รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน (ชุด Rising Sun) (ณารา)

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน (ชุด Rising Sun) (ณารา)

5 รีวิว  5 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786115000005
ผู้แต่ง: ณารา
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 340.00 บาท 85.00 บาท
ประหยัด: 255.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ปัจจุบัน

รถบีเอ็มดับบลิวซีรีส์ห้าสีดำรุ่นใหม่ล่าสุดเลี้ยวออกจากถนนลาดยางแล่น ผ่านประตูรั้วไม่ไปบนถนนลูกรังของ ไร่พราวตะวัน’ ซึ่งเป็นไร่องุ่นขนาดสี่ร้อยไร่ กินเนื้อที่ของภูเขาเกือบทั้งลูก ในอำเภอแม่แตง ด้านหน้าของไร่ซึ่งอยู่ติดถนน

สายเล็ก ๆ ที่แยกออกมาจากตัวเมือง กั้นด้วยรั้วไม่ทาสีน้ำตาลเข้ม ด้านข้างไป ตลอดด้านหลังล้อมรอบด้วยลวดหนามแน่นหนา

ไร่แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอไปหลายลิบกิโลเมตร หากถนนที่เข้าไป ถึงไร่นั้นลาดยางมะตอยเรียบกริบ แม่จะแยกเข้าไปในเขตไร่แล้วถนนลูกรังก็ยัง

ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีไปจนถึงบ้านไม่สองชั้นสไตล์ร่วมสมัย หรือที่เรียกกันว่า คอนเทมโพรารี (Contemporary) สำหรับผู้ที่ต้องการเน้นประโยชน์ใน

 การใช้สอยให้เต็มพื้นที่

ชั้นล่างของตัวบ้านเปิดโล่งเพี่อริบลมเย็นๆ จากภูเขา หากได้จัดมุมนั่ง

เล่นพักผ่อนหย่อนใจ ด้วยชุดริบแขกทำจากหวายสานลวดลายแปลกตาตั้งอยู่ ใกล้ๆ กับตู้หนังสืออ่านเล่นรวมไปถึงนิตยสารต่างๆ ไว้อย่างเป็นระเบียบ

บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของบ้านนั้นริกการอ่านมากแค่ไหน

ทันทีที่รถคันนั้นหยุดลงที่หน้าบ้าน ร่างบางในชุดสูทสีดำทันสมัยก็ก้าวลง จากรถเดินฉับ ๆ ตรงไปที่บันไดด้านหน้าซึ่งจะนำไปสู่ชั้นสองของบ้าน พอเห็น

เด็กสาวคนหนึ่งเดินสวนลงมาเธอก็ถามขึ้น

“แม่อยู่ไหน”

“อยู่ในสวนเจ้าคุณพราว” เด็กสาวชื่อคำหล้าก้มหน้าตอบพราวตะวัน บุตรสาวคนเดียวของเจ้าของไร่อย่างนอบน้อม

“อ้อ...” เท้าในรองเท้าล้นสูงปรี๊ดหยุดลง ก่อนที่หญิงสาวจะหมุนตัวไปยัง สวนดอกไม้ของมารดาที่ตั้งอยู่ติดกับเรือนกระจก ซึ่งท่านมักจะมาขลุกอยู่ที่นี่ ทดลองปลูกดอกไม้หลากหลายชนิด

ยามว่าง ท่านก็จะมานั้นอ่านหนังสีอที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ในสวน เป็นที่ทราบ กันทั้งบ้านว่าหากไม่พบเจ้าของบ้านที่เรือนใหญ่ ก็จะต้องมาตามหาที่นี่

“แม่ขา แม่” หญิงสาวตะโกน เมื่อเห็นหลังของมารดาที่กำลังง่วนอยู่กับ การตกแต่งดอกไม้บนโต๊ะ เธอเดินอ้อมพุ่มไม้ตัดไปยังด้านหน้าของมุมพักผ่อน ของมารดาก่อนปล่อยน้ำตาไหลพรั่งพรู

“แม่ขา...” สิ้นคำ ร่างบางก็โผเข้ากอดเอวมารดา และคุกเข่าลงบนพื้น ปล่อยโฮออกมาจนผู้เป็นแม่ถึงกับตกใจ

“เกิดอะไรขึ้นหรือลูก ร้องไห้ท่าไมรึ” หญิงวัยหกสิบวางดอกไม้ในมือ ลูบ หลังลูบไหล่บุตรสาวด้วยความตกใจ “ใครท่าอะไรลูกกันล่ะคราวนี้” น้ำเสียงนั้น อดแฝงด้วยความขบขันไม่ได้ เพราะธิดาคนเล็กนี้เป็นลูกหลงท้องมาตอนที่

หล่อนอายุสามสิบห้าปี ด้วยความที่เป็นเด็กหญิงคนเดียวในบ้าน ทุกคนจึงคอย โอ่เอาใจกันจนกลายเป็นเด็กที่ชอบร้องไห้โยเยเวลาไม่ได้สิ่งที่ตั้งใจทุกที

ถึงแม้ว่าบุตรสาวจะอายุเข้าสู่วัยเบญจเพสแล้วในปีนี้ และเรียนจบ ปริญญาโทจากญี่ปุ่นเมื่อปีกลายด้วยคะแนนสูงสิ่ว จนผ่านการคัดเสือกจาก บริษัทเครื่องสำอางชื่อด้งของประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นผู้จัดการเขตในภาคเหนือ มาได้เกือบปีแล้วก็ตาม แต่เวลามีสิ่งใดไม่พอใจขึ้นมา เธอก็มักจะโทรมาฟ้องเป็น ประจำ ทั้งที่รู้ว่ามารดาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี

