คฤหาสน์มายา (แพรณัฐ)

คฤหาสน์มายา (แพรณัฐ)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160002665
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 230.00 บาท 57.50 บาท
ประหยัด: 172.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

การรอคอยช่างน่าอึดอัดและชวนให้ทรมานในขณะเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อต้องรอในสิ่งเดิมๆ อย่างที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสิ้นสุด                                                

นี่เป็นอีกครั้งที่ชมพูนิกข์ต้องลุ้นไปกับการเฝ้าคอย                                         

หญิงสาวนั่งตัวลีบอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานเก่าครํ่าคร่าของบริษัท เล็กๆ ซึ่งมีพนักงานเพียงไม่กี่คน แม้เธอพยายามแต่งกายให้เรียบร้อย และเคร่งขรึมเกินวัยด้วยชุดสูทกับกระโปรงสีเทาเข้มเกือบดำ รวบผมตึงแน่นเป็นมวยตํ่า วงหน้าของชมพูนิกข์ก็ยังอ่อนเยาว์กว่าวัยยี่สิบตอนต้นอยู่นั่นเอง มือทั้งสองที่ประสานไว้บนตักบีบกันแน่นด้วยความกังวล ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปยังหญิงสูงวัยใส่แว่นกรอบหนา ซึ่งนั่งประจันหน้า พร้อมกับเอกสารสมัครงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการของชมพูนิกข์

การสัมภาษณ์ใกล้สินสุดแล้วก็จริง ทว่าไม่ทำให้หญิงสาวโล่งอกเธอกลัวสิ่งที่จะได้ยินหลังจากนี้ ชมพูนิกข์ได้แต่ภาวนาว่าคำตอบของ อีกฝ่ายคงไม่ซํ้ารอยเดิมเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมานับสิบๆ หน

ในที่สุดหญิงสูงวัยก็เงยหน้าขึ้นสบตา ชมพูนิกข์จ้องตอบ บีบมือตนเองจนเจ็บพร้อมกับกลั้นหายใจอย่างลุ้นระทึก

“แล้ว เราจะติดต่อกลับไปนะคะ”

ถ้อยคำที่ได้ฟังทำให้คนที่เฝ้ารอเกือบแสดงอาการคอตก เธอรู้ดีว่า นี่คือประโยคสากลสำหรับการปฏิเสธไม่รับเข้าทำงานอย่างสุภาพ โชคดีที่หญิงสาวเผชิญสถานการณ์เดียวกันนี้มาหลายครั้งจนเรียนรู้ที่จะกลบเกลื่อนสีหน้าผิดหวังได้มิดชิด

ชมพูนิกข์ฝืนยิ้ม ก่อนกระทุ่มมือไหว้ลา และออกจากบริษัทแห่งนั้นด้วยอาการสงบ ขัดกับภายในใจซึ่งทดท้อเต็มทน

บนถนนที่ทอดยาวของเมืองกรุง หญิงสาวก้าวปะปนไปกับฝูงชนซึ่ง เดินขวักไขว่ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างหันไปมองเจ้าของวงหน้าสวยสะดุดตา ด้วยความชื่นชม ชมพูนิกข์ผิดหวังและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะใส่ใจ เธอกอด แฟ้มเล่มหนาซึ่งรวบรวมวุฒิการศึกษาและเกียรติประวัติทั้งชีวิตไว้แน่นอย่างยึดเป็นที่พึ่ง หญิงสาวไม่มั่นใจเสียแล้วว่าตน ‘ดีพอ’ ที่จะให้บิดา มารดาภาคภูมิใจเหมือนที่พวกท่านชื่นใจเสมอกับความสำเร็จในหน้าที่การงานของพี่สาวทั้งสอง

ชมพูนิกข์ถอนใจ พลางหยุดรอรถประจำทางเพียงเพื่อจะกลับบ้านไปตอบคำถามเดิมๆ กับพ่อแม่และพี่สาวว่ายังไม่ได้งานอีกเช่นเคย

ไม่เคยมีใครตำหนิเธอ ถึงกระนั้น ชมพูนิกข์ก็ยังรู้สึกต้อยต่ำอยู่

นั่นเอง

หญิงสาวเรียนจบปริญญาตรีด้านภาษาต่างประเทศมาเป็นปีแล้ว เพื่อนร่วมรุ่นเริ่มชีวิตวัยทำงานกันไปหมด เว้นแต่เธอที่ยังหางานไม่ได้สักที ก่อนหน้านี้ชมพูนิกข์มีความฝันคล้ายกับสาวๆ หลายคนว่าอยากเป็นนางฟ้าบนเครื่องบิน แต่ไม่ว่าจะสมัครสายการบินไหน เธอกลับสอบไม่ผ่านทุกครั้งไป หลังหมดหวังกับการเดินตามความฝัน ชมพูนิกข์จึงเบนเข็มมาสมัครงานในสาขาอื่นๆ และถูกปฏิเสธเหมือนเช่นเคย

“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!”

