ยากล่อมใจในคืนฝัน (ไนเอรุและเทราสเฟียร์)

ยากล่อมใจในคืนฝัน (ไนเอรุและเทราสเฟียร์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160008124
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 220.00 บาท 55.00 บาท
ประหยัด: 165.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

นี่มันเรื่องพิลึกน่าตลกสิ้นดี...

จิตติขยับแว่นให้เข้าที่ ก่อนจะคลิกรีเฟรช ตอนนี้มีคนเข้ามาตอบ

กระทู้กว่า ๓๐๐ ความคิดเห็นเข้าให้แล้ว เขายิ้มนิดๆ ก็ใครล่ะจะไม่อินกับ

เรื่องโศกพรรค์นี้

นางสาว ก. (นามสมมุติ) ผู้ตั้งกระทู้ เป็นเด็กสาวอนาคตไกล

ทำงานเป็นนักบัญชีอยู่ในธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง เธอตกหลุมรักเจ้านาย

ที่ทำงานด้วยกัน และผูกสัมพันธ์ต่อเนื่องทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีภรรยากับบุตร

อยู่แล้ว ฝ่ายชายก็ปรนเปรอทุกอย่างให้ ทั้งบ้าน รถ และเงินสด แถมยัง

สัญญิงสัญญาว่าจะหย่าภรรยามาแต่งงานกับเธอด้วย

สาวน้อยผู้น่าสงสารคนนั้นเชื่ออย่างสุดหัวจิตหัวใจ เพราะเธอ

หลงรักเขาเข้าเต็มประตู จนใครๆ ก็ตำหนิเธอได้ไม่เต็มปากเต็มคำ ทั้งคู่มี

สัมพันธ์ลับๆ อยู่ ๒ ปี จนกระทั่งเธอตั้งท้อง ฝ่ายชายจึงตัดรอนเธอด้วย

เหตุผลว่าภรรยาเขารู้เรื่องทั้งหมดและขู่จะฟ้องหย่า แล้วเอาลูกไปเลี้ยง

คนเดียว เขาคนนั้นลาออกจากธนาคารแล้วย้ายบ้านหนีไปไหนสักที่ เธอ

จึงติดต่อเขาไม่ได้อีกเลย

เธอได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญเพราะเขาไม่ยอมเจอหน้า จนถึงขั้น

พยายามฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่สำเร็จ ตอนนี้เธอต้องการทำแท้งแต่ก็ลังเลใจ

อยู่ จึงโพสต์ถามในเว็บบอร์ดว่าควรทำอย่างไรดี

กระทู้ของเธอเขียนด้วยภาษาง่ายๆ สะกดผิดบ้าง ใช้คำผิดความ

หมายบ้าง แถมยังไม่ปะติดปะต่อ คนอ่านคงเชื่อว่าเธอเขียนกระทู้โดย

ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน และต้องการความช่วยเหลืออย่างด่วนจริงๆ