“อีตาม่าคุงค่ะ เขาบอกพราวว่าเราคงจะไปคันไม่ได้ เขาโทรมาหาพราว เมื่อบ่ายนี้เอง” พูดจบเธอก็ปล่อยโฮ จนผู้เป็นมารดาต้องส่ายหน้าด้วยความอ่อน-

 

อกอ่อนใจ ม่าคุงหรือมาชากิที่ว่า คือแฟนหนุ่มของพราวตะวัน ที่ทะเลาะกันแล้ว เลิก แล้วก็ดีกันไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไร และส่วนใหญ่ที่ทะเลาะกันปัญหามักจะเกิด จากความเอาแต่ใจตัวเองของพราวตะวันจนแฟนหนุ่มทนไม่ได้ จึงทะเลาะกัน บ่อยครั้ง

“คราวนี้เขาบอกว่าขอให้เราห่างกันสักระยะหนึ่งค่ะ” หญิงสาวบอก แฟน หนุ่มซึ่งเป็นเจ้าของกิจการขายเครื่องจักรและรถยนต์มือสองมายังประเทศ ในแถบเอเชียอาคเนย์โกรธจัดถึงกับขอให้เธอกลับมานึ่งทบทวนเรื่องที่ทะเลาะกัน “เขาบอกให้พราวกลับมาคิดให้ดีว่าใครผิด เขาบอกว่าจะไม่ขอโทษพราวแล้ว คราวนี้”

“โถ ใจเย็นๆ นะลูก” แพรวดาวลูบหลังบุตรสาวเบาๆ ก่อนจะดึงเธอลุก ขึ้นมานึ่งบนเก้าอี้ข้างตัว “ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จา แล้วเล่าให้แม่ฟังชิว่าคราวนี้ ทะเลาะกันเรื่องอะไร”

“ก็เขาน่ะลิคะ ไม่ยอมบินมาหาพราวเดือนหน้า เขาบอกว่าจะต้องไป อินโดนีเซีย แต่ไม่ยอมบินมาหาพราวที่นี่ แม่คิดดูลิคะ จะไม่ให้พราวโกรธได้ยังไง ปีหนึ่งเจอกันไม่กี่ครั้งเอง”

“แล้วเขาบอกว่าจะมาได้เมื่อไหร่ล่ะ” แพรวดาวถามอีกครั้ง

“เขาว่าต้นเดือนกัดไปเลยค่ะ บอกว่าจะอยู่นานหน่อย แต่พราวไม่ยอม พราวยื่นค่าขาดว่าถ้าไม่มา ก็ไม่ต้องมาอีก” หญิงสาวสะบัดเสียงงอนๆ

“อ้าว...ทำไมพราวไปพูดแบบนั้นล่ะลูก” ผู้เป็นแม่อ่อนใจ ไม่นึกว่าลูกสาว จะยื่นค่าขาดเหมือนเด็ก ๆ แบบนี้ เพราะเท่าที่หล่อนรู้จักแฟนหนุ่มของพราว- ตะวัน หล่อนก็เห็นเขาจริงจังกับบุตรสาวยิ่งนัก ยังเคยเกริ่นๆ ว่าอยากจะ แต่งงานภายในเร็ววันเพราะไม่อยากอยู่ห่างจากแฟนสาวอีกต่อไปแล้ว และเขา กำลังเร่งสร้างฐานะให้เป็นปีกแผ่นก่อนแต่งงาน ซึ่งนั่นคงเป็นสาเหตุที่ท่าให้เขา แวะมาหาพราวตะวันไม่ได้ในเดือนหน้า

“ทุกทีเขาไม่เคยเซย์โนสักครั้งนี่คะ พราวพูดอะไร เขาก็ตามใจทุกที”

หญิงสาวท่าปากยื่นไม่พอใจ

“พราวโตแล้วนะลูก ท่าไมถึงไม่ฟังเหตุผลของเขาบ้างล่ะ” แพรวดาวเตือน... แล้วหล่อนรู้สึกเห็นใจแฟนหนุ่มของบุตรสาวจริงๆ

 

หนุ่มสาวทั้งสองพบรักกันเมื่อพราวตะวันเดินทางไปเรียนซัมเมอร์ที่

เมืองโตเกียว ขณะเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีหนึ่ง เธอ'พบมา1ซากิ หนุ่มรุ่นพี่ปีสี่

ที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันมาตามจีบ ทั้งสองคบกันจนพราวตะวันเรียนจบ มหาวิทยาลัยที่เมืองไทย จึงบินไปเรียนต่อปริญญาโทที่โน่น และคบกันจนเธอ เรียนจบ มาชากิขอเวลาทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวลักสองปีก่อนจะแต่งงาน ระหว่าง นี้พราวตะวันก็มักจะอารมณ์เสียประจำเมื่อแฟนหนุ่มไม่ยอมบินมาหาทุกเดือน อย่างที่เคยสัญญากันไร้

“เขาบอกพราวว่าจะมาทุกเดือน แต่นี่ เขาเอาสองเดือนมาทบกันเป็น เดือนเดียว เขา'ทำ'ไม่ถูกนี่คะ” พราวตะวันเกียงคอเป็นเอ็น

“แต่เขาก็บอกว่าจะอยู่นานขึ้นไม่ใช่หรือ” ผู้เป็นแม่หัวเราะเบา ๆ “เขาคง ติดธุระจริง ๆ นั่นแหละ” หล่อนลูบศีรษะบุตรสาวเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “ดูสิ ผู้จัดการเขตคนเก่ง มานึ่งร้องไห้ขึ้มูกโปง ไม่อายลูกน้องแย่หรือนี่” หล่อนกระเช้า

