แวมไพร์บาร์เทอรส์ : เจ้าพสุธา (แพรณัฐ)

แวมไพร์บาร์เทอรส์ : เจ้าพสุธา (แพรณัฐ)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001830
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 260.00 บาท 65.00 บาท
ประหยัด: 195.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เวลาดึกสงัดอาจเป็นช่วงที่ใครหลายคนหลับใหล แต่สำหรับไทเกอร์

แล้ว ยามราตรีกลับเป็นเวลาที่เขาตื่นอย่างแท้จริง

ชายหนุ่มวิ่งอยู่บนบาทวิถีถนนเลียบชายหาด ลัดเลาะผ่านนักท่องเที่ยว ด้วยความเร็วสูง ไม่มีใครสังเกตเห็นเขา แต่รู้สึกถึงสายลมซึ่งวูบผ่านจน ชายกระโปรงของสาวๆ เปิดพะเยิบพะยาบ ใบไม้โบกสะบัด ก่อนจะกลับสู่

ภาวะปกติอย่างฉับไวพอกัน

หากคนเหล่านั้นมองเห็นไทเกอร์ พวกเขาอาจบรรยายว่า ชายหนุ่ม

มีรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อสะดุดตาตามแบบคนที่มีเลือดผสมหลายเชื้อชาติ ดวงตาคมคุละม้ายนัยน์ตาเสือ เขาเจาะหูด้านซ้าย ผมจัดทรงด้วยเจลและ ด้านข้างหูกับท้ายทอยไถสั้นติดหนังศีรษะ เส้นผมไม่ได้ดำสนิท แต่มีเหลือบ น้ำตาล หากเพ่งดูให้ชัดจะเห็นว่าบางส่วนเจือสีทองอยู่จางๆ

เสื้อยืดกีฬาแขนกุดสีเทาเผยให้เห็นรอยสักสีดำเป็นลายพาดกลอน

ของเสือตรงต้นแขนขวา กางเกงขาสามส่วนรัดขอบปลาย รองเท้าผ้าใบเป็น

สีเดียวกับเสื้อและมีขอบพื้นสีส้มสดใสเข้ากับสีของผ้ารัดข้อมือสำหรับ

ซับเหงื่อ ไทเกอร์ดูราวกับนายแบบที่หลุดออกมาจากแค็ตตาล็อกแฟชั่นเลย ทีเดียว

ในเมื่อไม่มีใครเห็น ชายหนุ่มจึงเป็นฝ่ายวิ่งซิกแซ็กหลบคนเหล่านั้น

พี่ชายทั้งสองเคยเสนอให้ใช้เส้นทางที่ไม่พลุกพล่าน แต่ไทเกอร์ปฏิเสธ เขา

ชอบดูผู้คน แม้ไม่อยากสุงสิงกับพวกเขาก็ตาม

ชายหนุ่มวิ่งต่อไปจนถึงย่านท่องเที่ยวซึ่งมีถนนคนเดินอันคึกคัก เขา

ชะลอความเร็วและเหลือบดูจอโฆษณาเหนืออาคารพาณิชย์ริมถนนตามความ เคยชินเพี่ออัปเดตเทรนด์ใหม่ไม่ให้หลุดกระแส พร้อมกับดึงหูฟังไอพอดนาโน

ออกให้ได้ยินเสียงโฆษณาชัดๆ

ภาพเคลื่อนไหวที่กำลังฉายทำให้ฝีเท้าชองไทเกอร์สะดุด นัยน์ตา

เบิกกว้างด้วยความตะลึงราวกับถูกบางสิ่งกระแทกใส่อย่างจัง

เธอเป็นสาวน้อยหน้าตาคมหวาน ห่มสไบสีชมพูกลีบบัวกับโจงกระเบน เกล้าผมทรงดอกกระทุ่ม เผยลำคองามระหงแสนเย้ายวน

