พรหมเล่นรัก (ยาใจ)

พรหมเล่นรัก (ยาใจ)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001373
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 180.00 บาท 45.00 บาท
ประหยัด: 135.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

The Beginning...น้องหนู

 

ถึง พี่สาวคุณหมอที่เคารพ

จาก บ้านแสนรักของหนู

สวัสดีค่ะพี่สาวคุณหมอ หนูต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ติดต่อมาเกือบสาม

เดือน เพราะหลังจากวุ่นวายกับการส่งโพรเจกต์สุดท้ายก่อนจบแล้ว หนูก็ถูก

คุณแม่ลากเข้าสตูดิโอไม่เว้นแต่ละวัน ทำเอาไม่มีเวลาเข้ามาเขียนถึงพี่สาวเลย

ขอบคุณพี่สาวด้วยนะคะที่เข้ามาถามหาหนูด้วยความเป็นห่วง วันหลังถ้าจะ

หายไปอีก หนูจะโทร.ไปบอกตามเบอร์ที่พี่สาวเคยไห่ไว้ ว่าแต่สามปีมาแล้วเนี่ย

เปลี่ยนเบอร์ไปแล้วหรือยังคะ

คิดไปคิดมาหนูก็แสนจะโชคดีจริงๆ ที่พบพี่สาวในโลกไซเบอร์แห่งนี้

หลังจากที่ตามหาอยู่ตั้งสองปี จู่ๆ ก็เจอกันในเว็บไซต์นิยายซะอย่างนั้น แถม

อยู่ในเชียงใหม่เหมือนกันอีกด้วย ถึงจะไม่เคยเดินชนกันลักทีก็เถอะ

เอาละ นอกเรื่องไปหน่อย กลับมารายงานตัวเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้

แม่ของหนูสุขภาพก็ดีขึ้นหลังจากผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจไป พี่สาวสบายใจได้

ขอบคุณนะคะที่แนะน่าหมอดีๆ ให้ ส่วนน้องหนูเองก็สบายดี สบายสุดๆ เลย

ค่ะ เพราะหลังจากวุ่นวายที่สตูดิโอของคุณแม่ที่ทำทำจะวางมือทั้งๆ ที่หนูเพิ่ง

เรียนจบยังไม่ได้รับปริญญา ทำเอาหนูต้องเปลืองนี้ลายไปหลายกังพร้อมๆ

กับที่พยายามเรียนรู้งานบริหารที่แสนจะยาก จนตอนนี้หลายๆ อย่างเริ่มลงตัว

แล้วค่ะ คุณแมกกลับมาใจดี เหมือนเดิม แถมยังอนุญาตให้หนูไปเที่ยวได้หนึ่ง

เดือนเต็มๆ เพื่อเป็นรางวัลที่เรียนจบมาได้

พี่สาวทายสิคะว่าหนูจะไปที่ไหน แน่'นอนอยู่แล้ว...ญี่ปุ่น! ยังไงละคะ

อ่า อ่า หนูขอนำหน้าไปเที่ยวก่อนละ เสียใจด้วยนะคะพี่สาว ล้าอิจฉาก็ลอง

อ้อนคุณสามีอาจารย์ให้พาพี่สาวกับน้องแฝดตามไปสิคะ

เอาละ ไม่ยั่วดิกว่า เพราะหนูมีเรื่องจะถามพี่สาวอยู่เหมือนกัน พี่สาว

พอจะบอกหนูได้ไหมคะว่าหมอที่ผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจให้คุณแม่จ๋าที่พี่สาว