“แหม ต่อหน้าเด็ก ๆ พราวไม่ร้องไห้หรอกค่ะ” เธอค้อนมารดาน้อย ๆ “พราวเจ็บใจอีตาม่าคุง ไม่รู้จะไประบายให้ใครฟัง”

แพรวดาวตบลงบนมือของบุตรสาวเบา ๆ

“เอาเถอะจ้ะ ทำใจให้สบายนะลูก แม่รู้ว่ามาซากิคุงรักพราวมาก เขาพูด ก็ถูกของเขา พราวลองสงบสติอารมณ์แล้วมาคิดทบทวนดูอีกครั้ง ถ้าหายโกรธ แล้วก็โทรไปหาเขาเสีย เขาคงดีใจ”

“แม่...เข้าข้างเขานี่นา” เธอทำเสียงกระเง้ากระงอด “แม่ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่แม่พูดด้วยเหตุและผล” หล่อนยิ้มให้บุตรสาว ก่อนจะหันมาจัดดอกไม้บนโต๊ะอีกครั้ง แล้วชวนหญิงสาว “เช็ดน้ำตาแล้วมาช่วย แม่จัดดอกไม้ดีกว่า”

พราวตะวันหยิบกระดาษทิชชูบนโต๊ะซับน้ำตาแบบไม่ให้กระทบเครื่อง- สำอางที่ตกแต่งไร้อย่างประณีต ไม่ว่าจะอยู่ในเวลาไหนเธอจะต้องสวยอยู่เสมอ เมื่อมองถาดดอกไม้ที่จัดแบบญี่ปุ่นก็อดกระเซ้าขึ้นไม่ได้

“แม่ชอบอะไรที่เป็นญี่ปุ่นจังเลยนะคะ ทั้งดอกไม้ บอนไช บนห้องก็จัด แบบญี่ปุ่นประยุกต์ ตรงโน้นก็มีสวนญี่ปุ่นอีก ม่าคุงยังถาม ทั้งที่บ้านของเราไม่มี ใครเป็นญี่ปุ่นแท้สักคน”

มือที่กำลังจัดดอกไม้อยู่ชะงักไปนิด ดวงหน้าอูมหวานละมุนที่ร่วงโรยไป ตามวัยยิ้มบางๆ แล้วถามบุตรสาว

“ลูกจำไม่ได้หรือจ๊ะว่าแม่เคยไป เรียนที่โน่นเหมือนกัน”

“จำได้สิคะ พราวเคยเห็นรูปของแม่ตอนสาว ๆ สวยจะตาย สวยกว่า พราวเสียอีก ยังแปลกใจว่าทำไมถึงไม่มีใครมาจีบ ตอนพราวไปถึงที่โน่น หนุ่ม ๆ รุมจีบเพียบ”

แพรวดาวหัวเราะเบา ๆ หล่อนไม่ตอบคำถามของบุตรสาว ยังตั้งหน้า

ตั้งตาแต่งดอกไม้ต่อไป พราวตะวันจึงช่วยลิดใบไม้ และยื่นให้มารดาอย่างที่เธอ เคยทำประจำในวัยเด็ก ก่อนถาม

“วันนี้พ่อไปไหนล่ะคะ” เธอถามถึงตะวัน เจ้าของไร่องุ่นพราวตะวันแห่งนี้ “พ่อไปตรวจโรงบ่มน่ะ อาทิตย์หน้าจะต้องบรรจุและล่งญี่ปุ่น”

“อ๋อค่ะ” พราวตะวันพยักหน้ารับรู้ ก่อนเดา “พี่นุกับพี่กานต์ก็คงอยู่ที่นั่น เหมือนกัน” เธอหมายถึง ภาณุกับภาสกานต์พี่ชายทั้งสองที่เป็นมือซ้ายและขวา ของบิดา

“สามคนนั่นไม่เคยแยกจากกันอยู่แล้ว” แพรวดาวหัวเราะเบา ๆ บุตรสาว เริ่มอารมณ์ดีขึ้นมานิดหนึ่งหลังจากได้ระบายกับมารดา แต่ไหนแต่ไรเธอก็เป็น

คนโกรธง่ายหายเร็วอยู่แล้ว เธอต้องการให้มีคนช่วยสนับสนุนว่าเธอไม่ได้เป็น

คนผิดเท่านั้น แต่ครั้งนี้เมื่อมารดาก็ไม่เข้าข้าง เธอก็เริ่มคิดได้ว่าตนคงจะบีบคั้น มาชากิจนเกินไป ด้งนั้นพรุ่งนี้เธอค่อยโทรไปง้อเขา วันนี้ปล่อยให้เขารอไปก่อน

ก็แล้วกัน จะง้อ แต่ขอเล่นตัวอีกหน่อย อีกทั้งเธอยังมีเวลาตลอดสุดสัปดาห์

วันนี้ให้เวลากับครอบครัวก่อนก็แล้วกัน

เธอช่วยมารดาจัดดอกไม้ไปเงียบ ๆ หากด้วยความเป็นคนช่างพูดช่าง สงสัย จู่ ๆ เธอก็ถามขึ้น

“ตอนที่แม่ไปญี่ปุ่นไม่มีหนุ่มๆ มาสนใจแม่จริงๆ หรือคะ”

แพรวดาวเงยหน้ามองบุตรสาว ก่อนถามไปตรง ๆ “พราวอยากจะรู้อะไรหรือจ๊ะ”

“ก็แหม...” เธอทำหน้าสงสัย “พราวก็อยากรู้มั่งสิคะว่าชีวิตนักเรียนญี่ปุ่น สมัยแม่เป็นยังไงบ้าง แล้วสวยๆ อย่างแม่หลุดรอดมาถึงมือพ่อที่นี่ได้ยังไง”

