รัก...ฤาเล่ห์ลวง (ปิ่นปินัทธ์)

รัก...ฤาเล่ห์ลวง (ปิ่นปินัทธ์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160022403
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 440.00 บาท 110.00 บาท
ประหยัด: 330.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สาวเลือดผสม

(ไม่รัก...ไม่เป็นไร สักครั้งได้ไหม...แค่กอด)

 

 

ตลอดห้าชั่วโมงกว่าบนเครื่องบิน ญศกาไม่ได้สนใจนิตยสารหรือ ภาพยนตร์ที่ฉายเพี่อสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสารบนเครื่องใดๆ ทั้งสิ้น นั่ง หลับตาราวกับต้องการพักผ่อนหากแต่สมองครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่อุบัติขึ้น

ในชีวิต

สิบปีที่แล้วผู้ชายต่างวัยสองคนจากประเทศไทยปรากฏตัวขึ้นที่มลรัฐ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ในงานศพนายเฮอิจิ ชิระโทะริ คุณตาของเธอซึ่งจากไป โดยไม่มีใครคาดคิดด้วยอุบัติเหตุทางการบิน วันนั้นมารดาแนะนำเธอให้รู้จัก นายคุกสิน ตัณฑสินธุ ว่าเป็นปู่ และนายศุกกิจว่าเป็นบิดา เป็นชื่อ-นามสกุล ในภาษาแปลกๆ ที่เธอไม่คุ้นหูมาก่อน ท่านทั้งสองมาร่วมในพิธีไว้อาลัยคุณตา ของเธอซึ่งเป็นเพื่อนทางธุรกิจที่คบหากันมานาน นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับ บุคคลที่เธอมี ‘สายเลือด’ ของเขาอยู่ครึ่งหนึ่ง

ก่อนหน้านั้น กินหนึ่งในช่วงงานศพ แม่ของเธอซึ่งขณะนั้นอยู่ในวัย สามสิบต้นๆ เข้ามาคุยในห้องนอนของเธอตอนดึก แม้จะยุ่งกับการเตรียมงาน แต่แม่ยังคงสวยตามแบบฉบับสาวลูกผสมสามเชื้อชาติ ญี่ปุ่น อเมริกันผิวขาว

และชาวฮาวายพื้นเมือง

 

‘ลูกจะได้พบกับคนสำคัญในชีวิตนะ ญ่าจัง’

‘ใครคะแม่’

‘คุณพ่อคับคุณปู่ของลูก เขาจะมาร่วมพิธีศพคุณตาที่นี่จ้ะ’

เธออึ้งไปชั่วครู่ ‘จากเมืองไทยหรือคะ’ กล่าวด้วยเสียงตื่นเต้น

‘หนูจะได้เจอคุณปู่จริงหรือคะ แม่ขา...ถ้าคุณตายังอยู่ หนูคงไม่มีโอกาส ได้รู้จักคุณปู่ใช่ไหมคะ คุณตาเคยสั่งว่า แม้แต่เอ่ยถึงก็ไม่มีสิทธิ์’

‘แต่ตอนนี้ แม่คิดว่าหนูโตพอที่จะได้รับสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องทั้งหมดแล้วลูก’ มารดาโอบกอดเธอแน่นเหมือนจะถ่ายทอดความรู้สึกให้เธอรู้

‘คุณคุกสิน คุณปู่ของหนู เป็นแขกของโรงแรมเรามาตั้งแต่สมัยคุณตา

น่ะลูก ท่านมาพักที่นี่ทุกครั้งที่มาฮาวายจนสนิทสนมคับครอบครัวเรา ท่านให้ ความเอ็นดูแม่ดี มีของฝากจากเมืองไทยมาเรื่อย โดยเฉพาะผ้าพันคอไหมไทย ผลไม้อบแห้ง และตุ๊กตารำไทย ช่วงหลังคุณปู่ท่านยุ่งอยู่คับธุรกิจใหม่ๆ ที่เมืองไทย คุณพ่อของญ่าเลยเข้ามาดูแลงานต่างประเทศแทน และพักโรงแรมเราทุกครั้ง ที่มาฮาวายเหมือนคุณปู่’

