บ้านไร่ปลายฝัน : ธาราหิมาลัย (ณารา)

บ้านไร่ปลายฝัน : ธาราหิมาลัย (ณารา)

3 รีวิว  3 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786115000111
ผู้แต่ง: ณารา
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 290.00 บาท 72.50 บาท
ประหยัด: 217.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

“พระองค์หล่อจริงๆ ดูสิ” เสียงผู้หญิงข้างตัวแหลมปรี๊ด พูดราชาศัพท์ผิดๆ ถูกๆ ด้วยไม่เคยใช้ในชีวิตประจำวัน หากยังอยากพูดต่อ

“วุ้ย พระเนตรคมกริบอย่างกับมีดโกน ถ้าไปอยู่ใกล้ ๆ รับรองถูกบาดเป็นริ้ว ๆ แต่แป๋มยอมตายยยย...”

แป๋ม หรือปรียานุช พยาบาลสาวที่กำลังชมโฉมชองชายผู้หนึ่งในหนังสือ- พิมพ์ทำหน้าเคลิ้มฝัน แพทย์หญิงทิพย์ธาราซึ่งสนิทสนมกับพยาบาลสาวผู้นี้ เนื่องจากเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาตั้งแต่อนุบาล ได้ยินก็อดหัวเราะไม่ได้ “จมูกโด๊งโด่ง ปากเป็นรูปกระจับ ผิวก็ค้าวชาว ไม่เห็นด่าเหมือนแขก อื่นๆ หล่อเนอะนํ้าเนอะ” ปรียานุชตื่นเต้นจนใช้ราชาศัพท์บ้างไม่ใช้บ้าง แล้วก็ริบ ยื่นภาพบนหนังสือพิมพ์ให้เธอดู ด้วยเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน จึงเรียกเพียง ชื่อเล่นชองอีกฝ่ายเมื่ออยู่กันตามลำพัง หากปรียานุชจะให้เกียรติเพื่อนด้วย การเรียกเธอว่าคุณหมอเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นทุกครั้ง

ทิพย์ธาราชะโงกหน้ามอง อดยอมรับไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้หล่อเหลา จริง ๆ ผมชองเขาเป็นคลื่นดกหนา ตัดเป็นระเบียบ ใบหน้ามีไรหนวดเคราครึ้ม ในชุดสูทสง่างาม ร่างชองเขาสูงกว่านายกรัฐมนตรีชองไทยหลายนิ้วจนต้องก้ม ตัวลงมายามจับมือ

ณ เวลานี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนในประเทศที่ไม่รู้จักเจ้าชายที่อ่านชื่อเป็น ภาษาไทยว่า ภูวเนศ (Bhuvanesh) มกุฎราชกุมารแห่งประเทศปารวัตร ที่เสด็จ มาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทย รวมถึงทิพย์ธาราที่ได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ ชองพระองค์ทางหน้าจอโทรทัศน์ตั้งแต่วันที่เสด็จมาถึงประเทศไทยเมื่อหลาย วันก่อน รวมไปถึงภาพบนหนังสือพิมพ์ที่นายกรัฐมนตรีกำลังทำหน้าที่เจ้าภาพ ในการจัดงานเลี้ยงรับรองเมื่อคืนก่อน

“อืม ก็หล่อดี” ทิพย์ธาราพยักพเยิดเอาใจเพื่อน หากไม่ใช่คนชอบเพ้อฝัน จึงไม่เก็บภาพความหล่อเหลามาให้รกสมอง แต่ถ้าไม่ดูเดี๋ยวคนอื่นจะหาว่า ตกข่าว ด้งนั้นเธอจำต้องอัพเดตข่าวใหม่ๆ เสมอ

“ใครว่าหล่อดี หล่อจนแทบจะชาดใจตายมากกว่า เฮ้อ...เสียดาย ท่าน ไม่เสด็จมาสระบุรีไม่อย่างนั้นฉันจะไปคอยต้อนริบ”

ทิพย์ธาราหัวเราะเบา ๆ ชำเพื่อนที่ไม่ตัดสินใจว่าจะใช้ราชาศัพท์หรือจะ ไม่ใช้ดี ทำคนฟังงงไปเหมือนกัน

“พระองค์เสด็จชอนแก่น เธอจะไปเฝ้ารับเสด็จก็ได้นี่ แค่ชอนแก่น

นี่เอง”

“นั่นสินะ” ปรียานุชตาโต ก่อนทำหน้าเซ็งๆ “ว้าเสียดาย...น้ำไปด้วยไม่ได้ เพราะต้องไปสัมมนาที่เชียงใหม่”

