แวมไพร์บาร์เทอรส์ : เจ้ามหาสมุทร (นภาสรร)

แวมไพร์บาร์เทอรส์ : เจ้ามหาสมุทร (นภาสรร)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001823
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 230.00 บาท 57.50 บาท
ประหยัด: 172.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ดวงอาทิตย์ที่เพิ่งโผล่ขึ้นมาเหนือขอบฟ้าทอแสงสีส้มกลมกลืนกับ

ผืนฟ้าสีครามทำให้แลดูประหนึ่งภาพสีนํ้าที่ทั้งอบอุ่นและเย็นตาในคราเดียวกัน คลื่นทะเลม้วนตัวเข้าหาฝังอย่างแผ่วเบาคล้ายเสียงดนตรี พร้อมนำพาไอทะเล

ที่แสนสดชื่นและผ่อนคลายในยามเข้าตรู่สู่หาดทรายขาวเนื้อนุ่มละเอียด

ชาร์กเอนหลังนอนเล่นอยู่บนผืนทรายตั้งแต่ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น

เสียอีก ไม่ใช่เพราะตื่นเข้า แต่เพราะนอนไม่หลับจึงออกมาเดินเล่นที่ชายหาด เพื่อครุ่นคิดหาคำตอบเรื่องที่แบรดพูดกับเขาเมื่อวันก่อน

ชาร์กลุกขึ้นนั่งและปัดเม็ดทรายละเอียดที่เกาะอยู่ตามตัวออก ใบหน้า หล่อเหลาของเขาเรียบเฉย ไม่มีรอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้าเช่นเดียวกับเวลา

ที่พบปะใครต่อใคร หาดทรายกับทะเลคือโลกส่วนตัวที่ชาร์กเป็นตัวของตัวเอง

ได้อย่างเต็มที่

ทุกครั้งที่ดำผุดดำว่ายอยู่ในทะเล ชาร์กจะรู้สึกว่าร่างกายของเขากับ

ทะเลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และจากที่เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในทะเลจึงมี

สีผิวที่เข้มกว่าพี่น้องอีกสองคน รวมถึงการแต่งกายของเขาก็เป็นชุดง่ายๆ

อย่างเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงวอร์มผ้าร่มเนื้อบางที่พร้อมเสมอสำหรับ

ลุยน้ำ หรือไม่บางทีก็เปลือยท่อนบน ใส่กางเกงผ้าสามส่วนสบายๆ เพื่อรับ

ลมทะเล ในบรรดาสามพี่น้อง ชาร์กจึงห่างไกลจากคำว่าสำอางมากที่สุดแล้ว

 รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูง่ายๆ สบายๆ ของชาร์กขัดแย้งกับความรู้สึก ภายในใจเขาโดยสิ้นเชิง ชาร์กเป็นคนที่เก็บงำความรู้สึกและไม่ค่อยเปิดเผย

สิ่งที่อยู่ในใจให้ใครรับรู้ ผิดจากฮอว์ค พี่ชายคนโตที่มีนิลัยเปิดเผย และ

ไทเกอร์ น้องชายคนเล็กที่แม้จะเงียบขรึมแต่ก็ไม่ได้เก็บงำความรู้สึกเท่ากับเขา

ไม่มีใครรู้จริงๆ หรอกว่า ชาร์กกำลังคิดอะไรอยู่!

หลังจากรันเกิดครบอายุ ๑๘ ปี พวกเขาทั้งสามคนได้รู้ความจริงว่า

พวกเขาเป็นแวมไพร์ มีภารกิจหลักสำคัญคือปราบแวมไพร์อสูร ผู้ที่เป็นพ่อ

ของพวกเขาก็คือ แบรด ชายหนุ่มใบหน้าอ่อนเยาว์ที่หมั่นมาเยี่ยมเยียน

พวกเขาที่บ้านเสมอตั้งแต่เด็ก และรันที่อายุครบ ๑๘ ปีนื้เองก็ท่าให้พวกเขา

ได้ค้นพบพลังและความสามารถพิเศษที่ซ่อนเร้นอยู่

ฮอว์ค พี่ชายคนโตเป็นเจ้าเวหา มีปีกเหมือนค้างคาว และมีอาวุธ ประจำตัวคือ มีดวายุ ทั้งยังสามารถสื่อสารกับสัตว์ปีกต่างๆ ได้ ไทเกอร์