“ฟังพูดเข้าสิ” แพรวดาวหัวเราะกับคำพูดของบุตรสาว

“เล่าให้พราวฟังหน่อยนะคะ พราวอยากรู้ว่าสมัยก่อนที่โน่นเป็นยังไงบ้าง” พราวตะวันนั่งเท้าคาง ตั้งใจมองมารดาจริงจัง “เพราะพราวไม่เชื่อหรอกว่า

สาวสวยอย่างแม่จะไม่มีหนุ่มญี่ปุ่นมาสนใจเลย นะคะแม่ขา” เธอออดอ้อน

แพรวดาววางดอกไม!นมีอ แล้วถอนใจออกมาเบา ๆ

“นึกยังไงถึงได้ถาม ร้อยวันพันปีไม่เห็นเคยสนใจ”

“ก็แหม...” หญิงสาวทำปากยื่น...สายตาบอกความไม่แน่ใจ...ก่อนสารภาพ ความจริงกับมารดา “พราวกำลังลังเลค่ะแม่...ถึงมาชากิกับพราวจะคบกันมา หลายปีแล้วก็ตาม แต่เราก็ทะเลาะกันบ่อยเหลือเกินจนพราวไม่รู้ว่าเราจะไปกัน รอดไหม อยู่ที่นี่พราวก็มีผู้ชายหลายคนมาจีบ พราวไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าควรจะ ตัดสินใจยังไง ถ้าคบกับคนไทยด้วยกันที่นี่จะได้หมดห่วงเรื่องระยะทาง อีก อย่างพราวไม่มีทางรู้ว่าอีตามาชากิจะชุกซ่อนสาวไว้ที่บ้านหรือเปล่าตอนที่พราว ไม่อยู่

“บางที...บางทีแม่อาจจะช่วยสอนพราวได้ว่าพราวควรจะ วางตัวยังไง ทำ ยังไงถึงจะประคับประคองชีวิตรักให้ยืนยาวเหมือนพ่อกับแม่ได้...พราวกลัว เหลือเกินว่า แต่งงานกับเขาไปไม่ถึงเดือน พราวอาจจะหอบเสื้อผ้าบินกลับ เมืองไทยแล้วก็ได้”

“อืม...” แพรวดาวถอนใจเบาๆ “อะไรที่ได้มาง่ายๆ เราอาจจะมองไม่เห็น คุณค่า...จนกว่าเราสูญเสียมันไป...ถึงตอนนั้น ต่อให้ร่ำไห้แค่ไหน เราก็จะไม่มีวัน ได้มันกลับคืนมาอีก” ดวงตาของแพรวดาวหลุบตํ่าลง ปิดบังความรู้สึกภายในใจ

“แม่...แม่หมายถึงอะไรคะ...” บุตรสาวถามด้วยความสงสัย “หมายถึง ความรักของมาชากิหรือคะที่เรียกว่าได้มาง่ายๆ”

แพรวดาวส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนนั่งไปนิด พยายามคิดว่าหล่อนจะช่วย พราวตะวันได้อย่างไร...หรือบางที การแบ่งปันประสบการณ์จะช่วยให้เธอเข้าใจ ความรักมากยิ่งขึ้น...บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่หล่อนจะเล่าเรื่องราวความรัก ครั้งแรกให้บุตรสาวฟัง...และพราวตะวันก็โตพอที่จะรับรู้แล้ว...

ผู้เป็นมารดายิ้มบาง ๆ ให้บุตรสาวและเอ่ยขึ้น

“แม่หมายถึงความรักน่ะลูก ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าเป็นความรักของมาซากิหรือของใคร...เวลาและประสบการณ์จะช่วยสอนลูก เมื่อพราวโตขึ้นจน เป็นแม่คนแล้ว พราวก็จะค่อยๆ เข้าใจชีวิตได้ลึกซึ้งกว่านี้” หญิงสาวยังตั้งใจฟัง ดวงตายาวรีดำขลับเปล่งประกายใสแจ๋วด้วยความสนใจ หากก็ถอนใจออกมา เมื่อบอกสิ่งที่กังวลอยู่ในใจ

“พราวไม่เคยรักใครเท่าม่าคุง พราวรักเขาที่สุดในโลก แต่พราวไม่แน่ใจ เลยว่านิสัยของเราสองคนจะไปกันได้”

แพรวดาวจึงถอนใจเบา ๆ ...ทำไมหล่อนจะไม่เข้าใจ เมื่อในอดีตหล่อน

ก็เคยรู้สึกไม่มั่นใจแบบนี้เช่นกัน และอีกครั้งที่หล่อนหวนคิดถึงตัวเองในวัย

ยี่สิบสอง เพิ่งสำเร็จการศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยของรัฐบาล ทันทีที่เรียนจบ หล่อนก็ได้ทุนเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็น

โครงการของมหาวิทยาลัยที่นั่น นางสาวแพรวดาวตื่นเต้นเป็นที่สุด กระตือรือร้น

ที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ในโลกกว้าง หากเวลานั้น ชีวิตอันใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอ ไม่มี วันรู้เลยว่ามีสิ่งใดทอดรออยู่เบื้องหน้า...

“เราไม่มีวันรู้อนาคตหรอกลูก...สิ่งเดียวที่พราวจะท่าได้ก็คือ มั่นใจใน ผู้ชายที่เรารัก...”

