พยัคฆบถ

พยัคฆบถ

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160016716
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 220.00 บาท 55.00 บาท
ประหยัด: 165.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

“พยัคฆบถ?”

อภิมันยุขมวดคิ้วเข้มขณะก้มลงมองแผนที่ในมือ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน

ใต้กรอบขนตางอนหนาราวอิสตรีฉายแววฉงน

“ชื่อแปลก ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยครับคุณมุเคช”

“มันแปลว่าทางเสือโคร่ง เป็นคำเรียกเส้นทางที่พวกเสือใช้เดินในป่า

เพื่อล่าเหยื่อ”

มุเคชเอนกายพิงพนักเก้าอี้บุผ้าไหมสีแดงสดตัดกับชุดกูรตะสีขาว

เขาเป็นชายวัยหกสิบปี เจ้าของดวงตาดุกร้าวน่าเกรงขาม ทว่าได้โครงหน้า

อ่อนโยนและรอยยิ้มเยือกเย็นช่วยทอนความกระด้างลงบ้าง เส้นผมด้านหน้า

บางกว่าด้านหลัง เมื่อใส่น้ำมันและหวีเสยไปด้านหลังจนเรียบแปล้จึงเปิด

ให้เห็นเครื่องหน้าทุกส่วนชัดเจน

“สมัยก่อนพวกฤๅษีชอบตั้งอาศรมตามแนวพยัคฆบถเพราะกลิ่น

สาบเสือแรง ทำให้สัตว์อื่นๆ ไม่ค่อยกล้ามาป้วนเปี้ยนรบกวน กษัตริย์บาง

พระองค์ถึงขนาดสร้างบ้านแปงเมืองในเขตเส้นทางเสือโคร่งด้วยซ้ำไป เชื่อว่า

พลังอำนาจลี้ลับของเสือจะทำให้ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ไม่มีใครกล้าต่อกร”

“พลังอำนาจลี้ลับของเสืออย่างนั้นเหรอครับ”

ชายหนุ่มเลิกปีกคิ้วเข้มขึ้นนิดๆ ก่อนจะทาบกระดาษในมือลงบนโต๊ะ

ที่มีแผนที่ประเทศอินเดียกางอยู่ก่อนแล้ว นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนกวาดมอง

กระดาษสองแผ่นสลับไปมาเพื่อเปรียบเทียบ แผ่นหนึ่งคัดลอกมาจากแผนที่

เก่าแก่ซึ่งมีอายุหลักร้อยปี ส่วนอีกแผ่นเป็นแผนที่อินเดียในปัจจุบันซึ่ง

สภาพภูมิประเทศเปลี่ยนไปจากครั้งอดีตมาก ทำให้ต้องใช้เวลาเทียบเคียง

พอสมควร

“ฟังจากน้ำเสียงคุณแล้ว คงมองเป็นเรื่องงมงายสินะ ผมเข้าใจดีว่า

คนรุ่นใหม่มักไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้กันหรอก”

รอยยิ้มของมุเคชไม่ได้ช่วยให้เขาดูใจดีอย่างที่ควรเป็นนัก ยิ่งมีผิว

สีเข้มคล้ำแบบคนที่มีพื้นเพมาจากรัฐเกรละทางตอนใต้ของอินเดียด้วยแล้ว

ยิ่งทำให้มหาเศรษฐีแห่งนิวเดลีผู้นี้ดูดุดันเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาด

นักรบยุคโบราณตามฝาผนังวิหารไม่มีผิด

“ไม่ใช่ไม่เชื่อหรอกครับ แค่ไม่ค่อยถูกโรคกับเรื่องพรรค์นี้เท่าไหร่”

อภิมันยุแค่นยิ้ม พลางเสยเรือนผมหยักศกยาวประบ่าไปด้านหลัง

เร็วๆ คล้ายพยายามไล่ภาพ ‘เหนือธรรมชาติ’ ที่เคยประจักษ์มาด้วยสองตา

เมื่อสองปีก่อนออกไปจากสมอง หลังจากตกกระไดพลอยโจนต้องร่วม

ผจญภัยครั้งใหญ่กับกฤษณะและอุษณิษา จนตัดสินใจละทิ้งชีวิตทหารกุรข่า

ที่เคยมีสังกัดมาเป็นทหารรับจ้างอิสระ อดีตผู้กองหนุ่มก็สาบานกับตนเองว่า

จะไม่เข้าไปพัวพันกับเรื่องที่อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้อีกตลอดชีวิต!

