กิ่งแก้วกาฝาก (โสภี พรรณราย)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789749325018
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 230.00 บาท 57.50 บาท
ประหยัด: 172.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เปิดฉาก

“กิ่งแก้วกาฝาก”

ตราบใดที่ชีวิตคนเรายังตกอยู่ในวังวนของกิเลส ตัณหา ราคะ รัก โลภ

โกรธ หลง สังคมก็ยังคงหาความบริสุทธิ์ยุติธรรมไม่ได้ และหากความชั่วยัง

ไม่ให้ผล...คนชั่วก็ย่อมประพฤติชั่ว เห็นความชั่วเป็นสิ่งดีงามอยู่ตราบนั้น

แต่เมื่อใดความชั่วให้ผลปรากฏ เมื่อนั้นคนชั่วจึงจะยอมสำนึก

กิ่งแก้วกาฝาก เรื่องราวของสองศรีพี่น้องที่โดนอำนาจแห่งโชดชะตามาจัด

ฉากให้จังหวะชีวิตของเธอมารับตราบาปในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำ ในผลกรรมที่ไม่ได้ก่อ

จนต้องพลัดพรากจากกัน แต่ความดีที่เธอสร้างสมได้ดลบันดาลให้เธอเดินทาง

มาพานพบรัก...และค้นหาสิ่งที่เป็นปริศนาชีวิตให้เธอพิสูจน์ความจริง...กับสาย

เลือดที่โยงใย...กับสายใจที่เธอผูกพัน...

กิ่ง และ แก้ว เธอเปรียบประดุจอัญมณีประดับกายของคนดี แม้จะ

อยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่ดี แต่ก็ยังรักษาความดีงามไว้ได้มั่นคง ดุจดั่งดอกบัวรักษา

ความขาวบริสุทธิ์ แม้จะเติบโตท่ามกลางน้ำขุ่น...ผสมกลิ่นสาบโคลนตม เธอก็ยัง

เติบโตและเบ่งบานอวดหมู่มวลมัจฉาให้ได้อาศัยร่มเงา และหยัดยืนชูช่ออยู่

บนโลกใบนี้ได้อย่างสดใสและงดงาม

โสภี พรรณราย ได้หยิบอักษรมาปั้นคำผสมน้ำหวานมาแต่งเติมให้ตัว

ละครมีชีวิต เพื่อมอบความเอิบอิ่มให้มิตรรักได้อิ่มเอมในรสรัก ทั้งหวาน...เศร้า...

เร่าร้อน...โรแมนติก คละเคล้ากันไปตามแต่สีสันของตัวอักษรและอารมณ์จะ

นำพา...ขอให้พิสมัยในความสุขและสนุกกับการอ่าน

ด้วยรักและศรัทธา

 บรรณาธิการ

“เฮ้ย! กระชากกระเป๋า”

แวบนั้น ร่างที่วิ่งผ่านร่างของเด็กสาวซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงยีน

ขาสามส่วนเก่าๆ ซักรีดจนซีด กระชากกระเป๋าแบบนี้ต้องช่วยเด็กสาววิ่งไล่ตาม

วิ่งไปตามชายหาดด้านทะเล มีเรือจอดอยู่เรียงราย ส่วนใหญ่เป็นเรือยอชต์ของ

บรรดาเศรษฐี

เด็กสาวต้องตามจับโจรกระชากกระเป๋าให้ได้ ถิ่นนี้เป็นถิ่นของหล่อน

ไอ้โจรคนไหนมันกล้ามาหากินในถิ่นของแก้วเก็จ แก้วเก็จ หรือ ไอ้แก้ว ไอ้แก้ว

เด็กที่วิ่งเล่นเติบโตอยู่แถวนี้ชายทะเล

ร่างทะมัดทะแมงคล่องแคล่ว วิ่งเร็วใกล้จวนตัวหล่อนกระโจนรวบแขน

ทำเอาเซไปทั้งคู่ แล้วมันก็สะบัดมืออย่างแรงเพื่อให้หลุด ที่แท้มันเป็นไอ้ขี้ยา

จนมุมแล้วก็โยนกระเป๋าทิ้ง เอาตัวรอด

หล่อนรับกระเป๋าไอ้ขี้ยา หรือจะจัดการเมื่อไหร่ก็ได้ได้กระเป๋าคืนเจ้าของ

เขาก่อนหล่อนไม่รู้ใครเป็นเจ้าของ แต่หล่อนหยิบกระเป๋าขึ้นดูเป็นกระเป๋า

สะพายไม่ใช่ของสตรีเป็นแบบผู้ชาย รูปเหลี่ยมสีดำสนิทขนาดกะทัดรัดลักษณะ

แข็งแรงมียี่ห้อราคาแพงน่าดู

 