“แม่จ๋า...พราวกลัวค่ะ...บางที...พราวอาจจะลองกลับมาตัดสินใจอีกที... บางทีมาชากิอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก...เขาอาจจะไม่เหมาะกับพราวเลยก็ได้ เพราะพราวรู้สึกว่าเรามีความเห็นไม่ตรงกันหลายอย่าง เราสองคนคิดว่ารักกัน มาก และทนไม่ได้หากต้องเลิกรากันไป แต่ความรักอย่างเดียว มันจะท่าให้ ครอบครัวอยู่รอดไปได้หรือคะ” พราวตะวันให้เหตุผล

“ความรัก จะท่าให้คนสองคนรู้จักปรับตัวเข้าหากัน รู้จักให้อภัยซึ่งกัน และกัน...และยังช่วยประสานรอยร้าว...หากทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้นมา แม่คิดว่า พราวน่าจะรู้ดี”

“พราวเข้าใจค่ะ...” เธอท่าหน้าหมองลงไป “พราวคบกับม่าคุงคนเดียว ตั้งแต่โตเป็นสาวขึ้นมา เหมือนพราวประสบการณ์ยังน้อย จึงไม่แน่ใจว่าตัวเอง ตัดสินใจถูกต้องหรือเปล่า หลายครั้งพราวก็มานอนกลุ้มเวลาทะเลาะกันและต้อง อยู่ไกลกันแบบนี้”

แพรวดาวมองใบหน้าเศร้าสร้อยของบุตรสาว...ก่อนจะหันมองไปยังสวน

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

รายละเอียด

 ดังโชคชะตาเล่นตลก ให้  "ทาเคชิ" บุตรชายคนเล็กผู้สืบทอดตำแหน่งโอะยะบุของกลุ่มยากูซ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองโยโกฮาม่า แอบหลงรัก "แพรวดาว" นักเรียนทุนชาวไทย ทั้งๆ ที่เขาเองมี "ไอโกะ" หญิงสาวที่ทางผู้ใหญ่จัดการหมั้นหมายไว้ให้ตั้งแต่เด็กด้วยเหตุผลในการสืบทอดอำนาจและธุรกิจอยู่แล้ว แต่แล้ว...ผลจากการที่ทาเคชิประกาศขอชำระแค้นกับศัตรูอาฆาต ก็ทำให้แพรวดาวกลายมาเป็น "หมาก" ของเกมการห้ำหั่นระหว่างยากูซ่าสองกลุ่มที่กำลังแย่งชิงความเป็นใหญ่ เพราะฝ่ายตรงข้ามล่วงรู้ความลับว่าเธอคือดวงใจของเขา ในเวลาเดียวกันเธอก็ต้องตกเป็น "เหยื่อ" ที่ไอโกะต้องการนำตัวมาบูชายัญรักฝังแค้นจากคู่หมั้นของเธอ! ความรักของทาเคชิและแพรวดาวที่ต้องดำเนินอยู่ท่ามกลางความแค้นของคนอื่นๆ จะดำเนินต่อไปอย่างไร? ขอเชิญท่านผู้อ่านมาติดตามอ่านพร้อมกันในเล่ม "รอยรัก หักเหลี่ยมตะวัน" เล่มนี้

552 หน้า


รีวิว (5)

เขียนรีวิว

์Nattiez | 5 รีวิว
20/01/2015

“รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน” เป็นนิยายเล่มแรกในชุด Rising Sun ซึ่งเป็นผลงานของณารา เป็นเรื่องของกลุ่มมาเฟียที่มีอิทธิพลที่สุดในโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น ตัวละครและสถานที่ทุกอย่างในเรื่องจึงเป็นญี่ปุ่นทั้งหมด การจำชื่อตัวละครเลยยากไปนิด แต่อ่านไปเรื่อย ๆ ก็จำได้ ชุด Rising Sun นี้จะมีสามเรื่องด้วยกัน อย่างที่รู้กันว่าผลงานของณาราเป็นนิยายโรแมนซ์ ย่อมต้องเกี่ยวกับความรักของชายหญิง สำหรับรอยรักหักเหลี่ยมตะวันก็ไม่แตกต่างกัน ครั้งนี้ ณาราผูกปมของเรื่อง เป็นความรักของหัวหน้ากลุ่มมาเฟียกับหญิงชาวไทยที่ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เป็นความรักที่เกิดขึ้นระหว่างความขัดแย้งระหว่างกลุ่มมาเฟีย ต้องชื่นชมว่าณาราทำการบ้านเรื่องวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นในสมัยก่อนมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว ใครที่ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่น จะได้ซึมซับวัฒนธรรมสมัยก่อนเต็มที่แน่นอน ส่วนภาษาที่ใช้ในเรื่อง ก็เป็นภาษาง่าย ๆ แต่สะท้อนภาพอย่างชัดเจน ยิ่งฉากแสดงความรักระหว่างทาเคชิกับแพรวดาวด้วยแล้วนั้น บอกเลยว่าหวานแหววมาก เพราะทาเคชิเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนไหวแม้ว่าจะมีสถานะเป็นถึงผู้นำของกลุ่มก็ตาม อีกอย่างที่ชอบคือ การเขียนกลอนตอบโต้กันของทาเคชิกับแพรวดาว ชอบกลอน กลอนเพราะมาก หวานมาก ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกได้ถึงความรักที่ทาเคชิและแพรวดาวมีให้กัน หลังจากอ่านเล่มนี้จบลง เราเชื่อว่าสาว ๆ จะหลงรักทาเคชิไม่ยาก เหมือนที่เราก็แอบชอบตัวละครตัวนี้ จัดว่าเป็นหนังสืออีกเล่มที่คอโรแมนซ์ไม่ควรพลาดค่ะ
SCR. | 5 รีวิว
30/11/2014