แนะนำมานั้นชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร

เหตุเพราะอยู่ดีๆ คุณแม่จ๋าก็เกิดอยากจะไปขอบคุณคุณหมอ เนื่องใน

โอกาสครบรอบหนึ่งปีรอยแผลเป็นบนหน้าอกพอดี ยิ่งเป็นคุณหมอที่พี่สาว

แนะนำ แม่จ๋าละยิ่งปลื้มเอ่ยชมไม่หยุด เสียดายแต่ว่าตอนนั้นหนูยังต้องเรียน

อยู่ที่เชียงใหม่ เลยทำให้อดเห็นหน้าหล่อๆ ของคุณหมอที่แม่ชื่นชมนักหนา

และเมื่อวานนี้เองค่ะที่อยู่ดีๆ คุณแม่ก็ทวงเอากับหนูตอนที่นอนอ่านหนังสือ

เล่นอยู่บนโซฟากลางบ้าน

“น้องหนูลูก จำนามบัตรที่แม่ฝากให้จัดได้ไหมคะ แม่หาของคุณหมอ

ไม่เจอเลยลูก” คุณแม่วรรณาผู้ยังอยู่ในชุดสูทแบบผู้หญิงทำงาน เดินเข้ามาหา

ลูกสาวคนเดียวหลังจากรับแก้วน้ำเย็นจากเด็กในบ้านไปดื่มอย่างชื่นใจ ก่อนที่

จะสำลักน้ำเข้าไปเต็มแรงเมื่อได้ยินค่าตอบจากลูกสาวสุดรักอย่างหนู

“อ้าว! กองนั้นคุณแม่ไม่ได้บอกให้หนูเอาไปทิ้งหรอกเหรอคะ” เสียง

หวานๆ ออกมาจากปากอิ่มอวบของหนูที่บัดนี้เริ่มเหยเก เมื่อใบหน้าของคุณแม่

ผู้แสนใจดีเริ่มแสดงเค้าลางของพายุมาให้เห็น

“อย่าเพิ่งค่ะคุณแม่ขา ก็หนูเห็นว่ามันมีแต่นามบัตรพวกร้านอาหาร

อะไรพวกนี้นี่นา คุณแม่จะเอาร้านไหนบอกมาเลยค่ะ หนูหาในเน็ตแป๊บเดียว

รับรองคุณแม่ได้ตามต้องการแน่นอน” หนูล่งเสียงนำทัพไปพร้อมกับท่า

ปางห้ามญาติที่คงจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไร เพราะเห็นคุณแม่จำยังคงหลับตา

แน่นอย่างสงบสติอารมณ์

 

“น้องหนูคะ คุณแม่ไม่ได้อยากได้ร้านอาหารค่ะ เพราะถ้าแค่นั้นเลขาฯ

ของคุณแม่ก็คงหาไหได้ แต่ที่ต้องการก็คือนามบัตรของคุณหมอที่ผ่าตัดให้

คุณแม่เมื่อปีที่แล้วต่างหาก” เสียงที่เคยหวานๆ ของคุณแม่ที่ถ่ายทอดให้

ลูกสาวเพียงคนเดียวบัดนี้ถูกกดต่ำลงด้วยความอดกลั้น ก่อนที่รอยยิ้มหวาน

ประหารชีวิตจะถูกส่งมาให้หนูราวกับเป็นการกำหนดชะตาชีวิต

“แต่ในเมื่อน้องหนูบอกว่าสามารถหาให้ได้ทุกอย่าง คุณแมกหวังว่า

เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อคุณหมอได้จะมาอยู่บนโต๊ะทำงานของคุณแม่ภายใน

สามวันนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณแม่อาจจะพิจารณาเรื่องไปเที่ยวญี่ปุ่นใหม่ก็ได้

ถ้าคุณแม่ต้องเสียเวลาไปตามหาคุณหมอที่น้องหนูทิ้งนามบัตรไป”