 

 

 

 

 

 

หล่อนจับขี้ยาไม่ได้ แต่ได้กระเป๋ามาคืน ขณะนั้นนายอำนวยวิ่งมา

กระหืดกระหอบจะตามจับขโมย แก้วเก็จเลิกคิ้ว

“พ่อ” พ่อช่วยจับไอ้ขโมย แสดงว่าพ่ออาจเห็นตอนมันกระชากกระเป๋า

“เป็นไง จับได้มั้ย” อำนวยถามหายใจเหนื่อย

“ได้กระเป๋าคืน แต่ไอ้ขี้ยาแก้วรู้มันเป็นใคร ค่อยจัดการทีหลัง ตอนนี้เอา

กระเป๋าไปคืนเจ้าของเขาก่อนเถอะ” คนพูดส่งกระเป๋าให้พ่อ นายอำนวยพยักหน้า

“เออ...เอ็งเก่ง ไอ้แก้ว” ไอ้แก้วหรือแก้วเก็จเดินตามบิดา ย้อนกลับไป

ทางเก่า ปีนี้หล่อนอายุสิบเก้าแล้ว วิ่งเล่นชายทะเลตั้งแต่เด็ก อยู่กับแม่จุรีกับ

พ่ออำนวยซึ่งมีอาชีพเป็นช่างซ่อมเรือยอชต์ อำนวยจะชำนาญเป็นพิเศษ มี

ไอ้แก้วลูกสาวคนเดียวเป็นลูกมือช่วย ไอ้แก้วมันแก่นสมชื่อ ท่าทางคล่อง

แคล่วคล้ายกับทอม ตัดผมสั้น รูปร่างสูงโปร่ง วงหน้าคมเข้ม ดวงตากลมโต

จมูกโด่ง

ไอ้แก้วมันเป็นสาวแล้ว แถมสวยด้วย และตั้งตัวเป็นเจ้าแม่อยู่แถวนี้

เป็นหัวหน้าบรรดาเด็กๆ ใครๆ ที่หาดแก้ว ต่างรู้จักไอ้แก้ว ชื่อแก้ว ชื่อเดียว

กับหาด ‘หาดแก้ว’

หล่อนอยู่แถวนี้ มีอาชีพรับจ้างไปทั่ว เรื่องเครื่องยนต์ เรือยนต์หล่อน

ชำนาญเป็นพิเศษ เรียนรู้จากประสบการณ์และจากชีวิตจริง เก่งยิ่งกว่าเรียน

จากตำรา ในตำราหล่อนจบมอสาม เลิกเรียนมาช่วยพ่อ แม่จุรีเป็นแม่บ้าน

ครอบครัวไอ้แก้วมีความสุขตามประสา พ่อ แม่ ลูก มีความสงบ มีชีวิตเรียบง่าย

แก้วเก็จพอใจกับชีวิต แม่กับพ่อห่วงหล่อนเรื่องไม่เป็นเรื่อง...เรื่องหล่อนจะ

ไม่เป็นผู้หญิง เรื่องหล่อนจะทโมนคล้ายกับทอม คล้ายผู้ชาย แก้วอยากเป็นผู้ชาย

ทำไมต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงด้วย รู้สึกงานบางอย่างถูกจำกัดโดยความ

เป็นเพศหญิง เฮ้อ! หล่อนก็คิดมากในเรื่องไม่เป็นเรื่อง หล่อนเดินตามบิดามา

นายอำนวยบอกว่า

“กระเป๋าเป็นของท่านเจ้านาย จะออกเรือไปที่เกาะเก็จข้างหน้าโน้น ลง

จากรถเบนซ์ก็ถูกไอ้ขี้ยากระชากกระเป๋าหนี” ท่านเจ้าของเรือ...ท่านเรือยอชต์

 

 