เล่มแรกของชุด the rising sun เลยค่ะ เห็นครั้งแรก อ่านปกหลังเสร็จ ไม่ลังเลที่จะหยิบมาอ่านเลย เพราะชอบนิยายแนวนี้เป้นทุนเดิมอยู่แล้ว นาน ๆ จะเห็นนิยายแนวมาเฟียญี่ปุ่นแท้ ๆ ค่ะ นิยายชุดนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 เล่ม เล่มนี้เป็นเรื่องของทาเคชิ โอนิซึกะ ชายหนุ่มที่ต้องมาทำหน้าที่เป็นโอะยะบุนปกครองโกะคุโดของตัวเอง หลังจากที่พ่อ แม่ พี่ชายและพี่สะใภ้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุตัดสายเบรครถยนต์ เส้นทางในชีวิตของเค้าแม้ไม่ราบเรียบ แต่ก็อยู่ได้ด้วยกำลังใจจาก แพรวดาว นักศึกษาปริญญาโทสาวชาวไทย ที่ไม่เคยเห็นด้วยกับวิถีชีวิตแบบนี้ แต่ด้วยความรักที่เธอมีต่อทาเคชิ ทำให้เธอสามารถทนอยู่ได้ในที่สุด เธอต้องเจ็บปวดหลายครั้งเมื่อทาเคชิบาดเจ็บสาหัส รวมไปถึงการที่เธอถูกฝ่ายตรงข้ามของทาเคชิจับไปและทำร้ายร่างกายและจิตใจของเธอ หนักสุดคือทำให้เธอสูญเสียลูกชาย และชายหนุ่มที่รักเธอและเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวของทาเคชิอย่างทาโร่ไป เธอจึงตัดสินใจที่จะกลับเมืองไทยหลังเหตุการณ์ต่าง ๆ สิ้นสุดลง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ในชีวิตของเธอที่วิเศษที่สุดด้วย อยากจะบอกว่าอ่านถึงตรงนี้แล้วดีใจกับแพรวดาวมากจนน้ำตาไหลเลย จบประทับใจจริง ๆ จะดีกว่านี้ถ้าไม่เริ่มต้นเรื่องด้วยการเล่าเรื่อง บางคนสามารถเดาทางเรื่องออกได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ที่ดีใจกับแพรวดาวเพราะผ่านอะไรร้าย ๆ มามากมาย มามีความสุขที่สุดในตอนท้ายเล่มนั่นเอง เป็นการแสดงออกให้เห็นในเรื่องของความรักของทาเคชิ ที่บูชาความรักมากจนยอมทิ้งทุกอย่างมาใช้ชีวิตอยู่กับเธอ
สายลม | 5 รีวิว
30/06/2014

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ณารา ก่อนอื่นต้องบอกว่านิยายชุดนี้ของณาราโดนใจค่อนข้างมากทีเดียว นวนิยายชุด rising sun มีด้วยกันทั้งหมดสามเรื่องเริ่มต้นจากเรื่องแรก รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน เป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี 1970 เป็นช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นได้รับเอาวัฒนธรรมของตะวันตกเข้ามาในประเทศ บ้านเมืองช่วงนั้นของญี่ปุ่นเต็มไปด้วยกลุ่มยากูซ่าเต็มบ้านเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด และหนึ่งในนั้นก็คือกลุ่มโอนิซิกะ ซึ่งมีทาเคชิเป็นรองหัวหน้ากลุ่ม ทาเคชิเหลือตัวคนเดียวเพราะก่อนหน้านี้พ่อแม่พี่ชาย และพี่สะใภ้ของเขาถูกฆ่าหมด ทำให้เหลือเพียงทาเคชิคนเดียวที่มีหน้าที่สืบสกุล ทาเคชิมีคู่หมั้นแล้ว แต่หาได้ยินดีในเธอไม่เพราะไอโกะคู่หมั้นของทาเคชิมีเพียงความสวย แต่ไม่มีสมอง โวยวาย ตามตอแยไปวันๆ หัวใจของทาเคชิทิ้งไว้กับแพรวดาว นักเรียนทุนที่ได้ไปเรียนที่ญี่ปุ่นพียงเจอเขาก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่เขาตามหา แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะไอโกะไม่ยอมแน่ถ้าทาเคชิมีคนอื่น จึงทำให้เขาเฝ้ามองแพรวดาวหรือเซโกะอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เรื่องราวไม่ง่ายเลยระหว่างความรักของทั้งคู่ อ่านแล้วซึ้งมากเพราะการกระทำของทาเคชิแมนมากๆ ซึ้งมาก เรื่องไม่สะดุดเลยค่ะอ่านแล้วแบบไม่อยากไปไหนเลยต้องอ่านให้จบ สนุกมากถึงมากที่สุดค่ะ
จตุพร | 5 รีวิว
29/06/2014

