สุดทราย ปลายฟ้า (อลินน์)

สุดทราย ปลายฟ้า (อลินน์)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165000918
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 240.00 บาท 60.00 บาท
ประหยัด: 180.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เวิ้งทะเลสีดำทะมึนจนแทบแลไม่เห็นสิ่งอื่นใดนอกจากพรายนํ้า

สีเงินสะท้อนเกลียวคลื่นลูกแล้วลูกเล่า เรือยางล่าหนึ่งค่อยๆ โต้คลื่นอย่างเงียบกริบ และอดทน ภายในเรือคือหนุ่มฉกรรจ์ร่างกายกำยำแปดคนในชุดสีดำสนิทยิ่งกว่า ผืนนํ้า ทุกคนล้วนพรางหน้าด้วยสีเข้มจนเห็นแต่นัยน์ตาเคร่งเครียดสะท้อน

แสงจันทร์ในความมืด อาวุธครบมืออยู่ข้างล่าตัว ล่าแขนแข็งแรงจ้วงพายผ่าน

เกลียวคลื่นสูงตํ่าอย่างนุ่มนวลแต่รวดเร็วราวกับครีบปลาที่ร่ายร่าอยู่ในสายนํ้า...

พลิ้วไหวและว่องไว เพี่อพาเรือยางเคลื่อนไปสู่เป้าหมายตามช่วงเวลาที่ได้ถูกระบุไว้

คนที่นึ่งหัวเรือโบกมือเป็นสัญญาณเมื่อเห็นเป้าหมายอยู่ไกลๆ ตรงกับ

พิกัดที่ได้รับแจ้ง เท่านั้นพายก็ถูกวางลง ฝีพายแต่ละคนมองหน้ากันในความมืด

ไม่มีใครพูดออกมาสักค่าเดียว แม้เสียงหายใจหนักๆ ก็ไม่มีให้ได้ยินทั้งที่ การพายเรือกินเวลามาได้พักใหญ่ เพราะต้องการให้การเคลื่อนไหวเงียบที่สุด

แสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความเชี่ยวชาญของฝีพายทุกคน สัญญาณมือเริ่ม

ขึ้นที่หัวเรือ ล่งผลให้ชายฉกรรจ์ต่างคว้าอาวุธและอุปกรณ์สำคัญต่างๆ หย่อนตัวลงน้ำอย่างเงียบเชียบ

 

ระยะทางจากเป้าหมายห่างจากเรือยางมากพอที่จะแน่,ใจว่า หากมีใครอยู่ ที่ตำแหน่งเป้าหมาย ก็จะไม่สามารถมองเห็นเรือยางหรือสังเกตความเคลื่อนไหว ในความมีดนี้ อุปกรณ์ดำน้ำครบครันทำให้การเคลื่อนตัวทำได้เร็วสมใจ

ขณะที่การคืบคลานใต้ผืนน้ำกำลังดำเนิน เรือขนสินค้าลำเล็กที่ล่องกลาง น้ำยามราตรีอย่างย่ามใจ ไม่ได้เฉลียวคิดว่า หายนะกำลังคืบคลานมา

“อ้าว ทอมมี่ ไหนเดวิดบอกว่าจะมาเองคราวนี้” ชายร่างท้วมอายุราว หกสิบร้องในระยะไม่กี่เมตรก่อนที่เรือเร็วสองลำจะแล่นมาพบกัน จุดจอดเรือทั้ง สองคือข้างเรือขนสินค้าลำเล็กที่ทอดสมอกลางทะเล สะพานเหล็กถูกวางไว้ที่ กราบเรือ คนร้องทักซึ่งอยู่ในชุดกางเกงแค่เข่าเสื้อฮาวายดูเหมือนนักท่องเที่ยว ทั่วไปพาร่างท้วมเหยียบกราบเรืออย่างทะมัดทะแมง โดยมีชายฉกรรจ์ตามหลัง ไปติดๆ ถึงสองคน

คนชื่อทอมมี่ไม่ตอบค่าถาม เหยียดตามองด้ามปีนที่โผล่พ้นชายเสื้อของ ผู้ติดตามชายร่างท้วมแล้วกระโจนจากเรือเล็ก พรวดเดียวก็แตะกราบเรือ