ถ้อยคำแสดงน้ำใจไหลท่วมกระทู้ หลายคนบอกให้เธอตัดใจทำแท้ง

เสีย ด้วยกลัวว่าเด็กอาจคลอดออกมาพิการเพราะการพยายามฆ่าตัวตาย

และความเครียดของแม่ อีกหลายคนบอกให้เธออดทนคลอดออกมาและ

เลี้ยงดูเด็ก บางคนด่ากราดถึงผู้ชายทุกคนบนโลก แต่ไม่มีใครสักคน

ย้อนถามว่า “นี่มันเรื่องจริงหรือเปล่า” ถ้ามองโลกในแง่ดี ก็คงดูน่าประทับใจ

ที่ทุกคนอยากช่วยเหลือคนแปลกหน้าคนหนึ่ง แต่หากมองในแง่ร้ายหน่อย

ละก็ คนตอบก็คงแค่อยากมีส่วนร่วมแสดงละครน้ำเน่าในฉากชีวิตจริงเท่านั้น

จิตตินึกขัน ‘ความเมตตาแบบไทยๆ’ เสียเหลือเกิน เขากดรีเฟรช

อีกครั้ง แล้วพบว่าความคิดเห็นทะลุไปถึง ๓๕๐ ความคิดเห็นแล้ว เขา

หัวเราะเสียงดัง เพราะรู้ดีว่านางสาว ก. ไม่มีตัวตนอยู่จริงเลย เธอเป็นแค่

ตัวละครที่เขาแต่งขึ้นมาเอง เขาวางแผนเขียนเรื่องนี้เมื่อปลายสัปดาห์ที่

ผ่านมา โดยใช้โน้ตบุ๊กต่ออินเทอร์เน็ตผ่านไวร์เลสของที่ทำงาน เท่านี้คน

กว่า ๓๐๐ คนก็ไม่เฉลียวใจเลยว่า ชะตากรรมแสนเศร้าเคล้าน้ำตาของ

นางสาว ก. นั้นเป็นเพียงเรื่องสมมุติ

เขารู้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ตอบกระทู้เป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก ใช้

ชีวิตธรรมดาหนากิเลสอยู่โลกภายนอก แต่พอเข้ามาอยู่ในไซเบอร์สเปซ

ก็จำแลงองค์ลงเป็นเทวดานางฟ้าผู้พิทักษ์ความดี ความงาม ความจริง

หรืออะไรพรรค์นั้น ที่พร้อมจะช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากทุกเมื่อ ทั้งที่

นางสาว ก. คงเป็นได้แค่เมียน้อยหน้าด้านที่ไม่มีใครคิดจะเห็นใจในโลก

แห่งความเป็นจริง เรื่องของเธอก็เป็นเรื่องอื้อฉาวผิดศีลธรรม ถ้าเธอคิดจะ

ไปทำแท้งจริงๆ ก็จะมีแต่เสียงด่าไล่หลังว่ามันเป็นความผิดที่ไปยุ่งกับสามีชาวบ้านเอง

แต่ไม่มีความคิดเห็นสักความคิดเห็นเดียวที่กล้าเอ่ยคำแบบนั้นออก

มา หรือแม้แต่จะถามว่านี่มันเรื่องจริงหรือไม่ ทุกคนล้วนไม่อยากกลายเป็น

คนขวางโลก จระเข้ขวางคลอง ขัดคอเหล่านางฟ้าเทวดาที่คอยโปรยความ

เห็นใจลงมา เพราะถ้าเอ่ยเรื่องพวกนั้นออกมาสักนิด ก็เตรียมถูกประณาม

หยามเหยียดว่าไร้น้ำใจ หรือมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ นี่คือผลสรุป

พฤติกรรมของมนุษย์ในสังคมอินเทอร์เน็ตแบบไม่ต้องหาผลทดลองทาง

วิทยาศาสตร์ใดๆ มาอ้างอิง จิตติพบว่าเรื่องแบบนี้สนุกดีไม่น้อยเลย

นพ. จิตติ ศิวกรตระกูล จิตแพทย์หนุ่มมีชีวิตซึ่งชายหนุ่มแทบ

ทุกคนในประเทศไทยถวิลหา พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ และ

คุณสมบัติ เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลอัครมหาเศรษฐีเชื้อสายจีนที่เป็น

เจ้าของอสังหาริมทรัพย์มูลค่ามหาศาลกลางกรุง รวมถึงคอนโดมิเนียมทั้ง

หลังที่เขาพักอยู่แถวสีลม จบปริญญาเอกจากสหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญด้าน

จิตเภทเป็นพิเศษ มีผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นานาชาติชื่อดัง

หลายฉบับ แถมด้วยตำแหน่งเกียรติคุณอีกมากมายชนิดที่ชายวัย ๓๕ ปีทั่วไปไม่อาจมีได้

แต่มีอะไรบางอย่างขาดหายไปจากมนุษย์สมบูรณ์แบบคนนี้...ความ

รัก ไม่ใช่แบบที่นิยายปกสวยเล่มละ ๒๐๐ บาทโดยประมาณพรรณนา-

โวหารไว้อย่างหยดย้อย เขาไม่เคยรักใครสักคน ทั้งยังไม่เคยเห็นความ

จำเป็นที่จะต้องไปตามหารักแท้ แน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็นหนุ่มบริสุทธิ์