“อย่าบอกนะครับว่างานที่ท่านจะจ้างผมเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับอะไรพวกนี้

ด้วย ถ้าใช่ละก็ ผมขอปฏิเสธ”

“ใจเย็นๆ น่า ผู้กอง รับรองได้ว่างานนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติ

อะไรทั้งนั้น สบายใจได้”

คนสูงวัยกว่าหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าขึงขังเสียจนน่าขันของหนุ่มรุ่นลูก

ไม่ว่าจะมองอย่างไร คนตรงหน้าเขาก็ไม่เหมือนทหารกุรข่าจากเนปาลที่

เลื่องชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมไร้ความปรานีแม้สักนิด ตรงกันข้าม ใบหน้าของ

อภิมันยุอ่อนเยาว์และหล่อเหลาเหมือนพวกพระเอกบอลลีวูดหรือนายแบบ

ที่มาจากมุมไบเสียมากกว่า แรกพบหน้ากันเมื่อราวชั่วโมงก่อน มุเคชถึงขนาด

ต้องรีบต่อสายกลับไปหานายพลซานจิตเพื่อขอคำยืนยันให้แน่ใจว่าชายหนุ่ม

ผู้นี้คือ ‘ผู้กองอภิมันยุ ไมนาลี’ ผู้โด่งดังจริงๆ ไม่ผิดตัว

“ว่ากันตามตรงก็เป็นงานง่ายๆ แค่ไปพาตัวหลานสาวของเพื่อนผม

จากหมู่บ้านในแผนที่ แล้วคุ้มกันเธอมาส่งที่นี่”

“งานง่ายๆ จริงเหรอ” เรียวปากหยักสวยเกินชายคลี่ยิ้มเยือกเย็น

“ถ้าถึงขนาดให้ท่านนายพลดึงตัวผมจากภารกิจที่การาจีแล้วละก็ ผมคิดว่า

งานของคุณคงไม่ง่ายอย่างที่ปากว่านักหรอกคุณมุเคช”

ชายหนุ่มยังจำน้ำเสียงเฉียบขาดของนายพลซานจิตที่ต่อสายด่วน

เรียกตัวเขาจากปากีสถานมายังนิวเดลีได้ดี ใครเล่า...จะกล้าปฏิเสธคำขอของ

‘มุเคช มิตา’ เป็นที่รู้กันดีว่ามหาเศรษฐีพันล้านผู้นี้ทรงอิทธิพลเพียงใด เขา

เป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินของเหล่านักการเมืองระดับชาติ และอยู่เบื้องหลัง

ความสำเร็จของบรรดานายทหารชั้นผู้ใหญ่ของอินเดีย จึงทำให้ ‘คำขอพิเศษ’

จากเขามักได้รับการตอบสนองจากผู้ใหญ่ของบ้านเมืองแทบจะทันทีทันควัน

ทุกครั้ง

ผลประโยชน์ต่างตอบแทนว่าอย่างนั้นเถอะ...

“สำหรับคนทั่วไปก็ถือว่ายาก แต่สำหรับมือพระกาฬอย่างคุณ งานนี้

เรียกว่าง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก”

มุเคชพูดกลั้วหัวเราะ หากมีการจัดอันดับทหารรับจ้างที่เก่งกาจที่สุด

ในโลก ‘กุรข่า’ เผ่านักรบนามอุโฆษของเนปาลจะถูกยกไว้อันดับต้นๆ เสมอ

พวกเขาคือทหารผู้กล้าหาญและบ้าบิ่นที่สุดที่ประวัติศาสตร์โลกเคยรู้จักมา

ห้าวขนาดกล้าวิ่งเข้าใส่ทหารอังกฤษยุคล่าอาณานิคมที่มีอาวุธปืนครบมือ

แม้มีเพียง ‘คูกรี’ มีดทรงโค้งอันเป็นอาวุธประจำเผ่าติดตัวเพียงเล่มเดียว

ด้วยซ้ำ

และ ‘ธุระสำคัญ’ ครั้งนี้ จำเป็นต้องใช้คนที่มีลูกบ้าน่ากราบแบบ

ชาวกุรข่าเท่านั้น!

