ปาริมา ราชินีไอยคุปต์ (มัลลิกา)

ปาริมา ราชินีไอยคุปต์ (มัลลิกา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160004270
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 300.00 บาท 75.00 บาท
ประหยัด: 225.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

                                        ข่าวร้าย

 

“ปาริมา”

เสียงทุ้มลึกแผ่วเบานั้นดึงให้เจ้าของชื่อหันกลับมา เธอเป็นหญิงสาว

รูปร่างเล็กบอบบางทว่าคงสัดส่วนของอิสตรีงดงาม ผิวขาวเนียนละเอียด

ดวงหน้ารูปไข่เรียวมน นวลแก้มปลั่งแต้มด้วยลักยิ้มน่ารัก จมูกโด่งเล็ก

รับกับริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อ

‘ที่นี่ที่ไหน’ คิ้วเรียวสีน้ำตาลเข้มขมวดมุ่น ดวงตากลมโตสีเขียว

สดใสราวมรกตน้ำงามกวาดมองไปรอบๆ แม่น้ำสีน้ำเงิน สายลมเย็น

สดชื่น กอหญ้าแปลกตาชูก้านไสว ฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายรื่นเริง สถานที่

สวยงามเช่นนี้ยังมีอยู่อีกหรือ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ...ตัวเธอมาอยู่ที่นี่

ได้ยังไง

“ปาริมา”

เสียงทุ้มลึกแผ่วเบาดังขึ้นอีกครั้ง เธอรีบหันไปมองก่อนจะเบิกตา

ด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวมเครื่องแต่งกาย

แปลกตายืนหันหลังอยู่ริมแม่น้ำ เขามีผิวสีทองแดง เรือนผมดำขลับ

เหยียดตรงถึงกลางหลัง ช่วงไหล่กว้างเปล่าเปลือย ท่อนขายาวแข็งแรง

ดูผึ่งผายแบบนักรบโบราณ

“คุณเป็นใครคะ” เธอเดินเข้าไปหา ค่อนข้างแน่ใจว่าไม่เคยเห็นเขา

มาก่อน เพราะผู้ชายลักษณะเช่นนี้หากหญิงใดได้พบคงยากจะลืมเลือน

“ทำไมคุณรู้จักชื่อ...” คำถามของเธอหยุดค้างอยู่ในลำคอเมื่อ

ชายหนุ่มในชุดแปลกตาหมุนตัวกลับมา ใบหน้านั้นแม้ไม่ได้หล่อเหลา

เช่นดาราฮอลลีวูด แต่กลับสะกดหญิงสาวไว้แน่นิ่งด้วยเสน่ห์บุรุษเพศ

ทั้งดวงหน้าคมเข้ม เรือนร่างกำยำ และดวงตากร้าวแกร่งทรงอำนาจ

“เมื่อกี้คุณเรียกฉันเหรอคะ” เธอเอ่ยถามพลางมองเครื่องแต่งกาย

ของเขา เขาสวมผ้านุ่งยาวเสมอหัวเข่าจับจีบรอบตัวคาดทับด้วยเข็มขัด

เส้นใหญ่ฝังอัญมณีหลากสี ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าอวดแผงอก

สีทองแดงหนั่นแน่น

‘โอ้...เขาแต่งตัวเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดบนผนังวิหารเลย’

“ใช่ ข้าเรียกเจ้า” ในที่สุดเขาก็เอ่ยวาจาโต้ตอบเธอ

“เราเคยรู้จักกันมาก่อนเหรอคะ” เธอถามด้วยความสงสัย แล้วก็

ได้คำตอบชวนสงสัยยิ่งขึ้นกลับมา

“อีกไม่นานปาริมา”

“ไม่นาน? หมายความว่ายังไงคะ” เธอเอ่ยถาม

ชายหนุ่มไม่ตอบ เขายิ้มแล้วเดินจากไป เธอวิ่งตามแต่เขากลับเดิน

เร็วขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะหายไปในม่านหมอก

“เดี๋ยวสิคุณ อย่าเพิ่งไป...”