“เดี๋ยวสิคะคุณแม่ขา แล้วคุณหมอชื่ออะไรล่ะคะ” หนูเรียกคุณแม่จ๋าไว้

ได้ทันก่อนที่ท่านจะเดินออกจากห้องนั่งเล่น พร้อมๆ กับนึกทบทวนวิธีเปิด

สมุดหน้าเหลืองอยู่ในใจ แล้วก็ต้องอ้าปากค้างกับค่าตอบของคุณแม่สุดที่รัก

“นั่นสิคะน้องหนู คุณแมกนึกไม่ออกเพราะเรียกแต่คุณหมอๆ แต่ เอาเถอะ

น้องหนูเก่งอยู่แล้วนี่ลูก คุณแม่จะรอนะคะ”

นั่นแหละค่ะพี่สาว หนูจึงต้องล่งสัญญาณ SOS มาหาด่วนเลย

ไม่อย่างนั้นทริปญี่ปุ่นของหนูมีอันต้องล่มแน่ๆ ล้าอย่างไรพี่สาวช่วยล่งชื่อ

คุณหมอพร้อมเบอร์โทรศัพท์ให้หนูด้วยนะคะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

ถือซะว่าช่วยลูกหนูตัวเล็กๆ เถอะค่ะ เฮ้อ! ซากุระ...ซู่ชิ...ดิสนีย์แลนด์ รอ

น้องหนูก่อนนะคะ พลีส!

ด้วยความเคารพและคิดถึงมากๆ

น้องหนู ซายิกา

ป.ล. ๑ ขอให้คุณหมอของคุณแม่จ๋าได้รับส่วนบุญส่วนกุศลที่พี่สาวจะ ช่วยให้หนูได้ไปญี่ปุ่น อย่าได้มาจองเวรกับหนูอีกเลย สาธุ

ป.ล. ๒ ตอนนี้เชียงใหม่อากาศร้อนรีเปล่าคะ เพราะตั้งแต่หนูเรียนจบ

 

 

 

 

จนได้ย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพฯ อีกครั้ง ไม่รู้เป็นยังไงร้อนอกร้อนใจไปหมด คิดถึงเชียงใหม่จังเลยค่ะ

 

ถึง พี่สาวคุณหมอผู้มีพระคุณ จาก สนามบินสุวรรณภูมิที่เงียบสงบ

พี่สาวคะ ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยส่งชื่อคุณหมอเจ้าปัญหาของคุณแม่ มาให้พร้อมเบอร์โทรศัพท์ ทำให้ในที่สุดหนูก็ได้มานั่งรอขึ้นเครื่องที่สนามบิน ที่แสนจะสงบสุขของเราอย่างตอนนี้ไงคะ แต่ด้วยความที่คุณแม่ตื่นเต้นไป หน่อยกลัวลูกสาวจะตกเครื่อง หนูก็เลยได้มานั่งเปิดเน็ตเล่นรอขึ้นเครื่องอยู่ สามชั่วโมงแล้วค่ะ โดยที่คุณแม่สุดสวยของหนูชั่งกลับไปตั้งแต่ชั่วโมงแรก เพราะมีโทรศัพท์เข้ามาตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอุตส่าห์ทิ้งคำพูดไร้ให้เจ็บๆ คันๆ เล่น

“น้องหนูเก็บกระเปาสตางค์ดีๆ นะ พาสปอร์ตด้วย หายขึ้นมาคุณแม่ ไม่ไปรับนะคะ” คุณแม่จ๋าพูดพร้อมกับโอบกอดลูกสาวสุดที่รักกลางสนามบิน ทำเอาหนูคิ้วกระตุกขึ้นมาตงิดๆ

“โธ่! คุณแม่คะ น้องหนูไม่ใช่เด็กสามขวบนะคะ อย่าแช่งกันอย่างนี้สิ คุณแม่นั่นแหละอย่าลืมนอนให้พอ อย่าโหมงานหนัก ไม่งั้นน้องหนูจะเที่ยว เพลินไม่ยอมกลับมาจริงๆ ด้วย” เสียงกระเง้ากระงอดของหนูตัวใหญ่ทำเอา คุณนายวรรณาทำหน้าปูเลี่ยนแบบว่าคงอยากจะหยิกแก้มยุ้ยๆ ของหนูด้วย ความมันเขี้ยวเสียเต็มประดา

