A MOMENT IN TIME ณ เวลารัก : จอมใจผู้พิทักษ์ (ณัฐกฤต)

A MOMENT IN TIME ณ เวลารัก : จอมใจผู้พิทักษ์ (ณัฐกฤต)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160009473
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 240.00 บาท 60.00 บาท
ประหยัด: 180.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

คฤหาสน์ฮินชินบูร์ก, ฮันทิงดัน

                เคมบริดจ์เซอร์ ค.ศ.๑๖๐๓

                ภายในห้องนอนใหญ่ แสงจากเทียนที่ประดับอยู่ตามมุมเป็นแสงสว่างเดียวที่ทำให้ห้องที่หนาวยะเยือกไปด้วยความหวาดหวั่นในยามนี้อุ่นขึ้นมาได้บ้าง แต่มันก็แทบจะอ่อนแสงลงไปพร้อมกับความจริงของร่างที่สิ้นเรี่ยวแรงและนอนรอวินาทีสุดท้ายอยู่บนเตียง

                เตียงนอนสี่เสามีม่านห้อยทิ้งชายผูกไว้กับเสาทั้งสี่ด้าน ร่างที่อยู่บนเตียงนอนนิ่งอย่างน่าใจหาย ใบหน้าซีดเซียวไม่ต่างอะไรกับร่างที่ไร้วิญญาณผมสีดำยาวสยายแผ่บนหมอนหนุน ดวงตาสีเข้มดูอ่อนล้าพอๆ กับร่างกายที่อ่อนแรง

                ‘เป็นอย่างไรบ้าง”

                หมอที่ถูกตามตัวมาอย่างเร่งด่วนส่ายหน้าให้แก่ความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่ แต่มันเป็นคำตอบที่ทำให้ผู้ชายที่นั่งจับมือผู้หญิงซึ่งนอนอยู่บนเตียงถึงกับขบกรามแน่น ทั้งโกรธแค้นและชิงชังในโชคชะตา

                นางคือภรรยาของเขา ภรรยาที่เพิ่งจะแต่งงานกันได้เพียงปีเดียว และถึงแม้ว่าการแต่งงานของเขากับนางจะไม่ได้เกิดขึ้นจากความรัก ในเมื่อนางต้องการแต่งงานกับเขาเพื่อรักษาฐานะทางสังคม ส่วนเขาก็ต้องการแต่งงานกับนางเพื่อทรัพย์สมบัติและการคงอยู่ของฮินชินบูร์ก สถานที่อันเปรียบเสมือนบ้านประจำตระกูลครอมเวลล์ของเขา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยปรารถนาให้ชีวิตของนางต้องหดสั้นลงถึงเพียงนี้ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเรื่องร้ายแรงแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตของเขา มันคือการลอบทำร้ายที่หวังให้ตายอย่างทรมานที่สุด!

                “มายลอร์ด”

                เสียงแผ่วเบาแว่วมาจากร่างที่ไร้เรี่ยวแรง นางยังคงส่งยิ้มให้เขาแม้จะรู้ตัวว่าชีวิตหดสั้นลงแล้ว แต่อย่างไรนางก็อยากจะยิ้มให้เขาสักครั้งแม้จะรู้ว่าเขากับนางแต่งงานกันเพื่อจุดประสงค์อะไร ทุกอย่างแค่ผลประโยชน์ที่เอื้อต่อกัน ความรักไม่ใช่สิ่งที่สำคัญสำหรับนาง!

                “แอนน์...” เขาขานรับพลางกุมมือภรรยาเอาไว้แน่น ไม่สามารถเอ่ยคำใดได้ จึงส่งความรู้สึกผ่านการสัมผัสให้คนที่นอนอยู่ได้รับรู้ว่าเขารู้สึกผิดที่เหตุร้ายนี้เกิดขึ้นกับนาง

                “ท่านเศร้าหรือมายลอร์ด...แต่ข้าวรู้สึกดีใจที่ท่านเศร้าและเจ็บปวดถึงท่านจะไม่เคยรักข้า และข้าก็ไม่เคยรักท่าน แต่ความเป็นจริงที่ทุกคนรู้ก็คือ ข้าคือแอนน์ ภรรยาของเซอร์โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ แห่งฮินชินบูร์ก”

                นางบอกด้วยน้ำเสียงที่ทะนงตัวและเย่อหยิ่งไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมกับรอยยิ้มที่แสนระโหย เวลาแห่งการจากลาเริ่มคืบคลานเข้ามาทีละน้อยแต่ไม่ว่าอย่างไร ช่วงเวลาที่เหลืออยู่คือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับผู้หญิงคนนี้