“เธอต้องหาคนอื่นแล้วละ คงมีสาว ๆ อีกหลายคนแหละที่อยากเฝ้า รับเสด็จเหมือนกัน” ทิพย์ธาราหัวเราะเบา ๆ ก่อนรีบกระซิบบอก เปลี่ยนเรื่อง เมื่อมองนาฬิกาบนฝาผนัง ซึ่งใกล้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว “อย่าลืมที่บอก’ไว้ล่ะ ถ้า เจอไฟมารับ ก็บอกว่าฉันกลับบ้านไปแล้ว ไม่งั้นไม่ใครสักคนจะได้ตะลุยไปเฝ้า ฉันที่เชียงใหม่แน่ๆ”

ปรียานุชพยักหน้าอย่างกริ่งเกรง...ไม่แน่ใจว่าจะโกหกได้แนบเนียนแค่ ไหน โดยเฉพาะคนหล่อ ๆ เธอมักจะไร้แรงต้านทาน...ด้วยพี่ชายชองทิพย์ธารา ทั้งสามคนนั้นหล่อเหลาแทบชาดใจเข่นกัน สามหนุ่มสามมุม คนละบุคลิก แต่ ไม่ว่าคนไหน เธอก็หัวใจละลายทุกครั้งที่เห็น

อัคนีหรือไฟ เป็นผู้ชายห่าม ๆ สมกับเป็นโคบาลเลี้ยงรัว ผิวชองเขาคล้ำ

กว่าทุกคนเพราะต้องอยู่กลางแดดทั้งวัน และชอบมัดผมที่ยาวประบ่าลวกๆ ดู แล้วหล่อแบบเถื่อนๆ ไดใจ ขณะที่ปฐพีหรือดิน เป็นคนเงียบขรึม มักพูดด้วย สายตาเสียเป็นส่วนใหญ่ ผิวของเขาค่อนข้างขาวกว่าพี่น้องคนอื่นเพราะดูแลงาน ในรีสอร์ต คนนี้หล่อแบบเนี้ยบ สง่างาม

ส่วนวายุภัคหรือลม หล่อที่สุดในบรรดาหนุ่มทั้งสาม เป็นคนที่มีชีวิตชีวา ที่สุดเพราะเขามักจะมีรอยยิ้มหวานๆ โปรยหว่านเสน่ห์มาให้เสมอ หากปรียานุช ไม่เคยหลงไปกับรอยยิ้มนั้น เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ และรู้ว่าเขาเป็น เพลย์บอยตัวจริง มีแฟนจนแทบนับไม่ถ้วน ช่างลมเพลมพัดลมชื่อจริงๆ ไม่เคย แวะที่ไหนได้นาน...ปรียานุชส่ายหน้า คนนี้หล่อราวกับเทพบุตร แต่เธอขอบาย กระนั้น ทั้งสามก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ความหวงน้องสาวราวกับ จงอางหวงไข่ เธอไม่เคยเห็นใครที่จะทั้งรักและหวงน้องสาวมากจนแทบกระดิก กระเดี้ยตัวไปไหนไม่ได้ แม้แต่บิดาและมารดาของทิพย์ธารายังไม่หวงลูกสาวถึง เพียงนี้เลย

“แล้วถ้าเขากลับบ้านไม่เจอเธอล่ะ จะทำยังไง” ปรียานุชถาม “เธอก็ไม่ต้องทำยังไง กลับบ้านไปตามปกติ ถ้าเขาตามไปถามก็บอกไม่รู้ เรื่อง” ทิพย์ธาราเตรียมพร้อมไว้เสร็จสรรพ

“ก็หวังว่าพี่ชายของเธอจะยอมง่าย ๆ อย่างที่พูดก็แล้วกัน” ปริยานุชทำ เสียงขึ้นจมูก เห็นทีเธอจะต้องริบชิ่งกลับบ้านทันทีที่ทิพย์ธาราออกเดินทางไป สนามบิน จะได้ไม่ต้องมารับหน้าอัคนีจอมเลือดร้อนคนนั้น

“เอาละ ใกล้ถึงเวลาแล้ว ฉันจะติดรถหมอณัฐไปกรุงเทพฯ ไฟตามหาฉัน ไม่เจอแน่” ทิพย์ธารากระหยิ่มยิ้มย่อง เรียกชื่อเล่นของณภัทรหลังจากได้พูดคุย กันมาแล้วหลายครั้ง

“ตกลง คนนี้เหรอที่เธอเล็ง ๆ ไว้”