คนรวยล่ะนะ เป็นเจ้าของเรือสำราญ เศรษฐีจากกรุงเทพฯ ยามว่างก็มาล่องเรือ

แก้วเก็จเห็นมามากต่อมากแล้ว แล่นไปเที่ยวเกาะข้างหน้าที่มีหลายสิบ

เกาะ บางคนเป็นเจ้าของเกาะเอง แต่บางคนก็ได้เช่าที่พักบังกะโลตามเกาะใหญ่ๆ

บางคนก็กินนอนบนเรือสำราญ ชีวิตเศรษฐีช่างมีความสุขเหลือเกิน ร่ำรวยไม่รู้

เรื่อง ผิดกับแก้วอยู่กับพ่อแม่ทำมาหากินก็พอมีกินมีใช้ แต่ไม่เห็นจะร่ำรวยเลย

บางวันหากินไม่ได้ เรือไม่เสีย หล่อนก็ยึดอาชีพเป็นแม่ค้า เร่ขายเครื่องดื่ม

ขนมบ้างอาหารบ้าง ตามแต่ใจกับพวกนักท่องเที่ยว

เศรษฐกิจตกต่ำ นักท่องเที่ยวหดหาย เหลือแต่พวกที่ร่ำรวยจริงๆ

ขนาดเรือยอชต์บางลำ ได้ยินว่าเศรษฐีก็ต้องขายหรือไม่ก็ถูกยึดทรัพย์ เพราะ

ล้มละลาย เงิน ทอง เอาแน่ไม่ได้ แก้วเก็จเห็น ‘ท่าน’ ของพ่อแล้ว

โอ้โฮ! ยังหนุ่มแสนหนุ่มเลย แถมรูปหล่ออีกต่างหาก แต่หน้าตาบรม

เครียด ดุดัน ขรึม ไม่รู้เป็นอะไร หน้าดุจัง นายอำนวยส่งกระเป๋าคืนท่าน

“ได้แล้วครับ” ก้มศีรษะนอบน้อม “ลูกสาวผมไอ้แก้ว เป็นคนไล่ตามคืน

มาได้ ในหาดนี้ไอ้แก้วมันวิ่งเร็วสุดครับ โชคดีที่มันเห็น” ถ้าเป็นคนอื่นก็ไม่

แน่ใจว่าจะได้คืน เจ้านายแค่นหัวเราะ แม้แต่เสียงหัวเราะก็ดูดุดันชอบกล

“ได้คืนก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ ในเมื่อได้คืนฉันจะให้รางวัล”

เขาเปิดกระเป๋า หยิบใบละพันออกมาสามใบ สามพัน ส่งให้อำนวย

“สามพัน พอมั้ย” อำนวยหันมาทางแก้วเก็จพยักพเยิด “เองเข้าไปรับรางวัลจาก

ท่านสิ” แก้วเก็จตัวแข็ง ไม่ค่อยชอบหน้าตาของชายหนุ่ม จริงๆ แล้วทำดีได้รางวัล

มันก็สมควรหรอกนะ แก้วเก็จเคยรับรางวัลหรือเงินทิปจากบรรดาเศรษฐีเสมอ

แต่กับนายคนนี้ หล่อนไม่เคยเห็น หากก็ยังคุ้นเคย เห็นจากไหน อ๋อ! รู้แล้วจาก

หนังสือพิมพ์ เป็นนักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทอะไรนะ กะทันหันเช่นนี้ยังนึก

ไม่ออก หล่อนมองหน้าเขา บอกตามตรง ให้แบบนี้หน้าบอกบุญไม่รับ หล่อนจะ

รับทำไม หน้าดุชะมัด วูบหนึ่งแก้วเก็จก็หยิ่งผยองเหมือนกัน เงินตั้งสามพัน

บางทีพ่อหาเป็นเดือนยังไม่ได้ เงินสามพัน ถ้าประหยัดก็กินได้เป็นเดือน เป็นค่า

กับข้าวให้แม่ เลือดหยิ่งฉีดขึ้นหน้า รางวัล ดูหน้าตาสิ ยามหยิบยื่นเงินให้ไม่ได้ให้

 

 

อย่างตั้งใจหรืออยากจะให้ หล่อนโคลงศีรษะ

“แก้วไม่รับ” แววตาเขาวูบเดียวแปลกๆ แล้วกลับเป็นปกติ ตาเข้ม

“รับไป” เสียงเครียด กับกิริยายื่นเงินยังค้างในท่าเดิม

“แก้วไม่รับค่ะ”

“ทำไม”

“ทำไม”

“ไม่อยากรับก็ไม่รับ”

“ตลก” พูดตลก แต่ชายหนุ่มไม่ได้หัวเราะ หันไปทางอำนวยพลางถาม

สั้นๆ “ว่าไง”

อำนวยกลืนน้ำลายยากเย็น ท่านเป็นเจ้านาย เฮ้ย! ไอ้แก้วมันเป็นอะไร

ของมันวะ เกิดไม่ยอมรับในรางวัลที่พึงได้ ถ้าเป็นคนรวยก็ว่าไปอย่างไม่รับ

แต่นี่ยากจน ทุกคนก็ตั้งใจขยันทำงานหาเงิน รับเถอะวะ ไอ้แก้ว เพื่อปากเพื่อท้อง

เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ นายอำนวยพยักหน้ากับลูกสาว พลางกล่าวว่า

“ไอ้แก้ว รับสิวะ”

“ไม่รับ”

“ไอ้แก้ว”

“ไม่ก็คือไม่จ้ะ พ่อ” และเป็นการตัดปัญหา แก้วเก็จเดินหนีซะเลย

ไม่รู้...ไม่รู้ ไม่เห็น นายอำนวยยกมือไหว้ ‘ท่าน’