ราวกับเหิน เขาก้าวตรงไปยังลานเรือ สายตาคมกริบเหมือนเหยี่ยวกวาดไปทั่ว

“เรียบร้อยดีไหม” ร่างของทอมมี่เด่นโพลน ความผึ่งผายเอาจริงแฝงอยู่

ในค่าถามราบเรียบ กิริยาเดินรอบลานเพี่อสำรวจงานแสดงถึงความผ่อนคลาย จนทำให้ชายที่ติดตามคนร่างท้วมลอบกลืนน้ำลายแล้วมองตากัน

ชายร่างผอมเกร็งในชุดซอมซ่อคล้ายชาวประมง เดินเข้ามาหาทอมมี่อย่าง นอบน้อม

“ครับนาย”

“ของอยู่ไหน”

ทันทีที่ชายร่างผอมเกร็งชี้มือ คนถามก็ตรงเข้าไปในเคบินเรือเล็กๆ นั่น ทันทีโดยมีคนในชุดฮาวายตามไปติดๆ

“ไหนเดวิดว่าจะมาเอง ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเขา” คนตามเริ่มหงุดหงิดเมื่อ ไม่ได้ค่าตอบที่ต้องการ หรี่ตามองชายหนุ่มอย่างไม่ชอบใจ ทอมมี่คือมือขวาของ เดวิด พ่อค้าที่เขาติดต่อขอชื้อสินค้าเป็นประจำ เป็นที่รู้กันว่าเดวิดหาตัวได้ยาก

นักในระยะหลังและมักส่งมือขวาคนนี้ประสานงานอยู่เนืองๆ แต่เขาแจ้งล่วงหน้า

แล้ว ว่าต้องการพบกับเดวิด ไม่ใช่ตัวแทน

ในเคบินเรือแสนแคบผนังและพื้นกรุด้วยแผ่นไม้เก่า มีกองถุงปุยวาง

ช้อนเกือบเต็มพื้น ร่างลํ่าสันของทอมมี่เริ่มออกแรงย้ายกระสอบปุยออกโดยมี

คนเรือร่างแกร็นคนเดิมเข้ามาช่วย ส่วนเด็กเดินเรืออีกสองคนออกไปรอข้างนอก ตามคำสั่ง

ชายร่างท้วมกระเถิบเข้าใกล้กองปุย สายตาจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ยังมองไม่เห็น ยิ่งถุงปุยถูกเคลื่อนออก ริมฝีปากของพลเอกเอิบศักดิ์...นายทหารหลังเกษียณ ที่ไม่ยอมอับจนต่อโชคชะตา...ก็ค่อยๆ คลี่ยิ้ม

เดวิดกระจายสินค้าสู่มือเขาด้วยวิธีการนี้มาหลายปี ทันทีที่สินค้ามาถึง ประเทศเพื่อนบ้าน มันจะถูกบรรจุอย่างแน่นหนาและถูกลำเลียงโดยรถของ ทางการ อาศัยบารมีต้นสังกัดทำให้ไม่มีใครกล้าตรวจค้นว่ารถเหล่านั้นชนถ่าย อะไรมาบ้าง เมื่อถึงชายทะเล สินค้าพวกนั้นก็จะถูกขนใส่เรือขนส่งลำเล็ก ดูเผินๆ คล้ายเรือประมงชองชาวบ้านแล่นผ่านน่านน้ำเข้าสู่ทะเลไทย ทั้งสองฝ่ายจะนัด กันกลางน้ำอย่างเช่นครั้งนี้ เพี่อตรวจนับสินค้าให้ตรงกันทั้งสองฝ่ายก่อนที่เรือ จะแล่นสู่ปลายทาง จากนั้นคนของเขาจะมารับของต่อไป

“เดวิดอยู่ไหน กลิ่นไม่ค่อยดีรู้บ้างหรือเปล่า” เขาถามคนที่ยังคงย้าย กระสอบปุยชั้นล่างสุด มือแข็งแรงชะงักเพียงนิดเดียว แล้วถุงปุยใบสุดบ้ายก็ถูก โยนออกโดยแรง เผยให้เห็นบานประตูสับที่แทบกลืนไปกับพื้นเรือ ชายร่างแกร็น คนเดิมใช้ชะแลงงัดบานไม้เก่าทำมกลางสายตาทุกคู่ ไม่กี่อึดใจ สินค้าที่วางเรียง แน่นขนัดภายในก็ปรากฏแก1สายตา

พลเอกเอิบศักดิ์ตาเป็นประกายวับ ลืมค่าถามที่เริ่มต้นไว้เมื่อตัวอย่างสินค้า ถูกส่งมาถึงมือ