ผุดผ่อง เขาเคยควงสาวๆ คบกันชั่วครั้งชั่วคราว ก็แค่ไม่รู้สึกชื่นชมเรื่อง

รักๆ ใคร่ๆ เท่านั้นเอง

รสนิยมทางเพศของเขาออกไปในทางไร้เพศ ยิ้มร่ารับข่าวลือใน

ที่ทำงานซึ่งหาว่าเขาเป็นพวกไบเซ็กชวล เพราะเขาคิดว่าจะปฏิเสธหรือไม่

ก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละ โดยเฉพาะพวกสาวๆ ที่ชอบซุบซิบให้ได้ยินว่าเขา

อาจมีอะไรกับหมอหนุ่มๆ ที่ร่วมงานกัน และเขาก็พบว่าบางส่วนของเขา

พึงใจเพศชายอยู่บ้างในระหว่างการวิเคราะห์ตนเอง (จะอธิบายความหมาย

ของคำนี้ต่อไปภายหลัง) อย่างไรก็ตาม ความพึงใจนั้นมีแค่เล็กน้อยและ

แฝงไว้ด้วยความริษยา เขาคิดว่ามันเป็นแค่ผลข้างเคียงของการวิเคราะห์

ตนเอง เขาไม่เคยหลงรักเพศชายจริงๆ จังๆ

แล้วการวิเคราะห์ตนเองคืออะไร?

อธิบายสั้นๆ คือ ชื่อที่จิตติใช้เรียกงานอดิเรกในการสังเกตวิธีการ

แสดงออก รู้สึก และปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันของผู้คนรอบตัว

เขาทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุโสที่สถาบันจิตวิทยาการแพทย์ (เขา

เกลียดชื่อตำแหน่งนี้มาก เพราะเขาไม่ได้ ‘อาวุโส’ อย่างชื่อนั้น และพาน

ให้คนอื่นเข้าใจว่าคนที่ดำรงตำแหน่งนี้ต้อง ‘อาวุโส’) อุปสรรคสำคัญที่สุด

ในอาชีพของเขาคืออคติของคนไทยต่อจิตแพทย์และวิชาจิตเวช เขาพบ

ผู้ป่วยอาการหนักถึงขั้นฟื้นฟูไม่ไหวบ่อยครั้ง เพราะทางครอบครัวทนรับว่า

มี ‘คนบ้า’ อยู่ในบ้านไม่ได้ จึงไม่ยอมพามาตรวจรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ปล่อย

ให้อาการเพียบหนักจนไร้หนทางเยียวยา พูดอีกทีงานของเขาก็เหมือนกับ

สัปเหร่อ ไม่มีใครอยากถ่อสังขารไปหาสัปเหร่อจนถึงเวลาถูกคนอื่นหาม

สังขารลงโลงไปหาเอง

แล้วเขาจะดำเนินงานวิจัยต่อได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีกรณีศึกษาดีๆ

มาให้ตรวจเหมือนสมัยอยู่อเมริกา นี่คือสาเหตุที่ทำให้เขาคิดค้นกระบวน-

การ ‘วิเคราะห์ตนเอง’ โดยสวมบทเป็นบุคคลสมมุติ แต่งเรื่องขึ้นมาพร้อม

ปัญหาทางจิต แล้วสังเกตปฏิกิริยาโต้ตอบ แน่นอนว่าเขาไม่ทำมันจริงๆ ใน

ชีวิตประจำวัน แต่เป็นที่ที่ความลวงผสานกับความจริงอย่างแนบเนียนเป็น

โลกจำลองสมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างเหตุการณ์จำลองเพื่อ ‘วิเคราะห์