ท่วงท่าอ่อนช้อยยามเจ้าหล่อนหยิบจับเครื่องปรุงเพี่อทำอาหารชาววัง

อันเลิศรสห่าให้จินตนาการชองชายหนุ่มกระเจิดกระเจิงถึงขนาดคิดว่า คงดี

ไม่น้อยหากมือนุ่มนิ่มลูบไส้อยู่บนเรือนกายชองตน เขาจะตระกองกอดเธอไว้

ไล้ปลายนิ้วไปตามล่าคอชาวผ่อง และโน้มหน้าสูดกลิ่นหอมชองผิวสาว ก่อน

จะฝังคมเขี้ยวลงไปบนซอกคอ ซึมซับทุกสิ่งที่เป็นเธอ

ไทเกอร์ใคร่รู้นักว่าเธอมีรสชาติอย่างไร

น่าเสียดายที่ภาพชองสาวน้อยซึ่งมีลำคอยั่วยวนที่สุดตั้งแต่ไทเกอร์

เคยเห็น ถูกแทนที่ด้วยผลิตกัณฑ์ปรุงรสอาหารที่เธอโฆษณา ก่อนจะเปลี่ยน

ไปเป็นสินค้าชนิดอื่น

ชายหนุ่มได้ยินเสียงในลำคอชองตัวเองซึ่งใกล้เคียงกับเสียงคำราม

ของสัตว์ เขานิ่วหน้า รู้สึกถึงความพลุ่งพล่านในอกอย่างไม่เคยเป็น มือทั้งสอง ร้อนระอุจนต้องยกขึ้นมาดู

กรงเล็บแหลมคมชองเสืองอกออกมาเพียงแค่เขามองภาพเร้าอารมณ์

ของหญิงสาวผู้นั้น ไทเกอร์ขมวดคิ้ว ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน

ทันใดนั้น เสียงแตรรถยนต์ก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงด่าทอจากกลุ่ม

วัยรุ่นชายหญิงในรถสปอร์ตสีแดงเพลิง

“ยืนหาพระแสงอะไรวะ!”

ไทเกอร์เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอออกมาอยู่กลางถนน อาจเป็นตอนที่หยุด

ดูภาพของสาวน้อยแม่ศรีเรือนก็เป็นได้ ชายหนุ่มก้มศีรษะขอโทษและกระโดด กลับขึ้นไปบนทางเท้า

“ขอโทษแค่นี้คิดว่าจะจบเรอะ ตังค์ไม่มีซื้อรถ แม่งยังจะมาเดินเกะกะ ชาวบ้าน” คนขับตะโกนด่าเสียงอ้อแอ้

ชายหนุ่มไม่ต้องการมีเรื่องกับคนเมา เขาจึงหันหน้าหนี เตรียมออกวิ่ง

อีกฝ่ายยังไม่หยุดหาเรื่อง

“ไอ้ป๊อดเอ๊ย แค่นี้ทำหนี คิดว่าวิ่งช้าเป็นเต่าคลานจะหนีรถสปอร์ต

ได้เรอะ แน่จริงมาแช่งกันลิโว้ย”

เจ้าของรถเร่งเครื่องดังกระหึ่มอย่างท้าทายแล้วออกตัวฉิว เกือบเฉี่ยว ชนนักท่องเที่ยวที่ข้ามถนนซึ่งต้องหลบกันจ้าละหวั่น ทิ้งเสียงหัวเราะเย้ยหยัน ของตนกับเพื่อนพ้องไว้ช้างหลัง โดยไม่เห็นเจ้าของดวงตาดุดันประดุจเสือ ที่โกรธเกรี้ยวและพร้อมจู่โจม

ไทเกอร์จับตามองท้ายรถสปอร์ตซึ่งปัดเป๋ไปตามทาง เพราะคนขับที่

ใกล้จะครองสติไม่อยู่

“เสียดายรถดีๆ ชะมัด” ชาย'หนุ่มบ่น ก่อนออกตัวตามไปอย่างว่องไว ปานสายลม

เพียงเสี้ยววินาที เขาก็แซงรถคันนั้นได้และดักรออยู่ด้านหน้า รถเบรก เอี๊ยดลั่นถนน คนที่นั่งอยู่ภายในตาเหลือกค้าง โดยเฉพาะคนขับซึ่งอ้าปาก พะงาบๆ อย่างไม่เชื่อสายตา

ร่างสูงใหญ่ก้าวไปประชิดตัวรถ เปิดประตูด้านคนขับสีหน้าเรียบเฉย

ขัดกับดวงตาวาวโรจน์

 

“รู้แล้วใช่ไหมว่าใครไวกว่า”

ไม่มีคำตอบเพราะทุกคนยังอึ้ง เขาจึงขยับเข้าไป แล้วก้มหน้าในระดับ เดียวกับเจ้าของรถ กราดมองทุกคนอย่างดุดัน

“ไม่เคยมีใครสอนรึไงว่าเวลาเมาเขาห้ามขับรถ การขับรถขณะที่ระดับ แอลกอฮอล์ในเลือดเกินห้าสิบมิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ถือว่าผิดกฎหมายและ

เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติ...”