“ดีมาก” เขาหัวเราะถูกใจขณะตรวจสินค้า พยักพเยิดให้ชายฉกรรจ์ที่ ตามหลังมาตรงเข้านับจำนวนสินค้าที่เหลือ ระหว่างนั้นมีแสงไฟล่าใหญ่สาด กระทบล่าเรือจนคนบนเรือต้องหยีตา อาการผ่อนคลายก็เปลี่ยนไปทันที

พลเอกเอิบศักดิ์เรียกลูกน้องที่ต่างตะลึงตามแสงไฟให้ควักปีนออกมา

ทั้งคู่กรูไปยังทิศเดียวกับแสงสปอตไลต์จ้า ขณะที่คนในเคบินต่างเงียบกริบ

แล้วเสียงเครื่องยนต์ก็แล่นใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา

ร่างท้วมแตะที่เอวด้วยสัญชาตญาณ แต่ไม่นานต่อมา มือที่อวบจนหาข้อนิ้วไม่เจอก็ลดลง

เสียงลมทะเลพัดวู่ ประสานกับเสียงเครื่องยนต์ของเรือสินค้าที่ยังติด เครื่องแต่เพียงลำเดียว

“อะฮ่า มีคนถามถึงฉันหรือ” คนทักกำลังไต่บันไดเรือ ใบหน้าคมคาย สมวัยแจกยิ้มกว้างมาถึงในเคบิน เขาขึ้นเรือใหญ่เพียงลำพัง ปล่อยให้ผู้ติดตาม สองคนรอในเรือเร็วที่เพิ่งจอดเทียบ

จากนั้นการเฉลิมฉลองย่อมๆ ก็เริ่มขึ้น จนทำให้ท้องน้ำสีดำสนิทถูกละความสนใจไปชั่วขณะ

เสียงทักทายระคนหัวเราะแว่วลงมาถึงท้องน้ำมืด แสงจันทร์ส่อง

กระทบผิวน้ำ เงาบางอย่างลอยตะคุ่มโผล่พันผิวคลื่นไม่ถึงคืบ บนเรือที่สว่างด้วย แสงไฟทำให้ยากที่จะมองเห็นสิ่งผิดปกติเหนือผิวน้ำนั่น แต่ลำหรับเงาตะคุ่ม

ที่ลอยคออยู่ไม่ห่างนั้น ต่างส่งสัญญาณฝานแววตาสีเดียวกับท้องฟ้ากว้าง ราบเรียบและเด็ดขาด มันเป็นแววตาของนักลำ

“นายนี่ทำตัวเหมือนผี บทจะโผล่ก็โผล่มาได้จังหวะเหมือนมีภูตกระซิบ บทที่เขาหากันจนแผ่นดินพลิกก็ไม่เห็นแม้แต่เงาราวกับไร้ตัวตน สมฉายาพ่อค้าความตายจริงๆ”

“ข่าวเป็นไงบ้าง” คนที่ถูกเรียกว่า ‘พ่อค้าความตาย’ เลิกคิ้วด้วยความสนใจ “สั่งประกบแล้ว นี่คือเรื่องที่ฉันอยากพบนาย และฉันก็ยังต้องการสินค้าลอตใหญ่อีกครั้ง ห้าเท่าของวันนี้”

“อ่าๆ งั้นฉันมาวันนี้ก็สุดจะคุ้ม ดื่มไวน์กันหน่อยไหม ฉลองให้แก่ความ

สุขและความสำเร็จของเราสองคน สถานการณ์ตอนนี้ทำให้โอกาสของนายมีมาก ขึ้นนี่ รัฐบาลเริ่มสั่นคลอนเพราะประชาชนไม่มั่นใจที่รัฐบาลยังแก้ปัญหาการ

ก่อการร้ายและแบ่งแยกดินแดนไม่สำเร็จ เป็นเหมือนกันทั่วโลก ใครๆ ต่าง แสวงหาความสงบ แต่ฉันคนหนึ่งละ...ไม่ชอบ ที่ไหนมีการเข่นฆ่าช่วงชิง ที่นั่นคือที่ที่ฉันรัก ฮ่าๆ”

“ทางโน้นสั่งสินค้าเยอะไหม” พลเอกเอิบศักดิ์ไค้โอกาส เพราะรู้ว่าคนตรง หน้าคือแหล่งข้อมูลสำคัญที่ถูกต้องแม่นยำ ชนิดหน่วยข่าวกรองของรัฐยังยอม ยกให้