น้องชายคนเล็ก เป็นเจ้าแห่งพสุธา มีฝีเท้าที่ฉกาจ เบา และเคลื่อนไหวได้

รวดเร็วเหมือนเสือ ซํ้ายังมีบูมเมอแรงเป็นอาวุธประจำกายอีกด้วย ส่วนชาร์ก

ซึ่งเป็นคนกลาง มีความสามารถประหนึ่งเจ้าสมุทร คือว่ายน้ำได้เก่งเหมือนปลา

มีอาวุธคือคทาปะการังที่สามารถสร้างคลื่นในทะเลและเรียกฝูงฉลามให้ช่วย

จู่โจมได้

หลังจากที่พวกเขาได้คันพบพลังเหล่านี้ แบรดจึงเริ่มสอนให้พวกเขา

ทั้งสามเรียนรู้ที่จะใช้ความสามารถและอำนาจที่มีอยู่เพี่อพัฒนาให้เก่งกล้า กว่าเดิม ฮอว์คกับไทเกอร์เรียนรู้สิ่งที่แบรดสอนได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ชาร์ก

เรียนรู้ได้ช้า เขาพยายามปลอบใจตัวเองว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเขาอาจจะมี

เลือดแวมไพร์นักสู้ในตัวน้อยกว่าฮอว์คกับไทเกอร์ และด้วยเหตุนี้ชาร์กจึง

ฝังใจมาตลอดว่าความสามารถพิเศษของเขาไม่อาจเทียบกับพี่ชายและน้องชาย ได้เลย และขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ชาร์กก็นึกไม่ออกว่าเขาจะรับมือกับ

แวมไพร์อสูรได้อย่างไร

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ชาร์กได้แต่หวนนึกถึงการต่อสู้กับสโตอิก ภาพ เหตุการณ์ในวันนั้นยังตามมาหลอกหลอนเขาทั้งยามหลับและตื่น ซํ้ายังผุด

พรายชื้นมาในห้วงคำนึงแม้แต่ในยามนี้

วันนั้นเป็นวันเกิดของเนตรนภา ฮอว์คจึงตั้งใจจะจัดงานวันเกิดเซอร์ไพรส์ แฟนสาวบนหอคอยพัทยาทาวเวอร์ที่มองเห็นวิวเมืองพัทยาได้สวยและชัดเจน ที่สุด ที่สำคัญเป็นสถาน'ที่ที่ฮอว์คโปรดปรานอีกด้วย แต่ฮอว์คก็ต้องแอบจัด งานและพาเนตรนภาออกมาจากบ้านเงียบๆ ไม่ให้เพ็ญพักตร์รู้ เพราะแบรด สั่งห้ามไม่ให้พาเนตรนภาออกจากบ้านเนื่องจากเกรงว่าสโตอิก แวมไพร์อสูร

จะมาพบตัว

แม้ว่าชาร์กกับไทเกอร์จะพยายามห้ามปราม แต่ฮอร์คก็ยืนกรานที่จะ

พาเนตรนภาไปเดตให้ได้ ตลอดทั้งวันที่ต้องวุ่นกับการเตรียมงานวันเกิด ทำให้ ฮอว์คลืมดื่มน้ำมะระที่เพ็ญพักตร์กำชับให้ดื่มทุกวันไปเสียสนิท โดยหารู้ไม่ว่า

ผลจากความเผอเรอครั้งนั้นทำให้กลิ่นแวมไพร์ของฮอว์คไปเตะจมูกของ

สโตอิกเช้า

ฮอว์คกับเนตรนภาไม่รู้เลยว่าทำมกลางบรรยากาศดินเนอร์ที่หวานฉํ่า และแสนโรแมนตักนั้นมือสูรร้ายที่กำลังคืบคลานเช้ามาอย่างเงียบเชียบ ชาร์ก

