ซีรีส์ยอดรักนักขาย : กับดัก(รัก)สี่ขา (หัสบรรณ)

ซีรีส์ยอดรักนักขาย : กับดัก(รัก)สี่ขา (หัสบรรณ)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160016280
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 250.00 บาท 62.50 บาท
ประหยัด: 187.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

งานอบรมนักขายประจำปีของกลุ่มบริษัทในเครือสหสารพัตร กลายเป็นแหล่งชุมนุมของนักขายจากทั่วสารทิศ ในงานนอกจากจะเชิญนักพูดชื่อดังมาให้ความรู้วิธีการพูดโน้มน้าวใจแบบมืออาชีพแล้ว ยังมีดารายอดนิยมจากละครเย็นสุดฮิต และนักร้องจากการประกวดเรียลิตี ที่มีผู้ชมพูดถึงมากที่สุดในรอบปีมาให้ความบันเทิงด้วย

นอกจากปีนี้จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่แตกยอดจากกลุ่มสินค้า อุปโภคบริโภคเหมือนทุกปีแล้ว ยังมีการมอบรางวัลนักขายดีเด่นแห่งปี แต่นี่หาใช่เหตุผลที่นักขายส่วนใหญ่ตบเท้าเข้างานกันอย่างพร้อมเพรียงไม่เพราะสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอคือไฮไลต์ของงาน นั่นคือการแข่งขัน ‘ซูเปอร์เซลล์แห่งศตวรรษ’

ซูเปอร์เซลล์แห่งศตวรรษ คือการแข่งขันสุดยอดนักขาย เป็นกลยุทธ์ ทางการตลาดอย่างหนึ่ง ที่กระตุ้นเชื้อไฟในการทำงาน เพื่อเพิ่มยอดขายอย่าง ต่อเนื่อง และคืนชีพให้สินค้าที่มียอดตกต่ำมากที่สุดสี่ประเภท ที่เด็ดสุดคือ นอกจากผู้ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมแข่งขันจะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นระหว่างแข่งขัน ๒๐ เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติภารกิจสุดโหดแล้ว ผู้ ที่ได้รับตำแหน่งซูเปอร์เซลส์ฯ จะได้รับรางวัลเงินสดหนึ่งล้านบาท รถยนต์ หนึ่งคัน และเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นอีกสองเท่า!

แล้วใครล่ะจะไม่อยากเข้าร่วมการแข่งขัน...

“กูนี่แหละ”

กระทาชายนายหนึ่งนั่งเอกเขนกบนโซฟาหน้าห้องจัดงาน ซึ่งแบ่งไว้ สำหรับลงทะเบียนผู้เข้าร่วมงาน และมุมอาหารว่างที่มีไม่อั้น คนส่วนใหญ่ เริ่มทยอยเข้าไปภายในห้อง เพื่อจับจองที่นั่งสำหรับชื่นชมศิลปินคนโปรดมีเพียงส่วนน้อยที่ยืนจิบเครื่องดื่มเคล้าการโอ้อวดกันทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

ท่ามกลางกลิ่นอายของความตื่นเต้นที่ปกคลุมแทบทุกตารางนิ้วของ พื้นที่จัดงาน คงมีเพียง สมคิด เท่านั้นกระมังที่แสดงออกอย่างเบื่อหน่าย

“โธ่ เฮีย...เงินเดือนสองเท่ากับเงินรางวัลเป็นล้านใครจะไม่อยากได้” กำจร นักชายที่ยังถือว่าใหม่ในวงการ แต่เรื่องประจบสอพลอถือว่าอยู่ใน ระดับชำนาญการ หลายครั้งที่อารมณ์ของเขาสะดุดราวกับศูนย์หน้าดาวรุ่งที่กำลังเงื้อแข้งเต็มที่เพื่อทำประตู แต่จู่ๆ ก็ถูกใครไม่รู้วิ่งมาเตะตัดขา ล้มไม่ เป็นท่า

แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก...ถือว่าเขาโชคไม่ดีที่เลือกสอพลอผิดคน ใครจะ เชื่อว่านักขายผู้เป็นตำนานคนนี้จะมีดีก็แค่หน้าตา แต่สมองกลวง และขาด ความทะเยอทะยานจนน่าตกใจ

“ใครบอกกูไม่อยากได้”

“ก็เฮียเพิ่งพูดหยกๆ”

"กูอยากได้เงิน แต่ไม่อยากแข่ง"