“ผมขอโทษแทนลูกสาวครับ”

“ขอบพระคุณครับ” อำนวย ‘รางวัล’ จากท่าน

 

แก้วเก็จก้าวขึ้นบ้านบ่นพึมพำ

“ให้รางวัลประสาอะไร ไม่เต็มใจให้ เรื่องอะไรจะไปรับรู้งี้ให้ไอ้ขี้ยาเอาเงิน

ไปหมดเลยซะก็ดี ไม่น่าช่วย”

นางจุรีกำลังหุงอาหารเดินออกจากห้องครัวได้ยิน บ้านหลังเล็กๆ

 

 

ปลูกอยู่ติดทะเลด้านหนึ่ง เป็นบ้านเก่าแก่ทรุดโทรม คนในบ้านใช้เป็นที่นอนหลับ

พักผ่อน เอาเถอะ รั่วก็ซ่อม ผุก็เปลี่ยนไม้ ไอ้หวังจะปลูกบ้านหลังใหม่ ฝันไป

เถอะที่มีซุกหัวนอนก็พอแล้วล่ะ

“บ่นอะไร” มารดาถาม

“แม่” แก้วเก็จเกาศีรษะ

“บ่นอะไรของเอ็ง ใครทำให้เอ็งโกรธ”

“นายของพ่อน่ะสิ”

“นายคนไหน พ่อเอ็งมีนายเยอะแยะ เจ้าของเรือยอชต์แต่ละลำ ล้วน

เป็นนายของพ่อเอ็ง”

อำนวยนอกจากเป็นช่างซ่อม ยังช่วยดูแลรักษาเรือแทนเจ้าของ

“ไม่รู้คนไหน ชื่ออะไร แต่ท่าทางวางมาดหยิ่ง ขรึมชะมัด สงสัยจะมา

แล่นเรือไปเกาะยังไม่ทันขึ้นเรือเกิดมีไอ้ขี้ยามากระชากกระเป๋าและวิ่งผ่านหน้าแก้ว

แก้วเลยวิ่งไล่ตาม ได้กระเป๋าคืน ท่านของพ่อให้รางวัลแก้วสามพัน”

“ก็ดีนี่ เอ็งทำดี ได้ดีตอบแทน”

“แต่แม่ไม่เห็นหน้าตาท่าน โอ๊ย! แก้วอธิบายไม่ถูกเลย หน้าตาอย่างกับ

ยักษ์ ขรึม ไม่เต็มใจอย่างไงอย่างงั้นเลยล่ะ เรื่องอะไรแก้วจะรับรางวัล แก้วก็

เชิดหน้าหยิ่งบ้าง ได้หยิ่งกับคนรวย สะใจดี”

นางจุรีโคลงศีรษะ อมยิ้ม ลูกสาวคนนี้ยอมอด แต่ไม่ยอมก้มศีรษะให้คน

ที่หล่อนไม่พอใจ

“สะใจนะ” แม่แซว “แต่หิวท้อง” แก้วเก็จหัวเราะเบาๆ

“จ้ะแม่ ท้องมันหิว เงินก็อยากได้ แต่ต้องทำหยิ่งแทบตายแก้วไม่อยาก

ให้คนรวยดูถูก” จุรีลูบศีรษะบุตรสาว

“เอาเถอะ แม่ตามใจเอ็งไม่รับก็ไม่รับ”

“แต่ข้ารับ” อำนวยก้าวเข้ามาในบ้าน พร้อมกับชูเงินสามพันอวด “สาม

พันท่านให้มาว่ะ”

แก้วเก็จคอย่น “โธ่! พ่อ แก้วอุตส่าห์เล่นบทหยิ่ง”

 

 

“เอ็งหยิ่ง แต่ข้าไม่หยิ่งนี่หว่า”

“แก้วก็เสียหน้าสิ”

“เอ็งไม่เสียหรอก ข้าเป็นคนรับ เอ็งไม่เสีย ข้าไม่หยิ่งเหมือนเอ็งนี่หว่า

เงินตั้งสามพัน ข้าเอามาให้แม่ของเอ็ง”

แก้วเก็จพูดไม่ออก พ่อเอาเงินมาให้แม่ แม่จุรีรับ นางเป็นคนประหยัด

กำเงินแน่น กล่าวว่า

“ขอให้เป็นเงิน ได้รับอย่างสุจริต เราจะได้กินอิ่มกัน ท่านเป็นเจ้านายคน

ไหนล่ะ ทำไมยัยแก้วพูดซะน่ากลัว ว่าหน้าตาเหมือนยักษ์” ตอนท้ายหล่อนถาม

สามี

“คุณดิสทัต เจ้าของเรือยอชต์ลำใหม่ จะมาแล่นเรือไปในทะเล แต่เมื่อ

กี้เจอปัญหาเครื่องขัดข้องเล็กน้อย เลยเลื่อนเป็นเดินทางพรุ่งนี้ คืนนี้ไปเช่า

โรงแรมดังอยู่ ส่วนเรื่องหน้าตายักษ์อะไรนั่น ข้าก็ไม่รู้ ดูเหมือนท่านมีปัญหามา

จากกรุงเทพฯ แต่เรื่องของเจ้านาย ข้าไม่กล้าถาม”