กับไทเกอร์ซึ่งไม่เห็นด้วยกับความดื้อดึงของพี่ชายต่างอดห่วงทั้งคู่ไม่ได้

จึงแอบตามมาซุ่มสังเกตการณ์ที่บริเวณชั้นล่างของอาคารพัทยาทาวเวอร์

ในขณะที่ชาร์กกับไทเกอร์กำลังคุยเล่นกันอยู่นั้น ก็มีเงาทะมึนสีดำ

ขนาดใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนเช้าใกล้แสงจันทร์บนท้องฟ้าในคืนจันทร์เพ็ญ พร้อม

กับที่กลิ่นสาบลอยมาเตะจมูกทั้งคู่ และเมื่อเงาทะมึนนั้นบดบังแสงจันทร์ก็เผย

ให้เห็นร่างของอสูรที่มีปีกดำอย่างชัดเจน

‘นั่นมัน...สโตอิก ไทเกอร์อุทานสั่นด้วยความตกใจจนชาร์กต้องรีบ

เอามือปิดปากน้องชาย

 

การปรากฏตัวอย่างปัจจุบันทันด่วนของแวมไพร์อสูรทำให้ชาร์กตั้งตัว

ไม่ทัน ต่างจากฮอว์คกับไทเกอร์ที่ตั้งสติและรับมือได้ดีกว่า ชาร์กได้แต่ยืน

คว้างอย่างไม่รู้จะช่วยปราบอสูรร้ายได้อย่างไร เพราะเขาไม่ถนัดที่จะต่อสู้บน

บกและบนท้องฟ้า

ชั่วขณะหนึ่งที่ฮอว์คกำลังจะต้องฝากเนตรนภาให้ใครสักคนดูแล

ก่อนที่จะเหาะไปสมทบกับแบรดเพื่อปราบสโตอิก ฮอว์คปราดตามองชาร์ก

แต่แล้วก็เปลี่ยนใจฝากให้ไทเกอร์ดูแลเนตรนภาแทน ทำให้ชาร์กรู้สึกว่าตัวเขา

ช่างไร้ประโยชน์และไม่ได้รับความไว้วางใจจากฮอว์ค

มันก็แน่อยู่แล้วที่ฮอว์คจะต้องเลือกไทเกอร์ซึ่งป้องกันตัวได้เก่งและ

ว่องไวกว่าเขามาก

ชาร์กจึงอดรู้สึกไม่ได้ว่าความสามารถพิเศษและอาวุธของเขา

ไม่ทัดเทียมกับพี่ชายและน้องชาย ก่อให้เกิดรอยแผลเล็กๆ ในหัวใจที่ชาร์ก

ไม่เคยบอกใคร และไม่มีใครรู้ เพราะเขามักจะอำพรางมันไร้ด้วยสีหน้าแจ่มใส

เบิกบาน หากมีใครสักคนสังเกตจริงๆ จะรู้ว่าสิ่งเดียวบนใบหน้าของเขาที่

ไม่เคยยิ้มก็คือ ดวงตาที่กักเก็บบางสิ่งไร้อย่างลึกลํ้าและซ่อนเร้นดั่งกันบึ้งของ มหาสมุทร

แต่แล้วการปรากฏตัวของแบรดเมื่อสองวันก่อนก็ทลายตะกอนในใจ

ของชาร์กออกไปบางส่วน ในวันนั้นแบรดสั่งให้พวกเขาทั้งสามคนประลอง ความสามารถกัน

‘ระวัง เตรียมพร้อม เริ่มได้’