แต่รอยยิ้มของหนูก็อยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อสังเกตเห็นละอองฝ้าจางๆ

ที่ปรากฏขึ้นบนดวงตาที่เริ่มเหี่ยวย่นตามกาลเวลา ยิ่งเมื่อคุณแม่จ๋าจับจ้องมา ทั่วร่างของหนู หนูก็รู้ได้ในทันทีว่าคุณแม่จ๋าต้องกำลังระลึกถึงคุณพ่อขาอยู่ แน่ๆ เลย เพราะคุณแม่จ๋ามักจะเอ่ยปากอย่างภาคภูมิใจในผลงานของความ

ยากลำบากที่ท่านสร้างมาอย่างหนูเป็นที่สุด

คุณแม่จ๋ามักจะบอกว่าหนูนั้นเป็นตัวแทนที่ระลึกจากคุณสามีสุดที่รัก แม้ว่าหนูจะไม่ได้เก่งกาจมากมาย ไม่หัวดีไปกว่าใคร แต่หนูในวันนี้ วันที่ก้าว

เข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวนั้นก็เพียงพอแล้วด้วยรูปสมบัติ หัวคิด และ จิตใจ ทำเอาหนูปลื้มใจไม่น้อยเลยค่ะ และหนูก็อยากให้พี่สาวได้มาพบกับ ตัวหนูที่คุณแม่จ๋าการันตีในวันนี้เหลือเกิน

ไม่อยากจะบอกว่าหนูที่แสนจะเก้งก้างและเต็มไปด้วยสิวเขรอะเมื่อ

วันก่อนๆ ตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว แม้จะไม่สามารถสูงเกินมาตรฐานหญิงไทย