เธอนั่งฟังนิ่ง รู้สึกใจพองโตเมื่อได้ยินเรื่องนี้จากปากมารดา เอาแต่จ้อง หน้าผู้บอกเล่า ตั้งใจฟังด้วยดวงตาเป็นประกายใคร่รู้

‘คุณศุภกิจ คุณพ่อของหนู เป็นนักธุรกิจหนุ่มใหญ่จากเมืองไทย เขาดู สมาร์ตทีเดียวแหละ สมาร์ตทั้งรูปร่าง บุคลิก หน้าตา ทั้งสมอง’ ดวงตาของ มารดาเป็นประกายยามเอื้อนเอ่ย

‘ตอนนั้นแม่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆ อดปลื้มไม่ได้ที่ได้พบได้รู้จักคน เก่งอย่างเขา คนที่คุณตาพูดชื่นชมเสมอ ท่านให้แม่ช่วยเหลือดูแลคุณพ่อของหนู ระหว่างพักที่นี่ให้คอยติดสอยห้อยตามไปด้วยถ้าว่างเพี่อเรียนรู้งานธุรกิจรวม ทั้งประสบการณ์จากเขา คุณพ่อของญ่าไปๆ มาๆ ระหว่างเมืองไทยคับฮาวาย หลายครั้ง แม่ชื่นชอบความเฉลียวฉลาดของเขา เราใกล้ชิดคันจนมีลูกขึ้นมา’

มารดาโอบกอดเธอแน่นขึ้น

‘แม่กับพ่อรักคัน แล้วท่าไมไม่อยู่ด้วยกันล่ะคะ แม่ไม่ยอมไปอยู่เมืองไทย หรือว่าคุณพ่อไม่ยอมมาอยู่ที่นี่คะ’

เธอเห็นแม่นิ่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนเอ่ย ‘มันไม่ใช่เรื่องใครไม่ยอมไปอยู่

กับใคร...’ เสียงหวานๆ แหบแห้งขาดหายเมื่อเอ่ยถึงประโยคนี้ ญศกาเห็นนาตา คลอเบ้าตามารดา ‘แต่ที่สำคัญ คุณตาไม่ยอม’ ถอนหายใจเล็กน้อย คลายอ้อม กอดก่อนพูดต่อว่า ‘ท่านโกรธมาก’

‘อ้าว! โกรธทำไม ก็ไหนแม่ว่าคุณตาเป็นเพื่อนรักกับคุณปู่’ เธอจ้องหน้า มารดา มองตาแป๋ว กะพริบตาสองสามครั้งก่อนถามอย่างสงสัย

‘ถึงเป็นเพื่อนยังไงก็ไม่ได้ลูก คุณพ่อแต่งงานมีครอบครัว มีภรรยามีลูก

อยู่แล้ว แต่แม่ไม่เคยรู้ ท่าผิดศีลธรรมโดยไม่รู้ตัว’ แม่ของเธอเงียบไปชั่วครู่ก่อน กล่าวด้วยเสียงพร่าสั่นปนสะอื้น ‘ทั้งๆ ที่น่าจะรู้ น่าจะเฉลียวใจ ถึงพ่อหนูจะดู

อ่อนกว่าอายุ แต่ตอนนั้นเขาก็สี่สิบกว่าแล้ว จะเป็นโสดอยู่ได้อย่างไร พอรู้ว่า ตัวเองไปยุ่งกับสามีคนอื่นแล้วตั้งท้อง แม่ก็ไม่รู้จะคุยกับคุณพ่อของหนูยังไงดี

มัน...เหมือนกับเราไปเจอทางตัน และก็เริ่มไม่แน่ใจว่าสำหรับคุณพ่อแล้ว แม่ใช่ คนที่เขารักไหม ไม่รู้เลยจริงๆ’

คราวนี้เองที่คนตัวเล็กเป็นฝายกอดคนตัวใหญ่กว่าซึ่งร่างสั่นสะท้านแน่นขึ้น

‘แม่เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลชิระโทะริ คุณตาก็เป็นที่รู้จักในสังคม วงการการท่องเที่ยวในโฮโนลูลูนี่ เรื่องตั้งท้องทั้งที่ยังเรียนไม่จบเป็นเรื่องใหญ่ มากลูก คุณตาท่านทราบดีว่าคุณพ่อของหนูมีครอบครัวแล้ว ท่านเลยไม่คิดว่าจะ เกิดความรักระหว่างเราได้ อายุเราห่างกันมากจนท่านไว้วางใจ ท่านจึงเสียใจมาก โกรธคุณพ่อมาก ท่านว่าเหมือนถูกทรยศหักหลัง ถูกหยาม ดูถูก ท่านจึงสั่งห้าม ไม่ให้คุณพ่อกับแม่ติดต่อกันเด็ดขาด’