ตนเอง’ ที่ที่เขาสามารถปกปิดตัวตนไว้ไม่ให้ใครรู้...อินเทอร์เน็ต

ปีที่แล้วเพื่อนชาวอเมริกันขอร้องให้เขาเขียนบทความลงวารสาร

วิชาการเกี่ยวกับสภาพจิตของวัยรุ่นไทย ตอนแรกจิตติคิดจะเขียนเรื่องการ

ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แต่เขาพบว่ามันใช้เวลาและความพยายามมากเกิน

ไป ดังนั้นเขาจึงเริ่มท่องไปในไซเบอร์สเปซ ซึ่งทำให้ระลึกถึงโลกวัยรุ่นที่เขา

หลงลืมมันไปนานแล้ว

สุดท้ายเขาก็พบห้องแชตลามก และปลอมตัวเป็นเด็กสาว ม.ปลาย

เพราะคิดว่าการเป็นเหยื่อนั้นน่าสนใจและง่ายกว่า เขาแนะนำตัวและบอก

พวกเด็กๆ ในห้องแชตที่อายุไม่น่าจะถึงยี่สิบกันเลยสักคนว่า เธอกำลัง

มองหาคนที่จะเพลิดเพลินแก้เหงากับเธอได้ในค่ำคืนนั้น ไม่นานนักผู้ชาย

คนหนึ่ง (เท่าที่เขาเปิดเผยไว้ในโลกออนไลน์) ก็เข้ามาเจ๊าะแจ๊ะในหน้าต่าง

ส่วนตัวสักครู่ แล้วบอกให้เธอถอดเสื้อผ้าออกพร้อมกับเปิดเว็บแคม

เขาชาดิกไปทั้งตัว ไม่ใช่เพราะตกใจแบบพวกข้าราชการหัวเก่าตาม

กระทรวงวัฒนธรรมจะตกใจ แค่งุนงงว่าเพียงเขาพิมพ์คำพูดแบบหญิงๆ

ที่ลักจำมาจากแม่กับแฟนเก่านิดๆ หน่อยๆ ชายคนที่เพิ่งเจอในอินเทอร์-

เน็ตก็เชื่อเอาจริงๆ จังๆ ว่าเขาเป็นสาวน้อยที่พร้อมจะเปลื้องเสื้อผ้าของตัวออกได้

เขาไม่ได้ออฟไลน์ทันที ยังล่อหลอกให้ชายคนนั้นรอเรื่อง ‘พิเศษๆ’