ปรียานุชกระซิบถามเบา ๆ เรื่องความ กังวลเกี่ยวกับการแต่งงานของทิพย์ธารา มีเพียงเธอคนเดียวที่พอจะเดาออก เพราะหลายครั้งที่ได้ยินคุณหมอเปรย ๆ ออกมาว่าอายุมากแล้ว เธอก็เห็น'ทิพย์- ธาราลองเปิดโอกาสให้หนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบหลายคนหากไม่มีใครทนพี่ชายทั้งสาม ของหญิงสาวได้เกินเดือนต้องล่าถอยกันหมด และดูเหมือนนายแพทย์คนใหม่ ของโรงพยาบาลจะเป็นคนหนึ่งที่ทิพย์ธาราคิดว่าเหมาะสม และคิดจะเปิดไฟ

เขียวให้เขาเป็นรายต่อไป

“อย่าพูดไปสิ” ทิพย์ธาราค้อนเพื่อนสาวน้อย ๆ “ใครได้ยินเข้าจะเสียหายหมด”

“จ้า ๆ ๆ ไม่พูดไม่พูด เอาเป็นว่าฉันช่วยเชียร์ขาดใจ คนนี้ก็ดี น่ารัก เหมือนโนบิตะ ดูเรียบร้อยดี” ปรียานุชวิจารณ์

“เธอนี่” ทิพย์ธาราอดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อได้ยินคำเปรียบเทียบในซีรีส์เกาหลีมากกว่า”

“ก็จริง ว่าแต่พระเอกซีรีส์เกาหลีมีสักกี่คนที่หล่อ ไม่รู้ว่าอีตาคนสร้าง เสือกมาได้ยังไง ยกเว้นเบยองจุนของฉัน” อีกครั้งที่ปรียานุชทำหน้าตกอยู่ใน ความฝันอีกครั้ง “ส่วนคุณหมอ ก็พอเข้าข่ายเหมือนพระเอกที่หล่อพอใช้ได้”

“เอาเถอะ ๆ” ทิพย์ธารารีบตัดบท เพราะใกล้เวลาเต็มทีแล้ว อีกทั้งเพื่อน สาวชองเธอสามารถคุยได้ทุกเรื่อง ยิ่งชีรีส์เกาหลีที่ชี่นชอบ สามารถคุยข้ามรัน ไม่จบ เพื่อนสาวชองเธอก็ตกที่นิ่งเดียวกัน อายุใกล้จะสามสิบแล้วแต่ยังไม่ได้ แต่งงาน เรียกว่าเป็นเพียงสองสาวในห้องเรียนที่ยังโสด ขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ ทยอยแต่งงาน มาคลอดที่โรงพยาบาล หรืออุ้มลูกๆ มาหาหมอแล้ว

และทุกครั้งที่เจอเพื่อนๆ คำถามแรกที่ได้ยินคือ ‘มีแฟนหรือยัง’ หรือ ‘เมื่อไหร่จะมีแฟน มันช่างเป็นคำพดแสลงและทิ่มแทงใจดำเหลือเกินรอบๆ ตัวเลย

ส่วนเธอนั้นไม่หลงรูปหรือละเมอเพ้อพกกับพวกดารา เพราะรู้ว่ามันเป็น เพียงความฝันที่เป็นไปไม่ได้ จึงต้องการเพียงแค่คนที่คิดว่าจะเข้าใจกันได้ดี มี ฐานะและหน้าตาทางสังคมทัดเทียมกันเท่านั้นก็พอ และที่สำคัญ เขาผู้นั้นจะต้อง มีความสามารถพิเศษ ด้วยการอดทนต่อการกลั่นแกล้งชองพี่ชายทั้งสามชอง เธอไปได้ตลอดรอดฝั่ง หรืออย่างน้อยก็น่าจะทำลายสถิติเก่าที่อดีตหมอคนหนึ่งเคยมาจีบ ที่ทำไว้สามอาทิตย์

“ฉันไปละ แล้วเจอกันอาทิตย์หน้า” ทิพย์ธาราหยิบกระเป๋าซึ่งยืมมาจาก เพื่อนสาว ขณะที่ข้าวของภายในเธอต้องแอบหอบชุกช่อนใส่กระเป๋าถือออก จากบ้านมาวันละชุดเพี่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตของพี่ ๆ ที่ขับรถมาส่งทุกวัน

“โชคดี ขอให้คุณหมอโนบิตะเขาเออออห่อหมกด้วยก็แล้วกัน” ปรียานุช โบกมือให้เพื่อนที่หิ้วกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกไปที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล เธอเดินตามหลังไป เห็นนายแพทย์ณภัทรมารออยู่แล้ว จึงโบกมือรํ่าลาอีกครั้ง พอทิพย์ธาราก้าวขึ้นรถไป เธอกำลังจะหมุนตัวกลับก็เห็นรถจี๊ปฃองอัคนีเลี้ยว เข้ามาในบริเวณ

ปรียานุชตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ เธอรีบมองไปทางทิพย์ธาราที่ก้ม หลบวูบทันทีที่เห็นสิ่งเดียวกัน แล้วเธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อเห็นรถของนายแพทย์ณภัทรเลี้ยวออกไปจากโรงพยาบาล และถึงเวลาที่เธอจะต้องชิ่งแล้วเหมือนกัน!

ปรียานุชกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปเก็บข้าวของส่วนตัว ก่อนจะรีบเดินไปที่รถ

ญี่ปุ่นคันกระจิ๋วที่จอดไว้หลังตึก แล้วบึ่งออกไปทันที และหวังว่าคืนนี้ทั้งสามเทพ- บุตรคงไม่ไปลุยเธอถึงที่บ้าน หรือว่าเธอควรจะหอบผ้าไปพักอยู่กับญาติตลอด เสาร์อาทิตย์ จนกว่าทิพย์ธาราจะกลับมา ไม่เช่นนั้นเธอจะต้องถูกสามหนุ่มนั่น รุมกดดันจนเผลอพูดความจริงออกมาอย่างแน่นอน

“นํ้าทำอะไรน่ะ” ณภัทรถามหญิงสาวข้างตัว เมื่อเห็นเธอก้มศีรษะลง ซบกับหัวเช่า เขาเรียกชื่อเล่นของเธอเหมือนแพทย์คนอื่นๆ ที่โรงพยาบาลเมื่อ รู้ว่าเธอเป็นรุ่นน้องของเขาหลายปี

“ไม่มีอะไร รีบ ๆ ขับรถออกไปค่ะพี่ณัฐ เร็วๆ เข้า”

“ครับ ๆ” ณภัทรทำตามอย่างงง ๆ แตกขับออกไปแต่โดยดี แล้วก็เห็น ทิพย์ธาราค่อย ๆ ยกศีรษะขึ้นมาเพี่อมองฝานหน้าต่าง ก่อนจะเอี้ยวตัวเหลียว มองไปทางด้านหลัง

“มีใครตามนั้นมาอย่างรั้นหรือครับ” เขาถามขึ้นอีกครั้ง ชักรู้สึกหวาด ๆ ว่าจะเป็นแฟน หรือบิดาของหญิงสาว เพราะเขายังไม่อยากมีเรื่องกับใคร

“เอ่อไม่มีค่ะ...เอ่อ...จะบอกยังไงดีล่ะ...” ทิพย์ธาราพึมพำกับตัวเองก่อน ตัดสินใจเล่า เพราะไม่ช้าก็เร็ว เขาจะต้องรู้ความจริงอยู่ดี “คืออย่างงี้ค่ะ นํ้า มีพี่'ชายฝาแฝดสามคน ชื่อว่า ดิน ลม ไฟ”

“แฝดสี่ !” ณภัทรอุทานเสียงดัง ไม่คิดว่าจะหญิงสาวช้างตัวจะเป็นหนึ่ง ในเด็กแฝดสี่ชึ่งหาได้ยากมากในสถานการณ์ปกติ

“ใช่ค่ะ แฝดสี่ นํ้าเป็นคนสุดท้อง ทั้งที่เกิดห่างกันแค่ไม่กี่นาทีแต่พวกเขา

ก็มักตั้งตัวเป็นพี่ๆ คอยดูแลนํ้ามาตลอด คนที่ขับรถจี๊ปเช้ามาเมื่อกี้ชื่อไฟค่ะ เขา มา'รับ,นํ้ากลับบ้าน”

“อ้าว เขาไม่รู้หรอกหรือครับว่านํ้าจะไปสัมมนาที่เชียงใหม่”

คนถูกถามส่ายหน้าช้า ๆ หากไม่รู้สึกผิดสักนิดที่ไม่ได้บอกพี่ชาย

“ทุกครั้งที่ไปสัมมนาหรือต้องไปค้างที่ไหน สามคนนี้จะจัดเวรกันไปเฝ้า น้ำาด้วยค่ะ”

“โอ้...จริงหรือครับ” คนฟังตกใจ ไม่คิดว่าจะมีพี่ชายคนไหนทำถึงเพียงนี้ “จริงค่ะ พี่ณัฐเพิ่งมาอยู่ที่นี่ เลยไม่รู้ว่าพวกเขาอาการหนักขนาดไหน”