ถึงตอนนั้นเธอเข้าใจแล้วว่าท่าไมคุณตาถึงไม่ยอมให้เธอพูดหรือถามถึงพ่อ แต่ก็ยังอดถามต่อไม่ได้ ‘แล้วคุณปู่ล่ะคะ’

แม่อันนานิ่งไปชั่วครู่ก่อนเล่าต่อ

‘ชาวญี่ปุ่นถือมากลูกเรื่องมีภรรยาเดียว คุณตาท่านไม่ยอมให้ลูกสาวของ ท่านไปเป็นหมายเลขสองของใครทั้งนั้น ยิ่งแกรนด์มายิ่งไม่มีทางยอม เรื่องที่จะ บอกคุณปู่รึไม่บอก ท่านทั้งสองปล่อยให้คุณพ่อหนูตัดสินใจเอง ซึ่งแม่ก็ไม่รู้ หรอกจ้ะว่าคุณปู่จะว่าอย่างไร คุณพ่อหนูได้บอกคุณปู่หรือเปล่าแม่ก็ไม่แน่ใจ ด้วยซ้ำ แม่ไม่ได้พบ ไม่ได้ติดต่อคุณพ่อหนูอีกเลย ทางบ้านโน่นเขาอาจจะ ห้ามปราม หรือบางทีคุณพ่อของลูกอาจตัดสินใจเองที่จะไม่ไปมาหาสู่กัน เรา ตัดขาดกันจริงๆ ยิ่งถ้าเขามีคนอื่น มีครอบครัวอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีประโยชน์ แม่ไม่ อยากทำให้ใครเสียใจอีก ไม่ว่าคนที่นี่หรือ,ที่เมืองไทย’

เธอเห็นนาตาแม่ไหลเป็นทางเมื่อเล่าจบ ก่อนที่แม่จะหันมาสบตาเธอ

นิ่งนาน

‘แต่จำไว้นะลูก มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เชื่อมโยงหนูกับคุณพ่อ...เป็นสิ่งที่แม่ทำให้ หนูได้ คือ...ชื่อของหนู’

‘คะ?’ จำได้ว่าตัวเองร้องออกไปเบาๆ อย่างงุนงง

‘ยะสึกะ ชื่อของลูกเวลาเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวอักษรคันจิ มัน แปลว่า กลิ่นอายไทย’

‘แม่...’

‘แม่ตั้งใจ แม่อยากให้ลูกรับรู้ว่า นอกจากสายเลือดคนผิวขาว สายเลือด ชาวโพลีนีเซียนฮาวาย และญี่ปุ่นแล้ว หนูยังมีสายเลือดของอีกหนึ่งเชื้อชาติในตัว ถึงครึ่งหนึ่ง มีกลิ่นอายความเป็นไทยของคุณพ่ออยู่ในกาย นี่เป็นสิ่งสำคัญ

สิ่งเดียวซึ่งบ่งบอกเรื่องราวของคนเป็นพ่อที่แม่จะมอบให้แก่ลูกได้ เพราะไม่คิด ว่าญ่าจังคับเขาจะได้เจอคันอีก’ พูดจบแม่ก็ดึงตัวเธอเข้ามากอดกระชับ

‘หนูรักแม่มากที่สุดเลยค่ะ’ เสียงเธออู้อี้ ชุกอกมารดานํ้าตาคลอ

‘แม่ก็รักญ่าจังจ้ะ ลูกเป็นสิ่งเดียวที่แม่เหลืออยู่’ มือของแม่ลูบผมไปมา เบาๆ ก่อนก้มลงหอมที่เรือนผมของเธอ