แก้วเก็จฟังอยู่ด้วย คุณดิสทัตเริ่มคุ้นขึ้นเรื่อยๆ แต่หล่อนขี้เกียจคิด

เรื่องของเศรษฐีจากกรุงเทพฯ ไม่เกี่ยวกับเด็กกะโปโลอย่างหล่อน

“แล้วซ่อมเสร็จหรือยัง”

“ยัง ข้ามาเอาเครื่องมือไม่ต้องรีบร้อนซ่อม ท่านตัดสินใจออกเรือพรุ่งนี้

แล้ว” หันมาทางลูกสาว “ไอ้แก้ว ไปช่วยกันซ่อมนะ” แก้วเก็จโคลงศีรษะ

“แก้วไม่ไปนะ ขี้เกียจเห็นหน้ายักษ์นายคนนั้น เดี๋ยวโมโหหมั่นไส้ ยก

เอาอะไรไปประเคนหัวนายของพ่อ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เปล่าๆ”

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้นอำนวยกินอาหารเช้าแล้วรีบแวะไปที่เรือยอชต์

ของคุณดิสทัต เพื่อตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้าย แก้วเก็จรวบรวมจานชามไปล้าง

เสร็จแล้วจึงบอกมารดา

“แก้วไปชายหาดนะจ๊ะ เผื่อจะมีใครจ้างแก้วทำอะไรบ้าง”

“ไปเถอะเที่ยงกลับมากินข้าวนะลูก”

“ไม่จ้ะ แม่อย่ารอ แก้วกลับมากินเย็นดีกว่า ตอนเที่ยงแก้วหาอะไรกินเอง”

เด็กคนนี้นี่ออกไปทีก็หายไปทั้งวัน ไปเตร็ดเตร่อยู่แถวชายหาด นางจุรี

โคลงศีรษะ ลูกสาวไม่รู้จักโตสักที แก้วเก็จเดินผ่านเรือยอชต์ของคุณดิสทัต ชื่อ

เรือสำราญ เข้าใจตั้งชื่อนะ หล่อนเห็นบิดาโผล่หน้าเดินออกมา “อ้าว!...พ่อ

ไม่เรียบร้อยเรอะจ๊ะ”

“เรียบร้อยฝีมือระดับข้า”

“ปล่อยให้ไปตายลอยกลางทางก็ดีนะ” อำนวยร้องลั่น

“เฮ้ย!...ไอ้แก้วเอ็งพูดอะไรแบบนี้”

“ก็แก้วไม่ชอบขี้หน้านี่นา”

“เอ็งอย่าแช่งสิวะเรือท่านยังใหม่ๆอยู่ ราคาไม่ใช่แค่บาทสองบาทนะโว้ย”

               

 

 

แก้วเก็จหัวเราะเบาๆ “ราคาขนาดไหนก็เสียได้ พ่อน่าจะวางยาไว้หน่อย”

อำนวยโบกมือเป็นพัลวัน

“ยุทำผิดแล้วมันล่ะหาเรื่องจริงๆ” ว่าแล้วก็กระโดดขึ้นจากเรือจะกลับบ้าน

“เอ็งจะไปไหน”

“เดินเล่นจ้ะ”

“เออ...ข้าลืมเครื่องมือในเรือ ดูสิวะคนแก่แล้วลืมโน่นลืมนี่ ลืมไว้

ในห้องเครื่อง ไปหยิบแล้วเอากลับด้วย ข้าจะกลับก่อน”

“จ้ะ ...เดี๋ยวแก้วไปหยิบให้”