“ข้าขอโทษที่ไม่เคยรักเจ้า” เขาพูดเหมือนมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำได้

                “อยู่กับข้านะ อยู่กับข้าจนถึงที่สุด” นางบอกแล้วส่งยิ้มระโหยให้อีกครั้ง

                เขาหันมองหมอและบอกใบ้ให้ออกจากห้อง ทุกคนจึงพากันเดินเลี่ยงออกไปเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวสุดท้ายตามที่นางต้องการ และเพื่อรอเวลาที่ภรรยาของเขาจะจากไปอย่างสงบ แต่สำหรับตัวเขาแล้วมันไม่มีทางสงบได้ถึงเขาจะไม่ได้รักนาง แต่การที่นางถูกพรากชีวิตไปต้องมีคนชดใช้เรื่องนี้แน่มันยังไม่จบหรอก

                หลังจากนี้ความแค้นของจะปะทุขึ้นพร้อมกับการกระชากความจริงจากผู่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในฐานะที่เขาคือ โอลิเวอร์ ครอมเวลาล์ แห่งฮินชินบูร์ก คนที่กล้าหยามเขาต้องได้รับการชดใช้ด้วยชีวิต!

 

คฤหาสน์ที่ไม่หลับใหล

 

ฮินชินบูร์ก, ฮันทิงดัน

                เคมบริดจ์เชอร์ ค.ศ.๒๐๑๓

                บนเนื้อที่หลายเอเคอร์ คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ความโอ่อ่าของมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ แต่ความยิ่งใหญ่ของมันกลับชวนให้คิดว่าน่าจะเหมาะกับคำว่าปราสาทเสียมากกว่า แต่ไม่ว่าใครจะมองให้มันเป็นอย่างไร มันก็คือ ‘คฤหาสน์ฮินชินบูร์ก’ ของทุกคนในเมืองนี้

                คฤหาสน์ฮินชินบูร์กมีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ ๑๑ แต่นักประวัติศาสตร์ต่างลงความเห็นว่า ความจริงแล้วฮินชินบูร์กเริ่มสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ ๖ แต่เพิ่งมีบทบาทสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ ๑๑

                ฮินชินบูร์กตั้งอยู่ในเขตของฮันทิงดัน เดิมทีเป็นที่อยู่ของสำนักนางซีต่อมาได้มีการยกที่ดินโดยรอบฮินชินบูร์กให้สำนักงานนางชีเพื่อการกุศล ซึ่งกินอาณาเขตกว้างขวางมากมาย แต่วันหนึ่งฮินชินบูร์กก็ถูกทิ้งร้างเอาไว้จนกระทั่งในสมัยของกษัตริย์เฮนรีที่ ๘ ของอังกฤษ ฮินชินบูร์กจึงตกมาอยู่ในความครอบครองของตระกูลครอมเวลล์โดยผ่านทางการแต่งงานของ แคทเทอริน ครอมเวลล์ กับ มอร์แกน วิลเลียม

                คฤหาสน์ถูกส่งต่อให้ครอมเวลล์คนต่อไป ซึ่งเป็นลูกของมอร์แกนกับแคเทอริน นั่นก็คือ เซอร์ริชาร์ด ครอมเวลล์ ที่ได้รับตำแหน่งต่อจาก โทมัส ครอมเวลล์ เอิร์ลแห่งเอสเซ้กช์ผู้เป็นตา ซึ่งถูกประหารในปี ค.ศ.๑๕๔๕

                อย่างไรก็ตามเซอร์โทมัสผู้เป็นตาของเขาคือคนที่เปลี่ยนสำนักงานนางซีให้กลายเป็นบ้าน ส่วนเซอร์ริชาร์ดนั้นได้เสียชีวิตลงในปี ค.ศ.๑๕๔๕ จากนั้นคฤหาสน์ก็ได้ตกทอดมาสู่เซอร์เฮนรี ครอมเวลล์ และคนสุดท้ายของครอมเวลล์ที่ได้ครอบครองคฤหาสน์หลังนี้ก็คือเซอร์โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ แห่งฮินชินบูร์ก

                หลังจากนั้นสิทธิ์การครอบครองก็ถูกเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนฮินชินบูร์กและเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง งานแต่งงาน งานประชุม และงานอื่นๆ แล้วแต่ผู้จัดจะขอใช้สถานที่ ความยิ่งใหญ่และประวัติยาวนานของมันทำให้ได้รับความนิยมจนต้องมีเจ้าหน้าที่ประสานงานและดูแลความเรียบร้อย ซึ่งอันนิตาทำหน้าที่นี้อยู่