สินค้าของเดวิดเป็นที่ต้องการของคนที่ไม่สามารถหามันไค้ถูกต้องตาม กฎหมาย การสั่งสินค้าแต่ละลอต แสดงถึงการเคลื่อนไหวที่สำคัญยิ่ง

ยิ่งสั่งสินค้ามาก...ยิ่งแสดงว่าจะมีการตายมาก

พ่อค้าความตาย สมชื่อของนายเดวิดจริงๆ เพราะสินค้าของเขาคือใบเบิก ทางสู่ความตายอันบ้าคลั่ง

“ที่นั่นคือลูกค้าหลักของฉันในตอนนี้” เป็นที่รู้กันว่าที่นั่นคือที่ไหน ท่ามกลางกระแสการแสวงหาสันติภาพ ที่นั่นคือที่ที่แผ่นดินนองไปด้วยเลือด

และน้ำตา และเป็นที่ที่ท่าให้เดวิดมั่นคงทางการเงินขึ้นมามากในหลายปีให้หลัง

“แต่ฉันเพิ่งไค้ตลาดใหม่ หลังจากตามกันอยู่นาน ถึงจะเป็นตลาดเล็ก

ก็เถอะ เชื่อไหมว่าลูกค้าใหม่กลุ่มนี้จะอยู่กับฉันยาวทีเดียว อ่าๆ เห็นแววตาพวก นั้นแล้ว พ่อค้าความตายอย่างฉันมองไม่ผิดหรอก โอ...สงครามและการก่อการร้าย แค่ฟังก็กระชุ่มกระชวยพิลึก”

คนในชุดฮาวายยังตามไม่ทัน เดวิดอดไม่ไค้ที่จะทิ้งท้ายว่า

“สถานการณ์ใต้ดินที่นั่นสุกงอมเต็มที รอดูละกัน ไม่เกินเดือนสองเดือน

นี้แน่” คนพูดรับแก้วไวน์เย็นเฉียบจากลูกน้องล่งให้ลูกค้าคนสำคัญอย่างเบิกบาน ทิ้งยังใจดีแจกจ่ายให้ผู้ติดตามทิ้งสองผ่าย

 

ณ ผิวนาดำสนิท ห่างจากการเฉลิมฉลองไม่ไกล แววตาเคร่งเครียด

ของหัวหน้าชุดนักล่ากำลังสำรวจความพร้อมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพาตัวเคลื่อน ตามกระแสคลื่นอย่างเงียบกริบ ไปยังหลังเรือสินค้าอีกค้าน

เมื่อหัวหน้าฝูงล่าเริ่ม นักล่าที่เหลือก็โฉบตามด้วยความรวดเร็วและ เงียบกริบไม่แพ้กัน ไม่นาน ทุกคนก็ประจ่าตามจุดของตัว

คเชนทร์มองฝ่าความมีดด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทิ้งที่หนักใจอยู่ครามครัน ไม่ใช่ความสามารถของทีมหรอกที่เขาเป็นห่วง นักล่าทุกคนผ่านสมรภูมิ

แบบกองโจรมานับไม่ถ้วน แต่สิ่งที่เขาหนักใจคือ...ข่าว พวกมันมีคนมากกว่าเขา

บ้าจริงที่การข่าวผิดพลาด ดวงตากร้าวตวัดไปที่ต้นเรื่อง และพบลูกตา ที่กลอกรับอย่างรู้ผิด

อย่างไรก็ดี จำนวนที่มากกว่าไม่ใช่ปัญหา ถ้ากำจัดเสีย!

จุดจู่โจมมีสองจุดใหญ่คือบนลำเรือและที่เรือเร็ว ไอ้สองคนที่เรือเร็วนั้น เอาอยู่แน่

คเชนทร์ทำสัญญาณสิ่งลูกน้องมือฉมังให้เคลื่อนตัวไปอีกด้านของเรือเพี่อ

จัดการคนขับ ส่วนที่เหลือจะต้องปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนดให้ได้

 

นักดำนํ้าสองคนส่งสัญญาณแล้วพุ่งไปข้างหน้าอย่างคนที่ถูกฝึกมาอย่าง ดี คนที่เหลืออยู่ในท่าเตรียมพร้อม ทันทีที่ร่างสูงใหญ่ที่สุดยกมือ ทั้งหมด

ก็ปฏิบัติหน้าที่ตามแผนที่วางไร้

คนบนเรือแต่แรกไม่รับรู้การเคลื่อนไหวภายนอก เพราะกำลังลำพองด้วย งานที่ลุล่วง น่าพอใจทั้งสองฝาย กว่าจะรู้ถึงหายนะ ชายฉกรรจ์ผู้ติดตามก็ร่วงลง กองกับพื้นเรืออย่างเป็นปริศนาถึงสองคน!