“ถึงชมกันขนาดไหนผมก็ไม่ลดค่าจ้างให้หรอกนะ” อภิมันยุตวัดขา

ไขว่ห้างแล้วประสานสองมือเอาไว้บนตัก “บอกตรงๆ ผมคิดว่าคงทำงานนี้

คนเดียวไม่ได้”

“เดโอ”

มุเคชดีดนิ้วเรียกคนสนิทที่นั่งอยู่ที่มุมห้องแล้วชี้ไปบนโต๊ะ เพียงครู่

ชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงก็นำกระเป๋าเอกสารใบเขื่องมาวางตรงหน้าอภิมันยุ

แล้วเปิดออก เผยให้เห็นธนบัตรสีเขียวเรียงอัดแน่นอยู่ด้านใน

“ถ้าเพียงแต่คุณรับทำงานนี้ ผมพร้อมจ่ายให้คุณก่อนครึ่งหนึ่งเป็น

เงินสดหนึ่งล้านดอลลาร์ ส่วนอีกครึ่งมารับตอนงานเสร็จได้เลย หรืออยากได้

ค่าใช้จ่ายพิเศษเพิ่มเติมก็ว่ามา”

“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เงินหรอกครับ แต่เป็นรายละเอียดของงานมากกว่า”

อภิมันยุมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง “ด้วยความเคารพนะครับคุณมุเคช ดูจากแผนที่

แล้วที่ตั้งของหมู่บ้านอยู่ลึกมาก แทบจะคาบเกี่ยวกับชายแดนบังกลาเทศ

ด้วยซ้ำ ต่อให้ผมหน้าเงินแค่ไหนก็คงไม่บ้าพอจะบุกป่าฝ่าดงลุยเข้าไป

ตามลำพังแน่ ป่าซุนดาร์บานส์อันตรายแค่ไหนคุณก็น่าจะรู้ดี เข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า

โดยไม่ชำนาญพื้นที่ก็เท่ากับเอาชีวิตไปทิ้งชัดๆ ถ้าจะให้ผมรับงานนี้ละก็

คงต้องขอพาผู้ช่วยไปด้วย”

“นายพลซานจิตคงบอกคุณแล้วว่าภารกิจในครั้งนี้เป็นความลับ ถ้าคุณ

จัดทีมเข้าป่ากันเอิกเกริกแล้วข่าวเกิดรั่วไหลออกไป หลานสาวของเพื่อนผม

อาจได้รับอันตรายได้ เพราะเพื่อนรักผมคนนี้ทำธุรกิจไม่ค่อยขาวสะอาด

เท่าไหร่นัก ก็เลยมีศัตรูรอบด้าน”

“ผู้ช่วยที่ผมจะขอพาไปด้วยมีแค่คนเดียวครับคุณมุเคช ชื่อระวี เป็น

เพื่อนสนิทของผมเอง ไอ้หมอนี่เก่งเรื่องเดินป่าและแกะรอยล่าสัตว์มาก

อาจจะช่างจำนรรจาอยู่สักหน่อย แต่ไว้ใจได้ ถ้ามันกล้าปากรั่ว รับรอง

ด้วยเกียรติของกุรข่าเลยว่าผมนี่ละจะยิงกบาลมันเอง”

แม้ชายหนุ่มจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่มาพร้อมรอยยิ้มเยือกเย็น

แต่คนฟังรู้ดีว่าเขาหมายความตามนั้นทุกประการ นอกจากจะเชี่ยวชาญ

การรบชนิดหาตัวจับได้ยากแล้ว นักรบกุรข่ายังขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์

และรักษาคำพูดยิ่งชีวิตอีกด้วย

“แล้วถ้าผมยืนกรานว่าต้องการให้คุณทำงานคนเดียวล่ะ”

“ผมก็คงต้องปฏิเสธงานนี้ไปอย่างน่าเสียดาย”

อภิมันยุยักไหล่ด้วยท่าทางเหมือนไม่ยี่หระ

“เงินน่ะผมก็อยากได้อยู่หรอก แต่ก็ต้องรู้จักประเมินศักยภาพของ

ตัวเองด้วยว่าทำได้แค่ไหน ซุนดาร์บานส์เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์เสือนะคุณ