                อันนิตา ฮูฟต์แมน สาวอังกฤษที่มีเชื่อสายไทยอยู่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์จากยายของหล่อน ส่วนพ่อของหล่อสืบเชื่อสายมาจากคนที่ว่ากันว่าเป็นลูกหลายของผู้หญิงในอดีตกาลคนหนึ่งที่เกี่ยวพันกับคฤหาสน์ฮินชินบูร์กแห่งนี้ ผู้หญิงที่ครอบครังหัวใจของผู้ปกครองฮินชิกบูร์กคนสุดท้ายเอาไว้

                นามนั้นคือ...เลดีแอนน์ พาลาวิชิโน (ฮูฟต์แมน)!

                ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มรับกับเรือนผมสีดำหยักศกยาวถึงกลางหลังหลังที่ถูกผูกรวบไว้เป็นอย่างดี ใยหน้ารูปเพรชที่โหนกแก้มดูโดดเด่นชัดเจนยิ่งเวลายิ้มจะยิ่งเด่นมากขึ้น หล่อนสวมชุดทำงานสบายๆ  ด้วยเสื้อเนื้อลื่นสีน้ำตาลอ่อน สวมทับด้วยสูทสีน้ำตาลเข้มอีกชั้นหนึ่ง ท่อนล่างเป็นกางเกงสีน้ำตาลอ่อนเข้าชุดที่ใส่คู่กับรองเท้าส้นสูงพอประมาณ

                อันนิตาเป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานและดูแลความเรียบร้อยของฮินชินบูร์กมาเจ็ดปีแล้ว หล่อนอาศัยอยู่ในฮันทิงดันกับย่าและแม่ พ่อของหล่อนจากไปเมื่อห้าปีก่อนด้วยโรคร้าย แต่ครอบครัวของหล่อนก็ยังมีความสุขดีและคิดถึงท่านตลอดเวลา

                หลังจากเรียนจบมหาลัยหล่อนก็เลือกมาทำงานที่ฮินชินบูร์กเพราะมันเป็นสถานที่แห่งความหลังและความหลงใหล ซึ่งอยู่ในห้วงของความทรงจำที่หล่อนไม่มีวันลืม

                เมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้ว ตอนที่หล่อนอายถสิบสอง อันนิตาต้องย้ายจากลอนดอนมาอยู่ที่ฮันทิดัน ตอนนั้นหล่อนถูกส่งให่มาเรียนฮินชินบูร์กและได้มาเดินเตร็ดแตร่ฆ่าเวลาตอนที่มารดาคุยอยู่กับครูใหญ่ หล่อนจำได้ว่าเดินเล่นเพลินจนเข้ามาในเขตของคฤหาสน์เก่าแก่ที่ใครๆ ก็สามารถเข้ามาเดินชมรอบๆ คฤหาสน์ได้

                แต่สำหรับเด็กอายุสิงสองขวบอย่างหล่อนกับรู้สึกว่ามันเป็นปราสาทมากว่าบ้าน ด้วยความที่มันกว้างขวางเสียจนการเดินเที่ยวชมกลายเป็นความเหน็ดเหนื่อย หล่อนจึงนั่งพักที่ต้นไม้ใหญ่ใกล้กำแพงหินและเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว

                ในความทรงจำเลือนรางนั้น หล่อนได้เจอกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ดูจากท่าทางแล้วเขาน่าจะอายุมากกว่าหล่อนไม่เกินห้าปี เขาแต่งตัวแปลกๆ เหมือนจะไปแสดงละครย้อนยุค เขายิ้มให้หล่อนแล้วชี้มือไปทางกำแพง ก่อนจะทำท่าเป็นเชิงบอกให้หล่อนรีบออกไป เหมือนกับว่าเขาไม่อยากให้ใครมาพบเขา

                ก่อนที่เขาจะหมุนกายจากไป หล่อนก็คว้ามือเขาเอาไว้ได้และเผลอรูดแหวนบนนิ้วก้อยของเขาหลุดติดมือมาด้วย เขาก็ชะงักไปนิด ก่อนจะเบิกตาโตราวกับตกใจอะไรบางอย่าง เช่นเดียวกับที่หล่อนตกใจเมื่อเขาหายไปจากตรงหน้า สติกลับมาจากสิ่งที่คิดว่าเป็นความฝัน ไม่มีผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป แต่สิ่งที่บอกหล่อนว่าคนคนนั้นเคยยืนอยู่จริงมีเพียงแค่แหวนที่อยู่ในมือหล่อนเท่านั้น !

