รักไม่พักยก (นภาสรร)

รักไม่พักยก (นภาสรร)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160020867
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 290.00 บาท 72.50 บาท
ประหยัด: 217.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

แผนที่สู่ปราสาทของเจ้าชาย

 

“แล้วในที่สุดเจ้าชายกับซินเดอเรลลาก็ได้ครองรักกันอย่างมี

ความสุขชั่วนิรันดร์” ชไมมาสยิ้มกว้าง นัยน์ตาเคลิ้มฝันทุกครั้งที่อ่าน

เทพนิยายเรื่องซินเดอเรลลาจบ แม้จะอ่านมาแล้วไม่รู้กี่ร้อยครั้ง แต่หัวใจ

ของหล่อนก็พองฟูเบิกบานเพราะโลกของเทพนิยายช่างสดใสงดงาม ทำให้

มองโลกใบนี้ในแง่มุมที่สวยขึ้น ทั้งยังจุดประกายความหวังว่าสักวันหนึ่ง

หล่อนจะได้พบเจ้าชายที่ทำให้ชีวิตสมบูรณ์แบบอย่างในเทพนิยายบ้าง

หญิงสาวคิดว่าชีวิตของตัวเองละม้ายซินเดอเรลลาหน่อยๆ เพราะ

ครอบครัวของหล่อนไม่ได้ร่ำรวย บัณฑิต พ่อของหล่อนเป็นเพียงอาจารย์

โรงเรียนรัฐบาลที่มีเงินเดือนเพียงแค่หลักหมื่นต้นๆ ส่วนอิงอร ผู้เป็นแม่

ก็เช่าพื้นที่เล็กๆ ในตลาดขายอาหารตามสั่ง รายได้แต่ละวันไม่ถึงกับดิบดีอะไร

แค่พอเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านเท่านั้น

ดังนั้นตั้งแต่จำความได้หล่อนต้องช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านทุกอย่าง

เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ก็เป็นของเก่าที่ใช้จนพังถึงจะซื้อของใหม่ เวลาไปเรียน

ก็ต้องนั่งรถเมล์เบียดเสียดกับผู้คน ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวมารับส่งเหมือน

เพื่อนๆ ที่ร่ำรวย ทำให้อิจฉาอยากเกิดมาในครอบครัวรวยๆ บ้าง และ

นึกรำพันกับตัวเองว่าช่างไม่ยุติธรรมเสียเลยที่หล่อนเกิดมาลำบากแบบนี้

ทว่าเมื่อโตขึ้นชไมมาสก็ต้องยอมรับว่าสังคมมนุษย์มีความเหลื่อมล้ำ

มีคนรวย คนชั้นกลาง และคนจนคละเคล้ากันไปในสังคม ต่อให้คุกเข่า

วิงวอนต่อฟ้าให้จัดสรรความยุติธรรมให้หล่อนมีชีวิตสุขสบาย แต่สิ่งที่

สะท้อนกลับมาจากท้องฟ้าคงเป็นเพียงความว่างเปล่า จึงได้แต่ปลอบใจ

ตัวเองว่าต้องยอมรับความเป็นจริงและมีความสุขในสิ่งที่เป็นไปได้ เพราะ

ยังมีคนที่ลำบากกว่าครอบครัวของหล่อนอีกมากนัก

แต่แล้วความคิดของหล่อนก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ตอนที่เรียนอยู่ชั้น

มัธยมปีที่สาม วันหนึ่งเมื่อกลับมาจากโรงเรียน หล่อนก็เห็นแม่นั่งร้องไห้

ท่านดึงหล่อนไปกอดแล้วบอกว่าพ่อขอหย่ากับแม่ และเก็บข้าวของไปอยู่

กับสมรศรี ม่ายสาวทรงเครื่องที่เพิ่งหย่ากับสามีนักธุรกิจใหญ่แล้ว

แม่เล่าว่าแต่เดิมผู้หญิงคนนั้นเคยเป็นคนรักเก่าของพ่อ แต่สุดท้าย

ก็เลิกรากันไปแต่งงานกับนักธุรกิจเพื่อความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เมื่อชีวิตสมรส