ทันทีที่สิ้นเสียงนกหวีดให้สัญญาณของแบรด ชายหนุ่มทั้งสามที่อยู่ใน

ท่าเตรียมพร้อมก็พุ่งทะยานอย่างสุดแรงไปยังเป้าหมายอันเดียวกันคือ ธง

สีแดงที่พลิ้วไสวอยู่ลิบๆ ณ ผาสูงอีกฝั่งหนึ่ง

ฮอว์คเป็นคนแรกที่ออกตัวได้เร็วกว่าใคร ปีกดำที่แผ่ผงาดบริเวณ

แผ่นหลังของเขาช่วยให้เขาทะยานสู่เวหาด้วยความรวดเร็วประหนึ่งพญาเหยี่ยว ฝูงนกนางนวลที่บินร่อนอยู่ในบริเวณนั้นพากันร้องเสียงแหลมอย่างตกใจ

เมื่อจู่ๆ ก็มีมนุษย์ประหลาดที่ดูเหมือนคนก็ไม่ใช่ นกก็ไม่เชิงพุ่งตัวตรงไปยัง

ฝูงของพวกมันก่อนจะรีบบินหลบ ฮอว์คหัวเราะร่าและส่งเสียงท้าทายชาร์กกับ

ไทเกอร์ที่อยู่เบื้องล่าง

‘ยู้ฮู้...ชาร์ก ไทเกอร์ พวกนายต้องเร่งสปีดกันหน่อยแล้ว ขอโทษที่ต้อง

เสียมารยาทครองตำแหน่งแชมป์อีกตามเคย’ ฮอว์คตะโกนเยาะอย่างลำพองใจ

เมื่อเห็นน้องชายทั้งสองตามหลังมาลิบๆ

‘ไม่เคยได้ยินเหรอฮอว์ค หัวเราะทีหลังด้งกว่า’ ไทเกอร์ น้องคน

สุดท้องใช้เวลาอุ่นเครื่องอยู่ครู่หนึ่งจึงวิ่งเต็มฝีเท้า ซํ้าเส้นทางที่วิ่งผ่านเป็น

ปารกชัฏที่มีต้นไม้รกครึ้มเป็นสิ่งกีดขวาง ไทเกอร์จึงต้องขว้างบูมเมอแรงไปยัง ต้นไม้ใหญ่หลายต้นที่ขวางอยู่เบื้องหน้า จนต้นไม้หลายต้นล้มครืน ก่อให้เกิด เสียงกัมปนาทโครมคราม สัตว์น้อยใหญ่ต่างพากันวิ่งหนีอย่างชุลมุน เมื่อทาง

โล่งโปร่งสบาย พลังเสือในกายของชายหนุ่มจึงแล่นพล่าน ทำให้ตอนนี้ไทเกอร์

ลํ้าหน้าฮอว์คไปอีกหนึ่งช่วงตัวอย่างเหนือความคาดหมาย

ไทเกอร์ยิ้มอย่างภูมิใจในฝีเท้าของตนก่อนจะตะโกนถามชาร์กที่ทุ่มเท พละกำลังในการว่ายนํ้าอย่างมุ่งมั่นไม่ต่างจากฉลามกำลังล่าเหยื่อ แต่ความเร็ว ในการว่ายนํ้าของชาร์กยังห่างจากความเร็วในการบินของฮอว์ค และฝีเท้าของ

ไทเกอร์อยู่หลายขุมนัก

‘ว่ายนํ้าชมปลาเหรอชาร์ก ชิลไปหน่อยไหม ฉันไปก่อนละ’ ไทเกอร์

เย้าแหย่ แกล้งยั่วโมโหชาร์กที่ดูจะจริงจังกับการประลองครั้งนี้กว่าใคร เพราะ

ที่ผ่านๆ มา ชาร์กครองตำแหน่งบ๊วยมาโดยตลอด

ชาร์กไม่ต่อความ แต่พยายามออกแรงว่ายให้เร็วขึ้น พลางควงคทา ปะการังเรียกคลื่นให้ม้วนตัวผลักด้นเขาให้ทะยานไปเร็วกว่าเดิม แต่ดูเหมือน

เจ้าคทานี้จะทำงานไม่ได้ดังใจ เสียงโห่ร้องอย่างคึกคะนองจากฮอว์คกับไทเกอร์ ที่กำลังจะถึงจุดหมายทำให้ชาร์กรู้ว่าครั้งนี้เขาก็คงจะได้ที่โหล่อีกเช่นเคยอย่าง