แก้วเก็จกระโดดลงเรือคล่องแคล่วราวกับผู้ชาย ในเรือสวยดีตบแต่ง

ราคาแพงสมกับเป็นเรือสำราญ มีเคาน์เตอร์บาร์และมีเครื่องดื่มมากมาย ใน

ห้องนอนจะเป็นอย่างไรคงตบแต่งสวยงาม หล่อนถือวิสาสะเปิดดูโน่นดูนี่แอบดู

ทุกห้อง ยกเว้นห้องนอนล็อก แต่ห้องอื่นเปิดดูได้หมด มีทั้งห้องครัวน่ารักอุปกรณ์

ครบครัน มีห้องนั่งเล่น ห้องร้องเพลง โอ้โฮ!...คุณดิสทัตคนนี้คงเป็นหนุ่มเจ้า

สำราญสมชื่อ โทรทัศน์เครื่องเสียงครบชุด เหมือนกับอยู่โรงหนังเลยจอภาพ

ขนาดใหญ่ มีเก้าอี้นั่งดูแสนสบาย แก้วเก็จลองนั่งโซฟาเบาะนุ่มจัง เอนนอนก็

สุขโขสุขขีลองนอน ที่วางแขนเป็นหมอนได้อย่างสบาย ลองเปิดโทรทัศน์จอ

กว้างสิเป็นวีดีโอหนังฝรั่งหนังผจญภัยยิ่งใหญ่ แก้วเก็จเลยดูเพลินสนุกจัง นอน

ดูสบายเกินไปหนังจบพร้อมๆ กับตาปรือง่วง หนังจบหล่อนก็จบด้วยหลับสนิท

 

เรือกำลังแล่นออกไปในทะเล ดิสทัตหน้าขรึมกำมือแน่น เขากำลังเจ็บ

ปวด...เจ็บปวดกับความรัก กับผู้หญิงจึงหนีสังคมเมืองกรุง ว่างจะล่องเรือยอชต์

สักสามสี่วันไปพักผ่อน ไปที่ไหนก็ได้จนกว่าจะสบายใจ เขาไม่ได้มาคนเดียวมา

ไอ้แจ้เด็กรับใช้วัยยี่สิบสองตามมาด้วย แจ้พอจะรู้ใจเจ้านายบ้าง คอยมาปรนนิบัติ

รับใช้ ช่วยขับเรือ ช่วยทำอาหารในยามนี้ดิสทัตมีปัญหา แม้แต่ขยับตัวยังขี้เกียจ

มาก เขามีเหล้าเป็นเพื่อน ลงเรือก็กินเหล้า แจ้ต้องทำกับแกล้มมาให้ ฝีมือผู้ชาย

ใช่จะเก่งเรื่องอาหารการกินนัก พอทำได้งูๆ ปลาๆ กับแกล้มก็เป็นเม็ดมะม่วงที่

 

 

เป็นกระป๋องอบคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงได้รสชาติแล้วเปิดกระป๋องเขาก็กินได้เลย

อาหารกระป๋องเตรียมมาเพียบพอๆ กับเครื่องดื่มกินทั้งเดือนก็ไม่หมด มีของ

สดแช่อยู่ในตู้เย็น แจ้ซื้อกุ้งหอยปูปลาไว้ก่อนเรือจะออก ดิสทัตเห็นกับแกล้มก็

หน้าเข้มตำหนิ

“แกมีปัญญาหามาได้แค่นี้หรือวะ ก่อนจะออกเรือฉันให้แกเป็นหมื่น

ตระเตรียมอาหารมันจะค้ากำไรเกินควรแล้วมั้ง”

ไอ้แจ้รีบยกมือไหว้เจ้านาย

“แจ้ไม่กล้าครับ ผมเงินมีเหลือ แจ้วางอยู่บนตู้แล้ว แจ้ซื้อเท่าที่จำเป็น”

“แกไปหากับแกล้มมาเพิ่มได้มั้ย”

“อย่าดื่มมากนะครับ คุณทัต”

“แกไม่ต้องมาห้ามฉัน”

“แต่...คุณผู้หญิงท่านสั่งผมมาให้ดูแลคุณทัตเป็นพิเศษและต้องพาคุณ

ทัตกลับไปในสภาพเรียบร้อย ไม่งั้นไอ้แจ้ตกงาน”

คุณผู้หญิงหมายถึงคุณสุพัฒนามารดาของดิสทัต ไอ้แจ้กล่าวต่อ “คุณ

วรวีร์อีกคนครับ ตกรางวัลแจ้ก้อนหนึ่งให้แจ้เฝ้าคุณทัต ถ้าคุณทัตเป็นอะไรไป

แจ้ตายแน่”

วรวีร์น้องชายของดิสทัต...ดิสทัตมีน้องชายคนเดียว บิดาเสียชีวิตไป

แล้ว มารดาเป็นม่าย ครอบครัวมีเขา มารดา และน้อง จะว่าไปเขาเป็นหัวหน้า

ครอบครัวแทนบิดา ชีวิตที่เหลือรักใคร่ห่วงใยกันและกัน เขาอกหักหนีมาล่องเรือ

เล่น แม่กับน้องต่างเป็นห่วงเขา แจ้เป็นคนซื่อ เป็นเด็กที่เขารับเลี้ยงไว้ ดิสทัตดู

ออกว่าแจ้ภักดีต่อเขา มาล่องเรือครั้งนี้จึงขาดแจ้ไม่ได้ ดิสทัตดื่มเหล้า

“ถ้าแกไม่เชื่อฟังคำสั่งฉัน แกอาจจะต้องตายก่อนกลับกรุงเทพฯ”