เสียงโหวกเหวกที่ดังมาแต่ไกลเรียกหญิงสาวออกจากห้วงความคิด ยังไม่ทันหันไปมอง เธอก็ถูกใครบางคนวิ่งมาชนจากด้านหลังอย่างแรงจน เกือบล้ม ชมพูนิกข์อุทานด้วยความเจ็บ ครั้นตั้งหลักได้ ใครอีกคนก็กระแทกซ้ำจนร่างอ้อนแอ้นกระเด็น แฟ้มเอกสารกับกระเป๋าสะพายหล่น กระจาย

หญิงสาวอุทานด้วยความเจ็บระคนโกรธ พลางประคองตัวให้ยืนขึ้น เธอรีบเก็บข้าวของบนพื้นอย่างรวดเร็ว ก่อนได้ยินเสียงเอะอะ ตามด้วยเสียงตุ้บตั้บ จึงหันไปดู

ชายหนุ่มสองคนชกต่อยกันอย่างดุเดือดท่ามกลางฝูงชนที่รุมล้อม คนหนึ่งใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงยืนเก่าปอน หนวดเครารกเรื้อ หน้าตาดุดัน อีกคนสวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนเช่นกันแต่ดูสะอาดสะอ้านกว่ามาก

“ช่วยด้วยค่ะ คนวิ่งราวกระเป๋า!”

เสียงขอความช่วยเหลือดังซ้ำมาแต่ไกล ชมพูนิกข์ตั้งสติใคร่ครวญ ผู้ชายหนึ่งในสองคนนี้ต้องเป็นโจรวิ่งราว ทว่าคนไหนกันเล่า

หญิงสาวได้คำตอบอีกเพียงเสี้ยววินาทีต่อมาว่าต้องเป็นผู้ชายหนวด เคราเฟิ้มอย่างแน่นอน เพราะนอกจากหน้าตาจะบ่งบอกความเป็นโจรแล้ว เขายังมีของกลางเป็นกระเป๋าสะพายของผู้หญิงอยู่ในมืออีกด้วย แถมยังมี นิสัยอันธพาลถึงขนาดอัดคู่ต่อสู้จนล้มลงไปกองกับพื้นและทำท่าจะกระทืบ ซ้ำโดยไม่มีใครกล้า เข้าไปช่วยแม้แต่คนเดียว

“หน็อย ไอ้โจรหน้ารก!”

ชมพูนิกข์เลือดขึ้นหน้า ทนไม่ได้กับความอยุติธรรม เธอกระโจนไป ข้างหลังของโจรร้าย ฟาดแฟ้มเล่มใหญ่ใส่เขาสุดแรงท่ามกลางเสียงฮือฮา ของไทยมุง

“โอ๊ย!” ชายหนุ่มกุมศีรษะและหันขวับมาอย่างงงงัน

ชมพูนิกข์ไม่รอช้า หวดแฟ้มซ้ำลงไปอีกหลายทีจนฝ่ายนั้นต้องยกมือปัดป้องพัลวัน

“เฮ้ย! จะบ้าเรอะคุณ มาตีผมทำไม โอ๊ย!”

“นี่แน่ะ เจ็บใช่ไหม สมน้ำหน้า ทำร้ายคนอื่นดีนัก”

เธอเข่นเขี้ยวแทนเหยื่อของโจรที่ถูกซ้อมจนนอนพังพาบกับพื้นอย่างลุกไม่ขึ้น หญิงสาวระดมฟาดแฟ้มใส่เจ้าของร่างสูงด้วยความโกรธจัด

“เอากระเป๋าคืนมาเดี๋ยวนี้นะ”

“โอ๊ย! เจ็บนะ” เขาเบี่ยงตัวหลบ แต่ไม่พ้นจากการจู่โจมอย่างดุเดือด

“ถ้าไม่อยากเจ็บก็คืนกระเป๋ามาสิ”