“รอยรักหักเหลี่ยนตะวัน” เป็นนิยายเล่มแรกในเซต Rising Sun ค่ะ เปิดเรื่องมาโดยนางเอก “แพรวดาว” เป็นคนเล่าเรื่องของตัวเองให้ลูกสาวเธอฟัง เกี่ยวกับความรักในแดนญี่ป่นของเธอ ย้อนไปสมัยที่เธอได้ทุนมาศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น และได้พบกับ “ทาเคชิ” ลูกชายคนเล็กของ “ตระกูลโอนิซึกะ” กลุ่มยากุซ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองโยโกฮฮาม่าค่ะ ตัวพระเอกเป็นถึงตระกูลใหญ่เลยได้หมั้นหมายกับ "ไอโกะ" ลูกสาวของตระกูลมิซาว่า เพื่อหวังรวมกลุ่มให้ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม แต่พระเอกกลับไปตกหลุมนักศึกษาสาวชาวไทย ทั้งพระเอกนางเอกและไอโกะเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันด้วย พระเอกเราก็รู้ตัวว่ามีคู่หมั้นที่หึงหวงอย่างร้ายกาจ เลยไม่อยากเข้าใกล้นางเอก กลัวนางเอกเป็นอันตราย แต่ห้ามใจตัวองไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องสารภาพความในใจกับนางเอก ส่วนนางเอกแม้จะหวั่นไหวกับพระเอกแต่ก็ตัดสัมพันธ์ค่ะ เพราไม่อยากเกี่ยวข้องกับพวกยากุซ่า เธอมีหน้าที่เรียนให้จบและกลับไปใช้ทุน เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อพ่อและพี่ชายของพระเอกถูกฆ่าตาย พระเอกเลยต้องขึ้นรับตำแหน่งผู้นำกลุ่มแทน โดยยังไม่ยอมแต่งงานตามที่กลุ่มมิซาว่าเรียกร้องเพราอยากแก้แค้นให้ครอบครัวก่อน ความเห็นดิฉันคือ กลุ่มมิซาว่านิช่างไม่รู้กาละเทศะจริงๆนั่นแหละค่ะ รำคาญไอโกะมาก ร้ายแบบไร้สมองสุดๆ คอยตามหึงหวงพระเอกแบบวีนเหวี่ยงจนพระเอกรำคาญ ไม่แปลกใจเลยที่พระเอกจะรักนางเอกแทน ทีนี้นางดันมารู้ว่าพระเอกไม่ยอมแต่งงานเพราะรักนางเอก นางเลยไปจ้างให้คนมาทำร้ายนางเอกค่ะ แต่ปรากฎว่าพระเอกไม่ยอมให้นางเอกห่างตัวเลยทีนี้ ประกาศรับนางเอกเป็นเมียอีก ไอโกะเลยได้แต่ตีอกชกหัวที่นางเดินเกมพลาด บรรยากาศในเรื่องผู้เขียนเขาบรรยายดราม่านะคะ แต่ดิฉันสะใจ55555 ชอบด้วยซ้ำที่สถานการณ์นี้ทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน พระเอกเลยได้เคลมนางเอกสมใจ อิอิ (สปอย…นางเอกกินเด็กค่ะ) ส่วนนางเอกที่ชีวิตพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ต้องมาอยู่ในกลุ่มยากุซ่า มีชีวิตหวาดระแวง ถ้าถามว่าดิฉันฟินไหมกับความรักของทั้งคู่ ก็ตอบว่าฟินนะคะ เพราะพระเอกรักนางเอกมาก แต่ก็เข้าใจนางเอกด้วยเพราะยิ่งคนรู้ว่าพระเอกรักเธอก็กลายเป็นจุดอ่อนของพระเอก ถูกฝ่ายตรงข้ามจับตัวไปเป็นว่าเล่น เลยกลัวเป็นธรรมดา ชอบตรงนางเอกมีจุดยืนเป็นของตัวเองดีค่ะ ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ส่วนพระเอกให้คะแนนเต็มตรงความรักที่มีต่อนางเอก แต่แอบตัดคะแนนตรงบางครั้งเอาแต่ใจตัวเองไปนิดนึง (ถึงแม้จะเพราะรักนางเอกก็ตาม) อีกอย่างพื้นฐานชีวิตของพระเอกโตมากับครอบครัวยากุซ่าส่วนนางเอกโตมาแบบเรียบง่าย เลยน่าติดตามตรงพวกเขาจะปรับตัวเขาหากันยังไงด้วยค่ะ ประเด็นเรื่องปมความแค้นไม่ได้ซับซ้อนหรือต้องคิดเยอะ มีจุดพีคช่วงเครียดกับการหาวิธีจัดการพวกคนร้ายอะไรทำนองนี้ เน้นการห่ำหั่นกันตามสไตล์ยากุซ่า ออกไปยกพวกตีว่างั้นเถอะ คนร้ายก็แสดงตัวออกมาแต่เนิ่นๆแล้ว ส่วนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็เผยไต๋ออกมาทีละคนสองคน จนฉากตอนจบเนี่ยแหละค่ะ ลุ้นมาก เพราะพระเอกนัดคนร้ายโชว์บู้ แน่นอนว่างานช้างขนาดนี้ต้องมีคนตาย ส่วนใครตายและตอนจบของเรื่องบอกไม่ได้ค่ะ ถ้าบอกนิสปอยแน่ๆ ต้องตามอ่านกันเองในเล่มนะจ๊ะ
ฐาปนัส | 5 รีวิว
27/06/2014