คนฟังชักใจสั่นจึงถามออกไปอย่างหวาดๆ “แล้วเขาจะ ตามน้ำไปไหมเนี่ย”

“ถ้ารู้ก็คงตาม แต่ถ้าไม่รู้ กลับมาก็หาสำสีมาอุดหูเอาไว้กันหูชา” ทิพย์- ธาราหัวเราะเบาๆ มองโลกในแง่ดีไว้ก่อน เพราะโดนบ่นคงแค่เบาะๆ ถ้าหนักๆ ทั้งสามคนคงรุมตะคอกเธอจนหัวหดเลยทีเดียว “แต่พี่ณัฐไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ

เขาตามมาไม่ถูกหรอก เพราะน้ำไม่ได้บอกใครว่าเราจะไปสัมมนาที่ไหน”

“ครับ” คนฟังถอนหายใจด้วยความโล่งอก...เริ่มชั่งใจ...ระหว่างคุณหมอ สาวใบหน้าสวยสะ กับพี่'ชายสามคน'ของเธอ...ว่าตาชั่งจะเอนเอียงไปช้างไหน...

ณภัทรเพิ่งย้ายมาประจำที่นี่ได้ไม่ถึงเดือนหลังเรียนจบเฉพาะทาง ศัลยแพทย์ประสาทและเดินทางไปเรียนหลักสูตรเพิ่มเติมที่ประเทศแคนาดา แล้วจึงมาประจำที่โรงพยาบาลใหญ่ของสระบุรี เมื่อได้เจอทิพย์ธาราครั้งแรกเขา ก็เรียกว่าเกิดอาการปงเธอขึ้นมาทันที ด้วยหญิงสาวรูปร่างเล็กนั้นมีใบหน้าหวาน งดงาม ปากนิด จมูกหน่อยน่าเอ็นดู ที่สำคัญเธอมีดวงตาสวยโดดเด่นที่สุดบน ใบหน้า มันกลมโตและหางตาตวัดขึ้นราวกับดวงตาของกวางสาว ขนตาของเธอ ก็ดกหนาเป็นแพ เวลาช้อนตามองเขาแต่ละที แทบทำให้หัวใจหนุ่มหลอมละลาย รู้จักเธอครั้งแรก เขาแปลกใจเหลือเกินว่าคนสวยแบบนี้ ทำไมถึงไม่มีใคร สนใจจะจีบ ทั้ง ๆ ที่โรงพยาบาลก็มีหมอหนุ่มโสดตั้งหลายคน แตกคิดเช้าช้าง ตัวเองว่าดีแล้วที่ไม่มีคู่แข่ง และเขายังไม่มีโอกาสได้เริ่มจีบเธอ จนกระทั้งรู้ว่า โรงพยาบาลส่งเขาไปร่วมสัมมนาที่เชียงใหม่พร้อมกับทิพย์ธารา เขาก็ตั้งใจจะใช้ โอกาสนี้เพี่อเริ่มต้นเสียที และจากที่ได้พูดคุยกันสองสามครั้ง เขาก็เห็นเธอเปิด ไฟเชียวให้ตลอดทาง...จนมาได้ยินว่าเธอมีพี่ชายฝาแฝดถึงสามคน...ที่หวงและ ห่วงน้องสาวถึงขั้นผลัดกันขับรถมารับส่ง และจะตามไปเฝ้าเธอถึงเชียงใหม่... ความมั่นใจของเขาค่อย ๆ ลดลงไป มีความลังเลแทรกเช้ามา

หรือเป็นเพราะสาเหตุนี้ที่ทำให้หนุ่ม ๆ พากันหลีกหนีเธอ ทั้งที่เธอมี คุณสมบัติของกุลสตรีครบถ้วน ทั้งสวย ทั้งฉลาด มาจากครอบครัวที่มีหน้ามีตา ในสังคม เหมาะสมที่จะเป็นเพชรเม็ดงามมาประดับเรือนแหวนยิ่งนัก

ณภัทรครุ่นคิด...ก่อนอื่น เขาจะต้องศึกษาดูใจกับคุณหมอสาวเป็นอันดับ แรก หากคิดว่าเช้าอกเช้าใจกันได้ จากนั้นค่อยคิดกันต่อไปว่าจะพูดคุยกับญาติผู้ใหญ่ของเธอยังไง