“ผะ... ผะ... ผี!”

ไม่มีใครฟังเขาอีกแล้ว ผู้โดยสารทั้งหลายต่างวิ่งกระเจิดกระเจิงออกไป นอกรถ คนขับก็ตะเกียกตะกายหนีไปทางประตูคนนั่ง

“อะไรวะ ยังพูดไม่จบเลย” ไทเกอร์ส่ายหน้ามองพวกนั้นอย่างเซ็งๆ

ชายหนุ่มได้ยินเสียงแหลมสูงของฝูงค้างคาวที่คุ้นเคย มันร้องเตือน

จากท้องฟ้าจนเขาต้องรีบก้มดูนาฬิกาสปอร์ตวอตช์จีพีเอสรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่ง สามารถบอกระยะทาง ความเร็ว และจำนวนแคลอรีที่ใช้ ตัวเลขดิจิทัลซึ่งเขา

ตั้งจับเวลาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาสายไปมากแล้ว!

ไทเกอร์รีบกระโจนกลับเข้าเส้นทางเสียบหาด ก่อนชำเลืองออกไปยัง

ท้องทะเล ความมีดไม่ได้เป็นอุปสรรค เขาเห็นร่างที่ว่ายปราดอยู่ตรงผิวน้ำ นำหน้าไปไกลสิบ และดูเหมือนจะอยู่แนวเดียวกับร่างที่สยายปีกบินท่ามกลาง

ฝูงค้างคาวบนฟากฟ้า

หัวคิ้วของชายหนุ่มกระตุกเข้าหาก้น เขาพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็ว

สูงสุด รับรู้ถึงสรีระที่เปลี่ยนแปลงและหางลายพาดกลอนของเสือซึ่งงอก

ออกมา นัยน์ตากลายเป็นสีเหลืองทอง เขี้ยวแหลมคมยื่นยาวขึ้น กรงเล็บ

ซึ่งเก็บเข้าไปแล้วทิ่มแทงออกจากมืออีกครั้ง

ความเร็วที่เพิ่มขึ้นทำให้ไทเกอร์สัมผัสถึงสายลมที่ปะทะใบหน้า ไฟจาก ท้องถนนกลายเป็นเพียงเส้นสีซึ่งลากยาวไปตามทางที่วิ่งฝาน เส้นสายของ

แสงไฟน้อยลงทุกทีเมื่อชายหนุ่มออกจากเขตเมือง และเหลือเพียงความมีด

 

สนิทยามเข้าสู่ปารกครึ้มริมชายหาดอันร้างผู้คน

ไทเกอร์กระโดดข้ามโขดหินก้อนแล้วก้อนเล่า นัยน์ตาจับจ้องผืนนํ้า

สลับกับแผ่นฟ้า ก่อนเพ่งมองผาสูงใกล้ประภาคารซึ่งมีค้างคาวบินว่อน ตรง

ขอบผามีธงปักอยู่อย่างโดดเด่น

ร่างของชายหนุ่มซึ่งมีปีกเหมือนค้างคาวร่อนลงจากฟ้า เข้าใกล้ธงมาก ขึ้นทุกที ไม่ไกลจากเขา ชายอีกคนกระโจนขึ้นจากผิวนํ้า ปีนป่ายโขดหินอย่าง

ว่องไว เท้าเปลือยเปล่าของเขาติดกันเป็นพังผืดคล้ายตีนกบ ลำตัวมีครีบของ ฉลาม ซึ่งค่อยๆ หดเล็กลงผสานกับผิวกาย ตีนกบกลายเป็นนิ้วเท้าเมื่อเขา กระโดดขึ้นไปถึงยอดผา คว้าธงมาได้พร้อมกับชายคนแรก

แพ้จนได้!

