีอาจเริ่มต้นจากการที่แฟนคลับกลุ่มหนึ่งทำ

 

เว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ให้เขาอย่างเป็นทางการตั้งแต่สมัยที่เขายังไม่ดัง เหล่า

ทีมงานเล็งเห็นความปรารถนาดีนั้น จึงส่งข้อมูลกิจกรรมของเขาไปให้ แล้ว

นับแต่นั้นเว็บไซต์อื่นๆ ที่มีเนื้อหาต้องการประชาสัมพันธ์เขาในทำนอง เดียวกัน

รวมถึงเผยแพร่งานและการแสดงคอนเสิร์ตของเขา ก็เกิดขึ้นตามมาราวกับดอกเห็ด

ทว่าการส่งข้อมูลไปให้แฟนคลับช่วยประชาสัมพันธ์ดังกล่าวเกิดขึ้น

เมื่อนานมาแล้ว ต่อมาเมื่อวินเซนต์มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทีมงานก็ไม่เคยส่ง

ข้อมูลไปให้เว็บไซต์เหล่านั้นอีกเลย ด้วยเหตุผลประการเดียวนั่นคือหวั่นจะ

กระทบชีวิตส่วนตัวของเขา ซึ่งก็เป็นความกังวลของทีมงานไปเอง เพราะเขา

บอกแล้วว่าไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อการดำเนินชีวิต เขายอมรับการใช้ชีวิตอยู่

กลางสปอตไลต์ หรืออีกนัยหนึ่งกับการเป็นบุคคลสาธารณะมานานแล้ว แต่

นั่นแหละ ทุกคนก็ยังยืนกรานที่จะไม่ส่งข้อมูลให้อีก ทว่าน่าแปลกที่แม้

ไม่เคยส่งข้อมูลใดๆ ให้เว็บไซต์เหล่านั้น แต่กลับยังมีกิจกรรมหรือตาราง

งานของเขาเผยแพร่ออกมาเรื่อยๆ ราวกับมีสายสืบอยู่ในทีมงานเขาก็ไม่ปาน

ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้เขามาจนถึงทุกวันนี้

“วินซ์ สื่อมาเลย์ขอสัมภาษณ์”

จู่ๆ เบนผู้เป็นทั้งพ่ออุปถัมภ์และผู้จัดการก็เดินกลับมาอยู่ในระดับ

เดียวกับเขา พลางกระซิบบอกเป็นภาษาอังกฤษ วินเซนต์ขมวดคิ้ว ก่อนตอบ

กลับไปเป็นภาษาเยอรมัน

“แต่เราคุยกับผู้จัดคอนเสิร์ตที่นี่แล้วว่าจะมีการให้สัมภาษณ์สื่อ

เป็นทางการที่ศูนย์ประชุมกัวลาลัมเปอร์ ไม่ใช่ที่สนามบิน ผมเหนื่อยกับ

การเดินทางจะแย่อยู่แล้วนะเบน” ยามต้องการคุยเป็นการส่วนตัว เขาจะ

เปลี่ยนมาใช้ภาษาเยอรมันซึ่งเป็นภาษาราชการของประเทศเขา

เบนทำหน้าลังเล ก่อนตอบเป็นภาษาเดียวกันด้วยน้ำเสียง

ประนีประนอมแกมปลอบประโลมว่า “อย่าตัดรอนสื่อแบบนั้นสิ เขาอุตส่าห์

มารอทำข่าวตั้งแต่เช้า”

ซูเปอร์สตาร์หนุ่มหน้าหงิก “คุณก็พูดอย่างนี้ทุกที รู้มั้ยผมแทบจะ

หลับตาเดินได้อยู่แล้ว เมื่อคืนกว่าจะได้หลับก็ปาไปเกือบรุ่งสาง”

“ก็นายทำตัวเอง ทั้งที่เคยเตือนแล้ว ห้ามมาโอดครวญเด็ดขาด”

เบนหมายถึงการที่ลูกอุปถัมภ์พาสาวสวยที่มาเสนอตัวถึงที่ขึ้นเตียง

ก่อนหน้านี้เบนเคยเตือนให้ระวังว่าจะมีปัญหาตามมาหากสาวๆ เหล่านั้น

อยากเป็นข่าวหรือต้องการแบล็กเมล์ ซึ่งก็ดูเหมือนคำเตือนจะได้ผล ทำให้

วินเซนต์เพลาๆ ลงไป โดยเฉพาะเวลาทัวร์คอนเสิร์ต แต่ทริปเอเชียคราวนี้

ทำท่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว แล้วครั้งนี้จะว่ามา ‘เสนอตัวถึงที่’ ก็