ญศกายังรู้สึกได้ถึงสัมผัสของมารดาในรันนั้น มันเป็นเสมือนพลังที่

ถ่ายทอดให้เธอสามารถพบกับสองบุคคลสำคัญในอีกไม่กี่รันต่อมาได้เป็นอย่างดี

                หลังจากเสร็จสิ้นงานศพ เพี่อเป็นการไก่โทษความผิดที่บุตรชายของท่าน ได้กระทำไว้อย่างไม่น่าให้อภัยต่อเพื่อนรัก นายคุกสิน ตัณฑสินธุ ปู่ของเธอ จึง

ร้องขอต่อยายเอม่าและแม่อันนา ขอรับเธอจากเกาะโออาฮู มลรัฐฮาวาย

สหรัฐอเมริกา มาดูแลเลี้ยงดูยังประเทศไทย ดินแดนที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้มี โอกาสมาอยู่หรือมาเยี่ยมเยือน เธอมีนามสกุลเพิ่มใหม่ว่า ‘ตัณฑสินธุ’ ตั้งแต่นั้น มา คุณปู่ตั้งชื่อไทยให้ว่า ‘ญศกา’ ให้พ้องเสียงกับชื่อภาษาญี่ปู่น ‘ยะสึกะ’ เรียก ได้ว่าวงจรชีวิตเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงนับตั้งแต่รันนั้น

ญศกาในรัยสิบขวบเศษต้องย้ายจากบ้านเกิดที่ฮาวายมาใช้ชีวิตอยู่ร่วม

กับครอบครัวใหญ่ที่เมืองไทยตามคำขอของนายคุกสิน ในตอนนั้นคุณปู่ของเธอ

ทำธุรกิจน้ำตาลทรายอันเป็นธุรกิจที่เกิดจากการร่วมลงทุนกับเพื่อนรักคนหนึ่ง กิจการค่อยๆ เจริญรุ่งเรืองจากน้ำพักน้ำแรงของหัวเรือใหญ่ทั้งสองจนขยับขั้น เป็นผู้ผลิตและผู้ค้าน้ำตาลทรายรายใหญ่ของประเทศ กระทั่งรันหนึ่งเกิดปัญหา ขัดแย้ง คุณปู่ของเธอจึงแยกตัวออกมาทำโรงงานผลิตน้ำตาลทรายแห่งใหม่

หลังจากรับญศกามาดูแลเพียงไม่กี่เดือน นายคุกสินก็ได้รับการชักชวน จากนักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกาให้แตกไลน์สายธุรกิจเป็นผู้ผลิตลูกอมหรือแคนดี้ โดยใช้น้ำตาลทรายซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตลูกอมให้เป็นประโยชน์ ด้วย ต้นทุนการผลิตที่ถูกเพราะมีวัตถุดิบอยู่ในมือ ผสมผสานคับเทคนิคโนฮาวที่ได้

จากลูกค้าสหรัฐฯ ทำให้บริษัทของนายคุกสินเติบโตกลายเป็นผู้ผลิตลูกอม

รายใหญ่ของประเทศรายหนึ่งทีเดียว

การที่นายศุภสินได้รับการติดต่อจากลูกค้าให้เข้าสู่วงการธุรกิจลูกอมหลัง จากรับญศกาเข้ามาอยู่ในตระกูลได้ไม่นาน ญศกาจึงเปรียบเสมือนเทพีนำโชค

สำหรับท่าน นายศุภสินจัดการให้หลานสาวเลือดผสมเข้าโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง พร้อมหาครูที่คุ้นเคยชำนาญในการสอนภาษาไทยให้เด็กต่างชาติที่ไม่รู้ภาษาไทย เลยมาสอนที่บ้าน เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตใหม่ในฐานะหลานสาวคนเล็กของ

 

ตระกูล

ผู้เป็นปู่ให้ความรักดูแลเอาใจใส่เธออย่างเต็มที่ ในขณะที่บิดาไม่ได้สนใจ ในตัวเธอเลย แต่กระนั้นทุกครั้งที่บิดาทุ่มเถียงหรือทะเลาะคับคุณศกิมา ภรรยา

ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม เธอมักจะถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