" ทาเคชิ" บุตรชายคนเล็กผู้สืบทอดตำแหน่งโอะยะบุนแทนบิดา ของกลุ่มยากุซ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองโยโกฮาม่า ซึ่งแอบหลงรัก "แพรวดาว" นักเรียนทุนชาวไทย ทั้งๆ ที่เขามี "ไอโกะ" หญิงสาวที่ผู้ใหญ่จัดการหมั้นหมายไว้ให้ตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุผลในการสืบทอดอำนาจและธุรกิจ แต่แล้ว... ผลจากการที่ทาเคชิประกาศขอชำระแค้นกับศัตรูคู่แข่ง ก็ทำให้แพรวดาวกลายเป็น "หมาก" ของเกมการห้ำหั่นระหว่างยากุซ่าสองกลุ่มที่กำลังแย่งชิงความเป็นใหญ่ เพราะฝ่ายตรงข้ามล่วงรู้ว่าเธอคือดวงใจของเขา ในเวลาเดียวกันเธอก็กลายเป็น "เหยื่อ" ที่ไอโกะต้องการตัวมาบูชายัญรักฝังแค้นของเธอ! ความรักของทาเคชิและแพรวดาวที่ต้องอยู่ท่ามกลางความแค้นของคนอื่นๆ ” จากคำโปรยหลังหนังสือ ทำให้หนังสือเล่มนี้ดูน่าสนใจมาก จึงทำให้ไม่ลังเลที่จะตัดสินใจหยิบมาอ่าน และเมื่ออ่านแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย ทั้งพระเอก นางเอก และทุกคนในเรื่องนี้ดูจับต้องและมีตัวตนจริง ๆ ทำให้รู้สึกว่ายิ่งอ่านก็ยิ่งวางไม่ได้ เพราะอยากรู้ว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร ใครจะเป็นอย่างไรต่อไป หนังสือเล่มนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นหนังสือที่ค่อนข้างประทับใจมาก ขอชื่นชมผู้แต่งที่ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี นอกจากจะซาบซึ้งไปกับความรักของพระเอกและนางเอกแล้ว ผู้อ่านยังจะได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมของชาวโกะคุโดและชาวญี่ปุ่นในยุคสมัยที่หญิงไทยเข้าไปศึกษาในประเทศญี่ปุ่นในยุคแรก ๆ ด้วย เรียกได้ว่าหนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายประเทศญี่ปุ่นเลยครับ อ่านแล้วก็อยากจะคิดว่าตัวเองเป็นโกะคุโดกับเค้าบ้าง เนื้อเรื่องก็ค่อนข้างดีครับ ถ้าเป็นคนชอบแบบแอคชั่นก็อาจจะบอกว่าน้อยไปสักนิด แต่เป็นแอคชั่นที่ค่อนข้างเท่ ถือดาบซามูไรวิ่งไล่ฟันกัน วัดกันไปเลยด้วยฝีมือล้วน ๆ ส่วนทางด้านโรแมนติกแล้ว ก็ต้องถือว่าค่อนข้างโอเค ผู้หญิงบางคนอ่านแล้วอาจจะอยากไปเป็นอะเนะซังของโอะนิซึกะโอะยะบุนกันเลยทีเดียว แต่สำหรับผม ถ้ามีอะเนะซังแบบนี้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ผมคงตัดสินใจเช่นเดียวกันกับทาเคชิครับ สำหรับตัวประกอบคนอื่น ๆ ในเรื่อง เพราะหนังสือเรื่องนี้เป็นหนังสือชุด จึงจำเป็นจะต้องปูพื้นฐานของเรื่องอื่น ๆ ไว้ ทำให้ริว ลูกพี่ลูกน้องของทาเคชิ (พระเอกเล่มที่ 2) ดูโดดเด่นกว่าพระเอกของเรื่องในบางฉาก แต่ก็ไม่ได้มากจนเกินพอดีงาม ไอโกะ คู่หมั้นของทาเคชิ คือผมอยากจะติไว้สักนิดเดียว คืออยากให้ไอโกะเป็นผู้หญิงร้ายลึก ฉลาดคิดแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้คงจะสนุกขึ้นอีกแน่ครับ เพราะผู้แต่งทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบมากกว่าแพรวดาวแล้ว เสียแค่นิสัยเท่านั้นเอง เคนอิจิ ซะโต้ คนส่วนมากมักจะชมพระเอกกับนางเอก แต่ผมเลือกที่จะพูดถึงเขานะ เพราะเคนอิจิ ซะโต้คนนี้ เลวได้ใจมากเลยทีเดียว แต่สำหรับผมมองว่าเลวแบบเท่ ๆ นะ ถ้าไม่มีเขาสักคน เรื่องราวคงจะจบแฮปปี้ตั้งแต่ยังไม่เอ็นดิ้งแล้ว เวลาอ่านแล้วเจอชื่อเคนอิจิทีไร อยากเอาสันดาบซามูไรเคาะหัวสักที แต่ก็สมน้ำสมเนื้อกันดีกับไอโกะครับ ตอนถึงจุดจบของเขา เขาก็ยังไม่ทิ้งความเลวแบบเท่ ๆ ขนาดนี้บาดแผลเต็มตัวขนาดนั้น ยังอุตส่าห์มีแรงฮึดอีก ขอปรบมือให้ในความเลวและอึดครับ อีกคนนึงที่ผมอยากจะพูดถึงคือ ทาโร่ (จะเรียกว่าเป็นพระรองดีมั้ยน้า ?) ทาโร่อาจจะเป็นหนึ่งในชายในฝันของผู้หญิง แต่ไม่ใช่กับแพรวดาว ผมออกจะชื่นชอบตัวละครนี้ไม่น้อยไปกว่าพระเอกในเรื่องของความรัก ทาเคชิเองยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่บ้างในเรื่องนี้ แต่สำหรับทาโร่ แม้แต่ชีวิตก็สละให้ได้เพื่อให้แพรวดาวมีความสุข ผมนับถือตัวละครตัวนี้จริง ๆ ท้ายสุดนี้ ขอฝากประโยคที่ชอบที่สุดในเนื้อเรื่องด้วยนะครับ เป็นตอนที่ริวถามทาเคชิว่า ความรักคืออะไร "ฉันรู้แต่ว่าเมื่อเซโกะถูกสาดน้ำร้อนใส่หน้า ฉันรู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมกับเธอ และอยากบีบคอไอโกะให้ตายคามือที่ทำกับเธอโหดร้ายอย่างนั้น และเมื่อต้องกล่าวคำลา หัวใจของฉันก็เหมือนถูกวางไว้ตรงหน้าเธอ ไม่ยอมตามฉันกลับมาด้วย"

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024