“อย่าเพิ่งไป!”

ปาริมาลุกพรวดขึ้นยืน คำพูดนั้นยังติดริมฝีปากอยู่ไม่คลาย ความ

ฝันเมื่อครู่ช่างเหมือนจริงจนน่าตกใจ แต่ยังไม่เท่าความรู้สึกอาลัยอาวรณ์

ในเวลานี้ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ทำไมเธอถึงรู้สึกผูกพันกับเขาเหลือเกิน

ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อรู้สึกว่าถูกจ้อง

มองจากรอบด้าน เธอเหลือบตามองไปรอบๆ แล้วค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่ง

อย่างอายๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่ากำลังสอบวิชาสุดท้ายก่อนจบปริญญาตรี

“ขอโทษค่ะ” เธอส่งรอยยิ้มขออภัยเพื่อนๆ ก่อนจะเงยหน้ามอง

อาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าห้อง

“เป็นอะไรของเธอปาริมา ผีเข้าหรือไง” อาจารย์ประจำวิชาตวาด

ถามน้ำเสียงขุ่นเคือง

“เปล่าค่ะอาจารย์ หนูแค่ฝันไปค่ะ” เธอตอบเสียงอ่อยพลางยิ้ม

แหยๆ

“เธอคิดว่าที่นี่เป็นห้องนอนหรือไงปาริมา นอนหลับในห้องสอบแล้ว

ยังละเมอเสียงดังรบกวนเพื่อนอีก เธอเห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง”

“เปล่าค่ะ หนูไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยนะคะ เมื่อคืนนี้หนูนอนดึกไป

หน่อย พอทำข้อสอบเสร็จเลยเผลอหลับไป คราวหลังหนูไม่กล้าทำแล้ว

ค่ะอาจารย์” เธอละล่ำละลักขอโทษ

“รู้ว่าจะสอบทำไมไม่รีบเข้านอน” อาจารย์คลายความโกรธแต่

น้ำเสียงยังเจือความขุ่นเคืองอยู่

“หนูอ่านจดหมายของพ่อค่ะ” เธอตอบตามจริงแต่เหมือนกวน

อารมณ์โกรธของอาจารย์ขึ้นมาอีกจึงหลบตาก้มมองมือตัวเอง

“พ่อเธอส่งวิทยานิพนธ์มาให้หรือไงถึงได้อ่านจนไม่ได้หลับได้นอน

ถึงพ่อของเธอจะเคยเป็นอาจารย์ของครูมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่า

ครูจะให้เธอสอบตกไม่ได้นะปาริมา” อาจารย์ลากเสียงยาวอย่างข่มขู่

“หนูขอโทษค่ะ หนูผิดไปแล้ว” เธอกะพริบตาปริบๆ พยายามทำตัว

ให้น่าสงสารเข้าไว้ และสุดท้ายก็ได้ผล อาจารย์ใจอ่อนจนได้

“ทำข้อสอบเสร็จแล้วก็เอามาส่ง จะได้กลับไปนอนต่อที่บ้าน”

“ค่ะอาจารย์”

ปาริมากุลีกุจอลุกขึ้นเดินไปส่งข้อสอบแล้วออกจากห้องไปทันที

ชีวิตนักศึกษาของเธอสิ้นสุดลงแล้ว แม้การสอบวิชาสุดท้ายจะมีชายหนุ่ม

แปลกหน้ามาก่อกวนในฝันแต่เธอก็ไม่โกรธเขาหรอก เพราะเธอกำลังดีใจ

ที่จะได้บินลัดฟ้าไปช่วยบิดาทำงานที่ตนรักในหุบผากษัตริย์

‘พ่อขา อีกไม่นานเราจะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะคะ’

 