แต่ก็ไม่เตี้ยเกินไปนักเวลาที่ใส่รองเท้าล้นสูงที่หนูไม่เคยพิสมัย แต่คุณแม่จ๋า

แสนจะชอบใจนัก เพราะมันแลดูเหมาะเจาะเข้ากับเอวบางๆ ที่น่าจะทำให้ผู้คน

ที่ได้พบเจอเกิดความรู้สึกอยากจะทะนุถนอมปกป้องกับเขาบ้าง

แน่นอน...ทั้งหมดเป็นผลงานของคุณแม่จ๋าที่เลี้ยงหนูมาเพียงลำพัง

อย่างสุดความสามารถตลอดห้าปีเต็ม

ถ้าพี่สาวยัง,นึกไม่ออก หนูก็คงต้องขอบรรยายความสวยงาม (แบบ

แปลกๆ) ของตัวเองให้ลองนึกภาพตามค่ะ

เริ่มจากใบหน้ารูปหัวใจแลดูป้อมๆ ด้วยแก้มยุ้ยทั้งสองข้างที่คุณแม่จ๋า

การันตีความขาวใสเสียจนมองเห็นเลือดฝาดได้อย่างชัดเจน เหนือคางแหลม

เป็นริมผีปากอวบอิ่มสีชมพู ดวงตาสีดำสนิทรูปอัลมอนด์ทั้งคู่เกือบจะเล็กจน

กลายเป็นหมวยน้อยล้าหากไม่ปรากฏรอยพับชั้นที่สองที่ทำให้ดูน่ารักล้อมรอบ

ด้วยแพขนตาสีอ่อน แต่สิ่งเดียวที่ดูจะไม่เข้ากันบนใบหน้าของหนู ก็คือจมูก

เล็กที่เชิดรั้นขึ้นซึ่งก็ทำให้คุณแม่จ๋าต้องปวดหัววันละหลายรอบกับความซุกซน

ของลูกสาวคนนี้

“คุณแม่ต้องทำงานหนักก็เพราะใครล่ะคะที่หนีไปเที่ยว บอกไว้ก่อน

เลยนะว่ากลับมาคราวนี้คุณแม่ไม่ยอมแล้วด้วย ยังไงน้องหนูก็ต้องมาช่วย

คุณแม่ดูแลบริษัทของเรา” คุณแม่สุดที่รักเอ่ยเสียงเข้มกับคนที่ยังหน้างอ ก่อน

จะหอมแก้มยุ้ยทั้งสองข้างแล้วเตรียมตัวเดินจากไป

แต่ไม่วายยังทั้งค่าพูดไว้ให้น้องหนูตัวเล็กๆ แทบจะลงไปชักดิ้นชักงอ

อยู่แถวนั้นอีกว่า

“แล้วไม่ต้องไปหลอกเด็กหนุ่มๆ มา'จากญี่ปุ่นนะคะลูก'ขา คุณแม่ขอ เฉพาะลูกเขยคนไทยเท่านั้นค่ะ น้องหนู”

หนูละไม่เข้าใจจริงๆ เลยค่ะพี่สาว ว่าแคมรุ่นน้องจากเชียงใหม่ตามมา

เที่ยวที่กรุงเทพฯ เนี่ย คุณแม่ก็หาว่าหนูหลอกกินเด็กอยู่แทบทุกวัน หนูจะท่า

ยังไงให้หน้าตาดูภูมิฐานน่าเชื่อถือเหมือนพี่สาวได้ล่ะคะ ช่วยบอกที

นอกเรื่องไปไกลอีกแล้ว สรุปว่าตอนนี้หนูนั่งเหงาอยู่คนเดียว ก็เลยใช้

บริการอินเทอร์เน็ตฃองสายการบินล่งข่าวคราวถึงพี่สาวค่ะ

พี่สาวอาจจะแปลกใจที่กำหนดเดินทางของหนูเลื่อนเร็วขึ้นมาตั้งห้าวัน

นั่นเป็นเพราะว่าคุณแม่จ๋า ต้องการให้หนูไปท่าธุระให้ด้วย (ซึ่งมา เฉลยทีหลัง

หลังจากที่หลอกให้ดีใจว่าได้ไปเที่ยวให้เต็มคราบ) ซึ่งทางนั้นก็เร่งเวลามา

พอสมควร ท่าให้หนูเตรียมตัวแทบไม่ทันเลยละค่ะ

หนูได้ลองดูทัวร์ภายในประเทศที่พี่สาวค้นมาให้แล้วนะคะ น่าสนใจดี

และราคาไม่แพงด้วย แต่หนูก็ไม่รู้ว่าธุระที่คุณแม่ให้ท่าจะเสร็จเมื่อไหร่ และ

ไม่แน่ใจว่าจะมีอิสระในการเที่ยวลักแค1ไหน หนูก็เลยคิดว่าเที่ยวเองไปเรื่อยๆ

ตามโอกาสอาจจะสะดวกกว่า แต่ยังไงก็คงอีกลักสองสามวันจึงค่อยเริ่ม

วางแผนค่ะ

และด้วยความที่อยากเที่ยวมากนี่เองที่ท่าให้หนูเกือบไม่ได้มานั่งรอ

เครื่องบินอยู่ตรงนี้ เพราะวันก่อนที่ไปรับหนังสือเดินทางที่ได้ขอวีซ่าที่สถานทูต

ญี่ปุ่นน่ะสิคะ รุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุดเลย

เนื่องจากวันที่ไปขอวีซ่านั้นรถแสนจะติด แถมพอไปถึงก็ต้องรอคิว

แล้วรูปถ่ายที่เตรียมไปซึ่งเป็นพื้นสีฟ้าตามแบบการขอวีซ่าประเทศอื่นๆ

ก็ด้น ใช่ไม่ได้ เพราะที่นี่ต้องใช้สีขาว ขนาดสองนิ้ว หนูนี่แทบจะกรี๊ดเลยค่ะ รู้สึก