นั่งเฉยๆ แล้วรอให้เงินหล่นใส่กระเป๋ามันไม่มากไปหรือไอ้เฮีย! กำจรนึกดูแคลนในใจ คนอะไรงานการไม่ทำ รอแต่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากลูกทีมอย่างพวกเขา นี่ถ้าขอย้ายทีมแบบไอ้หน่องได้ เขาคงไม่มานั่งหาเห็บหมัดบนตัวขี้เกียจอย่างนี้หรอก

“แล้วทำไมเฮียไม่นั่งอยู่ในออฟฟิศล่ะ ออกมาให้เหนื่อยเปล่าๆ” คนพูดตั้งใจเหน็บ แต่คนฟังหาได้สะดุ้งสะเทือนไม่ กลับบิดขี้เกียจ ขยับนั่งตัวตรงก่อนจะยื่นถ้วยกาแฟให้ แล้วพยักพเยิดไปทางโต๊ะวางเครื่องดื่มและอาหารว่าง

กำจรหยิบแก้วไปเติมกาแฟให้อย่างเสียไม่ได้ แล้วกลับมานั่งร่วมวง กับนักขายระดับตำนานอย่างเดิม เพราะตอนเขาเตรียมเหยาะเกลือที่วางใกล้ ครีมและน้ำตาลลงในแก้วกาแฟ พลันได้ยินเสียงคนที่มาตักอาหารว่างกระซิบกระซาบถึงชายที่เขาเพิ่งผละมา

นักขายสาวสวยดีกรีนักเรียนนอกอย่างลีลดายังเสียเวลาชายตาไปทาง หมอนั่น ไม่ต้องสงสัยว่าอะไรทำให้เขาตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายที่จะวางมือ จากกระปุกเกลือ แล้วรีบกลับมาหานักขายรุ่นพี่ ก่อนนักขายคนสวยจะเดิน ผ่านไป

“กูจะบอกให้...” สมคิดรับถ้วยกาแฟมาถือไว้ พลางมองลูกทีมที่นั่ง ตัวตรงแล้ววางท่าทรงภูมิแบบมาดหนุ่มนักธุรกิจที่กำลังพูดถึงเงินลงทุนพันล้าน พอเห็นสาวสวยเดินผ่านไปสมคิดจึงเข้าใจ

“ถ้ามึงไม่ไปปลุกกูที่โต๊ะ แล้วลากกูมาถึงโรงแรมนี่ เงินเท่าไหร่กูก็

ไม่สน”

“พูดอย่างนี้เพราะเฮียคิดว่ายังไงตัวเองก็ไม่ได้รับคัดเลือกใช่ไหมล่ะ” กำจรเลิกวางมาด หัวใจของเขาแทบปลิวตามสาวสวยที่เพิ่งเดินเข้าไปในห้อง

“นิทานหลอกเด็ก มันก็แค่กลกิ๊กก๊อก เพื่อกระตุ้นยอดขายเท่านั้น แหละ กูอยู่มานาน เห็นมาเยอะแล้ว ดีไม่ดีเขาก็มีคนที่หมายตาไว้แล้วเส้นสายมันเยอะ” คนอยู่มานานใช้กาแฟกลั้วคอแล้วเบ้หน้า นี่ก็อีกเรื่องที่บริษัทไม่เคยปรับปรุง กาแฟรสชาติเหมือนน้ำล้างปูน ไหนๆ ก็ลงทุนใช้โรงแรมใหญ่เป็นสถานที่จัดงานแล้ว น่าจะเพิ่มเงินอีกสักหน่อยเพื่ออัปเกรดคุณภาพกาแฟ

“อคติหรือเปล่า ผมเชื่อใจผู้บริหารนะ เขาอยากให้พนักงานทุกคนมี โอกาสเท่าเทียมกัน ถึงได้มีขั้นตอนการคัดเลือกเยอะแยะ เมื่อวานผมเดินผ่านหน้าห้องผู้จัดการใหญ่ ท่านยังจำชื่อผมได้เลย” กำจรสีหน้าปลื้มปริ่ม ที่ขนาดผู้จัดการใหญ่ยังบอกว่าถ้าเขาต้องการคำปรึกษาให้มาพบท่านได้ตลอดเวลา

เอ๊ะ...หรือจะรายงานพฤติกรรมของนายสมคิดดี เก้าอี้นักขายใน ตำนานจะได้ว่าง เปิดโอกาสให้ผู้ที่นั่งเลื่อยขาเก้าอี้ทุกวันได้มีโอกาสปีนขึ้นไปนั่งบ้าง

สมคิดเห็นท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องของลูกน้อง ก็เปรยขึ้น

“อยากไปทำงานกับทางโน้นไหมล่ะ กูจะบอกให้”