                ความลับนี้ถูกเก็บไว้ไม่ให้ใครล่วงรู้ เพราะหล่อนกลัวว่ามารดาจะรู้ว่าหล่อนหนีมาเดินเล่นไกล หล่อนจึงเก็บแหวนวงนั้นเอาไว้ตลอดมาจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ผ่านมาสิบเจ็ดปีแล้ว แต่เหตุการณ์กลับยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำของหล่อน และมันกลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หล่อนเลือกมาทำงานที่ฮินชินบูร์ก

                ในวันนี้ก็มีการจัดงานแต่งงานเหมือนอย่างที่เคยเป็น แล้วก็เป็นปกติที่หล่อนจะต้องอยู่เพื่อดูแลความเรียบร้อยของงาน ซึ่งในการจัดงานนั้นทางฝ่ายจัดการสถานที่จะเป็นคนช่วยเลือกรูปแบบงาน ซึ่งในการจัดงานนั้นทางฝ่ายจัดการสถานที่จะเป็นคนช่วยเลือกรูปแบบงาน ไม่ว่าจะเป็นเค้กแต่งงาน หรือโทนสีที่ลูกค้าต้องการใช้ในงาน ทุกอย่างจะต้องออกมาดีเยี่ยมดังที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการ แล้วก็แน่นอนว่าหล่อนต้องเป็นคนคอยดูแลจัดการทั้งหมดตั้งแต่ต้น

                “ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะคะ”

                อันนิตาบอกแล้วจึงยื่นช่อบูเกต์ให้มารดาของเจ้าสาว ขณะที่หญิงสาวในชุดแต่งงานกำลังตื่นเต้นจึงไม่ค่อยมี มีเพียงความรู้สึกที่อยากลองแต่งงานในฮินชินบูร์กดูบ้างเท่านั้น ที่สำคัญตอนนี้หล่อนต้องทำงานให้เสร็จสิ้นเสียก่อนแล้วค่อยมาฝันเฟื่องต่อทีหลัง

                หญิงสาวแจ้งข่าวเสร็จก็เดินลงมาเพื่อดูความเรียบร้อยอีกครั้ง แต่ช่วงจังหวะหนึ่งที่หล่อนกลับชะงักเมื่อเห็นเงาราง ๆ ของผู้ชายที่แต่งตัวประหลาดเดินเลี้ยวไปทางห้องนอนใหญ่ของบ้านที่ในอดีตเป็นห้องนอนของเจ้าของคฤหาสน์มาทุกยุคสมัย

                “ใครน่ะ แต่งตัวพิลึก’ หล่อนพึมพำแล้วก้าวตามไปยังทิศทางที่เห็นในใจมีแต่ความสงสัย แต่ไม่นึกกลัวเลยสักนิด เพราะยึดถือเรื่องงานต้องมาก่อนเสมอ ถ้ามีใครที่คิดจะเล่นอะไรแผลงๆ หล่อนก็ต้องจัดการก่อนที่งานจะเริ่ม....

ติดตามต่อในเล่ม....

รายละเอียด

บนความรักที่เพรียกหาและนำพา เขาคือหัวใจกร้าวสำหรับหล่อน แต่สำหรับเขา หล่อนคือ จอมใจของผู้พิทักษ์ อันนิตา ฮูฟแมน เจ้าหน้าที่ของคฤหาสน์เก่าแก่ กำลังทำงานอยู่ในงานเลี้ยงแต่งงาน หล่อนเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวแปลกๆ ยืนอยู่ริมหน้าต่างห้องบนชั้นสอง จึงคิดจะไปตักเตือนเขาเพราะเกรงว่าจะทำให้แขกในงานตกใจ แต่เมื่อหล่อนเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้น ทุกอย่างก็ดับวูบลง พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตนเองถูกผู้ชายแต่งตัวแปลกๆ กล่าวหาว่าหล่อนคือคนร้าย เซอร์โอลิเวอร์ ครอมเวลแห่งฮินชินบรูค ตกใจมากเมื่อเห็นผู้หญิงที่มีใบหน้าเหมือนภรรยาที่เพิ่งสิ้นลมหายใจไป ก้าวเข้ามาในห้องนอน สิ่งแรกที่เขาคิดก็คือ นางคือหนึ่งในแผนการของใครสักคนที่มุ่งทำลายเขา เขาจึงยื่นข้อเสนอและข่มขู่จะฆ่านาง รวมทั้งให้นางสวมรอยเป็นภรรยาของเขา!