และแล้ว บนเรือก็เกิดความโกลาหลและหวาดวิตก คนติดตามที่ยังรอด ชีวิตต่างพยายามพานายตัวเองหนีห่างจากร่างไร้วิญญาณทั้งสอง เลือดสีแดงสด ไหลซึมเป็นวงกว้างบนพื้นเรือ แสงสว่างเพียงน้อยนิดบริเวณจุดเกิดเหตุ ทำให้ ยากที่จะบอกตำแหน่งบาดแผล หรือแม้กระทั่งว่า เป็นฝีมือของอะไรที่หยิบยื่น ความตายให้

คนบนเรือต่างคว้าปีนออกมาอย่างร้อนรน มีเพียงชายฉกรรจ์ผิวขาวจน เด่นโพลนกลางลำเรือที่หมุนตัวโดยรอบเพี่อหาตันเหตุที่กระทำการอุกอาจ

ความสุขุมทำมกลางกลิ่นคาวเลือดที่โชยตามกระแสลม เปรียบเสมือน ฉลามขาวที่มีชีวิตชีวาเมื่อได้กลิ่นคาวเลือด

ทุกคนบนเรือต่างพร้อมใจกันปิดปาก แม้แต่เสียงคลื่นที่แตกฟองสูงกว่า ลูกอื่น ก็กลายเป็นที่จับตาอย่างระแวง

ชายฉกรรจ์ผู้ติดตามต่างกวาดตาทั่วเรือทั้งสามลำด้วยความรู้สึกสับสน เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่กรอบหน้า ร่างที่กองจมเลือดถึงสองทำให้ความสับสนหวาด กลัวเกิดขึ้นจนกลายเป็นละล้าละลัง

ไม่มีคนแปลกปลอมปรากฏโฉมเลยแม้แต่เงา แล้วไอ้ที่ถูกทำร้ายจนแน่นิ่ง นั่นเป็นฝีมือของภูตผีแห่งท้องทะเลหรือไร

ทอมมี่ส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ใกล้กราบเรือที่สุดไปตรวจดู ส่วนผู้เป็นนาย ชี้ขึ้นเพดานเรือ แล้วเสียงปีนจากทอมมี่และผู้ติดตามก็ด้งขึ้นทันทีเป็นชุด ปัง! ปัง! ปัง!

จนควันดินปีนเริ่มจาง แสงจันทร์ลอดผ่านรูกระสุนจากฝ้าเพดานเคบิน กระทบพื้นเรือหลายสิบรู ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จากภายนอก

“ผีหรือเปล่าครับนาย” หนึ่งในนั้นกล่าวปอดๆ ก่อนที่จะถูกตวาดกลับให้ หุบปาก อีกคนมองนายอย่างรู้ใจจึงกราดยิงลงน้ำอีกชุดใหญ่ๆ ที่เหลือจึงกรูทำ ตามกันเพี่อให้แน่ใจว่าหากมีมนุษย์ล่องหนชุ่มอยู่ใต้ผืนน้ำ ก็จะไม่มีวันหลุดรอด จากกระสุนห่าใหญ่ชุดนี้แน่

ผ่านไปหลายนาที ทอมมี่จึงโบกมือให้ลูกน่องหยุด ทุกอย่างก็ตกอยู่ใน ความเงียบอีกครา คราวนั้นอกจากนายทั้งสอง ผู้คุ้มกันและผู้ช่วยต่างตรงไปยัง กราบเรือเพี่อค้นหาผู้บุกรุกอย่างย่ามใจ

“ไม่เหลือแล้วมั้งนาย ปานนี้คงตายห่าจมน้ำไปหมดแล้ว ว่าไง ทางโน่นมีไหม”

“ไม่มีอะไรครับลูกพี่ เจอเข้าไปชุดใหญ่อย่างเมื่อกี้ จะรอดได้ก็ต้องเป็น

ปลากะตักว่ายน้ำหนีไปนั่นแหละ ถ้าเป็นปลาทูยังต้องล้น” สิ้นเสียง ชายฉกรรจ์

ที่ยืนอยู่กราบเรือทั้งสี่ก็หันมามองหน้ากัน หัวเราะลั่น

ยังไม่สิ้นเสียงหัวเราะ กลุ่มปลากะตักที่ว่าก็กระโจนขึ้นจากใต้กราบเรือโดยพร้อมเพรียง!