ขณะที่คนคนนั้นคิดฟุ้งซ่านว่า สาวน้อยกำลังจะออกมาพบเพื่อหลับนอน

ด้วยกัน จิตติปิดหน้าต่างห้องแชต เพราะนี่ก็เป็นเวลานอนของเด็กดีแล้ว

เขาคิดว่ามันเป็นเกมที่น่าสนุกดี และเขาก็ได้ชัยชนะ ทิ้งให้ชายคนนั้นนั่ง

หัวใจสลาย...จิตติหลงใหลความรู้สึกนี้เข้าให้แล้ว

จากนั้นเรื่องราวของการวิเคราะห์ตนเองก็เริ่มขึ้น เขาเขียนบทความ

วิชาการเสร็จเรียบร้อย แต่ไม่ได้เลิกเล่นละครบนเวทีไซเบอร์ เริ่มเสพติด

มัน และหัวใจเขาพองฟูทุกครั้งเมื่อกระทู้มีผู้ตอบถึง ๓๐๐ ความคิดเห็น

เขาคงแค่อยากสวมรอยเป็นใครสักคน ไม่ใช่จิตแพทย์หนุ่มคนสำคัญ แต่

เป็นวัยรุ่นอกหัก แม่บ้านที่มองหาฝรั่งสักคนมาอุปถัมภ์เพื่อแบ่งเบาภาระ

การเงินของครอบครัว หรืออาจารย์ผู้สิ้นหวังเพราะหลงรักนักเรียนตัวเอง

ตอนแรกการโกหกเป็นเรื่องยาก ไปๆ มาๆ เรื่องแต่งก็สมจริงเข้า

ทุกที เขาทำทุกอย่างเพื่อสร้างเรื่องให้เหมือนจริง อ่านนิยายรักหวานแหวว

หาวิธีพูดคุยแบบวัยรุ่น อ่านนิตยสาร คู่สร้างคู่สม เพื่อหาประสบการณ์

แบบแม่บ้านๆ แม้กระทั่งใช้กรณีศึกษาจากผู้ป่วยในการดูแลของตัวเอง

แล้วเปลี่ยนเรื่องนิดๆ หน่อยๆ เท่าที่จะไม่ละเมิดชีวิตจริงของพวกเขา ทุก

กระทู้ฮิตติดอันดับกระทู้แนะนำทุกครั้งที่โพสต์ เขาชอบและหลงใหลการ

ล้อเล่นกับความสงสารของผู้คน ถ้าใครจับได้ก็แค่ยักไหล่แล้วโพสต์ลงไป

ว่า ผมทำไปเพื่อการศึกษาวิจัย

จิตติกดรีเฟรชอีกครั้งแล้วกดเซฟเพจไฟล์กระทู้ และเขียนสรุปเรื่องราวสำหรับวันนี้

 

ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณจริงๆ ฉันไม่ยอมแพ้แล้วค่ะ ฉันจะอดทน

เลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยนี้ด้วยตัวเอง ขอบคุณความช่วยเหลือ ความคิดเห็นของ

พวกพี่ๆ ทุกคนนะคะ ฉันรู้สึกดีจริงๆ

 

แล้วเรื่องก็ดำเนินต่อไป นางสาว ก. ต้องตอบขอบคุณสินะ จิตติ

ปิดคอมพิวเตอร์แล้วหันกลับไปทำงาน

 

ผู้ป่วยรายแรกวันนี้ บอกว่าตัวเองอายุ ๕๖ ปี มีอาการภาพหลอนจาก

สารเสพติดและแอลกอฮอล์ จิตตินั่งตรงหน้าผู้ป่วยที่จ้องตาจิตแพทย์หนุ่ม

แล้วระเบิดโทสะออกมาด้วยสำเนียงทองแดง

“หม้อ ผ้มไม่ได้บ้า มันจับผ้มมากะเอาซ่มบัติ ผ้มไม่ได้บ้าทีรึ”

จิตติงงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินภาษาปักษ์ใต้ แต่พอเข้าใจอารมณ์ได้จากน้ำเสียง

“ใจเย็นๆ นะครับคุณลุง หมอรู้ว่าคุณลุงไม่ได้บ้า หมอเชื่อทุกเรื่องที่

คุณลุงเล่ามานะครับ ตอนนี้หมออยากจะถามอะไรคุณลุงสักหน่อย แค่

สองสามเรื่องเท่านั้นแหละ เสร็จแล้วหมอก็จะเขียนรายงานดีๆ ให้นะครับ”

ปกติการตรวจจะเริ่มด้วยการพูดคุยเพื่อสร้างความเชื่อใจระหว่าง

แพทย์กับผู้ป่วย จิตติวางปากกาแล้วถามชายชราถึงเรื่องราวของเขาเองตั้งแต่เริ่มต้น

ผู้ป่วยเริ่มเล่าประวัติชีวิตตัวเอง เขาเกิดที่นครศรีธรรมราช เป็นชาว

ประมงอยู่ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ร่วมต่อสู้ปกป้องอธิปไตยของชาติจากทหารญี่ปุ่น

“ไอ้พวกญี่ปุ่นบาดลวกมันควักดาบซามูไรออกมา แต่ผ้มไม่ขี้ขลาด

ไหร ผ้มสู้เพื่อบ้านเมืองผ้ม ในหลวงทรงพระเจริญ!”