เสียงหัวเราะของเพื่อนสนิทดังขึ้นทันทีที่ปาริมาเล่าจบ และทำท่า

จะดังต่อเนื่องไปอีกนานถ้าเธอไม่ส่งสายตาขุ่นเขียวไปปรามเสียก่อน

อรวราหรือน้ำหวานนับว่าเป็นเพื่อนคนแรกของเธอในเมืองไทยตั้งแต่เธอ

กับบิดาย้ายมาอยู่ประเทศไทยตามคำสั่งเสียของมารดาที่ต้องการให้ลูกสาว

คนเดียวเติบโตบนแผ่นดินแม่

บิดาส่งเธอเข้าเรียนในโรงเรียนสตรีมัธยมแห่งหนึ่ง ส่วนตัวท่าน

สมัครเข้าเป็นอาจารย์พิเศษประจำคณะโบราณคดีในมหาวิทยาลัยที่เธอ

ศึกษาอยู่ตอนนี้ ด้วยความที่เกิดและเติบโตในต่างแดนทำให้เธอเข้ากับ

เพื่อนใหม่ไม่ค่อยได้ แรกๆ ปาริมารู้สึกโดดเดี่ยวและอ้างว้างจนแอบ

ร้องไห้อยู่บ่อยๆ แต่พอได้รู้จักน้ำหวานทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เพื่อนคนนี้

สดใสร่าเริงหัวเราะได้ตลอดเวลาแม้บางครั้งจะผิดกาลเทศะไปบ้างก็ตาม

“เธอนี่สุดยอดจริงๆ แก้ม นอนหลับในห้องสอบไม่พอ ยังละเมอ

เสียงดังให้อาจารย์ด่าอีก” อรวราพูดกลั้วหัวเราะด้วยความขบขัน อาจารย์

วัลภาขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดที่สุด แค่หาวในเวลาเรียนยังถูกลงโทษให้

ทำรายงาน แล้วนี่ถึงกับนอนละเมอในห้องสอบแบบนี้ ถ้าอาจารย์ไม่โมโห

จนควันออกหูก็แปลกแล้ว

“ฉันไม่ได้เล่าให้เธอฟังเพื่อให้เธอมาหัวเราะเยาะฉันนะน้ำหวาน”

ปาริมาเอ่ยเสียงขุ่น เธออุตส่าห์เล่าความฝันแปลกประหลาดให้เพื่อนฟัง

แทนที่เพื่อนรักจะให้คำปรึกษากลับมาหัวเราะที่เธอถูกอาจารย์ดุใน

ห้องสอบ

“ขอโทษ มันอดไม่ได้จริงๆ” อรวรายกมือปิดปากตัวเองแต่เสียง

หัวเราะก็ยังลอดออกมาอยู่ดี

“ถ้าเธออดไม่ได้ฉันกลับก่อนนะ” เธอลุกขึ้นยืนคว้ากระเป๋ามา

สะพายไหล่

“โอ๋ๆ อย่าเพิ่งงอนสิ ฉันไม่หัวเราะแล้ว” อรวราร้องห้ามแต่ยังยิ้ม

ไม่หุบ ปาริมามองหน้าเพื่อนแล้วเอ่ยอย่างเคืองๆ

“นี่นะไม่หัวเราะ”

“โอเคไม่หัวเราะแล้ว” ผู้เป็นเพื่อนสูดหายใจเฮือกใหญ่แล้วเปลี่ยน

ท่าทางเป็นเคร่งขรึม “มาพูดเรื่องความฝันของเธอดีกว่า ฉันว่าเธออ่าน

รายงานของพ่อมากไปเลยเก็บไปฝัน ไม่ต้องกลุ้มใจไปหรอก”

“ตอนแรกฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่หลังจากที่ได้แหวนวงนี้

มาฉันฝันเห็นเขาทุกครั้งที่หลับเลยนะ” เธอถอดสร้อยคอที่มีแหวนคล้อง

อยู่ส่งให้เพื่อนสาว

อรวรารับไปดูด้วยความสนใจ มันเป็นแหวนทองคำวงใหญ่ หัวแหวน

ทำจากหินสีฟ้าครามเป็นรูปเหยี่ยวกางปีกบินอย่างสง่างาม เธอพลิกดูไปมา

ก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนรักตาเป็นประกาย

“แหวนโบราณ เก่าเชียว ท่าทางจะแพงนะนี่”