แพทย์หนุ่มยิ้มให้หญิงสาวช้างตัว ที่ดูจะร่าเริงกว่าปกติหลังรถแล่นออก จากตัวจังหวัดและกำลังทุ่งทะยานเช้าสู่กรุงเทพฯ เธอหันมายิ้มกว้างตอบเขา... หัวใจหนุ่มพองโต...ไม่ผิดแน่แล้วว่าเธอกำลังเปิดไฟเชียวฝานตลอด ถ้าเขาไม่รุก ตอนนี้ ก็คงจะซื่อบื้อเกินไปแล้ว

อัคนีเดินตามหาน้องสาวจนแทบจะพลิกโรงพยาบาล แม้กระทั่งห้องไอชียูซึ่งหลายครั้งที่เธอต้องมาเช้าเวร แต่ก็ไม่เห็นวี่แวว จึงลงไปให้ประชาสัมพันธ์

ประกาศเรียกอยู่นานสองนานก็ไม่ลงมาจนรู้สึกร้อนใจ รีบโทรหาปฐพีและรายงานอย่างรวดเร็ว

“น้ำไม่อยู่ที่โรงพยาบาล หายไปไหนก็ไม่รู้ ถามใครก็ไม่มีใครรู้เรื่องเลย”

อัคนีบอกเสียงเครียด

“แล้วเจอแป๋มหรือเปล่า” ปลายสายถาม

“ไม่เจอ หายไปเหมือนกัน”

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

โชคชะตาชักพาให้แพทย์หญิงทิพย์ธารา ลูกสาวคนเล็กและคนเดียวในบรรดาแฝดสี่แห่งไร่อดิศวรรังสรรค์ ต้องมาดูแลภูวเนศ คนไข้ที่ถูกทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำ เพราะความสงสาร เธอจึงให้เขาไปทำงานในไร่ของพี่ชาย ความรักของทั้งสองก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ โดยพี่ชายจอมแสบทั้งสามที่หวงน้องสาวสุดชีวิตก็ไม่ระแคะระคาย หากอุปสรรคความแตกต่างระหว่างชนชั้นที่คิดว่าเขาเป็นเพียงคนงานในไร่ กลับเป็นเรื่องเล็กไปถนัดใจเมื่อคนไข้นิรนามของเธอเป็นถึงเจ้าชายรัชทายาทแห่งปารวัตร หญิงต่างชาติอย่างทิพย์ธาราจะสามารถแหวกม่านประเพณีของปารวัตรเพื่อครองคู่ชายที่เธอรักได้อย่างไร


รีวิว (3)

เขียนรีวิว

์Nattiez | 3 รีวิว
19/01/2015

นวนิยายชุดบ้านไร่ปลายฝัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับแฝดสี่แห่งบ้านไร่อดิศวรคือ ดิน ลม ไฟ และน้ำ เรื่องราวนอกจากจะเล่าถึงความรักระหว่างพี่น้องและครอบครัวอดิศวรแล้ว ยังกล่าวถึงความรักของแต่ละคนอีกด้วย นิยายเล่มแรกในชุดนี้คือ “ธาราหิมาลัย” เป็นความรักของน้องสาวสุดท้องของบ้านคือ “น้ำ” หรือแพทย์หญิงทิพย์ธารา หมอน้ำเป็นน้องสาวที่พี่ชายทั้งสามคนคือ ดิน ลม และ ไฟ หวงมาก ไม่ว่าใครจะเข้ามาจีบน้องสาว จะต้องเจอกับสามหนุ่มคอยกีดกันอยู่เสมอ เมื่อหมอน้ำต้องรับดูแลคนไข้คนหนึ่งที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส และต้องพามาอยู่ที่ไร่เพราะไม่สามารถสืบหาได้ว่าเขาคือใคร ความรักของหมอน้ำจึงเริ่มต้นขึ้น โดยไม่รู้เลยว่าคนไข้คนนั้นคือเจ้าชายภูวเนศแห่งประเทศปารวัตร การดำเนินเรื่องก็เหมือนนิยายชวนฝันเรื่องอื่น ๆ ที่ชายผู้สูงศักดิ์ปลอมตัวมา และจำเป็นต้องกลับไปชิงบัลลังก์คืน โดยได้รับความช่วยเหลือจากหญิงสาวที่ตนรัก และต้องพิสูจน์รักแท้กันและกัน เจ้าชายยอมสละราชสมบัติเพื่อความรัก สิ่งที่ทำให้นิยายเรื่องนี้โดดเด่น อยู่ที่การแสดงให้เห็นถึงความรักของคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ครอบครัวก็เป็นที่พึ่งให้เราได้เสมอ ดูตัวอย่างได้จากหมอน้ำที่เจอเรื่องราวต่าง ๆ ก็ได้ครอบครัวเป็นที่พักใจ รวมไปถึงความรัก ความช่วยเหลือระหว่างพี่น้อง ที่ไม่ว่าจะตกระกำลำบาก หรือต้องทำอะไร พวกเขาก็ยินดีและเต็มใจช่วยเหลือกันและกันเสมอ สำหรับคนที่ชอบอ่านนิยายโรแมนซ์ชวนฝัน ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้เช่นกัน สำนวนการเขียนของณารานั้นไว้ใจได้เสมอ แต่อาจจะไม่เหมาะกับน้อง ๆ อายุน้อยกว่า 18 นะคะ เพราะฉากวาบหวิวในเรื่องผู้เขียนก็บรรยายไว้ซะละเอียดเกิน 55
SCR. | 3 รีวิว
01/12/2014