ไม่ต้องสงสัย

‘อย่ามามั่ว เห็นชัดๆ ว่าฉันคว้าธงนี้ได้ก่อน’ ฮอว์คโวยวายลั่นเมื่อ

ไทเกอร์จะแย่งธงจากมือ

‘ไม่จริง นายมันขี้โกง เห็นอยู่ว่าฉันเอื้อมหยิบได้ก่อน ยังแย่งไปหน้าตา เฉย’ ไทเกอร์พูดพลางส่ายหน้าด้วยความระอา

ฮอว์คกับไทเกอร์มักจะเถียงกันเสมอตั้งแต่เด็กๆ จนถึงวันนี้ที่เติบโต

เป็นหนุ่มก็ยังไม่ยอมลดราวาศอกกันเสียที แต่กับชาร์กแล้วดูเหมือนฮอว์คออก

จะเกรงใจนิดๆ ไม่ค่อยจะกล้าแหย็มหรือกวนอารมณ์สักเท่าไร

ในที่สุดชาร์กก็ปีนขึ้นไปยังหน้าผาซึ่งเป็นจุดที่ปักธงสีแดงอันเป็น เป้าหมายแห่งการประลองครั้งนี้เป็นคนสุดท้ายอย่างที่ผ่านมา

‘อ้าว ชาร์ก นายโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ นึกว่ามัวแต่ไปจีบนางเงือกจน

ลืมแข่งเสียแล้ว’ ฮอว์คแซวชาร์กเมื่อเห็นว่าหายไปเสียนานกว่าจะมาถึง

‘ฮอว์ค นายนี่มันคิดแต่เรื่องผู้หญิงอกตู้มอยู่เรื่องเดียวจริงๆ เลยนะ

นี่ยังไม่เลิกคลั่งอีกเหรอ ทั้งที่ผู้หญิงตัวจริงของนายอกแบนราบราวกับมือถือ

ระบบสัมผัส’ ไทเกอร์เอ่ยถึงเนตรนภา แฟนสาว'ของฮอว์คที่ร่างเล็ก ไม่มีส่วน

โค้งเว้าเร้าใจเหมือนสาว'ไนอุดมคติของฮอว์คที่ต้องมีหน้าอกสะบึ้ม สะโพก

ผายละม้ายแม่วัวพันธุดี แต่อย่างว่า คนเราไม1ชอบอะไรก็มักได้อย่างนั้น

ไทเกอร์ฉวยโอกาสที่ฮอว์คกำลังกระฟัดกระเฟียดแย่งธงมาจนได้

‘พวกนายจะเล่นกันแบบนี้อีกนานไหม โน่น แบรดกำลังมาแล้ว’ ชาร์ก ปรามสองหนุ่มพลางมองไปยังแบรดที่กำลังบินมายังผาแห่งนี้ ชายหนุ่มทั้งสาม พากันเงียบเสียงและยืนเรียงแถวด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม

สายตาของชาร์กมองตรงไปยังแบรดที่กำลังร่อนลงหน้าผา แบรดยัง ดูหล่อเหลาและอ่อนเยาว์เสมอ

แม่มักพูดเสมอว่า พวกเขาสามคนพี่น้องได้รับการถ่ายทอดลักษณะ

เด่นบางประการจากแบรดกันคนละอย่าง ฮอว์คไดใบหูเหลี่ยมกับจมูกที่ตั้ง

เป็นลัน ไทเกอรฺได้กรอบหน้าที่มีสันกรามชัดได้รูป ทำให้มีใบหน้าหล่อเหลา

กว่าบรรดาพี่น้องทุกคน ส่วนชาร์กได้ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตที่ฉายแววลํ้าลึก

และอ่านยากเช่นเดียวกับแบรด หากเอาพวกเขาทั้งสามคนมารวมกันก็จะ

 

โคลนนิงออกมาเป็นแบรดได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน

แบรดเปลือยอกท่อนบนเผยให้เห็นแผงอกและหน้าท้องที่แข็งแรง

สวมกางเกงผ้าเนื้อบางที่ท่าให้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว

วันนี้แบรดดูจริงจังกว่าเคย แววตาของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่า

ไม่มีเวลาเล่นสนุกเหมือนการฝึกครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา แบรดสั่งให้พวกเขาทั้ง สามคนแต่งกายแบบเดียวกันเมื่อฝึกภาคสนาม คนที่อิดออดไม1ยอมถอดเสื้อ

ก็คือฮอว์ค เพราะไม่อยากให้ใครเห็นปานสีดำที่กลางหลัง เมื่อแบรดสั่งด้วย

นํ้าเสียงจริงจัง ฮอว์คจึงจำต้องปฏิบัติตามทั้งที่ไม1เต็มใจ ดังนั้นหากมีใครผ่าน มายังหน้าผาแห่งนี้ก็อาจตกตะลึงเมื่อเห็นเทพบุตรจำแลงถึงสี่ตนด้วยกัน

‘ตกลงใครเป็นคนถึงเส้นชัยก่อน’ แบรดยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงถามขึ้น

แต่ไม่มีเสียงตอบจากพวกเขาทั้งสามคน มีแต่เสียงลมทะเลหวีดหวิวเสียดสี

กับกิ่งไม้ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบนั้น

‘ผมมาถึงก่อน’ ฮอว์คเป็นคนแรกที่ประกาศชัยชนะ

‘ไม่จริง ผมต่างหากที่มาถึงที่นี่เป็นคนแรก’ ไทเกอร์พูดพลางโชว์ธงซึ่ง

เป็นหลักฐานแห่งชัยชนะครั้งนี้ ก่อนที่ฮอว์คจะแย้งอะไรขึ้นมา แบรดก็หันไป

ถามชาว์กที่ยืนนิ่งๆ ไม่พูดอะไร

‘แล้วเธอล่ะ มาถึงเป็นคนที่เท่าไหร่’ ชาว์กไม่ตอบและผินหน้าไปอีกทาง อันที่จริงแบรดไม่จำเป็นต้องถามคำถามนี้เลยด้วยซํ้า เพราะแบรดรู้ทุกอย่าง

อยู่แล้ว

‘เอาละ ไม1ต้องเถียงกัน ใครชนะไม1สำคัญ ฉันอยากรู้ว่าพวกเธอคิดว่า ชัยชนะที่แท้จริงคืออะไร’ คำถามของแบรดท่าให้ชายใหญ่ทั้งสามอึ้ง มองหน้า กันเลิ่กลั่ก

‘แบรด พวกเราไม1มีใครเรียนปรัชญาหรอกนะครับ ไม1รู้จะตอบให้มัน เท่ๆ ได้ยังไง เอาเป็นว่าใครมาถึงก่อน คนนั้นก็ชนะนั่นแหละ จริงไหม’ ฮอว์ค

ตอบ ชาว์กกับไทเกอว์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

‘หากพวกเธอคิดแบบนี้ ก็ไม่มีวันชนะ จำเอาไว้ พวกเธอเกิดมาเพื่อ

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับ)

รายละเอียด

เมื่อแวมไพร์อสูรปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเหล่าแวมไพร์อารยะจึงต้องลุกขึ้นมากำจัดชาร์ก หนึ่งในแวมไพร์อารยะผู้ได้รับพรสวรรค์จากมหาสมุทรจึงต้องฝึกหนักและค้นหาพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ของเขาให้พบโดยเร็ว ระหว่างนั้นชาร์กได้พบกับวิราเธอทำให้เขาค้นพบพลังที่ซ่อนเร้นโดยบังเอิญและเธอมีจุดประสงค์ที่สอดคล้องกับภารกิจของเขาทั้งสองจึงร่วมมือกันปราบแวมไพร์อสูรท่ามกลางความน่าสะพรึงกลัวแห่งท้องน้ำมีเพียงความแข็งแกร่งและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของแวมไพร์อารยะที่จะธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขแห่งมหาสมุทร


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024