แจ้คอย่น “แจ้เชื่อฟังคุณทัตครับ”

“ไปเอากับแกล้มกับเหล้ามาเพิ่ม”

“ครับ...ครับ” ห่วงเจ้านายก็ห่วง ท่านเล่นกินเหล้าแทนน้ำ แจ้เดินเข้าไป

ในครัวทอดข้าวเกรียบเพิ่ม กะจะยำอะไรสักอย่าง ยำทะเลก็แล้วกัน

 

 

“ไอ้แจ้เอ๋ยจะรองรับอารมณ์คุณทัตไหวมั้ยเนี่ย ยามนี้อารมณ์แปรปรวน

ยิ่งกว่าทะเลซะอีก” แจ้บ่นกับตัวเอง เจ้านายอกหัก ผู้หญิงคนนั้นแสนสวยอย่าง

กับเจ้าหญิง สวยมากแจ้รู้จักดี ‘สาธิตา’ เห็นคบกับเจ้านายดีๆ สวีตหวานแหวว

จะตาย เพราะหล่อนเป็นนักเรียนนอกมักจะแสดงความรักเปิดเผย อยู่ๆ อะไรก็

ไม่รู้ได้ยินเสียงทะเลาะกันลั่นแล้วดิสทัตก็บอกกับมารดาและน้องชายว่าจะไป

ล่องเรือหนีสังคม เจ้านายกินเหล้ากลัดกลุ้ม ยามนี้ได้แสดงความกตัญญูดูแล

เจ้านายตอบแทน แจ้ยินดีทำถวายหัว อากาศตอนเช้าสดชื่น อยู่ๆ ฟ้ามืดมัว

ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ฝนใกล้ตกแล้ว เจ้านายยังอยู่ชั้นบนเลย

 

แก้วเก็จสะดุ้งตื่นเพราะเสียงฟ้าร้องโครมครามดังลั่น หล่อนลุกขึ้นนั่ง

หล่อนหลับไปนานขนาดไหน หลับสบายเกินไป โอ้โฮ!...เพราะโซฟานุ่มจังกลับ

บ้านดีกว่า หญิงสาวตกใจร้องลั่นเมื่อมองไม่เห็นท่า

“เฮ้ย!...” หล่อนอยู่ที่ไหน เรือไม่ได้เทียบอยู่ที่ฝั่งนั้นแล้วนะ กำลังแล่น

ไปในทะเล หล่อนเลิกคิ้ว ทำไมเป็นแบบนี้หว่า หล่อนติดอยู่บนเรือ เรือแล่นไป

เรือสำราญของคุณดิสทัต เพราะเผลอหลับนานสองนาน ว้า!...จะทำอย่างไร? ดู

ท่าจะแล่นมาไกลแล้วด้วย แก้วเก็จเกาศีรษะโอ๊ย!...จะกลับบ้านอย่างไรซวยล่ะสิ

ถ้าคุณดิสทัตเห็นหล่อน จะต้องว่าหล่อนบุกรุกขึ้นมาบนเรือแน่ พวกเขามา

กันกี่คนก็ไม่รู้ หลบลงมาชั้นล่างตั้งหลักก่อน หล่อนชักหวั่นๆ กับหน้าตาที่

เหมือนยักษ์ของคุณดิสทัต ขนาดหล่อนช่วยเมื่อวานได้กระเป๋าคืน นายดิสทัต

ยังหน้าบึ้งกับหล่อนเลย ไม่เห็นจะมีความดีความชอบ วันนี้...หลงมาบนเรือเขา

เขาต้องไม่พอใจแน่ นายดิสทัตมากับใคร? มากับสาวคนไหน?

                ปกติแล้วล่องเรือยอชต์ของบรรดาเศรษฐี แก้วเก็จเห็นคนเหล่านั้นจะ

มากับสาวๆ สวยๆ เป็นคู่ๆ หล่อนมองหาคนในเรืออีก หายไปไหนหมด?

หล่อนเปิดดูทุกห้องในห้องครัว มีใครคนหนึ่งกำลังทำอาหาร ทำไปก็บ่นไป

“ไอ้แจ้ตายแน่ถ้าทำอาหารไม่ถูกปากเจ้านาย เจ้าประคุณขอให้ถูกปาก

 

 

เถอะ เคยไปดูแม่ครัวทำอาหาร ตอนนั้นไม่เห็นประโยชน์ ตอนนี้รู้แล้วรู้

ประโยชน์แล้ว เวลาทำไม่เป็นมันลำบากขนาดนี้”

แก้วเก็จฟังคำพูดก็รู้ คุณดิสทัตมีเด็กรับใช้เป็นผู้ชายตามมารับใช้นาย

ได้ยินเสียงดิสทัตตะโกนเรียก “ไอ้แจ้...ไอ้แจ้”

“ครับผม”

“เหล้าโว้ย...เอาเหล้ามาเพิ่ม” เจ้านายสั่ง

“เดี๋ยวครับผมกำลังจะทำยำ”

“ไม่ได้ แกมาเดี๋ยวนี้เลย”

“ครับ...ครับ...”