เริ่มเรื่องกันด้วยเรื่องของหมอน้ำค่ะ หญิงสาวที่อายุน้อยที่สุดในบ้าน (สักกี่วินาทีกันนะ) และพี่ชายทุกคนหวงมากจนถึงขั้นกีดกันผู้ชายที่เข้ามายุ่งด้วยเกือบทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งหมอณัฐ ทีมีทีท่าเหมือนจะพยายามเข้ามาตีสนิทกับน้ำ จนกระทั่งวันหนึ่งหมอน้ำได้รับคนไข้ที่เป็นใครมาจากไหนไม่รู้ แต่ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสมาก เมื่อฟื้นขึ้นมาก็ได้แต่บอกว่าตัวเองเป็นเจ้าชายแห่งปารวัตร เธอทั้งขำทั้งไม่เชื่อ ได้แต่สงสารคนไข้รายนี้ เมื่อเค้ายังไม่มีที่ไป เธอจึงได้ให้เค้าอยู่อาศัยในฐานะคนงานเป็นใบ้คนหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อความจริงทั้งหมดได้รับการเปิดเผยโดยตัวของเจ้าชายเองว่าเค้าถูกทำร้ายมา (ชอบจัง ปกติเห็นชอบปิดบังความจริงกันนัก เจ้าชายนี่อยากจะพิสูจน์ตัวเองตลอดเลย) จากที่เคยคิดว่าตัวเองสูงกว่า กลับต่ำศักดิ์กว่ามาก ความรักของทั้งคู่ค้ำราชบัลลังก์ของป่ารวัตรอยู่ เพราะเจ้าชายมิอาจมีพระมเหสีได้เพียงแค่คนเดียว สุดท้ายหลังจากที่ทุกอย่างจบลง เจ้าชายเลือกที่จะสละยศศักดิ์เพื่อมาใช้ชีวิตคู่กับเธอที่ประเทศไทย อ่านจบแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจมากค่ะ ทึ่งในตัวเจ้าชายที่ทำทุกอย่างได้เพื่อความรัก และคงรักหมอน้ำมากถึงยอมทุกอย่าง อ่านแล้วก็รู้สึกดีใจแทนหมอน้ำเหมือนกันค่ะ เจ้าชายเป็นคนพูดจริงทำจริง หมอน้ำเองก็เป็นคนจริงเหมือนกัน เมื่อเลือกไม่ได้ก็จะไม่ยอมอยู่ในฐานะเมียหลวง อ่านแล้วประทับใจมาก ๆ ค่ะ เป็นนิยายที่อยู่เหนือความเป็นจริงที่ทำออกมาได้สมบูรณ์มาก
ฐาปนัส | 3 รีวิว
10/07/2014