ไม่ถูกต้องนัก เพราะสถานที่จัดคอนเสิร์ตคือที่เดียวกับที่พัก นั่นคือเดอะ

เวเนเชียน มาเก๊า ซึ่งเป็นโรงแรมกาสิโนขนาดใหญ่บนเกาะฮ่องกง เมื่อ

คอนเสิร์ตจบก็สามารถมารอนักร้องหนุ่มหน้าห้องได้เลย เขาเดาว่าวินเซนต์

ต้องนัดแนะสาวเจ้าคนที่ว่า และสั่งการบอดีการ์ดหน้าห้องไว้ล่วงหน้า

เรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ได้รับอภิสิทธิ์ให้มาแกร่วรอถึงหน้าห้อง

เพราะโดยหลักถึงจะเป็นแขกวีไอพีของโรงแรม ก็ไม่ได้รับอภิสิทธิ์ให้ฝ่าฝืน

คำร้องขอของทางเขา ที่ขอความเป็นส่วนตัวไม่ให้แฟนคลับหรือแขกเหรื่อ

ขึ้นมาเดินเพ่นพ่านหรือรบกวนบนชั้นที่พัก ซึ่งส่วนใหญ่เขาจะเหมาทั้งชั้น

ให้แก่นักดนตรีและทีมงาน

วินเซนต์ทำหน้าเบ้แล้วว่า “ก็ใครจะไปทำตัวเป็นฤๅษีเหมือนคุณได้ล่ะ

ไม่สิ...” วินเซนต์เอียงคอมองเบน พลางทำหน้ายียวนเมื่อพูดต่อว่า “จะว่า

ฤๅษีก็ไม่ถูก เพราะอย่างคุณน่ะแคซาโนวาตัวพ่อ ขนาดเด็กรุ่นลูกก็ยังไม่เว้น”

ความจริงวินเซนต์ไม่ใช่คนกวนประสาทหรือคนขวางโลกมาก่อน แต่

นับตั้งแต่หญิงสาวผู้ที่เขาชอบเหน็บกับเบนจนติดปากอยู่บ่อยๆ ว่า ‘เด็ก

รุ่นลูก’ ก้าวเข้ามาในชีวิต ชีวิตเขาก็กลับตาลปัตรเอียงกระเท่เร่ กลายมาเป็น

คนปากจัดชอบแขวะคนอื่นไปทั่ว

คีตกาล หัตถายุทธ คือเด็กรุ่นลูกคนนั้น เธอเป็นแฟนคลับชาวไทย

ที่หลงใหลในเสียงร้องของเขา โดยเฉพาะเพลง “Mirabell” จนทำให้เดินทาง

มาซาลซ์บูร์กเพื่อมาตามรอยสถานที่ในบทเพลง ซึ่งก็คือสวนและพระราชวัง

มิราเบลล์ นั่นคือสิ่งที่เธออ้างกับเขา แต่พอเขาพาไปแนะนำให้รู้จักทีมงาน

ในวงโดยเฉพาะกับเบน ท่าทีของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เธอจี๋จ๋าอี๋อ๋อ

กับเบนออกนอกหน้ากระทั่งแทบไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา แม้เขาจะทำตัวดี

กับเธอแค่ไหน คีตกาลก็แทบไม่ชายตามามอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามสลัด

เธอออกจากความคิดคำนึง แต่ยิ่งสลัดกลับยิ่งเกาะติดเป็นเงาของหัวใจ อาจ

เพราะเธอสวยอย่างหาตัวจับยากและเซ็กซี่มากด้วย เธอเซ็กซี่จากอากัปกิริยา

และการพูดการจาที่เป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องอาศัยการปรุงแต่งใดๆ เรียกว่า