มุเคช ไม่ใช่สวนสนุก มีแต่เสือทั้งนั้น ทะเล่อทะล่าเข้าไปโดยไม่มีคนนำทาง

มีแต่ตายกับตาย ฉะนั้นผมถึงต้องการให้ระวีมาเป็นผู้ช่วย เงื่อนไขของผม

มีแค่ข้อเดียวนี่ละ แต่ถ้าคุณไม่ตกลงตามนี้ เราก็คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก”

“นายพลซานจิตเตือนผมแล้วว่าคุณน่ะอวดดีแถมยังหัวแข็ง ถึงจะ

บูชาเงินเป็นอันดับสองรองจากพระแม่กาลี แต่ก็ใช่ว่าเงินจะซื้อใจคุณได้

ทุกครั้ง”

มุเคชมองดวงตาคมกริบของชายหนุ่มรุ่นลูกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะ

ออกมาเบาๆ นานแล้ว...ที่ไม่มีใครกล้าต่อรองกับคนอย่าง มุเคช มิตา ไอ้หนุ่ม

คนนี้...ห้าวไม่เลว...

“ถ้าคุณยืนยันว่าเพื่อนคุณจะไม่ปริปากแพร่งพรายเรื่องภารกิจครั้งนี้

ให้ใครฟัง ผมก็ตกลง”

“งั้นก็ตกลงตามนี้”

อดีตหัวหน้าหน่วยรบพิเศษกระตุกมุมปากเป็นรอยยิ้มชืดชา พลาง

เอื้อมมือไปปิดกระเป๋าเอกสารที่อัดแน่นไปด้วยธนบัตรใบละร้อยดอลลาร์

อย่างว่องไว

          “แล้วคุณจะให้ผมไปรับตัวเด็กคนนี้เลยหรือเปล่า หรือต้องนัดกับ

ทางญาติของเด็กก่อน”

“ส่วนที่ยากที่สุดของงานนี้ก็คงเป็นเรื่องนี้นี่ละ ผู้กอง” ดวงตาของ

มหาเศรษฐีแห่งนครนิวเดลีฉายแววหนักใจ “ญาติของเด็กคนนี้คงไม่เต็มใจ

ให้พาตัวแกออกมานักหรอก โดยเฉพาะพ่อเด็ก คุณอาจจะต้องเจอเรื่อง

ยุ่งยากนิดหน่อย”

“หมายความว่ายังไงครับ” อภิมันยุชะงักมือที่กำลังจะยกกระเป๋าทันที

แล้วเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองคนพูด “อย่าบอกนะว่าจะให้ผมลักพาตัวเด็กออกมา

ให้คุณ”

“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่อาจต้องหาวิธีโน้มน้าวหนูมีนาให้มากับคุณ

ก็เท่านั้น”

“เดี๋ยวก่อนนะ พูดแบบภาษาชาวบ้านก็คือ คุณจะให้ผมหลอกพาเด็ก

ออกมาว่าอย่างนั้นเถอะ จะให้ผมล่อด้วยอะไร ลูกอมอย่างนั้นเหรอ”

ชายหนุ่มทำหน้าไม่ถูก เขาไม่ได้เกลียดเด็ก เพียงแต่ไม่รู้จักวิธีรับมือ

สิ่งมีชีวิตตาแป๋วพวกนั้น ให้ถือคูกรีวิ่งไปปาดคอข้าศึกในสนามรบยังจะง่าย

เสียกว่า!

“ผมไม่นึกว่าคุณจะเป็นคนมีอารมณ์ขันกับเขาเหมือนกันนะผู้กอง”

มุเคชหยิบซองกระดาษสีน้ำตาลที่วางอยู่ข้างตัวโยนลงบนโต๊ะ แล้ว

ทำท่าพยักพเยิดให้ชายหนุ่มเปิดดู

“หนูมีนาโตเป็นสาวแล้ว ไม่ใช่เด็กเล็กๆ อย่างที่คุณคิดหรอก ปีนี้

น่าจะอายุสิบแปดแล้วกระมัง”

“พูดเหมือนหลอกเด็กอายุสิบแปดแล้วจะผิดน้อยกว่าหลอกเด็กสี่ขวบ

อย่างนั้นละ”