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

จตุพร_07 | 1 รีวิว
31/08/2014

“จอมใจผู้พิทักษ์” เป็นหนึ่งในนิยายในเซต “A MOMENT IN TIME ณ เวลารัก” ค่ะ เล่มนี้มากันแนวท่านลอร์ดกับเลดี้บ้างนะคะ ตอนแรกดิฉันก็ไม่คิดว่าจะมีนิยายย้อนอดีตไปยุคนี้เหมือนกัน อิอิ เรื่องของเรื่องเริ่มจาก นางเอก “อันนิตา ฮูฟแมน” เธอเป็นเจ้าหน้าที่ของคฤหาสน์เก่าแก่แห่งหนึ่งค่ะ วันหนึ่งในขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่ในงานเลี้ยงแต่งงาน ปรากฎว่าเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวแปลกๆ ยืนอยู่ริมหน้าต่างห้องบนชั้นสอง เธอก็คิดจะไปเตือนผู้ชายคนนั้นเพราะเกรงว่าจะทำให้แขกในงานตกใจ เพราะการแต่งตัวของเขา แต่ไม่รู้ทำไมค่ะ เมื่อนางเอกเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้น ทุกอย่างก็ดับวูบลง หุหุ ย้อนอดีตนั่นเองจ้า พอนางเอกฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่แปลกๆ และถูกผู้ชายที่แต่งตัวแปลกๆคนนั้นกล่าวหาว่าเธอหล่อนคือคนร้าย พระเอก “เซอร์โอลิเวอร์ ครอมเวลแห่งฮินชินบรูค” ไม่รู้ว่ายศจะยาวไปไหน แหะๆๆๆ เขารู้สึกเหมือนโดนผีหลอก เมื่อเจอนางเอก เพราะเธอมีใบหน้าเหมือนภรรยาที่เพิ่งสิ้นลมหายใจไป ดังนั้นความรู้สึกแรกที่พระเอกเจอนางเอกคือคิดว่ามีคนเล่นตลกกับเขา ส่งนางเอกมาเพื่อวางแผนจะฆ่าเขาอีกคน แต่นางเอกพยามอธิบายว่าเธอไม่ใช่ภรรยาของเขา และไม่ได้มีเจตนาร้าย พระเอกจึงยื่นข้อเสนอปนข่มขู่ให้นางเอกปลอมตัวมาอยู่ในฐานะของภรรยาที่ตายไปแล้ว สวมรอยนั้นแหละค่ะ เพราะอยากรู้ว่าใครเป็นคนร้าย จุดดีของนิยายเรื่องนี้ในสายตาของดิฉันคือ เป็นนิยายที่ไม่มีนางอิจฉามาวุ่นวายกับพระเอกให้รำคาญใจค่ะ มีแต่นางเอกโดยผู้ชายรุมล้อม เพราะภรรยาของพระเอกไม่ธรรมดา อิอิ ร้ายใช่เล่น เธอไม่ได้รักพระเอกจริงๆด้วยซ้ำ พระเอกเรื่องนี้ค่อนข้างมีอีโก้นิดนึง เพราะเขาเป็นถึงผู้พิทักษ์นิคะ เป็นใหญ่สุดในบ้าน สั่งอะไรใครก็ต้องทำตาม แต่นางเอกไมได้หัวอ่อนเหมือนสาวๆในยุคอดีตนะคะ พระเอกจึงเริ่มวุ่นวายงุ่นง่านในจใจแล้วค่ะ เอาจริงๆเขาก็ชอบนางเอกนั่นแหละ เพราะนอกจากเธอจะมีใบหน้าสวยเหมือนภรรยา นิสัยนางเอกทำให้คนอยู่ใกล้หลงรักได้ไม่ยาก ส่วนนางเอกก็หลงรักพระเอกเหมือนกัน คนร้ายของเรื่อง นางเอกก็ช่วยพระเอกสืบค่ะ จนรู้ว่าใครเป็นคนร้าย แต่รู้สึกว่าคนร้ายเรื่องนี้ไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อนสักนิด คือร้ายแบบตรงๆเลยค่ะ พอเฉลยเรื่องคนร้ายปุ๊บก็ปิดคดีทั้งหมดได้ปั๊บ ความรักของพระเอกนางเอกก็ลงตัวนะคะ แต่ต้องไปติดตามในเรื่องว่าพระเอกมีวิธีอย่างไรนางเอกถึงยอมอยู่ในอดีตกับเขา ส่วนตอนจบของเรื่องที่ผู้เขียนปิดเรื่อง ดิฉันไม่ค่อยฟินค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024