ทั้งสี่ที่อยู่บนกราบเรือหัวเราะค้างเมื่อสบแววตาแข็งกร้าวบนใบหน้าดำ เมื่อมราวกับผีดิบ ยังไม่ท้นจะได้หันกระบอกปีนสู้ ทั้งหมดก็ต้องพบจุดจบอย่าง รวดเร็วพร้อมๆ กับเสียงปีนจากเหล่าผีดิบที่พุ่งตรงไปยังกลางเรือ

“นายท่าน! ระวัง” ทอมมี่กระโจนผลักผู้เป็นนายให้เข้าสู่ที่กำบัง แล้วหัน

ขวับกวาดตามองผู้บุกรุกที่ปราดเข้าประชิดตัวด้วยความโกรธระคนอิ่มใจ

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

รายละเอียด

เมื่อหัวใจมีหน้าที่ กายก็พลีได้เพื่อเกียรติยศอันหวงแหน และเมื่อหัวใจมีรัก ดวงใจก็พร้อมสละ...เพื่อรัก แต่เมื่อต้องการเลือกระหว่างหน้าที่กับความรัก เขาจะทำฉันใด พันตรีเชนทร์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้รับมอบหมาย ให้ตามล่า เดวิด พ่อค้าความตาย นักค้าอาวุธสงครามระดับโลก เขาต้องตีสนิทกับ ทราย ลูกสาวของนายเดวิดเพื่อสาวให้ถึงตัวพ่อ โดยปิดบังฐานะที่แท้จริงของตนไว้ ทั้งคู่เผชิญเรื่องทุกข์ยาก ผ่านความตายมาด้วยกัน ทรายจึงมีใจให้เขา ชายหนุ่มละอายต่อสิ่งที่ทำ หวั่นเกรงว่าเมื่อภารกิจลุล่วง ความสัมพันธ์คงจบสิ้นไปด้วย เพราะทรายคงคิดเป็นอื่นไม่ได้... นอกจากคิดว่าถูกเขาหลอกใช้เพื่อภารกิจ พบกับเกียรติยศแห่งลูกผู้ชายที่ถูกท้าทายด้วยหัวใจรัก ในเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว ที่จะพาทุกท่านไปสู่ดินแดนที่สุดของทรายพบกับปลายฟ้า


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

ศรัญญา | 1 รีวิว
08/08/2013

เรื่องนี้อ่านสนุกตื่นเต้นและลุ้นดีค่ะ ออกแนวแอคชั่น พระเอกเป็นถึงนายทหารหนุ่ม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษจากประเทศไทยถูกส่งให้เข้าไปปฏิบัติภารกิจจับขบวนการค้าอาวุธสงครามเถื่อนที่ต่างแดน แต่แล้วพระเอกก็ได้เจอกับนางเอก หมอทรายลูกสาวเพียงคนเดียวของหัวหน้าขบวนการค้าอาวุธสงครามเถื่อน เรื่องนี้ออกแนวผจญภัยในดินแดนทะเลทรายแต่ตัวละครเป็นคนไทยไม่ได้เป็นชีค หรือฟาโร เหมือนนิยายที่เกี่ยวกับทะเลทรายเรื่องอื่น ความรักของพี่ช้างกับหมอทรายเหมือนความรักต้องห้าม เพราะเธอเป็นลูกสาวของคนที่เขามาเพื่อจะจับกุม แต่จะทำยังไงล่ะเมื่อพี่ช้างหลงรักหมอทรายเข้าให้แล้วระหว่างหน้าที่กับความรักเลือกยาก หมอทรายเองเมื่อรู้ว่าชายที่ตัวเองรักคือคนที่ทำให้พ่อของเธอต้องจบชีวิต แล้วเธอจะรักเขาได้อย่างไร อีกอย่างชอบเรื่องนี้เพราะว่าภาษาที่นักเขียนใช้พรรณาจนเห็นภาพดิินแดนทะเลทรายเลยทีเดียว สนุกค่ะตอนจบอบอุ่นแม้หมอทรายจะเสียพ่อไปแต่ก็ไม่เดียวดายเพราะสุดท้ายเธอก็มีพี่ช้างและครอบครัวที่อบอุ่นของพี่ช้างคอยดูแล

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024