ล้มเหลว ประกอบกับอดีตสามีพบรักใหม่กับนักธุรกิจสาวใหญ่รุ่นเดียวกัน

เลยขอหย่าและชดเชยด้วยสินสมรสที่ทำให้ม่ายสาวอยู่อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต

พอเลิกกับสามี สมรศรีก็หวนกลับมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กับพ่อ

แม่ของหล่อนจับได้หลายครั้งว่าทั้งคู่แอบพบกันลับๆ ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่ง

เพราะแอบสะกดรอยตาม หลังจากแอบเช็กโทรศัพท์แล้วพบว่าพ่อติดต่อกับอดีตคนรักได้พักหนึ่งแล้ว

ตอนแรกพ่อปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น

แต่พอแม่จับได้คาหนังคาเขาว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา จึงยื่นคำขาด

ให้พ่อเลือกระหว่างครอบครัวกับชู้รัก ซึ่งพ่อก็ตัดสินใจโดยไม่ลังเลเลย

แม้แต่น้อยว่า เลือกคนรักเก่าที่ร่ำรวยและพร้อมจะเลี้ยงดูท่านให้สุขสบาย

โดยไม่ต้องทำงานงกๆ แลกกับเงินเดือนอันน้อยนิดอีกต่อไป

เมื่อพ่อเลือกความสุขสบายแล้วทิ้งครอบครัว แม่จึงไม่ลังเลที่จะ

หย่ากับพ่อเช่นกัน หลังจากเลิกรา เพลงโปรดที่แม่เปิดฟังทุกวันจนกลาย

เป็นเพลงประจำตัวก็คือเพลง “ผู้ชายห่วยๆ” ของมาช่า แล้วท่านก็คอยพูดกรอกหูหล่อนทุกวันว่า

‘จำไว้นะยายมาส การแต่งงานก็เหมือนการซื้อหวยดีๆ นี่เอง โอกาส

เสียมีมากกว่าถูก ถ้าคิดจะเสี่ยงแล้วก็แต่งกับนักธุรกิจรวยๆ ไว้ก่อน ยังไง

ก็ไม่ขาดทุน อย่าเลือกผู้ชายจนๆ เหมือนแม่ นอกจากต้องกัดก้อนเกลือกิน

แล้ว ผู้ชายห่วยๆ อย่างพ่อแกยังเห็นแก่ตัวทิ้งพวกเราไปเพื่อเงินและความ

สุขสบาย สุดท้ายความรักก็กินไม่ได้ แต่ถ้ามีเงินก็อิ่มท้องสบายไปสิบชาติ’

คำพูดของแม่จุดประกายให้ชไมมาสคิดได้ว่าถึงโชคชะตาจะจัดสรร

ให้หล่อนมีชีวิตและความรักที่ดีเลิศไม่ได้ แต่หล่อนก็สามารถจัดสรรสิ่งที่

ดีเลิศเหล่านี้ให้ตัวเองได้ ในเมื่อซินเดอเรลลาผู้ทำงานหน้ามันอยู่ในครัว

ยังพบเจ้าชายที่ทำให้มีชีวิตดีขึ้นได้ หล่อนก็ต้องหาหนทางที่ทำให้ได้พบ

เจ้าชายของตัวเองเช่นกัน

ทว่าชีวิตของหล่อนกับเจ้าชายเปรียบเสมือนเส้นขนาน ยากจะพบ

เจอกัน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว อย่างน้อยการได้ไปฝึกงาน

ในบริษัทใหญ่ๆ คือหนทางแรกที่จะพาไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ

วันนี้อาจารย์ประจำภาควิชาการประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์