“เอาคืนมาเลย เธอนี่คิดแต่เรื่องเงินนะ” ปาริมาคว้าสร้อยกลับมา

สวมตามเดิม น้ำหวานเป็นลูกสาวพ่อค้า ในหัวจึงมีแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ

ตลอดเวลา

“ว่าแต่ชายในฝันของเธอหล่อไหม” อรวราวกกลับมาพูดเรื่องเดิม

ได้ยินเพื่อนพูดถึงหมอนี่บ่อยๆ ก็ให้นึกอยากเห็นหน้าขึ้นมาแล้ว

“บอกไม่ถูกเหมือนกัน” เธอส่ายหน้า

“ทำไมล่ะ แค่หล่อกับไม่หล่อ ไม่เห็นยากเลยนี่น่า” น้ำหวานขมวดคิ้ว

สงสัย แค่คำถามง่ายๆ ทำไมต้องทำหน้ายุ่งยากใจด้วย หรือว่าพ่อชาย

ในฝันจะอัปลักษณ์จนบอกใครไม่ได

“เขาไม่ได้หล่อแบบคนสมัยนี้ เขาเหมือนนักรบโบราณ รูปร่างกำยำ

หน้าตาเคร่งขรึม ออกจะดุๆ เสียด้วยซ้ำ ฉันเลยบอกไม่ถูกว่าเขาหล่อ

หรือเปล่า”

“แปลกดีนะชายในฝันของเธอ” อรวราพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะมอง

เพื่อนสาวอย่างจับผิด

“เขาไม่ใช่ชายในฝันของฉัน” เธอรีบปฏิเสธทันควัน

“ไม่ใช่แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ” อรวราหรี่ตาล้อเลียน

“ฉันไม่ได้หน้าแดง” เธอเถียงเสียงแข็ง

“นี่นะไม่แดง” อรวราหัวเราะอย่างรู้ทัน

“น้ำหวาน” ปาริมาข่มเสียงแข็งเพื่อให้เพื่อนสาวหยุดล้อเธอเสียที

และก็ได้ผลตามคาด น้ำหวานยอมรามือแล้วหันมาพูดเอาใจเธอ

“โอ๋ๆ ไม่ล้อแล้ว อย่าโกรธเลยนะ เรามาพูดเรื่องความฝันของเธอ

ต่อดีกว่า ฉันว่าถ้าเธอหยุดยุ่งเกี่ยวกับงานของพ่อ อาการฝันซ้ำซากของ

เธอน่าจะหายไปนะ”

“ฉันทำไม่ได้หรอก การได้อ่านงานของพ่อทำให้ฉันรู้สึกว่าท่าน

อยู่ใกล้ๆ” ปาริมาเอ่ยเสียงเศร้า ตั้งแต่พ่อย้ายไปทำงานที่อียิปต์เธอไม่ได้

พบท่านเลย เพราะเธอเรียนหนักส่วนท่านก็มีงานรัดตัว

“อย่าเศร้าไปเลย เธอเรียนจบแล้ว อีกไม่กี่วันเธอก็จะได้พบท่านแล้ว”

“ใช่ อีกไม่กี่วันฉันจะได้พบพ่อ แต่ฉันคงไม่ได้พบเธออีก” ปาริมา

มองหน้าเพื่อนรักอย่างอาวรณ์ เธอกับน้ำหวานเคยคุยกันทุกวัน แล้วจู่ๆ

ต้องแยกไปอยู่คนละทวีป ต่อให้ใจแข็งแค่ไหนก็อดใจหายไม่ได้

“อังกฤษกับอียิปต์ไม่ไกลกันเท่าไร ปิดเทอมแล้วฉันจะบินไปหา

ไม่ต้องกลัวเหงาหรอก” อรวราปลอบใจเพื่อนรักทั้งที่ตัวเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน

“ขอบใจจ้ะ” เธอยิ้มให้เพื่อนแล้วลุกขึ้นยืน “เย็นแล้วฉันกลับบ้าน

ก่อนนะ คืนนี้ว่าจะโทร.หาพ่อสักหน่อย ไม่ได้คุยกับท่านมาร่วมอาทิตย์แล้ว”

“ไปสิ เดี๋ยวฉันไปส่งเอง” อรวราลุกตาม

“ไม่ต้องหรอก บ้านเราอยู่คนละทาง ฉันกลับแท็กซี่สะดวกกว่า”

เธอปฏิเสธด้วยความเกรงใจแต่ผู้เป็นเพื่อนไม่ยอม

“ไม่ได้ เธอยิ่งหน้าตาอ่อนต่อโลกอยู่ ให้ฉันไปส่งดีกว่า”

“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ” เธอทำหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจ

“ไม่ใช่เด็กยิ่งต้องระวัง คนสมัยนี้ไว้ใจได้ที่ไหน ไปกันเถอะ”

อรวราคว้ามือเพื่อนรักเดินออกจากโรงอาหารโดยไม่สนใจใบหน้า

บูดบึ้งของอีกฝ่าย ปาริมาเป็นคนมองโลกในแง่ดี เจ้าหล่อนไม่มีทางรู้ทัน

เล่ห์เหลี่ยมของใคร เธอในฐานะเพื่อนจึงต้องคอยปกป้องจนกว่าปาริมา

จะดูแลตัวเองได้ หรือว่ามีใครสักคนมาดูแลแทน

 

เย็นมากแล้วเมื่อปาริมากลับถึงบ้าน เธอเดินเข้าบ้าน ถอดรองเท้า

วางบนชั้นอย่างเป็นระเบียบก่อนจะหันไปมองแม่บ้านวัยกลางคนที่ตรงเข้า

มารับพร้อมน้ำส้มแก้วโต

“เหนื่อยไหมคะคุณแก้ม” ป้านวลเอ่ยถามอย่างอาทร นางทำงาน

กับครอบครัวไรซ์มาตั้งแต่คุณมาลิดาแม่คุณหนูปาริมายังมีชีวิตอยู่ นาง

เลี้ยงดูคุณหนูมาตั้งแต่เล็กๆ จึงรักไม่ต่างจากลูกตัวเอง

“นิดหน่อยค่ะป้า รถติดเหลือเกิน มีอะไรกินบ้างคะแก้มหิวจน

ไส้กิ่วแล้วค่ะ” เธอถามพลางส่งแก้วเปล่าคืนให้แม่บ้าน

“มีหลายอย่างเลยค่ะ ของที่คุณแก้มชอบทั้งนั้นเลย ไปล้างมือสิคะ

ป้าจะตั้งโต๊ะให้”

“ขอบคุณค่ะป้า” เธอยิ้มประจบ ป้านวลยิ้มตอบด้วยความเอ็นดู

ก่อนจะหันไปมองโทรศัพท์เมื่อมันส่งเสียงบอกว่ามีสายเรียกเข้า นาง

จะเดินไปรับสายแต่นายสาวห้ามไว้ก่อน

“แก้มรับเองค่ะ ป้านวลไปจัดโต๊ะเถอะค่ะ วันนี้กินข้าวเป็นเพื่อนแก้มด้วยนะคะ”

“ค่ะคุณแก้ม” ป้านวลรับคำแล้วเดินเข้าห้องครัวไป คุณหนูปาริมา

ไม่เคยถือตัว เธอปฏิบัติกับลูกจ้างทุกคนเหมือนญาติ แล้วแบบนี้จะไม่ให้

นางหลงรักจนหมดใจได้อย่างไร

ปาริมาถือกระบอกโทรศัพท์แนบหูก่อนจะกรอกเสียงลงไป

“สวัสดีค่ะ”