“ปัดโธ่โว้ย! อะไรกันวะ” โจรเคราครึ้มกระแทกเสียง

“ยังมีหน้ามาถามอีก นี่แน่ะ!” เธอฟาดอาวุธซ้ำลงไป

ดวงตาของคู่ต่อสู้วาววาบ เขาคว้าข้อมือทั้งสองของชมพูนิกข์ แล้วบิดอย่างแรงโดยไม่ทันให้ตั้งตัว ความเจ็บแปลบทำให้หญิงสาวปล่อยแฟ้มให้ตกลงบนพื้นดังตุ้บ เธอพยายามดึงข้อมือออก ทว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า

“ปล่อยฉันนะ” ชมพูนิกข์กรีดร้อง

“ปล่อยให้โง่สิ” เขาตะคอกกลับ ซ้ำยังแยกเขี้ยวเย้ยหยันอย่างน่าโมโห

ชมพูนิกข์ถลึงตาใส่ เตะถีบสุดแรงที่มี และตะโกนบอกไทยมุงซึ่งอยู่รอบกาย

“ช่วยด้วยค่ะ ไอ้ผู้ร้ายรังแกผู้หญิง”

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ”

คนกลุ่มหนึ่งวิ่งกรูเข้ามา นำโดยชายหนุ่มร่างกำยำแบบนักกีฬาซึ่งเป็นผู้เอ่ยถ้อยคำนี้ ตามด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสองนายและหญิงวัยกลาง คนซึ่งน้ำตานองหน้า ก่อนที่คนหลังสุดจะอุทานเสียงตื่นเต้นพร้อมกับถลามาหาโจรหน้าโหด

“กระเป๋าฉัน!”

คนตัวสูงปล่อยมือชมพูนิกข์ แล้วดึงกระเป๋าที่ห้อยอยู่กับแขนล่ำสัน ยื่นให้เจ้าของ

“นี่ครับ กระเป๋าคุณ”

“ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ” ผู้หญิงคนนั้นรับมันมากอดไว้ด้วยรอยยิ้มและน้ำตา

ไม่มีใครสนใจชมพูนิกข์ที่อ้าปากค้างด้วยความงงงวย ยกเว้นนายหน้ารกซึ่งตวัดสายตามาทางเธออย่างหาเรื่อง หญิงสาวจึงโพล่งขึ้น

“เดี๋ยวนะคะ ผู้ชายคนนี้เป็นคนกระชากกระเป๋าคุณไม่ใช่หรือคะทำไมต้องขอบคุณเขาด้วย แล้วทำไมคุณตำรวจไม่จับเขาล่ะคะ”

“คุณเข้าใจผิดแล้วครับ คนร้ายวิ่งราวนอนอยู่โน่นต่างหาก” เจ้าของ ร่างกำยำที่มาใหม่บุ้ยปากไปทางชายซึ่งเพิ่งถูกตำรวจพยุงให้ลุกขึ้น “เพื่อน ผมเห็นเหตุการณ์พอดี เลยวิ่งไล่ตามคนร้ายมาน่ะครับ”

“หา! คุณว่าไงนะคะ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่โจรวิ่งราวหรือคะ” ชมพูนิกข์

ตาโต

คนหน้าดุแสยะยิ้ม ทว่าดวงตาวาววับเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว

“คุณฟังไม่ผิดหรอก ผมไม่ใช่คนร้ายวิ่งราว แต่เป็นพลเมืองดีที่ ถูกรังแกต่างหาก”

ประโยคที่ได้ยินทำให้ชมพูนิกข์หน้าแตกดังเพล้ง เธอยิ้มเจื่อนที่สุด

ในชีวิต

“ฉันขอโทษที่เข้าใจผิด” หญิงสาวกล่าวเสียงอ่อย “คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ”

“ก็เจ็บน่ะสิ ถามได้” ชายหนุ่มตะคอกพลางลูบใบหน้ากับต้นคอซึ่งมีรอยแดงเป็นปื้นไปด้วย

“เฮ้ย! พูดกับคุณเขาดีๆ สิวะ” เพื่อนของเขาปราม

“จะให้พูดดีกับผู้หญิงที่เกือบฆ่าฉันน่ะรึ ฝันไปเหอะ นี่ถ้าเป็นผู้ชาย นะ ฉันเตะตูดไปแล้ว” เขาถลึงตาใส่เธออย่างกินเลือดกินเนื้อ

“ฉันขอโทษ จะให้ฉันรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลก็ได้นะคะ” หญิง สาวเปีดกระเป๋าถือด้วยความรู้สึกผิด ก่อนหยิบกระเป๋าสตางค์ซึ่งมีเงินอยู่ เพียงน้อยนิดออกมา

“ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้นแหละ แค่อย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก ก็พอ” ชายหนุ่มไล่ คนฟังจึงเม้มปากอย่างขัดหู

“คุณนี่พูดจาไม่เพราะเลย ฉันรู้ว่าฉันทำให้คุณเจ็บ ฉันก็ขอโทษไป แล้วไงล่ะ” เธอต่อว่า ก่อนบ่นพึมพำ “หน้าตาก็ไม่ดี ปากยังเสียอีก สมควรแล้วล่ะที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโจร”

“ผมได้ยินนะ” คนหน้าดุเอ็ด เพื่อนของเขาจึงรีบห้าม

“เอาเหอะน่า คุณเขาขอโทษแล้วก็ให้มันจบไปเถอะ”

ดูตาวาวๆ ของอีกฝ่ายแล้ว ชมพูนิกข์ไม่แน่ใจว่าเขาจะยอมจบอย่าง ที่เพื่อนบอกหรือไม่ เธอไม่อยากเสียเวลากับคนพาล จึงรีบดึงธนบัตรใบละ ร้อยออกมาสองใบ ซึ่งเป็นเงินเกือบทั้งหมดที่เธอมี แล้วยัดใส่มือชายหนุ่ม

“ฉันไม่อยากติดค้างอะไรคุณ เอาเงินไปทำแผลซะก็แล้วกัน”

ว่าแล้วหญิงสาวก็ก้มลงเก็บแฟ้มเอกสารและสะบัดหน้าออกไปทันที ไม่รอให้อีกฝ่ายมีโอกาสได้ทักท้วงแม้แต่นิดเดียว

ชมพูนิกข์กระโจนขึ้นรถเมล์คันแรกที่มาจอดป้าย นี่เป็นวันโลกาวินาศของเธอรึไง นอกจากจะไม่ได้งานแล้ว ยังขายขี้หน้า และต้องเจอผู้ชายปากเสียจนเจ็บตัวกับเสียทรัพย์อีกต่างหาก

หญิงสาวก้มมองข้อมือทั้งสองที่เริ่มเป็นรอยชํ้า ก่นด่านายหน้ารกไป อีกเนิ่นนาน

ความหงุดหงิดของชมพูนิกข์เปลี่ยนไปทันทีที่ใกล้ถึงบ้าน หญิงสาว ลงจากรถประจำทางด้วยความหวั่นใจ เธอกระชับแฟ้มในมือแน่นขึ้นเมื่อก้าวเข้าสู่ซอยบ้าน นึกถึงสีหน้าผิดหวังของบิดามารดาและพี่สาวหากพวก เขารู้ว่าตนไม่ได้งานอีกเช่นเคย

“เอาก็เอา ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เคยเกิดขึ้นสักหน่อย!”

ชมพูนิกข์พึมพำ ก่อนสูดหายใจอย่างฮึดสู้ และกัดฟันเดินหน้าไปยังบ้านสีขาว ซึ่งมีเพื่องฟ้าสารพัดสีแผ่กิ่งก้านจากด้านในของรั้วมาปกคลุม กำแพงด้านนอกจนร่มรื่น เว้นไว้แต่ประตูไม้สีน้ำตาลแก่เท่านั้น

หญิงสาวหยิบกุญแจในกระเป๋าสะพายเตรียมไข ตาเหลือบไปเห็น กระดาษปีกหนึ่งในกล่องจดหมายที่แขวนไว้ตรงประตู เธอจึงดึงออกมา ก่อนจะวางกระดาษเหล่านั้นทับไว้บนแฟ้มอย่างไม่ใส่ใจ เพราะมีแต่ใบโฆษณาสินค้า

ทันใดนั้น สายลมเย็นก็โบกพัดปลายยอดเพื่องฟ้าที่ระไปตามกำแพง ให้ขยับไหว กลีบใบสีสดที่ร่วงอยู่ตามพื้นปลิวไปทั่ว ชมพูนิกข์ยกแขนข้างหนึ่งขึ้นป้องใบหน้ากันไม่ให้ฝุ่นเข้าตาและรีบไขประตูเข้าบ้าน

เสียงเปียโนเพราะพริ้งแว่วเข้ามาในโสตประสาท

บทเพลงที่ชมพูนิกข์ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทว่าสะดุดหูจนทำให้เธอหยุดยืนนิ่ง ลดแขนลงข้างตัว ตะแคงหูฟังให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