เสมอ

‘อย่าไปเที่ยวไข่ทิ้งไว้ทีไหนแล้วต้องไปริบมาเลี้ยงให้เห็นให้ยอกใจฉันอีกนะ

ฉันอับอายเพื่อนฝูงในวงสังคมเขาจะตายอยู่แล้วที่มีลูกสาวนอกคอกชองคุณโผล่

มาเป็นหนามทิ่มแทงใจฉัน’

และครั้งที่เธอแอบได้ยิน ทั้งยังฝังใจไม่ลืมเลือน คือคำพูดจากปากบิดาที่ ว่า

‘โธ่...คุณก็...คุณพ่อท่านรับของท่านเข้ามาอยู่เอง ผมไม่ได้รู้เรื่อง ไม่ได้ เกี่ยวข้องอะไรสักหน่อย’

ญศกาแทบทรุดเมื่อได้ฟังประโยคนั้น ใช่...พ่อไม่ได้อยากรับรู้และเกี่ยวข้อง อะไรกับเธอ

...แต่ว่าพ่อขา...ตอนนี้...ลูกสาวคนนี้กำลังจะกลับไปหาพ่อ และอยากรับรู้ เรื่องของพ่อมากที่สุดนะคะ...

กรุงเทพมหานคร

เสียงประกาศของพนักงานต้อนรับเรียกญศกากลับคืนจากภวังค์ว่าด้วย เรื่องราวในอดีต หญิงสาววงหน้าเก๋ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นที่เธอเปลี่ยนบน

เครื่องบินก่อนเครื่องร่อนลงแตะพื้น เตรียมพร้อมรับคับอากาศร้อนยามสายของ กรุงเทพฯ เดินลากกระเปาเดินทาง กวาดตามองหาจุดแลกเงินเพื่อเตรียม เงินบาทเป็นคำพาหนะที่จะพาเธอออกจากสนามบินแห่งใหม่อันโอ่อ่าทันสมัยไป ยังที่หมายต่อไป ...แท็กซี่เท่านั้นที่จะพาเธอไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ ‘บ้านคุณปู่’ เด็กบ้านเล็กอย่างเธอจะมีใครมารอรับ

ญศกาหยุดยืนหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร มือล้วงกระเปาสะพายเพี่อหยิบ กระเป๋าเงิน รู้สึกแปลกๆ กระเป๋าเงินอยู่ แต่กระเป๋าใส่บัตรต่างๆ หายไปไหน

ใจวูบเมื่อนึกถึงคำว่า ‘หาย’ ...แย่แล้ว บัตรเครดิต บัตรสำคัญๆ ทั้งนั้นเลย แล้ว กระเป๋าหายไปตั้งหลายชั่วโมงขนาดนี้ ปานนี้ไม่โดนใครรูดบัตรเครดิตจนเพลิน ไปแล้วหรือ ใช้หนี้อ่วมแน่คราวนี้

ที่น่าเสียดายที่สุดคือบัตรนักศึกษาซึ่งตั้งใจจะเก็บไร้เป็นที่ระลึก กับรูปที่ ถ่ายไว้ตอนเธอกลับไปฮาวายก่อนมาเรียนต่อญี่ปู่น เธอดูมันทุกครั้งที่คิดถึงเกาะ โออาฮูบ้านเกิด และรูปนี้เป็นกำลังใจให้เธอมุ่งมั่นเรียนจนสำเร็จ หญิงสาวรีบเดิน ออกจากแถวที่ต่อรอคิวเพี่อหาที่เหมาะค้นหากระเป๋าน้ำตาลใบรัก หน้านิ่วคิ้ว ขมวดอยู่ชั่วครู่ คิดไม่ออกว่ากระเป๋าหายไปตอนไหน เมื่อรู้ว่าหาไม่พบแน่แล้ว เธอก็รีบโทร. หาโคสึเกะให้ช่วยอายัดบัตรเครดิตทุกใบ รายละเอียดตามเอกสาร ใบแจ้งหนี้ที่เธอฝากไว้กับเขาให้ช่วยจัดการก่อนออกเดินทาง

สองชั่วโมงหลังจากถึงเมืองไทย ญศกาก็มายืนอยู่หน้าห้องพักพิเศษ ของโรงพยาบาลหรูชื่อดังของประเทศที่ว่ากันว่ามีลูกค้าคนไข้ชั้นสูงจากต่าง ประเทศเข้ามาใช้บริการไม่น้อยทีเดียว ไม่มีกลิ่นเฉพาะที่เรียกว่า ‘กลิ่นโรงพยาบาล’