ผู้เขียน ณารา สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ จำนวนหน้าหนังสือ 480 หน้า หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือเล่มแรกของผู้แต่ง "ณารา" ที่ผมอ่านครับ และผมก็อ่านหนังสือเล่มนี้ หลังจากที่ดูละครจบครับ ผมอยากจะบอกว่า ในหนังสือกับในละครต่างกันมากเลย ละครเพียงแต่นำเค้าโครงหนังสือไปใช้ครับ ซึ่งผมว่าก็ถูกอยู่นะ เพราะในหนังสือนี้ ติดเรทไปก็เกือบ 10 แผ่นแล้ว จะเอาไปทำละครก็คงจะไม่เหมาะสมครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน หรือคนที่เคยอ่านแต่ลืมไปแล้ว หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของเจ้าชายหนุ่มที่ถูกทำร้ายโดยกลุ่มกบฎ และถูกส่งตัวมารักษาประเทศไทยโดยลับ ๆ ครับ โชคชะตาทำให้เค้าได้พบกับแพทย์หญิงทิพย์ธารา อดิศวร ลูกสาวคนเล็กของตระกูลอดิศวร จากพี่น้องฝาแฝดทั้ง 4 คน ซึ่งเธอถูกพี่ชายทั้ง 3 ทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เธอมีคู่ครอง และด้วยความสงสารของเธอที่หลงเชื่อว่าเจ้าชายหนุ่มเป็นคนยากไร้ที่ความจำเสื่อม จึงได้รับไปทำงานในไร่ของพี่ชาย จากนั้นเรื่องราวกุ๊กกิ๊กก็เกิดขึ้น และเมื่อความจริงเปิดเผย (โดยเจ้าชายเอง) ว่าเค้าเป็นถึงเจ้าชายภูวเนศ เจ้าชายแห่งประเทศปารวัตร หนุ่มในฝันของสาว ๆ หลายคน ความรักของทั้งคู่จึงมีอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย และด้วยความเป็นหญิงไทย เป็นหญิงต่างชาติในสายตาของราชาและราชินีแห่งปารวัตร การจะผ่านอุปสรรคนี้ไป แค่ความรักย่างเดียวจะเพียงพอหรือไม่ ? จริง ๆ ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะไม่ค่อยสนุกนะครับ จากสายตาของผู้ชาย แต่จริง ๆ แล้วเรื่องที่ไม่ค่อยสนุกเลยคือเรื่อง "ปฐพีเล่ห์รัก" (ซึ่งผมจะเขียนในหนังสือเล่มนั้นครับ) เรื่องนี้ก็ค่อนข้างดีครับ เป็นความรักระหว่างชนชั้นที่อาจจะเห็นได้บ่อย ๆ (แต่ที่ประทับใจจริง ๆ มีน้อยครับ) นางเอก หมอน้ำเป็นคนน่ารักที่เกือบจะต้องขึ้นคานเพราะฝีมือพี่ชายทั้ง 3 คน ผมว่าจริง ๆ คิมเบอร์รี่ก็แสดงดีนะ ดูเป็นหมอน้ำจริง ๆ เลย เลยค่อนข้างชอบคาแร็กเตอร์ตัวละครนี้ครับ หมอน้ำเป็นผู้หญิงที่รักเดียวใจเดียว แม้จะรู้ว่ายากที่จะแหวกม่านประเพณี เธอก็ยังจะทำอย่างสุดความสามารถครับ และเธอเชื่อว่าความรักจะเอาชนะทุกอย่างได้ เจ้าชายภูวเนศ ผมว่าคาแร็กเตอร์นี้เหมือนมีแค่ 2 มิติเลย คือมิติที่เรียกว่าขี้เก๊กกับหื่นครับ ยิ่งพอมีฉากแบบนั้นกับนางเอกแล้ว ไม่หยุดเลยดีกว่า คอยแต่จะทำนางเอกไปยันจบเรื่องเลยครับ แต่เรื่องขี้เก๊กนี่ให้อภัยได้ เพราะเป็นเจ้าชาย อาจจะต้องมีมาดตลอดเวลาครับ ส่วน 3 พี่น้อง ดิน ลม ไฟ นี่ก็กวนจนไม่รู้จะกวนยังไง แต่ผมชอบนายไฟมากกว่า เลยขอยกให้เป็นพระรองในเรื่องนี้ไปเลยครับ อะไรจะเถื่อนขนาดนั้น แต่จริง ๆ ก็ต้องยอมรับว่าหนังสือเน้นไปที่นายลมมากกว่า เพราะครึ่งหลัง ๆ นางเอกให้พระเอกไปพักอยู่ที่ไร่องุ่นของนายลม ก่อนที่จะกลับไปปารวัตรครับ จริง ๆ ผมได้ยินชื่อโครงการ "บ้านไร่ปลายฝัน" นี้มานานแล้ว ยังไม่เข้าใจว่าจะผูกเรื่องกันได้อย่างไร ที่ผ่านมาเห็นแต่นิยายของคุณกิ่งฉัตรชุด "สามทหารเสือสาว" ครับ ที่นำตัวละครมาผูกโยงกัน เมื่ออ่านแล้วก็พบว่า เขียนได้ดีมากครับ ดีจนไม่เชื่อว่าเป็นนักเขียนหน้าใหม่เลย อันนี้ขอชื่นชมจริง ๆ ครับ แต่ขอหักคะแนนเรื่องอย่างว่าที่เห็นภาพพจน์ชัดเกิน ผู้ใหญ่อ่านคงไม่คิดอะไร แต่ถ้าวัยรุ่นอ่านสิครับ ผมละนึกไม่ออกเลย

สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024