เสียหน้าอย่างแรงที่ต้องไปพึ่งถ่ายรูปด่วนที่อยู่ในตึก (เรื่องนี้หนูไม่ได้บอก

คุณแม่จ๋านะคะ พี่สาวอย่าเอ็ดไป ไม่อย่างนั้นโดนบ่นจนหูชาแน่ๆ ทั้งๆ ที่บ้าน

เป็นสตูดิโอแท้ๆ)

 

 

 

นั่นละค่ะปัญหามากมายทำให้วันไปรับพาสปอร์ตหนูจึงรีบไปแต่หัววัน ด้วยหน้าตายิ้มย่องผ่องใส กะว่าจะได้วีซ่าไปกอดดั่งใจ ไปถึงเจ้าหน้าที่ยิ้ม หวานใจดีค่ะ แต่แล้ว...

“วีซ่าที่ได้ ใช้ได้ ๓๐ วันนะคะ” เจ้าหน้าที่หน้าตาเป็นญี่ปุ่นแต่พูดไทย

ชัดเจนอธิบายรายละเอียดหลังจากพาสปอร์ตของหนูมีวีซ่าสวยๆ ติดเพิ่มลงไป

“เอ๊ะ! ไม่ใช่ได้สามเดือนหรือ ๙๐ วันหรอกเหรอคะ”

“ค่ะ เพราะเป็นวีซ่าท่องเที่ยว เราเปลี่ยนแปลงมาได้สักพักแล้วค่ะ”

เจ้าหน้าที่สาวหน้าขาวใสยังคงอธิบายอย่างใจเย็น

“แต่หนูอยากได้สัก ๕๐ วันน่ะค่ะ เพิ่มให้หน่อยไม่ได้เหรอคะ” ความ

จริงแล้วคงใช้ไม่ถึง ๓๐ วันหรอก แตกเผื่อฟลุกได้เที่ยวเยอะๆ เลยหวังว่า

เจ้าหน้าที่เขาใจดีจะหยวนๆ เพิ่มให้สักนิด แต่รู้ไหมคะว่ามันเป็นการกระทำ

ที่ผิดอย่างคาดไม่ถึงเชียวละค่ะ

หลังจากที่รอยยิ้มเริ่มจางลงเจ้าหน้าที่สาวก็ขอตัวเดินเข้าไปด้านหลัง

สักพักใหญ่ก็กลับมาพร้อมกับชายวัยกลางคนที่หน้าตาเป็นญี่ปุ่นแท้สุดๆ

พร้อมกับพูดภาษาอังกฤษที่แสนจะเข้าใจยากใส่อย่างรวดเร็ว ทำเอาคนที่ยัง

ไม่ท้นตั้งตัวอย่างหนูฟังแทบไม่ท้น จนนั่งเอ๋ออยู่พักใหญ่ และก็มีเสียงดุๆ

จาก ผู้ชายที่ด้งมาจากข้างหลังด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษที่เข้าใจได้ง่ายกว่าลุงญี่ปุ่น

นั่นเยอะ

“Excuse me, How long do I have to wait?”

หลังจากนั้นเขาสองคนก็ฟุดฟิดฟอไฟข้ามหัวหนูตัวเล็กๆ ที่นั่งอยู่ตรง

กลางสักแป๊บ ผู้ชายคนที่ยืนอยู่ข้างหลังก็เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่เก็บความ

หงุดหงิดไวไม่มิด

“คุณครับ เจ้าหน้าที่เขาต้องการเชิญคุณไปสอบถามเพิ่มเติมเรื่องที่คุณ

ขอวีซ่าเพิ่มน่ะ ถ้าไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเขาคงมีล่ามให้ ยังไงก็ช่วยตามเขาไป

ก่อน อย่าให้คนที่รอคิวต้องรอนานกว่านี้เลย”