อภิมันยุขมวดคิ้ว พลางเทของในซองออกมากองบนโต๊ะ สิ่งที่อยู่

ในซองประกอบด้วยสร้อยข้อมือสีดำที่ถักจากวัสดุจำพวกไหมสีดำมันวับ

และภาพถ่ายที่เก่าเสียจนสีซีดหนึ่งใบ

                “นี่คือ...เด็กที่ชื่อมีนาเหรอครับ”

หญิงสาวที่ยืนอยู่ในภาพนั้นดูอายุราวยี่สิบปีต้นๆ แม้สีในภาพจะ

ค่อนข้างจาง แต่ยังพอมองเห็นว่าส่าหรีที่เจ้าตัวสวมอยู่เป็นสีฟ้า ตัดกับสีของ

ดิ้นทองที่ปักอยู่บนพัลลูหรือชายส่าหรีด้านที่ทิ้งชายยาวลงพื้น เธอเป็นคน

สวยจัด มีเครื่องหน้าคมขำ ค่อนไปทางดุนิดๆ ทว่ามีดวงตาแสนเศร้าสร้อย

เรือนผมของเธอหยักศกและปล่อยยาวสยายจดบั้นเอว และ...ที่กึ่งกลาง

แสกผมมีชาดแต้มเป็นทางยาว

แต่งงานแล้ว?

“นั่น...เมฮาล แม่ของมีนา ผมไม่มีรูปมีนาหรอก เคยเห็นหน้าเด็ก

คนนั้นแค่ครั้งเดียวตอนยังแบเบาะ แต่คิดว่าหน้าตาคงคล้ายเมฮาลนั่นละ”

“หมายความว่าจะให้ผมเทียบหน้าตาของเด็กที่ชื่อมีนาจากรูปแม่

ของเธอเอาอย่างนั้นเหรอครับ ล้อกันเล่นหรือเปล่า”

โดยปกติแล้วเขามักจะรับงานบอดีการ์ดให้เหล่าบุคคลสำคัญ มีบ้าง

บางครั้งที่ได้รับมอบหมายให้ไปคุ้มครองบุตรหลานของคนกระเป๋าหนักพวกนี้

ยามต้องเดินทางไกล เพื่อป้องกันการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ที่กำลังระบาด

อย่างหนักในอินเดีย หากต้องนัดรับตัวโดยไม่เคยพบกันมาก่อนก็ควรส่ง

ภาพถ่ายมาให้เขารู้จักหน้าค่าตาสักหน่อย ไม่ใช่ให้ลุยเดี่ยวเข้าป่าไปแบบ

ไม่รู้ว่าจะไปงมหาตัวเด็กที่ชื่อมีนาที่ไหนเช่นนี้

หากไม่มีค่าจ้างก้อนใหญ่ล่อใจ เขาคงบอกปัดไปตั้งแต่แรกแล้ว!

“ถ้าคุณหาทางเข้าไปในเขตพยัคฆบถได้ เรื่องหาตัวมีนาไม่ใช่เรื่องยาก

อะไรเลย เพราะยายหนูคนนี้เป็นลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้าน เรื่องที่ยากคือ

การพาตัวเธอออกมาต่างหาก อย่างที่ผมบอกคุณนั่นละ พ่อเธอคงไม่ยอม

แน่ๆ คุณคงต้องลอบพาตัวเธอออกมาโดยไม่ให้คนในหมู่บ้านนั้นรู้”

มุเคชนิ่งไปครู่ใหญ่ แววตาที่เคยแข็งกร้าวอ่อนแสงลง และทำให้

ใบหน้าเคร่งขรึมเหมือนรูปปั้นดูนุ่มนวลลง

“เมฮาล...แม่ของมีนาเป็นญาติสนิทของโรฮิต เพื่อนผม เธอป่วยหนัก

มาก อยากพบหน้าลูกสาวอีกสักครั้งก่อนตาย โรฮิตถึงได้มาขอร้องให้ผม

ว่าจ้างมือดีให้หาทางพาหลานกลับมาโดยเร็วที่สุดนี่ละ”

“แล้วทำไมไม่แจ้งไปทางพ่อของเด็กที่ชื่อมีนาล่ะครับว่าแม่ของเธอ

กำลังจะตาย บางทีเขาอาจจะเป็นฝ่ายพาเธอมาส่งเองก็ได้”

กำลังจะตายอย่างนั้นหรือ

อภิมันยุมองภาพในมือด้วยความรู้สึกตื้อๆ ในอก พอจะเดาได้ว่า

พ่อแม่เด็กคนนั้นคงจบชีวิตคู่กันอย่างไม่ค่อยสวยงามเท่าใดนัก

คง...ไม่ต่างกับพ่อแม่ของเขากระมัง...