มันเป็นเพลงซึ่งจับหัวใจที่สุดเท่าที่หญิงสาวเคยได้ยิน ท่วงทำนอง อ่อนหวานราวกับสายลมที่พัดพามวลดอกไม้มารอบกาย ก่อนที่ความหวานหอมจะซึมแทรกเข้าสู่กลางใจของเธอ ขณะเดียวกันก็ชวนให้อ้างว้างราวกับอยู่กลางแผ่นดินกว้างใหญ่เพียงลำพัง จนอยากร่ำไห้กับความเหงาที่รุมเร้า เสียงเล็กแหลมของเปียโนบาดลึก กรีดแทงหัวใจให้เจ็บแปลบ

เสียงเปียโนเร่งจังหวะถี่กระชั้นขึ้นอย่างน่าตื่นเต้น เช่นเดียวกับสายลมที่กระโชกแรงกว่าเก่า หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงด้วยความระทึกอะไรบางอย่างพุ่งเข้าใส่ ชมพูนิกข์จึงคว้าหมับโดยอัตโนมัติ

จู่ๆ สายลมก็สงบ สรรพสิ่งเงียบงัน ไม่มีแม้แต่เสียงของเปียโน

หญิงสาวย่นคิ้วอย่างงุนงงระคนเสียดาย เธออยากฟังบทเพลงซึ่ง ไพเราะที่สุดนี้อีกครั้ง

ชมพูนิกข์ทอดถอนใจ ก่อนก้มดูวัตถุในมือ มันคือซองจดหมายสีนวลซึ่งไม่รู้ว่าปลิวมาจากที่ใด หญิงสาวงงหนักขึ้นเมื่อเห็นว่ามันจ่าหน้าซองถึงตน เมื่อครู่เธอไม่เห็นจดหมายฉบับนี้ในตู้ หรือว่ามันร่วงหล่นตอนเธอดึงแผ่นพับโฆษณาออกมา

ชมพูนิกฃ์คาดว่าคงเป็นเหตุผลหลัง เธอปัดความสงสัยถึงที่มาของ มัน และเลื่อนสายตาไปยังตัวอักษรสีทองเข้มตรงมุมด้านซ้ายบนซึ่งเป็นชื่อ กับที่อยู่ของผู้ส่ง

‘คุ้มแสงคำบูติกโฮเต็ล’

โรงแรมงั้นหรือ ตามที่อยู่ระบุว่าตั้งอยู่ในจังหวัดน่าน แต่เขาส่ง จดหมายมาให้ทำไม

ชมพูนิกข์แกะจดหมายออกด้วยความใคร่รู้ แล้วกวาดตาดูข้อความ ‘เราได้ข้อมูลของคุณจากบริษัทจัดหางานซึ่งคุณได้ลงทะเบียนไว้ คุณมีคุณสมบัติตรงกับที่เราต้องการ หากคุณสนใจร่วมงานกับเรา โปรดเดินทางมาที่คุ้มแสงคำบูติกโฮเต็ล แล้วคุณจะได้เริ่มงานทันที’

“จะได้เริ่มงานทันที!”

...โปรติดตามต่อในฉบับ

 

 

 

 

รายละเอียด

ชีวิตบัณฑิตเตะฝุ่นของ ชมพูนิกข์ จบสิ้นลงเสียที เมื่อเธอได้รับจดหมายตอบรับเข้าทำงานโดยไม่คาดฝัน ณ คุ้มแสงคำ บูติกโฮเต็ล โรงแรมสุดหรูซึ่งดัดแปลงจากคฤหาสน์เก่าแก่กลางขุนเขาสูงในจังหวัดน่าน หญิงสาวตกหลุมรักคุ้มแสงคำตั้งแต่แรกเห็น พร้อมสัญญากับตัวเองว่าจะรักษางานเดียวที่หาได้นี้ไว้ให้ดีที่สุด แม้ว่าจะต้องเล่นบทนักสืบเพื่อค้นหาความลับของ ปวีร์ ผู้ชายสุดเซอร์ซึ่งดูอย่างไรก็ไม่น่ามีเจตนาดีต่อโรงแรมของเธอ 
ชมพูนิกข์ไม่รู้เลยว่า บทตำรวจจับขโมยระหว่างตนกับปวีร์จะนำไปสู่การค้นพบความลับที่น่าตระหนกยิ่งกว่าของคุ้ม แสงคำ แถมหัวขโมยเคราครึ้มยังฉกหัวใจของเธอไปอีกเสียด้วย

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024