แค่นั้นแหละค่ะ หนูฉุนถึกขึ้นมาทันที มาหาว่าเราไม่รู้ภาษาอังกฤษได้

ยังไง เขาก็เกรดเอภาษ]อังกฤษสมัยเป็นวิชาเลือกนอกคณะเชียวนะ เพียงแต่ เจ้า

สำเนียงญี่ปุ่นที่ยากจะเข้าใจนี่มันก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวกันบ้าง แต่

ฝ่ายที่สร้างความขุ่นเคืองไว้ก็ไม่อยู่ให้หนูได้มองหน้าชัดๆ เมื่อพี่เจ้าหน้าที่ใจดี

รีบกุลีกุจอไปเปิดช่องทางใหม่ให้คนขี้หงุดหงิดเดินตามไปโดยเฉพาะ ไม่รู้ว่า

ถืออภิสิทธิ์มาจากไหนสิน่า

ในที่สุดหนูก็เลยต้องไปเข้าห้องมืดตามที่รนหาเรื่องขอเลื่อนวีซ่า ในนั้น

หนูโดนชักนู่นชักนี่มากมายไปหมดด้วยสำเนียงชวนเวียนหัว ยังดีที่อีกฝ่ายพูด

ข้าลงเมื่อเห็นว่าหนูจวนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าแค่ขอวันเที่ยว

เพิ่มมันจะยุ่งยากขนาดนี้ เขาทำถึงขนาดโทร.ไปให้คุณแม่ผู้ซึ่งเป็นผู้คํ้าประกัน

ยืนยัน

นั่นแหละค่ะ วิบากอันแรกของหนู เริ่มทริปได้แย่สุดๆ ยังดีที่ในที่สุด

ก็ได้วีซ่า ๙๐ วันมาครอบครอง ค่อยคุ้มกับความวุ่นวายที่ (หนูสร้างให้) เกิดขึ้น

หน่อย

โอ๋ยโหย! เขาเรียกเข้าประตูขึ้นเครื่องแล้วค่ะ ถ้าหนูไม่อยากให้วิบาก

สองตามมาก็คงต้องรีบไปแล้วละ ฝากความคิดถึงถึงเจ้าหมูอ้วนสองคนด้วย

นะคะ แล้วจะอีเมลมาถามอีกทีว่าอยากได้อะไรหรือเปล่า โดยเฉพาะที่

ดิสนีย์แลนด์ ที่ต่อให้ธุระวุ่นวายแค่ไหน หนูก็ไม่ยอมพลาดแน่นอนค่ะ

                                                      ขอให้พี่สาวอวยพรให้หนูเดินทางอย่างราบรื่นค่ะ 

น้องหนู ซายิกา

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

 

 

 

 

 

รายละเอียด

บังเอิญ...เขาต้องการจะพักผ่อนจิตใจจากการทำงานที่แสนเหนื่อยล้า บังเอิญ...ถึงเวลาที่เธอจะต้องทำตามสัญญาผูกมัด เขาและเธอจึงบังเอิญเดินทางไปยังสถานที่อันสวยงามราวภาพในฝันอย่างดินแดนซากุระพร้อมกัน 
นายแพทย์เสฏฐาบังเอิญได้เจอกับหญิงสาวที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับรักแรกจึงเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง ชายิกาบังเอิญได้เจอกับคุณหมอผู้เคร่งขรึมแสนจะดึงดูดใจ จึงเล่าให้พี่สาวร่วมโลกฟัง บังเอิญ...เพื่อนสนิทของเขาและพี่สาวร่วมโลกของเธอคือคนคนเดียวกัน เรื่องราวที่เรียงร้อยกันอย่างแสนจะบังเอิญจึงเริ่มต้นขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวอีกด้านหนึ่งของเหรียญแห่งความบังเอิญที่เรียกว่าพรหมลิขิต ซึ่งกำลังเล่นตลกกับความรักของเขาและเธอ

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024