แจ้ทิ้งงานทั้งหมดเดินออกจากห้องครัวไปพบเจ้านาย แก้วเก็จรีบหลบ

ไปข้างๆ ลับร่างแจ้ แก้วเก็จเดินเข้าไปในครัว ทำอาหารของหมูๆ ง่ายๆ สำหรับ

หล่อน...หล่อนได้ยินแจ้พูดว่าจะทำยำ ดูจากบนโต๊ะ แจ้ลวกอาหารทะเลไว้แล้ว

มีกุ้ง ปลากหมึกเป็นชิ้นๆ และปลาลวกสด

“แก้วทำให้แทน”คลุกของทั้งหมดกับน้ำยำซึ่งใช้มะนาว พริกขี้หนู น้ำปลา

หล่อนปรุงรสอย่างรวดเร็ว กลมกล่อม แล้วโรยผักชี หอมใหญ่อะไรมีเท่าไหนก็

ใช้แค่นั้น ในครัวมีของไม่ครบ ใช้ผักรองจาน และเทยำทะเลลงในจาน

เสียงแจ้กลับเข้ามา แก้วเก็จหลบไปอยู่หลังตู้เก็บของ แจ้เดินกลับมาที่โต๊ะ

เตรียมอาหาร จานยำวางเรียบร้อย ยำเสร็จสรรพเทใส่จานจัดอย่างสวยงามมี

ผักแก้วรองอยู่ด้วย ชายหนุ่มเบิกตากว้าง “คุณพระ” วินาทีนั้นนึกถึง  ‘ผี!’

ผอ...สระ...อี...ผี เพราะในเรือลำนี้ตนกับเจ้านายอยู่กันแค่สองคนแน่นอน ผีทำ

อาหารยำให้เรียบร้อยจัดสวยงาม แจ้ยกมือไหว้ตัวสั่น...เสียงสั่น

“ไม่...ไม่...ต้อง...ช่วย...ช่วย...หรอก...นะ...นะ...มะ...ไม่...

ชอบ...ขอบ...คุณ...มาก”

แย่แล้วกลางวันแสกๆ คุณผู้หญิงกับลูกๆ ท่านก็นิมนต์พระมาเติมให้

นี่นา เป็นสิริมงคลป้องกันอันตรายต่างๆ โดยเกจิอาจารย์ชื่อดัง

“ผีหลอก!” ถามว่ากลัวผีมากกว่า หรือกลัวคุณดิสทัตมากกว่า? กลัว

 

 

คุณดิสทัตมากกว่าผีก็ผี...ผีช่วยทำอาหาร...ผีอาจมาดี...ไม่ได้มาร้าย แจ้เชื่อใน

ความดีของตัวเอง เป็นคนซื่อไม่ทำบาปทำกรรม...คนดีผีคุ้ม

“เอาวะ เจ้านายกินฝีมือผีหน่อยก็แล้วกัน เผื่อผีจะสงสารเรา กลัวถูก

นายตำหนิเลยสงเคราะห์ทำให้”

แจ้ยกอาหารขึ้นไปบนดาดฟ้า แก้วเก็จหัวเราะชอบใจ หล่อนกลายเป็น

ผีไปซะแล้วในยามนี้ นอกจากเล่นสนุกก็ไม่รู้จะทำอะไร เรือมันแล่นไปในทะเล

แล้วจะย้อนกลับคงเป็นไปไม่ได้ ขอสนุกหน่อยเถอะ”

รายละเอียด

เป็นความบริสุทธิ์ใสดุจอัญมณีประกับกาย
ของคนดี ทว่าโชคชะตามาจัดฉากให้เธอรับ
ตราบาปในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำ ในผลกรรมที่
เธอไม่ได้ก่อ... เรื่องราวของสองศรีพี่น้องที่
โชคชะตาให้เธอมารับตราบาปในสิ่งที่เธอ
ไม่ได้ทำ แต่ความดีที่เธอสร้างสมได้ดล
บันดาลให้เธอเดินทางมาพานพบรัก และ
ค้นหาสิ่งที่เป็นปริศนาชีวิตให้เธอพิสูจน์
ความจริง กับสายเลือดที่โยงใย กับสายใจ
ที่ผูกพัน

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024