จะประกาศรายชื่อบริษัทที่ตอบรับให้นักศึกษาปีที่สี่ไปฝึกงาน ชไมมาสรอฟัง

รายชื่อบริษัทต่างๆ ด้วยความตื่นเต้น บริษัทที่หล่อนหมายตาไว้คือสาย

การบินบลูสกาย บริษัทนำเข้ารถยนต์หรูระดับซูเปอร์คาร์ และบริษัทอสังหา-

ริมทรัพย์อย่างโมเดิร์นลิฟวิง ที่สืบแล้วว่ามีทายาทเป็นหนุ่มโสดหน้าตาดี

โพรไฟล์เริด หล่อนจะต้องแย่งชิงตบตีกับเพื่อนๆ เพื่อให้ได้บริษัทที่ต้องการ

“นักศึกษาทุกคนฟังทางนี้ อาจารย์มีเรื่องสำคัญจะแจ้ง ตอนนี้บริษัท

ที่ทางคณะของเราติดต่อขอให้นักศึกษาไปฝึกงานตอบรับมาหมดแล้ว แต่ละ

แห่งรับนักศึกษาฝึกหัดไม่เท่ากัน บางแห่งก็รับสามคน บางแห่งก็รับแค่

คนเดียว ซึ่งบริษัทที่ทางคณะติดต่อไปเป็นธุรกิจหลากหลายประเภท เพื่อ

ความยุติธรรมและไม่ให้เกิดความวุ่นวาย อาจารย์จึงตัดปัญหานี้ด้วยการ

จับสลาก ใครจับได้บริษัทไหนก็ต้องไปฝึกงานที่บริษัทแห่งนั้น และห้าม

แลกกันเป็นอันขาด”

เสียงซุบซิบของบรรดานักศึกษาดังขึ้นด้วยความไม่พอใจ เพราะ

ต่างหวังจะได้เลือกบริษัทฝึกงานที่ตัวเองต้องการ โดยเฉพาะชไมมาสที่

ผิดหวังกว่าใครจึงชูมือขึ้นเพื่อขออนุญาตแสดงความคิดเห็น

“เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ชไมมาส” อาจารย์สาวใหญ่วัยสี่สิบเศษ

เลิกคิ้ว ส่วนเพื่อนๆ ในห้องต่างก็หันมามองหล่อนเป็นตาเดียวกัน

“หนูว่าอาจารย์น่าจะให้พวกเรามีโอกาสเลือกบริษัทฝึกงานนะคะ

เพราะแต่ละคนก็มีบริษัทที่หมายตาว่าอยากร่วมงานด้วยหลังเรียนจบ

ถ้าได้ไปฝึกงานที่บริษัทนั้นๆ โอกาสที่พวกเราจะได้ทำงานก็มากขึ้น ถ้า

อาจารย์อยากให้การเลือกบริษัทเป็นไปอย่างยุติธรรม ก็ให้พวกเราจับสลาก

หมายเลขว่าใครมีสิทธิ์เลือกบริษัทตามลำดับ ถ้าใช้วิธีนี้อาจารย์ก็ไม่ต้อง

ปวดหัวเรื่องนักศึกษาแย่งบริษัทกัน แล้วทุกคนก็มีสิทธิ์เลือกบริษัทฝึกงานที่ถูกใจด้วย”

ชไมมาสเสนอวิธีที่ทำให้ทั้งอาจารย์และนักศึกษาพอใจทั้งสองฝ่าย

แล้วก็เป็นวิธีที่เป็นผลดีต่อตัวหล่อนด้วย เพราะหญิงสาวเป็นคนดวงดี

เวลาต้องเสี่ยงดวง ชิงโชคจับรางวัล มักได้ของรางวัลดีเสมอ เพราะฉะนั้น

หากจับสลากคิวเพื่อเลือกบริษัทฝึกงาน หล่อนจึงมั่นใจว่าต้องได้หมายเลขอันดับต้นๆ แน่

อาจารย์นิ่งคิดไปครู่หนึ่งก็ตกลงเปลี่ยนมาใช้วิธีของหล่อน นักศึกษา

คนอื่นๆ พากันเฮลั่นด้วยความยินดี เมื่ออาจารย์ทำสลากเรียบร้อยแล้วก็สั่ง

ให้นักศึกษาตั้งแถวเพื่อหยิบสลาก ชไมมาสรีบลุกขึ้นเป็นคนแรก ซึ่งเพื่อนๆ

ทุกคนไม่ขัดข้องที่หล่อนได้เลือกสลากก่อนใคร เพราะเป็นผู้เสนอวิธีนี้

ครั้นหยิบสลากแล้ว หญิงสาวก็ยังไม่กล้าเปิดดู ได้แต่กำสลากในมือ

แน่น ลุ้นจนใจเต้นแรงพอๆ กับรอฟังผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย นักศึกษา