ภาพใบหน้านิ่งขึงอยู่เป็นนิตย์ของแม่ซ้อนทับเข้ากับภาพของผู้หญิง

ในมือ แม้นางจะจากโลกนี้ไปนานหลายปีแล้ว ทว่าแววตาเย็นชาของคน

เป็นแม่ก็ยังทำให้เขารู้สึกหนาวเยือกทุกครั้งที่นึกถึง แม่...ผู้เฉยชา ไม่เคย

ยินดียินร้ายกับความเป็นไปบนโลก หรือแม้แต่ลูกของตนเอง ขนาดในวาระ

สุดท้ายของชีวิตยังพูดหน้าตาเฉยว่าอยากจากโลกนี้ไปเพียงลำพัง ไม่ต้องการ

เห็นหน้าใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ใบหน้าของลูกชายที่ทำให้นึกถึงสามี

ชาวต่างชาติ!

“ปัญหาของเรื่องนี้...มันค่อนข้างซับซ้อนอยู่สักหน่อย” มุเคชระบาย

ลมหายใจยาว

“เมฮาลถูกสามีทำร้ายทุบตีอย่างทารุณแล้วบังคับให้ทิ้งลูกมา เลย ฃ

กลายเป็นคนสติไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่ ทางครอบครัวของโรฮิตเลย

เก็บเรื่องของเธอเป็นความลับ เพราะกลัวว่าวงศ์ตระกูลจะเสื่อมเสียชื่อเสียง

ถ้าเมฮาลไม่ป่วยหนักเจียนตายแบบนี้ก็คงไม่มีใครอยากพูดถึงมีนานักหรอก

มีข่าวลือว่าพ่อเธอเป็นหัวหน้าโจรที่ออกปล้นอยู่แถบเบงกอลนั่นละ แต่ผม

ก็ไม่รู้อะไรมากนัก เพราะโรฮิตเองก็ดูไม่ค่อยอยากพูดถึงผู้ชายคนนี้เท่าไหร่”

อ้อ...พวกคนรวยหน้าบางนี่เอง...

อภิมันยุหยามหยันอยู่ในใจ

“แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงว่าเด็กมีนานั่นยังมีชีวิตอยู่ ยิ่งบอกว่าพ่อเป็น

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

ใจกลางป่าลึกบริเวณพรมแดนอินเดียกับบังกลาเทศ 
ยังมีเส้นทางที่ทอดนำไปสู่ดินแดนลับแลซึ่งไม่เคยปรากฏในแผนที่ใดในโลกนี้ 
ผู้คนเรียกขานเส้นทางนั้นว่าพยัคฆบ
อภิมันยุ ไมนาลี อดีตผู้กองแห่งกองทหารกุรข่าอันเกรียงไกร 
ได้รับการจ้างวานจากมหาเศรษฐีแห่งอินเดีย 
ให้ไปตามตัวหลานสาวของเพื่อนสนิทที่หมู่บ้านกลางป่าลึก 
เพื่อมาดูใจแม่ซึ่งป่วยหนักที่ต้องแยกจากกันตั้งแต่เธอยังแบเบาะ 
อภิมันยุกับเพื่อนสนิทจึงเดินทางไปยังหมู่บ้านแห่งนั้น 
แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อเขาพบสาวน้อยปริศนากลางป่า 
ซึ่งเขาเคยเจอมาแล้วก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่ง 
นัยน์ตาสีฟ้าใสราวผลึกน้ำแข็งขั้วโลกและผิวขาวผุดผ่องราวอาบแสงจันทร์ 
สะกดสายตากุรข่าหนุ่มจนเผลอใจให้เธอโดยไม่รู้ตัว 
เธอเป็นใคร...มาจากไหน...และมาอยู่กลางป่าได้อย่างไร 
ทางเดียวที่จะได้คำตอบคือ ต้องเดินทางเข้าไปในพยัคฆบถเท่านั้น!
 

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (94 รายการ)

www.batorastore.com © 2024