“เฮ้ย! ผมอยู่กับเฮียก็สบายดี จะดิ้นรนไปทำไม” ขืนไปตอนนี้ ก็อดแฉพฤติกรรมนักขายในตำนานน่ะสิ กำจรสรุปแผนการเลื่อยขาเก้าอี้ไว้คร่าวๆ ก่อนจะเบี่ยงเบนประเด็น ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าหัวหน้าเขามักจะรู้ทันเขาตลอดเวลา

สงสัยคงจะหมกมุ่นเรื่องเปลี่ยนหัวหน้าใหม่มากไปหน่อยล่ะมั้ง กำจรสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“กูชอบนะ ทัศนคติในการทำงานเราตรงกัน” สมคิดเอื้อมมือไปตบบ่าหนุ่มรุ่นน้อง ฝ่ายนั้นยิ้มรับหน้าเจื่อนๆ หอบกระเป๋าเอกสารพะรุงพะรังทั้งยังหนีบแท็บเล็ตใต้วงแขนวุ่นวาย ขณะที่นักขายในตำนานแค่ลุกขึ้นยืน บิดขี้เกียจหนึ่งรอบแก้วซุกมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินไปเข้าห้องประชุม ซึ่งบริเวณหน้าโต๊ะลงทะเบียนตอนนี้มีแค่เจ้าหน้าที่เท่านั้น

“ขอให้โชคดีนะคะ” เจ้าหน้าที่สาวหน้าตาจิ้มลิ้มยิ้มให้สองหนุ่ม ก่อน ที่คนร่างท้วมซึ่งเดินตามหลังหนุ่มหล่อจะยิ้มให้เธอจนตาหยี เขาทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เมื่อได้ยินเสียงจากในห้องลอดออกมาจากใต้ประตูไม้สองบานใหญ่ที่แง้มออกโดยเจ้าหน้าที่ซึ่งรั้งตำแหน่งเปิดปิดประตู

กิริยาของเจ้าหน้าที่คนนั้นเร่งผู้เข้าร่วมงานสองคนสุดท้ายโดยปริยาย สมคิดยิ้มให้เจ้าหน้าที่เปิดปิดประตูนิดเดียว ส่วนคนที่เดินถือกระเป๋าเอกสาร เสียบบลูทูทที่หูข้างหนึ่ง และใต้วงแขนยังหนีบแท็บเล็ตนั้นยืดอกแล้วเชิด คางขึ้น ใช้สายตามองเจ้าหน้าที่คนนั้นแล้วเดินผ่านไปราวกับว่าตนเป็นเจ้าขุนมูลนาย

เป็นอย่างที่คิดไว้ ภายในห้องประชุมที่มีลักษณะเหมือนโรงละครหรือโรงหนัง ที่นั่งด้านหน้าถูกจับจองแน่นขนัด เหลือแต่ที่นั่งข้างบนสุด ส่วนตรง กลางว่างเป็นหย่อมๆ เหมือนผมบนศีรษะชายวัยทอง กำจรกวาดตามองสักพักก็เห็นเป้าหมาย กำลังจะหันไปบอกหัวหน้า ทว่าอีกฝ่ายเดินไปนั่งแปะอยู่ตรงที่ว่างติดกับทางเดินตรงกลางแล้ว ด้วยความเป็นลูกน้องที่ดี กำจรจึงสละโอกาสที่จะได้นั่งกับนักขายสาวสวย พาร่างท้วมใหญ่เข้าไปในแถวที่หัวหน้าซึ่งกำลังตกเป็นเป้าสายตาของสาวๆ นั่งอยู่ แต่กำจรไม่ได้นั่งติดกับหัวหน้าของตน เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว

ถึงจะพลาดโอกาสที่จะพลอยฟ้าพลอยฝนได้รับความสนใจ แต่ นัยน์ตาเล็กก็เป็นประกายเมื่อรู้ว่าคนที่นั่งแถวหน้าตนเป็นใคร

ปุณรดากับเด่นนภา สองสาวดาวเด่นแห่งวงการขาย ปุณรดานั้นเป็น ถึงสุดยอดนักขายเมื่อปีที่แล้ว ด้วยความสวยบวกความฉลาด ใครๆ จึงพากันเรียกเธอว่า ซูเปอร์เซลล์เกิร์ล แม้มีบางคนค่อนว่าเธอเป็นเจ้าแม่เล่ห์กลก็ตาม แต่ก็นี่ไม่ใช่หรือที่นักขายอย่างเขาใฝ่ฝัน หากต้องการเป็นหนึ่งในวงการนี้ก็ต้องไม่เห็นแก่หน้าใครไม่ว่าเพื่อนหรือเจ้านาย แบบนี้แหละถึงจะพาเขาไปถึงจุดสุดยอด!