เอกการประชาสัมพันธ์รุ่นของหล่อนมีถึงหกสิบคน ถ้าโชคร้ายสุดๆ หล่อน

อาจได้อันดับประมาณที่สามสิบ ซึ่งคนที่ได้อันดับต้นๆ คงเลือกบริษัท

ชั้นนำไปแล้ว แต่ใครเลือกบริษัทอะไรก็ช่าง ขอให้หล่อนมีโอกาสเลือกหนึ่ง

ในสามบริษัทที่หมายตาไว้ด้วยเถิด

เมื่อเพื่อนๆ หยิบสลากครบทุกคนแล้ว คนที่เปิดดูแล้วได้หมายเลข

อันดับต้นๆ กรีดร้องด้วยความตื่นเต้น ส่วนคนที่ได้อันดับท้ายๆ นั่งเงียบคอตก

ชไมมาสคลายมือที่กำสลากแล้วค่อยๆ คลี่ดูหมายเลขด้วยใจระทึก ทันทีที่

ตัวเลขปรากฏ หล่อนก็แทบเป็นลมล้มหงายหลัง เพราะได้หมายเลขหกสิบ

ซึ่งเป็นอันดับสุดท้าย เท่ากับว่าหล่อนไม่มีโอกาสเลือกบริษัทฝึกงาน และ

บริษัทสุดท้ายที่ไม่มีใครเลือกคงห่วยสุดๆ

หญิงสาวอยากกรีดร้อง วิ่งเอาศีรษะชนกำแพงให้รู้แล้วรู้รอด ใคร

จะคิดว่าวิธีที่หล่อนเชื่อว่านำโชคดีมาให้กลับนำโชคร้ายมาแทน แต่หล่อน

ไม่ยอมให้ใครขัดขวางเส้นทางที่จะพาไปพบเจ้าชายในฝันอย่างแน่นอน

อาจารย์คงสังเกตเห็นว่าชไมมาสทำท่าเหมือนอยากเสนอความคิดอีกจึงดักคอ

“เธอได้ลำดับที่เท่าไหร่ ชไมมาส ดูจากหน้าตาแล้ว คงจะได้ลำดับ

ท้ายๆ สินะ หวังว่าคงไม่เสนอให้เปลี่ยนวิธีเลือกบริษัทฝึกงานอีกนะ”

“คือหนูก็ไม่ได้อยากเรื่องมากหรอกนะคะอาจารย์ แต่หนูได้ลำดับ

สุดท้าย เท่ากับไม่มีโอกาสเลือกบริษัทฝึกงานเหมือนเพื่อนๆ หนูขอเปลี่ยน

วิธีให้หนูมีสิทธิ์เลือกบริษัทได้ไหมคะ อาจารย์เป็นคนยุติธรรม คงคิดหาวิธี

ที่ยุติธรรมที่สุดสำหรับทุกคนได้” ชไมมาสเอ่ยเสียงอ่อยๆ แต่ดูเหมือนครั้งนี้

อาจารย์จะไม่ฟังความคิดเห็นของหล่อนอีกแล้ว

“อาจารย์หาวิธีเลือกบริษัทฝึกงานที่ยุติธรรมให้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่

เธอก็ไม่พอใจ และเป็นคนเสนอวิธีนี้เอง ซึ่งเพื่อนๆ ทุกคนก็เห็นดีด้วย ดังนั้น

อาจารย์จึงถือว่านี่คือวิธีเลือกบริษัทฝึกงานที่ยุติธรรมและทำให้ทุกคนพอใจ

ที่สุดแล้ว ลองคิดดูสิ ใครได้หมายเลขสุดท้ายก็ไม่มีสิทธิ์เลือกบริษัทเหมือน

เธอนั่นแหละ แต่ไม่ว่าเธอจะได้บริษัทอะไร ก็ขอให้มั่นใจว่าเป็นบริษัทที่ดี

เพราะคณะของเราเลือกเฟ้นบริษัทที่ดีให้แก่นักศึกษาทุกคน เพื่อไม่ให้เป็น

การเสียเวลา ขอให้มาเรียงแถวตามหมายเลขแล้วเลือกบริษัทที่ฝึกงานเลย”