ไทเกอร์ฮึดฮัดอยู่ในใจ โทษใครไม่ได้ นอกจากตนเอง ชายหนุ่ม

วิ่งปราดเข้าไปสมทบกับพี่ชายซึ่งเลิกยื้อแย่งธง และลงมานั่งรอเขาอยู่บน ชายหาด

“ทำไมข้าอย่างนี้วะ จะว่ามัวไปหลีสาวก็ไม่น่าใช่”

ชายผู้มีปีกเหมือนค้างคาวร้องถาม เขาคือ ฮอว์ค พี่ชายคนโตซึ่งเป็น

หนุ่มลูกครึ่งหล่อเข้ม มีจุดเด่นตรงคิ้วดกด่ากับใบหน้าทะเล้นเป็นที่ชื่นชอบ

ของสาวๆ ปีกของฮอว์คหายไปแล้ว เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตลายสกอตกับกางเกง

ยีนและรองเท้าผ้าใบ เขาแต่งกายรัดกุมที่สุดในบ้าน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ พี่ชายคนรอง

ชาร์กสวมเพียงกางเกงผ้าสามส่วนซึ่งยังเปียกชุ่ม แผงอกกว้างมีหยด

น้ำเกาะพราว ในบรรดาสามพี่น้อง ชาร์กมีโครงหน้าละม้ายคนเอเชียมาก

ที่สุด และมีรอยยิ้มอยู่เป็นนิตย์ เช่นเดียวกับตอนนี้ที่เขายักคิ้วล้อเลียน

พี่คนโต

“เรื่องหลีสาวไม่ใช่ไทเกอร์แน่ แต่เป็นนายต่างหากล่ะฮอว์ค”

“เฮอะ! คนเราก็ต้องดูของสวยๆ งามๆ ให้เจริญตาเจริญใจกันบ้างลิ”

ฮอว์คยื้ม เผล่โดยไม่ปฏิเสธ

“ฉันจะฟ้องแฟนนาย”

ชาร์กขู่ได้ตรงกับใจของน้องสุดท้อง ไทเกอร์อมยิ้มพลางถอดเสื้อกีฬา

แขนกุดออกจนเหลือแต่แผ่นอกเปลือยเปล่า เขาใช้ผ้ารัดข้อมือซับเหงื่อบน

ใบหน้า ฟังพี่คนโตโต้กลับ

“ฉันก็จะฟ้องวิราเหมือนกันว่ามีรุ่นน้องมาติดนาย”

“ติดเติดที่ไหนวะ ฉันแค่ช่วยจัดตารางสอนให้น้องๆ ตามประสารุ่นพี่

ที่ดีเท่านั้นเอง” ชาร์กบอกปัดเสียงแข็ง ก่อนผินหน้ามาทางไทเกอร์ “นายได้

ที่โหล่ ต้องเลี้ยงพวกเราตามสัญญา”

เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะแข่งความเร็วกันโดยมีกฎว่าคนที่มาถึง

สุดท้ายต้องเลี้ยงข้าว ทั้งสามผลัดกันช่วงชิงตำแหน่งชนะเลิศมาตลอด แต่

ส่วนใหญ่มักจะเสมอ ใครแพ้หลุดลุ่ยขึ้นมาลักคนจึงต้องถูกล้มทับ

“ใช่ นายต้องเลี้ยง แต่ลาบเลือดไม่เอาแล้วนะโว้ย คราวนี้ขอเป็นร้าน

หรูๆ อาหารอร่อยๆ ดริงก์ดีๆ เผื่อจะพาเนตรไปด้วย” ฮอว์คยิ้มเคลิบเคลิ้ม

ราวกับควง แฟนสาวไปถึงร้านที่ว่านั่นแล้ว “ดริงก์ดีๆ รึ ได้ลิ ฉันจัดให้”

ไทเกอร์ยิ้มกริ่ม เขางัดบูมเมอแรงงาข้างที่เสียบไว้ตรงด้านหลังของ กางเกง แล้วเขวี้ยงไปยังต้นมะพร้าวริมหาดท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของ

พี่ชาย และฝูงด้างคาวที่แตกฮือ

ชายหนุ่มพุ่งไปรับมะพร้าวสามลูกซึ่งร่วงลงมาอย่างแม่นยำ วางมันบน พื้นทราย แล้วกลับมารอรับบูมเมอแรงที่วนกลับมาสู่มืออีกครั้ง

“จะบ้าเรอะ ใครให้นายเอาบูมเมอแรงฟาโรห์มาเขวี้ยงมะพร้าว ถ้า

แบรดรู้ต้องด่าเปิงแน่” ฮอว์คโวยวาย

ไทเกอร์ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ เขาเก็บอาวุธซึ่งท่าจากงาข้างสีนวล หุ้ม ปลายด้านหนึ่งด้วยทองค่าและแกะสลักพระนามของฟ้าโรห์ตุต้นคามุน