“แก้มเหรอ ผมราอิลนะ” ปลายสายตอบกลับด้วยภาษาอาหรับ

“ราอิล!” เธออุทานด้วยความดีใจก่อนจะเปลี่ยนมาพูดภาษาเดียว

กับเขา “ลมอะไรพัดมาคะ ทำไมวันนี้ถึงโทร.หาแก้มได้”

“มีเรื่องนิดหน่อย” เขาตอบเสียงเครียดจนเธอรู้สึกหวั่นใจ ราอิล

เป็นเพื่อนเล่นวัยเด็ก เขาอายุมากกว่าเธอ ๕ ปี ตอนนี้ทำงานเป็นผู้ช่วย

ของพ่อในหุบผากษัตริย์

“เรื่องอะไร เกี่ยวกับพ่อหรือเปล่า” เธอเอ่ยถามเสียงสั่น

“ใจเย็นๆ นะแก้ม ศาสตราจารย์ริชาร์ดหายตัวไปจากแคมป์”

“พ่อ...” ปาริมามือเท้าอ่อนขึ้นมาทันที ความหวังว่าอีกไม่นาน

ก็จะได้พบพ่ออยู่แล้วแทบพังครืนในเสี้ยววินาที

“แก้มฟังอยู่หรือเปล่า” เขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“ฟังค่ะ” เธอตอบรับก่อนจะซักถามอย่างร้อนใจ “พ่อหายไปตั้งแต่

เมื่อไรราอิล แล้วท่านหายไปได้ยังไง คุณอยู่กับท่านตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ”

“ผมไม่รู้เหมือนกัน จู่ๆ ท่านก็หายไปเฉยๆ ผมส่งคนออกค้นหา

แล้วแต่ไม่พบตัวท่านเลย ผมจึงต้องบอกให้แก้มรู้”

“แก้มจะไปอียิปต์ให้เร็วที่สุด ราอิลมารับแก้มที่สนามบินด้วยนะ”

“อย่าเลยแก้ม ลำบากเปล่าๆ ผมจะตามหาท่านเอง” เขาทักท้วง

ด้วยความเป็นห่วง แต่เธอยืนยันคำเดิมด้วยร้อนใจจนทนรอไม่ได้แล้ว

“ไม่ แก้มจะไป แก้มจะไปหาพ่อ”

                          (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อ "ปาริมา" นักโบราณคดีสาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ผู้หลงใหลอารยธรรมไอยคุปต์ได้เดินทางออกตามหาบิดาที่หายสาบสูญไปขณะทำงานขุดค้นสุสานฟาโรห์ และแล้วปาฏิหาริย์ไม่คาดฝันก็บังเกิดขึ้น..!! เมื่อเธอหลงไปอยู่ในยุคอียิปต์โบราณเมื่อ 3,500 ปีก่อน และได้พบรักกับชายหนุ่มในความฝัน นาม "อเมนโอเทป" ฟาโรห์หนุ่มผู้ปฏิญาณตนว่าจะมีราชินีเพียงคนเดียว เฝ้าตามหาหญิงสาวที่ปรากฎในความฝัน เทพีไอซิสดลบันดาลให้ทั้งคู่มาพบกันในดินแดนแม่น้ำไนล์ ผู้เป็นถึงฟาโรห์นักรบผู้เกรียงไกรแห่งยุค เหตุการณ์ดำเนินมาถึงช่วงสำคัญ ที่เธอต้องเลือกระหว่างความรักกับภารกิจตามหาบิดา ปาริมาจะตัดสินใจอย่างไร?  พร้อมบททดสอบต่างๆ ให้ทั้งคู่ต้องฝ่าฟัน และ "เธอ" กับ "เขา" จะสามารถผ่านพ้นสิ่งเหล่านี้ไปได้หรือไม่..!? บทสรุปของปริศนาสุสานทองคำที่รอการไขขานมานานนับพันปีจะลงเอยเช่นไร? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาร่วมติดตามบทสรุปของเรื่องราวดังกล่าวไปพร้อมกันในหนังสือ "ปาริมา ราชินีไอยคุปต์" เล่มนี้
 
416 หน้า

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024