สายตาของอาจารย์ที่จ้องมองหล่อนไม่ได้ฉายแววเห็นใจเลยแม้แต่

นิดเดียว ออกแนวสมน้ำหน้ามากกว่า ในเมื่อหล่อนโชคร้ายขนาดนี้แล้ว จึง

ได้แต่หวังว่าจะมีมนตร์วิเศษอำพรางรายชื่อบริษัททั้งสามที่หมายตาไว้

 

“น้าอรครับ วันนี้มาสไม่มาช่วยเก็บร้านเหรอครับ” ร้อยตำรวจตรี

ยอดชาย คล้ายโพธิ์รอด เหลียวหาหญิงสาวที่เขาตั้งใจมาพบ เมื่อเห็นว่าเธอ

ไม่มา เขาก็อดผิดหวังไม่ได้

“มาแล้ว แต่กลับไปแล้ว บอกว่าวันนี้อารมณ์ไม่ดี อยากอยู่เงียบๆ

คนเดียว ว่าแต่วันนี้จะกินอะไรล่ะ ของสดมีเหลือไม่มาก มีแค่หมูชิ้นเล็กๆ

กับไข่สองฟอง งั้นกินข้าวหมูทอดกระเทียมกับไข่ดาวก็แล้วกัน กินเสร็จแล้ว

ก็อยู่ช่วยน้าเก็บร้านด้วยล่ะ น้าละเพลียใจกะอีลูกสาวคนนี้จริงๆ มีลูกก็หวัง

พึ่งอะไรกับเขาไม่ได้”

อิงอรเลือกอาหารเองเสร็จสรรพ ไม่เปิดโอกาสให้ยอดชายเลือก

อย่างที่ต้องการ จะว่าไปแล้วเขาก็ไม่เคยมีสิทธิ์เลือกอาหารที่อยากกินอยู่แล้ว

เพราะเจ้าของร้านให้เขากินฟรี ไม่เคยคิดเงิน

ชายหนุ่มได้รับสิทธิพิเศษนี้ เนื่องจากเมื่อเจ็ดปีก่อน เขาเคยช่วย

ชไมมาสตอนที่เธอจะถูกเด็กช่างกลลวนลาม ซึ่งพอเขาไล่พวกนั้นไปแล้ว

ก็มารู้ตัวภายหลังว่ากระเป๋าสตางค์หล่นหาย และคาดว่าเด็กช่างกลพวกนั้น

คงขโมยกระเป๋าสตางค์ของเขาไป

ในกระเป๋าสตางค์มีเงินสดสี่พันบาทที่พ่อแม่ส่งมาให้เป็นค่าใช้จ่าย

ประจำเดือน ถ้าไม่มีเงินจำนวนนี้ ยอดชายจะต้องอยู่อย่างอดมื้อกินมื้อไป

หนึ่งเดือนเต็มๆ แต่เขาไม่กล้ารบกวนขอเงินจากพ่อแม่อีก เนื่องจากปีนั้น

                            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

สู้ไม่พัก...รักไม่ถอย 
ยกนี้ต้องจัดหนัก จนกว่าจะได้รักมาครอบครอง 
 
ในเมื่อความรักที่แท้จริงอาจไม่มีอยู่จริง และอาจถูกแย่งชิงไปได้ตลอดเวลาเหมือนที่มารดาเคยเผชิญ ชไมมาสจึงใฝ่ฝันว่าต้องแต่งงานกับผู้ชายที่แสนเพอร์เฟกต์ อย่างน้อยถ้ามีใครแย่งเขาไป หล่อนก็ยังสบายเพราะมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ เมื่อเจอเจ้าชายในฝันตัวเป็นๆ ที่หล่อ นิสัยดี และร่ำรวย อย่างณดล หล่อนจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อพิชิตใจเขา ขณะที่ข้างกายมียอดชาย นักมวยหนุ่มบ้านๆ ผู้เปี่ยมไปด้วยความจริงใจ คอยเฝ้ารักและไม่เคยท้อที่จะเอาชนะใจหล่อน หัวใจที่มุ่งมั่นตามหาความรักที่แท้จริงดังเทพนิยายจึงต้องเลือก ระหว่างเทพบุตรในฝันกับนักมวยเหรียญทองผู้มีรักมั่น ชายคนไหนจะทำให้ชไมมาสยอมพักยกและแขวนนวมหัวใจ

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024