...ของการเป็นนักขาย

ส่วนอีกนางชื่อเด่นนภา หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม แต่งแต้มเครื่องสำอางแต่พอดี จึงดูสวยอ่อนกว่าวัย เข้ากับกิริยาที่นุ่มนวลเจือความมาดมั่นอย่างลงตัว จนนักขายหนุ่มๆ พากันจ้องหล่อนตาเป็นมัน ส่วนผีมือการขายถือว่าจัดจ้านเทียบเคียงปุณรดา ใครที่กำลังมองหาสาวเก่งสวยหวานไว้เป็นคู่ใจ เด่นนภาถือว่าเป็นสาวในฝันอันดับหนึ่งของหนุ่มๆ เลยก็ว่าได้

ยิ่งถ้ารวมกับลีลดา สาวนักขายดีกรีนักเรียนนอกที่เขาหมายตาด้วย แล้ว พวกหล่อนจะกลายเป็นดรุณีหยกแห่งวงการนักขายเลยทีเดียว นี่ถ้าเขาได้อยู่ในวงล้อมของสามดรุณีหยก เขาคงเหมือนได้ขึ้นสวรรค์

และแน่นอนไม่มีใครที่เหมาะสมไปกว่านายกำจรคนนี้อีกแล้ว

“เอิ๊ก...” เสียงเรอที่ดังมาจากคนที่นั่งอยู่ต้นแถวดับฝันรักนักขายของ กำจรเสียสนิท เขาออกอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ที่นักขายในตำนาน คอยขัดเขาอยู่เรื่อย กระนั้นคนที่นั่งแถวหน้ายังพูดถึงฝ่ายนั้นไม่หยุด แม้ กระทั่งตอนที่หมอนั่นกำลังนั่งหลับอ้าปากอยู่

กำจรคิดอย่างหงุดหงิด ถลึงตาเล็กๆ ใส่คนที่นั่งหัวแถว จนสาวใหญ่ ที่นั่งคั่นกลางส่งสายตาดุๆ ให้นั่นแหละ เขาถึงหดหัวนั่งพิงพนักเหมือนเดิม ไม่ใช่ว่ายายป้านี่เป็นแฟนคลับนายสมคิดอีกคนนะ!

“แหมๆ อย่าเพิ่งด่าผมในใจที่ผมพูดมากนะครับ เพราะหลังจากนี้ พวกคุณจะได้พบกับดารานักร้องขวัญใจของพวกเรา...” เลียงปรบมือดัง กึกก้องพร้อมเสียงโห่ร้องจากคนทั้งห้อง พิธีกรเจ้าประจำยิ้มกว้าง รอจนเสียงซาแล้วจึงยกไมโครโฟนขึ้นจ่อปากอีกครั้ง

“แต่ก่อนหน้านั้น เราจะมาเข้าสู่พิธีการของงานในคํ่าคืนนี้กันก่อน ผม ใคร่ขอกราบเรียนเชิญคุณสุรินทร์ พัฒนพานิชย์ ประธานบริษัท ขึ้นมาเป็นเกียรติกล่าวเปิดงานครับ” สิ้นคำประกาศของพิธีกร งานพิธีการก็เริ่มขึ้นหลังจากนั้น แต่น้อยคนนักที่จะตั้งใจฟังคำกล่าวเปิดงานของท่านประธานบริษัทถ้าไม่คุยกันก็เปิดโทรศัพท์มือถือเล่นเฟซบุ๊กหรือไลน์ แสงสะท้อนจาก หน้าจอที่สาดสว่างใบหน้าของคนเหล่านั้นเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี

ยี่สิบนาทีผ่านไป ประธานเปิดงานเดินลงจากเวที แต่ยังเหลือผู้บริหารอีกสามท่าน ที่ทยอยขึ้นกล่าวบนเวทีเช่นกัน เมื่อพิธีการทั้งหมดเสร็จสิ้น พิธีกรกระแอมเรียกความสนใจของผู้ร่วมงานอีกครั้ง

“ครับ ถึงช่วงสำคัญของงานในค่ำคืนนี้กันอีกแล้วนะครับ หลังจากมี การปล่อยข่าวถึงโพรเจกต์ใหม่ของบริษัท นั่นก็คือ...” พิธีกรยื่นไมโครโฟน ไปทางผู้ร่วมงาน เสียงตอบรับเซ็งแซ่แต่จับใจความไม่ได้ เขาจึงดึงไมโครโฟน กลับมาจ่อปากตัวเองพร้อมรอยยิ้มกว้างรับกับคางเกาหลีของเขา ให้สมกับค่าตัวที่พุ่งขึ้นเป็นสองเท่า