ชายชราตะโกนเสียงดังลั่นห้องตรวจ แต่เหตุดังกล่าวถือเป็น

อาชญากรรมเมื่อไทยเข้าร่วมวงศ์ไพบูลย์มหาเอเชียบูรพากับญี่ปุ่น เขาต้อง

หนีอาญาแผ่นดินออกทะเลด้วยเรือประมงลำน้อย ร่อนเร่ไปทั่วทั้งอ่าวไทย

ดำรงชีพอยู่ได้ด้วยปลาดิบๆ ที่ตกจากท้องทะเล วันหนึ่งเมื่อใกล้จะอดตาย

เต็มที เขาเหลือบเห็นแสงทองอร่ามฉายมาจากทางขอบฟ้า เขาคัดท้ายเรือ

ไปหาแสงนั้น และได้พบซากเรือสำเภาจีนโบราณที่บรรทุกขุมสมบัติ ทั้ง

ทองคำและทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ เขาขึ้นฝั่งพร้อมกับทรัพย์สินมหาศาลที่

ทำให้กลายเป็นมหาเศรษฐีในทันใด

เขาแต่งงานกับสาวงามที่ร่ำลือกันว่าสวยที่สุดในทั่วทั้งหัวเมืองปักษ์ใต้

ผู้ป่วยยังเล่าต่อไปว่าชาติก่อนเป็นทหารเสือคู่ใจพระเจ้าตากสินมหาราช

เขากลับชาติมาเกิดใต้เบื้องพระยุคลบาทพระมหากษัตริย์ เพื่อคอยปกป้อง

ผืนแผ่นดินไทยจากอริราชศัตรูทุกชาติไป เพราะไทยเป็นแผ่นดินทองขององค์ราชัน

“ตามใจใครแหละ ถ้าอีมายึด ต้องข้ามศพผ้มไปก่อน” เขาโอ่ด้วยน้ำเสียงภาคภูมิ

เรื่องอีกทางหนึ่งจากคำบอกเล่าของครอบครัวผู้ป่วยมีดังนี้ จริงอยู่

                               (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

จิตแพทย์หนุ่มผู้พรั่งพร้อมด้วยรูปสมบัติและคุณสมบัติ แต่มีบางอย่างขาดหายไป... เด็กสาวผู้งดงาม แต่มีอดีตอันเลวร้าย ทำให้ไม่ยอมพูดกับใคร เขากับเธอต่างมีบาดแผลในใจและความลับที่เปิดเผยต่ออีกฝ่ายไม่ได้... จิตติรับทัตตวาเป็นคนไข้เนื่องจากเธอไม่ได้เป็นใบ้แต่ไม่ยอมพูด เขาทดลองทำทุกอย่างแต่ทัตตวาก็ไม่ยอมเอ่ยสักคำ ทำให้เขาต้องการสืบหาอดีตที่เธอซ่อนไว้อย่างมิดชิด เขามักระบายอารมณ์ผ่าน การวิเคราะห์ตนเอง ในโลกไซเบอร์โดยแต่งเรื่องหลอกลวงว่าตนเป็นหญิงสาวผู้น่าสงสารเพื่อให้ผู้คนแสดงความเห็นใจ เขาสรุปว่าคนเหล่านั้นเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก ขณะที่แสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา ราวกับเทวดานางฟ้ามาโปรด แต่ตัวตนในโลกความจริงก็ประณามเขาไม่มีชิ้นดี กระทั่งเขาได้แชตกับ เรคต์ ซึ่งฉลาดเหลือร้าย สามารถจับได้ว่าจิตติโกหก เรคต์ปั่นหัวเขาด้วยอารมณ์ขันแกมทะลึ่ง และคอยช่วยจิตติค้นหาความลับอันดำมืดในอดีตของทัตตวา แต่ยิ่งค้นจิตติก็พบว่าเบื้องหลังการไม่ยอมพูดของทัตตวาน่ากลัวเพียงไร เรื่องราวของเธอสะกิดบาดแผลในใจเขาเช่นกัน ในที่สุดจิตติก็รู้ตัวว่าเขาไม่ได้ช่วยเหลือเธอจริงๆ แต่กลับทำร้ายเธอโดยไม่รู้ตัว เขาสับสนระหว่างต้องการเหนี่ยวรั้งเธอไว้หรือผลักเธอออกไปจากชีวิต ขณะเดียวกันก็หวั่นไหวไปกับถ้อยคำของเรคต์ จนคิดว่าตัวเองคงชอบเพศเดียวกัน


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024