โชยมาแม้แต่น้อยในโรงพยาบาลสุดแพงแห่งนี้

ตลอดเวลานับตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินจนถึงอาณาเขตบ้านตัณฑสินธุ อาการของบิดาคือลิ่งที่เธอกังวลและอยากรู้ที่สุด...บิดาซึ่งเธอไม่เคยสนิทสนม คุ้นเคย แต่ ณ เวลานี้ ท่านเป็นคนสำคัญของเธอคนเดียวเท่านั้นที่เหลืออยู่ใน เมืองไทย การเข้าเยี่ยมท่านจึงเป็นสิ่งที่เธออยากท่าก่อนสิ่งอื่นใด

“ญ่าจัง มาถึงแล้วเหรอ” คุกชัย พี่ชายคนโต ยืนอยู่หน้าห้องผู้ป่วย

“คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ”

“ตอนนี้พยาบาลกำลังเช็ดตัวให้ท่านอยู่ พี่เลยออกมารอข้างนอก”

“มันเกิดเรื่องขึ้นได้ยังไงคะ”

“รถคุณพ่อชนกับรถนักศึกษาเมาแล้วขับซึ่งตอนตีหนึ่งบนสะพาน ทางมัน ไม่เรียบ ทางโน้นขับรถญี่ปุ่นกำลังซึ่งลงสะพาน ส่วนคุณพ่อกำลังขึ้น ประสานงา กันแล้วเสียหลักไปชนคอสะพานแล้วพลิกควํ่า ทางโน้นมีคนเสียชีวิตด้วย บาดเจ็บ หนักอีกสอง ดีที่รถคุณพ่อเป็นรถยุโรป แต่ก็หนัก เพราะโดนถุงลมอัดหน้ากับ หน้าอก ท่านเพิ่งออกจากห้องไอซียูเมื่อเช้า นี่ตาสองก็เพิ่งกลับไป”

“ญ่าเข้าเยี่ยมพ่อได้ไหมคะ”

“ได้สิ เดี๋ยวให้พยาบาลออกมาแล้วเราค่อยเข้าไปกัน อ้าว...ออกมาพอดี

เลย”

พยาบาลสองคนเปิดประตูห้อง ยิ้มให้คนทั้งคู่ ก่อนเชิญให้เข้าไปได้ พอดี โทรศัพท์ของศุภชัยดังขึ้น เขาเลยขอตัวคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอก ให้ญศกาเข้าไป ก่อน

ในมือเธอไม่ได้มีดอกไม้หรือกระเข้าของเยี่ยมใดๆ ทั้งสิ้น หญิงสาวได้แต่ นิ่งมองชายสูงวัยที่นอนเจ็บหนักอยู่บนเตียงคนไข้ มีสายน้ำเกลือ สายให้ยาและ

 

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

 

รายละเอียด

สาวเลือดผสมไม่เคยได้รับความรักความสนใจจากผู้เป็นพ่อ นอกจากความเจ้าชู้และเจ้าสำราญ เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า ชีวิตนี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับชายมากรักอย่างเด็ดขาด ...หากเธอต้องมาพบกับชายหนุ่มแห่งลุ่มน้ำอเมซอน ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้มหาวายร้าย...ทั้งยังเป็นจอมวางแผนแสนเจ้าเล่ห์ อีกต่างหาก มาร์คุส..หนุ่มหล่อเข้มรุ่มรวยเสน่ห์ เจ้าเล่ห์กวนอารมณ์ แต่ขี้หึง..ชะมัด ญศกา..สาวร่าเริง ฉลาด มองโลกในแง่ดี แต่กับเขาแล้วละก็ เธอเถียงขาดใจ ....พบเรื่องราวรักโรแมนติกและเล่ห์เหลี่ยมปะทะคารมอันทันกันของทั้งคู่ ....และมาลุ้นว่า...ท้ายที่สุด..ญศกาจะทำเช่นไร ... เธอจะรอดพ้นจากเล่ห์ลวงบ่วงรัก...ของเขา อย่างที่ตั้งใจไว้...ได้หรือไม่


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024