“ใช่แล้วครับ ถึงเวลาที่ทุกท่านลอยคอ เอ๊ย รอคอย วินาทีต่อจากนี้ไปขอเชิญทุกท่านเข้าสู่ช่วงสำคัญของงานในคํ่าคืนนี้...ซึ่งก็คือสุดยอดการแข่งขันซูเปอร์เซลล์แห่งศตวรรษ!” สิ้นเสียงพิธีกรหนุ่มคางยื่น เสียงพลุ กระดาษก็ดังขึ้นจากทุกทิศทางบนเวที กระดาษสีแผ่นเล็กกระจิริดปลิวว่อนมีสายรุ้งโปรยปราย พร้อมเสียงดนตรีที่ทำให้หัวใจทุกดวงในงานเต้นเร็วกว่าเดิม

เสียงปรบมือและโห่ร้องดังปานฟ้าผ่า และยาวนานเหมือนไม่มีท่าทีจะหยุด จนกระทั่งมีคนเข็นบางสิ่งออกมากลางเวทีเสียงถึงได้ซาลง

และเจ้าสิ่งนั้นคือ...

“ใช่แล้ว วงล้อจับสลาก นี่เรายืมจากกองสลากฯ มาเลยนะครับ ฮ่าๆ” พิธีกรคนดังหัวเราะลั่น ท่ามกลางเสียงตื่นเต้นเซ็งแซ่ข้างล่าง

“อ้อ ไม่ใช่ครับ ท่านผู้บริหารแอบกระซิบว่าสั่งทำมาเพื่องานนี้โดย เฉพาะ เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมไร้ข้อกังขาครับ และถึงเวลาแล้วที่ เราจะได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสี่คน...”

กำจรมองบนเวทีด้วยความตื่นเต้น ไม่วายหันไปมองหัวหน้าของตน ปรากฏว่าฝ่ายนั้นยังนอนหลับอ้าปาก ไม่รู้สึกรู้สาอะไร แม้กระดาษสีแผ่น เล็กๆ สองใบจะกระเพื่อมตามลมที่พ่นออกจากจมูก และอีกแผ่นหนึ่งคาอยู่ ระหว่างฟันกับริมฝีปากล่าง เขาแบะปากส่ายหน้าสมเพช แต่สาวใหญ่ที่นั่งคั่นกลางนึกว่าเขาทำใส่ จึงกลึงตาใส่เขาอย่างเอาเป็นเอาตาย กำจรหัวหดชี้นิ้วไปที่คนนั่งหัวแถว แต่ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะไม่เชื่อ

“เอาละครับ คนแรกของเราก็คือ...” โปรดติดตามต่อในฉบับ...

 

 

 

รายละเอียด

เมื่อนักขายระดับตำนานถูกจับให้ลงแข่งซูเปอร์เซลส์แห่งศตวรรษอย่างไม่เต็มใจ ปฏิบัติการหนีการดูถูกเหยียดหยามและการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีจึงเริ่มต้นขึ้น สมคิด นักขายระดับตำนานจอมกะล่อน ผู้เคยทำยอดขายถล่มทลายจนเป็นที่กล่าวขวัญ กลายเป็นนักขายที่ได้ชื่อว่ากินเงินเดือนไปวันๆ และทำงานแบบหลักลอย และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ใครบางคนจัดการแข่งขันเพื่อบีบให้เขา...แพ้ ทว่านักขายชั้นเซียนอย่างเขามีหรือจะยอมง่ายๆ งานนี้ยอดขาย เงินรางวัล ความก้าวหน้า ไม่สำคัญเท่ากับศักดิ์ศรี! แต่การเอาชนะก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเขาต้องมาขายอาหารสัตว์ที่ค้างสต็อกมานาน และคนไม่รักสัตว์ (เอาเสียเลย) อย่างเขาคงจะแพ้อย่างราบคาบ ถ้าไม่ได้พบกับเธอ...สาวสวยที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาตั้งแต่แรกพบ มาลุ้นกันว่านักขายที่ไม่เคยพบคำว่าแพ้จะยังคงเดินหน้าเอาชนะคำปรามาส หรือจะเอาชนะใจเธอเพื่อให้ได้มาซึ่งรักแท้ที่สำคัญกว่าสิ่งใดทั้งหมด


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024