เป็นภาษาเฮียโรกลิฟ มันเคยเป็นสมบัติของพระองค์ กษัตริย์อียิปต์โบราณ

ใช้บูมเมอแรงในพิธีล่าสัตว์เพี่อแสดงตนในฐานะผู้ปกป้องเทพเจ้าผู้สร้าง

 

และเป็นผู้รักษาระเบียบอันเหมาะสมในจักรวาลของชาวอียิปต์ คาถาโบราณ

ในจารึกโลงศพยังกล่าวอีกว่าบูมเมอแรงเป็นอาวุธของสุริยเทพ

แบรด ผู้นำเผ่าพันธุแวมไพร์อารยะมอบบูมเมอแรงให้แก่ไทเกอร์

ตอนวันเกิดอายุสิบแปด เป็นอาวุธคู่กายที่ช่วยเขากำจัดแวมไพร์อสูรมา

หลายครั้ง แต่ตามหลักตรรกะแล้ว บูมเมอแรงก็คือบูมเมอแรงอยู่ดี

“คนสมัยก่อนใช้บูมเมอแรงเพื่อช่วยในการดำรงชีวิต แล้วทำไมฉัน

จะใช้ชไม่ได้ล่ะ”

“ยังมีหน้ามาพูดอีก แบรดบอกนายตั้งหลายทีแล้วไม่ใช่หรือว่า

บูมเมอแรงมีไว้เพื่อขจัดอุปสรรค ไม่ใช่ให้มาทำลายต้นไม้” พี่คน'รองต่อ'ว่า

“ฉันไม่ได้ทำลายต้นไม้ แค1ตัดมะพร้าวมาสามลูกเท่านั้นเอง ไม่โดน

ใบมันด้วยซํ้า พวกนายอยากให้ฉันเลี้ยงดริงก์ดีๆ ไม่ใช่รึไง” ไทเกอร์วาง

มะพร้าวลงกับพื้น หันไปหาฮอว์คพร้อมกับแบมือรอ “ขอยืมมีดวายุหน่อยสิ”

“เอาไปทำไม” ฮอว์คย่นคิ้วอย่างงงงวย ก่อนเบิกตากว้างพลางกอดมีด โบราณด้วยทำทางหวงแหน “อย่าบอกนะว่าจะเอาไปเฉาะมะพร้าว อย่านะโว้ย มีดนี่เป็นของอีริคเคราแดงเชียวนะ”

คนเป็นพี่หมายถึงนักรบไวกิงผู้โด่งด้งในประวัติศาสตร์หลายพันปีก่อน

มีดวายุของเขาหายสาบสูญไป ทั้งที่ความจริงแล้วอีริคเคราแดงมอบอาวุธคู่ใจ

ให้แก่แบรดซึ่งเคยร่วมรบมาด้วยกัน

“แคนก็หวง ไม่ง้อก็ได้”

ไทเกอร์ล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบซองหนังที่เขาเย็บเองออกมา ภายใน

 

                  (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

การต่อสู้อันยืดเยื้อและยาวนานใกล้จะอุบัติขึ้นอีกครั้ง ไทเกอร์ แวมไพร์อารยะผู้มีสัญชาตญาณนักล่าซึ่งสนใจในวิทยาศาสตร์ จึงต้องเร่หาทางถึงพลังที่ซ่อนเร้นออกมารับมือพร้อมกับสานต่อโครงการวิจัยหาสารแทนฮีโมโกลบินที่หยุดชะงักไปเพื่อการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์อารยะ ชายหนุ่มได้พบกับ วาริสา พริตตีสาวเปรี้ยวเอกซ์อึ๋ม เจ้าของกลิ่นฟีโรโมนแสนรัญจวนใจปลุกพยัคฆ์หนุ่มจนหวิดจะฝังเขี้ยวลงบนลำคอขาวอยู่รอมร่อเช่นเดียวกับพญาแวมไพร์ที่หมายตาจะปลุกปั้นให้เป็นนางพญาคนต่อไป! เมื่อสงครามอุบัติ . . . เป้าหมายคือต้องกำจัดฝ่านศัตรูให้สิ้นซาก ทว่าผู้อยู่รอดบนผืนผสุธาต้องมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น สงครามครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างแวมไพร์อสูร เปิดฉากขึ้นแล้ว ณ บัดนี้ . . . แล้วใครจะเป็นผู้ชนะ


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024