เซ็กซี่โดยเนื้อแท้ แค่เห็นเธอเขาก็เกิดความรู้สึกเร่าร้อน อยากจะพาขึ้นเตียงแล้ว

ไม่แน่...ที่เขางุ่นง่านทุรนทุรายคอยฟาดงวงฟาดงาใส่คนรอบข้างอยู่

แบบนี้ อาจเพราะเขายังไม่สมหวังหรือยังไม่สมปรารถนาในตัวเธอก็ได้

หรือไม่ก็อาจเพราะเขายังคงเห็นภาพเธอสนิทสนมกับเบนตำตาตำใจมาตลอด

สองสัปดาห์ที่เธอติดสอยห้อยตามมาทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชีย แต่ไม่ว่าจะด้วย

เหตุผลใด มันทำให้เขารู้สึกหมั่นไส้เธออย่างหนัก เห็นแล้วเป็นต้องหงุดหงิด

และพาลอารมณ์เสียใส่เธอทุกครั้ง

ต้องโทษเบนที่ใจดีกับเธอเกินไป...

ใช่...การที่เธอหันไปอี๋อ๋อคลอเคลียกับเบนแทนที่จะเป็นเขาก็เพราะ

เหตุผลนี้แน่ๆ...เบนสามารถดึงเธอมาร่วมทัวร์คอนเสิร์ตได้ ในขณะที่

กับเขา...นับตั้งแต่เธอทำตัวห่างเหิน เขาก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอเรื่อยมา

ฉะนั้นจะให้เขาชวนเธอมาด้วยจึงไม่มีทางเด็ดขาด ยิ่งกว่านั้นเขายังร่วมมือ

กับโซฟี คอยขัดขวางเธอทุกวิถีทางไม่ให้ติดตามมาร่วมทัวร์คอนเสิร์ตกับวง

ด้วยเมื่อเบนเอ่ยปากชวน แต่อย่างว่า เบนเป็นถึงผู้จัดการส่วนตัวของเขา

ฉะนั้นเขาจึงไม่อาจทัดทานหรือตัดรอนคำร้องขอของเบนได้นานนัก ในที่สุด

เบนก็เป็นฝ่ายชนะและเธอสามารถติดตามวงเขามาได้

                           (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

"โพรเจกต์ แด่...เธอที่รัก : มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง"

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้น ณ  "มิราเบลล์" สถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความรักระหว่างเขากับเธอ ความรักซึ่งก่อตัวอย่างสวยงาม กรุ่นกลิ่นอายหอมหวานในดินแดนแห่งเสียงเพลง แต่กลับต้องจบลงด้วยการลาจากอย่างไม่คาดฝัน เมื่อแม่ของ "คีตกาล" ผู้กำลังถูกโรคอัลไซเมอร์รุมเร้า และเอาแต่พร่ำขอโทษต่อ "เขา" คนนั้น หญิงสาวจึงต้องหาคำตอบว่า ‘เขา’ คือใคร และเกิดอะไรขึ้นเมื่อ 21 ปีก่อน เธอได้ตัดสินใจเดินทางไปยังอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันลือชื่อแห่งออสเตรีย และยอมเข้าไปคลุกคลีกับ ‘วงวินเซนต์’ วงดนตรีชื่อดังระดับโลก เพื่อประชิดตัวเป้าหมาย และตาม ‘เขา’ กลับไปพบแม่เป็นครั้งสุดท้าย
 
"วินเซนต์" รู้สึกสะดุดตากับสาวน้อยคนหนึ่งทันทีที่เห็นเธอที่พระราชวังมิราเบลล์ เขาแสดงความสนใจเธออย่างเปิดเผย แต่แล้วเมื่อจู่ๆ เธอได้รับโอกาสให้ติดตามวงเขาไปทัวร์คอนเสิร์ต นักร้องหนุ่มกลับรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง เนื่องจากผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แฟนคลับธรรมดา แต่เข้ามาใกล้ชิดวงเขาโดยมีจุดประสงค์แอบแฝง เขาจึงต้องจับตาดูเธอเป็นพิเศษ แต่ไม่ว่าเธอจะเข้ามาด้วยเหตุผลใดก็ตาม ชายหนุ่มก็ตั้งมั่นไว้แล้วว่า
จะไม่มีวันปล่อยเธอหลุดมือไปอย่างแน่นอน !! แล้วเรื่องราวจะดำเนินต่อไป และมีบทสรุปอย่างไร !? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาติดตามร่วมกันในนิยาย "โพรเจกต์ แด่...เธอที่รัก : มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง" เล่มนี้

เขียนโดย "คณิตยา"

 

432 หน้า


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024